หน้า 1 จากทั้งหมด 1

สามสหายปั่นไปกินโด่งและตึกเก๊าะที่เสียมเรียบ 1-6 สิงหาคม 2561

โพสต์: 10 ส.ค. 2018, 11:07
โดย ทวีศักดิ์ ไชยเขียว
สามหนุ่มวัยดึกประกอบด้วยผม(ทวีศักดิ์) -พิชิต-บุญน้อม มีโอกาสปั่นจักรยานไปเที่ยวเสียมเรียบเมื่อ1-6 ส.ค.61 ที่ผ่านมา จากการที่ได้อ่านประสบการณ์ของหลายๆท่าน มีความรู้สึกว่าไม่กล้าปั่นไปคนเดียวจึงได้ชวนเพื่อนมาอีก2 แต่เมื่อไปสัมผัสแล้วกลับรู้สึกว่าคนเขมรเป็นมิตรมาก (อาจจะเป็นเมืองท่องเที่ยวก็เป็นได้) เขมรคุยง่ายใช้ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย ซื่งผมอาจมีมุมมองที่แตกต่างเผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนนักปั่นบ้างสักเล็กน้อย ผมกับบุญน้อมเริ่มต้นปั่นจาก อ.พัฒนานิคม/ลพบุรี 3 คืนถึงชายแดน ที่จริงถ้าไปอย่างรีบก็จะใช้เวลาน้อยกว่านี้ ส่วนพิชิตขับรถไปจาก กทม.ไปสมทบกันที่นั่น หลังจากผ่านปราจีนฯแล้วก่อนจะถึงอรัญประเทศจะมีทางแยกหลายเส้นงงเล็กน้อยว่าจะเข้าไปเส้นไหน สุดท้ายก็จะไปจบที่เดียวกันคือไม่ว่าจะไปอรัญประเทศ ด่านการค้าชายแดน ตลาดโรงเกลือ แต่เราเข้าไปตัวเมืองอรัญประเทศ ปั่นจากสามแยก บขส.อรัญฯไปตลาดโรงเกลือ 5 กม. หาที่พักได้มากมาย ราคา300-600 บาท ไปถึงก่อนเที่ยงเราจึงมีเวลาไปเดินชมสินค้าที่ตลาดโรงเกลือ จากที่พักไปไม่ถึงกิโล เลี้ยวซ้ายข้ามทางรถไฟไปก็ถึงแล้ว ที่รับฝากรถและด่านขาออก(ด่านคลองลึก) ก็อยู่บริเวณเดียวกันนั่นแหละครับ ค่าฝากรถยนต์วันละ 100-120 บาท ทางเข้าตลาดจะเป็นซุ้มประตูรูปโค้งมีคำว่า GOLDEN PLAZA พ่อค้าแม่ค้าเกือบทั้งหมดเป็นเขมรมาเช้าเย็นกลับ เช่าร้านเดือนละ 10,000 บาทอั้พมีเป็นพันๆร้าน แม้ว่าด่านจะปิด 4 ทุ่มแต่เขาก็เตรียมปิดร้านกัน 5-6โมงเย็น ที่เหลือก็เป็นเวลากลับบ้านและเวลาสำหรับครอบครัว ตลาดโรงเกลือเคยขึ้นชื่อเรื่องสินค้ามือสองคุณภาพแต่ต่อมามีสินค้าใหม่ สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ จนทางราชการไทยต้องเข้าไปจัดการจับกุมดังที่เคยเป็นข่าว
เช้าวันต่อมาหลังอาหารเช้าที่ร้านสะดวกซื้อก็หาของตุนไว้นิดหน่อย ขอย้ำนิดหน่อยก็พอแค่1วันน้ำ 2-3 ขวดค่อยไปหาซื้อข้างหน้า มีร้านตามรายทาง ทั่วไปก็ขวดละพันเรียล(10บาท) เราเน้นพักโรงแรมกับกินตามร้านหรือข้างทาง เพราะระยะทางไม่ถึง200 กม. ฉะนั้นมาม่า4ห่อเตรียมไปก็ไม่ได้กินเลย เรามัวเพลินกับสินค้าตลาดโรงเกลือกว่าจะผ่านด่านคลองลึกได้ก็ร่วม10โมงเช้า จูงรถไปที่ด่านขาออกประเทศไทย(ทางซ้าย)แทรกหรือแซงบรรดารถเข็นทั้งหลายเข็นไปที่ห้องทาสีแดงๆ(ย้ำทาสีแดง)หลังเล็กๆ จอดรถห่าง2-3เมตร อย่าไปตามช่องคนเดินเท้านะครับ แม้ว่าเราจะไปทางไหนก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยดักเพราะเขาไม่ยอมให้เล็ดลอดเข้าออกประเทศกันได้ง่ายๆหรอก ไปถึงยื่น passport ถอดหมวก มองกล้อง เมื่อประทับตราแล้วมุ่งไปทางขวาปะปนไปกับรถยนต์นะแหละ สองข้างทางจะเป็นตึกคาสิโนยาว 100 เมตรเห็นจะได้ มีด่านปอยเปตขาเข้าทางขวามือ เป็นอาคารไม่ใหญ่โตนักด้านหน้ามีบู้ทเล็กๆบริการแลกเงินเขมรUSดอลล่า(เดาว่าเป็นเด็กเส้น)เดินผ่านประตูเข้าไป ต้องกรอกใบเข้าประเทศเป็นภาษาอังกฤษถ้าไม่ถนัดก็มี จนท.แนะนำ เสร็จแล้วก็ไปยื่น และสแกนนิ้วมือ ถ้าไปกันหลายคันก็ผลัดเปลี่ยนกันเฝ้ารถที่หน้าประตู ถ้าไปคนเดียวก็น่าจะมีอะไรปกคลุมไม่ให้พวกมือเร็วหยิบฉวยได้ง่าย ล็อกรถไว้ด้วย บอกฝากกับน้องเขาที่บู้ทก็ได้ว่าเดี๋ยวจะมาแลกเงินกับซื้อซิมเน็ตที่นี่ขอฝากรถแป๊บนึง ที่จริงก็แค่หน้าประตูเองพอมองเห็นแต่คนมันมั่ว วุ่นวาย แลกเงินอเมริกันดอลล่าร์จากธนาคารไทยไปก่อน 7,000-10,000 บาท(ขอเป็นชนิด 1,10, $ ซึ่งใช้มากแต่ 20ใช้น้อย แต่ฉบับ100 ใบสองใบก็พอ) แลกเงินเรียลสัก 2,000-5,000 บาท ด่านนี้จัดว่าเป็นด่านที่พลุกพล่านที่สุดแห่งหนึ่งโดยเฉพาะรถเข็น/มอไซค์ลาก/รถบรรทุก สินค้าต่างๆเข้าๆออกๆ

Re: สามสหายปั่นไปกินโด่งและตึกเก๊าะที่เสียมเรียบ

โพสต์: 11 ส.ค. 2018, 19:45
โดย ทวีศักดิ์ ไชยเขียว
หลังจากผ่านกระบวนการเข้าประเทศเรียบร้อยก็ขี่รถชิดขอบถนนด้านขวามุ่งหน้าไปทางตะวันออก มีแท็กซี่(เถื่อน)คอยเรียกลูกค้าอยู่ข้างทางเห็นมีรถอยู่3อย่างคือ โตโยแคมรี่ โตโยไฮแลนเดอร์7ที่นั่ง และแวนเบ้นซ์หัวจรวด ค่ารถจากปอยเปตไปเสียมเรียบคนละ 300 บาท ส่วนรถถีบ(ถ้าไม่ปั่นไป)ก็ 100-200 บาท แต่หากใครจะไปรถประจำทางต้องปั่นไปขึ้นรถที่สถานีนอกเมืองไปประมาณ7 กม.ซ้ายมือ ถนนมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออก ตอนเช้าแดดจะโดนหน้าร้อนหน่อยนะครับ แต่หลังบ่ายไปแล้วแดดส่องด้านหลังพอเปิดหน้าได้ ถนนใหญ่แต่รถวิ่งสวนทางตลอดสาย รถยนต์ก็วิ่งกันเร็ว อุบัติเหตุรถชนมอไซค์นอนยิ้มข้างทางทั้งขาไปและกลับ มีรถสารพัดชนิดใช้ถนนนี้ ทราบว่าสร้างโดยคนไทย 100 กิโลเมตร แต่เมื่อมีเรื่องเขาพระวิหารก็เลิกกันไป ตัวเมืองปอยเปตค่อนข้างจะมีฝุ่น เห็นขยะ เศษอาหารก็ทิ้งลงข้างทาง หาที่ร่มพักร้อนไม่ค่อยมีเลย เมื่อออกนอกเมืองไปค่อยหายใจโล่งหน่อย ผ่านท่ารถ(ดังว่า)ไปประมาณ 200 เมตร ด้านขวามือ เราตามเสียงเพลงที่กระหึ่มก้องมาประมาณ 200 เมตรติดทางรถไฟ มีร้านอาหารมากมายเรียงรายบนคันกั้นน้ำเป็นหนองน้ำขนาดใหญ่ ถามชาวบ้านเขาบอกว่าคือ "โอไคดอน" พอดีเราแวะกินอาหารเที่ยง(ที่เตรียมมา)ที่ท่ารถเสียก่อนจึงไม่ได้อุดหนุน จากนั้นก็ขี่ไปเรื่อยจนถึงวงเวียน(เขมรเรียกเดือน)ฉีกขวาไปเลย เหนื่อยร้อนก็พักไปเรื่อยๆแล้วแต่คนที่ขี่นำหน้า สอดสายตาหาของกินแก้กระหาย เห็นจะมีมากหน่อยตามรายทางคือน้ำอ้อยสดผสมน้ำแข็ง น้ำมะพร้าวแช่เย็น(โด่ง)และน้ำแข็ง (ตึกเก๊าะ) จากปอยเปตไปประมาณ 50 กม.ถึงจังหวัดบันเตียเมียนเจย (เราเรียกว่าบ้านเตี่ยเพื่อให้จำง่าย)เมื่อก่อนไทยเรียกศรีโสภณ แต่ถามคนที่นี่ไม่รู้จักและไม่มีป้ายบอกด้วย พอดีฝนตกหนัก ถามคนข้างทางว่าโรงแรมมีอยู่2แห่ง ออกเมืองไปไม่มีแล้วจึงตัดสินใจพักที่โรงแรมเวียดนามชื่อเกาหลีคือเตียงจีวอน อยู่ด้านซ้ายมือเลยจวนผู้ว่าไปเล็กน้อย ผ่านสวนสาธารณะขวามือ ซึ่งเราได้มาเดินเล่นหลังอาหารค่ำด้วย

Re: สามสหายปั่นไปกินโด่งและตึกเก๊าะที่เสียมเรียบ

โพสต์: 11 ส.ค. 2018, 20:34
โดย ทวีศักดิ์ ไชยเขียว
เราพักกันที่โรงแรมเตียงจีวอน เจ้าของโรงแรมพูดภาษาเวียดนามและฝรั่งเศสได้ ข้างๆมีร้านล้างรถและขายอาหารตามสั่ง เขาคิดคนละ 6,000 เรียล(60 บาท)ราคาพอรับได้ ไม่ต้องตกใจ เขาจะให้ข้าวจ้าวมาเป็นโถแม้เราจะกินคนเดียว เขาบอกว่าไม่พอตักเพิ่มแต่ราคาก็60บาทเท่าเดิมนั่นแหละ เช้าต่อมาเราเตรียมตัวกันแต่เช้าก็สั่งกินข้าวกันที่เดิม เจ้าของร้านพูดภาษาไทยได้ ขี่มุ่งหน้าไปทางตะวันออกเรื่อยๆ ไม่ถึง 10 กม.มีหมู่บ้านแกะสลักพระพุทธรูปเลยหยุดพักชมถ่ายรูป ยิ่งสายอากาศยิ่งร้อนขึ้นเรื่อยๆ เราก็หยุดพักกันเป็นระยะ ยังไงวันนี้เป็นช่วงยาวกว่าวันก่อนเหยียบร้อยโล ถนนมุ่งตรงเข้าสู่ตัวเมืองเสียมเรียบ จำเป็นต้องทำความเร็วแข่งกับเวลาเพื่อให้ได้ที่พักก่อนค่ำ พอพบถนน6เลนส์ก็เริ่มเข้าสู่ตัวเมืองทั้งสองข้างทางจะเป็นถนนมีโรงแรมขนาดใหญ่และแหล่งบันเทิงมากมายที่รับพวกกรุ๊ปทัวร์ จวบจนใกล้ค่ำเราขี่ผ่านเข้าไปในเมืองเลี้ยวขวาเข้าไปในย่านชุมชน เหนื่อยมากพอเจอเกสเฮ้าส์แห่งแรกก็พักเลย 3 เตียง(แอร์/ห้องน้ำ)12 $ (3หารคนละ4$) ส่วนห้องพัดลม 8 $ เราพักย่านท่องเที่ยวตามที่เขาแนะนำว่าห้องพักไม่ค่อยแพง เข้าร้านอาหารต้องเลือกระดับหน่อย ร้านที่มีฝรั่งเข้าเราก็เว้น เช้าหนึ่งเราหลวมตัวเข้าไปนั่ง กาแฟร้อน 1.5$ (1$=33.28บาท) ประมาณ 50 บาท หลังอาหารเย็นก็พักกันเพราะวันนี้ใช้พลังงานเยอะ

Re: สามสหายปั่นไปกินโด่งและตึกเก๊าะที่เสียมเรียบ

โพสต์: 11 ส.ค. 2018, 21:09
โดย ทวีศักดิ์ ไชยเขียว
เช้าวันแรกของเมืองเสียมเรียบ หลังอาหารเช้าราคาอเมริกัน ก็หมดคนละหลายร้อยบาท :mrgreen: ถามทางข้างถนนไปเที่ยวนครวัด(อังกอร์วัด)นครธม ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของการมาที่นี่ ก็ไปตามที่เขาบอก ประมาณ 4-5 กม.ก็เจอจุดตรวจ (check point) บอกพี่ต้องกลับไปซื้อตั๋วมาก่อนจึงจะให้ผ่าน ซึ่งเราเข้าใจเองว่าจะเหมือนขึ้นดอยอินทนนท์หรือแหล่งท่องเที่ยวของเมืองจีนทั้งหลายพอไปถึงก็เจอซุ้มประตูเก็บค่าผ่านทางตรงจุดนั้นเลย เราต้องปั่นย้อนกลับไปที่ อังกอร์เอนเตอร์ไพรซ์ ซึ่งเป็นสถานที่ขายตั๋วอีกประมาณ 5 กม. ถ้าอยู่ในเมืองจะไปอังกอร์เอ็นเตอร์ไพรซ์ก็จะต้องหาถนนหมายเลข 6 ให้เจอ แล้วมุ่งหน้าไปทางตะวันออกและเลี้ยวซ้ายไปตามถนนอัปสรา (อัปสร)(Apsara road) พอไปถึงวงเวียน(เดือน)ก็เลี้ยวขวา ตึกขายตั๋วอาคารใหญ่โตจะอยู่มุมซ้าย(หาแผนที่ใน Googleได้) ก็แปลกใจนิดหน่อยจากข้อมูลที่เราทราบจากเพื่อนนักปั่นที่เขียนไว้ว่าราคาเข้าชมต่อหัวต่อวัน 20 $ เพิ่มเป็น 37 $ (1,200บาท) ถ้าตั๋ว 3 วัน คนละ 40$ เพิ่มเป็น 62 $ (2,000 บาท) เจ้าหน้าที่พยายามจะอธิบายว่าขึ้นราคามานานแล้ว เราตัดสินใจซื้อตั๋ว 3 วัน เพราะยังไงวันเดียวก็คงเที่ยวไม่ทั่วแน่ๆ พนักงานย้ำว่าถ้าหายซื้อใหม่เท่านั้น บางทีคุณจะไม่ต้องจ่ายถ้าทำเนียนและพูดภาษเขมรได้ เพราะคนเขมรเข้าชมฟรีอยู่แล้ว ผมว่ารายได้ของการท่องเที่ยวที่นี่เลี้ยงคนได้ทั้งจังหวัดตลอดปีตลอดชาติ โชคดีที่เกิดเป็นคนเสียมเรียบ แต่พวกเขาก็ไม่ค่อยปลื้มกับผู้นำประเทศสักเท่าไรแม้จะชนะการเลือกตั้งอย่างท่วมท้น เหมือนประเทศไหนสักแห่งในเอเชียนี้เลยแต่นึกไม่ออก

Re: สามสหายปั่นไปกินโด่งและตึกเก๊าะที่เสียมเรียบ

โพสต์: 11 ส.ค. 2018, 21:44
โดย ทวีศักดิ์ ไชยเขียว
ตั๋วจะมีลักษณะเฉพาะของใครของมัน ต้องมีรูปถ่ายติด จะยิ้มก็ได้ ใส่แว่นตาได้ ผ้าโพกหัวก็ไม่ต้องถอด เมื่อได้บัตรได้ตั๋วแล้วก็ปั่นไปตามแผนที่ ซึ่งมีเข้าได้หลายทาง เราไม่ได้เข้าทางเดิมออกสำนักงานก็เลี้ยวขวาไปตามถนนอัปสรา(Apsara Road) จนถึงcheck point จนท.บอกให้เลี้ยวซ้าย จุดแรกที่ไปคืออังกอร์วัดหรือนครวัด เมื่ออ้อมไปตามคลองขุดขนาดใหญ่ไปด้านหน้า ด้านซ้ายมือจะมีร้านอาหารข้างลำคลองเป็นสิบๆร้านซึ่งจะถูกกว่าด้านหน้านครวัด หากินก่อนก็ได้ถ้าหิว ถึงมุมก็เลี้ยวขวาถ้าเลี้ยวซ้ายจะเป็นทางออกอีกเส้นทางหนึ่ง เมื่อเลี้ยวขวาไปจะเจอ Check point รถจักรยานเข้าได้ นำจักรยานไปจอดไว้แถวหน้าร้านค้าตามที่คนอื่นๆเขาจอดกัน ล็อกคอให้เรียบร้อย แม้รถเช่ามาขี่ก็จะล็อกเหมือนกัน ส่วนมากจะเป็นรถแม่บ้าน นครวัดใหญ่มากกกกกก อลังการงานสร้างจริงๆ เดินข้ามสะพานเด้งดึ๋ง(ทุ่นลอยน้ำ) เข้าไปชมกันเลย ไก้ด์ชายคนหนึ่งมาเสนอตัว 20 $แต่เราไม่เอา เพราะบางคนศึกษามาบ้างแล้ว แต่ผมก็แอบๆฟังตามกรู๊บทัวร์(ถ้าเจอ)รู้เรื่องบ้างไม่รู้บ้างแต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็น แต่ถ้าใครอยากได้อรรถรสในการชมก็หาอ่านในเน็ตก่อนไปนะครับ เสร็จจากนครวัดก็ไปต่อนครธม (อังกอร์ธม)ซึ่งเป็นกลุ่มของปราสาทหลายๆปราสาท เส้นทางมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือไม่ไกลกันนัก ใกล้ๆกันนั่นแหละถามใครๆก็รู้ครับ วันนี้เรามาสายและทุ่มเวลาให้กับนครวัด และปราสาทบายน(Bayon)ของนครธมไปมาก ตกเย็นเราจึงปั่นสำรวจเส้นทางกลับเพื่อจะได้มาเที่ยวต่อวันพรุ่งนี้

Re: สามสหายปั่นไปกินโด่งและตึกเก๊าะที่เสียมเรียบ

โพสต์: 11 ส.ค. 2018, 22:02
โดย ทวีศักดิ์ ไชยเขียว
อังกอร์วัดกว้างใหญ่อลังการล้อมรอบด้วยคลองขุด ส่วนอังกอร์ธมเป็นกลุ่มปราสาทที่ล้อมรอบด้วยกำแพง มีซุ้มประตูรูปหน้าคน(ผมเรียกเอง)ทั้งสี่ทิศ ที่แปลกกว่าใครคือปราสาทบายน(Bayon)จุดเด่นก็จะเป็นพรหมสี่หน้า(หรือเปล่า)เป็นยอดของแต่ละอาคารกระจุกตัวแน่นอยู่ด้วยกัน เป็นหลืบเป็นชั้นที่สลับซับซ้อน ใกล้ๆกันก็จะมีปราสาทปาปวนอีก ฯลฯ

Re: สามสหายปั่นไปกินโด่งและตึกเก๊าะที่เสียมเรียบ

โพสต์: 11 ส.ค. 2018, 22:17
โดย ทวีศักดิ์ ไชยเขียว
การเที่ยววันนี้เพียงพอแล้ว เราขี่ออกประตูด้านตะวันออกของนครธม มีวัด มีปราสาทตามทางผ่าน ถนนก็อ้อมมานครวัดดังเดิมแล้วเลี้ยวออกด้านซ้าย หรือเราจะเลี้ยวซ้ายก่อนไปทางถนนอัปสราก็ได้ พอถึงวงเวียนก็ตรงไปเจอสี่แยกก็เลี้ยวขวาไปตามถนนหมายเลข 6 เข้าเมือง
เช้าวันต่อมาเราปั่นไปเที่ยววันที่2 ตามถนนชาล เดอโกล (Charles De Gaulle) พอถึงคลองนครวัดก็เลี้ยวขวาเลียบคลองไปเรื่อยๆหลายกิโล ขวามือจะเป็นสระน้ำใหญ่นั่นคือ "สระสรง (สะหระสะหรง) ที่อาบน้ำของจ้าว เชื่อมต่อกับปราสาทบันเตยคดี จากนั้นปั่นไปเที่ยวปราสาทตาพรหม อลังการงานสร้างจริงๆ

Re: สามสหายปั่นไปกินโด่งและตึกเก๊าะที่เสียมเรียบ

โพสต์: 12 ส.ค. 2018, 11:00
โดย ทวีศักดิ์ ไชยเขียว
จากนั้นก็ปั่นต่อไปปราสาทตาแก้ว (Ta Keo) มีอาคารใหญ่อยู่ตรงกลางและบริวารอีก4หลัง (ขออภัยถ้าเรียกผิด) มีฐานโดยรอบสูงหลายเมตร มีบัว ย่อมุมไม้สิบสอง มีทางขึ้นที่สูงชัน ต้องปีนบันไดขึ้นต้องใช้มือช่วยด้วยเพราะชันจริงและขั้นบันไดไม่กว้างพอ เห็นฝรั่งหน้าตาแขกคนหนึ่งแขนถลอกเลือดแดงก่อนหน้านั้นก็คง... จากนั้นก็ปั่นไปวัดเล็กๆชื่อวัดเจ้าชายเทวดา (Chau Say Tevoda Temple) ตรงข้ามก็เป็นวัดเจ้าหญิงธรรมนูญ หินทั้งนั้น สวยครับไม่รู้จะบรรยายยังไง แต่เป็นยุคที่มีพุทธศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้องแต่ยังคงมีแท่นบูชาเทพอะไรของเขาอยู่ทุกหลัง

Re: สามสหายปั่นไปกินโด่งและตึกเก๊าะที่เสียมเรียบ

โพสต์: 12 ส.ค. 2018, 15:00
โดย ทวีศักดิ์ ไชยเขียว
จากนั้นปั่นเข้าไปในบริเวณของอังกอร์ธมทางประตูทิศตะวันออกอีกครั้ง ไปดู Elephant terrace เป็นกำแพงสูงยาวสลักเป็นรูปช้าง จะเป็นที่สำหรับเจ้าดูช้าง(เดา) ถัดไปก็เป็นปราสาทบา-ปวน ซึ่งเราไม่ได้เข้าไปดู เพราะที่ผ่านมาก็มึนหัวจะแย่อยู่แล้ว พรรคพวกบางคนก็ยังหารูปสลักเจงกิสข่านที่มาดื่มน้ำมะพร้าวไม่เจอทำไงดี บังเอิญไปเห็นรูปสลักไดโนเสาตัวหนึ่งจึงเป็นงงกับยุคอดีตเข้าไปอีก บางคนว่าจรเข้(ฮึไม่น่าใช่) ปล่อยไปก่อนเพราะเราต้องรีบไปจองพื้นที่สำหรับดูพระอาทิตย์ตกที่ปราสาท "พนมบาเก็ง" ซึ่งอยู่นอกประตูทิศใต้ไปไม่มากนักด้านขวามือ ด้านหน้าทางขึ้นมีบริการให้ขี่ช้าง และที่จอดมอเตอร์ไซค์และรถถีบใกล้ๆกันกับร้านค้า ถามว่าฟรีไหมบอกไม่ เราก็เลยไม่ฝากไปหาที่อื่นแต่ก็ไม่มีพอวนมาอีกครั้งเธอบอกว่าฟรีสำหรับพวกคุณ เมื่อผ่านการเช้คตั๋วก็เดินปะปนไปกับฝูงชนขึ้นเขาไปประมาณ 1 กิโล ไม่สูงชันครับ จนไปถึงตัวปราสาทพนมบาเก็ง เขาจำกัดคนขึ้นไปข้างบนแค่ 300 คน แจกบัตรห้อยคอคนละใบ บัตรหมดก็ปิดไม่ให้คนขึ้น คนที่เหลือก็ต้องรอคิวให้พวกข้างบนลงมาก่อน ไม่ควรเกิน 15.30 น. นะครับ เดี๋ยวบัตรขึ้นปราสาทหมดก่อนต้องเข้าคิวข้างล่างยืนรอ แต่ถ้าได้บัตรขึ้นก่อนก็ไปนั่งรอนอนรอข้างบนได้ เดินไปมาได้เล็งหามุมเหมาะๆ

Re: สามสหายปั่นไปกินโด่งและตึกเก๊าะที่เสียมเรียบ

โพสต์: 12 ส.ค. 2018, 16:42
โดย ทวีศักดิ์ ไชยเขียว
หลังจากถ่ายภาพตะวันตกไม่กี่ภาพ ก็รีบลงจากพนมบาเก็ง ) ลมฝนเริ่มมาเราก็ขี่กลับผ่านอังกอร์วัดกลับเข้าเมือง แวะข้างทางฝนทำท่าว่าจะไม่หยุดจึงขี่ต่อกรำฝนไป ยกเว้นเพื่อน2คนเขาติดเสื้อกันฝนไปด้วย ถึงที่พักค่ำแล้ว บริเวณที่เราพักจะเป็นย่านนักท่องเที่ยวซึ่งอยู่ใกล้กับ Night market ที่พักไม่ค่อยแพง เราอยู่ห่างประมาณ 500 เมตร หลังอาหารไปเดินถนน Night Market ไม่ค่อยคึกคักเหมือนบ้านเรา นักเที่ยวต่างชาติไม่ค่อยมี คนประเทศเขาก็ไม่มากอย่างประเทศเรา ขายของกันด้วยดอลล่าร์แต่ถ้าให้เงินบาทเงินเรียลก็เอา แต่เงิน ดอลล่าร์(33.28บาท)จะได้เปรียบ 1$ คิดให้ 40 บาทหรือ 4000 เรียล ชายชอบสนุก(Play boy)อาจหลวมตัวกับการโฆษณาชวนเชื่อจากพวกรถบริการ ด้วยภาพนางงามตู้กระจกที่เปิดให้ดูทีละแผ่น แต่พวกเราไม่(....)
เพียงสองวันเราก็อิ่มเอมกับการชมโบราณสถานอันเป็นมรดกโลกที่สำคัญแห่งหนึ่ง หากอยากจะได้อรรถรสในการเที่ยวชมคงต้องศึกษาเรื่องราวจากYouTube มาก่อนนะครับ เป้าหมายต่อไปของเราคือโตนเลสาป:ซึ่งมีที่ไปอยู่ 2 ที่คือ 15 กม.กับ 30 กม. เราเลือกไป 30 กม.อาจจะไม่ต้องซื้อบัตร วาดภาพในใจไว้ว่าไปดูวิถีชีวิตของชาวบ้านก็พอ เช้คเอ้าท์โรงแรมพร้อมสัมภาระไปหาที่นอนข้างหน้า ที่ไหนได้ต้องซื้อทั้งสองที่นะแหละครับ เพราะต้องลงเรือไปจึงจะถึงหมู่บ้าน หลังอาหารเช้าเราขี่รถมุ่งหน้าไปทางตะวันออก ใช้ถนนหมายเลข 6 ผ่านตลาดสด ผ่านท่ารถสายตะวันออก ออกนอกเมืองไปทาง อ.กำปงธมเส้นเดียวกับเมืองหลวงพนมเปญ ขี่ไปได้ไปประมาณ 20 กม.ก็เลี้ยวขวาไปประมาณ 5 กม.ออกสู่ทุ่งกว้างไม่มีบ้านเรือน ไปได้ 200 เมตร มีตำรวจคนหนึ่งขี่มอเตอร์ไซตาม อธิบายว่าถ้าจะเข้าไปสุดสายถนนนี้ต้องจ่ายคนละ 5 $ แต่ถ้าจะลงเรือไปเที่ยวโตนเลสาปต้องจ่ายคนละ 20 $ เราต้องย้อนกลับมาซื้อตั๋วที่สำนักงานท้ายหมู่บ้าน ขี่ไป 4 กม.ถึงจุด check point จอดรถทั้งสัมภาระไว้ใกล้ๆนะแหละปลอดภัยไร้กังวล จะมีเรือน้อยใหญ่จอดรอคิวเรียงรายนับร้อยคัน(อย่างไม่มีก็99 คัน) หากเราจะใช้บริการในเมืองที่พวกรถรับจ้างเสนอขายบอกว่าถ้าไปรถเขาจะจ่ายแค่ 17 ดอลล่าร์ ก็เป็นทางเลือกที่ดีนะทิ้งรถไว้ที่พักใช้เวลาไปกลับ 2-3 ชม.ไม่เกินนี้

Re: สามสหายปั่นไปกินโด่งและตึกเก๊าะที่เสียมเรียบ

โพสต์: 12 ส.ค. 2018, 19:50
โดย ทวีศักดิ์ ไชยเขียว
ครับคงต้องอำลากันเฟรมนี้ มาเที่ยวเขมรครั้งนี้ได้เรียนรู้วิถีชีวิต ได้รับรู้ถึงจิตวิญญาณความตั้งใจในผลงานศิลปะ ความอดทน ความเข้มแข็ง ความยิ่งใหญ่ ลัทธิความเชื่อของผู้คนต่างยุคสมัย เราไม่มีอะไรติดค้างในใจ เราไม่ได้เอาอะไรไปจากเขมรนอกจากภาพถ่ายและความทรงจำและเราไม่ทิ้งอะไรไว้นอกจากรอยเท้าและลีลาปั่นจักรยานในอากาศ เราได้กินโด่งและตึกเก๊าะอย่างสมใจ กลับมาถึงปอยเปต(ด่านชายแดน)ก็สิ้นแสงตะวันแล้ว ประทับตราเสร็จ เจ้าหน้าที่บอกขอ 100 บาท เป็นค่า โอที.แต่ของไทยไม่เก็บ
ขอขอบคุณผู้หมวดหำแห่ง สภ.คลองลึก เพื่อนนักปั่นที่เอื้อเฟื้อที่จอดรถยนต์ พบกันใหม่เมื่อชาติต้องการ สวัสดีครับ

Re: สามสหายปั่นไปกินโด่งและตึกเก๊าะที่เสียมเรียบ 1-6 สิงหาคม 2561

โพสต์: 08 ธ.ค. 2018, 08:54
โดย จุก
ต้องหาโอกาสไป ซีอังกอ บ้างแล้วครับพี่

Re: สามสหายปั่นไปกินโด่งและตึกเก๊าะที่เสียมเรียบ 1-6 สิงหาคม 2561

โพสต์: 25 ธ.ค. 2018, 07:05
โดย suphap2495
เยี่ยมครับ

Re: สามสหายปั่นไปกินโด่งและตึกเก๊าะที่เสียมเรียบ 1-6 สิงหาคม 2561

โพสต์: 02 มี.ค. 2019, 09:59
โดย ทวีศักดิ์ ไชยเขียว
จุก เขียน:ต้องหาโอกาสไป ซีอังกอ บ้างแล้วครับพี่
ออมสินใช่ไหม แอบเข้ามาดู จุดขายของเขมรก็มี2ที่เท่านี้แหละครับ(พี่ว่า)Trip เซโน-ลาวบ๋าว-เว้-ดานัง-ฮอยอัน(ฉันรักเธอ)ยังไม่ได้มีโอกาสนั่งหน้าจอเลย รอสักนิ้ด 555

Re: สามสหายปั่นไปกินโด่งและตึกเก๊าะที่เสียมเรียบ 1-6 สิงหาคม 2561

โพสต์: 03 เม.ย. 2019, 16:18
โดย ทวีศักดิ์ ไชยเขียว
เส้นทางสายนี้ คือด่านปอยเปต ผ่านศรีโสภณ(บันเตียเมียนเจย)ไปสุดที่เสียมเรียบ เป็นเส้นทางการท่องเที่ยว ผู้คนมีอัธยาศัยดี พูดภาษาไทยส่วนมากรู้เรื่อง โดยเฉพาะสถานบริการ ตลาด และพวกขับรถรับจ้างทั้งหลายภาษาอังกฤษก็สื่อสารได้ครับ