ThaiMTB.com

ค่าTPI ที่สเป็กยางมันคืออะไรหรอครับ
เห็นมีมากมายหลายค่ามาก
ขอบคุณครับ

เป็นค่าตัวเลขที่ใช้อธิบายให้เห็นภาพเรื่องคุณภาพและความแข็งแรง คงทนของยางครับ

โครงสร้างยางส่วนหนึ่งประกอบจากเส้นใยผ้าใบ (ลองนึกภาพรองเท้าผ้าใบสิครับ) มาสานกันเป็นเนื้อยาง ซึ่งค่าปรกติของยางที่เราใช้กันทั่วไปจะอยู่ที่ 35 - 60 TPI ค่าระดับนี้ไม่ค่อยทนต่อการกระแทกแรงๆ หรือเศษแก้ว ลวดสามารถแทงทะลุุเนื้อยางเข้ามาได้ง่าย

ส่วนยางที่มีค่า TPI สูงๆ ซึ่งมักเป็นยางเสือหมอบราคาแพงหรือยางที่ใช้สำหรับการแข่งขัน บางเส้นมีค่า TPI อยู่ที่ระดับ 120 - 160 TPI ก็จะมีความแข็งแรง คงทน ขึ้นมาอีกระดับหนึ่งครับ

ค่า TPI หมายถึงจำนวนเส้นใยผ้าใบในพื้นที่ 1 ตารางนิ้วของผิวยางครับ

แปลว่ายิ่งค่านี้มายิ่งทน

สิ่งที่ควรรู้เลยนะครับ

ค่าtpi มากไม่เกียวเรื่องความทนทานนะครับ จุดประสงค์ของยางที่เติมลมได้มากๆ คือต้องการความแข็งของยางๆจะได้ลอยตัวจากพื้นให้ได้มากที่สุด เพื่อลดแรงเสัยดทานระหว่างยางกับพื้น รถจะได้ไปเร็วขึ้น ดังนั้นยางที่เติมได้แข็งมากๆจึงเป็นยางเกรดแข่งขัน ซึ้งไม่เน้นความทนแต่ เน้นความเบากับการยึดเกาะถนนเสียมากกว่า
ผลพลอยได้คือ น้ำหนักยางที่เบาตามไปด้วย เนื่องจากต้องใช้วัสดุประเภทเส้นใยคารบอนมาเป็นวัสดุในการผลิด และการที่จะให้ยางมีการยึดเกาะที่ดี ในเนื้อยางก็ต้องมีความนุ่ม จึงทำให้ยางที่ใช้แข่งขันมีทั้งความเบา เติมลมได้มากและแข็ง ยึดเกาะถนนดี แต่ไม่ทนและหมดการยึดเกาะเร็วกว่ายางทั่วไป.

แมวทอง เขียน:ค่าtpi มากไม่เกียวเรื่องความทนทานนะครับ จุดประสงค์ของยางที่เติมลมได้มากๆ คือต้องการความแข็งของยางๆจะได้ลอยตัวจากพื้นให้ได้มากที่สุด เพื่อลดแรงเสัยดทานระหว่างยางกับพื้น รถจะได้ไปเร็วขึ้น ดังนั้นยางที่เติมได้แข็งมากๆจึงเป็นยางเกรดแข่งขัน ซึ้งไม่เน้นความทนแต่ เน้นความเบากับการยึดเกาะถนนเสียมากกว่า
ผลพลอยได้คือ น้ำหนักยางที่เบาตามไปด้วย เนื่องจากต้องใช้วัสดุประเภทเส้นใยคารบอนมาเป็นวัสดุในการผลิด และการที่จะให้ยางมีการยึดเกาะที่ดี ในเนื้อยางก็ต้องมีความนุ่ม จึงทำให้ยางที่ใช้แข่งขันมีทั้งความเบา เติมลมได้มากและแข็ง ยึดเกาะถนนดี แต่ไม่ทนและหมดการยึดเกาะเร็วกว่ายางทั่วไป.

อืม...
เรามั่วนี่เอง

ไม่มีใครมั่วหลอกน่า เล่าสู่กันฟังนะ ผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิด

แมวทอง เขียน:ไม่มีใครมั่วหลอกน่า เล่าสู่กันฟังนะ ผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิด

สังเกตุคำว่าว่าหลอก
ล้อเล่นนะค่ะ

ว้าววว ความรู้ใหม่

ผมใช้ 220TPI เปลี่ยนมาครึ่งปี รั่วไป 4 รอบ พระเจ้า

สงสัยต้องแก้ข่าว

คำอธิบายของคุณแมวทอง กระชับและชัดเจนกว่าคำอธิบายของผมครับ

ต้องขออภัยด้วยที่เผลอแทรกความเห็นส่วนต้วลงไปด้วย อาจจะทำให้บางท่านเข้าใจผิดในสาระสำคัญครับ

ค่า TPI - threads per inch ในทางทฤษฏีหมายถึงค่าความหนาแน่นของเส้นใยที่นำมาทำเป็นโครงสร้างยาง ค่า TPI ที่มีจำนวนตัวเลขน้อยก็หมายความถึงว่าจำนวนเส้นใยในพื้นที่ 1 ตารางนิ้วมีจำนวนน้อย ส่วนค่า TPI ที่มีจำนวนตัวเลขมากก็หมายถึงจำนวนเส้นใยที่มากขึ้นในพื้นที่ 1 ตารางนิ้วเช่นกัน

ส่วนในทางปฏิบัติค่า TPI ที่มากขึ้นมักหมายความว่ายางมักจะบางและเบาลง แต่ทนแรงดันได้สูงขึ้นครับ เนื่องจากจำนวนเส้นใยที่มากขึ้นทำให้แก้มยางมีความแข็งแรงมากขึ้น

สิ่งที่ทำให้สับสนคือเมื่อค่า TPI มากขึ้นทำไมยางจึงบางและเบาขึ้น ตำตอบคือค่า TPI ที่มีตัวเลขน้อยเส้นใยที่ใช้มักเป็นเส้นใยขนาดใหญ่ ส่วนยางที่มีค่า TPI มากจะใช้เส้นใยขนาดเล็ก-ละเอียดมาทำเป็นโครงสร้างยางครับ

ดังนั้นยางที่บางและเบา ทนแรงดันได้สูง จึง ลื่นและปั่นฯ ได้เบาเท้ามากกว่ายางที่หนาและหนัก (ใช้แรงดันลมยางต่ำ) ครับ แต่ความบางของยางก็ทำให้มีโอกาสที่จะถูกแก้วหรือของมีคมตำได้ง่ายกว่าครับ

...

ดูรูปที่คุณแมวทองมาโพสไว้แล้วก็ยังไม่เข้าใจครับ

ช่วยอธิบายหน่อยครับว่าหมายความว่าอย่างไรครับ

สังเกตได้จากค่า TPI ของยางรถยนต์จะต่ำ ใช่มั้ยครับ