Boost มาตรฐานใหม่ดุมล้อเสือภูเขา
โพสต์: 08 เม.ย. 2016, 15:15
[align=center]
หลังหลังจากที่วงการจักรยานเสือภูเขา เริ่มเปลี่ยนระบบดุมล้อจากแกนปลด ธรรมดามาเป็นแกนสอดในระยะ 4-5 ปีที่ผ่านมานี้ โดยระบบแกนสอดที่เป็นมาตรฐานสำหรับจักรยานเสือภูเขาทั่วๆไปตอนนี้ก็คือ ดุมหน้า 15*100 มม และ ดุมหลัง 12*142 มม. ในช่วงขณะที่มีการเปลี่ยนจากแกนปลดมาใช้แกนสอดนั้น ก็ได้มีกระแสความนิยมในจักรยานล้อโต(Fat bike ยางโตเกิน 4.0)เกิดขึ้น จนเป็นที่นิยมแพร่หลาย แต่เมื่อเวลาผ่านไปสักพักกระแสความนิยมในจักรยานล้อโตก็เริ่มลดความนิยมลง อันเนื่องมาจากปัญหาที่ว่ายางที่โตเกินมากเกินไป เป็นอุปสรรคในการใช้งานทั่วๆไป ดังนั้นทิศทางตลาดจึงเริ่มมีการพัฒนาจักรยานล้อ 27.5+ และ 29+ ซึ่งเป็นจักรยานที่มีขนาดยางเล็กกว่า Fat bike แต่ใหญ่กว่ายางปกติ คือ จะมีขนาดยางอยู่ระหว่าง 2.75-3.25 ซึ่งสามารถใช้งานทดแทน Fat bike ได้ในกรณีไปขี่ลุยทราย หรือลุยหิมะ และ ยังสามารถใช้งานปกติได้ดีเพราะมียางที่ขนาดเล็กกว่า Fat bike ด้วยทิศทางตลาดไปทางนั้นแต่ปัญหาที่เกิดขึ้นว่า ยางสำหรับรถ 27.5+ และ 29+ มีขนาดใหญ่กว่าอย่างปกติ เมื่อมาใช้กับดุม 15*100 และ 12*142 จึงทำให้เกิดปัญโคลนติดรถได้ง่าย เพราะซุ้มล้อไม่กว้าง
เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวทาง SRAM และ Trek จึงร่วมกันพัฒนามาตรฐานดุมล้อใหม่ที่มีขนาดกว่างขึ้นกว่าดุมล้อของเดิม เพื่อแก้ปัญหาของรถ 27.5+ และ 29+ ดังนั้นจึงเกิดมาตรฐานดุมล้อใหม่ที่เรียกว่า Boost ซึ่งมีการขยายความกว้างของดุมหน้าออกไปอีกเป็น 110 มม จากของเดิม 100 มม แต่ยังคงใช้แกนสอดขนาดเท่าเดิมคือ 15 มม ซึ่งเป็นที่หน้าสังเกตุว่ามาตรฐานดุมล้อหน้า Boost นั้นมีความกว่างของดุมเท่ากับมาตรฐานดุมล้อ Downhill 20*110 มม ดังนั้นจึงสามารถดัดแปลงดุมล้อ 20*110 มม ของดาวน์ฮิลล์มาใช้กับดุมล้อหน้ามาตรฐาน Boost ได้ ด้วยการใช้ปลอกลดขนาดดุมจาก 20 มม มาเป็น 15 มม ก็สามารถใช้ร่วมกันได้
ส่วนดุมหลังนั้น มาตรฐานแกนสอดเดิมจะมีขนาดดุมหลัง 12*142 มม แต่มาตรฐานใหม่ของ Boost จะมีขนาดดุมหลัง 12*148 มม ซึ่งจะทำให้สามารถใช้ยางใหญ่ 27.5+ หรือ 29+ ได้สะดวกขึ้น[homeimg=300,250]http://www.thaimtb.com/forum/picture_mt ... 731317.jpg[/homeimg]
[/align]หลังหลังจากที่วงการจักรยานเสือภูเขา เริ่มเปลี่ยนระบบดุมล้อจากแกนปลด ธรรมดามาเป็นแกนสอดในระยะ 4-5 ปีที่ผ่านมานี้ โดยระบบแกนสอดที่เป็นมาตรฐานสำหรับจักรยานเสือภูเขาทั่วๆไปตอนนี้ก็คือ ดุมหน้า 15*100 มม และ ดุมหลัง 12*142 มม. ในช่วงขณะที่มีการเปลี่ยนจากแกนปลดมาใช้แกนสอดนั้น ก็ได้มีกระแสความนิยมในจักรยานล้อโต(Fat bike ยางโตเกิน 4.0)เกิดขึ้น จนเป็นที่นิยมแพร่หลาย แต่เมื่อเวลาผ่านไปสักพักกระแสความนิยมในจักรยานล้อโตก็เริ่มลดความนิยมลง อันเนื่องมาจากปัญหาที่ว่ายางที่โตเกินมากเกินไป เป็นอุปสรรคในการใช้งานทั่วๆไป ดังนั้นทิศทางตลาดจึงเริ่มมีการพัฒนาจักรยานล้อ 27.5+ และ 29+ ซึ่งเป็นจักรยานที่มีขนาดยางเล็กกว่า Fat bike แต่ใหญ่กว่ายางปกติ คือ จะมีขนาดยางอยู่ระหว่าง 2.75-3.25 ซึ่งสามารถใช้งานทดแทน Fat bike ได้ในกรณีไปขี่ลุยทราย หรือลุยหิมะ และ ยังสามารถใช้งานปกติได้ดีเพราะมียางที่ขนาดเล็กกว่า Fat bike ด้วยทิศทางตลาดไปทางนั้นแต่ปัญหาที่เกิดขึ้นว่า ยางสำหรับรถ 27.5+ และ 29+ มีขนาดใหญ่กว่าอย่างปกติ เมื่อมาใช้กับดุม 15*100 และ 12*142 จึงทำให้เกิดปัญโคลนติดรถได้ง่าย เพราะซุ้มล้อไม่กว้าง
เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวทาง SRAM และ Trek จึงร่วมกันพัฒนามาตรฐานดุมล้อใหม่ที่มีขนาดกว่างขึ้นกว่าดุมล้อของเดิม เพื่อแก้ปัญหาของรถ 27.5+ และ 29+ ดังนั้นจึงเกิดมาตรฐานดุมล้อใหม่ที่เรียกว่า Boost ซึ่งมีการขยายความกว้างของดุมหน้าออกไปอีกเป็น 110 มม จากของเดิม 100 มม แต่ยังคงใช้แกนสอดขนาดเท่าเดิมคือ 15 มม ซึ่งเป็นที่หน้าสังเกตุว่ามาตรฐานดุมล้อหน้า Boost นั้นมีความกว่างของดุมเท่ากับมาตรฐานดุมล้อ Downhill 20*110 มม ดังนั้นจึงสามารถดัดแปลงดุมล้อ 20*110 มม ของดาวน์ฮิลล์มาใช้กับดุมล้อหน้ามาตรฐาน Boost ได้ ด้วยการใช้ปลอกลดขนาดดุมจาก 20 มม มาเป็น 15 มม ก็สามารถใช้ร่วมกันได้
ส่วนดุมหลังนั้น มาตรฐานแกนสอดเดิมจะมีขนาดดุมหลัง 12*142 มม แต่มาตรฐานใหม่ของ Boost จะมีขนาดดุมหลัง 12*148 มม ซึ่งจะทำให้สามารถใช้ยางใหญ่ 27.5+ หรือ 29+ ได้สะดวกขึ้น[homeimg=300,250]http://www.thaimtb.com/forum/picture_mt ... 731317.jpg[/homeimg]