หน้า 2 จากทั้งหมด 6

Re: เจ็ดเสือ ฒ เล่าเรื่องปั่นเลาะริมโขง

โพสต์: 17 ต.ค. 2012, 12:16
โดย ลุงแก้ว
เรารีบปั่นกันมาได้สักพักก็ถึงจังหวัดบึงกาฬ เป็นจังหวัดที่77ของไทยสี่โมงเย็นแล้วเข็มไมล์บอก 158กมจากจุดเริ่มต้นหนองคาย หัวหน้าทริปคุณพี่หมู และคุณณรงค์แกจะต่อไปที่ภูทอก ยังไม่มีข้อมูล ถาม หญิงที่ปั้มปตท.บอก ไปอีก 40 กม. ไกลแฮ้ ถามตำรวจที่เดินมา ตำรวจบอก 28กม.เอง เชื่อใครหว่า เอาแล้วตั้งเข็มเดินหน้าแล้วไม่ย้อนกลับ เลี้ยวขวาที่สี่แยกหน้าปั้มปตท.ก็ดิ่งไปอ.ศรีวิไล ไม่หยุดที่ใหนเลย 28กม.พอดี ตรงกับตำรวจบอก เจอะทางเข้าเขียนวัดภูทอก20 กม. รวมแล้ว48 กม. ใกล้เคียงกับผู้หญิงบอก ค่ำแล้วเอาอย่างไร ที่อ.ศรีวิไลเราพบการต้อนรับอย่างอบอุ่นจาก กลุ่มเสือภูทอก เขารู้จาก ระหว่างทางที่เราปั่นมาได้พูดคุยกับชาย ขี่มอเตอรไชด์ ชื่อคุณประเสริฐ ซักพักเขาขี่หายไปใส่เสื้อทีม พร้อมพาพวกมากลุ่มใหญ่มาทำความรู้จักกับเราหัวหน้ากลุ่มชื่อคุณสถาพร พระนคร มีร้านขายของอยู่ในตลาด ชื่อร้านพระนคร เขาพาพวกเราไปเลี้ยงข้าว มื้อเย็นเป็นอาหารตามสั่งบริเวณนั้น เราซาบซึ้งน้ำใจเพื่อนจักรยาน อิสาน เมาเทนไบด์ ที่เราไม่เคยลืม

Re: เจ็ดเสือ ฒ เล่าเรื่องปั่นเลาะริมโขง

โพสต์: 17 ต.ค. 2012, 12:21
โดย ลุงแก้ว
ยังอยู่ที่งานเลี้ยง จากเสือภูทอก

Re: เจ็ดเสือ ฒ เล่าเรื่องปั่นเลาะริมโขง

โพสต์: 17 ต.ค. 2012, 12:25
โดย ลุงแก้ว
ก่อนจากกันคุณสถาพร ขี่รถพาเรามาส่งไปขึ้นภูทอก มันเป็นคืนเดือนมืด ไฟฉายที่มีประสิทธิภาพในกลุ่มมีอันเดียว ไว้ฉายใส่หน้าคนให้เขาไล่ยิงบนทางด่วนนั่นแหละ นอกนั้นเหมือนแสงหิงห้อย หริบหรี่ ขี่บนถนนลาดยางที่มีหลุมบ่อพอควร ภาวนาอย่าให้ใครคันไดต้องยางแตกรถเสียเลย ขี่ไปคุยกันไปยังแฮฮาได้อยู่ ผ่านบ้านผู้คนล้อมวงกินข้าว ทุกบ้านจะเรียกเรากินข้าวด้วยกันก่อน มันเป็นประเพณีที่เราไม่ค่อยได้เห็นในกรุงเทพฯ ผ่านทางเข้าวัดหนึ่งมันมืดเรามองไม่เห็นชื่อวัดมีวัยรุ่นคนหนึ่งแถเข้ามาบอกว่าวัดภูทอกเชิญทางนี้ แหมขนาดเมายังมีน้ำใจ ถึงวัดประมาณสองทุ่มกุฏิปิดหมดแล้ว ได้ยินเสียงแม่ชีสวดมนต์ในห้องเรียกอยู่นาน เธอโผล่หน้ามาแล้วบอกว่าเธออนุมัติให้ค้างไม่ได้ชี้ไปที่เรือนแม่ชีอีกท่าน แม่ชีท่านนั้นชี้ไปที่ เรือนพักโยมหลังที่3 เป็นเรือนสองชั้น เราได้พักชั้นล่าง มี3ห้อง กลางเป็นห้องโถงใหญ่ พี่เสธฯ จอง คนอื่นแยกย้ายกันอาบน้ำนอน อย่างสงบสุข วันนี้ทำระยะทางจากหนองคายรวมได้ 206 กม.

Re: เจ็ดเสือ ฒ เล่าเรื่องปั่นเลาะริมโขง

โพสต์: 17 ต.ค. 2012, 13:32
โดย ลุงแก้ว
Day 3 วัดภูทอก บ้านแพง
ตื่นตี5 ตามปรกติสวดมนต์ อาบน้ำ ตรวจสภาพรถ และซ่อมรถให้คุณณรงค์ นิดหน่อย รถเขา Surley ใหม่เอี่ยมเพิ่งรันอิน น๊อตยึดสับจานหน้าคลาย หลวมทำให้สับจานหัน ขัดกับโซ่ โซ่อ้าออกต้องตัดและต่อใหม่ ปรับสับจานใหม่ก็ใช้ได้ เปลี่ยนอานนิ่มของลุงแก้วให้เฮีย ฮงชั่วคราว เบาะเฮียของฮงแกใหม่เอี่ยมแข็งมากขี่ไม่ไหว กะว่าจะไปซื้อใหม่ในเมือง
7โมงเช้าขึ้นศาลา วันนี้วันพระ มีโยมมาทำบุญกันมาก พวกเราใส่บาตรข้าวเหนียว ซื้อแกงหน้าวัดมาทำบุญ พระนั่งบนอาสนะ โยมและแม่ชีสวดมนต์ทำวัตรเช้าเสียงสวดพังไพเราะมาก ผู้มีฌานและสมาธิจะสวดได้เช่นนี้ สวดมนต์เป็นยาทาวิปัสสนาเป็นยากินหลวงพ่อจรัญท่านว่า สวดมนต์เสร็จ หลวงพ่อ พระอาจารย์ ท่านถามพวกเราว่า "เจ้ามาแต่ไส " พวกเราสนทนากับหลวงพ่อ แล้วท่านก็ให้พร สวด ยถาสัพพี ฉันภัตราหาร ท่านฉันมื้อเดียว พระฉันเสร็จโยมก็กิน เสร็จแล้วพวกเราไปขึ้นเขา

Re: เจ็ดเสือ ฒ เล่าเรื่องปั่นเลาะริมโขง

โพสต์: 17 ต.ค. 2012, 13:48
โดย ลุงแก้ว
ภูทอก เคยเห็นแต่ในรูปมาเห็นของจริง ได้เห็นความอัศจรรย์ ที่เขาสร้างทางเดินรอบเขา เอาไม้ไป ยึด ค้ำ บนหินได้อย่างไร เขาสร้างสะพานไปยังกุฏิของหลวงพ่อพระอาจารย์จวงมีหิน รูปคล้ายเจดีย์อินแขวน ตำนานเขาเล่าว่า มีเทวดา มาช่วยมนุษย์สร้างทางเดินรอบเขา และสร้างสะพานไปยังกุฏิพระอาจารย์ ทางเดินขึ้นเขามี 7 ชั้น แต่ละชั้นจะมีห้องปฏิบัติธรรมของพระเณร และ ฆราวาส จึงห้ามส่งเสียงดังรบกวนการปฏิบัติธรรม ทางเดินแคบต้องระวังและมีสมาธิ ท่านมหาวีระพันธ์ท่านสวดพุธคุณ ธรรมคุณ สงฆ์คุณ ขณะเดินรอบเท่ากับทำทักษิณาวัตร รอบพระอุโบสถ ส่วนชั้น7 เป็นป่ารกธรรมชาติ เราเดินไป เดินมาหลงอยู่ข้างบนเดิน กลับไป กลับมา กว่าจะหาทางลงเจอ รอบวัดมองออกไปมีแต่ป่ายางพารา มิน่า ราคายางสูง ข้าวของจึงมีราคาแพง ที่ชาวบ้านมีกำลังซื้อนั่นเอง

Re: เจ็ดเสือ ฒ เล่าเรื่องปั่นเลาะริมโขง

โพสต์: 17 ต.ค. 2012, 13:53
โดย ลุงแก้ว
ภูทอกต่อ

Re: เจ็ดเสือ ฒ เล่าเรื่องปั่นเลาะริมโขง

โพสต์: 17 ต.ค. 2012, 13:58
โดย ลุงแก้ว
ภูทอก

Re: เจ็ดเสือ ฒ เล่าเรื่องปั่นเลาะริมโขง

โพสต์: 17 ต.ค. 2012, 14:56
โดย thor
:D อ่านแล้วเหมือนได้ร่วมทริปไปกับ ๗ เสือ ฒ เลยครับ..ลุงแก้ว ;)

Re: เจ็ดเสือ ฒ เล่าเรื่องปั่นเลาะริมโขง

โพสต์: 17 ต.ค. 2012, 15:13
โดย ลุงแก้ว
ภูทอก

Re: เจ็ดเสือ ฒ เล่าเรื่องปั่นเลาะริมโขง

โพสต์: 17 ต.ค. 2012, 15:22
โดย ลุงแก้ว
ชั้นเจ็ด

Re: เจ็ดเสือ ฒ เล่าเรื่องปั่นเลาะริมโขง

โพสต์: 17 ต.ค. 2012, 15:35
โดย ลุงแก้ว
ลงจากเขา พักผ่อนแล้วออกไปทานอาหารกลางวันหน้าวัด แล้วเดินทางต่อออกมาทาง อ.บึงโขงหลง เพื่อมาออกบ้านดงบัง แล้วออก อ.บ้านแพง จ.บึงกาฬ ระหว่างทางเราแวะทานน้ำแข็งไส ที่นี่ก็เป็นอีกที่ ที่แม่ค้าน้ำแข็งไส มีอัธยาศัยไมตรีเอาน้ำเอาของกินมาให้เรา พูดคุยบอกทางด้วยความเต็มใจ

Re: เจ็ดเสือ ฒ เล่าเรื่องปั่นเลาะริมโขง

โพสต์: 17 ต.ค. 2012, 15:43
โดย ลุงแก้ว
ร้านน้ำแข็งไส ใส่นำใจแม่ค้า

Re: เจ็ดเสือ ฒ เล่าเรื่องปั่นเลาะริมโขง

โพสต์: 17 ต.ค. 2012, 15:55
โดย ลุงแก้ว
ใกล้ค่ำต้องหาวัดอีกแล้ว ปั่นเข้าตัวอำเภอ พบวัดสิงห์ทอง เห็นมีทัวร์ริ่งสองคันวิ่งแวบๆเข้ามา พอมาใกล้ อ้าว อาจารย์รังสิต กับพี่พูนนี่เอง
กราบพระเจ้าอาวาสท่านไม่ค่อยเต็มใจให้พักเท่าไร ให้พวกเราไปพักกระต๊อบซักล้างติดกับหอฉัน และ ให้พักที่หอกลอง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมาเห็นก็เลยพาเราไปหาเจ้าอาวาส ขอนอนที่หอฉันก็จะสะดวกสบายขึ้น ส่วนลุงพูนกับอาจารย์รังสิตพักที่หอกลอง

อาบน้ำคุยกันได้พัก มีกองกำลังอาวุธครบมือเข้ามาหาเราบอกว่าเป็น อส. และผู้ใหญ่บ้านได้รับแจ้งว่ามีกระบวนคาราวานจักรยานเข้ามาในวัด ขอบัตรประจำตัว เราก็ให้ดู บัตรประชาชน บัตรพนักงานการบินไทย ข้าราชการบำนาญ เหตุการณ์จึงลดความตึงเครียดคุยสนทนาด้วยไมตรี เขาว่าหมู่บ้านนี้ติดชายแดนมีอาชญากรรมและยาเสพติดมากจึงต้องใช้กองกำลังลาดตระเวน กว่า 50 ตน คุยกันสักพักเขาก็ลากลับไป เราต่างแยกย้ายกันนอน วันนี้ทำระยะทางรวมได้ 276 กม.

Re: เจ็ดเสือ ฒ เล่าเรื่องปั่นเลาะริมโขง

โพสต์: 17 ต.ค. 2012, 16:07
โดย ลุงแก้ว
Day 4 นมัสการสามพระธาตุ
ตีสี่ได้ยินเสียงฆ้อง พวกเราตื่นเก็บเต้น อาบน้ำ เพคของบรรจุตะแกรงจักรยาน ตีห้าครึ่งจักรยานทุกคันออกจากหอฉันหมดแล้ว เราถวายค่าน้ำ ค่าไฟ หนี้สงฆ์เรียบร้อยแล้วออกจากวัดมาหาอาหารเช้ากินกัน ที่นี่ตลาดใหญ่มีร่นจักรยานสองร้านแต่ไม่มีอะไหล่ขาย เราเลยไม่ได้เปลี่ยนเบาะให้อาฮง ออกจากบ้านแพงมาตามถนนสาย212 ร่มรื่นมากใช้เวลา4 ชั่วโมงเศษก็มาถึง ต.ไชยบุรี ที่แต่ก่อนเคยเป็นเมืองหลวงไชยบุรี ห่างจากอ.ท่าอุเทน 20 กม. ที่นี่ก็มีน้ำสองสี โขงสีอิฐ ไชยบุรีสีเขียว ตรงปากแม่น้ำมีร้านอาหารอร่อยชื่อร้านอาหารปากน้ำ ดำเนินงานโดยป้าหนิง อดีตครูประชาบาล แกเก่า เคยทำงานในลาวสมัยสงคราม แกว่าไม่ทำก็ไม่มีกินเป็นล่ามให้ฝลั่ง แกพูดคุยเล่นหัวได้สนุกสนานอาจเป็นเพราะเป็นคนวัยเดียวกัน แกว่าถ้าทายอายุแกถูกแกจะให้กินพรี ไม่มีใครทายถูกแกอายุ67 เท่าเสธฯยูร ทานอาหารมื้อใหญ่แล้วก็เดินทางต่อ

Re: เจ็ดเสือ ฒ เล่าเรื่องปั่นเลาะริมโขง

โพสต์: 17 ต.ค. 2012, 16:18
โดย ลุงแก้ว
ปั่นออกมาตามทาง212 ประมาณ 20 กม.ก็ถึงพระธาตุอุเทน มีลักษณะคล้ายพระธาตุพนม สภาพดูเก่าขลังดี นมัสการพระธาตุแล้วงีบหลับไปพักหนึ่ง ได้ยินเสียงหัวเราะและเสียงบ้องไฟขนาดเล็กขึ้น เข้าไปดูใกล้เห็นหมาพุดเดิ้ลตัวหนึ่งมันจะวิ่งตามบ้องไฟทุกครั้งที่จุดบ้องไฟ น่ารักดี ถ้าจุดช้ามันจะฉี่ใส่บ้องไฟ มันทำเงินให้วัดได้ดีเพราะคนชอบดูมันวิ่งตามบ้องไฟ ที่ขายอันละ 30 บาท