จุดเดือดนํ้ามันเบรค

คำถามพูดคุยเกี่ยวกับจักรยานเสือภูเขาหรืออุปกรณ์ต่างๆ

ผู้ดูแล: seven@klein, Cycling B®y, tntm, เสือ Spectrum

รูปประจำตัวสมาชิก
mookpa
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 161
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2013, 19:46
team: กายสิทธิ์
Bike: ขับเคลื่อน ล้อหลัง 11 สปีด

จุดเดือดนํ้ามันเบรค

โพสต์ โดย mookpa »

ใครทราบบ้างว่าจุดเดือดของนํ้ามันเบรค mineral oil กับ dot ต่างกันยังไงบ้างครับ :roll:
รูปประจำตัวสมาชิก
ต้อง
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1444
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2011, 11:16
Tel: 087-0190610
team: 000000
Bike: 000000

Re: จุดเดือดนํ้ามันเบรค

โพสต์ โดย ต้อง »

จุดเดือด หมายความว่า เอาไปต้ม หรือ การทนต่อความร้อนในขณะขับขี่กลางแดดครับ ..... ( ไม่เข้าใจจริง ๆ ไม่ได้กวน...ีน น๊ะคร๊าบบบบ ) :mrgreen:
รูปประจำตัวสมาชิก
sakda2503
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 157
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 มิ.ย. 2013, 12:28
Tel: 0806730007
team: อิสระ เชียงใหม่
Bike: เก่ามากเกียร์ดิโอเร
ตำแหน่ง: สำนักชลประทานที่1ถนนทุ่งโฮเต็ล ต.วัดเกตุ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50000

Re: จุดเดือดนํ้ามันเบรค

โพสต์ โดย sakda2503 »

น่าจะหมายถึง จุดที่ของเหลวจะเปลี่ยนสถานะจากของเหลวกลายเป็นไอ ณ.อุณภูมิหนึ่ง ซึ่งในน้ำมันเบรคจะเกิดจากผ้าเบรคเสียดสีกับจานเบรคนานๆแล้วส่งถ่ายความร้อนมายังน้ำมันเบรค ซึ่งการขี่รถตากแดดนานๆมันคงไม่ถึงกับเดือดมั๊งครับ ผมไม่มีรถดิสเบรคขี่ซะด้วยไม่งั้นจะไปขี่ตากแดดดู :lol: :lol: :D หรือไม่ก็ว่าพรุ่งนี่เช้าจะลองยืมรถเพื่อนไปต้มดูไม่รู้จะหาหม้อใหญ่ๆมาใส่ได้หรือเปล่า :roll:
รูปประจำตัวสมาชิก
pomroland
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 2756
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2013, 00:19
Bike: Specialized

Re: จุดเดือดนํ้ามันเบรค

โพสต์ โดย pomroland »

ตอบ จขกท : จุดเดือดน่าจะไม่เท่ากันน่ะครับ ในความรู้สึกของผม เพราะขนาดน้ำมันเบรคแต่ล่ะ DOT ก็จะมีจุดเดือดแตกต่างกัน
ตอบ คห ที่ 2 : น้ำปรกติจะมีจุดเดือดปรกติที่ 100 องศา C แต่น้ำมันเบรคจะมีจุดเดือดที่สูงกว่าครับ คือต้องมีอุณหภูมิสูงเกิน 100 องศา น้ำมันเบรคถึงจะมีการเดือดเกิดขึ้นนั่นเอง ทำไมน้ำมันเบรคต้องมีจุดเดือดสูงกว่าน้ำปรกติทั่วไป คำตอบคือ เวลาเราอัดของเหลว , อากาศ และทำให้มีปริมาตรเล็กลง จะเกิดความร้อนขึ้นมาทันที ความร้อนของน้ำมันเบรคที่เกิดขึ้นมา ส่วนใหญ่มาจากน้ำมันในกระบอกสูบถูกอัดให้เกิดแรงดันเพื่อส่งไปดันลูกสูบที่คาลิปเปอร์นั่นเอง ถ้าน้ำมันเบรคเดือดผลที่ตามมาคือจะมีฟองอาศในระบบนั่นเอง จะทำให้เบรคไม่อยู่ ส่วนจานเบรคที่ร้อนจะถูกระบายความร้อนด้วยอากาศที่จานส่วนนึง สังเกตรถยนต์ราคาแพงๆจานเบรคจะมีรูเจาะเอาไว้เพื่อระบายความร้อนนั่นเอง
อันนี้เป็นข้อมูลจากที่ผมเคยศึกษาและหาข้อมูลเอง ผิดถูกขออภัย
รูปประจำตัวสมาชิก
mookpa
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 161
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2013, 19:46
team: กายสิทธิ์
Bike: ขับเคลื่อน ล้อหลัง 11 สปีด

Re: จุดเดือดนํ้ามันเบรค

โพสต์ โดย mookpa »

คืออยากทราบว่าถ้าเป็น mineral oil ที่ใช้กับดิสเบรค shimano มันมีจุดเดือดต่างจาก นํ้ามันเบรค dot. ของ hope หรือ avid มันจะมีจุดเดือดต่างกันมากมั้ย ตัวไหนเหมาะกับการใช้งานแบบใด เพราะถ้าลงเขาแล้วเบรคมากๆตัวไหนจะทนความร้อนจนเดือดได้มากกว่ากันครับ เห็นพวก dot 5.1ของavid จะบอกอยู่ที่ 191°C ถึง270°C แต่ไม่รู้ว่าพวก mineral oilอยู่ที่เท่าไหร่ครับ
รูปประจำตัวสมาชิก
ตู่มอ'ไซค์
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1058
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.ค. 2013, 20:58
Tel: 0894260738
team: RC MTB
Bike: TREK GIANT

Re: จุดเดือดนํ้ามันเบรค

โพสต์ โดย ตู่มอ'ไซค์ »

mookpa เขียน:คืออยากทราบว่าถ้าเป็น mineral oil ที่ใช้กับดิสเบรค shimano มันมีจุดเดือดต่างจาก นํ้ามันเบรค dot. ของ hope หรือ avid มันจะมีจุดเดือดต่างกันมากมั้ย ตัวไหนเหมาะกับการใช้งานแบบใด เพราะถ้าลงเขาแล้วเบรคมากๆตัวไหนจะทนความร้อนจนเดือดได้มากกว่ากันครับ เห็นพวก dot 5.1ของavid จะบอกอยู่ที่ 191°C ถึง270°C แต่ไม่รู้ว่าพวก mineral oilอยู่ที่เท่าไหร่ครับ
อยากรู้ตรงนี้เหมือนกันครับว่า mineral oil ต่างกับ dot มากมั้ย
รูปประจำตัวสมาชิก
ngoa
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1512
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ส.ค. 2012, 02:13

Re: จุดเดือดนํ้ามันเบรค

โพสต์ โดย ngoa »

น้ำมัน dot จุดเดือดสูงกว่าอยู่แล้วครับ เบรคก็ควรเลือกให้เหมาะสมกับเส้นทางที่ใช้
ใช้งานXCทั่วไป mineral oil ก็เหลือเฟือแล้ว เพราะมันก็มีข้อดีserviceง่าย ไม่กัดสีเบรคสีรถเหมือนน้ำมัน dot
หากใช้พวกลงเขาโหดๆ ใช้เบรคเยอะๆ พวกเบรคสำหรับ DH ส่วนใหญ่เป็นน้ำมัน Dot ทั้งนั้น
รูปประจำตัวสมาชิก
ตู่มอ'ไซค์
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1058
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.ค. 2013, 20:58
Tel: 0894260738
team: RC MTB
Bike: TREK GIANT

Re: จุดเดือดนํ้ามันเบรค

โพสต์ โดย ตู่มอ'ไซค์ »

ngoa เขียน:น้ำมัน dot จุดเดือดสูงกว่าอยู่แล้วครับ เบรคก็ควรเลือกให้เหมาะสมกับเส้นทางที่ใช้
ใช้งานXCทั่วไป mineral oil ก็เหลือเฟือแล้ว เพราะมันก็มีข้อดีserviceง่าย ไม่กัดสีเบรคสีรถเหมือนน้ำมัน dot
หากใช้พวกลงเขาโหดๆ ใช้เบรคเยอะๆ พวกเบรคสำหรับ DH ส่วนใหญ่เป็นน้ำมัน Dot ทั้งนั้น
ขอบคุณครับ
รูปประจำตัวสมาชิก
zefer111
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1217
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ส.ค. 2009, 23:32
ติดต่อ:

Re: จุดเดือดนํ้ามันเบรค

โพสต์ โดย zefer111 »

DOT 3:จุดเดือดประมาณ 205 °C
DOT 4:จุดเดือดประมาณ 230 °C
DOT 5.1:จุดเดือดประมาณ 260 °C

Mineral oil:จุดเดือดประมาณ 190° C

แต่ละค่ายเบรคใช้น้ำมันเบรคดังนี้ครับ
Avid Juicy 3: DOT 4;
Avid Juicy 5, 7, Ultimate, Carbon: DOT 5.1
Formula: DOT 4
Magura: Mineral oil
Shimano: Mineral oil
Endurance & Durable !!!~~
รูปประจำตัวสมาชิก
freedom_plus
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 610
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 มี.ค. 2012, 13:56
Tel: 088-2367624
Bike: ตราจระเข้

Re: จุดเดือดนํ้ามันเบรค

โพสต์ โดย freedom_plus »

ทาง xc ลงเขาไม่โหดมากๆ mineral oil เอาอยู่ครับ :D
รูปประจำตัวสมาชิก
mookpa
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 161
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2013, 19:46
team: กายสิทธิ์
Bike: ขับเคลื่อน ล้อหลัง 11 สปีด

Re: จุดเดือดนํ้ามันเบรค

โพสต์ โดย mookpa »

ขอบคุณครับไปหามาจากไหนเนี่ย :mrgreen: ถ้าตามนั้นก็สบายใจหน่อย 190 องศา c น่าจะพอถ้าเบรคกันถี่ๆช่วงลงเขายาวๆ 2-3กิโลเมตร
รูปประจำตัวสมาชิก
demolisher
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 6663
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ก.ย. 2009, 14:38
Bike: Cannondale, Trek, Gary Fisher

Re: จุดเดือดนํ้ามันเบรค

โพสต์ โดย demolisher »

อันที่จริงผมก็เกี่ยวข้องกับพวกน้ำมันเบรกสำหรับรถยนต์มาประมาณ 30 ปีได้เหมือนกันนะ พอมาเล่นจักรยานก็อาศัยอ่านแล้วก็เชื่อๆ ไปแบบนั้น จนเมื่อมีกระทู้นี้ก็เลยลองศึกษาดูใหม่ซิ จาก

http://en.wikipedia.org/wiki/Brake_flui ... C_DOT_2.29


จากความทรงจำส่วนตัว เรื่อง DOT (= Department of Transportation ของ USA) นี้น่าจะมีพูดถึงกันในวงการรถยนต์ทั่วไปบ้านเราเมื่อซักสิบกว่าปีหลังมานี้เองมั้งครับจากที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีพูดถึงกันเลย จากการโหมประชาสัมพันธ์ของผู้จำหน่ายอะไหล่เบรกเจ้าหนึ่งตรงข้ามสนามศุภฯ ตอนนี้ไม่รู้ยังอยู่ที่นั่นหรือเปล่านะแต่บริษัทนี้น่าจะยังอยู่และสินค้าตัวเก่งที่เขาเน้นขายตอนนั้นตอนนี้ก็ยังมีขายอยู่ เจ้านี้เอาเรื่อง “จุดเดือดชึ้น” มาขายอ้างว่ายิ่งสูงยิ่งดีแต่ไม่ยอมบอกจุดเสียใดๆ จนลูกค้าเสียหายกันไปเยอะแหละ...มันกัดชิ้นส่วนในชุดเบรกซะจนแย่เลย (จะเห็นว่าเดี๋ยวนี้ไม่น่าจะมีใครกล้าโม้ขาย DOT5 กับรถยนต์บ้านแล้วนะ) ส่วนผ้าเบรกยี่ห้อที่เขาเน้นขายนี้ก็เหมือนกัน...ล่อซะจานเบรกกร่อน-เจ๊งก่อนเวลาอันควรกันทั้งนั้น บางรุ่นบางคันถึงขนาดลากลูกหมากปีกนกลงนรกไปเลย อู่หรือศูนย์ฯ ก็เพียรหาสาเหตุจนหัวผุเองละกัน ประมาณคือสักแต่อ้างว่า "ของคุณภาพแข่งขันย่อมดีกว่าของติดรถและเหมาะกับทุกคน" !? :twisted: :twisted: :twisted: :twisted: :twisted: ที่สำคัญคือ "เบรก" เนี่ยเป็นเรื่องความเป็นความตาย...ต้องให้จี๊ดที่สุด อะไรเงียะครับ เราส่วนใหญ่ก็มักรู้สึกเห็นด้วยอย่างนั้นจริงๆ เช่น ช่วงล่างรถแข่งดีกว่า ท่อไอเสียรถแข่งดีกว่า...แรงด้วยประหยัดด้วย !? พวกมาลัยรถแข่งดีกว่า เบาะรถแข่งดีกว่า...กรูง่วงนอนอยากจะเอนนอนขึ้นมาล่ะก็ลำบากเรยพวก bucket seat 5 5 5 5 ยางหน้ากว้างเกาะถนนกวา ยางแก้มแคบเข้าโค้งดีกว่า ฯลฯ จริงที่ไหน (จริงแบบมีเงื่อนไขและมีผลเสียมากมาย) ส่วนผมเรียกว่าเป็นการขายของโดยอ้างเรื่องไม่จริงโดยเฉพาะทำให้ผู้ซื้อเกิดความกลัว (เกินกว่าเหตุ ?) ซึ่ง...ผมอายุขนาดนี้แล้วเนาะ...เห็นผู้คนค้าขายกันมามากมายหลายเทคนิค ...ดีก็มากแย่ๆ ก็มี ...ไม่ค่อยชอบวิธีการขายแบบนี้ซักเท่าไหร่อะ


เกี่ยวกับเรื่อง Mineral หรือ Synthetic ?
เรื่องเกี่ยวกับน้ำมันเบรกใน wikipedia ไม่เห็นพูดเรื่อง mineral หรือ synthetic เลยง่ะ มีแต่แบบ glycol-ether ที่เป็นพวก DOT3 DOT4 หรือ DOT5.1 ส่วน DOT5 จะเป็น silicone ซึ่งไม่ค่อยอมความชื้นจึงไม่ต้องคอยเปลี่ยนน้ำมันเบรกทุก 1-2 ปี (DOT5 มีใช้ในเบรกบางยี่ห้อ เราไม่จำเป็นต้องไปดิ้นรนหามาใช้ถ้าหากว่าเบรกของเราไม่ได้กำหนดให้ใช้ และเนื่องจากน้ำมันเบรก silicone หรือพวก DOT5 กัดชิ้นส่วนเบรกโดยเฉพาะพวกยางต่างๆ เก่งชะมัด) ผมเองสงสัยจังเลยว่าคนแรกที่แยกด้วยเกณฑ์ mineral vs synthetic นี้ในวงการจักรยานเค้าไปเอามาจากไหนอะครับ ? แล้วต่อๆ มาพวกเราก็มักจะ copy & paste (ผ่านตา...แต่คิดก่อนส่งหรือเปล่าก็ไม่รู้) ต่อๆ กันลุกลามไปหมดแล้วด้วย ! ซึ่งผมเองก็จำได้อยู่แล้วว่าไม่ว่าจะน้ำมันเบรกจากสารตั้งต้นแบบไหนถ้าเทียบตามเกณฑ์ของ DOT (Department of Transportaion) ก็ต้องมีการกำหนดเรื่องของจุดเดือดทั้งยามแห้งและยามอิ่มชื้นทั้งนั้นนี่ (ช่วงผมคิดว่ามีแบบ mineral ผมก็ยังคิดว่ามันก็ต้องมี DOT เหมือนกันแต่ยังไม่ได้ไปค้นดู เพิ่งค้นดูนี่แหละถึงรู้ว่าเข้าใจถูกว่า DOT เป็นเกณฑ์พื้นฐานสำหรับน้ำมันเบรกทุกชนิดแต่ที่รู้เพิ่มคือมันไม่มีแยกเป็น mineral นี่หว่า) ซึ่งเมื่อเราไปดูข้างขวดน้ำมันเบรกถ้ายี่ห้อนั้นเอาไปเทียบกับ DOT ก็ต้องมีระดับของ DOT ตามเกณฑ์ จะไปเทียบกับ SAE (= Society of Automotive Engineers) ก็ต้องมีตามเกณฑ์ของ SAE ส่วนอย่างของ Shell อาจจะมีเกณฑ์ของตัวเองก็อาจจะไม่สนใจระบบ DOT ก็ได้ (ใครอยากรู้ว่าของ Shell เบอร์นี้ หรือของ Mercedes Benz หรือของ Volkswagen เบอร์นี้เทียบเท่ากับ DOT เท่าไหร่ก็ต้องไปหาข้อมูลเทียบเอาเอง เป็นต้น) สรุปคือ น้ำมันเบรกยี่ห้ออะไรก็แล้วแต่ที่หากจะใช้ข้อกำหนดจุดเดือดชื้นตามเกณฑ์ของ DOT ก็ต้องระบุเบอร์ DOT ครับ โดยไม่เกี่ยวกับว่าน้ำมันเบรกนั้นจะผลิตด้วยสารตั้งต้นอะไร ดังนั้น จุดเดือดชื้นและแห้งของ Shimano หรือของ SRAM ต่างก็มีคุณสมบัติเทียบเท่ากับ DOT ซักเบอร์เช่นกัน เพียงแต่ยี่ห้อนั้นๆ จะระบุไว้ข้างขวดหรือเปล่าเท่านั้น

และที่บอกว่า mineral ไม่กัดสีส่วน synthetic จะกัดสี ? จำเอามาเล่าเหมือนกันล่ะมั้งครับ เพราะตั้งแต่ไหนแต่ไรมาน้ำมันเบรกล้วนกัดสีทั้งนั้นเนาะ เว้นเฉพาะรุ่นที่เขาบอกว่า “ไม่” กัดสีซึ่งน่าจะมีน้อยยยยรุ่นมากๆ นะ ผมเคยเจอเมื่อนานมาแล้วและไม่ได้สนใจนัก ตอนผมเด็กๆ ยังคิดว่าจะเอาน้ำมันเบรกไปแกล้งรถของคนที่เราไม่ชอบหน้าก็ยังมี...สมัยก่อนนี่คำว่า synthetic ยังไม่ถือกำเนิดเลยนะครับ ดังนั้น ถือว่าไม่มีน้ำมันเบรกที่ไม่กัดสีละกันครับหรือไม่งั้นก็ระบุไปเลยง่ายกว่าว่ายี่ห้อไหนที่ไม่กัดสี (ซึ่งก็ไม่เกี่ยวกับ synthetic หรือไม่ด้วยเนาะ)

ที่บอกว่าน้ำมันเบรก DOT กัดลูกยาง ตามที่ผมสาธยายข้างต้น ไม่เกี่ยวกับ DOT กระมังครับ เป็นเรื่องของเบรกยี่ห้อนั้นๆ หรือรุ่นนั้นๆ หรืออันนั้นๆ ล้วนๆ ครับ ส่วนน้ำมันเบรกยี่ห้อไหนจะระบุข้างขวดว่า mineral หรือ synthetic ก็เพื่อการตลาดของยี่ห้อนั้นๆ ไม่เกี่ยวกับ DOT กระมังครับเพียงแต่ต่างไม่ค่อยยอมให้ใช้ข้ามยี่ห้อกันซึ่งก็เนื่องจากคุณสมบัติของชุดอุปกรณ์ภายในที่เลือกวัสดุมาต่างกันเป็นสำคัญก็ได้ครับ


เกี่ยวกับ DOT
ถ้าเราเป็นนักปั่นทั่วไปหรืออะไรก็ตามที่ไม่ใช่เพื่อการแข่งขันเอาเป็นเอาตาย เราก็อาจจะไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายที่เขาสร้างเบรก “สำหรับแข่งขัน” มาให้ ซึ่งความจำเป็นจะต้องใช้เบรกที่ต้องใช้น้ำมันเบรก DOT สูงๆ ก็ไม่ค่อยมี หรือแม้แต่จะลงเขาชันๆ ถ้าเลือกใช้จานเบรกขนาดเพียงพอเหมาะสมและสภาพน้ำมันเบรกยังดีอยู่ความจำเป็นจะใช้เบรกรุ่นที่ใช้น้ำมันเบรก DOT สูงๆ ก็ไม่ค่อยมีเหมือนกัน และบ่อยครั้งที่ก่อนน้ำมันเบรก (สภาพดี) จะเดือด หน้าผ้าเบรกก็คงจะกระจุยไปก่อนแล้ว หรือเราน่าจะได้กลิ่นผ้าเบรกไหม้-หรือจานเบรกมีร่องรอยผิวไหม้ไปก่อนแล้ว จนนู่น...ผ้าเบรกไหม้เหม็นตลบแล้วเราไม่สังเกต...ตอนนี้ก็วัดดวงกันแล้วล่ะว่าหน้าผ้าเบรกจะไปก่อนน้ำมันเบรกหรือน้ำมันเบรกจะไปก่อน ซึ่งไม่ว่าอะไรจะไปก่อน...รู้ตัวก่อนได้ไหมล่ะ ? ผมว่าท่านที่ระมัดระวังคัดสรรเลือกใช้กันละเอียดขนาดนี้ไม่น่าจะมีใครพลาดไม่รู้ตัวเลยว่าใช้งานเกินสมรรถนะของเบรกแล้วนะครับ

และผ้าเบรกสำหรับแข่งขันที่เนื้อแข็งมากหน่อย แม้ระบบไม่รั่วซึมหรือมีชำรุดอะไรเราก็อาจจะได้ยินเสียงครวญครางยามเมื่อผ้าเบรกยังเย็นอยู่ กับมีอาการคล้ายเบรกลื่นๆ ด้วย พอหน้าผ้าเบรกเริ่มร้อนเสียงนี้ก็มักจะหายไปได้เองพร้อมกับเบรกได้ดีขึ้นโดยที่เราไม่จำเป็นต้องไปดิ้นรนแก้ไขอะไรครับ เว้นแต่ถ้าทนไม่ไหวถ้าไม่ลองวิธีที่พากันแนะนำมาก็น่าจะเปลี่ยนไปใช้ผ้าเบรกรุ่นที่เนื้อนิ่มหน่อย (ของ XT หรือ XTR น่าจะใช้พวกที่ไม่มีครีบอะครับ)


ความเห็นส่วนตัว
ถ้าเอา “จำเป็นและเพียงพอ” ผมว่าเบรกมาตรฐานติดรถไม่ว่าจะใช้น้ำมันเบรก DOT อะไร (ไม่เกี่ยวกับ mineral หรือ synthetic ด้วยนะเพราะ...เขาว่าในโลกนี้วันนี้เขาไม่ได้แยกกันแบบที่ว่านี้นี่นะ) ก็ไม่น่าจะมีอะไรต้องกังวลอยู่แล้วนะครับ จนเมื่อไม่พอ เช่น ขยันไปเขาสูงชันบ่อยจัง เจอทางชันบางแบบก็มีเหม็นไหม้แล้ว ซึ่งถ้าเป็นแบบประมาณนี้...เริ่มจากการใช้จานเบรกใหญ่ขึ้นซักเบอร์นึงดีกว่ามั้ย ? เพราะถึงน้ำมันเบรกของเราจะทนร้อนได้สูงกว่าแต่ถ้าเราใช้จานเบรกที่เล็กมันก็จะเกิดความร้อนเร็วกว่าจานเบรกที่ใหญ่ ไม่ช้า-ไม่ผ้าเบรกไปก็จานเบรกไป ไม่ผ้าเบรกไหม้ก็อาจลามไปจนจานเบรกไหม้ หน้าผ้าเบรกอาจจะกระจุยเป็นผุยผงร่อนเป็นคุ๊กกี้ร่วนหรือจานอาจจะถึงกับคดโดยที่น้ำมันเบรกยังไม่เดือดเลยก็ได้ ส่วนท่านที่ใช้ DOT สูงแล้วจะมาคิดว่ามันจะไม่เดือดหรือปลอดภัยกว่าก็คงไม่ได้เพราะเมื่อระบบมันร้อน-จะ DOT อะไรมันก็ตั้งท่าจะเดือดแหละ แค่ช้ากว่านิดเดียวเอง หรือสังวรณ์ไว้แบบนี้ก็ได้ว่าพวก DOT4 ที่ชื้นมีจุดเดือดต่ำกว่า DOT3 ที่แห้งนะจ๊ะ...ของเราเป็นสภาพไหนอยู่รู้แน่นอนหรือเปล่า ประมาณถ้า DOT4 ไม่เดือดตอนนั้น (ชื้นๆ 155 องศาเซียส) แม้ใช้เบรกรุ่น DOT3 (แห้งก็ 205 องศาเซลเซียสแต่ถ้าชื้นก็ 140 องศาเซลเซียส) ก็ไม่แน่ว่าจะเดือด เป็นต้น

อีกอย่าง ผมว่านักปั่นอย่างเราๆ น่าจะไม่ค่อยเจอปัญหาน้ำมันเบรกเดือดนะไม่ว่าจะเบรกยี่ห้ออะไรรุ่นไหน มีแหละที่ระบบเบรกมีฟองอากาศซึ่งก็มักจะไม่ใช่เพราะเดือดนะ...มักจะมีรั่วซึมมากกว่า ซึ่งไม่ว่าจะอย่างไรถ้าเบรกยี่ห้อนั้นๆ กำหนดให้ใช้น้ำมันเบรกอะไรก็คงต้องใช้แบบนี้หรือเบอร์นั้นๆ (เบอร์มากกว่าไปเติมผสมกับเบรกรุ่นที่ใช้น้ำมันเบรกเบอร์ต่ำกว่าได้แต่น้ำมันเบรก DOT ต่ำกว่าจะเอาไปใส่กับเบรกที่ใช้ DOT สูงกว่าที่มีน้ำมันเบรก DOT สูงกว่านั้นค้างอยู่ในระบบไม่ได้) โดยเราไม่จำเป็นต้องเลือกรุ่นเบรกที่ใช้ DOT สูงๆ หรอกเว้นแต่ชอบหรือพอใจเป็นการส่วนตัว และแน่ๆ คือไม่เกี่ยวกับว่าเบรก XTR ที่ใช้น้ำมันเบรก Shimano จะมีจุดเดือดชื้นต่ำกว่าเพราะผมเข้าใจว่า Shimano ไม่ได้บอกจุดเดือดชื้นของตัวเองไว้ด้วยซ้ำ...มีแต่คู่แข่งเอาไปโจมตีซะเสียหาย หรือถึงจะใช้แค่ DOT3 (ผมสมมติให้ต่ำๆ ไว้เพื่อเปรียบเปรยเฉยๆ เท่านั้นนะครับ) แต่เขาก็เอาไปใช้แข่งได้ดีเพียงพอนี่นา...มันจะมีปัญหาเพราะน้ำมันเบรกประเภทไหนหรือ DOT อะไรหรอ ?
แก้ไขล่าสุดโดย demolisher เมื่อ 21 ก.ย. 2013, 18:42, แก้ไขแล้ว 3 ครั้ง
รูปประจำตัวสมาชิก
sakda2503
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 157
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 มิ.ย. 2013, 12:28
Tel: 0806730007
team: อิสระ เชียงใหม่
Bike: เก่ามากเกียร์ดิโอเร
ตำแหน่ง: สำนักชลประทานที่1ถนนทุ่งโฮเต็ล ต.วัดเกตุ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50000

Re: จุดเดือดนํ้ามันเบรค

โพสต์ โดย sakda2503 »

อ่านแล้วซึ้งเลย
รูปประจำตัวสมาชิก
mookpa
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 161
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2013, 19:46
team: กายสิทธิ์
Bike: ขับเคลื่อน ล้อหลัง 11 สปีด

Re: จุดเดือดนํ้ามันเบรค

โพสต์ โดย mookpa »

อ่านแล้วก็คือที่ใช้อยู่เพียงพอ (mineral oil) ต่อการใช้งานแล้วใช่มั้ยครับ ไม่พอก็เปลี่ยนใบดิสให้ใหญ่ขึ้น :mrgreen: :mrgreen: :mrgreen: ขอบคุณคร้าบบบ
รูปประจำตัวสมาชิก
sakda2503
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 157
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 มิ.ย. 2013, 12:28
Tel: 0806730007
team: อิสระ เชียงใหม่
Bike: เก่ามากเกียร์ดิโอเร
ตำแหน่ง: สำนักชลประทานที่1ถนนทุ่งโฮเต็ล ต.วัดเกตุ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50000

Re: จุดเดือดนํ้ามันเบรค

โพสต์ โดย sakda2503 »

ไปอ่านเจอคนใช้น้ำมันพืช ก็มี น้ำมันมะกอกก็มี เห็นคนขี่ยังปกติดีอยู่ แต่ผมไม่มีรถดิส กำลังได้เฟรมมาคันนี้จะลองดิสดูมั่ง
ตอบกลับ

กลับไปยัง “อุปกรณ์จักรยานทั่วไป (MTB)”