เพื่อนชวนเพื่อนปั่น(3) ตอน อ.วงศ์ ชวนปั่นไปไหว้พระธาตุแก้บน

[TigerSmile'Hy]

เรื่องของเรื่องมันมีอยู่ว่า ... เมื่อ 25 พค. 2552 ที่สนามแข่ง"ป่าบอนวิ่งมินิ-ฮาล์ฟมาราธอน" ครั้งที่ 2 ... ได้มีโอกาสได้พบปะพูดคุยกับ อ.วงษ์ฯ จาก อ.สะเดา เรื่องการวิ่ง การปั่นจักรยาน ... จากการพูดคุยวันนั้นมาก็คืบหน้าไปสู่การปฎิบัติจริงๆ (ไม่ได้เอาแค่พุดเพื่อให้มันดูดี) จึงเป็นที่มาของทริป"เพื่อนชวนเพื่อนปั่น (3)" ตอน อ.วงษ์ฯ ชวนปั่นไป แก้บน .. เมื่อ 4-8 กค. 2552

ขออนุญาตทบทวนกันหน่อยกับตอนก่อนๆ กับเรื่องราว 6 ตอนที่ผ่านมา...

- เพื่อนชวนเพื่อนปั่น (1) มาเล่าสู่กันฟัง... ปลายทางที่ชุมพร
- เพื่อนชวนเพื่อนปั่น (2) ตอน หาดใหญ่-สตูล-เกาะลันตา-ตรัง-หาดใหญ่
- เพื่อนชวนเพื่อนปั่น (3) ตอน อ.วงศ์ ชวนปั่นไปไหว้พระธาตุแก้บน
- เพื่อนชวนเพื่อนปั่น (4) ตอน ชวนเพื่อนเก่าไปชมเมืองเก่า-อโยธยา
- เพื่อนชวนเพื่อนปั่น (5) ตอน อะเมซิ่งริมโขง เชียงคาน-โขงเจียม
- เพื่อนชวนเพื่อนปั่น (6) ตอน ย้อนรอย"ชุมพร-ระนอง...หาดใหญ่

6 โมงเช้า ของวันที่ 4 กค. 52 อ.วงษ์, อาป้อม, อาปู และ เฮียจ๋าย 4 ท่านได้เริ่มปั่นออกจาก อ.สะเดา ... ประมาณ 10 โมงก็มาถึงปั๊มเชลล์ หน้าค่ายเสนาณรงค์ อ.หาดใหญ่ ... ผมและ"โกยาวกระบี่" เข้าสมทบร่วมปั่นฯ รวม 6 คน เป้าหมายคือไหว้พระมหาธาตูฯ เมืองนครศรีธรรมราช... เสร็จภารกิจแล้วปั่นต่อไปพักผ่อนที่"บ้านคีรีวง" อ.ลานสะกา จ.นครศรีธรรมราช, บ้านทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ... คณะของ อ.วงษ์ได้กลับถึง อ.สะเดา จ.สงขลา เวลา 23.23 น. ของวันที่ 8 กค. 2552

... เป็นอีกครั้งหนึ่งที่"อิสรภาพบนหลังอาน" ได้นำพาผู้มีใจรักการออกกำลังกาย รักการท่องเที่ยวที่มีอิสระ มาพบกัน ทำกิจกรรมร่วมกัน... จนจบด้วยความสุข ความอิ่มเอมและความมีน้ำใจที่มอบให้แก่กัน ยังมีเรื่องราวของการเดินทางที่รอการเรียบเรียงอีกมากที่จะมาเล่าสู่กันฟัง ... ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาตั้งแต่ต้นครับ

แผนที่เส้นทางการปั่น
- วันที่ 4 กค. slideshow
- วันที่ 5 กค. slideshow
- วันที่ 6 กค. slideshow
- วันที่ 7 กค. slideshow
- วันที่ 8 กค. slideshow

[TigerSmile'Hy]

... ราว 9 โมง 45 ผมและโกยาวกระบี่ ไปรอพบคณะของ อ.วงษ์ จาก อ.สะเดา ที่บริเวณปั๊มเชล หน้าค่ายเสนาณรงค์ ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่... เมื่อเจอกันแล้วทำธุระส่วนตัวกันเล็กน้อยก็ออกเดินทางไปตามถนนกาญจนวนิช หรือทางหลวงหมายเลข 407 จนถึงห้าแยกน้ำกระจาย เราแยกซ้ายตามทางหลวงหมายเลข 408 วึ่งจะเป็นเส้นทางหลักตลอดวันนี้ ...

[TigerSmile'Hy]

... ถึงหน้าสถาบันทักษิณคดีศึกษา เราจอดพักคลายร้อน กอร์ปกับมีคณะนักศึกษามาศึกษานอกสถานที่คณะหนึ่งจาก จ.ตรัง และมีรถไอติมตัก (ไอศครีมโบราณ) อบู่บริเวณนั้นพอดีเลย ... ไม่รอช้า "อาป้อม" จากทีม Border Bike จัดแจงถอดหมวก, ถุงมือฯ พร้อมสั่งไอติมตักตามจำนวนคน(พร้อมจ่ายตังค์) ... ที่เหลือคอยกินอย่างเดียว ไม่นานคณะนักศึกษาก็จากไปพร้อมกับรถไอติมตัก และสิ่งหนึ่งไปกับกับเขาด้วยคือ"หัวใจดวงน้อยๆ" ของอาป้อม ... อิอิอิ ม่ายช่ายที่คิกหรอกครับ... มันคือ"ถุงมือเต็มนิ้ว" ฟ๊อกป้ายแดง มันไปกับรถไอติมด้วยครับ ... ก็อิตอนถอดวาง ถอดวาง นะลืมดูว่าวางไว้บนรถไอติม แค่นั้นไม่พอดันวางไว้"ข้างเดียว" เหลืออีกข้างให้ช้ำใจเล่น

[TigerSmile'Hy]

เกือบบ่าย 2 โมง ... แวะไปเยี่ยมญาติของ อ.วงษ์ ที่เป็นเพื่อนครูด้วยกัน(คนหิ้วของฯ)... ที่บ้านดีหลวง สิงหนคร อ.วงษ์ คนเดียวที่รู้จักและเข้าไปเยี่ยม ส่วนพวกเราที่เหลือก็สาละวนอยู่กับผลไม้พื้นบ้าน ... "ลูกโหนด และ พร้าวอ่อน" (ลูกตาลโตนดและมะพร้าวอ่อน)

อ.วงษ์ บอกว่าเป็นเพื่อนครูตอนเรียน ป.โทฯ ... แต่ผมแกล้งอำว่าเป็นดาวช่วงเรียน ปกศ.สูง อ.วงษ์แกนั่งอมยิ้ม

[TigerSmile'Hy]

การเดินทางวันแรกเราจบกันที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลสาปสงขลา หรือที่รู้จักกันในชื่อ "อุทยานนกน้ำคูขุด" อ.สทิ้งพระ ประมาณ 4 โมงเย็น ... ผมเองได้ระยะทางราว 60 กม., อ.วงษ์และคณะ น่าจะได้ประมาณ 100 กม. เป้าหมายเราไม่ได้อยู่ที่นี่ ... แล้วทำไม?

[TigerSmile'Hy]

เหตุเพราะว่าเย็นนั้น ต้องแวะไปกินข้าวที่บ้าน"พ่อรูญ" คุณพ่อของน้อง"หนู" (คนยกตักข้าวในรูปบน) เป็นเพื่อนอาจารย์ด้วยกัน สอนที่เดียวกันกับ อ.วงษ์ ... อันที่จริงนัดหมายว่าต้องกินมื้อเที่ยง เมื่อมาถึงเย็นก็ต้องปรับเปลี่ยนเป็นมื้อเย็น กินเสร็จก็นเริ่ม "ชักนิทาน" หมายถึงการยกเรื่องราวหลายต่อหลายเรื่องมาสนทนากัน ยิ่งเรื่องราวของอดีต ความเป็นมาของชื่อชุมชนต่างๆ กอร์ปกับ อ.วงษ์ แกสนใจบันทึกเรื่องราวฯ ... "ติดลม" เลยครับ ... ผมเองก็เพิ่งเข้าใจคำว่า "ปราชญ์ชาวบ้าน"

ประวัติและตำนานท้องถิ่นที่เกี่ยวกับเรื่องโนราและการรำโนรา โรงครูวัดท่าคุระ คือ ตำนานโนรา ตำนานนางนวลทองสำลี ตำนานนางเลือดขาว ตำนานตายาย พราหมณ์จันทร์ ตำนานทวดลำลี ตำนานเจ้าแม่อยู่หัว ต่างบอกเล่าประวัติของโนราเหตุการณ์สำคัญที่เกี่ยวกับครูโนรา
ความสัมพันธ์ระหว่างตำนานโนราและตำนานอื่นๆ กับตำนานเจ้าแม่อยู่หัว อันเป็นที่มาของการรำโนราโรงครู วัดท่าคุระหรือที่เรียกว่า งานตายายย่าน ในเรื่องความเชื่อเกี่ยวกับโนราโรงครู ชาวบ้านเชื่อ่เรื่องครูหมอโนราไสยศาสตร์ การบนและการแก้บนครูหมอโนราและเจ้าแม่อยู่หัว การรักษาอาการป่วยไข้ การเหยียบเสน การเข้าทรงและร่างทรง ความขลังและความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธรูปเจ้าแม่อยุ่หัว วัดท่าคุระ ความเชื่อดังกล่าวเป็นความเชื่อระดับชาวบ้านที่มีการผสมผสานระหว่างความเชื่อในพระพุทธศาสนากับสิทธิพราหมณ์และความเชื่อดั้งเดิมหรือลัทธิผีสางเทวดา ส่วนพิธีกรรมหารการรำโนราโรงครู วัดท่าคุระ มีจุดมุ่งหมายสำคัญเพื่อเซ่นไหว้ครูหมอโนราและเจ้าแม่อยู่หัว รำโนราถวายแก้บนและประกอบพิธีอื่นๆ เช่น เหยียบเสน ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษ โดยจัดพิธีกรรมในวันพุธแรกของข้ามแรมเดือนหกของทุกปี เริ่มพิธีในวันพุธไปสิ้นสุดในสันพฤหัสบดี ขั้นตอนที่สำคัญของพืธีกรรม คือ ในวันแรกจะเริ่งด้วยการบวชแก้บน ทั้งบวชพระ บวชชี บวชชีพราหมณ์ พิธีอัญเชิญและทรงน้ำพระพุทธรูปเจ้าแม่อยู่หัว คณะโนราเข้าโรงทำพิธีเบิกโรงลงโรง กาศครู เชิญครู กราบครูโนราใหญ่ รำถวายครู การรำทั่วไปวันที่ ๒ เป็นการเซ่นไหว้ครูหมอโนราและเจ้าแม่อยู่หัว แก้บน รำโนราถวาย เหยียบเสน ส่งครูและทำพิธีตัดเหมรย สำหรับบทบทและหน้าที่ของโนราโรงครู วัดท่าคุระทีมีต่อวิถีชีชวิตของชาวบ้านนั้น โนราโรงครุมีบทบาทและหน้าที่ในการสร้างความเชื่อเรื่องครูหมอโนราความขลังและความศักดิ์สิทธิ์ของพิธีกรรมโนราโรงครู ความขลังและความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าแม่อยู่หัว การบนบานขอความช่วยเหลือและการรักษาอาการป่วยไข้ การควบคุมพฤติกรรมของบุคคลและสังคม การสร้างอาชีพและการสืบทอดการรรำโนรา การสร้างเอกภาพและสัมพันธภาพในสังคม จึงกล่าวได้ว่า โนราโรงครูวัดท่าคุระและความเชื่อเรื่องเจ้าแม่อยู่หัว มีบทบาทสำคัญต่อระบบความเชื่อ ความรู้สึกนึกคิดและวิถีของชาวบ้านท่าคุระและตำบลใกล้เคียงทั้งสามารถตอบสนองความต้องการและช่วยแก้ไขปัญหาพื้นฐานให้กับคนในสังคมทั้งด้านร่างกายและจิตใจจึงทำให้สามารถดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงในสังคมปัจจุบัน

เจ้าแม่อยู่หัววัดท่าคุระ
เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อยู่ในวัดท่าคุระ หมู่ที่ 9 ตำบลคลองรี ตามตำนานที่เล่าสืบต่อกันมาว่า ชาวบ้านได้พบเด็กหญิง ซึ่งเป็นลูกของเจ้าเมืองพัทลุงถูกลอยแพมา ได้นำมาเลี้ยงไว้เมื่อเจ้าเมืองพัทลุงทราบ จึงมาทำนุบำรุงวัดและมอบแผ่นทองคำใหญ่ไว้ ชาวบ้านได้ตัดเอาทองคำไปทำเครื่องประดับ และส่วนที่เหลืออยู่นำมาหล่อเป็นรูปชื่อ "เจ้าแม่อยู่หัว" ไว้ที่วัดนี้ ทุกเดือนหกของทุกปี จะมีการสมโภชใหญ่

- บทความพิเศษเกี่ยวกับ"รำโนราโรงครู" http://www.culture.go.th/knowledge/home ... A/1016.pdf
- ชมคลิบโนราโรงครู http://www.clipmass.com/movie/635802989140351

[TigerSmile'Hy]

เช้าวันที่ 5 กค. เราก็ต้องทานเช้าอีก 1 มื้อที่บ้านพ่อรูญ ... โดยมีน้อง"หนู"และแม่(จำชื่อไม่ได้) จัดการให้เรียบร้อย ... เหมือนเดิมครับกินเสร็จก็"เอ้อระเหย"... ครั้นผมจะบอกว่าวันนี้ระยะทางยังยาวไกล ก็เกรงใจเห็นคุยกันออกรส...



... ปั่นมาได้ระยะหนึ่งก็จอดตรง"รถลุน" หรือรถเข็นข้างทาง ... เจ้าของเป็นพี่ชายที่แสนดี "กินเลย...ตามบาย" หมายถึงการเชื้อเชิญให้เรากินน้ำตาลสดจากต้น ... แกพุดเสร็จก็เดินจากไปขึ้นตาลต้นอื่นต่อ...



... อาป้อม, อาปู ไม่รอช้า ปรี่เข้าไปเลือกสรรกระบอกที่หวานฉ่ำชื่นใจ ... ผมเพิ่งทราบว่าอาป้อม เตรียมการณ์มาเพื่อกินน้ำตาลสดโดยเฉพาะ โดยพก"หลอดดูด" มาเป็นการส่วนตัว ... ส่วนอาปู ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ "ยกซด" คือคำกริยาที่เหมาะสมและถูกต้องกาละเทศะมากที่สุด

[TigerSmile'Hy]

ขออภัย... หยุดพักอีกแล้วครับ ... จะเตรียมตัวไปวิ่งที่ อ.ปากพนัง ... ลุงซับเพิ่งโทรมาชวนฯ แล้วค่อยมาต่อครับ

[ลุง สมพล]

... อ.วงศ์ จะใช่ .. อ.สมวงศ์ มะโนมะยา หรือปล่าวครับ เป็นนักวิ่งมาตลอดหลายปีแล้ว เป็นนักเขียนประจำที่ หนังสือ "รันนิ่ง" .. เจอกันบ่อย ในสมัยที่ลงสนามวิ่ง(ท่านไม่รู้จักผมหรอก ... แฮะ แฮะ)

[TigerSmile'Hy]

... อ.วงศ์ จะใช่ .. อ.สมวงศ์ มะโนมะยา หรือปล่าวครับ เป็นนักวิ่งมาตลอดหลายปีแล้ว เป็นนักเขียนประจำที่ หนังสือ "รันนิ่ง" .. เจอกันบ่อย ในสมัยที่ลงสนามวิ่ง(ท่านไม่รู้จักผมหรอก ... แฮะ แฮะ)

ถุ-ถุ-ถุ-ถุ-ถุ....ต้องแล้วครับ อ.สมพล(ภูมิมาตร) เรื่องวิ่งหาตัวจับยาก ... แต่เรื่องปั่นฯ จนวันนี้ยังไม่ฟื้นเลยฮะ

... แล้วค่อยเจอกันที่พังงา 200 ปีนะครับ

[ลุง สมพล]

ผมตั้งใจว่า จะเจอกันที่หาดใหญ่เสียก่อน 26 กค.นี้ ครับ .......

[TigerSmile'Hy]

ผมตั้งใจว่า จะเจอกันที่หาดใหญ่เสียก่อน 26 กค.นี้ ครับ .......

มะ-มะ-มะ-มะ...ได้เจอครับ 25 กค. -7 สค. มีราชเกินต้องไปทำ ... ส่วน อ.วงศ์ สอบถามแล้วไปวิ่งที่ฉวางครับ...

[ลุงมร]

สุดหล่อเลยนะเสื้อยิ้ม555555 คงมี(4) ขอติดท้ายไปด้วย
ใช้หมอบทัวร์ริ่งเป็นอย่างไรบ้าง ดีกว่าเขาหรือเปล่า ถ้าดีผมจะลองบ้าง

[TigerSmile'Hy]

สุดหล่อเลยนะเสื้อยิ้ม555555 คงมี(4) ขอติดท้ายไปด้วย
ใช้หมอบทัวร์ริ่งเป็นอย่างไรบ้าง ดีกว่าเขาหรือเปล่า ถ้าดีผมจะลองบ้าง

หุหุหุ ไม่แตกต่าง ... ยามใดที่แรงหมด แทบหมดใจเช่นกัน





ดองเค็มไว้หลายวันมาต่อกันที่วัดพะโคะ (วัดราชประดิษฐาน) ตำนานที่กล่าวขานมานานควบคู่กับวิถีชาวพุทธ ตั้งอยู่บนเขาพะโคะหรือเขาพิพัทสิงห์ หมู่ที่ 6 ตำบลชุมพล อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา เป็นวัดที่มีความสำคัญทั้งทางประวัติศาสตร์โบราณคดี ศาสนา และเกี่ยวข้องกับตำนานหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด...

ข้อมูลเพิ่มเติม ที่ http://sk.nfe.go.th/sating/stplib/local ... ocal3.html

เราเข้าไปกราบสัการะขอพรพร้อมๆ กับพุทธศาสนิกชนอื่นๆ ที่หลั่งไหลมาไม่ขาดสาย ... ปกติช่วงเทศกาลสงกรานต์จะอัญเชิญรูปเหมือนหลวงพ่อทวดมาประดิษฐานกลางลานวัด เพื่อให้ผู้มีจิตรศัทธาสรงน้ำขอพร ผมเองและครอบครัวได้มีโอกาสไปสรงน้ำบ่อยครั้ง

[TigerSmile'Hy]

หลายๆ ครั้งที่ผมปั่นฯ ผ่าน"ไร่-นา-สวน" ผมมักถ่ายรูปมาไว้ดู ... ฝันไว้ว่าช่วงปลายของชีวิตจะมีกระท่อมเล็กๆ กลางสวนผสมที่มากด้วยนานาพันธ์พืช ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ...




เราแวะเข้าไปยังบ้านรัดปูน เยี่ยมญาติของอาป้อมและถือโอกาสเดินเท้าขึ้นชมทิวทัศน์บนยอกเขารัดปูนด้วย อันที่จริงสามารถปั่นจักรยานขึ้นไปได้ถึงแม้จะมีความชันค่อนข้างมาก แต่เราเลือกที่จะเดินเพราะคิดว่าสามารถสัมผัสธรรมชาติได้มากกว่า หากปั่นจักรยานบนเส้นทางที่ลาดเอียง เรามัวแต่พะวงเรื่องทาง จนพลาดโอกาสที่จะมองข้างทาง




... เคยได้ยินคำพังเพย "เข็นครกขึ้นเขา" แต่วันนี้ผมเห็นยายแกเข็นครกลงจากเขา มันเร็วจนยายกึ่งวิ่งกึ่งเดิน แถมยังพูดคุยทักทายพวกเรา ... แข็งแรงจริงๆ นะยาย ระยะทางเดินเท้าน่าจะประมาณ 800 เมตร เราก็ถึงส่วนยอดเขา





ข้างบนมี"วัดรัตนาราม" ที่มีพระเจดีย์โบราณซึ่งมีมาก่อนจะสร้างวัด ที่เห็นอยู่ทุกวันนี้พระเจดีย์โบราณ สร้างมาสมัยใหนไม่มีใครทราบถ้าดูตามโครงสร้างตามรูปลักษณะคิดว่าเป็นเจดีย์รูปแบบศรีวิชัย ในขณะนี้พระเจดีย์ได้ชำรุดทรุดโทรมมากตามกาลเวลา สังเกตว่าส่วนบนของยอดเจดีย์ เริ่มพังทลายจนเห็น"แกนไม้" ของยอดเจดีย์




มีการสร้างอาคารหลังใหม่มีโครงสร้างบางส่วนเป็นขวด(เบียร์) ซึ่งจะเจอก่อนถึงเจดีย์บนยอดเขา... คงสร้างมานานและอีกนานกว่าจะเสร็จ