ขอบคุณคุณหมอสุรีย์มากๆนะครับ ผมว่าเรื่องปั่นขึ้นดอยอินท์นี่ แค่คิดจะไปปั่น หรือไปครั้งแรกนี่ก็กล้าหาญชาญชัยมากๆแล้วนะครับ ขนาดผมปั่นมา8ปี ปั่นทางเรียบหรือเนินไม่สูงมานับไม่ถ้วน ขึ้นเขาไม่ชันมากมาก็หลายๆที่ หลายๆรอบ แต่มันคนละเรื่องเลยครับกะดอยอินท์ฯ ท่านมือใหม่ทั้งหลายที่กล้าไปขึ้นดอยอินท์ ผมก็นับถือสุดๆ แต่ถ้าไม่ไปเองก็ไม่รู้นะครับ และแน่นอนถึงจะเหนื่อย ทรมานแค่ใหน ก็สนุก และภูมิใจที่ได้ไปถึงยอดดอยได้ มันสนุกมากๆที่มีคนร่วมปั่นเยอะไปหมด มีทั้งเพื่อนเก่า เพื่อนใหม่ ดังนั้น ปีหน้าผมไปอีกแน่นอนครับ และเพื่อนๆ พี่ๆน้องๆที่อุบลฯก็จะมาด้วยอีกมากครับหมอสิงห์ เขียน:ยินดีที่ได้รู้จักพี่หมอเชวงค่ะ ขอแก้ข่าวนิดนึงค่ะ ปีที่แล้วน้องได้ที่5ในรุ่น50กิโลเมตรค่ะ แต่ปีก่อนน้องได้ที่2ในรุ่น16กิโลเมตรค่ะDr.chaweng เขียน:รอดตายกลับบ้านที่อุบลฯได้ละครับ ดีใจครับที่ได้ไปสัมผัส อย่างน้อยก็ครั้งหนึ่งในชีวิต แต่ไม่ยังงั้นซะแล้วครับ มันต้องมีแก้มือ เพราะว่าเท้าแตะพื้นตั้ง2ครั้ง!
1.ผลการปั่นดีกว่าที่คิด เวลารวมจับเอง 4:09ชั่วโมงจากเส้นstartที่หน้าวัดพระธาตุศรีจอมทอง ถึงยอดดอยน่าจะเกือบ50โล เข้าเส้นได้ลำดับ417 หมายเลขแข่งขันA007
2.ขอบคุณเจ้านายผมที่ไปเป็นเพื่อน ช่วยอำนวยความสะดวก เพราะเค้ามีเพื่อนที่เชียงใหม่เยอะ เสียดายที่ไม่ได้ตามเชียร์ เพราะไม่มีรถ
3.ขอขอบคุณสมาชิกชมรมอุบลรักษ์ฯ,สมาชิกชมรมอานนท์อุบล เพื่อนๆร่วมก๊วนทั้งไกล้และไกลที่ช่วยส่งเสริม ให้กำลังใจครับ
4.ขอบคุณคุณอู๊ดอุบลMTBikeที่ช่วยแพ็คจักรยานโหลดเครื่องบินได้อย่างเนี๊ยบ ปลอดภัย หายกังวลครับ
5.ขอบคุณคุณหมอยวน พญ.ประภาพร ลิ้มทอง อายุรแพทย์และFirst Lady(ภรรยาผอ.) โรงพยาบาลลำพูน คุณหมออ้อย ผอ.โรงพยาบาลแมคคอมิค เชียงใหม่ เพื่อนร่วมรุ่นแพทย์เชียงใหม่รุ่น20 ที่ช่วยกรุณามารับที่สนามบิน บริการรถตู้รับส่ง เลี้ยงข้าว พาไปsurveyเส้นทางก่อนปั่น(เครียดหนักกว่าเดิมเลยเรา) พาเจ้านายผมไปเลี้ยงรุ่นคืนวันศุกร์(แพทย์เชียงใหม่รุ่น20 ส่วนผมเป็นเขยครับ จบขอนแก่นรุ่น5มามั่วนิ่มกะเขา) คุณหมอยวนกะคุณหมอจิ๋มรุ่นน้องรังสีแพทย์ที่ลำปาง ยังแอบปั่นเล่นๆขึ้นดอยกัน2คน เริ่มจากที่ทำการอุทยาน ไปได้ตั้ง10กว่าโลครับ สุดยอด
6.เย็นวันศุกร์คุณหมอยวนเลี้ยงต้อนรับก๊วนทัวริ่งจากชลบุรี ที่แท้ก็เป็นผู่ใหญ่ฮง คุณชัยยะ กะเฮียเซียะของเรานั่นเอง และได้เจอตัวจริงเสียงจริงคือคุณหมอสิงห์ พญ.สุรีย์ขาแรง จากลำปางมาสมทบ คราวที่แล้วคุณหมอสิงห์ได้ลำดับ2ผู้หญิง ครั้งนี้จะมาแก้มือ ไปๆมาๆคุณหมอยวนเป็นคนแนะนำให้ปั่นจักรยาน แต่ตอนนี้คุณหมอสิงห์ไปไกลมากๆ แหมโลกกลมมากๆ นี่แหละ มิตรภาพไร้พรมแดนในหมู่นักจักรยานครับ
7.โทรศัพท์เช็คกะพี่บี้TOTสมาชิกอุบลรักษ์ว่าจะไปsurveyทางกัน ตกลงพี่บี้ไปคนเดียว เพราะผมไปกะทีมเจ้านาย แต่แกแน่จริงๆ ขับรถไปจากอุบลฯ ปั่นขึ้นดอยเสร็จ ขากลับขับคนเดียวตลอด สุดยอด นับถือหัวจิตหัวใจจริงๆครับ
8.checkinที่ทัชสตาร์ รีสอร์ท จอมทองบ่าย4โมงวันเสาร์ ประกอบจักรยาน test rideไปซื้อPowerbarแบบไทยๆคือช็อคโกแล็ต3แท่งที่เซเว่นปากทางขึ้นดอยอินท์ฯปั่นได้ซัก10โลกว่าๆ แล้วกลับมากินข้าวเย็นกะหมอยวนและก๊วนผู้ใหญ่ฮงที่โรงแรมราชพฤกษ์ เย็นวันเสาร์นั้นฝนตกปรอยๆ
9.เช้าอาทิตย์ที่3กุมภาฯตื่นตี5 กินข้าวเช้าแล้วปั่นย้อนลงที่จุดสตาร์ทที่หน้าวัดพระธาตุศรีจอมทองประมาณ10โล มาเจอพี่บี้คุยกันเล็กน้อย เจอน้องต้นทีมPCSขาแรง คุณมีศักดิ์แห่งBikenet ลุงนำชัยแห่งโปรไบค์ เจอคุณวีร์กะน้องๆนครนายก ขอขอบคุณน้องเต้ยณ.โปรไบค์ ที่ช่วยดูแลให้กำลังใจ และถ่ายรูปให้ ไปยืนข้างปีเตอร์แชมป์ปีที่แล้วกะมีรูปกะเค้าบ้างครับ
10.ปั่นออกจากจุดstart ล่อกันซะเร็ว35upไปได้ซัก10กิโล เจอพี่คมสัน ก๊วนโปรไบค์แลยได้บัดดี้ ปั่นตามกันมาตลอด คุมความเร็ว ไปแบบเรื่อยๆ ทางก็หินชันขึ้นไปเรื่อยๆ จำได้ว่ามีลงอยู่นิดนึง3เนิน นอกนั้นขึ้นตลอด เราก็ดืบๆไปเรื่อย ไม่อยากเร่งเพราะอีกไกลแถมสูงชันมากๆ ระหว่างทางเจอคุณชัย บ้านบึง ผู้ใหญ่ฮง ไม่เห็นคุณชัยยะ เฮียเซียะ
11.ดืบๆเป็นส่วนใหญ่ ใช้เกียร์34-28ประมาณ90% ไต่กันยาวๆความเร็ว4-6กม.ต่อชั่วโมง เข่นตลอด ปวดขาตึงมากๆ แต่ก็ไม่เร่งเพราะเดี๋ยวเดี้ยงครับ ปั่นลำบากมากๆเพราะความเร็วช้า และปั่นเป็นกลุ่มใหญ่ๆ บางช่วงเข่นแรงๆล้อหน้าถึงกะยกนึดนึงเกือบเสียหลักอยู่2ครั้ง
12.ก็ไม่รู้ปั่นกันไปได้ยังไง สงสัยเพื่อนเยอะ ไม่เห็นหมอสิงห์เลยเพราะอยู่หน้าผม คิดในใจเขาทำได้เราก็น่าจะทำได้(ไม่เจียม) มาทันและแซงหมอสิงห์ช่วงทางยาวก่อนถึงพระธาตุ ช่วงก่อนพระธาตุ มันช่างทรมานสุดๆ ที่ผ่านมาก็ใจจะขาดแล้ว ก็ทนดืบๆมาจนถึงหน้าทางขึ้นพระธาตุ แต่ต้องลงเพราะคันหน้าขาติดลงกระทันหันเราเลยต้องลงตามเกือบชนกัน
13.ได้พักขาซัก2-3นาที เห็นคุณหมอสิงห์ปั่นผ่านหน้าไป เลยจูงรถขึ้นไปทางพระธาตุ ตั้งลำแล้วปั่นไล่ไปต่อ เข่นไปได้อีกประมาณ5โลก่อนเข้าเส้น ปวดขามากๆทั้ง2ขา เหนื่อยไม่มาก แต่ขามันไม่ไปละ ความเร็วแค่4-5เหลือบมองอิจฉาเพื่อนๆเสือภูเขาที่เฟืองใหญ่ กะเสือหมอบที่ใส่เฟืองใหญ่มา32มั่ง34มั่ง ไม่ไหวละ ลงจูงเลยสิ ปรากฎว่าเดินทรมานพอๆหรือมากกว่าปั่น ตะคริวเริ่มมาละครับ พยายามจะตั้งลำปั่น3-4ครั้งไม่สำเร็จ มันชันมาก จะล้มเอา เลยจูงประมาฌโลกว่าๆ
14.จนมาถึงประมาณ3โลก่อนเข้าเส้น จึงมีทางราบพอได้ตั้งลำปั่นต่อได้แต่คราวนี้ตะคริวมาแบบเต็มขั้น ดีที่สลับซ้ายขวาพอปั่นได้ค่อยๆไต่เนินไม่ชันเข้าเส้นไปได้ครับ
15.เจอน้องต้นและน้องวิวแห่งโปรไบค์ที่เส้น ช่วยดูแล ถ่ายรูปให้ ไปรับรางวัล แบบขอลัดคิวไม่รับบนเวที แล้วมารอรถ6ล้อที่พาลง แต่ดูแล้วว่าคงอีกนาน และคิดในใจ อุตส่าห์ปั่นขึ้นแบบแสนสาหัส ลำบากแทบแย่ แล้วทำไมจะไม่ปั่นลง น้องต้นและน้องวิวแนะว่าอย่าเลย มันอันตราย แต่เห็นแววตาเราเค้าก็เอาหนังสือพิมพ์มายัดตัวให้ และน้องวิวให้ยืมเสื้อกั๊ก ฝากรางวัลไว้ที่น้องต้น แล้วก็"ดิ่ง"ลง อ้อก่อนลงคุณNobita ThaiMTBเดินเข้ามาทักทาย ไถ่ถาม ขอบพระคุณมากๆครับ
16.ช่วงลงหนาวสุดๆ สะท้านไปในหัวใจ ลงมาถึงพระธาตุต้องหยุดตาดแดด จนอุ่นได้ที่แล้วก็ดิ่งต่อ คลีตเท้าซ้ายก็ไม่ค่อยจับบันไดต้องย้ำตลอด สงสัยช่วงเดินมากๆจนคลีตสึก ลงมาได้ประมาณเกือบ20โล สวนพี่บี้กำลังจูงขึ้นมา ตามจริงตั้งแต่ลงมาก็สวนกับเสือปั่นกะเสือจูงจำนวนมากๆที่ทยอยขึ้นต่อ ก็ได้ทักทายให้กำลังใจ แต่ลงนี่ได้เสียวสุดๆ หนาวมากๆ กำเบรคตลอดจนมือแทบหงิก เปลี่ยนจับบนจับล่างก็ลำบาก ความเร็วmaxตอนลง71ครับ ต้องจอดระหว่างลง2ครั้ง เพื่อให้เบรคเย็น กลัวยางแตกครับ
17.ลงมาอีกซักพักสวนกับน้องเต้ยโปรไบค์นั่งมอร์ไซค์ถ่ายรูปขึ้นไป ซักพักน้องต้นPCSไล่มาคุยด้วย ได้ความว่าได้ลำดับที่25สุดยอดครับ แล้วน้องต้นก็แยกไปเพราะเขาลงแรงมากๆ ซักพักก็มีน้องหมอบ1คัน กับฝรั่งตัวสูงมากๆปั่นMTB ไล่ตามมาสมทบ เลยได้ลงมาด้วยกัน ผลัดกันไล่อยู่จนถึงทางแยกเข้าที่พัก กลับห้องแพ็ครถ อาบน้ำกลับเชียงใหม่ครับ
18.พักที่เอ็มโฮเต็ล ไปกาดวโรรส ซื้อของฝากนิดหน่อย หิวเพราะยังไม่กินข้าวเที่ยง แล้วพี่ป่อง และพี่เปิ้ล เจ้าพ่อ เจ้าแม่ที่เชียงใหม่ก็พาไปกินข้าวเย็น อาหารจีน อร่อยมากๆ แถมไฮเนเก้นคนละหนึ่งขวด ขอบพระคุณมากๆครับ กลับมาเดินถนนคนเดินจน2ทุ่มกว่าๆ กลับมาแพ็คของแล้วหลับเป็นตายจนเช้าตี5 ตื่นเดินทางกลับอุบลฯโดยสวัสดิภาพครับ
ประทับใจสุดๆครับ ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ ตามจริงเกินความคาดหวังไปมาก ขอขอบคุณทุกแรงใจ ทุกความช่วยเหลือให้ผมมาจนถึงจุดนี้ อย่างน้อยๆผมก็พอได้มีประสบการณ์ตรง ความรู้สึกจริงๆ มาเล่าสู่กันฟังบ้างครับ
รูปถ่ายช่วงปั่นคงต้องอาศัยเพื่อนๆที่ช่วยถ่าย แล้วผมจะพยายามรวบรวมมาแบ่งปันนะครับ
ยาวไปมากๆ แต่ก็อยากจะแชร์นะครับ
.....อ่านที่พี่เขียนแล้ว นึกภาพตามเป็นช้อตๆเลยค่ะ ตลอดทาง3กิโลสุดท้าย ข้างทางมีพี่ๆน้องๆเสือหมอบเข็นกันเยอะมาก ของน้องใช้30เกียร์ ยังอยากได้เกียร์เพิ่มเลยค่ะ อาศัยหมุนรอบขาไปเรื่อยๆ ไม่เร่ง ไม่อัด ต้องใจแข็งมากๆที่จะไม่ลง เพราะถ้าลงแล้วจะต้องเข็นอย่างเดียวเท่านั้น
....ตอนผ่านจากพระธาตุ มาถึงจุดให้น้ำ ตอนนั้นรถใหญ่เยอะมากๆค่ะ มีที่ให้ปั่นไปได้น้อยมาก น้องต้องเร่งความเร็วเพื่อจะได้แฃงรถคันนึงเพื่อจะได้ปั่นต่อ ปรากฏว่าตะคริวที่เริ่มมานิดๆตั้งแต่ก่อนขึ้นเนินพระธาตุ มันมาที่น่องฃ้ายอย่างเร็วเลยค่ะ ปวดมากๆ ต้องรีบปลดครีตและลงจากรถ โชคดีที่ทางช่วงนั้นมันราบนิดๆ เลยลงนวดน่องด้วยยาที่เตรียมมา และยืนยืดกล้ามเนื้อ มันก็ดีขึ้น ถ้าไม่ดีขึ้นต้องร้องไห้แน่ๆค่ะ เพราะอุตส่าห์ผ่านมาได้ขนาดนี้ และต้องขอบคุณพี่หรือน้องช่างภาพคนนึงค่ะ ใส่หมวกจักรยานสีขาว วิ่งมาช่วยและช่วยจับจักรยานและดันส่งให้ด้วยค่ะ
.....ปีหน้ามาพบกันใหม่นะคะ แต่สำหรับพี่หมอเชวง ปีแรกได้อย่างนี้ ปีหน้าไม่มีจูงแน่นอนค่ะ
ขอขอบพระคุณทุกๆท่านที่มีส่วนร่วมในการจัดงานครั้งนี้ครับ เจ้าหน้าที่ทุกๆท่านที่อำนวยความสะดวกระหว่างทาง เพื่อนๆที่ถ่ายรูปให้และtagส่งไปทางFB บริษัท ห้างร้าน โดยเฉพาะโปรไบค์ที่เป็นสปอนเซอร์ใหญ่นะครับ
ปีหน้าเจอกันอีกครับ