เห็นการบรรยายของทั้ง 2 ท่านแล้ว นึกถึงภาพของตัวเองเลยครับเสืออิฐ คนหลังอาน เขียน:...500 กม. แรกผมยังจำได้ดีครับ (แต่ไม่ละเอียด เพราะเหตุการณ์ ผ่านมาประมาณ 3 ปี กว่าๆ แล้ว )
...ตอนนั้นเพิ่งจะซื้อรถจักรยานมาใหม่ๆ จักรยานคันแรกที่ปั่นอย่างจริงจังของผมเป็น "เสือภูเขา" ค่าย Trek รุ่น 3900 ปี 2008 ครับ จะบอกให้ถูกต้องยิ่งขึ้นไปอีกก็คือ เป็นจักรยานคันแรก และคันเดียวที่ผมมีอยู่ ณ ตอนนี้ครับ
...ผมจำได้ว่าช่วงแรกที่ผมจับจักรยานอย่างจริงจังนั้น น้ำหนักตัวผมอยู่ประมาณ 94 กก. (สูง 182 ซม.) เสื้อผ้า,หน้า,ผม, กายแต่งกายสำหรับปั่น ก็แบบลูกทุ่งๆ ธรรมดาๆ จับอะไรมาได้ก็ ใส่ๆ ไป
...ที่ซื้อมาก็เพราะว่าต้องการใช้มันปั่นไปทำงาน (จากหอพัก - โรงงาน ระยะทางไป กลับโดย ประมาณ 14 กม.) และปั่นกลับบ้าน (ปราจีนบุรี - นครนายก ระยะทางประมาณ 65 กม.) รวมไปถึงปั่นท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ แปลกๆ ใหม่ๆ ครับ
...ช่วงแรกที่ผมปั่นจักรยานใหม่ๆ อุปกรณ์แต่งกายของผมมีเพียง หมวกกันน๊อค,กางเกงจักรยาน, ถุงมือเท่านั้นครับ เพราะว่าอย่างอื่นยังมองไม่เห็นประโยชน์ และยังไม่มีความรู้เรื่องจักรยาน (ซึ่งอย่างอื่นภายหลังก็ตามมาเองโดยอัตโนมัติ)
...ช่วงเริ่มต้น มีความรู้สึกว่า "เห่อของเล่นใหม่" เป็นอย่างมากครับ ออกปั่นจักรยานเล่น ไปตามสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะแดด จะฝน ก็ลุยอย่างเดียวครับ ตอนนั้นยังไม่มีเพื่อน ไม่มีกลุ่ม ก็ลุยไปคนเดียวครับ
...ความรู้สึกที่จะต้องเจอกันแทบทุกคน เมื่อต้องปั่นจักรยานไกลๆ ช่วงแรกๆ ก็คือ "เจ็บตูด" อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มีความรู้สึก เมื่อยขา, ปวดน่อง, เมื่อยคอ, ไหล ฯลฯ โอ๊ย เยอะแยะครับ (แต่ไม่ใช่ว่า อาการทั้งหมดจะหายไป เมื่อปั่นไปนานๆ นะครับ อาการเหล่านั้นก็ยังคงอยู่ แต่ร่างกายเรา เริ่มชิน เราก็ทนได้เองครับ)
...จากวันนั้น ถึงวันนี้ ผมสะสมระยะทางไปประมาณ 40,000 กว่า กม. (ที่รู้ระยะทางก็เพราะว่า ไมล์ velo 8 ตีกลับไปแล้ว 4 ครั้ง) สภาพร่างกายเปลี่ยนแปลงไป จนคนที่รู้จัก แต่ไม่เคยเห็นกันนานๆ พอมาเจอกันอีกที ตกใจ นึกว่า "ป่วย" เป็นโรคอะไร
...จากน้ำหนักตัว 94 ตอนนี้ก็อยู่ประมาณ 77 จะสวิงขึ้นลง อยู่ประมาณ 2 กก. การแต่งกายก็เหมือนๆ เค้าโดยทั่วไป (ก็บอกแล้วว่า เดี๋ยวมันก็มาเอง)
...หากจะปั่นเพื่อ "ลดน้ำหนัก" ผมเป็นกำลังใจให้ครับ ท่านพี่ "breeze"
+++ รออ่านท่านต่อไปครับ +++
บันทึกเสือมือใหม่ 500 ก.ม. แรกของคุณ (เชิญร่วมแชร์) - ถึงเวลาเปลี่ยนเฟืองหน้าจาก 2 ใบ เป็น 3 ใบ
- suwannasree
- ขาประจำ
- โพสต์: 722
- ลงทะเบียนเมื่อ: 01 พ.ค. 2009, 06:03
- Tel: 0933690777
- team: -
- Bike: KHS CARBON MSD 29
Re: บันทึกเสือมือใหม่ 500 กิโลเมตรแรกของคุณ (เชิญร่วมแชร์)
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 713
- ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2010, 16:22
- Tel: 08-9123-4xxx
- team: อกาลิโก
- Bike: Giant HL7400 ; Royal BUGATTI; The Frog;Turbo24"
- ตำแหน่ง: วัชรพล
- ติดต่อ:
Re: บันทึกเสือมือใหม่ 500 ก.ม. แรกของคุณ (เชิญร่วมแชร์) - Slow Life Touring เริ่มหน้า 19
ปล่อยมือ สู่โลกกว้าง (ตอน 8ขวบ)
ความทรงจำ ฝึกจักยานครั้งแรก พี่เขย ช่วยจับตะแกรงหลัง ประคองให้เราปั่น
พอปล่อยก็ล้ม เข่าเขียว ข้อศอกถลอก ได้ยินพี่เขย ตะโกนบอก กำเบรค เบรค
ตะเกียบหน้าคดนิดหน่อย เพราะไปชนกับเสารั้ว ผมกระโดด ทิ้งรถก็เลยรอดตัว
ทำไมมันขี่ไม่ได้ /ฝึกเกือบอาทิตย์ถึงขี่ได้ และออกถนนใหญ่ มันวิเศษมาก
มันบอกไม่ถูก มันดีใจ มันภูมิใจ มันส์สุดสุด
(พ่อน้องจ้า)
ความทรงจำ ฝึกจักยานครั้งแรก พี่เขย ช่วยจับตะแกรงหลัง ประคองให้เราปั่น
พอปล่อยก็ล้ม เข่าเขียว ข้อศอกถลอก ได้ยินพี่เขย ตะโกนบอก กำเบรค เบรค
ตะเกียบหน้าคดนิดหน่อย เพราะไปชนกับเสารั้ว ผมกระโดด ทิ้งรถก็เลยรอดตัว
ทำไมมันขี่ไม่ได้ /ฝึกเกือบอาทิตย์ถึงขี่ได้ และออกถนนใหญ่ มันวิเศษมาก
มันบอกไม่ถูก มันดีใจ มันภูมิใจ มันส์สุดสุด
(พ่อน้องจ้า)
"จักรยาน ช่วยซับเหงื่อโลก"
รสนิยม ชอบ รถเก่ามันเก๋าดี
คำพูดสำคัญ แต่ การกระทำสำคัญกว่า
การเมือง ศาสนา และรสนิยม งดแสดงความคิดเห็น
รสนิยม ชอบ รถเก่ามันเก๋าดี
คำพูดสำคัญ แต่ การกระทำสำคัญกว่า
การเมือง ศาสนา และรสนิยม งดแสดงความคิดเห็น
- breeze
- ขาประจำ
- โพสต์: 1892
- ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2011, 16:14
- Tel: 0849407000
- team: ยังไม่มีสังกัด แต่อยู่แถวพระราม 5 บางกรวย ครับ
- Bike: Dahon Archer P18 , Anchor CX900
Re: บันทึกเสือมือใหม่ 500 ก.ม. แรกของคุณ (เชิญร่วมแชร์) - Slow Life Touring เริ่มหน้า 19
บันทึกที่กิโลเมตรที่เท่าไร จำไม่ได้แล้ว แต่ว่าด้วยเรื่องของเทรนเนอร์
ตอนแรกผมไม่เคยมีความคิดจะซื้อเทรนเนอร์เลย เพราะคิดว่า ถนนก็มีจะไปเปลืองเงินกับเทรนเนอร์ทำไม
แต่หลังจากน้ำหนักไม่ลงเลย ไม่สามารถฝ่าแนวต้านที่ 86 กิโลกรัมไปได้
เลยต้องคิดหาวิธีใหม่ในการออกกำลังกาย เพราะปัญหาสำคัญคือ การออกกำลังกายน้อย ไม่สม่ำเสมอ
โดยช่วงหลังๆ ผมออกกำลังกายแค่ 2 วันต่อสัปดาห์ วันละ แค่ 30 กิโลเมตร จึงน่าจะน้อยเกินไปที่ทำให้น้ำหนักลดลง แต่ช่วยให้น้ำหนักคงตัว มากกว่า
ครั้นจะออกปั่นตอนเช้ามืดเหมือนช่วงแรกๆ ก็ไม่ไหว หลังจากรู้สภาพร่างกายตัวเองแล้วว่า ถ้าออกไปปั่นตอนเช้า เสี่ยงต่อการเป็นหวัด มาก ก็เลยงดไป
ไปๆ มาๆ เลยศึกษาเทรนเนอร์ แล้วก็คิดได้ว่า ของแบบนี้ ไม่ลองไม่รู้
ถ้ามันไม่เวิร์กจริงๆ ค่อย ขายทอดตลอดต่อไป
ตอนแรกผมไม่เคยมีความคิดจะซื้อเทรนเนอร์เลย เพราะคิดว่า ถนนก็มีจะไปเปลืองเงินกับเทรนเนอร์ทำไม
แต่หลังจากน้ำหนักไม่ลงเลย ไม่สามารถฝ่าแนวต้านที่ 86 กิโลกรัมไปได้
เลยต้องคิดหาวิธีใหม่ในการออกกำลังกาย เพราะปัญหาสำคัญคือ การออกกำลังกายน้อย ไม่สม่ำเสมอ
โดยช่วงหลังๆ ผมออกกำลังกายแค่ 2 วันต่อสัปดาห์ วันละ แค่ 30 กิโลเมตร จึงน่าจะน้อยเกินไปที่ทำให้น้ำหนักลดลง แต่ช่วยให้น้ำหนักคงตัว มากกว่า
ครั้นจะออกปั่นตอนเช้ามืดเหมือนช่วงแรกๆ ก็ไม่ไหว หลังจากรู้สภาพร่างกายตัวเองแล้วว่า ถ้าออกไปปั่นตอนเช้า เสี่ยงต่อการเป็นหวัด มาก ก็เลยงดไป
ไปๆ มาๆ เลยศึกษาเทรนเนอร์ แล้วก็คิดได้ว่า ของแบบนี้ ไม่ลองไม่รู้
ถ้ามันไม่เวิร์กจริงๆ ค่อย ขายทอดตลอดต่อไป
- ไฟล์แนบ
-
- P1010878.JPG (69.32 KiB) เข้าดูแล้ว 712 ครั้ง
- breeze
- ขาประจำ
- โพสต์: 1892
- ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2011, 16:14
- Tel: 0849407000
- team: ยังไม่มีสังกัด แต่อยู่แถวพระราม 5 บางกรวย ครับ
- Bike: Dahon Archer P18 , Anchor CX900
Re: บันทึกเสือมือใหม่ 500 ก.ม. แรกของคุณ (เชิญร่วมแชร์) - Slow Life Touring เริ่มหน้า 19
ผมจึงหาข้อมูล แต่ก็พลาดนิดหน่อยในเรื่องความร้อน
ผมเลือกตัว Minoura B60 เพราะเหตุสำคัญคือ สามารถนำมาทำ Adapter สำหรับล้อ 20 นิ้วได้
ตัว B60 เป็นเทรนเนอร์แบบแกนแม่เหล็ก ซึ่งบางคนบอกว่าไม่เหมือนปั่นบนถนนเท่าไร ไม่เท่าตัวที่ใช้ของเหลวสร้างความหนืด
แต่เท่าที่ผมปั่นมา ก็รู้สึกโอเค แถมสนุกด้วยซ้ำ (หลังจากได้ประสบการณ์ ฮา ฮา)
ประสบการณ์ ฮา ฮา ของผมคือ
เทรนเนอร์กินยาง
ตอนแรกก็ปั่นดู ก็พบเหมือนที่หลายๆ คนรู้สึกมั้ง คือ มันไม่ค่อยเหมือนปั่นบนถนนเลย แต่ก็ปั่นได้ ก็คงคิดว่า คงเป็นแบบนี้มั้ง
พอปั่นเสร็จ ลงมาดูปรากฎว่า ยางกระจาย เป็นฝุ่นเต็มพื้น ไปไกล 3-4 เมตรเลย
กวาดฝุ่นยางเสร็จ ได้ยางประมาณ ยางลบเด็กสีขาวๆ 1 ก้อนเลย ดอกยางหายไป 2 มม. ได้
ตอนแรกก็ตกใจมาก เพราะ กินยางขนาดนี้ เปลืองแน่ๆ
คิดในใจ ต้นทุนการปั่นเทรนเนอร์แบบนี้ต้องเปลี่ยนยางบ่อยแน่ๆ เลย
เลยหาข้อมูลใน ThaiMTB นี้ละจึงรู้ว่า เราเซ็ตอัพผิด
คือ ยางต้องกดลูกกลิ้ง ในระดับเดียวกับที่ยางกดลงถนนเลย คือ ไม่ใช่แค่สัมผัสโดน แต่ต้องกดแรงๆ
ผมเลือกตัว Minoura B60 เพราะเหตุสำคัญคือ สามารถนำมาทำ Adapter สำหรับล้อ 20 นิ้วได้
ตัว B60 เป็นเทรนเนอร์แบบแกนแม่เหล็ก ซึ่งบางคนบอกว่าไม่เหมือนปั่นบนถนนเท่าไร ไม่เท่าตัวที่ใช้ของเหลวสร้างความหนืด
แต่เท่าที่ผมปั่นมา ก็รู้สึกโอเค แถมสนุกด้วยซ้ำ (หลังจากได้ประสบการณ์ ฮา ฮา)
ประสบการณ์ ฮา ฮา ของผมคือ
เทรนเนอร์กินยาง
ตอนแรกก็ปั่นดู ก็พบเหมือนที่หลายๆ คนรู้สึกมั้ง คือ มันไม่ค่อยเหมือนปั่นบนถนนเลย แต่ก็ปั่นได้ ก็คงคิดว่า คงเป็นแบบนี้มั้ง
พอปั่นเสร็จ ลงมาดูปรากฎว่า ยางกระจาย เป็นฝุ่นเต็มพื้น ไปไกล 3-4 เมตรเลย
กวาดฝุ่นยางเสร็จ ได้ยางประมาณ ยางลบเด็กสีขาวๆ 1 ก้อนเลย ดอกยางหายไป 2 มม. ได้
ตอนแรกก็ตกใจมาก เพราะ กินยางขนาดนี้ เปลืองแน่ๆ
คิดในใจ ต้นทุนการปั่นเทรนเนอร์แบบนี้ต้องเปลี่ยนยางบ่อยแน่ๆ เลย
เลยหาข้อมูลใน ThaiMTB นี้ละจึงรู้ว่า เราเซ็ตอัพผิด
คือ ยางต้องกดลูกกลิ้ง ในระดับเดียวกับที่ยางกดลงถนนเลย คือ ไม่ใช่แค่สัมผัสโดน แต่ต้องกดแรงๆ
- ไฟล์แนบ
-
- กดหน้ายางเยอะๆ
- P1010875.JPG (48.97 KiB) เข้าดูแล้ว 709 ครั้ง
-
- ฝุ่นยาง
- P1010879.JPG (42.55 KiB) เข้าดูแล้ว 709 ครั้ง
- breeze
- ขาประจำ
- โพสต์: 1892
- ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2011, 16:14
- Tel: 0849407000
- team: ยังไม่มีสังกัด แต่อยู่แถวพระราม 5 บางกรวย ครับ
- Bike: Dahon Archer P18 , Anchor CX900
Re: บันทึกเสือมือใหม่ 500 ก.ม. แรกของคุณ (เชิญร่วมแชร์) - Slow Life Touring เริ่มหน้า 19
หลังจากเซ็ตอัพถูกต้อง
ลองปั่นอีกที คราวนี้มันเลยครับ สนุกเหมือนปั่นบนถนนเลย
จากนั้นผมก็ทำ Adapter ตามกระทู้ http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 9&t=547595
เพื่อให้ใช้งานได้กับรถพับ ล้อ 20 นิ้ว
ถึงวันนี้ผมก็ได้ใช้ประโยชน์จากเทรนเนอร์ วันละ 1 ชั่วโมง รู้สึกได้ว่า สภาพร่างกายดีขึ้น น้ำหนักเริ่มปรับตัวลงได้อีกครั้ง
ลองปั่นอีกที คราวนี้มันเลยครับ สนุกเหมือนปั่นบนถนนเลย
จากนั้นผมก็ทำ Adapter ตามกระทู้ http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 9&t=547595
เพื่อให้ใช้งานได้กับรถพับ ล้อ 20 นิ้ว
ถึงวันนี้ผมก็ได้ใช้ประโยชน์จากเทรนเนอร์ วันละ 1 ชั่วโมง รู้สึกได้ว่า สภาพร่างกายดีขึ้น น้ำหนักเริ่มปรับตัวลงได้อีกครั้ง
- ไฟล์แนบ
-
- P1010888.JPG (59.57 KiB) เข้าดูแล้ว 709 ครั้ง
- sek-8706
- ขาประจำ
- โพสต์: 465
- ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ส.ค. 2012, 15:58
- Bike: TREK WAHOO 2013
- ตำแหน่ง: ต.เมืองการุ้ง อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี
Re: บันทึกเสือมือใหม่ 500 ก.ม. แรกของคุณ (เชิญร่วมแชร์) - ว่าด้วยเรื่อง เทรนเนอร์ หน้า 22
เหลืออีกร้อยกว่าโล ครบ 500 แล้วจะมาลงบันทึกด้วยครับ แต่อย่างหนึ่งที่ สุขก็คือ ไม่ผิดหวังที่ซื้อจักยานมาปั่นครับ
- breeze
- ขาประจำ
- โพสต์: 1892
- ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2011, 16:14
- Tel: 0849407000
- team: ยังไม่มีสังกัด แต่อยู่แถวพระราม 5 บางกรวย ครับ
- Bike: Dahon Archer P18 , Anchor CX900
Re: บันทึกเสือมือใหม่ 500 ก.ม. แรกของคุณ (เชิญร่วมแชร์) - ว่าด้วยเรื่อง เทรนเนอร์ หน้า 22
ดีใจด้วยครับsek-8706 เขียน: เหลืออีกร้อยกว่าโล ครบ 500 แล้วจะมาลงบันทึกด้วยครับ แต่อย่างหนึ่งที่ สุขก็คือ ไม่ผิดหวังที่ซื้อจักยานมาปั่นครับ
ไม่ต้องรอถึง 500 ก็แชร์ได้เลยนะ
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 703
- ลงทะเบียนเมื่อ: 28 มิ.ย. 2012, 08:23
- Tel: 08006916ยี่สิบแปด
- team: Perfect Park Suwannabhumi & Weekend Bike Club
- Bike: อ้ายแดง=หมอบSpe รถแรงแซงหน้าเส้น อีเขียว=โครโมScott กาเมล่าบ้าพลัง
- ตำแหน่ง: มัสยิดอั๊ตตั๊กวา มีนบุรี
- ติดต่อ:
Re: บันทึกเสือมือใหม่ 500 ก.ม. แรกของคุณ (เชิญร่วมแชร์) - ว่าด้วยเรื่อง เทรนเนอร์ หน้า 22
ผมก็ได้มา600กว่ากิโลละ ตอนแรกไม่คิดว่าจะมาได้ถึงขนาดนี้ แต่พอปั่นไปปั่นมายิ่งสนุก เจอผู้คนมากมายในการปั่น นึกในใจแบบนี้แหละใช่เลย สำหรับมือใหม่อย่างผม ที่พึ่งหันกลับมาออกกำลังกาย ตอนนี้มความสุขมากกับเจ้าหมอบคันแรก ที่ทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างและทำให้ผมสนุกไปกับมัน^^
- breeze
- ขาประจำ
- โพสต์: 1892
- ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2011, 16:14
- Tel: 0849407000
- team: ยังไม่มีสังกัด แต่อยู่แถวพระราม 5 บางกรวย ครับ
- Bike: Dahon Archer P18 , Anchor CX900
Re: บันทึกเสือมือใหม่ 500 ก.ม. แรกของคุณ (เชิญร่วมแชร์) - ว่าด้วยเรื่อง เทรนเนอร์ หน้า 22
ขึ้นเขา "ใหญ่" ครั้งแรก ก็แป๊กเสียแล้ว
เรื่องนี้เป็นผลของใจล้วนๆ
สืบเนื่องจาก ระยะหลัง ผมไม่ได้ออกปั่นไกลเหมือนแต่ก่อน เพราะไม่มีคนดูแลลูก ในขณะเดียวกัน ลูกก็เริ่มโตต้องไปเรียนเสริมประสบการณ์วันเสาร์อาทิตย์
ตอนนี้เลยทำใจกับการปั่นจักรยาน ว่าคงได้แค่ปั่นเบาๆ แถวบ้าน
แต่เมื่อช่วงเสาร์อาทิตย์ต้นเดือนกันยายน คุณภรรยาจะต้องไปต่างจังหวัด เลยให้วีซ่า มาอยากไปปั่นไหนก็ไป ผมเลยวางแผนไปลองปั่นขึ้นเขาใหญ่เล่นๆ ได้ไม่ได้ ก็ช่างมัน
โดยที่คิดเช่นนี้ เพราะอยากรู้ว่า รถเราขาดอะไรอีกบ้าง ที่ต้องปรับปรุงเพื่อให้ขึ้นเขาสบายๆ
ต้องบอกก่อนว่า ผมเป็นพวก เตรียมพร้อม คือ ไม่ใช่เน้นอุปกรณ์ แต่มีโอกาส มีเวลา มีกำลังทรัพย์ ก็เตรียมรถให้พร้อม
แต่ก็ไม่ใช่พวกบ้าซื้ออุปกรณ์ อัพๆ ๆ ๆ
ก็ลงทุนตามสมควร
จึงเป็นที่มาของเป้าหมาย ว่า จะไปทดสอบรถ ว่าจะขึ้นเขาจริงๆ ได้กับเขาหรือเปล่า เพราะที่ผ่านมา เขาลูกเบาๆ ไปมาแล้วได้สบายๆ แต่ไอ้เขาที่มันขึ้นตลอด 30 กิโลเมตรเหมือนเขาใหญ่ น่าจะเป็นตัวทดสอบได้ดีกว่า
ก็เลยตัดสินใจไปลอง ผนวกกับต้องการไปซื้อต้นไม้ที่คลอง 15 ด้วย ทริปเล็กๆ และสั้นๆ นี้เลยได้เกิดขึ้น
ผมไปถึงแยกวงกลม ก่อนขึ้นเขาใหญ่ตอนประมาณเกือบ 8 โมงเช้า ก็หาซื้อข้าวเช้า กิน เป็นนม 1 ขวด และขนมปัง กับซื้อข้าวกลางวันเตรียมไว้ เผื่อกลางทางหมดแรงจะได้มีข้าวกลางวันทาน ให้พลังงาน
หลังจากนั้นก็จ่ายค่าธรรมเนียม แล้วก็จอดรถ เตรียมตัวพร้อม ก็ออกปั่น
รอบนี้ผมโหลดน้ำหนักให้เหมือนจริง ชนิดที่ถ้าเรามานอนค้างเขาใหญ่ต้องใส่อะไรบ้าง ก็โหลดน้ำหนักมาประมาณ 10 กิโลกรัม
ช่วงแรกก็สบายๆ ผ่านไปเนินเล็กๆ ไป 2 กิโลเมตรก็ บอกตัวเองว่า อืม แม้เกียร์เราจะมีแค่ 2 เกียร์หน้า คือ 48 กับ 36 กับเกียร์หลังที่ ใช้ได้แค่ 25 ทั้งๆ ที่มีเฟืองถึง 34 ก็ปั่นได้สบายๆ อยู่
แต่พอช่วงขึ้นเนินยาวใน กิโลเมตรที่ 3
ไม่ไหวครับ ด้วยเกียร์ที่มี สามารถปั่นได้ แต่ไม่ไหว ไม่ใช่กดลูกบันไดไม่ไหว แต่เป็นหัวใจที่เต้นเร็วเกินไป จนไม่ไหว
จึงจอดพัก
เท่านั้นละครับ หน้ามืดจะเป็นลม
เลยต้องนั่งพักอยู่ 10 นาที
ระหว่างนั้นก็ได้คิดพิเคราะห์ ก็พบต้นเหตุของปัญหาทีต้องกลับไปแก้ไขคือ
1. ระบบเกียร์ที่ ไม่ได้ตั้งให้ใช้ได้ถึง 34 เพราะของเดิมเป็นเกียร์เฟืองหมอบใช้ได้ถึง 26 ผมพึ่งเปลี่ยนมาเป็นเฟือง Sunrace 11 ถึง 34 แล้วลืมตั้งเกียร์ใหม่ (เปลี่ยนสายโซ่แล้วนะครับ) ทำให้เกียร์ไม่ตรง เปลี่ยนได้แค่ เกียร์ 3 หรือน่าจะประมาณ 26 นี้ละ คือ ก็ได้เท่าเดิมไม่ได้เปลี่ยนไปเลย 555
ด้วยชุดเกียร์ 36-26 (หรือ 25) ทำให้อัตราทดสูงเกินไปสำหรับการปีนเขา
2. น้ำหนักที่โหลดมา เป็นตัวถ่วง อย่างดี แม้ว่าจะเพื่อจำลองสภาพให้เหมือนจริง แต่ก็แอบคิดเล่นๆ ว่า ถ้าไม่โหลดขึ้นมา อาจจะปั่นตัวเปล่าๆ ขึ้นถึงก็ได้
3. อันนี้สำคัญที่สุดคือ พึ่งทานข้าวเช้า และไม่ใช่ข้าวเช้าจริงๆ ด้วย เป็นแค่ของกินเบาๆ ผนวกกับกินก่อนขึ้นเขา ทำให้ร่างกายย่อยเป็นพลังงานได้ไม่ทัน ถ้ากินตั้งแต่ออกจากบ้านก็น่าจะกำลังดี
4. ใจ ครับ หมดใจ เนื่องจากคิดว่าต้องไปซื้อต้นไม้และของทำสวนอีกเยอะ จึงมองว่าต้องเผื่อแรงไว้ ทำให้ ไม่อยากออกแรงมากกว่านี้
และจากประสบการณ์ เมื่อร่างกายหมดแรงถึงระดับ เป็นลม แสดงว่าขาดปัจจัยสำคัญหลายอย่าง
ผมจึงเปลี่ยนใจ ดิ่งรถลงมา แล้วก็กลับ เพราะถึงแม้ว่า ถ้าเอาข้าวกลางวันที่ซื้อเตรียมไว้มาทานให้หมด นั่งรอพักจนร่างกายพร้อม
แม้ว่าอาจปั่นขึ้นไปถึง ด้วยความเพียรพยายาม
แต่วันรุ่งขึ้น อาจหมดสภาพ ไม่สามารถทำอะไรได้
แผนจะทำสวน จะพาลูกไปเที่ยว ก็ต้องพับไป
พอคิดอย่างนี้ ใจก็ไม่อยู่กับเขาใหญ่แล้ว ใจอยู่ที่บ้านเรียบร้อย
การขึ้นเขาใหญ่ครั้งแรกของผมก็จบลงด้วยระยะทางขึ้นเขาไปเพียง 3 กิโลเมตรกว่าๆ วัดระยะด้วย GPS ขึ้นไปได้สูงจากหน้าด่าน ประมาณ 100 เมตรในแนวดิ่ง
ที่เอามาเล่าให้ฟัง ก็เพราะจะบอกว่า ในเว็บนี้ เวลาคนมาลงส่วนใหญ่ ก็มาลงแต่ที่ประสบความสำเร็จ น้อยคนที่จะลงแบบไม่ประสบความสำเร็จ
การไปไม่ถึงยอด ในการขึ้นเขาผมว่าไม่ใช่เรื่องแปลก การแพ้ไม่ใช่เรื่องแปลก
หรือการชนะตั้งแต่ครั้งแรกก็ไม่ใช่เรื่องฟลุ๊ก
ของทุกอย่างมันต้องมีการเตรียมการ มีความพร้อม ที่สำคัญคือ "ใจ"
ผมแพ้ครั้งนี้ เพราะหลายปัจจัยที่วิเคราะห์มา แต่ปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือ "ใจ"
หลังจากหายหน้ามืด เป็นลมแล้ว "ใจ" ผมไปอยู่ที่สวน อยู่ที่ลูก ที่บ้าน ไม่ได้อยู่บนยอดอีกแล้ว
ขึ้นเขาใหญ่ครั้งนี้จึงไม่สำเร็จ ก็ยอมรับโดยสภาพ และพร้อมปรับแก้ไข เพื่อไปลองใหม่ เรื่อยๆ
ตามเป้าหมายที่เคยวางไว้ในการปั่นจักรยาน คือ การขึ้นเขาใหญ่ ให้สำเร็จให้ได้
เรื่องนี้เป็นผลของใจล้วนๆ
สืบเนื่องจาก ระยะหลัง ผมไม่ได้ออกปั่นไกลเหมือนแต่ก่อน เพราะไม่มีคนดูแลลูก ในขณะเดียวกัน ลูกก็เริ่มโตต้องไปเรียนเสริมประสบการณ์วันเสาร์อาทิตย์
ตอนนี้เลยทำใจกับการปั่นจักรยาน ว่าคงได้แค่ปั่นเบาๆ แถวบ้าน
แต่เมื่อช่วงเสาร์อาทิตย์ต้นเดือนกันยายน คุณภรรยาจะต้องไปต่างจังหวัด เลยให้วีซ่า มาอยากไปปั่นไหนก็ไป ผมเลยวางแผนไปลองปั่นขึ้นเขาใหญ่เล่นๆ ได้ไม่ได้ ก็ช่างมัน
โดยที่คิดเช่นนี้ เพราะอยากรู้ว่า รถเราขาดอะไรอีกบ้าง ที่ต้องปรับปรุงเพื่อให้ขึ้นเขาสบายๆ
ต้องบอกก่อนว่า ผมเป็นพวก เตรียมพร้อม คือ ไม่ใช่เน้นอุปกรณ์ แต่มีโอกาส มีเวลา มีกำลังทรัพย์ ก็เตรียมรถให้พร้อม
แต่ก็ไม่ใช่พวกบ้าซื้ออุปกรณ์ อัพๆ ๆ ๆ
ก็ลงทุนตามสมควร
จึงเป็นที่มาของเป้าหมาย ว่า จะไปทดสอบรถ ว่าจะขึ้นเขาจริงๆ ได้กับเขาหรือเปล่า เพราะที่ผ่านมา เขาลูกเบาๆ ไปมาแล้วได้สบายๆ แต่ไอ้เขาที่มันขึ้นตลอด 30 กิโลเมตรเหมือนเขาใหญ่ น่าจะเป็นตัวทดสอบได้ดีกว่า
ก็เลยตัดสินใจไปลอง ผนวกกับต้องการไปซื้อต้นไม้ที่คลอง 15 ด้วย ทริปเล็กๆ และสั้นๆ นี้เลยได้เกิดขึ้น
ผมไปถึงแยกวงกลม ก่อนขึ้นเขาใหญ่ตอนประมาณเกือบ 8 โมงเช้า ก็หาซื้อข้าวเช้า กิน เป็นนม 1 ขวด และขนมปัง กับซื้อข้าวกลางวันเตรียมไว้ เผื่อกลางทางหมดแรงจะได้มีข้าวกลางวันทาน ให้พลังงาน
หลังจากนั้นก็จ่ายค่าธรรมเนียม แล้วก็จอดรถ เตรียมตัวพร้อม ก็ออกปั่น
รอบนี้ผมโหลดน้ำหนักให้เหมือนจริง ชนิดที่ถ้าเรามานอนค้างเขาใหญ่ต้องใส่อะไรบ้าง ก็โหลดน้ำหนักมาประมาณ 10 กิโลกรัม
ช่วงแรกก็สบายๆ ผ่านไปเนินเล็กๆ ไป 2 กิโลเมตรก็ บอกตัวเองว่า อืม แม้เกียร์เราจะมีแค่ 2 เกียร์หน้า คือ 48 กับ 36 กับเกียร์หลังที่ ใช้ได้แค่ 25 ทั้งๆ ที่มีเฟืองถึง 34 ก็ปั่นได้สบายๆ อยู่
แต่พอช่วงขึ้นเนินยาวใน กิโลเมตรที่ 3
ไม่ไหวครับ ด้วยเกียร์ที่มี สามารถปั่นได้ แต่ไม่ไหว ไม่ใช่กดลูกบันไดไม่ไหว แต่เป็นหัวใจที่เต้นเร็วเกินไป จนไม่ไหว
จึงจอดพัก
เท่านั้นละครับ หน้ามืดจะเป็นลม
เลยต้องนั่งพักอยู่ 10 นาที
ระหว่างนั้นก็ได้คิดพิเคราะห์ ก็พบต้นเหตุของปัญหาทีต้องกลับไปแก้ไขคือ
1. ระบบเกียร์ที่ ไม่ได้ตั้งให้ใช้ได้ถึง 34 เพราะของเดิมเป็นเกียร์เฟืองหมอบใช้ได้ถึง 26 ผมพึ่งเปลี่ยนมาเป็นเฟือง Sunrace 11 ถึง 34 แล้วลืมตั้งเกียร์ใหม่ (เปลี่ยนสายโซ่แล้วนะครับ) ทำให้เกียร์ไม่ตรง เปลี่ยนได้แค่ เกียร์ 3 หรือน่าจะประมาณ 26 นี้ละ คือ ก็ได้เท่าเดิมไม่ได้เปลี่ยนไปเลย 555
ด้วยชุดเกียร์ 36-26 (หรือ 25) ทำให้อัตราทดสูงเกินไปสำหรับการปีนเขา
2. น้ำหนักที่โหลดมา เป็นตัวถ่วง อย่างดี แม้ว่าจะเพื่อจำลองสภาพให้เหมือนจริง แต่ก็แอบคิดเล่นๆ ว่า ถ้าไม่โหลดขึ้นมา อาจจะปั่นตัวเปล่าๆ ขึ้นถึงก็ได้
3. อันนี้สำคัญที่สุดคือ พึ่งทานข้าวเช้า และไม่ใช่ข้าวเช้าจริงๆ ด้วย เป็นแค่ของกินเบาๆ ผนวกกับกินก่อนขึ้นเขา ทำให้ร่างกายย่อยเป็นพลังงานได้ไม่ทัน ถ้ากินตั้งแต่ออกจากบ้านก็น่าจะกำลังดี
4. ใจ ครับ หมดใจ เนื่องจากคิดว่าต้องไปซื้อต้นไม้และของทำสวนอีกเยอะ จึงมองว่าต้องเผื่อแรงไว้ ทำให้ ไม่อยากออกแรงมากกว่านี้
และจากประสบการณ์ เมื่อร่างกายหมดแรงถึงระดับ เป็นลม แสดงว่าขาดปัจจัยสำคัญหลายอย่าง
ผมจึงเปลี่ยนใจ ดิ่งรถลงมา แล้วก็กลับ เพราะถึงแม้ว่า ถ้าเอาข้าวกลางวันที่ซื้อเตรียมไว้มาทานให้หมด นั่งรอพักจนร่างกายพร้อม
แม้ว่าอาจปั่นขึ้นไปถึง ด้วยความเพียรพยายาม
แต่วันรุ่งขึ้น อาจหมดสภาพ ไม่สามารถทำอะไรได้
แผนจะทำสวน จะพาลูกไปเที่ยว ก็ต้องพับไป
พอคิดอย่างนี้ ใจก็ไม่อยู่กับเขาใหญ่แล้ว ใจอยู่ที่บ้านเรียบร้อย
การขึ้นเขาใหญ่ครั้งแรกของผมก็จบลงด้วยระยะทางขึ้นเขาไปเพียง 3 กิโลเมตรกว่าๆ วัดระยะด้วย GPS ขึ้นไปได้สูงจากหน้าด่าน ประมาณ 100 เมตรในแนวดิ่ง
ที่เอามาเล่าให้ฟัง ก็เพราะจะบอกว่า ในเว็บนี้ เวลาคนมาลงส่วนใหญ่ ก็มาลงแต่ที่ประสบความสำเร็จ น้อยคนที่จะลงแบบไม่ประสบความสำเร็จ
การไปไม่ถึงยอด ในการขึ้นเขาผมว่าไม่ใช่เรื่องแปลก การแพ้ไม่ใช่เรื่องแปลก
หรือการชนะตั้งแต่ครั้งแรกก็ไม่ใช่เรื่องฟลุ๊ก
ของทุกอย่างมันต้องมีการเตรียมการ มีความพร้อม ที่สำคัญคือ "ใจ"
ผมแพ้ครั้งนี้ เพราะหลายปัจจัยที่วิเคราะห์มา แต่ปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือ "ใจ"
หลังจากหายหน้ามืด เป็นลมแล้ว "ใจ" ผมไปอยู่ที่สวน อยู่ที่ลูก ที่บ้าน ไม่ได้อยู่บนยอดอีกแล้ว
ขึ้นเขาใหญ่ครั้งนี้จึงไม่สำเร็จ ก็ยอมรับโดยสภาพ และพร้อมปรับแก้ไข เพื่อไปลองใหม่ เรื่อยๆ
ตามเป้าหมายที่เคยวางไว้ในการปั่นจักรยาน คือ การขึ้นเขาใหญ่ ให้สำเร็จให้ได้
- ไฟล์แนบ
-
- P1010897.JPG (81.52 KiB) เข้าดูแล้ว 614 ครั้ง
-
- P1010910.JPG (76.89 KiB) เข้าดูแล้ว 614 ครั้ง
-
- P1010929.JPG (119.74 KiB) เข้าดูแล้ว 614 ครั้ง
-
- P1010916.JPG (38.91 KiB) เข้าดูแล้ว 614 ครั้ง
-
- P1010901.JPG (69.63 KiB) เข้าดูแล้ว 614 ครั้ง
- breeze
- ขาประจำ
- โพสต์: 1892
- ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2011, 16:14
- Tel: 0849407000
- team: ยังไม่มีสังกัด แต่อยู่แถวพระราม 5 บางกรวย ครับ
- Bike: Dahon Archer P18 , Anchor CX900
Re: บันทึกเสือมือใหม่ 500 ก.ม. แรกของคุณ (เชิญร่วมแชร์) - ว่าด้วยเรื่อง เทรนเนอร์ หน้า 22
แอบมาโชว์สวนหน่อย
ทำคนเดียวครับ ค่อยๆ ทำ
ทำคนเดียวครับ ค่อยๆ ทำ
- ไฟล์แนบ
-
- ของทั้งหมดที่ซื้อ
- P1010939.JPG (72.65 KiB) เข้าดูแล้ว 613 ครั้ง
-
- P1020032.JPG (62.4 KiB) เข้าดูแล้ว 613 ครั้ง
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 440
- ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 2011, 21:47
- team: หัวลาก กลุ่มหลุด
Re: บันทึกเสือมือใหม่ 500 ก.ม. แรกของคุณ (เชิญร่วมแชร์) - ว่าด้วยเรื่อง เทรนเนอร์ & ขึ้นเขาใหญ่ แป๊กๆ หน้า 22
ครับ ใจ มาก่อน
ของผมครั้งแรก ก็ ยกขึ้นรถระหว่างทาง
แต่ก็ ไม่ได้ตั้งเป้าหมาย ว่าจะให้ขึ้นได้สำเร็จ
เพราะไม่เคยมาก่อน
แต่ปัจจุบัน ผ่านมา 6 ครั้งแล้ว (แบบไม่มีสัมภาระ)
เขาใหญ่ ยังคงเป็นเส้นทางที่มีมนต์ เสน่ห์ อีกนาน
ของผมครั้งแรก ก็ ยกขึ้นรถระหว่างทาง
แต่ก็ ไม่ได้ตั้งเป้าหมาย ว่าจะให้ขึ้นได้สำเร็จ
เพราะไม่เคยมาก่อน
แต่ปัจจุบัน ผ่านมา 6 ครั้งแล้ว (แบบไม่มีสัมภาระ)
เขาใหญ่ ยังคงเป็นเส้นทางที่มีมนต์ เสน่ห์ อีกนาน
สุภาษิต : ขิง ก็ รา ขา ก็ แรง
- poonchompoo
- ขาประจำ
- โพสต์: 308
- ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ก.ค. 2011, 20:32
- team: -
Re: บันทึกเสือมือใหม่ 500 ก.ม. แรกของคุณ (เชิญร่วมแชร์) - ว่าด้วยเรื่อง เทรนเนอร์ & ขึ้นเขาใหญ่ แป๊กๆ หน้า 22
ยังติดตามอ่านอยู่เรื่อยๆครับ
อ่านทีแรกยังไม่ได้ดูรูปคิดว่าคุณbreezeเอารถพับขึ้นเขาใหญ่ซะอีก ที่ไหนได้ทัวร์ริ่งนี่เอง ขึ้นไม่ได้ก็ไม่แปลกครับ
ผมเองขี่มาเกือบปีแล้วยังได้เฉลี่ย23กม/ชม.อยู่เลยครับ
ปล.รูปสวยดีครับ
อ่านทีแรกยังไม่ได้ดูรูปคิดว่าคุณbreezeเอารถพับขึ้นเขาใหญ่ซะอีก ที่ไหนได้ทัวร์ริ่งนี่เอง ขึ้นไม่ได้ก็ไม่แปลกครับ
ผมเองขี่มาเกือบปีแล้วยังได้เฉลี่ย23กม/ชม.อยู่เลยครับ
ปล.รูปสวยดีครับ
ชีวิตต้องซู่...
- breeze
- ขาประจำ
- โพสต์: 1892
- ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2011, 16:14
- Tel: 0849407000
- team: ยังไม่มีสังกัด แต่อยู่แถวพระราม 5 บางกรวย ครับ
- Bike: Dahon Archer P18 , Anchor CX900
Re: บันทึกเสือมือใหม่ 500 ก.ม. แรกของคุณ (เชิญร่วมแชร์) - ว่าด้วยเรื่อง เทรนเนอร์ & ขึ้นเขาใหญ่ แป๊กๆ หน้า 22
อ๋อ มีอีกอันที่ผมไม่แปลกใจตัวเองว่าทำไม ร่างกายไม่พร้อมคือ
วันศุกร์ เป็นวันไหว้สารทจีนครับ
ผมตื่นตั้งแต่ตีสี่ แล้วตอนกลางคืนวันศุกร์ก็นอนดึก เพราะงานค้าง เช้ามาก็ตื่นเช้ามืดเพื่อจะเดินทางไปเขาใหญ่
รวมๆ ผมเลยรู้สภาพตัวเอง เลยลงมาก่อน 555
ตัวทัวริ่งตัวนี้ หลังจากกลับมา ก็คงต้องเปลี่ยนเฟืองหน้าครับ แค่ตัวเดียวจบ ตอนแรกจะยกเครื่องเปลี่ยนใหม่หมด แต่หลังจากทดสอบแล้ว แค่เฟืองหน้าเป็น 3 จานก็พอครับ
โชคดีที่ มือตบ รองรับ 3 จาน ตอนนี้เลยไม่ต้องเปลี่ยนอะไรเลย ประหยัดไปเยอะครับ
ตอนแรกโปรเจ็กต์ใหญ่ เปลี่ยนเกือบหมดประมาณ 8-9 พัน ตอนนี้ก็แค่ 2 พันก็ได้ละ
วันศุกร์ เป็นวันไหว้สารทจีนครับ
ผมตื่นตั้งแต่ตีสี่ แล้วตอนกลางคืนวันศุกร์ก็นอนดึก เพราะงานค้าง เช้ามาก็ตื่นเช้ามืดเพื่อจะเดินทางไปเขาใหญ่
รวมๆ ผมเลยรู้สภาพตัวเอง เลยลงมาก่อน 555
ตัวทัวริ่งตัวนี้ หลังจากกลับมา ก็คงต้องเปลี่ยนเฟืองหน้าครับ แค่ตัวเดียวจบ ตอนแรกจะยกเครื่องเปลี่ยนใหม่หมด แต่หลังจากทดสอบแล้ว แค่เฟืองหน้าเป็น 3 จานก็พอครับ
โชคดีที่ มือตบ รองรับ 3 จาน ตอนนี้เลยไม่ต้องเปลี่ยนอะไรเลย ประหยัดไปเยอะครับ
ตอนแรกโปรเจ็กต์ใหญ่ เปลี่ยนเกือบหมดประมาณ 8-9 พัน ตอนนี้ก็แค่ 2 พันก็ได้ละ
- sek-8706
- ขาประจำ
- โพสต์: 465
- ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ส.ค. 2012, 15:58
- Bike: TREK WAHOO 2013
- ตำแหน่ง: ต.เมืองการุ้ง อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี
Re: บันทึกเสือมือใหม่ 500 ก.ม. แรกของคุณ (เชิญร่วมแชร์) - ว่าด้วยเรื่อง เทรนเนอร์ & ขึ้นเขาใหญ่ แป๊กๆ หน้า 22
ถึงแล้ว 500 แต่ เลยมาที่ 600 แล้ว ร่วมบันทึก ไว้ด้วยคน
จักรยาน ไม่คิดว่าจะได้มาหลงรัก มัน ก้าวแรก ที่เข้ามาเพราะอยากเปลี่ยนปัญหา ที่ได้เจอ ให้เป็นพลังแทน และ สิ่งที่ยังทำไม่ได้ คือ ลดน้ำหนักเลยเอาจุดนี้ป็นเป้าหมาย
ผลที่ออกมา คือจักรยานนี้ล่ะ ตอนแรก ก็ไม่คิดว่าจะได้เจ้าคันที่ปั่น มาทุกวันนี้หลอก เพราะที่ไปดูครั้งแรก เลย เป็น แอลเอ คันประมาณ 5000 กว่าบาท แต่ตังไม่พอ เลยกลับมาบ้าน
นั้งคิด และหาข้อมูล พอดี สะกิจใจได้ว่า ในตัว อ.บ้านไร่ มีร้านจักรยาน ที่เขาเป็น นักปั่นด้วยนี้ เลยไปดู เลยได้คุยผลออกมา แม่เจ้า จักรยานไร คันล่ะ เกือบหมื่น เอาไงดี ก็เลยกลับมาตัวเปล่า พร้อมกับคำถามว่า จะอย่างไร เลยถามเมียว่า จะซื้อดีไหม เมียก็แล้วแต่ถ้าอยากได้ ก็เอา เอาโว้ย เมียมาแปลก โทรไปสั้งเลย ผลออกมา ขนาดผม ไม่มี มีแต่ ขนาดเล็กกว่า ซึ่งไม่เหมาะกับผม เอาไงดี ล่ะ เจ้าของร้านเลยแนะนำ ตัวนี้ให้ trek wahoo แต่ราคามัน 15000 เอาไงดีล่ะ รอบนี้ หนักกว่าเก่าอีก กลับมาคิดใหม่ บอกเมีย ด้วยอาการ กลัวๆ กล้า ผลออกมา ผิดขาด เมียบอก มาขั้นนี้ แล้ว เอาก็เอาไปดิ สุดท้าย ก็ได้คันนี้มา
จักรยาน ไม่คิดว่าจะได้มาหลงรัก มัน ก้าวแรก ที่เข้ามาเพราะอยากเปลี่ยนปัญหา ที่ได้เจอ ให้เป็นพลังแทน และ สิ่งที่ยังทำไม่ได้ คือ ลดน้ำหนักเลยเอาจุดนี้ป็นเป้าหมาย
ผลที่ออกมา คือจักรยานนี้ล่ะ ตอนแรก ก็ไม่คิดว่าจะได้เจ้าคันที่ปั่น มาทุกวันนี้หลอก เพราะที่ไปดูครั้งแรก เลย เป็น แอลเอ คันประมาณ 5000 กว่าบาท แต่ตังไม่พอ เลยกลับมาบ้าน
นั้งคิด และหาข้อมูล พอดี สะกิจใจได้ว่า ในตัว อ.บ้านไร่ มีร้านจักรยาน ที่เขาเป็น นักปั่นด้วยนี้ เลยไปดู เลยได้คุยผลออกมา แม่เจ้า จักรยานไร คันล่ะ เกือบหมื่น เอาไงดี ก็เลยกลับมาตัวเปล่า พร้อมกับคำถามว่า จะอย่างไร เลยถามเมียว่า จะซื้อดีไหม เมียก็แล้วแต่ถ้าอยากได้ ก็เอา เอาโว้ย เมียมาแปลก โทรไปสั้งเลย ผลออกมา ขนาดผม ไม่มี มีแต่ ขนาดเล็กกว่า ซึ่งไม่เหมาะกับผม เอาไงดี ล่ะ เจ้าของร้านเลยแนะนำ ตัวนี้ให้ trek wahoo แต่ราคามัน 15000 เอาไงดีล่ะ รอบนี้ หนักกว่าเก่าอีก กลับมาคิดใหม่ บอกเมีย ด้วยอาการ กลัวๆ กล้า ผลออกมา ผิดขาด เมียบอก มาขั้นนี้ แล้ว เอาก็เอาไปดิ สุดท้าย ก็ได้คันนี้มา
- ไฟล์แนบ
-
- คันนี้ล่ะครับ
- 03092012183.jpg (45.47 KiB) เข้าดูแล้ว 566 ครั้ง
- sek-8706
- ขาประจำ
- โพสต์: 465
- ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ส.ค. 2012, 15:58
- Bike: TREK WAHOO 2013
- ตำแหน่ง: ต.เมืองการุ้ง อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี
Re: บันทึกเสือมือใหม่ 500 ก.ม. แรกของคุณ (เชิญร่วมแชร์) - ว่าด้วยเรื่อง เทรนเนอร์ & ขึ้นเขาใหญ่ แป๊กๆ หน้า 22
จากที่ได้มา และคำแนะนำ ของเจ้าของร้าน ให้เน้นรอบขาเป็นหลัก อย่ากังวนเรื่องความเร็ว หรือระยะทาง เอาที่เราไหว
1. เริ่มเรียนรู้ และ เข้าใจในจักยานของตนเอง
2. ฝึกรอบขา เรียนรู้ การหายใจ เช็คสภาพ ตัวเองไม่ให้หักโหม
3. หากางเกงปั่นมาโดยด่วยเจ็บตูดมาก
สิ่งที่ได้ และเรียนรู้ จากการปั่น
1. ร่างกายดีขึ้น หายใจ ยาวขึ้น ควบคุมการเต้นของหัวใจดีขึ้น
2. ได้อยู่ กับตัวเองมากขึ้น ความคิด ดีๆ ความสุขที่ได้ มาจากรอบๆ ตัว
3. เข้าใจเลยว่า เสน่ของการปั่น มันอยู่ที่ การที่เราได้ข้ามผ่านความสามารถตัวเอง ด้วยกำลังของเราเอง
4. ได้มองเห็น สิ่งสวยงาม ที่อยู่ รอบๆ ตัวเรา มากกว่า แต่ก่อน
5. ยังมีอีกหลายอย่าง ต้องค้นหาต่อไป
ตอนนี้ กับการปั่น
1. ปั่นที่จาน กลาง ความเร็ว อยู่ที่ ประมาณ 22-19 หัวใจ เต้น ปกติดี ระยะทาง เช้า ได้ 20 กิโล เย็นหรือ มืดๆ อย่างน้อย 10 กิโล
2. รู้ วิธีนั่ง ที่ถูกต้อง ช่วยให้ไม่เจ็บ ตูด ทั้งเวลาปั่น แล้ว ตอนที่ หยุดปั่นใหม่ๆ
3. เร่งความเร็ว ได้ สูงสุด ตอนนี้ ได้ 30 กว่านิดๆ
4. สามารถหาของกิน กลับมาให้ลูกชาย ได้เกือบทุกเช้าล่ะ
5. ความสุข มีมากกว่าแต่ก่อน ทั้งที่ ปัญหา มีเข้ามา แต่ ยิ้มได้ เพราะ ได้เปลี่ยนมุมมองไปแล้ว
ข้อเสีย บ้าหนักกว่าเดิม จนเมียเริ่มบ่น ว่า หลงจักรยานมากไปแล้ว นะ แถมน้ำหนัก ไม่ลงเลย สักนิด ทั้งๆ ที่ลดข้าว และ การกิน มากกว่าครึ่ง
1. เริ่มเรียนรู้ และ เข้าใจในจักยานของตนเอง
2. ฝึกรอบขา เรียนรู้ การหายใจ เช็คสภาพ ตัวเองไม่ให้หักโหม
3. หากางเกงปั่นมาโดยด่วยเจ็บตูดมาก
สิ่งที่ได้ และเรียนรู้ จากการปั่น
1. ร่างกายดีขึ้น หายใจ ยาวขึ้น ควบคุมการเต้นของหัวใจดีขึ้น
2. ได้อยู่ กับตัวเองมากขึ้น ความคิด ดีๆ ความสุขที่ได้ มาจากรอบๆ ตัว
3. เข้าใจเลยว่า เสน่ของการปั่น มันอยู่ที่ การที่เราได้ข้ามผ่านความสามารถตัวเอง ด้วยกำลังของเราเอง
4. ได้มองเห็น สิ่งสวยงาม ที่อยู่ รอบๆ ตัวเรา มากกว่า แต่ก่อน
5. ยังมีอีกหลายอย่าง ต้องค้นหาต่อไป
ตอนนี้ กับการปั่น
1. ปั่นที่จาน กลาง ความเร็ว อยู่ที่ ประมาณ 22-19 หัวใจ เต้น ปกติดี ระยะทาง เช้า ได้ 20 กิโล เย็นหรือ มืดๆ อย่างน้อย 10 กิโล
2. รู้ วิธีนั่ง ที่ถูกต้อง ช่วยให้ไม่เจ็บ ตูด ทั้งเวลาปั่น แล้ว ตอนที่ หยุดปั่นใหม่ๆ
3. เร่งความเร็ว ได้ สูงสุด ตอนนี้ ได้ 30 กว่านิดๆ
4. สามารถหาของกิน กลับมาให้ลูกชาย ได้เกือบทุกเช้าล่ะ
5. ความสุข มีมากกว่าแต่ก่อน ทั้งที่ ปัญหา มีเข้ามา แต่ ยิ้มได้ เพราะ ได้เปลี่ยนมุมมองไปแล้ว
ข้อเสีย บ้าหนักกว่าเดิม จนเมียเริ่มบ่น ว่า หลงจักรยานมากไปแล้ว นะ แถมน้ำหนัก ไม่ลงเลย สักนิด ทั้งๆ ที่ลดข้าว และ การกิน มากกว่าครึ่ง