เทคนิคการปั่นจักรยานแบบท่องเที่ยว (ทัวริ่งค์) /กับการปั่นอย่างไรให้มีความสุข

[ขวัญใจ]

เชิญพี่น้องชาวนักปั่นที่มีประสบการณ์ในการปั่นแบบทัวริ่ง/ท่องเที่ยว เชิญร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้/ประสบการณ์/ปัญหา/อื่น ๆ
จากประสบการณ์ในการปั่นแบบท่องเที่ยวขอนำเสนอ ณ ที่นี้ สรุปรูปแบบการปั่นแบบทัวริงได้ 3 รูปแบบคือ
รูปแบบที่ 1 ทัวริ่งเชิงธุรกิจ จะเสียเงินเป็นแบบแพ็คเก็จขึ้นอยู่กับสถานที่ ระยะทาง จำนวนวัน มีรถบริการบรรทุกจักรยาน/คนนั่งรถบัส/รถตู้
ถึงสถานที่ท่องเที่ยวก็นำจักรยานลงปั่นระยะทางประมาณครั้งละ 30 - 40 กม. ที่พัก/ร้านอาหาร จัดเตรียมไว้ให้พร้อม
รูปแบบที่ 2 ทัวริ่งแบบไฮโซ มีกระเป๋าติดท้ายมีสัมภาระเสื้อผ้าสวมใส่พอประมาณ ไม่รถเซอวิส บางช่วงจังหวะของการเดินทางเหาะไปบ้าง
ที่พักเป็นโรงแรม/เกสต์เฮ้าส์/ร้านอาหาร ใช้สตางค์ในการเดินทางค่อนข้างมากแต่จะน้อยกว่ารูปแบบที่ 1
รูปแบบที่ 3 ทัวริ่งแบบโลโซ หรือ ทัวริ่งนกขมิ้นเหลืองอ่อน บรรทุกสัมภาระค่อนข้างมาก อาทิเช่น เต้นท์ / ถุงนอน /เตาแก๊ส / ชุดทำอาหาร / อาหารสำรอง
ที่พัก วัด / อุทยาน / ที่สาธารณะ / นอนได้ทุกที่ อาหาร ซื้อรับประทาน หรือ ทำอาหารเอง
เชิญผู้มีประสบการณ์นำเสนอรูปแบบทัวริ่งเพิ่มเติมได้ครับ
การปั่นจักรยานแบบทัวริ่ง (ไปเป็นหมู่คณะ) ย่อมมีปัญหาอุปสรรค ขอเชิญเพื่อนสมาชิกนำเสนอได้ครับ

[ทะเล]

ส่วนมากผมประเภทไปกลับภายในวันเดียว แต่มีกำหนดเส้นทางไว้ แล้วระหว่างทางก็แวะไปเรื่อยๆ หาอะไรกิน เข้าวัดบ้าง จอดกินกาแฟ ประเภทสบายๆ ไม่มีอะไรมาเร่งเร้า อยากขี่ก็ขี่ อยากจอดก็จอด

สุดท้ายเลยไม่ค่อยมีใครไปด้วย

[ขวัญใจ]

ส่วนมากผมประเภทไปกลับภายในวันเดียว แต่มีกำหนดเส้นทางไว้ แล้วระหว่างทางก็แวะไปเรื่อยๆ หาอะไรกิน เข้าวัดบ้าง จอดกินกาแฟ ประเภทสบายๆ ไม่มีอะไรมาเร่งเร้า อยากขี่ก็ขี่ อยากจอดก็จอด

สุดท้ายเลยไม่ค่อยมีใครไปด้วย

การปั่นทัวริ่งแบบยึดระยะทาง แบ่งได้ประมาณ 3 รูปแบบ คือ
1. ระยะสั้น (เดินทางคนเดียว ไม่ค้างคืน) ระยะทางไม่เกิน 200 กม.
2. ระยะปานกลาง ระยะทางประมาณ 200 - 700 กม.
3. ระยะยาว ระยะทาง 700 กม.ขึ้นไป

การปั่นทัวริ่งแบ่งโดยยึดจำนวนคน
1. แบบฉายเดี่ยว ข้อดี มีความคล่องตัว อิสระเสรี ปั่นตามใจตัวเอง อยากจะพัก อยากจะกิน ไม่ต้องฟังหรือรอใคร ทำเวลาในการเดินทางได้ดี ข้อเสีย เหงา / ไม่มีคู่คิด / ไม่มีที่ปรึกษายามเกิดเหตุการณ์
2. แบบกลุ่มย่อย จำนวน 2 - 6 คน การปั่นทัวริ่งแบบกลุ่มย่อยต้องมีข้อตกลงร่วมกันเพื่อป้องกันการเกิดปัญหา และนักปั่นต้องมีคุณธรรมเบื้องต้น อาทิเช่น ต้องลดอัตตาตนเอง มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่เห็นแก่ตัว ไม่เบียดเบียน เสียสละช่วยเหลือผู้ที่ด้อยกว่า บางกลุ่มที่ออกทริปร่วมกัน ไปกัน 5-6 คน ถึงที่หมาย 2 คน บางกลุ่มถึงกับวงแตก อยากจะเห็นนิสัยที่แท้จริงเขาบอกว่าให้ปั่นท่องเที่ยวร่วมกันซัก 7 วัน
3. แบบกลุ่มใหญ่ ตั้งแต่ 6 คนขึ้นไป ต้องมีระบบการจัดการแบบเป็นทางการ ข้อตกลงรายละเอียดต้องชัดเจนและค่อนข้างละเอียด
เชิญสมาชิกแลกเปลี่ยนเพิ่มเติมได้ครับ

[oiltrips]

การปั่นทัวริ่งแบ่งโดยยึดจำนวนคน
1. แบบฉายเดี่ยว ข้อดี มีความคล่องตัว อิสระเสรี ปั่นตามใจตัวเอง อยากจะพัก อยากจะกิน ไม่ต้องฟังหรือรอใคร ทำเวลาในการเดินทางได้ดี ข้อเสีย เหงา / ไม่มีคู่คิด / ไม่มีที่ปรึกษายามเกิดเหตุการณ์

2. แบบกลุ่มย่อย จำนวน 2 - 6 คน การปั่นทัวริ่งแบบกลุ่มย่อยต้องมีข้อตกลงร่วมกันเพื่อป้องกันการเกิดปัญหา และนักปั่นต้องมีคุณธรรมเบื้องต้น อาทิเช่น ต้องลดอัตตาตนเอง มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่เห็นแก่ตัว ไม่เบียดเบียน เสียสละช่วยเหลือผู้ที่ด้อยกว่า บางกลุ่มที่ออกทริปร่วมกัน ไปกัน 5-6 คน ถึงที่หมาย 2 คน บางกลุ่มถึงกับวงแตก อยากจะเห็นนิสัยที่แท้จริงเขาบอกว่าให้ปั่นท่องเที่ยวร่วมกันซัก 7 วัน

3. แบบกลุ่มใหญ่ ตั้งแต่ 6 คนขึ้นไป ต้องมีระบบการจัดการแบบเป็นทางการ ข้อตกลงรายละเอียดต้องชัดเจนและค่อนข้างละเอียด
เชิญสมาชิกแลกเปลี่ยนเพิ่มเติมได้ครับ

สำหรับฉันมีประสบการณ์ในการขี่จักรยานทัวร์ริ่งฉายเดี่ยวมานานแล้ว ซึ่งไม่มีความรู้สึกเหงา เพราะไม่อยากมีปัญหากับเพื่อนติดตามที่อึดอัดใจเป็นทุนเดิม นอกจากป้องกันเหตุการณ์เรื่องร้ายๆ ฉันต้องช่วยเหลือประคองตัวเองให้รอด ค่อยหาชาวบ้าน (ที่ฉันรู้ว่าจะดี) ในพื้นที่ช่วยกันแก้ปัญหาได้แล้วประสานตำรวจทันที แม้ว่าอุบัติเหตุล้มทางทางที่ไหน ต้องเอาบัตรประกันสังคม หรือบัตรประกันภัยติดตัวไปด้วย

...ปกติ ฉันบอกว่า ข้อที่ 2 กลุ่มย่อยเล็กๆ เป็นเรื่องคาใจมีปัญหาระหว่างชายกับหญิงที่ไปร่วมแบบหญิงคนเดียวในกลุ่มชาย ทำให้ฉันได้รับกระทบจิตใจเป็นแผลในใจใหญ่ตลอดมา 7 ปี ความทรงจำที่เลวร้ายมากที่สุดในชีวิตฉัน เพราะนักปั่นผู้ชายไม่มีคุณธรรม ไม่เอื้อเฟื้อสตรี ปล่อยทิ้งกลางคันให้ผู้หญิงขี่คนเดียวโดยไม่มีการช่วยเหลือใดๆ ฉันต้องช่วยเหลือให้รอดพ้นถึงที่สุดแล้ว นึกคิดมาดูว่า ไอ้สองคนนั่นเป็นคนเลวระยำ มองเห็นฉันเป็นผู้หญิงสร้างปัญหาให้มันรับรู้ "ความอึดอัด" ออกมาให้ฉันเห็นเป็นเรื่องปัญหาจะอยู่ทริปเดียวกันไม่ได้แล้ว เลยเกิดเรื่องออกมาให้ทำวงแตกไปโดยเลิกคบกันทันที ส่วนใหญ่ผู้ชายมองเห็นว่าผู้หญิงเป็นเรื่องจุกจิกมากเกินไป

ตอนนี้ ฉันมีปัญหาเข้าร่วมกิจกรรมทริปอื่นๆ ไม่ได้ จึงเลือกข้อ 1 เป็นวิธีดีที่สุด คือ ไม่ต้องมีเพื่อนร่วมทางไปด้วย ฉันไม่สร้างปัญหาให้เพื่อนอีก และออกฉายเดี่ยวก็สบายใจอยู่แล้ว ต้องมีความระมัดระวังตัวเองให้รู้ตัวด้วย เพื่อไม่ให้ฉันเป็นโรคซึมเศร้าอีกแล้ว

ข้อเสียคือ เหงา ไม่มีคู้คิด ไม่มีที่ปรึกษาป้องกัน ขึ้นอยู่กับบุคคลบางคนเท่านั้น

ฉันมีอิสระบินเดี่ยว พร้อมเรียนรู้ในโลกกว้างที่ฉันอยากไปค่ะ

[siamman18]

การปั่นเป็นกลุ่มมันก็ต้องดูสังขาร กลุ่ม กับสังขารเราเป็นหลัีกด้วยน่ะครับ ถึงจะจูนกันติด
สังขารคือ กายภาพ ประสิทธิภาพในการปั่นได้ อึด ถึุกขนาดไหน ถ้าตามไ่ม่ทัน ก็จะเริ่มหงิกจูนกันไม่ติดน่ะครับ
ส่วนใหญ่เป็นผมก็ปั่น คนเดียวซะด้วย ไม่เคยปั่นเป็นกลุ่ม เพราะค่อนข้างจะปรับระบบยากพอสมควร
จะพักจะนั่งก็ เกรงใจชาวบ้านเขาน่ะครับ...

[TERRANO]

ถ้าจะปั่นให้สนุก ต้องไปกลับเพื่อนที่รู้ใจกัน ปั่นแนวเดียวกัน ช่วยเหลือกัน ไม่บ้าเอาแต่ปั่นกันอย่างเดียว
ถ้าให้ไปกับกลุ่มอื่น ไปคนเดียวหนุกกว่าเยอะ

[เสือเฒ่าเจ้าท่า]

.... ได้ไปปั่นร่วมทริปอยู่บ่อยๆ ถ้าเป็นทริปใหญ่ๆส่วนมากจะไม่ค่อยเห็นใจซึ่งกันและกัน ตั้งหน้าตั้งตาปั่นกันไป ไม่เคยเหลียวมองดูเพื่อนข้างหล้งเลยว่าเป็นอย่างไร บ่อยมากที่ผมมักจะคอยอยู่ท้ายๆเพื่อประคองหรือเป็นเพื่อนสมาชิกที่ร่วมทริปให้ไปด้วยกัน แต่ดีที่ทริปที่ผมไปส่วนใหญ่ผู้ดูแลทริปมักเอาใจใส่คอยช่วยเหลือ แต่เพื่อนๆที่ปั่นกันไปกลับไม่ค่อยที่จะสนใจ ก็กลายเป็นบางทีคนที่ช้าก็จะต้องปั่นไปให้ถึงที่หมายเพียงคนเดียว เรารู้ว่าคุณขาแข็งขาแรงแต่การไปทริปใหญ่ๆควรจะรอกันขี่กันไปคุยกันไปไม่ใช่ตั้งหน้าตั้งตาที่จะเอามันส์อย่างเดียว ทริปล่าสุดที่ไปมา ได้เจ้าถิ่นเป็นผู้นำปั่นเหมือนจะไปแข่งขัน เพื่อนๆขาอ่อนหลงกันเป็นแถว ไม่เห็นใจกันบ้างเลย ถ้าให้เลือกผมก็ว่าปั่นมันคนเดียวดีกว่า แม้จะเหงาไปบ้างก็ไม่สร้างความรำคาญให้กับใคร อยากจะหยุดจะพักตรงไหนก็ได้ เมื่อไหร่ก็ได้ ผมว่านะ.....

[นฤพนธ์]

จุดหมายเป็นเพียงสถานที่ ความสุขระหว่างทางที่ทำให้เรามีแรงที่จะปั่นต่อไปหรือหยุดพักชมความงามของสถานที่แห่งนั้น เพือนร่วมทางอาจทำให้เราหายเหงาหรือเหงามากขึ้นขึ้นอยู่กับความเข้าใจซึ่งกันและกัน มาด้วยกัน ไปด้วยกัน ข้อดีของการมีเพื่อนร่วมทางคือ ตัวเราเองจะได้มีรูป เราเองก็ได้นายแบบ ได้ภาพคนขี่จักรยานในเส้นทางสวยๆตามที่ต้องการด้วยครับ

[ขวัญใจ]

ได้รับความรู้ ประสบการณ์ ปัญหา/อุปสรรค จากเพื่อน ๆ สมาชิก สรุปส่วนใหญ่เห็นว่าปั่นคนเดียวดีกว่า
ปั่นแบบกลุ่มย่อยนักปั่นไม่มีคุณธรรมเบื้องต้น เช่น เห็นแก่ตัว / ไม่ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน /
ไม้มีความเอื้อเฟื้อเผื่อสำหรับผู้มีความสามารถน้อยกว่า คิดว่าตัวเองเก่งอย่างเดียว
ขาแข็งปั่นได้เร็วกว่าเพื่อน ความหมายของทัวริ่ง คือ การปั่นแบบท่องเที่ยว ความเร็วไม่น่าเกิน 25
อัตตราเฉลี่ย 20 กม./ชม.ปั่นไปเรื่อยเหนื่อยก็หยุด หิวก็กิน หยุดชมวิวทิวทัศน์ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก นักปั่นทัวริ่งต้องรักการปั่น
รักท่องเที่ยว รักธรรมชาติ รักวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น นักปั่นจักรยานทัวริ่งที่ดีต้องมีการช่วยเหลือผู้ที่มีความสามารถน้อยกว่า
มีความรักความเมตตาต่อเพื่อนร่วมทีม มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีความสามัคคัในหมู่คณะ ถึงที่หมายในแต่ละวันพร้อม ๆ กัน
เชื่อได้ว่าถ้าทุกคนในทีมมีศิลเสมอกันและมีคุณธรรมเบื้องต้น น่าจะทำให้การปั่นแบบท่องเที่ยวมีความสุข
และประสบความสำเร็จ
ประสบการณ์ปั่นแบบกลุ่มย่อยในระยะ 2 ปี 1.ทริปฮานอย 4 คน 2.ทริปหลวงพระบาง 4 คน
3.ทริปสิบสองปันนา 5 คน 4.ทริป เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน(4 คน) 5. ทริปทุ่งดอกกระเจียว-เขาค้อ-ทุ่งแสลงหลวง (4 คน)
6. ทริปดานัง(4 คน) 7. ทริปภูทับเบิก ( 3 คน) 8.ทริปสองฝั่งทะเลเลี้ยวซ้ายเกาะลังกาวี (2 คน)
9. ทริป 2 ภู กับ 1 เขา กะอีก 1 ทุ่ง (ภูหินร่องกล้า - ภูทับเบิก - เขาค้อ -ทุ่งแสลงหลวง) 4 คน
10. ทริปฉายเดี่ยว พิษณุโลก-เชียงใหม่
สรุป ปั่นกลุ่มย่อย 9 ครั้ง ปั่นฉายเดี่ยว 1 ครั้ง จะจัดทริปชวนปั่นเลาะฝั่งโขงชมบั้งไฟพญานาคเลี้ยวซ้ายที่ปากเซ
(9-28 ต.ค.54)จัดแบบกลุ่มใหญ่ สนใจดูลิ้งค์ข้างล่างครับ เชิญสมชิกโพสแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 7&t=348440

[rainbow]

เมื่อขี่ปั่นกันไปสองคน เงื่อนไขการตัดสินใจในเรื่องใดๆ ก็เป็น 50 / 50
การขี่ปั่นไปกลุ่มหนึ่ง ติ้ดต่างว่า 10 คัน ความเป็นตัวตนของคุณต่อหน้ากลุ่มก็เหลือเพียง 1 / 10
ทัวริ่งไปเป็นขบวนเท่าไรก็เหลือเล็กลงไปเท่านั้น นี่คือความเป็นจริงที่เราเอาตัวตนเข้าเป็นใหญ่ไม่ได้
และทันทีที่คุณเริ่มเดินทางคนเดียว เสียงการตัดสินใจจะเป็นเพียงหนึ่งเต็ม นั่นคือ 100%

แม้จะเหงาไปบ้าง แม้จะต้องรอบคอบขึ้น แต่หากได้ลงมือลองไปแล้ว
ก็จะติดใจ แรกๆก็เหงาเซ้งไปตามเรื่อง คนมันไม่เคย แต่ถ้าแลกเปลี่ยนกับบัดดี้งี่เง่า
คนทิ้งเพื่อน อย่างที่หลายคนเล่าเจอมา เราไปเองของเราดีกว่า ดีกว่ามากมาย

[ขวัญใจ]

ปั่นทัวริ่ง (ท่องเที่ยว) ปั่นแบบไหนถึงจะดีและมีความสุข
1.ปั่นเดียว (ฉายเดียว/ข้ามาคนเดียว)
2.ปั่นกลุ่มย่อย ( 2 - 6 คน)
3.ปั่นกลุ่มใหญ่ ตั้งแต่ 6 คนขึ้นไป

เชิญเพื่อนสมาชิกแสดงความคิดเห็นถึงข้อดี / ข้อเสีย และข้อเสนอแนะ

[rainbow]

ดีและมีสุข ขึ้นกับนิยามของแต่ละคน เป็น "อัตวิสัย" ไม่ใช่ "ปรวิสัย"
สำหรับผม ขี่คนเดียวดีที่สุด เมื่อสรุปรวมจากประสบการณ์อดีตช่างตวงวัดแล้ว
แต่ไม่ได้หมายความว่า เดี่ยวคือดีที่สุดที่ทุกคนจะต้องมาเห็นด้วย

[ขวัญใจ]

ความหมายดีและมีสุขนั้น ให้อยู่ที่ตามแนวคิดของแต่ละบุคคล เราอยากได้ความรู้ประสบการณ์แต่ละท่านเพื่อเป็นแนวทาง ข้อคิด สำหรับนักปั่นทัวริ่งในแต่ละทริป
ความเห็นของแต่ละคนไม่มีถูก ไม่มีผิด ทุกความเห็นมีค่าในการศึกษาครับ ช่วยแสดงความคิดเห็นมาก ๆ ครับ เป็นประโยชน์จริง ๆ

[sookchat]

การปั่นทางไกลให้มีความสุข ผมว่าถ้าเราไปเป็นกลุ่มเราต้องใจเย็นใครว่าอย่างใรก็อย่าไปขัดเขา เราก็จะสบาย แต่ถ้าเราไปคนเดียวมันก็ดี ไม่ต้องไปคอยเกรงใจใครคิดจะจอดก็จอด แต่เราต้องช่วยเหลือตัวเองได้ แต่ปั่นคนเดียวผมยังไม่เคยไปกางเต๊นส์ แต่นอนบ้านญาติหรือโรงแรมเท่านั้น ส่วนไปกันหลายคนก็ดีเวลากางเต๊นส์ก็ไม่เหงา มีคนคอยช่วยดูแลกันช่วยเหลือกัน มันก็ดีไปคนละแบบ ยังใงเราก็ต้องเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกันมันก็จะมีความสุขตลอดทริป

[ขวัญใจ]

ทริปกลุ่มย่อย 5 คน (ภูหินร่องกล้า,ภูทับเบิก,เขาค้อ และ ทุ่งแสลงหลวง) 12-14 ส.ค.54