เรื่องของวัยกับนักปั่น ฤาอายุเป็นแค่ตัวเลข?
- พล 347
- ขาประจำ
- โพสต์: 1101
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 20:24
- team: 347 Cycling Team
- Bike: Cannondale EVO
- ติดต่อ:
เรื่องของวัยกับนักปั่น ฤาอายุเป็นแค่ตัวเลข?
ทำยังไงจึงจะปั่นจักรยานดีขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น ไม่มีใครเลยวัยปั่นจริง ๆ หรือ
ไม่มีเหตุผลใด ๆ ที่เรา ๆ ท่าน ๆ ไม่สามารถรักษาฟอร์มการปั่นกันได้เมื่ออายุมากขึ้น
นักปั่นหลายคนปั่นดีขึ้นเมื่ออายุ 50 ปีดีกว่าตอนอายุ 40 เสียอีก เรื่องของเรื่องก็อยู่ที่
ความรู้ความเข้าใจในกระบวนการ แก่ (aging) และเสาะหาการฝึกซ้อมที่ถูกต้องเหมาะสมครับ
เกิดอะไรขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น
เรารับรู้กันโดยทั่วไปว่าอายุที่เหมาะสมคนส่วนใหญ่ประสบความสำเร็จในอาชีพกีฬาอยู่ในช่วง 20-35 ปี
เพราะเป็นวัยที่การผสมผสานระหว่างความแข็งแกร่งของร่างกาย ความทนทานของกล้ามเนื้อ สภาพจิตใจ
และประสาทสัมผัสตอบสนองอย่างสมบูรณ์ที่สุด ข้อยกเว้นก็อาจมีบ้าง อย่างเช่นกีฬาประเภทยิมนาสติก
ที่ต้องการความยืดหยุ่น และการสอดคล้องการประสานงานของกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ มากกว่าพละกำลัง
หรือความทนทานส่วนใหญ่จะอายุไม่เกิน 20 ปี
กราฟนี้แสดงสมรรถนะของการออกกำลังกายตามช่วงอายุของบุคคล 3 พวกที่แตกต่างกัน
ไล่มาตั้งแต่พวกที่ไม่ออกกำลังกายเลยจนถึงประเภทอิลิท หรือระดับโปร มืออาชีพหรือทีมชาติก็ว่าได้
ช่วงอายุ 20 ปีถึง 35 ปี ดูเหมือนจะเป็นช่วงที่ร่างกายมีศักยภาพที่จะมีสมรรถนะของร่างกายได้สูงสุด
แล้วจะค่อย ๆ ลดลงประมาณ 2% ต่อปี ขึ้นอยู่กับว่าใครจะยังคงรักษาวินัย คุณภาพการฝึกซ้อมอย่าง
สม่ำเสมอได้มากน้อยแค่ไหน
แต่นักปั่นกลุ่มที่ 2 เส้นสีฟ้า ซึ่งเริ่มหันมาปั่นจักรยานเมื่ออายุเลยช่วง 30 ปี (late starter)
กลับมีสมรรถนะดีขึ้นเรื่อย ๆ จนอายุ 50ปีได้ กลายเป็นเรื่องตรงข้ามครับ แทนที่จะลดลงกลับสวนทางไปเลย
นักปั่นกลุ่ม 1 และกลุ่ม 2 จะเป็นพวกที่มีความสุขกับประโยชน์ของสมรรถนะและสุขภาพกายที่ดีได้
ในอีกหลายปีต่อมา เมื่อเทียบกับบุคคลกลุ่มที่ 3 ที่แทบไม่ได้ออกกำลังกายเลยนั้น จะพบกับการ
ถดถอยของร่างกายอย่างรวดเร็วตั้งแต่วัย 30 ต้น ๆ ด้วยซ้ำไป
และแน่นอนครับในกีฬาอย่างจักรยานที่ตกอยู่ตรงใจกลางพอดิบพอดีของทั้งความอึด ทนทาน ความเร็ว แรงและพละกำลัง
นักกีฬาส่วนใหญ่เริ่มนับวันก้าวถอยหลังเมื่ออายุ 30 กลาง ๆ
ผลกระทบของวัยต่อร่างกายคนเราในวัยนี้ น่าทึ่งมากครับ ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
ความเข้มข้นของมวลกระดูก รวมถึงประสิทธิภาพระบบหายใจทั้งหมดเริ่มลดลง
ว่ากันง่าย ๆ แค่เพื่อต้องการปั่นให้ได้ความเร็วเท่าเดิม ที่เคยทำได้สมัยหนุ่ม ๆ
ให้ได้นั้น ก็..พอทำได้....แต่...เหนื่อยและต้องใช้เวลานานขึ้นครับ
ความเป็นจริงก็คือเราปั่นได้ไม่แรงเหมือนเดิมเสียแล้ว ระบบเผาผลาญพลังงาน (เมตาโบลิซึ่ม - จำนวนแคลอรี่ที่ร่างกาย
ต้องการใช้ในแต่ละวัน)เริ่มเปลี่ยนแปลง ทำให้เริ่มมีไขมันเหลือใช้สะสมมากขึ้น หรืออ้วนง่ายขึ้นนั่นเอง ระบบภูมิต้านทาน
ต่าง ๆ เริ่มลดลง เริ่มสูญเสียความสามารถในตรวจจับการต่อสู้กับเชื้อโรคต่าง ๆ ทำให้ป่วยง่ายและบ่อยขึ้น
แถมใช้เวลานานในการรักษาอีก ที่แย่ไปกว่านี้ก็คือมันจะเริ่มแย่ลงไปเรื่อย ๆ และเรื่อย ๆ เมื่อเราอายุมากขึ้น
เฮ้อ ! เหนื่อย !!!
แต่ ... ในขณะที่คนส่วนใหญ่คิดว่าเราไม่สามารถทำได้ดีมากไปกว่านี้หลังจากอายุเลย 35 ไปแล้ว
กลับมีสิ่งที่พบเห็นได้บ่อยขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวงการจักรยานก็คือมันได้รับความนิยมมากขึ้น
ในกลุ่มคนที่อายุมากขึ้น ในทริปจักรยานหรือสนามแข่งจักรยานส่วนใหญ่ ไม่ว่าบ้านเราหรือที่ไหน ๆ
ก็จะพบว่ากลุ่มนักกีฬารุ่นอายุ 35-45 ปี มักเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดในเสมอ หรือลองสังเกตุดูนักปั่นใน
แต่ละก๊วนหรือกลุ่ม ก็ยิ่งชัดเจน คนกลุ่มนี้เริ่มหันมาปั่นจักรยานในช่วงปีที่น่าจะเลยวัยที่ตัวเอง
มีศักยะภาพทางสมรรถนะทางกายสูงสุดไปแล้วด้วย แต่ที่สำคัญ หลายคนยิ่งปั่นยิ่งแรงดีวันดีคืนด้วย
ทำไม
เรื่องของเรื่องก็คือเราครับ ตัวเราเองนี่แหละ สามารถลด ตัด ทอน หรือไล่บี้ ฉีกหนีผลกระทบของวัยต่อร่างกาย
(ในแง่ประสิทธิภาพการปั่นนะครับ) ทิ้งได้โดยไม่มีเยื่อใย โดยการทำความรู้ความเข้าใจและสร้างโปรแกรม
การซ้อมและฝึกฝนร่างกายที่ถูกต้องครับ มีการค้นพบว่าแค่การฝึกซ้อมเบา ๆ ที่เหมาะสมสำหรับวัยเลย 30
ยังสามารถส่งผลให้เรารักษาคุณภาพของ ‘สุขภาพ’ และ ‘ไลฟ์สไตล์’ ได้ในอีกหลายปีต่อมาทีเดียว
มีงานวิจัยที่ศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจังมาและต่อเนื่องหลายปีระบุว่า ความฟิตพร้อมของร่างกาย
(fitness)ของบุคคลทั่วไป ที่ไม่ค่อยได้ออกกำลัง ถดถอยลงถึง 6-10% ได้ใน 10 ปี
เมื่อย่างเข้าวัยกลางคน เมื่อเทียบกับการลดลงแค่ 2% (ใน 10 ปี)ในกลุ่มบุคคลที่ออก
กำลังกายที่ถูกต้องและสม่ำเสมอ ดังนั้นแทบไม่เป็นที่แปลกใจเลยที่คนอายุ 65 ปี
(ย้ำนะครับ ที่ consistently well-trained) อาจมีสุขภาพร่างกายดีกว่ากลุ่มคน
อายุน้อยกว่าถึงหนึ่งในสามที่ไม่ค่อยออกกำลังกายเสียอีก
ไม่มีใครเลยวัยปั่น จริงหรือ
ถึงแม้ว่ามันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะบรรลุถึงสมรรถนะสูง (performance potential)
เทียบเท่าที่เราเคยทำหรืออาจทำได้สมัยยังหนุ่มแน่นไวไฟ หรือในวัยที่สามารถมีศักยภาพทางสมรรถนะสูงสุดได้
แต่ความเป็นจริงก็คือพวกเราส่วนใหญ่ในทางปฏิบัติแล้ว (เน้นนะครับว่าส่วนใหญ่ที่หันมาปั่นมากขึ้นตอนอายุมากแล้ว)
ก็ไม่เคยบรรลุสมรรถนะสูงสุดที่ร่างกายควรจะทำได้เมื่อยังเยาว์วัยอยู่ดี เรื่องของเรื่องก็เพราะตอนนั้น
ยังไม่ได้ปั่นจักรยานเป็นบ้าเป็นหลังเหมือนตอนนี้นี่ครับ ซึ่งอาจจะมาจากภาระหน้าที่ การเรียน การงาน
ครอบครัวสังคม หรือสู้แรงจูงใจด้านอื่นไม่ได้ เช่นมัวแต่ไปเหล่สาว เป็นต้น ย้ำอีกที ในเมื่อเราไม่สามารถ
ทำได้ดีเทียบเท่าในอดีตที่เราควรจะสามารถทำได้ (ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ได้ทำหรอก)
เพราะฉะนั้นในปัจจุบันเราควรจะทำได้ดีกว่าในอดีตที่เราได้ทำจริง ๆมา
หรือมีความเป็นไปได้มากขึ้นที่เราจะทำได้ดีกว่าเดิมเมื่อวัยสูงขึ้นครับ ชักงง !
แล้วถ้าเราเริ่มปั่นจักรยานเมื่อวัยมากขึ้น เช่น ที่วัยเกิน 35 ปี ซึ่งเราก็พบแล้วว่าคนส่วนใหญ่หันมา
ปั่นกันในวัยนี้กันมากขึ้นนั้น การถดถอยของความฟิตพร้อมของร่างกายปกติที่ ลดลงได้ 1-2% ต่อปี
ก็น่าจะสามารถทำให้มลายหายไปได้ด้วยการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ระบบการฝึกซ้อม
อาหารการกินและไลฟ์สไตล์เสียใหม่ แล้วเราก็จะพบเองว่าระดับความฟิตพร้อมของ
ร่างกายนั้นแทนที่จะลดลงตามวัย กลับตรงข้ามครับ เราสามารถกระชากวัยทิ้ง
ไต่ระดับสมรรถนะได้สูงขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงจุดสูงสุดที่อายุ 50 ปีกว่าได้ครับ
ดูจากรูปอีกครั้ง
เส้นสีแดงคือกลุ่มนักกีฬาระดับตัวจริงทั้งหลายแหล่ ทีมชาติ ทีมเขต ทีมนักเรียนยันมหา ฯ ลัย หรือแม้กระทั่งนักกีฬาอาชีพ พวกที่เริ่มฝึกซ้อมออกกำลังกายตั้งแต่อายุ 12-15 ปี และ (ต้องย้ำครับ) ยังคงฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง ไม่ปล่อยตัวอ้วนท้วนสมบูรณ์ พวกนี้สมรรถนะจะสูงสุดอยู่ในวัย 25-30 ปี ก่อนไต่ระดับลงมา แต่ก็รักษาระดับไว้ดีเยี่ยมและดีตลอดทุกช่วงวัย ถ้าเอ่ยชื่อก็กลุ่มคนอย่าง โกเหลียง หรืออดีตนักปั่นทีมชาติหลายคนที่ยังขึ้นยืนบนแท่นโพเดียมในเกือบจะทุก ๆ สนาม เป็นประจำ นั่นแหละครับ นักปั่นกลุ่มนี้ สามารถรักษาสมรรถนะทางกายได้สูงกว่าทุกกลุ่ม ทุกช่วงอายุครับ
เทียบกับกลุ่ม 3 เส้นสีเขียว บุคคลทั่วไปส่วนใหญ่อยู่กลุ่มนี้ ไม่มีประวัติการออกกำลังกายมาตั้งแต่เด็ก หรือออกกำลังกายนิด ๆ หน่อย (หัวใจไม่เคยเต้นเกิน 70% นานมากกว่า ครึ่งชั่วโมง) ทำงานออฟฟิส พักผ่อนกับบ้าน เดินเล่น ดูหนังฟังเพลง สมรรถนะร่างกายพวกเขาไม่เคยผ่านเส้นเฉลี่ยและตกลงอยู่ในระดับแย่อย่างรวดเร็วเมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไป
กลุ่มที่สอง เส้นสีฟ้า เส้นระหว่างสองเส้นข้างบน พวกนี้คือกลุ่มพวกเรา ๆ ท่าน ๆ ครับ ที่หันมาฝึกฝนออกกำลังกายปั่นจักรยานสม่ำเสมอกันเมื่ออายุมากแล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถหันไปต่อกรหรือแข่งขันกับกลุ่มแรกได้ แต่ก็พบว่ายังมีศักยะภาพสูงที่จะสามารถพัฒนาสมรรถนะให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ จนอายุใกล้เคียง 50-60 ปีเลยทีเดียว ตรงนี้แหละครับที่น่าสนใจ
พรสวรรค์หรือพรแสวง
จะเรียกว่าอะไรก็ได้แต่ เรื่องของเรื่องก็คือนักปั่นกลุ่มสองที่หันมาเอาจริงเอาจังกับการแข่งขันก็อย่าท้อใจไปเลยครับ
ที่ฝึกซ้อมมากขนาดไหนยังไงก็ยังยากที่จะเอาชนะกลุ่มที่ 1 ได้ (ย้ำ ที่มีการซ้อมที่ไม่แตกต่างกันนะครับ)
อันนี้เป็นโอกาสของแต่ละคนครับ ซึ่งส่วนใหญ่เราก็พบเห็นบ่อย ๆ แล้วว่าใครก็ตามที่จะเป็นนักกีฬาระดับโลกได้นั้น
ไม่ว่าจะเป็นอย่างนักปั่นอย่าง แล๊นซ์ อาร์มสตรอง นักฟุตบอล นักว่ายน้ำ นักมวย นักเทนนิส อย่างภราดร
หรือแม้กระทั่งนักกอล์ฟอย่าง ไทเกอร์ วู้ด พวกเขาเหล่านั้นหันมาฝึกฝน เสริมสร้างทักษะ พละกำลัง
ความแข็งแกร่ง ความทนทาน จนฝังอยู่ใน กระดูก กล้ามเนื้อ ลมหายใจ กันตั้งแต่เด็ก ๆ
จนแทบจะกลายเป็นดีเอ็นเอ ไปแล้วครับ
จะยังไงก็ตามแต่ สำหรับนักปั่นเพื่อสุขภาพอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ คราวนี้เห็นทีจะหมดข้ออ้างเสียแล้ว
ว่าเป็นนักปั่นเลยวัย แล้วจะไม่สามารถไล่ตามนักปั่นขาแรงหนุ่ม ๆ ทั้งหลายทัน ถ้าแค่เพิ่งหันมาปั่นด้วยกัน
(หรืออยู่กลุ่มสองสีฟ้าเหมือนกัน) ก็สามารถสู้เขาได้ครับ และก็ควรจะดีกว่าด้วย คนอายุ 50 ปี
ก็ต้องปั่นได้ดีกว่าคนอายุ 40 ปี แต่ก็นั่นแหละแค่รู้แต่ไม่ลงมือฝึกฝนกันจริง ๆ จังก็คงจะเห็นผลได้ยาก
อ่านเรื่องนี้แล้วรู้สึกว่า เราไม่ได้แย่หรือเกินวัยปั่นไปเสียทีเดียว ยังมีความเป็นไปได้ที่จะปั่นได้ดีกว่าหนุ่ม ๆ
ขาแรงอีกตั้งเยอะ เกิดแรงบันดาลใจขึ้นมามากพอที่จะทำให้ตื่นเช้า ๆ ขึ้นมาเข็นจักรยานออกไปปั่นกับ
เพื่อนฝูงอีกซักรอบสองรอบได้ ปีใหม่นี้เห็นทีต้องเปลี่ยนแนวทางฝึกซ้อมเสียใหม่แล้วครับ
วัยเด็ก มีแรง มีเวลา ไม่มีเงิน
วัยทำงาน มีแรง มีเงิน ไม่มีเวลา
วัยชรา มีเงิน มีเวลา แต่ไม่มีแรง (ปั่น) ซะแล้ว
ใครไม่รู้เขียนบทความนี้ไว้ คงจะถูกใจคนหลายคน รวมทั้งผมด้วยครับ
อ่านแล้วรู้สึกใจหายวูบ กลัววัยชรามาเยือนครับ รีบจูงจักรยานไปปั่นเลย...
เอ้า...แล้วจะซ้อมกันยังไงละเนี่ย ไม่เห็นบอกเลย
แย้มนิดหนึ่ง อ่านแล้วอึ้งเลยครับ ตรงข้ามกับที่ความรู้ความเข้าใจเดิม ๆ ทุกอย่าง
แต่ขอเก็บ (กั๊ก)ไว้ต่อคราวหน้าครับ แฮ่ม !
- พล 347
- ขาประจำ
- โพสต์: 1101
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 20:24
- team: 347 Cycling Team
- Bike: Cannondale EVO
- ติดต่อ:
Re: เรื่องของวัยกับนักปั่น ฤาอายุเป็นแค่ตัวเลข?
กลัวโปรเบียร์จะไม่ได้นอน ขอฝากอีกซักตอนครับ
ได้เวลาปั่นกระชากวัยแล้วครับ
จะว่ากันเป็นเรื่อง ๆ ไปครับ โดยเริ่มต้นด้วยระบบกล้ามเนื้อ กระดูก ไขมันและมวลกาย
จนถึงระบบประสาทกันเลย เนื้อหาหลักยังเป็นการนำเสนอแนวความคิดและหลักการสำคัญ ๆ นะครับ
Use it or lose it
ใช้งานมันก่อนจะไม่มีให้ใช้ หนามยอกเอาหนามบ่งครับ
ระบบกล้ามเนื้อ
ผลของวัยต่อกล้ามเนื้อ
ความแข็งแกร่งลดลง เส้นใยกล้ามเนื้อ (muscle fibre) เริ่มเสียสมดุลย์ โดยจะหันไปเพิ่มประเภท
type I slow-twitch มากขึ้น และลดปริมาณของ type II fast-twitch ลง
ใครเรียนวิชาสุขภาพอนามัย สมัย ม. ต้น ถ้ายังพอจำกันได้ ลูกผมเรียนอยู่พอดี
ได้เวลาเรียกเอามาใช้แล้วครับ เส้นใยกล้ามเนื้อของคนเรามี 2 ประเภท
ประเภทที่ 2 หรือ type II-fast twitch เป็นกล้ามเนื้อของหนุ่ม ๆ
แคล่วคล่อง ไวไฟ เร็วและแรง แต่ไม่อึด คล้าย ๆ กับเบนซินหมุนเร็ว เปิดปุ๊บ ติดปั๊บ ทำนองนั้น
เป็นเส้นใยที่เกี่ยวข้องกับ ความแข็งแกร่ง ทำนองเข็ง(แกร่ง) เร็ว ยืดเร็ว หดเร็ว
ซึ่งเหมาะสำหรับการออกกำลังที่มี ความหนักหน่วงสูง แต่ไม่อึด ไม่ทน ไม่นาน
พบมากในวัยหนุ่ม สาว ทำให้พวกนี้กระฉับกระเฉง ว่องไว ปานกามนิตหนุ่ม พวกนักสปริ้นเตอร์ หรือพวก
ชอบตีหัวหน้าเส้น นั่นแหละเหมาะ
ส่วนอีกพวกก็ type I-slow twitch ตรงข้ามกับพวกแรก เป็นประเภทหนุ่มเหลือน้อย
แข็ง(แกร่ง)น้อย ช้าหน่อยแต่นาน อึด ทน ทำนองนั้น ก็คงคล้าย ๆ ดีเซล หมุนช้า
เหมาะสำหรับนักปั่นทางไกล หรือนักวิ่งมาราธอน พบมากขึ้นในคน ส.ว. (สูงวัย) ครับ
เอ๊ะ เรากำลังพูดถึงเรื่องอะไรกันเนี่ย อย่าไขว้เขว
แล้วไงต่อมันมีความหมายอะไร
ว่ากันง่าย ๆ เมื่ออายุมากขึ้น กล้ามเนื้อพวกนี้ก็เริ่มสูญเสียมวล ความยืดหยุ่น เปราะ
ความสามารถยืดหดตัว ก็คือมีอาการสึกหรอและหย่อนยานนั่นแหละ
ส่งผลให้มีการปวดร้าวตามข้อต่อได้ง่ายขึ้น เราจะรู้สึกว่าไม่สามารถฝึกซ้อม
ได้เข้มข้นเหมือนเดิม ที่สำคัญก็คือ นักปั่น สว จะปั่นกันไม่เร็วพอครับ
ส่วนเหตุผลที่ปั่นไม่เร็วพอก็คือ เพราะพวกเขาปั่นไม่เร็วพอ
นั่นเอง เหตุคือผล ผลคือเหตุ ครับ เป็นไง งงมั๊ย
การสูญเสียมวลกล้ามเนื้ออันเป็นเรื่องปกติของวัยจะลดทอนความแข็งแกร่งและพลังที่พึงสร้างได้
แต่ที่แย่ไปอีกก็คือ การฝึกซ้อมตามปกติส่วนใหญ่ของคนวัยนี้ก็คือมักปั่นระยะไกล แต่ปั่นช้า
ประเภทฝึกความอึด (endurance) เป็นหลักนั่นแหละครับ การซ้อมแบบนี้กลับช่วยกระตุ้น
อัตราการเปลี่ยน เส้นใยกล้ามเนื้อ จาก type II fast-twitch ไปสู่ type I slow-twitch
หรือ endurance มากขึ้นไปอีก ว่ากันง่าย ๆ การฝึกซ้อมปั่นที่ ”ช้า” ลงนี้ไปส่งเสริม
กระบวนการ ”ช้า” ของร่างกายให้มากขึ้นครับ มันยิ่งแต่จะทำให้แย่ลงไปใหญ่ครับ
ดังนั้นนักปั่น สว ทั้งหลายต้องวางเป้าหมายหลักในการฝึกซ้อมเสียใหม่โดยอยู่ที่การ
ลดทอนผลของวัยต่อกล้ามเนื้อเป็นหลักครับ โดยต้องเน้นไปที่ การฝึกซ้อมที่สั้นขึ้น
เร็วขึ้น แรงขึ้น ซึ่งก็คือพวก อินเทอร์วอล (interval) ให้มากขึ้นนั่นเอง
แทนที่จะเป็นพวก endurance ตามแบบเดิมซึ่งมีผลน้อยมาก
ต่อการป้องกันการแปรสภาพของกล้ามเนื้ออันเนื่องมาจากวัย
การฝึกซ้อมแบบเข้มข้น หนักหน่วงของนักปั่น ส.ว. จะส่งผลให้มีการเสริมสร้างเส้นใย
กล้ามเนื้อได้เท่า ๆ กันคนที่หนุ่มกว่ามาก ๆ ได้เหมือนกันเลยครับ เพราะฉะนั้น
รู้ยังงี้แล้วก็ต้องหาโปรแกรมฝึกซ้อมที่เน้นพิเศษพาะทางด้าน
cycle specific strength training กันให้มากขึ้น เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งครับ
ทั้งยังช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับกล้ามเนื้อและรอยต่อแล้วยังรวมถึงเป็นฝึก
ให้กล้ามเนื้อทนทานต่ออาการบาดเจ็บ สึกหรออีกด้วย
แต่ทั้งนี้ทุกครั้งก่อนและหลังโปรแกรมซ้อมเหล่านี้ ต้องมั่นใจว่า มีการวอร์มอัพ
คูลดาว์น ร่างกาย รวมทั้งการยืดกล้ามเนื้อ อย่างถูกวิธี จะช่วยลดอาการ
ปวดเมื่อยล้าของกล้ามเนื้ออันเนื่องจากวัยได้ดีครับ
ว่าแล้วก็กางตำรา เสาะหาการฝึกซ้อม interval กันให้มากหน่อยละครับ
ส่วนใครจะถนัดแบบไหน ประเภทไหน ซ้อมที่ไหน กับใคร ที่เหมาะกับตัวเอง
ก็ว่ากันตามสบายครับผม ถ้าหาไม่ได้กันจริง ๆ เดี๋ยวมีแจกครับ
ได้เวลาปั่นกระชากวัยแล้วครับ
จะว่ากันเป็นเรื่อง ๆ ไปครับ โดยเริ่มต้นด้วยระบบกล้ามเนื้อ กระดูก ไขมันและมวลกาย
จนถึงระบบประสาทกันเลย เนื้อหาหลักยังเป็นการนำเสนอแนวความคิดและหลักการสำคัญ ๆ นะครับ
Use it or lose it
ใช้งานมันก่อนจะไม่มีให้ใช้ หนามยอกเอาหนามบ่งครับ
ระบบกล้ามเนื้อ
ผลของวัยต่อกล้ามเนื้อ
ความแข็งแกร่งลดลง เส้นใยกล้ามเนื้อ (muscle fibre) เริ่มเสียสมดุลย์ โดยจะหันไปเพิ่มประเภท
type I slow-twitch มากขึ้น และลดปริมาณของ type II fast-twitch ลง
ใครเรียนวิชาสุขภาพอนามัย สมัย ม. ต้น ถ้ายังพอจำกันได้ ลูกผมเรียนอยู่พอดี
ได้เวลาเรียกเอามาใช้แล้วครับ เส้นใยกล้ามเนื้อของคนเรามี 2 ประเภท
ประเภทที่ 2 หรือ type II-fast twitch เป็นกล้ามเนื้อของหนุ่ม ๆ
แคล่วคล่อง ไวไฟ เร็วและแรง แต่ไม่อึด คล้าย ๆ กับเบนซินหมุนเร็ว เปิดปุ๊บ ติดปั๊บ ทำนองนั้น
เป็นเส้นใยที่เกี่ยวข้องกับ ความแข็งแกร่ง ทำนองเข็ง(แกร่ง) เร็ว ยืดเร็ว หดเร็ว
ซึ่งเหมาะสำหรับการออกกำลังที่มี ความหนักหน่วงสูง แต่ไม่อึด ไม่ทน ไม่นาน
พบมากในวัยหนุ่ม สาว ทำให้พวกนี้กระฉับกระเฉง ว่องไว ปานกามนิตหนุ่ม พวกนักสปริ้นเตอร์ หรือพวก
ชอบตีหัวหน้าเส้น นั่นแหละเหมาะ
ส่วนอีกพวกก็ type I-slow twitch ตรงข้ามกับพวกแรก เป็นประเภทหนุ่มเหลือน้อย
แข็ง(แกร่ง)น้อย ช้าหน่อยแต่นาน อึด ทน ทำนองนั้น ก็คงคล้าย ๆ ดีเซล หมุนช้า
เหมาะสำหรับนักปั่นทางไกล หรือนักวิ่งมาราธอน พบมากขึ้นในคน ส.ว. (สูงวัย) ครับ
เอ๊ะ เรากำลังพูดถึงเรื่องอะไรกันเนี่ย อย่าไขว้เขว
แล้วไงต่อมันมีความหมายอะไร
ว่ากันง่าย ๆ เมื่ออายุมากขึ้น กล้ามเนื้อพวกนี้ก็เริ่มสูญเสียมวล ความยืดหยุ่น เปราะ
ความสามารถยืดหดตัว ก็คือมีอาการสึกหรอและหย่อนยานนั่นแหละ
ส่งผลให้มีการปวดร้าวตามข้อต่อได้ง่ายขึ้น เราจะรู้สึกว่าไม่สามารถฝึกซ้อม
ได้เข้มข้นเหมือนเดิม ที่สำคัญก็คือ นักปั่น สว จะปั่นกันไม่เร็วพอครับ
ส่วนเหตุผลที่ปั่นไม่เร็วพอก็คือ เพราะพวกเขาปั่นไม่เร็วพอ
นั่นเอง เหตุคือผล ผลคือเหตุ ครับ เป็นไง งงมั๊ย
การสูญเสียมวลกล้ามเนื้ออันเป็นเรื่องปกติของวัยจะลดทอนความแข็งแกร่งและพลังที่พึงสร้างได้
แต่ที่แย่ไปอีกก็คือ การฝึกซ้อมตามปกติส่วนใหญ่ของคนวัยนี้ก็คือมักปั่นระยะไกล แต่ปั่นช้า
ประเภทฝึกความอึด (endurance) เป็นหลักนั่นแหละครับ การซ้อมแบบนี้กลับช่วยกระตุ้น
อัตราการเปลี่ยน เส้นใยกล้ามเนื้อ จาก type II fast-twitch ไปสู่ type I slow-twitch
หรือ endurance มากขึ้นไปอีก ว่ากันง่าย ๆ การฝึกซ้อมปั่นที่ ”ช้า” ลงนี้ไปส่งเสริม
กระบวนการ ”ช้า” ของร่างกายให้มากขึ้นครับ มันยิ่งแต่จะทำให้แย่ลงไปใหญ่ครับ
ดังนั้นนักปั่น สว ทั้งหลายต้องวางเป้าหมายหลักในการฝึกซ้อมเสียใหม่โดยอยู่ที่การ
ลดทอนผลของวัยต่อกล้ามเนื้อเป็นหลักครับ โดยต้องเน้นไปที่ การฝึกซ้อมที่สั้นขึ้น
เร็วขึ้น แรงขึ้น ซึ่งก็คือพวก อินเทอร์วอล (interval) ให้มากขึ้นนั่นเอง
แทนที่จะเป็นพวก endurance ตามแบบเดิมซึ่งมีผลน้อยมาก
ต่อการป้องกันการแปรสภาพของกล้ามเนื้ออันเนื่องมาจากวัย
การฝึกซ้อมแบบเข้มข้น หนักหน่วงของนักปั่น ส.ว. จะส่งผลให้มีการเสริมสร้างเส้นใย
กล้ามเนื้อได้เท่า ๆ กันคนที่หนุ่มกว่ามาก ๆ ได้เหมือนกันเลยครับ เพราะฉะนั้น
รู้ยังงี้แล้วก็ต้องหาโปรแกรมฝึกซ้อมที่เน้นพิเศษพาะทางด้าน
cycle specific strength training กันให้มากขึ้น เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งครับ
ทั้งยังช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับกล้ามเนื้อและรอยต่อแล้วยังรวมถึงเป็นฝึก
ให้กล้ามเนื้อทนทานต่ออาการบาดเจ็บ สึกหรออีกด้วย
แต่ทั้งนี้ทุกครั้งก่อนและหลังโปรแกรมซ้อมเหล่านี้ ต้องมั่นใจว่า มีการวอร์มอัพ
คูลดาว์น ร่างกาย รวมทั้งการยืดกล้ามเนื้อ อย่างถูกวิธี จะช่วยลดอาการ
ปวดเมื่อยล้าของกล้ามเนื้ออันเนื่องจากวัยได้ดีครับ
ว่าแล้วก็กางตำรา เสาะหาการฝึกซ้อม interval กันให้มากหน่อยละครับ
ส่วนใครจะถนัดแบบไหน ประเภทไหน ซ้อมที่ไหน กับใคร ที่เหมาะกับตัวเอง
ก็ว่ากันตามสบายครับผม ถ้าหาไม่ได้กันจริง ๆ เดี๋ยวมีแจกครับ
- นู๋เล็ก
- ขาประจำ
- โพสต์: 1003
- ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ม.ค. 2011, 00:14
- Tel: 0880917500
- team: -
- Bike: SURLY,NOBEL STAR
Re: เรื่องของวัยกับนักปั่น ฤาอายุเป็นแค่ตัวเลข?
ผมเป็นพวก สว.ครับ เรื่มปั่นก็ 60 เข้าไปแล้ว มีโปรแกรมฝึกซ้อมดีๆก็ช่วยเผยแพร่ด้วยครับ..ยังมีไฟ...อยู่
คนเกษียณ..เขียนให้อ่าน.....สว.มือใหม่หัวใจบอลลูน..
http://thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=53&t=322520
คนเกษียณ....เขียนให้อ่าน (2) ... ซ้อมปั่นเขาเขียว....เดี๋ยวเดียวก็ถึง
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 6&t=344145
http://thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=53&t=322520
คนเกษียณ....เขียนให้อ่าน (2) ... ซ้อมปั่นเขาเขียว....เดี๋ยวเดียวก็ถึง
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 6&t=344145
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 3727
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ก.ย. 2010, 21:14
- Bike: NEObike16 14 ,Giant escept3,Peugeot crique,BSroadman,giant revice
Re: เรื่องของวัยกับนักปั่น ฤาอายุเป็นแค่ตัวเลข?
คนแก่อ่านแล้วได้กำลังใจขึ้นเยอะเลย
ความเจ็บปวดของคุณ จะกลายเป็นตัวของคุณ
Re: เรื่องของวัยกับนักปั่น ฤาอายุเป็นแค่ตัวเลข?
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ
ผมว่าผมอยู่กลุ่มสอง อายุก็ใกล้ 50 เข้าไปทุกที และขอยืนยันว่าเป็นดังที่ว่ามาทั้งหมดจริงๆ
เพราะผมรู้สึกได้ว่าหลังจากฝึกซ้อมมากขึ้น ถูกวิธีขึ้น มีเวลาและใจให้กับการฝึกซ้อมอย่างจริงจังมากขึ้น รู้สึกได้เลยว่ามันดีกว่าตอนอายุ 35 จริงๆ
ก็แอบหวังไว้ในใจเล่นๆว่า อยากปั่นจักรยานเที่ยวให้ได้จนอายุ 70 ปีครับ ผมไม่ใช้นักกี่ฬาที่ลงแข่งขัน แต่เป็นพวกชอบออกกำลังกาย และปั่นจักรยานเที่ยว
ขอบคุณสำหรับข้อมูลและช่วยให้เป็นกำลังใจสำหรับคนที่จะเป็นสว.กันทุกท่าน
ผมว่าผมอยู่กลุ่มสอง อายุก็ใกล้ 50 เข้าไปทุกที และขอยืนยันว่าเป็นดังที่ว่ามาทั้งหมดจริงๆ
เพราะผมรู้สึกได้ว่าหลังจากฝึกซ้อมมากขึ้น ถูกวิธีขึ้น มีเวลาและใจให้กับการฝึกซ้อมอย่างจริงจังมากขึ้น รู้สึกได้เลยว่ามันดีกว่าตอนอายุ 35 จริงๆ
ก็แอบหวังไว้ในใจเล่นๆว่า อยากปั่นจักรยานเที่ยวให้ได้จนอายุ 70 ปีครับ ผมไม่ใช้นักกี่ฬาที่ลงแข่งขัน แต่เป็นพวกชอบออกกำลังกาย และปั่นจักรยานเที่ยว
ขอบคุณสำหรับข้อมูลและช่วยให้เป็นกำลังใจสำหรับคนที่จะเป็นสว.กันทุกท่าน
- jackcsk
- ขาประจำ
- โพสต์: 1750
- ลงทะเบียนเมื่อ: 06 พ.ย. 2009, 09:22
- Tel: 086-8484644
- team: สมาคมจักรยานเมืองพัทยา Pattaya sport cycling association
- Bike: --Rocky vertex 70--โคลัมบัสเหมือนพี่ตูน^_^
Re: เรื่องของวัยกับนักปั่น ฤาอายุเป็นแค่ตัวเลข?
ผมอยู่กลุ่ม 2 เริ่มปั่นอายุ 29 ย่าง 30 ตอนนี้จะ 31 แล้ว แรงตอนอายุ 50 ก็คงไม่สาย
สมาคมจักรยานเมืองพัทยา
Pattaya sport cycling association
Pattaya sport cycling association
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 4620
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 03:57
- team: รวมมิตร
- Bike: Wheeler Ti, CSK หมอบ
- ติดต่อ:
Re: เรื่องของวัยกับนักปั่น ฤาอายุเป็นแค่ตัวเลข?
อยู่กลุ่มสองเหมือนกัน เริ่มปั่นตอนอายุ 47 ไม่สายครับ เพราะตอนนี้ 59 แล้ว ยังปั่นเสือภูเขาทางเรียบดูดเสือหมอบขากลับบ้านพุน้ำร้อนชายแดนมาเมืองกาญจน์ความเร็ว สูงสุด 45-46 ได้ไม่หลุดราวๆ 30 กม แล้วกลุ่มหยุดพักทานน้ำครับ แต่ต้องยอมรับสังขารเหนื่อยมากๆ หลังจากนั้นไม่กล้าตามกลุ่มขาแรงหมอบ 5 คนนี้อีกเมื่อเริ่มใหม่ ไล่ปั่นเข้ากับกลุ่มหมอบอื่นๆ ความเร็ว 30-32 เองแต่ทวนลมนิดหน่อย แต่ในที่สุดก็ยอมปล่อยหลังตามได้ราวๆ 10 กม สังขารมันบอกว่าถ้าฝืนตามอีกก็จะเป็นตะคริว เลยปั่นเสือภูเขาคนเดียวความเร็วเหลือแค่ 25-26 ใช้เกียร์เบาเลี้ยงรอบขาไว้เมื่อระยะทางเหลืออีกราวๆ 30 กมครับ วันนั้นปั่น 140 กม
บทความดีมากๆ ครับ คนแก่เสียเปรียบคนหนุ่มตรงที่แรงสู้ไม่ได้ แต่ชดเชยได้ตรงมีเวลาซ้อมมากกว่าเพราะไม่ต้องทำงานหนักแล้ว ผมต้องซ้อมมากกว่าคนหนุ่มสองเท่าถึงจะปั่นร่วมขาแรงได้ครับ อ่อนซ้อมนิดหน่อยเมื่อไร หลุดทันที
บทความดีมากๆ ครับ คนแก่เสียเปรียบคนหนุ่มตรงที่แรงสู้ไม่ได้ แต่ชดเชยได้ตรงมีเวลาซ้อมมากกว่าเพราะไม่ต้องทำงานหนักแล้ว ผมต้องซ้อมมากกว่าคนหนุ่มสองเท่าถึงจะปั่นร่วมขาแรงได้ครับ อ่อนซ้อมนิดหน่อยเมื่อไร หลุดทันที
- ไฟล์แนบ
-
- 64773-38.jpg (54.13 KiB) เข้าดูแล้ว 19408 ครั้ง
- Kob@Truth
- ขาประจำ
- โพสต์: 9456
- ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 17:27
- Tel: 081-807-0983
- team: Invert to newborn...!!!
- Bike: TFS300,Alpha Black 2.5
Re: เรื่องของวัยกับนักปั่น ฤาอายุเป็นแค่ตัวเลข?
ถึงว่า ผมปั่นไป Trip เจอพี่ เจ้าของกระทู้.........ถึงได้ปั่นไปหัวเราะไปอย่างมีความสุข....อิๆ
มีโอกาสคงได้เจอกันอีกนะพี่ Trip ไหนก็ Trip นึง แหละ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ ครับ
มีโอกาสคงได้เจอกันอีกนะพี่ Trip ไหนก็ Trip นึง แหละ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ ครับ
"เป็นคนที่ดีไม่พอ......ต้องบ้าด้วย...อิๆ"
หมอบบางแสน Click This Below!
http://www.BSRB.com
ก็อยากจะปั่นมันๆ อย่างคนรอบจัดเขาบ้างงัย :)
http://www.100รอบ.net
หมอบบางแสน Click This Below!
http://www.BSRB.com
ก็อยากจะปั่นมันๆ อย่างคนรอบจัดเขาบ้างงัย :)
http://www.100รอบ.net
- เสือพ่อลูกอ่อน
- ขาประจำ
- โพสต์: 1811
- ลงทะเบียนเมื่อ: 20 ต.ค. 2010, 09:53
- team: สุดทางที่ด่านซ้าย@เลย
- Bike: มิรินด้า
Re: เรื่องของวัยกับนักปั่น ฤาอายุเป็นแค่ตัวเลข?
แวะเข้ามารับสาระครับ
ผมเริ่มปั่นตอนอายุสามสิบนี่ยังไม่สายน่อ เหอๆ
ผมเริ่มปั่นตอนอายุสามสิบนี่ยังไม่สายน่อ เหอๆ
ถึงจะจน แต่ก็ขี้เมา
- เสือเด็กมั้ง
- ขาประจำ
- โพสต์: 15165
- ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ม.ค. 2010, 06:08
- Tel: อยากรู้ให้โทรมาถาม
- team: ศูนย์ฝึกกองบิน46 ,แอพอร์ตกรุ๊ป
- Bike: orbea alma carbonสีuci ,specialized allez ,mini java สีขาว ,trek3900
- ตำแหน่ง: 16°49′N 100°16′E / 16.82°N 100.27°E / 16.82; 100.27
- ติดต่อ:
Re: เรื่องของวัยกับนักปั่น ฤาอายุเป็นแค่ตัวเลข?
เริ่มตอนอายุ13 แล้วมันอยู่ช่วงไหนละเนี่ย
หมอบแล้วร่างกายจะแข็งแรงไม่มีโรคภัยเบียดเบียน
cartoon : http://thaimanga.thai-forum.net/
http://www.cartooniverse.co.uk/
http://www.trekkingthai.com/
cartoon : http://thaimanga.thai-forum.net/
http://www.cartooniverse.co.uk/
http://www.trekkingthai.com/
- WaadZ
- สมาชิก
- โพสต์: 74
- ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ม.ค. 2011, 18:02
- Bike: Surly Troll /Surly LHT
Re: เรื่องของวัยกับนักปั่น ฤาอายุเป็นแค่ตัวเลข?
เดี๋ยวไว้จะชวนคุณพ่อมาอ่านครับ อ่านแล้วน่าจะเป็นแรงบันดาลใจได้ดีเลย
ผมเองเริ่ม 30 ต้นๆ เดี๋ยวไปแรงตอนเกษียณคงยังไม่สาย
ผมเองเริ่ม 30 ต้นๆ เดี๋ยวไปแรงตอนเกษียณคงยังไม่สาย
< Bike along a long old road >
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 2089
- ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2009, 18:50
- team: ปั่นมินิ (แดก)มาราธอน
- Bike: trek 1.9, jamis full sus
- ตำแหน่ง: สุขุมวิท ซอย 3
Re: เรื่องของวัยกับนักปั่น ฤาอายุเป็นแค่ตัวเลข?
ผมว่าอยู่ที่คนด้วยครับ มันมีหลายแบบ
ถ้านักกีฬาอายุ 40 แล้วกินเที่ยวอ้วนเผละ พอ 41 เริ่มปั่นจริงจัง กว่าจะถึง 50 ก็ปั่นแข้งโป๊กกว่าตอน 40 อยู่แล้ว
แร๊งงงงงงงงงงง 555555
ถ้านักกีฬาอายุ 40 แล้วกินเที่ยวอ้วนเผละ พอ 41 เริ่มปั่นจริงจัง กว่าจะถึง 50 ก็ปั่นแข้งโป๊กกว่าตอน 40 อยู่แล้ว
แร๊งงงงงงงงงงง 555555
ปั่น มินิ แดก มาราธอน
- breeze
- ขาประจำ
- โพสต์: 1892
- ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2011, 16:14
- Tel: 0849407000
- team: ยังไม่มีสังกัด แต่อยู่แถวพระราม 5 บางกรวย ครับ
- Bike: Dahon Archer P18 , Anchor CX900
Re: เรื่องของวัยกับนักปั่น ฤาอายุเป็นแค่ตัวเลข?
ผมเริ่มตอนนี้ 32 อ่านแล้วรู้สึกดี ที่คิดถูกต้อง
กับกีฬาที่ถูกทางด้วย
กับกีฬาที่ถูกทางด้วย
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 11528
- ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.ค. 2009, 08:22
- Tel: 0878926437
- team: คีรีรัฐไบค์คลับ
- Bike: TCR.Advanced ATX.LE
- ติดต่อ:
Re: เรื่องของวัยกับนักปั่น ฤาอายุเป็นแค่ตัวเลข?
ขอบคุณครับ
osk 103
ฉลาดคิดรอบรู้เป็นครูสอน จะนั่งนอนรู้ตนบนวิถี
รบกี่ครั้งยั้งจิตคิดให้ดี สติมีสอนตนย่อมพ้นภัย
(ศิวกรณ์)
ฉลาดคิดรอบรู้เป็นครูสอน จะนั่งนอนรู้ตนบนวิถี
รบกี่ครั้งยั้งจิตคิดให้ดี สติมีสอนตนย่อมพ้นภัย
(ศิวกรณ์)
- pOmz
- ขาประจำ
- โพสต์: 6116
- ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 07:55
- Tel: AIS 085-2656952
- Bike: Fuji Altamira Ltd.