SID Story (1998-2018) ภาค 1
ผู้ดูแล: seven@klein, Cycling B®y, tntm, เสือ Spectrum
- ตาโจ
- ขาประจำ
- โพสต์: 4200
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2011, 16:38
- ติดต่อ:
SID Story (1998-2018) ภาค 1
[align=center]
เนื่องจากปีนี้ 2018 เป็นปีที่ครบรอบ 20 ปีของการผลิตโช้ค ROCKSHOX SID ออกจำหน่ายสู่ตลาด จึงขอรวบรวมโช้ค SID แต่ละช่วงช่วงปีมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อเป็นความรู้ให้รู้จักวิวัฒนการของโช้คหน้าจักรยานรุ่นหนึ่งที่ผลิตขายอย่างยาวนานมาถึง 20 ปี[homeimg=300,250]http://www.thaimtb.com/forum/picture_mt ... 677849.jpg[/homeimg]
[/align]เนื่องจากปีนี้ 2018 เป็นปีที่ครบรอบ 20 ปีของการผลิตโช้ค ROCKSHOX SID ออกจำหน่ายสู่ตลาด จึงขอรวบรวมโช้ค SID แต่ละช่วงช่วงปีมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อเป็นความรู้ให้รู้จักวิวัฒนการของโช้คหน้าจักรยานรุ่นหนึ่งที่ผลิตขายอย่างยาวนานมาถึง 20 ปี[homeimg=300,250]http://www.thaimtb.com/forum/picture_mt ... 677849.jpg[/homeimg]
- ตาโจ
- ขาประจำ
- โพสต์: 4200
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2011, 16:38
- ติดต่อ:
Re: SID Story (1998-2018)
1.รุ่น RS-1
2.รุ่น Mag xx
3.รุ่น Quadro
4.รุ่น indy
5.Judy
ชื่อ SID ย่อมาจาก Superlight Integrated Design แรกวางจำหน่ายถูกวางตำแหน่งในตลาดให้เป็นโช้คหน้าสำหนับใช้แข่งขันครอสคันทรีที่มีน้ำหนักเบา
แถวความคิดในการสร้างโช้ค SID คือการพัฒนาโช้คลมของ Rockshox รุ่นก่อนหน้านี้คือ RS-1 และ Mag-21SL
[align=center] [/align]
- ตาโจ
- ขาประจำ
- โพสต์: 4200
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2011, 16:38
- ติดต่อ:
Re: SID Story (1998-2018)
ปี 1998 (พ.ศ.2541)
[align=center] [/align]
SID ถูกใช่ในการแข่งขันจักรยานเสือภูเขายูซีไอเวิลด์คัพ ครั้งแรกที่สนาม ภูเขา Snow-Vermont, แคนาดา ซึ่งขณะนั้นวงการจักรยานเสือภูเขากำลังพัฒนาการโช้คหน้าเพื่อการแข่งขันครอสคันทรี เพื่อมาใช้แทนตะเกียบ SID รุ่นแรกที่ใช้กันมีระยะยุบแค่ 60 ม.ม. และ มีน้ำหนักเพียง 1180 กรัม ใช้ระบบสปริงแบบไฮดร้าแอร์ ไม่สามารถปรับแต่งอะไรได้นอกจากการปรับแข็งอ่อนด้วยการเติมลมที่ฝาด้านบนทั้งสองข้าง และ โช้ครองรับวีเบรกได้เพียงอย่างเดียว
[align=center] [/align]
[align=center] [/align]
SID ถูกใช่ในการแข่งขันจักรยานเสือภูเขายูซีไอเวิลด์คัพ ครั้งแรกที่สนาม ภูเขา Snow-Vermont, แคนาดา ซึ่งขณะนั้นวงการจักรยานเสือภูเขากำลังพัฒนาการโช้คหน้าเพื่อการแข่งขันครอสคันทรี เพื่อมาใช้แทนตะเกียบ SID รุ่นแรกที่ใช้กันมีระยะยุบแค่ 60 ม.ม. และ มีน้ำหนักเพียง 1180 กรัม ใช้ระบบสปริงแบบไฮดร้าแอร์ ไม่สามารถปรับแต่งอะไรได้นอกจากการปรับแข็งอ่อนด้วยการเติมลมที่ฝาด้านบนทั้งสองข้าง และ โช้ครองรับวีเบรกได้เพียงอย่างเดียว
[align=center] [/align]
- ตาโจ
- ขาประจำ
- โพสต์: 4200
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2011, 16:38
- ติดต่อ:
Re: SID Story (1998-2018)
ปี 1999 (2542)
ปีนี้ Rockshox ได้ผลิตโช้คหน้า SID ออกสู่ตลาด 3 รุ่นคือ SL / XC และ XL โดย Rockshox ได้เปลี่ยนระบบสปริงแบบใหม่มาใช้ระบบ Dual air เป็นครั้งแรก ซึ่งระบบนี้สามารถเติมลมได้สองห้องบนล่าง โดยลมทั้งสองห้องจะทำหน้าที่เป็น Positive Spring และ Negative spring นอกจากนั้น Rockshox ยังได้มีการใส่ชุดแดมปิ้ง เพื่อควบคุมการเคลื่อนที่ของกระบอกโช้คกับแกนโช้คเข้าไปด้วย และ ยังมีการออกแบบหูยึดดิสเบรกให้สามารถใช้เบรกได้ทั้งดีสและวี
[align=center] [/align]
SID SL
เป็นโช้ครุ่นท็อบที่วางจำห่ายสู่ตลาด ใช้ระบบสปริงแบบ Dual Air มีชุดแดมปิ้งสามารถปรับคอมเพรสชั่น และ รีบาวด์ได้ ด้วยเทคโนโลยี C3 cartridge มีช่วงยุบ 63 ม.ม. และ 80 ม.ม. (สำหรับ OEM) น้ำหนักประมาณ 1.2 ก.ก.
[align=center] [/align]
SID XC
เป็นรุ่นที่ผลิตมาเพื่อตลาด OEM น้ำหนักจะมากกว่า SL อยู่ 100 กรัม มียุบ 63 และ 80 ม.ม.
[align=center] [/align]
ปีนี้ Rockshox ได้ผลิตโช้คหน้า SID ออกสู่ตลาด 3 รุ่นคือ SL / XC และ XL โดย Rockshox ได้เปลี่ยนระบบสปริงแบบใหม่มาใช้ระบบ Dual air เป็นครั้งแรก ซึ่งระบบนี้สามารถเติมลมได้สองห้องบนล่าง โดยลมทั้งสองห้องจะทำหน้าที่เป็น Positive Spring และ Negative spring นอกจากนั้น Rockshox ยังได้มีการใส่ชุดแดมปิ้ง เพื่อควบคุมการเคลื่อนที่ของกระบอกโช้คกับแกนโช้คเข้าไปด้วย และ ยังมีการออกแบบหูยึดดิสเบรกให้สามารถใช้เบรกได้ทั้งดีสและวี
[align=center] [/align]
SID SL
เป็นโช้ครุ่นท็อบที่วางจำห่ายสู่ตลาด ใช้ระบบสปริงแบบ Dual Air มีชุดแดมปิ้งสามารถปรับคอมเพรสชั่น และ รีบาวด์ได้ ด้วยเทคโนโลยี C3 cartridge มีช่วงยุบ 63 ม.ม. และ 80 ม.ม. (สำหรับ OEM) น้ำหนักประมาณ 1.2 ก.ก.
[align=center] [/align]
SID XC
เป็นรุ่นที่ผลิตมาเพื่อตลาด OEM น้ำหนักจะมากกว่า SL อยู่ 100 กรัม มียุบ 63 และ 80 ม.ม.
[align=center] [/align]
- ตาโจ
- ขาประจำ
- โพสต์: 4200
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2011, 16:38
- ติดต่อ:
Re: SID Story (1998-2018)
SID XL
เป็น SID ที่ออกแบบให้เป็นโช้คดับเบิ้ลคราวน์ คือ มีจุดยึดแกนโช้คสองจุดแบบมอเตอร์ไซด์วิบาก โช้ครุ่นนี้มีช่วงยุบ 100 ม.ม. ซึ่งมากสำหรับการขี่ยุคนั้น ถูกนำมาใช้กับรถแนว Freeride ในสมัยเริ่มต้น
[align=center] [/align]
เป็น SID ที่ออกแบบให้เป็นโช้คดับเบิ้ลคราวน์ คือ มีจุดยึดแกนโช้คสองจุดแบบมอเตอร์ไซด์วิบาก โช้ครุ่นนี้มีช่วงยุบ 100 ม.ม. ซึ่งมากสำหรับการขี่ยุคนั้น ถูกนำมาใช้กับรถแนว Freeride ในสมัยเริ่มต้น
[align=center] [/align]
- ตาโจ
- ขาประจำ
- โพสต์: 4200
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2011, 16:38
- ติดต่อ:
Re: SID Story (1998-2018)
ปี 2000(2543)
มีการปรับปรุง SID SL ใหม ให้มีน้ำหนักเบาลง มีการใช้ซีลโชคแบบ XXX ส่วน SID XL มีการปรับปรุงน้ำหนักให้ลดลงเหลืออยู่ที่ 1600 กรัม นอกจากนั้นยังมีการผลิต SID 100 ที่มีช่วงยุบ 100 มม ตามชื่อ
[align=center] [/align]
มีการปรับปรุง SID SL ใหม ให้มีน้ำหนักเบาลง มีการใช้ซีลโชคแบบ XXX ส่วน SID XL มีการปรับปรุงน้ำหนักให้ลดลงเหลืออยู่ที่ 1600 กรัม นอกจากนั้นยังมีการผลิต SID 100 ที่มีช่วงยุบ 100 มม ตามชื่อ
[align=center] [/align]
- ตาโจ
- ขาประจำ
- โพสต์: 4200
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2011, 16:38
- ติดต่อ:
Re: SID Story (1998-2018)
[align=center]
ปัญหาของ SID ตั้งแต่ผลิตมาจนถึงปี 2000 คือ การใช้จุ๊บเติมลมเฉพาะที่ต้องใช้อะแด๊บเตอร์ต่อจากสูปโช้คอีกทีหนึ่งทำให้ไม่สะดวกในการใช้งาน จะเติมลมทีต้องวิ่งหาอะแดบเตอร์
[/align]ปัญหาของ SID ตั้งแต่ผลิตมาจนถึงปี 2000 คือ การใช้จุ๊บเติมลมเฉพาะที่ต้องใช้อะแด๊บเตอร์ต่อจากสูปโช้คอีกทีหนึ่งทำให้ไม่สะดวกในการใช้งาน จะเติมลมทีต้องวิ่งหาอะแดบเตอร์
- ตาโจ
- ขาประจำ
- โพสต์: 4200
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2011, 16:38
- ติดต่อ:
Re: SID Story (1998-2018)
ปี 2001(2544)
มีการปรับปรุงระบบแด้มปิ้งใหม่ โดยใช้ระบบ Pure เป็นระบบที่สามารถปรับรีบาวด์ คอมเพรสชั่น และ ล็อคโช็คได้ ส่วนปัญหาเรื่องวาล์วเติมลมก็มีการออกแบบใหม้ ให้สามารถเสียบสูบโช้คเติมลมได้โดยตรง ไม่ต้องต่อผ่านอะแดบปตอร์
[align=center] [/align]
ในปีนี้ Rockshox ได้พัฒนาสินค้าด้วยโครงการ BlackBox ด้วยการผลิตต้นแบบโช้คหน้า SID ที่ใช้คาร์บอนไฟเบอร์ทำซาง โดยมีนักกีฬาที่ใช้ในการแข่งขันประสบความสำเร็จในสนามเช่น Julien Absalon และ alison dunlap
[align=center] [/align]
มีการปรับปรุงระบบแด้มปิ้งใหม่ โดยใช้ระบบ Pure เป็นระบบที่สามารถปรับรีบาวด์ คอมเพรสชั่น และ ล็อคโช็คได้ ส่วนปัญหาเรื่องวาล์วเติมลมก็มีการออกแบบใหม้ ให้สามารถเสียบสูบโช้คเติมลมได้โดยตรง ไม่ต้องต่อผ่านอะแดบปตอร์
[align=center] [/align]
ในปีนี้ Rockshox ได้พัฒนาสินค้าด้วยโครงการ BlackBox ด้วยการผลิตต้นแบบโช้คหน้า SID ที่ใช้คาร์บอนไฟเบอร์ทำซาง โดยมีนักกีฬาที่ใช้ในการแข่งขันประสบความสำเร็จในสนามเช่น Julien Absalon และ alison dunlap
[align=center] [/align]
- ตาโจ
- ขาประจำ
- โพสต์: 4200
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2011, 16:38
- ติดต่อ:
Re: SID Story (1998-2018)
ปี 2002(พ.ศ. 2545)
หลังจากที่ประสบความสำเร็จในโครงการ Black box จากสนามแข่งในปีที่ผ่านมา ปี 2002 Rockshox ได้ผลิต SID RACE Carbon ออกสู่ท้องตลาด โดยการพัฒนาไปใช้ซางโช้คที่ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์
[align=center] [/align]
ในปีนี้ ROCKSHOX ได้ผลิตโช้ครุ่น SID Race Titanium ออกสู่ตลาดโดยความพิเศษของรุ่นนี้คือ แกนโช้คจะมีการเคลือบไทเทเนี่ยมไนเตรท ให้มีความลื่นเป็นพิเศษ
[align=center] [/align]
หลังจากที่ประสบความสำเร็จในโครงการ Black box จากสนามแข่งในปีที่ผ่านมา ปี 2002 Rockshox ได้ผลิต SID RACE Carbon ออกสู่ท้องตลาด โดยการพัฒนาไปใช้ซางโช้คที่ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์
[align=center] [/align]
ในปีนี้ ROCKSHOX ได้ผลิตโช้ครุ่น SID Race Titanium ออกสู่ตลาดโดยความพิเศษของรุ่นนี้คือ แกนโช้คจะมีการเคลือบไทเทเนี่ยมไนเตรท ให้มีความลื่นเป็นพิเศษ
[align=center] [/align]
- ตาโจ
- ขาประจำ
- โพสต์: 4200
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2011, 16:38
- ติดต่อ:
Re: SID Story (1998-2018)
ปี 2003 (พ.ศ.2546)
[align=center] [/align]
หลังจากการชนะเลิสการแข่งขันเสือภูเขาเวิลด์คัพปี 2002 ของ Roland Green ทาง Rockshox ได้มีการผลิตโช้ค SID ในรุ่น World Cup เพื่อเป็นการตอกย้ำชัยชนะในสนามระดับโลก และ สร้างอัตลักษณ์สินค้าของตัวเองว่า ถ้ารุ่นไหนที่ใช้ชื่อต่อท้ายว่า World Cup แสดวว่ารุ่นนั้นเป็นรุ่นสูงสุด ใช้สำหรับใช้ในการแข่งขัน SID WORLD CUP พัฒนามาจาก SID RACE CARBON มีการเพิ่มรีโมทล็อคเอ้าเข้าไป ให้สามารถล็อคโช้คได้จากแฮนด์ขณะขี่ ไม่ต้องก้มเอามือไปบิดปุ่มล็อคเหมือนแต่ก่อน
นอกจากนั้น ROCKSHOX ยังมีการออกแบบกระบอกโช้คใหม่ให้มีรูปร่างกระทัดรัดลง ส่งผลให้น้ำหนักกระบอกโช้คเบาลงกว่ารุ่นก่อนหน้านี้
SID TEAM
[align=center] [/align]
เป็น SID รุ่นกลาง ใช้ซางอลู มีปรับ รีบาวด์ คอมเพรสชั่น และ ล็อกเอ้าได้
SID RACE
[align=center] [/align]
เป็น SID รุ่นเริ้มต้น ตัดชุดคอมเพรสชั่น และ ล็อกเอ้าท์ออกไป เหลือไว้แต่รีบาวด์ ใช้ปริงแบบ Dual air + positive spring มีสามห้องลม ข้อดีของ SID รุ่นนี้คือ น้ำหนักเบา
[align=center] [/align]
หลังจากการชนะเลิสการแข่งขันเสือภูเขาเวิลด์คัพปี 2002 ของ Roland Green ทาง Rockshox ได้มีการผลิตโช้ค SID ในรุ่น World Cup เพื่อเป็นการตอกย้ำชัยชนะในสนามระดับโลก และ สร้างอัตลักษณ์สินค้าของตัวเองว่า ถ้ารุ่นไหนที่ใช้ชื่อต่อท้ายว่า World Cup แสดวว่ารุ่นนั้นเป็นรุ่นสูงสุด ใช้สำหรับใช้ในการแข่งขัน SID WORLD CUP พัฒนามาจาก SID RACE CARBON มีการเพิ่มรีโมทล็อคเอ้าเข้าไป ให้สามารถล็อคโช้คได้จากแฮนด์ขณะขี่ ไม่ต้องก้มเอามือไปบิดปุ่มล็อคเหมือนแต่ก่อน
นอกจากนั้น ROCKSHOX ยังมีการออกแบบกระบอกโช้คใหม่ให้มีรูปร่างกระทัดรัดลง ส่งผลให้น้ำหนักกระบอกโช้คเบาลงกว่ารุ่นก่อนหน้านี้
SID TEAM
[align=center] [/align]
เป็น SID รุ่นกลาง ใช้ซางอลู มีปรับ รีบาวด์ คอมเพรสชั่น และ ล็อกเอ้าได้
SID RACE
[align=center] [/align]
เป็น SID รุ่นเริ้มต้น ตัดชุดคอมเพรสชั่น และ ล็อกเอ้าท์ออกไป เหลือไว้แต่รีบาวด์ ใช้ปริงแบบ Dual air + positive spring มีสามห้องลม ข้อดีของ SID รุ่นนี้คือ น้ำหนักเบา
- ตาโจ
- ขาประจำ
- โพสต์: 4200
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2011, 16:38
- ติดต่อ:
Re: SID Story (1998-2018)
ปี 2004 (พ.ศ.2547)
[align=center] [/align]
SID ATHENA
เป็น SID รุ่นพิเศษที่ผลิตออกมาเพื่อการแข่งขันเสือภูเขาในกีฬาโอลิมปิคปีนั้น ซึ่ง Julien Absalon ก็ใช้ SID รุ่นนี้ลงแข่งและชนะเลิสเสือภูเขาโอลิมปิคเป็นครั้งแรกในชีวิต
SID World Cup
[align=center] [/align]
มีการใช้นิกเกิ้ลชุบแกนโช้คเพื่อให้มีความลื่นเป็นพิเศษ ปรับปรุงภายในให้มีน้ำหนักลดลงเหลือ 1,230 กรัม
ส่วน SID TEAM และ SID Race ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
[align=center] [/align]
SID ATHENA
เป็น SID รุ่นพิเศษที่ผลิตออกมาเพื่อการแข่งขันเสือภูเขาในกีฬาโอลิมปิคปีนั้น ซึ่ง Julien Absalon ก็ใช้ SID รุ่นนี้ลงแข่งและชนะเลิสเสือภูเขาโอลิมปิคเป็นครั้งแรกในชีวิต
SID World Cup
[align=center] [/align]
มีการใช้นิกเกิ้ลชุบแกนโช้คเพื่อให้มีความลื่นเป็นพิเศษ ปรับปรุงภายในให้มีน้ำหนักลดลงเหลือ 1,230 กรัม
ส่วน SID TEAM และ SID Race ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
- ตาโจ
- ขาประจำ
- โพสต์: 4200
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2011, 16:38
- ติดต่อ:
Re: SID Story (1998-2018)
ปี 2005 (พ.ศ.2548)
[align=center] [/align]
มีการใช้รีโมทล็อคเอ้าแบบ PopLoc ใน SID รุ่นที่ขายในท้องตลาดหลังจากที่เคยใช้ในรุ่น Athena ในปี 2004
[align=center] [/align]
SID WORLD CUP
นอกจากจะเปลี่ยนรีโมทใหม่แล้ว SID WORLD CUP ยังคงใช้โครงสร้างเดิม ไม่ว่าจะเป็นซางคาร์บอน แดมปิ้งระบบ Pure และ สปริงแบบ Dual Air
SID WORLD TEAM
มีการใช้แกนโช้คจากท่อ Easton ที่มีความลื่นเป็นพิเศษ ยังคงมีคุณสมบัติ Dual air / แดมปิ้ง Pure และ รีโมทแบบใหม่ PopLoc น้ำหนัก 1.350 กรัม
SID WORLD RACE
รุ่นนี้ไม่ได้ปรับปรุงอะไร ยังเป็น SID ที่เบาที่สุดคือ 1,250 กรัม
[align=center] [/align]
มีการใช้รีโมทล็อคเอ้าแบบ PopLoc ใน SID รุ่นที่ขายในท้องตลาดหลังจากที่เคยใช้ในรุ่น Athena ในปี 2004
[align=center] [/align]
SID WORLD CUP
นอกจากจะเปลี่ยนรีโมทใหม่แล้ว SID WORLD CUP ยังคงใช้โครงสร้างเดิม ไม่ว่าจะเป็นซางคาร์บอน แดมปิ้งระบบ Pure และ สปริงแบบ Dual Air
SID WORLD TEAM
มีการใช้แกนโช้คจากท่อ Easton ที่มีความลื่นเป็นพิเศษ ยังคงมีคุณสมบัติ Dual air / แดมปิ้ง Pure และ รีโมทแบบใหม่ PopLoc น้ำหนัก 1.350 กรัม
SID WORLD RACE
รุ่นนี้ไม่ได้ปรับปรุงอะไร ยังเป็น SID ที่เบาที่สุดคือ 1,250 กรัม
- ตาโจ
- ขาประจำ
- โพสต์: 4200
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2011, 16:38
- ติดต่อ:
Re: SID Story (1998-2018)
ปี 2006 (พ.ศ.2549)
[align=center] [/align]
หลังจากประสบความสำเร็จในการใช้ Damping รุ่นใหม่ Motion Control ในรุ่น REBA ปี 2006 Rockshox ได้นำ Motion Control มาใช้กับ SID เป็นการบอกลาแดมปิ้งระบบ Pure
มีการผลิต SID ออกขาย 3 รุ่นเช่นเดิม คือ World Cup (ซางคาร์บอน) TEAM (ซางอลู) และ RACE (รุ่นที่ไม่มีล็อคเอ้า)
[align=center] [/align]
หลังจากประสบความสำเร็จในการใช้ Damping รุ่นใหม่ Motion Control ในรุ่น REBA ปี 2006 Rockshox ได้นำ Motion Control มาใช้กับ SID เป็นการบอกลาแดมปิ้งระบบ Pure
มีการผลิต SID ออกขาย 3 รุ่นเช่นเดิม คือ World Cup (ซางคาร์บอน) TEAM (ซางอลู) และ RACE (รุ่นที่ไม่มีล็อคเอ้า)
- ตาโจ
- ขาประจำ
- โพสต์: 4200
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2011, 16:38
- ติดต่อ:
Re: SID Story (1998-2018)
ปี 2007 (พ.ศ.2550)
[align=center] [/align]
มีการผลิตโช้ค SID รุ่นฉลองครบรอบ 10 ปี จำหน่ายในจำนวนจำกัด
[align=center] [/align]
มีการผลิตโช้ค SID รุ่นฉลองครบรอบ 10 ปี จำหน่ายในจำนวนจำกัด
- ตาโจ
- ขาประจำ
- โพสต์: 4200
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2011, 16:38
- ติดต่อ:
Re: SID Story (1998-2018)
ปี 2008 (พ.ศ.2551)
หลังจากการเข้าตลาดโช้คหน้าของ Fox ทำให้โช้คหน้าแกน 32 มม กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของตลาดจักรยาน Rockshox เองก็ต้องตอบสนองตลาดด้วยการผลิตโช้ครุ่น REBA แกน 32 มม ออกมาแข่งขันกลับ FOX สำหรับ SID รุ่นก่อนหน้านั้นจะมีแกนโช้คโตเพียง 28 ม.ม. ซึ่งไม่พอกับการแข่งขันที่มีการขี่หนักหน่วงขึ้น ประกอบกับมาตรฐานรถรุ่นใหม่ๆใช้โช้คหน้าช่วงยุบ 100 มม จึ่งทำให้ ROCKSHOX ต้องกลับไปออกแบบใหม่ ผลที่ได้คือ SID 2008
[align=center] [/align]
SID 2008 มีการผลิตออกมา 3 รุ่น มีสเปคดังนี้
[align=center] [/align]
เพื่อให้มีความแข็งแรงเพิ่มขึ้น แต่มีน้ำหนักเบา ผลที่ได้คือ การขยายแกนจาก 28 มม มาเป็น 32 มม แต่ความยาวของแกนโช้ค จะมีขนาดสั้นลง ไม่ยาวสุดกระบอกแบบเดิม
[align=center] [/align]
เนื่องจากแกนโช้คสั้นกระบอกโช้คจึงต้องออกแบบให้ด้านล่างกลวง เพื่อรับกับแกนที่สั้น
[align=center] [/align]
ส่วนระบบเบรกนั้น SID 2008 สามารถใช้ดีสเบรกด้วยหูยึดแบบ Post Mount ได้เพียงอย่างเดียว
[align=center] [/align]
ในรุ่น World Cup มีการลดน้ำหนักชุดแดมปิ้งด้วยการใช้ไทเทเนี้ยมฅฅ
[align=center] [/align]
ช่วงยุบสามารถปรับได้สองระดับคือ 80 และ 100 ม.ม. ด้วยการรองตัวคั่นในแกนโช้ค
[align=center] [/align]
หลังจากการเข้าตลาดโช้คหน้าของ Fox ทำให้โช้คหน้าแกน 32 มม กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของตลาดจักรยาน Rockshox เองก็ต้องตอบสนองตลาดด้วยการผลิตโช้ครุ่น REBA แกน 32 มม ออกมาแข่งขันกลับ FOX สำหรับ SID รุ่นก่อนหน้านั้นจะมีแกนโช้คโตเพียง 28 ม.ม. ซึ่งไม่พอกับการแข่งขันที่มีการขี่หนักหน่วงขึ้น ประกอบกับมาตรฐานรถรุ่นใหม่ๆใช้โช้คหน้าช่วงยุบ 100 มม จึ่งทำให้ ROCKSHOX ต้องกลับไปออกแบบใหม่ ผลที่ได้คือ SID 2008
[align=center] [/align]
SID 2008 มีการผลิตออกมา 3 รุ่น มีสเปคดังนี้
[align=center] [/align]
เพื่อให้มีความแข็งแรงเพิ่มขึ้น แต่มีน้ำหนักเบา ผลที่ได้คือ การขยายแกนจาก 28 มม มาเป็น 32 มม แต่ความยาวของแกนโช้ค จะมีขนาดสั้นลง ไม่ยาวสุดกระบอกแบบเดิม
[align=center] [/align]
เนื่องจากแกนโช้คสั้นกระบอกโช้คจึงต้องออกแบบให้ด้านล่างกลวง เพื่อรับกับแกนที่สั้น
[align=center] [/align]
ส่วนระบบเบรกนั้น SID 2008 สามารถใช้ดีสเบรกด้วยหูยึดแบบ Post Mount ได้เพียงอย่างเดียว
[align=center] [/align]
ในรุ่น World Cup มีการลดน้ำหนักชุดแดมปิ้งด้วยการใช้ไทเทเนี้ยมฅฅ
[align=center] [/align]
ช่วงยุบสามารถปรับได้สองระดับคือ 80 และ 100 ม.ม. ด้วยการรองตัวคั่นในแกนโช้ค
[align=center] [/align]