บทความแปลสั้น+ย่อ: เติมลมแน่น ไวจริงหรือ
ผู้ดูแล: Cycling B®y, spinbike, velocity
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 509
- ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ม.ค. 2016, 08:28
- Bike: Avenger R8
- ตำแหน่ง: Louiaiana
บทความแปลสั้น+ย่อ: เติมลมแน่น ไวจริงหรือ
บทความนี้ ใครอยากอ่านภาษาอังกฤษ แบบเต็มๆ อ่านได้ที่ https://silca.cc/blogs/journal นะครับ
เทสหลายเรื่อง มากกว่าที่ผมจะเล่าในกระทู้นี้ (เรื่องที่เล่า อยู่ตอน 4 )
==============================================================
"เติม Max ไปเลยไวดี"
"ใช้ Tubular เติมแน่นๆ Rolling resistance ต่ำ วิ่งไวกว่า"
คำกล่าวเหล่านี้ ผมเชื่อว่าหลายท่านคงได้ยินมาหลายต่อหลายครั้ง ว่าแต่ มันใช่แน่เหรอ?
คำตอบคือ ใช่ และ ไม่ใช่ครับ
มาเริ่มจาก กราฟ Rolling resistance กันก่อน
Rolling Resistance คือพลังงานที่เสียไปกับการที่ยางหดตัวและคืนตัวเมื่อกลิ้งบนถนน
เออ ก็ถูกนี่นา Rolling Resistance เทสบนลูกกลิ้ง ลมยิ่งแน่น ยางยิ่งยุบตัวน้อย พลังงานก็เสียไปน้อย ก็ไปได้ไว
ช้าก่อน! เราลืมอะไรไปรึเปล่า? ท่านเคยรู้จัก Rolling Impedance ไหม?
Rolling Impedance คือ พลังงานที่สูญเสียไปกับการเด้งขึ้นลงของจักรยาน (และคนนั่ง)
สมมติทางเกือบจะเรียบสนิท แต่มี texture เล็กน้อยสูงแค่ 3mm ถ้าลมแน่นมากๆจนยางไม่ยุบ เวลาวิ่งผ่านจักรยานรวมถึงตัวท่านจะขยับขึ้นลง 3mm เต็มๆ ในขณะที่ลมอ่อนลงมาอาจเด้งแค่เพียง 0.5mm เท่านั้น จึงสูญเสียน้อยกว่า เราอาจจะเด้งแบบนี้เป็นหมื่นครั้งตลอดระยะทางที่ปั่น พลังงานที่สูญเสียไปจึงไม่ใช่น้อยๆ อย่างที่คิดกันเมื่อหลายปีก่อน (ก่อนเทรนด์ยางกว้างจะมา)
ยางไหนไปได้ไวกว่า การคิด Rolling resistance จึงเป็นแค่ภาพครึ่งเดียวของทั้งหมด อีกครึ่งนึงคือ Rolling Impedance นั้นขึ้นอยู่กับสภาพถนน โดย Track Indoor ที่เรียบสนิทนั้นแทบจะเป็น 0 ไล่ไปถึงทางขรุขระซึ่งเป็นกราฟชันมาก
มาดูผลทดสอบของ Silca ชัดๆ เมื่อสองค่าบวกกันแล้ว ผมเขียนภาษาไทยบอกประเภทถนนไว้ข้างกราฟแต่ละเส้นแล้ว จากกราฟจะเห็นได้ว่า เมื่อ Rolling Resistance+ Rolling Impedance แล้ว ยางที่ลมแน่นเกินไปเล็กน้อย กลับเสียพลังงานมากกว่ายางที่อ่อนไปเล็กน้อยด้วยซ้ำ
คราวนี้บอกผมใหม่อีกทีสิ ว่าเติมลมแน่นเกิน 110psi วิ่งบนถนนจริงมันเร็วจริงไหม หรือแค่มันเด้งสะใจ ไม่หนืดเลยรู้สึกว่าเร็ว?
เทสหลายเรื่อง มากกว่าที่ผมจะเล่าในกระทู้นี้ (เรื่องที่เล่า อยู่ตอน 4 )
==============================================================
"เติม Max ไปเลยไวดี"
"ใช้ Tubular เติมแน่นๆ Rolling resistance ต่ำ วิ่งไวกว่า"
คำกล่าวเหล่านี้ ผมเชื่อว่าหลายท่านคงได้ยินมาหลายต่อหลายครั้ง ว่าแต่ มันใช่แน่เหรอ?
คำตอบคือ ใช่ และ ไม่ใช่ครับ
มาเริ่มจาก กราฟ Rolling resistance กันก่อน
Rolling Resistance คือพลังงานที่เสียไปกับการที่ยางหดตัวและคืนตัวเมื่อกลิ้งบนถนน
เออ ก็ถูกนี่นา Rolling Resistance เทสบนลูกกลิ้ง ลมยิ่งแน่น ยางยิ่งยุบตัวน้อย พลังงานก็เสียไปน้อย ก็ไปได้ไว
ช้าก่อน! เราลืมอะไรไปรึเปล่า? ท่านเคยรู้จัก Rolling Impedance ไหม?
Rolling Impedance คือ พลังงานที่สูญเสียไปกับการเด้งขึ้นลงของจักรยาน (และคนนั่ง)
สมมติทางเกือบจะเรียบสนิท แต่มี texture เล็กน้อยสูงแค่ 3mm ถ้าลมแน่นมากๆจนยางไม่ยุบ เวลาวิ่งผ่านจักรยานรวมถึงตัวท่านจะขยับขึ้นลง 3mm เต็มๆ ในขณะที่ลมอ่อนลงมาอาจเด้งแค่เพียง 0.5mm เท่านั้น จึงสูญเสียน้อยกว่า เราอาจจะเด้งแบบนี้เป็นหมื่นครั้งตลอดระยะทางที่ปั่น พลังงานที่สูญเสียไปจึงไม่ใช่น้อยๆ อย่างที่คิดกันเมื่อหลายปีก่อน (ก่อนเทรนด์ยางกว้างจะมา)
ยางไหนไปได้ไวกว่า การคิด Rolling resistance จึงเป็นแค่ภาพครึ่งเดียวของทั้งหมด อีกครึ่งนึงคือ Rolling Impedance นั้นขึ้นอยู่กับสภาพถนน โดย Track Indoor ที่เรียบสนิทนั้นแทบจะเป็น 0 ไล่ไปถึงทางขรุขระซึ่งเป็นกราฟชันมาก
มาดูผลทดสอบของ Silca ชัดๆ เมื่อสองค่าบวกกันแล้ว ผมเขียนภาษาไทยบอกประเภทถนนไว้ข้างกราฟแต่ละเส้นแล้ว จากกราฟจะเห็นได้ว่า เมื่อ Rolling Resistance+ Rolling Impedance แล้ว ยางที่ลมแน่นเกินไปเล็กน้อย กลับเสียพลังงานมากกว่ายางที่อ่อนไปเล็กน้อยด้วยซ้ำ
คราวนี้บอกผมใหม่อีกทีสิ ว่าเติมลมแน่นเกิน 110psi วิ่งบนถนนจริงมันเร็วจริงไหม หรือแค่มันเด้งสะใจ ไม่หนืดเลยรู้สึกว่าเร็ว?
ตัวเล็กก็ยอมรับความจริงบ้าง อย่าหลอกตัวเองแล้วใช้อุปกรณ์ไซส์เกินตัวเลย
สูง 169cm, frame size=50, crank length=165mm, bar width=38cm
สูง 169cm, frame size=50, crank length=165mm, bar width=38cm
- น้องหนึ่ง
- ขาประจำ
- โพสต์: 10797
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 04:07
- Tel: 0891441866
- ตำแหน่ง: http://www.thaimtb.com/forum/viewforum.php?f=528
- ติดต่อ:
Re: บทความแปลสั้น+ย่อ: เติมลมแน่น ไวจริงหรือ
ขอบคุณครับพี่ มีกราฟแบบนี้ ทำให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นมากทีเดียว
เคยแนะนำลูกค้าหลายท่าน ว่าเติมลมให้เหมาะสมกับน้ำหนัก แต่สุดท้ายเค้าก็เติมเต็มที่อยู่ดี เป็นความเชื่อที่เปลี่ยนกันได้ยาก
นอกจาก Rolling Impedance ในบทความข้างบนนั่นแล้ว ยังมีเรื่องการเกาะถนนอีกเรื่องที่ต้องพิจารณา การเติมลมยางมากไป จะทำให้ยางลื่นไม่เกาะถนน ล้อไม่สามารถถ่ายแรงลงพื้นได้ ฟรีทิ้งไปส่วนนึง
การเติมลมพอดี หาจุดสมดุลย์ให้เจอ จึงจะทำให้รถไปได้เร็วที่สุดครับ
เคยแนะนำลูกค้าหลายท่าน ว่าเติมลมให้เหมาะสมกับน้ำหนัก แต่สุดท้ายเค้าก็เติมเต็มที่อยู่ดี เป็นความเชื่อที่เปลี่ยนกันได้ยาก
นอกจาก Rolling Impedance ในบทความข้างบนนั่นแล้ว ยังมีเรื่องการเกาะถนนอีกเรื่องที่ต้องพิจารณา การเติมลมยางมากไป จะทำให้ยางลื่นไม่เกาะถนน ล้อไม่สามารถถ่ายแรงลงพื้นได้ ฟรีทิ้งไปส่วนนึง
การเติมลมพอดี หาจุดสมดุลย์ให้เจอ จึงจะทำให้รถไปได้เร็วที่สุดครับ
ร้านจักรยานฝีมือดี มาดึกๆได้
www.thaimtb.com/forum/viewforum.php?f=528
www.facebook.com/HomeMadeBicycle
www.thaimtb.com/forum/viewforum.php?f=528
www.facebook.com/HomeMadeBicycle
- lucifer
- ขาประจำ
- โพสต์: 6413
- ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ย. 2010, 14:53
- team: BPMTB , BPRB , Bikeloves
- Bike: Only 2-wheels bike
- ติดต่อ:
Re: บทความแปลสั้น+ย่อ: เติมลมแน่น ไวจริงหรือ
ขอบคุณมากครับ อ่านง่ายๆ ได้ใจความ
ไม่นานมานี้ก็มีผลการทดสอบเกี่ยวกับยางมากมายหลากหลายยี่ห้อ ทั้งงัด ทั้ง tubular ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้เริ่มจะคล้ายกันว่า สูบลมแข็งเกินไป กลับสู้สูบลมตามสเปคหรือ ตามน้ำหนัก หรือ ตามสภาพถนนไม่ได้ แล้ว ยาง tubular ในเกรดแข่งก็ยังสู้ยางงัดในเกรดแข่งไม่ได้อีกเช่นกัน อุตะ
ข้อสังเกตช้านานของชาวจักรยานที่เคยบอกกันว่า รถเหล็กมันไหล รถอลูมิเนียมต้องหมั่นเติม หลายคนพาลคิดว่าเพราะรถเหล็กมันหนักกว่า เลยไหลกว่ากระมัง
ปัจจุบันมีรถคาร์บอนที่เบา พุ่ง นุ่ม และไหล ประเด็นเรื่องเดียวก็คือ แรงสะเทือนจากพื้นถนนมันหมดไป ไม่ว่าจะเป็นยางที่พัฒนาขึ้น รวมถึงเฟรมจักรยานที่ซับแรงสะเทือน
แรงสะเทือนที่ส่งขึ้นมาจากพื้นถนน จะไปหักล้างกับแรงกดบันไดที่เราส่งลงไปยังจักรยาน ถ้าแรงสะเทือนนี่หายไป แรงที่เราส่งไปยังลูกบันไดก็จะเต็มเม็ดเต็มเหนี่ยวขึ้น จากการได้ทดสอบรถที่ซับแรงสะเทือนได้ดีๆแล้ว พบว่ามันเป็นเช่นที่คิดนี้ทุกประการ
เพราะสุดท้ายแล้ว บนถนนที่ไม่เรียบนัก รถที่ซับแรงได้ดีกว่า จะไปได้เร็วกว่า สบายตัวกว่า ออกแรงเฉลี่ยลดลง พูดง่ายๆว่าไหลกว่านั่นเอง
ตัวอย่างแบบหยาบๆที่เอามาสาธกได้ง่ายสุด ก็คือ จักรยานเสือภูเขาแบบ Hardtail กับ Full suspension ในสมัยก่อนมีแต่คนบอกว่า รถ full susp มันกินแรง เพราะต้องมาสู้กับอาการย้วยให้ตัวของระบบกันสะเทือนล้อหลัง สุดท้ายก็พัฒนากันจนถึงจุดที่ว่า แรงที่ถีบบันไดแทบจะไม่เสียไปกับการยุบตัวของล้อหลังเลย แล้วพอเอาเข้าไปแข่งกันในทางขรุขระ สุดท้ายรถ full susp ก็ไปได้เร็วกว่า ซึ่งถ้าจะแพ้ก็แพ้กันเพราะว่าน้ำหนักรวมๆของรถ full susp ทำให้เบาเท่ากับรถ Hardtail ได้ยากกว่า ถ้าเป็นทางเรียบกริบ รถ full susp ก็เสียเปรียบวันยังค่ำ แต่ถ้าชวนเข้าไปขี่ในทางขรุขระมากๆ รถHardtail จะไปได้ช้ากว่า เพราะนอกจากจะต้องแก้อาการสะเทือนจนล้อหลังไม่สัมผัสพื้นแล้ว ยังเสียแรงที่กดบันไดไปกับแรงที่สะท้อนจากพื้นขึ้นมา"ฆ่า"อีก
ไม่นานมานี้ก็มีผลการทดสอบเกี่ยวกับยางมากมายหลากหลายยี่ห้อ ทั้งงัด ทั้ง tubular ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้เริ่มจะคล้ายกันว่า สูบลมแข็งเกินไป กลับสู้สูบลมตามสเปคหรือ ตามน้ำหนัก หรือ ตามสภาพถนนไม่ได้ แล้ว ยาง tubular ในเกรดแข่งก็ยังสู้ยางงัดในเกรดแข่งไม่ได้อีกเช่นกัน อุตะ
ข้อสังเกตช้านานของชาวจักรยานที่เคยบอกกันว่า รถเหล็กมันไหล รถอลูมิเนียมต้องหมั่นเติม หลายคนพาลคิดว่าเพราะรถเหล็กมันหนักกว่า เลยไหลกว่ากระมัง
ปัจจุบันมีรถคาร์บอนที่เบา พุ่ง นุ่ม และไหล ประเด็นเรื่องเดียวก็คือ แรงสะเทือนจากพื้นถนนมันหมดไป ไม่ว่าจะเป็นยางที่พัฒนาขึ้น รวมถึงเฟรมจักรยานที่ซับแรงสะเทือน
แรงสะเทือนที่ส่งขึ้นมาจากพื้นถนน จะไปหักล้างกับแรงกดบันไดที่เราส่งลงไปยังจักรยาน ถ้าแรงสะเทือนนี่หายไป แรงที่เราส่งไปยังลูกบันไดก็จะเต็มเม็ดเต็มเหนี่ยวขึ้น จากการได้ทดสอบรถที่ซับแรงสะเทือนได้ดีๆแล้ว พบว่ามันเป็นเช่นที่คิดนี้ทุกประการ
เพราะสุดท้ายแล้ว บนถนนที่ไม่เรียบนัก รถที่ซับแรงได้ดีกว่า จะไปได้เร็วกว่า สบายตัวกว่า ออกแรงเฉลี่ยลดลง พูดง่ายๆว่าไหลกว่านั่นเอง
ตัวอย่างแบบหยาบๆที่เอามาสาธกได้ง่ายสุด ก็คือ จักรยานเสือภูเขาแบบ Hardtail กับ Full suspension ในสมัยก่อนมีแต่คนบอกว่า รถ full susp มันกินแรง เพราะต้องมาสู้กับอาการย้วยให้ตัวของระบบกันสะเทือนล้อหลัง สุดท้ายก็พัฒนากันจนถึงจุดที่ว่า แรงที่ถีบบันไดแทบจะไม่เสียไปกับการยุบตัวของล้อหลังเลย แล้วพอเอาเข้าไปแข่งกันในทางขรุขระ สุดท้ายรถ full susp ก็ไปได้เร็วกว่า ซึ่งถ้าจะแพ้ก็แพ้กันเพราะว่าน้ำหนักรวมๆของรถ full susp ทำให้เบาเท่ากับรถ Hardtail ได้ยากกว่า ถ้าเป็นทางเรียบกริบ รถ full susp ก็เสียเปรียบวันยังค่ำ แต่ถ้าชวนเข้าไปขี่ในทางขรุขระมากๆ รถHardtail จะไปได้ช้ากว่า เพราะนอกจากจะต้องแก้อาการสะเทือนจนล้อหลังไม่สัมผัสพื้นแล้ว ยังเสียแรงที่กดบันไดไปกับแรงที่สะท้อนจากพื้นขึ้นมา"ฆ่า"อีก
แก้ไขล่าสุดโดย lucifer เมื่อ 18 เม.ย. 2017, 08:32, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
ถ้าอ่อนซ้อม อ่อนทักษะ ก็จะพบว่าจักรยานคันไหนๆก็ไม่แตกต่างกันหรอก เพราะปั่นไม่ไปเหมือนๆกัน และบังคับควบคุมได้ห่วยพอๆกัน
- flybigbear
- ขาประจำ
- โพสต์: 558
- ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ก.ย. 2014, 13:45
- team: ชมรมจักรยานจังหวัดแพร่
- Bike: NICH SIGNATURE
Re: บทความแปลสั้น+ย่อ: เติมลมแน่น ไวจริงหรือ
ขอบคุณครับ
- krissada
- ขาประจำ
- โพสต์: 408
- ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ธ.ค. 2011, 10:01
- team: ฅนชานเมือง
- Bike: CAAD12
- ติดต่อ:
Re: บทความแปลสั้น+ย่อ: เติมลมแน่น ไวจริงหรือ
มีประโยชน์มากครับ
A mind forever voyaging through strange seas of thought, alone
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 121
- ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2013, 08:50
- ติดต่อ:
Re: บทความแปลสั้น+ย่อ: เติมลมแน่น ไวจริงหรือ
มี web คำนวนแรงดันลมยางครับ http://www.daniellelongo.com/psi/ แต่หน่วยเป็นปอนด์
เลยเอาตัวอย่างสูตรคำนวนมา แล้วเปลี่ยนหน่วยเป็น กก. สำหรับใช้กันเอง
ลองใช้ดูครับ เปิด https://bananaxch.appspot.com/page/tirepressure.html แล้วก็ใส่ค่าน้ำหนักตัวน้ำหนักรถ
ตามข้อมูลใน web ต้นฉบับ สูตรคำนวนแบ่งน้ำหนักลงล้อหน้า 45% ล้อหลัง 55% แรงดันที่คำนวนได้จะทำให้ยางยุบตัวลง 15% ให้สมดุลสูงสุดระหว่างประสิทธิภาพความนุ่มและการควบคุม
ได้ค่าออกมา หน้า 75 หลัง 94
วันนี้ก็จะลองเติมลมตามที่สูตรคำนวน ถ้าได้ผลยังไง หรือว่าใครมีสูตรคำนวนแบบไหน บอกได้นะครับ
เลยเอาตัวอย่างสูตรคำนวนมา แล้วเปลี่ยนหน่วยเป็น กก. สำหรับใช้กันเอง
ลองใช้ดูครับ เปิด https://bananaxch.appspot.com/page/tirepressure.html แล้วก็ใส่ค่าน้ำหนักตัวน้ำหนักรถ
ตามข้อมูลใน web ต้นฉบับ สูตรคำนวนแบ่งน้ำหนักลงล้อหน้า 45% ล้อหลัง 55% แรงดันที่คำนวนได้จะทำให้ยางยุบตัวลง 15% ให้สมดุลสูงสุดระหว่างประสิทธิภาพความนุ่มและการควบคุม
ผมหนัก 76 รวมเป้ใบนึงเป็น 78 จักรยานรวมน้ำในกระติกหนักประมาณ 10 กก. ยางกว้าง 25Inflating your tires to achieve 15% tire drop will optimize your bicycle's performance, comfort and handling.
ได้ค่าออกมา หน้า 75 หลัง 94
วันนี้ก็จะลองเติมลมตามที่สูตรคำนวน ถ้าได้ผลยังไง หรือว่าใครมีสูตรคำนวนแบบไหน บอกได้นะครับ
-
- สมาชิก
- โพสต์: 96
- ลงทะเบียนเมื่อ: 03 มี.ค. 2015, 21:26
- Tel: 0810939367
- team: พัทลุง
- Bike: Lapierre Xelius Efi Ultimate FDJteam
- ตำแหน่ง: 171 ม.4 ต.พนมวังก์ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง
- ติดต่อ:
Re: บทความแปลสั้น+ย่อ: เติมลมแน่น ไวจริงหรือ
ผมลองคำนวณจากโปรแกรม ได้ล้อหน้า57 ล้อหลัง 73 ผมเกรงว่ามันจะน้อยไปมั้ยครับ ฮ่าๆ
มิตรภาพดีๆที่เริ่มต้นจาก " จักรยาน "
- Runbird
- ขาประจำ
- โพสต์: 369
- ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ค. 2016, 12:28
- team: N/A
- Bike: Scott/Cannondale
- ตำแหน่ง: Bangkok
Re: บทความแปลสั้น+ย่อ: เติมลมแน่น ไวจริงหรือ
ความเห็นแบบบ้าน ๆ นะครับ ถ้าผิดพลาด..ขออภัย
1. ส่วนใหญ่ได้รับการปลูกฝังต่อ ๆ กันมาว่า สูบลมให้เต็ม max โอกาสยางแตกน้อยกว่า สูบลมอ่อนหน่อย...
2. ความกลัวยางแตก/ขี้เกียจปะ/ขี้เกียจเปลี่ยน...หลายคนคิดว่ามันเกินกว่าความกังวลเรื่องการสูญเสียอื่น ๆ....อุปกรณ์หลายอย่างเซ็ตไว้สมบูรณ์แบบแล้ว..แต่เจ้ายางนี่ขอเหอะ...ดูขอบแล้ว max เท่าไหร่ก็จัดเท่านั้น...over ก็กลัว under ก็ไม่มั่นใจ
3. ความรู้สึกที่ยางแข็ง ๆ เหยียบอะไรต่อมิอะไรแล้วดีดปึ๊งปั๋งออกข้าง ๆ ไป มันมั่นใจกว่ายางอ่อน ๆ ที่ถ้าหลบไม่ทันต้องบดลงไปเต็มหน้ายางแล้วลุ้นเอา...
4 นี่ว่ากันเฉพาะถนนทั่วไปในเมืองไทย...ทางจักรยานโดยเฉพาะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
5. เป็นความรู้สึกพื้นฐานต่อเนื่องจากจักรยานแม่บ้านที่ไม่เคยสนใจว่าต้องเติมลมตาม spec หรือไม่ รู้แต่ว่าถ้าได้สูบล่ะก็ต้องแข็งสุดเท่าที่จะแข็งได้.....ระยะเวลาการซึมออกจนอ่อนจนถึงการสูบครั้งต่อไปจะได้ทอดยาวขึ้น
ความเห็นแบบบ้าน ๆ นะครับ
1. ส่วนใหญ่ได้รับการปลูกฝังต่อ ๆ กันมาว่า สูบลมให้เต็ม max โอกาสยางแตกน้อยกว่า สูบลมอ่อนหน่อย...
2. ความกลัวยางแตก/ขี้เกียจปะ/ขี้เกียจเปลี่ยน...หลายคนคิดว่ามันเกินกว่าความกังวลเรื่องการสูญเสียอื่น ๆ....อุปกรณ์หลายอย่างเซ็ตไว้สมบูรณ์แบบแล้ว..แต่เจ้ายางนี่ขอเหอะ...ดูขอบแล้ว max เท่าไหร่ก็จัดเท่านั้น...over ก็กลัว under ก็ไม่มั่นใจ
3. ความรู้สึกที่ยางแข็ง ๆ เหยียบอะไรต่อมิอะไรแล้วดีดปึ๊งปั๋งออกข้าง ๆ ไป มันมั่นใจกว่ายางอ่อน ๆ ที่ถ้าหลบไม่ทันต้องบดลงไปเต็มหน้ายางแล้วลุ้นเอา...
4 นี่ว่ากันเฉพาะถนนทั่วไปในเมืองไทย...ทางจักรยานโดยเฉพาะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
5. เป็นความรู้สึกพื้นฐานต่อเนื่องจากจักรยานแม่บ้านที่ไม่เคยสนใจว่าต้องเติมลมตาม spec หรือไม่ รู้แต่ว่าถ้าได้สูบล่ะก็ต้องแข็งสุดเท่าที่จะแข็งได้.....ระยะเวลาการซึมออกจนอ่อนจนถึงการสูบครั้งต่อไปจะได้ทอดยาวขึ้น
ความเห็นแบบบ้าน ๆ นะครับ
"Simply Irresistible"
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 121
- ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2013, 08:50
- ติดต่อ:
Re: บทความแปลสั้น+ย่อ: เติมลมแน่น ไวจริงหรือ
ต้องลองดู อยากรู้ผลเหมือนกันครับ จะได้มาปรับสูตรคำนวน ถ้าปั่นจริงแล้วล้อมันเด้งขึ้นๆลงๆค่อยลองเพิ่มดู
เพราะในต้นฉบับเห็นเขาว่าคิดที่แรงดันลมที่ทำให้ยางยุบตัว 15 % แต่ความเป็นจริงอาจจะมีตัวแปรอะไรเพิ่มเติมเข้ามาอีกครับ
วันนี้ออกไปลอง เติมตามสูตรที่คำนวนได้ ล้อหลัง 95 แต่เติมเผื่อไว้หน่อยตอนถอดสูบออก มันจะมีลมรั่วมาหน่อยนึงเป็น 100 PSI ลดลงมาจากปกติที่เคยเติม 110
ปรากฏว่า AV เท่าๆเดิม Max speed เยอะกว่าเดิม ช่วงปั่นความเร็วปกติ 30-40 ก็ไม่ได้หนืดกว่ากัน แถมรู้สึกว่ามันไหลกว่าตอนเติมลมแข็งๆอีก แต่ความนุ่มผิดกันมากครับ ยิ่งช่วงความเร็วสูงๆเกิน 40 ไปแล้วนี่รถนิ่งกว่าเดิมเยอะมาก
เพราะในต้นฉบับเห็นเขาว่าคิดที่แรงดันลมที่ทำให้ยางยุบตัว 15 % แต่ความเป็นจริงอาจจะมีตัวแปรอะไรเพิ่มเติมเข้ามาอีกครับ
วันนี้ออกไปลอง เติมตามสูตรที่คำนวนได้ ล้อหลัง 95 แต่เติมเผื่อไว้หน่อยตอนถอดสูบออก มันจะมีลมรั่วมาหน่อยนึงเป็น 100 PSI ลดลงมาจากปกติที่เคยเติม 110
ปรากฏว่า AV เท่าๆเดิม Max speed เยอะกว่าเดิม ช่วงปั่นความเร็วปกติ 30-40 ก็ไม่ได้หนืดกว่ากัน แถมรู้สึกว่ามันไหลกว่าตอนเติมลมแข็งๆอีก แต่ความนุ่มผิดกันมากครับ ยิ่งช่วงความเร็วสูงๆเกิน 40 ไปแล้วนี่รถนิ่งกว่าเดิมเยอะมาก
nantavit7 เขียน:ผมลองคำนวณจากโปรแกรม ได้ล้อหน้า57 ล้อหลัง 73 ผมเกรงว่ามันจะน้อยไปมั้ยครับ ฮ่าๆ
-
- สมาชิก
- โพสต์: 96
- ลงทะเบียนเมื่อ: 03 มี.ค. 2015, 21:26
- Tel: 0810939367
- team: พัทลุง
- Bike: Lapierre Xelius Efi Ultimate FDJteam
- ตำแหน่ง: 171 ม.4 ต.พนมวังก์ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง
- ติดต่อ:
Re: บทความแปลสั้น+ย่อ: เติมลมแน่น ไวจริงหรือ
นั่นสิครับ เมื่อก่อนผมก็เข้าใจผิดๆ เติม 120 บ้าง 130 บ้าง เพราะคิดว่าแข็งๆน่าจะเร็ว แต่หลังๆมานี่เติมแค่ 100-110 เท่านั้น ปรากฎว่าก็ขี่ไม่ได้ช้าลง แถมสบายตรูดกว่ากันเยอะคับdt86374 เขียน:ต้องลองดู อยากรู้ผลเหมือนกันครับ จะได้มาปรับสูตรคำนวน ถ้าปั่นจริงแล้วล้อมันเด้งขึ้นๆลงๆค่อยลองเพิ่มดู
เพราะในต้นฉบับเห็นเขาว่าคิดที่แรงดันลมที่ทำให้ยางยุบตัว 15 % แต่ความเป็นจริงอาจจะมีตัวแปรอะไรเพิ่มเติมเข้ามาอีกครับ
วันนี้ออกไปลอง เติมตามสูตรที่คำนวนได้ ล้อหลัง 95 แต่เติมเผื่อไว้หน่อยตอนถอดสูบออก มันจะมีลมรั่วมาหน่อยนึงเป็น 100 PSI ลดลงมาจากปกติที่เคยเติม 110
ปรากฏว่า AV เท่าๆเดิม Max speed เยอะกว่าเดิม ช่วงปั่นความเร็วปกติ 30-40 ก็ไม่ได้หนืดกว่ากัน แถมรู้สึกว่ามันไหลกว่าตอนเติมลมแข็งๆอีก แต่ความนุ่มผิดกันมากครับ ยิ่งช่วงความเร็วสูงๆเกิน 40 ไปแล้วนี่รถนิ่งกว่าเดิมเยอะมาก
nantavit7 เขียน:ผมลองคำนวณจากโปรแกรม ได้ล้อหน้า57 ล้อหลัง 73 ผมเกรงว่ามันจะน้อยไปมั้ยครับ ฮ่าๆ
มิตรภาพดีๆที่เริ่มต้นจาก " จักรยาน "
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 1356
- ลงทะเบียนเมื่อ: 21 ส.ค. 2014, 11:44
Re: บทความแปลสั้น+ย่อ: เติมลมแน่น ไวจริงหรือ
จาก 125 กับ 160 หลัง
ตอนนี้เหลือ 100 กับ 125 ครับ
ตอนนี้เหลือ 100 กับ 125 ครับ
- irat
- ขาประจำ
- โพสต์: 879
- ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ธ.ค. 2013, 11:57
- team: 18+
Re: บทความแปลสั้น+ย่อ: เติมลมแน่น ไวจริงหรือ
สายแฟชั่น ปั่นเรื่อยเปื่อย
-
- สมาชิก
- โพสต์: 79
- ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ธ.ค. 2015, 10:08
Re: บทความแปลสั้น+ย่อ: เติมลมแน่น ไวจริงหรือ
น้ำหนักคน+รถ รวมน้ำ ประมาณ 85kg ยาง GP4000s II 23mm แต่ก่อนเติมหน้า100 หลัง 110-115
ปัจจุบัน หน้า 95-100 หลัง 100-105 ครับ ชีวิตดีขึ้นจริงๆ จังหวะขึ้นเนิน ยางแข็งอาจจะขึ้นดีกว่า สนุกกว่า ตอบสนองแรงดี
แต่ขาลงมันกระดอนครับรู้สึกไม่ปลอดภัย
สรุป เลิกอัดยางแข็งละครับขี่สบาย-ไวเท่าเดิม เปลี่ยนยางรอบหน้าจะเอา 25mm มาใส่แทนละ
จะได้ขี่สบาย เข้าโค้งปลอดภัย ไวเท่าเดิม 555+
ปัจจุบัน หน้า 95-100 หลัง 100-105 ครับ ชีวิตดีขึ้นจริงๆ จังหวะขึ้นเนิน ยางแข็งอาจจะขึ้นดีกว่า สนุกกว่า ตอบสนองแรงดี
แต่ขาลงมันกระดอนครับรู้สึกไม่ปลอดภัย
สรุป เลิกอัดยางแข็งละครับขี่สบาย-ไวเท่าเดิม เปลี่ยนยางรอบหน้าจะเอา 25mm มาใส่แทนละ
จะได้ขี่สบาย เข้าโค้งปลอดภัย ไวเท่าเดิม 555+
- TOURRIT
- ขาประจำ
- โพสต์: 194
- ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ม.ค. 2009, 22:49
Re: บทความแปลสั้น+ย่อ: เติมลมแน่น ไวจริงหรือ
ยาง26x1.75 ต้องใส่ค่าขนาดยางเท่าไรครับ
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 121
- ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2013, 08:50
- ติดต่อ:
Re: บทความแปลสั้น+ย่อ: เติมลมแน่น ไวจริงหรือ
ใส่ขนาดยางเป็น 25 แล้วก็ลบสัก 3-4 PSI จากค่าที่คำนวนได้
หรือประมาณดูน้ำหนักกดล้อกับขนาดยางจากกราฟก็ได้ครับ
หรือประมาณดูน้ำหนักกดล้อกับขนาดยางจากกราฟก็ได้ครับ
TOURRIT เขียน:ยาง26x1.75 ต้องใส่ค่าขนาดยางเท่าไรครับ