Crius 20นิ้ว ร้อนๆแบบนี้นอนอยู่บ้านดีกว่า
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 632
- ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ส.ค. 2008, 17:14
- Tel: Line: songkrit_prapagdee
- team: Bike Sunday
- Bike: Folding bicycles
- ตำแหน่ง: ตลิ่งชัน กรุงเทพฯ
- ติดต่อ:
Re: Crius 20นิ้ว มาแจมได้ครับ อยากบอกว่า ลำปาง ร้อนมาก หน้า10นะ
ขอบคุณครับที่เล่าเรื่องราวดีๆ
-
- สมาชิก
- โพสต์: 15
- ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2015, 09:14
- Tel: 0926498988
- Bike: tyrell, araya, cannondale
Re: Crius 20นิ้ว มาแจมได้ครับ อยากบอกว่า ลำปาง ร้อนมาก หน้า10นะ
ขอแจมด้วยครับ เป็นรถที่ใช้ดีกว่าที่คิดไว้มากครับ
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 1227
- ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ส.ค. 2008, 10:20
- Tel: 0875897608
- team: ไปเรื่อยๆ
- Bike: เมริด้า แลนด์เกียร์
- ตำแหน่ง: ซ.อ่อนนุช 46
- ติดต่อ:
Re: Crius 20นิ้ว มาแจมได้ครับ อยากบอกว่า ลำปาง ร้อนมาก หน้า10นะ
เชิญเลยครับ ปล่อยกระทู้ตกไปนาน ปั่นแต่แถวบ้าน กับที่เดิมๆsalvation เขียน:ขอแจมด้วยครับ เป็นรถที่ใช้ดีกว่าที่คิดไว้มากครับ
ปั่นไกลแค่ตามองเห็น
เสือหมอบ Bianchi DAMA-BIANCA She Alu7000 เป็นรถสำหรับผู้หญิง ขนาด 44
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=3&t=1479426
เสือหมอบ Bianchi DAMA-BIANCA She Alu7000 เป็นรถสำหรับผู้หญิง ขนาด 44
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=3&t=1479426
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 1227
- ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ส.ค. 2008, 10:20
- Tel: 0875897608
- team: ไปเรื่อยๆ
- Bike: เมริด้า แลนด์เกียร์
- ตำแหน่ง: ซ.อ่อนนุช 46
- ติดต่อ:
Re: Crius 20นิ้ว มาแจมได้ครับ อยากบอกว่า ลำปาง ร้อนมาก หน้า10นะ
ไปกันสองคนพอครับ เพื่อนๆไปปั่นขึ้นภูชี้ฟ้ากันตั้งแต่วันที่3 ผมติดจัดงานวันพ่อพอดีเลยต้องไปกับเจ้าโมโม่ที่ลูกสาวทิ้งไว้แทน
เงียบไปนาน วันพ่อที่ผ่านมาเลยไปปั่นจักรยานให้หายอยากซะหนึ่งที่ ทริปสั้นๆ2คืน ง่ายๆ ประหยัด ใช้รถไฟเป็นพาหนะ จะได้เค้าคอนเซ๊ปรถพับ แต่ผมมันชอบเขา คงหนีเขาไม่พ้น ขอจั๊วหัวไว้ก่อน รอว่างค่อยมาลงรายละเอียดอีกที เพิ่งกลับมาเมื่อเช้า ก็ทำงานเลย
เงียบไปนาน วันพ่อที่ผ่านมาเลยไปปั่นจักรยานให้หายอยากซะหนึ่งที่ ทริปสั้นๆ2คืน ง่ายๆ ประหยัด ใช้รถไฟเป็นพาหนะ จะได้เค้าคอนเซ๊ปรถพับ แต่ผมมันชอบเขา คงหนีเขาไม่พ้น ขอจั๊วหัวไว้ก่อน รอว่างค่อยมาลงรายละเอียดอีกที เพิ่งกลับมาเมื่อเช้า ก็ทำงานเลย
ปั่นไกลแค่ตามองเห็น
เสือหมอบ Bianchi DAMA-BIANCA She Alu7000 เป็นรถสำหรับผู้หญิง ขนาด 44
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=3&t=1479426
เสือหมอบ Bianchi DAMA-BIANCA She Alu7000 เป็นรถสำหรับผู้หญิง ขนาด 44
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=3&t=1479426
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 1227
- ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ส.ค. 2008, 10:20
- Tel: 0875897608
- team: ไปเรื่อยๆ
- Bike: เมริด้า แลนด์เกียร์
- ตำแหน่ง: ซ.อ่อนนุช 46
- ติดต่อ:
Re: Crius 20นิ้ว มาแจมได้ครับ อยากบอกว่า กิ่วผิ่นก็เข็นมาแล้ว เข็นขึ้นสามโล ลงสามโล
จริงๆไม่ได้ตั้งใจจะไปให้มันลำบากลำบนขนาดนั้น ตัวเองต้องมาภาระกิจจัดงานวันพ่อให้กับที่ทำงานเลยอดไปภูชี้ฟ้ากับเพื่อนๆ แต่จากการที่ต้องมาทำงานวันหยุดเลยได้วันหยุดชดเชยมาสองวัน (โอทีเราไม่เอา) ถุงนอนขนเป็ดก็เพิ่งซื้อมาใหม่ เสื้อกันหนาวขนเป็ดก็เพิ่งซื้อมาใหม่ เตรียมตัวไปหลวงพระบางช่วงปีใหม่ อยากจะทดสอบจริงๆ ไปไหนที่ถูกๆ ไม่ไกลมากดีหนอ เช็ครถไฟดู มีขบวนรถด่วนเชียงใหม่ ขบวน 55 ออกสี่ทุ่ม เราจัดงานร้องเพลงเลิกสองทุ่มไปได้สบายๆ วันนั้นคนคงว่างนั่งสบายแล้ว ก็ปิ้งไอเดียเลย ไหนๆจะไปคนเดียวแล้ว พกนายแบบไปเป็นเพื่อนสักตัวแก้เหงา
เรารถพับซะอย่างไปอย่างไงก็ได้ ไม่ต้องวางแผน ไม่ไหวก็โบก พับขึ้นรถ
พอตกเย็นฝนเทลงมาหนัก ทำใจไม่ไปแล้ววันนี้ ไม่อยากลุยน้ำ เปลี่ยนไปพรุ่งนี้ดีกว่า มีรถบ่ายอยู่ขบวน พอจบพิธีร้องเพลงถวายพระพร ถนนเริ่มแห้ง และได้ข่าวว่าในเมืองฝนไม่ตก ก็รีบกลับบ้านแพ็คของทันที มีเวลาปั่นไปสองชั่วโมง
ได้ตั๊วชั้นสาม ราคา 268 บาท ประหยัดวันนี้ ลำบากวันหน้า เอาเจ้าซีอุยวางใต้อ่างล้างจานได้พอดี
เพื่อนคู่หูทริปนี้ โชว์ตัวหน่อย
รถไฟว่างๆ นั่งสบายดีครับ คนเดียวสี่ที่นั่งเลย ถึงยั่งงั้นก็ทรมาณสมราคาเลย เสียงดังเอาที่อุดหูใส่ก็แล้ว ฟังเพลงก็แล้ว กลิ่นน้ำมัน กลิ่นผ้าเบรคไหม้ กลิ่นสแตนเลสขอบหน้าต่าง ทีหลังต้องพกยาดมไปด้วย ผมดิ้นไปดิ้นมาทั้งสี่เบาะ ก็หามุมหลับไม่ลงสักที พอเคลิ้มๆก็จอดสถานี แม่ค้าเสียงแจ๋วมาขายของ ตื่นอีกยันเช้า
แต่ชอบนะ ลำบากแต่ก็มีความสุข ชอบนั่งรถไฟ ถ้านอนพัดลมเหมาะเลย แต่ไม่ชอบนั่งแอร์
สว่างแล้วค่อยมีสีสรรหน่อย ไม่ต้องนอนมันละ คอยชะโงก คอยโหนบันไดเล่นเหมือนเด็กอยู่ไม่สุก ขบวนนี้มาถึงแพร่เช้าพอดี เส้นทางตั้งแต่แพร่ไปก็เป็นเขา มีหน้าผา อุโมงค์ รถไฟจะวิ่งไม่เร็ว ผ่านแม่เมาะ ลำปาง ไปจนถึงขุนตานเลย ผมก็คนชอบรถไฟมาแต่เด็ก ทำให้มีความสุขไปอีกแบบ
ถ่ายรูปสนุกเลย
ที่นอนเมื่อคืน นอนคนเดียวเลย เลขที่นั่ง73-76 จะได้แถวสุดท้าย ถ้าไม่ติดกับอ่างน้ำก็เป็นห้องส้วม มีที่ว่างให้วางรถพับได้ เวลาซื้อตั้วต้องขอเบอร์แถวนี้ จะได้อยู่ใกล้รถเรา
11.00 น. ถึงสถานีขุนตานพอดี รถไฟไทยเดียวนี้ตรงเวลานะครับ อย่าไปว่าเค้าละ ถ้าใครว่างก็มาถึงลำปางเช้าๆ ปั่นมานอนที่ดอยขุนตานสักคืนก็ดีเหมือนกัน แต่ผมรถพับต้องหาทางลัดไว้ก่อน
ปั่นไกลแค่ตามองเห็น
เสือหมอบ Bianchi DAMA-BIANCA She Alu7000 เป็นรถสำหรับผู้หญิง ขนาด 44
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=3&t=1479426
เสือหมอบ Bianchi DAMA-BIANCA She Alu7000 เป็นรถสำหรับผู้หญิง ขนาด 44
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=3&t=1479426
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 1227
- ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ส.ค. 2008, 10:20
- Tel: 0875897608
- team: ไปเรื่อยๆ
- Bike: เมริด้า แลนด์เกียร์
- ตำแหน่ง: ซ.อ่อนนุช 46
- ติดต่อ:
Re: Crius 20นิ้ว มาแจมได้ครับ อยากบอกว่า กิ่วผิ่นก็เข็นมาแล้ว เข็นขึ้นสามโล ลงสามโล
ลงสถานีขุนตาน11โมง หิวโซเลย ข้าวเช้าไม่ได้กิน ไม่ได้ซื้ออะไรติดมาเลย ตอนรู้ว่ามาคนเดียวเลยอยากหามิสชั่นทำระหว่างทางแก้เหงา อย่างนึงที่คิดไว้คือ จะเก็บขยะกลับบ้าน และพยายามสร้างขยะให้น้อยที่สุด เลยไม่ซื้อขนมถุง ลูกอมติดตัว พวกใส่ถุงพลาสติก กล่องโฟมก็ไม่กิน เลยอดกินข้าวบนรถไฟเลย พยายามจะกินให้จบที่ร้านมันทุกอย่าง ลงรถได้เลยวิ่งหาร้านก๊วยเตียวซะหนึ่งชามข้างสถานี บอกเติมน้ำกระติกฟรีอีก1กระติก ขวดสำรองก็ไม่พบมา
มิสชั่นที่สอง คือจะพยายามบันทึกการเดินทางไว้ แล้วก็ตราประทับอุทยานด้วย เดียวจะไม่มีอะไรทำ เลยทำให้ต้องยอมไต่เนินชันๆกิโลครึ่งไปเอาตราประทับของอุทยานขุนตาน ชันมากๆ ต้องค่อยๆเลี้อยขึ้นไป รถพับพอไปได้ครับ แต่คงจะนั่งรถไฟมาหลายชั่วโมง กลัวกล้ามเนื้อจะเจ็บ เนื่องจากไม่วอร์มขาเลย เลยขอเข็นขึ้นตรงเนินชันๆ 2 ครั้ง ถือว่าไม่ผิดกติกา ถนอมมันไว้หน่อยดีกว่า
ประทับตราเสร็จก็ไหลจู๊ดลงมา ทางสวยๆ ผ่านอุทยานมาออกถนนหลวง อากาศเย็นสบาย ปั่นอย่างมีความสุข
พ้นเขตอุทยานก็เป็นพื้นที่การเกษตร ทำนากันเป็นส่วนมาก เสียดายไปช่วยที่เกี่ยวข้าวกันหมดแล้ว ทุ่งนาเลยไม่ค่อยสวยเท่าไหร่
ทริปนี้คงใช้มือถือถ่ายภาพตลอด พกสะดวกดี แค่ถ่ายภาพประกอบเรื่องราว ไม่ต้องเน้นสวยงาม กล้องมิลเลอร์เลสพกไปอยากจะขว้างทิ้ง เกาะกะ ไม่มีประโยชน์เท่าไหร่เลย ไม่น่าพกมาเลย
แวะร้านกาแฟสดแก้ง่วงหน่อย อีกมิสชั่นคือจะกระจายรายได้ให้กับร้านค้าชุมชน ร้านเบอร์เจ็ดจะไม่เข้าเลย ถึงรายจ่ายทริปของเราจะน้อยนิด ก็ยังดีนะ
หลักกิโลก็เป็นนายแบบหลักสำหรับชาวจักรยานอย่างพวกเรา
สามโมงแล้ว แวะเติมพลังอีกสักรอบ ก่อนออกเดินทาง ซึ่งต่อจากนี้ไปเป็นสิ่งที่ไม่คาดหวังจริงๆ
ปั่นไกลแค่ตามองเห็น
เสือหมอบ Bianchi DAMA-BIANCA She Alu7000 เป็นรถสำหรับผู้หญิง ขนาด 44
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=3&t=1479426
เสือหมอบ Bianchi DAMA-BIANCA She Alu7000 เป็นรถสำหรับผู้หญิง ขนาด 44
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=3&t=1479426
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 1227
- ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ส.ค. 2008, 10:20
- Tel: 0875897608
- team: ไปเรื่อยๆ
- Bike: เมริด้า แลนด์เกียร์
- ตำแหน่ง: ซ.อ่อนนุช 46
- ติดต่อ:
Re: Crius 20นิ้ว มาแจมได้ครับ อยากบอกว่า กิ่วผิ่นก็เข็นมาแล้ว เข็นขึ้นสามโล ลงสามโล
สุดท้ายก็หลงทาง เจ้าหน้าที่ฯที่ขุนตานแนะนำให้ผมเลี้ยวซ้ายก่อนถึงห้วยตะไคร้เพื่อมาออกบ่อน้ำร้อนสันกำแพง ทางอ้อมหน่อย แต่เป็นทางหลวงวิ่งสบาย ถ้าจะไปทางตรง ให้ผมแวะเช็คเส้นทางที่อุทยานห้วยตะไคร้ก่อน เพราะทางที่เคยตัดไว้ไม่รู้ว่าเปิดให้คนใช้หรือเปล่า แค่ชื่อไม่เคยได้ยินเลย ข้างหน้าที่ทำการก็ไม่สะดุดตาสักนิด คิดว่าเป็นหน่วยย่อย ผมเลยผ่านไป กะว่าจะหาที่กินข้าวซะก่อนแล้วค่อยย้อนมา ระหว่างกินข้าวก็เช็คแผนที่ เห็นมีจุดชมวิวแม่ตะไคร์ห่างไปห้ากิโล เลยคิดว่าไปนอนบนโน้นน่าจะดี กินข้าวเสร็จถามเส้นทางกับแม่ค้า แม่ค้างง ไม่เคยขึ้นไปเลย เอาไงดีเรา เลยซื้อน้ำหนึ่งขวด มาม่า1ห่อ ขนมอีก2ชิ้นติดตัวไว้กันพลาด คิดว่าข้างบนคงมีร้านค้า
พ้นร้านค้ามาหน่อยเนินแรกก็ชันมาก เพิ่งจะสามโมงกว่า ค่อยๆไต่ เลี้อยไปเลื่อยๆ รถราก็ไม่มีผ่าน ถนนก็ดี สบายๆ เจอชาวบ้านสองคนถือปืนมายิงนกกัน หันมามองเราแล้วยิ้มๆ ยังไงกันหว่า
รถพับนี้เวลาขึ้นชันมากๆ กลัวรถพัง คอมันก็ยาวๆ ไม่น่าจะแข็งแรง จะไปโหนแฮน ยืนโยกแบบรถใหญ่คงไม่เหมาะ เวลาชันๆ ต้องใช้วิธีเลี้อยซ้ายทีขวาที รถว่างๆ เลี้อยได้ทั้งถนน ขึ้นกันเพลินเลย ลดความชันไปได้50%สบายๆ ผมก็เลี้อยเพลิน จนไม่ได้สังเกตว่าข้างทางมันเป็นป่าหมดแล้ว บ้านคนก็ไม่มี ที่นา อะไรก็ไม่มี ขึ้นๆลงๆ มาไกลพอสมควร
พักเดียวทางเป็นแบบนี้ซะแล้ว งานเข้าเลย รถพับล้อ20นิ้วเจอแบบนี้ แต่มาไกลแล้วนะ กำลังสวยเลย คงใกล้ยอดเขาแล้ว เวลาก็เหลือเยอะ ไปต่อซะเลย
ยิ่งไปยิ่งถล่ำลึก ทางก็แย่ลงขี้ขึ้นก็ไม่ได้ ขี่ลงก็ไม่ได้ เข็นอย่างเดียว
พ้นร้านค้ามาหน่อยเนินแรกก็ชันมาก เพิ่งจะสามโมงกว่า ค่อยๆไต่ เลี้อยไปเลื่อยๆ รถราก็ไม่มีผ่าน ถนนก็ดี สบายๆ เจอชาวบ้านสองคนถือปืนมายิงนกกัน หันมามองเราแล้วยิ้มๆ ยังไงกันหว่า
รถพับนี้เวลาขึ้นชันมากๆ กลัวรถพัง คอมันก็ยาวๆ ไม่น่าจะแข็งแรง จะไปโหนแฮน ยืนโยกแบบรถใหญ่คงไม่เหมาะ เวลาชันๆ ต้องใช้วิธีเลี้อยซ้ายทีขวาที รถว่างๆ เลี้อยได้ทั้งถนน ขึ้นกันเพลินเลย ลดความชันไปได้50%สบายๆ ผมก็เลี้อยเพลิน จนไม่ได้สังเกตว่าข้างทางมันเป็นป่าหมดแล้ว บ้านคนก็ไม่มี ที่นา อะไรก็ไม่มี ขึ้นๆลงๆ มาไกลพอสมควร
พักเดียวทางเป็นแบบนี้ซะแล้ว งานเข้าเลย รถพับล้อ20นิ้วเจอแบบนี้ แต่มาไกลแล้วนะ กำลังสวยเลย คงใกล้ยอดเขาแล้ว เวลาก็เหลือเยอะ ไปต่อซะเลย
ยิ่งไปยิ่งถล่ำลึก ทางก็แย่ลงขี้ขึ้นก็ไม่ได้ ขี่ลงก็ไม่ได้ เข็นอย่างเดียว
ปั่นไกลแค่ตามองเห็น
เสือหมอบ Bianchi DAMA-BIANCA She Alu7000 เป็นรถสำหรับผู้หญิง ขนาด 44
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=3&t=1479426
เสือหมอบ Bianchi DAMA-BIANCA She Alu7000 เป็นรถสำหรับผู้หญิง ขนาด 44
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=3&t=1479426
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 1227
- ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ส.ค. 2008, 10:20
- Tel: 0875897608
- team: ไปเรื่อยๆ
- Bike: เมริด้า แลนด์เกียร์
- ตำแหน่ง: ซ.อ่อนนุช 46
- ติดต่อ:
Re: Crius 20นิ้ว มาแจมได้ครับ อยากบอกว่า กิ่วผิ่นก็เข็นมาแล้ว เข็นขึ้นสามโล ลงสามโล
สุดท้ายก็เป็นแบบนี้ตลอด ขึ้นชันๆ ลงชัน เหมือนแถวห้วยปูลิงที่ไปมาเลย ตอนนั้นก็สี่โมงกว่าก็ยังดันทุรังไปต่อ
มาถึงจุดชมวิว มีแต่ป้ายแค่นี้ แต่มองเห็นเมือง ยังมีหวัง ต้องมีทางออกแน่ๆ
ตอนทางไม่ชันมากก็พอขี่ได้ แต่ก็กลัวยางแตก รถพัง ต้องยั้งๆ ไว้ ไม่เหมือนรถใหญ่
จุดชมวิวมันไม่มีอะไรเลย แล้วจะนอนตรงไหน ตอนนี้รู้ตัวแล้วว่าเรามาเส้นทางที่เค้าไม่ใช้กัน จะหันกลับก็ต้องเข็นขึ้นเข็นลงอีกไกลจัง เจอชาวบ้านขี่มอเตอร์ไซด์ผ่านไป หันมายิ้มให้เรา ไม่พูดอะไร ตีความว่าไปได้ซิ ไม่งั้นเค้าต้องเตือนเราแล้ว ไปต่อ
พอพ้นจุดชมวิวมาหน่อยเป็นทางลงชันมาก ต้องลงเข็น มองไปข้างหน้ารู้แล้วว่ายิ่งลงชัน เดียวก็ต้องขึ้นชัน ถ้าลงไปเปลี่ยนใจไม่ได้แล้วนะ เลือกที่จะเสี่ยง เข็นลงไปจนสุดเย็นเฉียบ ตอนนั้นเริ่มรู้อนาคตแล้วว่างานนี้ติดอยู่ในป่าแน่ๆ ปรากฎว่าเจอกลุ่มจักรยานทัวริ่ง มารถเปล่าห้าหกคันกำลังเข็นขึ้นมาเหมือนกัน ใจชื้นเลยครับ พวกเค้ากำลังจะไปนอนห้วยตะไคร้ เลยไต่ถามเส้นทางกัน ของผมออกไปอีกสักโลสองคงก็เป็นทางดำแล้ว แต่ก็ต้องไต่เขาอีกหลายลูกกว่าจะถึงหมู่บ้าน คงจะมืดก่อนแน่ๆ แต่เค้าว่าระหว่างทางมีรถทหารจอดอยู่ ยังไงก็ขอพึ่งรถทหาร ผมผ่านรถจี๊ปมามันเป็นรถทะเบียนประชาชน มีคนอยู่ทำท่าหลบผม ท่าไม่ดี ผมเลยเข็นผ่านไปไกลๆ แล้วตะโกนถามทาง แน่ใจว่าถูกทางก็ไปต่อ ทางใครทางมันดีกว่า
ทริปนี้พกเปลมุ้งมา ของกินพอ ไฟหน้าก็สว่างเอาวะ มองข้างทางต้นไม้ผูกเปลเยอะแยะ ไม่ก็ไนท์ทริปมันยันเช้าไปเลย สุดท้ายเลยไปต่อ ทั้งขี่ทั้งเข็นไปจนถึงทางดำจนได้ พอเจอทางดำก็ยังเป็นป่าทึบ เจอเขาอีกหลายลูกจนเริ่มหมดแรงตาลายหมดแล้ว จนเห็นเสาไฟฟ้าข้างทาง มีแรงขึ้นมาหน่อย กะว่าถ้าเจอบ้านชาวบ้านก็จะขออาศัยผูกเปลสักคืน ไปต่อคงไม่ไหวแล้ว
แล้วเทวดาก็โผล่มา สมองไม่ต้องคิด มือโบกก่อนเลย โชคดีจริงๆ คันแรกเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้จะไปที่ด่านเลยจุดนี้ไปประมาณสามโล ผมก็ไปละ ไปนอนที่ด่านยังดีกว่านอนในป่า พอยกขึ้นรถเสร็จ อีกคันโผล่มาพอดี พี่เค้าเลยเรียกให้ไปขึ้นคันโน้น เพราะจะได้ไปส่งถึงสามแยก ระหว่างนั่งมาดูระยะทางขนาดนั่งบนรถยังไกลมาก ขึ้นเขาอีกหลายตลบเลย โชคดีจริงๆ
พอถึงสามแยกแกก็ถามผมจะลงไหน สมองมันเบลอ พอลุกขึ้นตะคริวกินขาทันที แกเลยจะพามาฝากนอนที่ อบต. ไปถึงอบต ไม่มีใคร เจอพี่ขับสองแถวสันกำแพงใจดี เห็นสภาพคนแก่บอกให้ยกใส่รถแก จะพาไปโฮมสเตยบ้านกำนันที่น้ำพุร้อนสันกำแพงแทน คืนนั้นค่าห้อง600 ผมก็ไปคนเดียวเลยขอครึ่งราคาเหลือ300 ถึงจะแพงกว่านอนตามอุทยาน แต่ก็ยังดีกว่านอนในป่าเยอะเลย คืนนี้พลิกล็อคเลย
มาถึงจุดชมวิว มีแต่ป้ายแค่นี้ แต่มองเห็นเมือง ยังมีหวัง ต้องมีทางออกแน่ๆ
ตอนทางไม่ชันมากก็พอขี่ได้ แต่ก็กลัวยางแตก รถพัง ต้องยั้งๆ ไว้ ไม่เหมือนรถใหญ่
จุดชมวิวมันไม่มีอะไรเลย แล้วจะนอนตรงไหน ตอนนี้รู้ตัวแล้วว่าเรามาเส้นทางที่เค้าไม่ใช้กัน จะหันกลับก็ต้องเข็นขึ้นเข็นลงอีกไกลจัง เจอชาวบ้านขี่มอเตอร์ไซด์ผ่านไป หันมายิ้มให้เรา ไม่พูดอะไร ตีความว่าไปได้ซิ ไม่งั้นเค้าต้องเตือนเราแล้ว ไปต่อ
พอพ้นจุดชมวิวมาหน่อยเป็นทางลงชันมาก ต้องลงเข็น มองไปข้างหน้ารู้แล้วว่ายิ่งลงชัน เดียวก็ต้องขึ้นชัน ถ้าลงไปเปลี่ยนใจไม่ได้แล้วนะ เลือกที่จะเสี่ยง เข็นลงไปจนสุดเย็นเฉียบ ตอนนั้นเริ่มรู้อนาคตแล้วว่างานนี้ติดอยู่ในป่าแน่ๆ ปรากฎว่าเจอกลุ่มจักรยานทัวริ่ง มารถเปล่าห้าหกคันกำลังเข็นขึ้นมาเหมือนกัน ใจชื้นเลยครับ พวกเค้ากำลังจะไปนอนห้วยตะไคร้ เลยไต่ถามเส้นทางกัน ของผมออกไปอีกสักโลสองคงก็เป็นทางดำแล้ว แต่ก็ต้องไต่เขาอีกหลายลูกกว่าจะถึงหมู่บ้าน คงจะมืดก่อนแน่ๆ แต่เค้าว่าระหว่างทางมีรถทหารจอดอยู่ ยังไงก็ขอพึ่งรถทหาร ผมผ่านรถจี๊ปมามันเป็นรถทะเบียนประชาชน มีคนอยู่ทำท่าหลบผม ท่าไม่ดี ผมเลยเข็นผ่านไปไกลๆ แล้วตะโกนถามทาง แน่ใจว่าถูกทางก็ไปต่อ ทางใครทางมันดีกว่า
ทริปนี้พกเปลมุ้งมา ของกินพอ ไฟหน้าก็สว่างเอาวะ มองข้างทางต้นไม้ผูกเปลเยอะแยะ ไม่ก็ไนท์ทริปมันยันเช้าไปเลย สุดท้ายเลยไปต่อ ทั้งขี่ทั้งเข็นไปจนถึงทางดำจนได้ พอเจอทางดำก็ยังเป็นป่าทึบ เจอเขาอีกหลายลูกจนเริ่มหมดแรงตาลายหมดแล้ว จนเห็นเสาไฟฟ้าข้างทาง มีแรงขึ้นมาหน่อย กะว่าถ้าเจอบ้านชาวบ้านก็จะขออาศัยผูกเปลสักคืน ไปต่อคงไม่ไหวแล้ว
แล้วเทวดาก็โผล่มา สมองไม่ต้องคิด มือโบกก่อนเลย โชคดีจริงๆ คันแรกเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้จะไปที่ด่านเลยจุดนี้ไปประมาณสามโล ผมก็ไปละ ไปนอนที่ด่านยังดีกว่านอนในป่า พอยกขึ้นรถเสร็จ อีกคันโผล่มาพอดี พี่เค้าเลยเรียกให้ไปขึ้นคันโน้น เพราะจะได้ไปส่งถึงสามแยก ระหว่างนั่งมาดูระยะทางขนาดนั่งบนรถยังไกลมาก ขึ้นเขาอีกหลายตลบเลย โชคดีจริงๆ
พอถึงสามแยกแกก็ถามผมจะลงไหน สมองมันเบลอ พอลุกขึ้นตะคริวกินขาทันที แกเลยจะพามาฝากนอนที่ อบต. ไปถึงอบต ไม่มีใคร เจอพี่ขับสองแถวสันกำแพงใจดี เห็นสภาพคนแก่บอกให้ยกใส่รถแก จะพาไปโฮมสเตยบ้านกำนันที่น้ำพุร้อนสันกำแพงแทน คืนนั้นค่าห้อง600 ผมก็ไปคนเดียวเลยขอครึ่งราคาเหลือ300 ถึงจะแพงกว่านอนตามอุทยาน แต่ก็ยังดีกว่านอนในป่าเยอะเลย คืนนี้พลิกล็อคเลย
ปั่นไกลแค่ตามองเห็น
เสือหมอบ Bianchi DAMA-BIANCA She Alu7000 เป็นรถสำหรับผู้หญิง ขนาด 44
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=3&t=1479426
เสือหมอบ Bianchi DAMA-BIANCA She Alu7000 เป็นรถสำหรับผู้หญิง ขนาด 44
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=3&t=1479426
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 632
- ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ส.ค. 2008, 17:14
- Tel: Line: songkrit_prapagdee
- team: Bike Sunday
- Bike: Folding bicycles
- ตำแหน่ง: ตลิ่งชัน กรุงเทพฯ
- ติดต่อ:
Re: Crius 20นิ้ว มาแจมได้ครับ อยากบอกว่า กิ่วผิ่นก็เข็นมาแล้ว เข็นขึ้นสามโล ลงสามโล
ติดตามอ่านสนุกมากครับ ขอบคุณครับที่แบ่งปันประสบการณ์
- toop
- ขาประจำ
- โพสต์: 7434
- ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ก.ค. 2012, 22:34
- team: คสลช. / ชมรมจักรยานพับได้
- Bike: จักรยานพับ
Re: Crius 20นิ้ว มาแจมได้ครับ อยากบอกว่า กิ่วผิ่นก็เข็นมาแล้ว เข็นขึ้นสามโล ลงสามโล
อ่านแล้วตื่นเต้นตามเลยครับ ขอบคุณครับ แต่ยังไม่จบใช่ไหมครับ
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 1227
- ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ส.ค. 2008, 10:20
- Tel: 0875897608
- team: ไปเรื่อยๆ
- Bike: เมริด้า แลนด์เกียร์
- ตำแหน่ง: ซ.อ่อนนุช 46
- ติดต่อ:
Re: Crius 20นิ้ว มาแจมได้ครับ อยากบอกว่า กิ่วผิ่นก็เข็นมาแล้ว เข็นขึ้นสามโล ลงสามโล
กฤษณ์ TKT เขียน:ติดตามอ่านสนุกมากครับ ขอบคุณครับที่แบ่งปันประสบการณ์
เพิ่งตอนแรกครับtoop เขียน:อ่านแล้วตื่นเต้นตามเลยครับ ขอบคุณครับ แต่ยังไม่จบใช่ไหมครับ
ขอบคุณที่ติดตามครับ
ปั่นไกลแค่ตามองเห็น
เสือหมอบ Bianchi DAMA-BIANCA She Alu7000 เป็นรถสำหรับผู้หญิง ขนาด 44
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=3&t=1479426
เสือหมอบ Bianchi DAMA-BIANCA She Alu7000 เป็นรถสำหรับผู้หญิง ขนาด 44
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=3&t=1479426
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 1227
- ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ส.ค. 2008, 10:20
- Tel: 0875897608
- team: ไปเรื่อยๆ
- Bike: เมริด้า แลนด์เกียร์
- ตำแหน่ง: ซ.อ่อนนุช 46
- ติดต่อ:
Re: Crius 20นิ้ว มาแจมได้ครับ อยากบอกว่า กิ่วผิ่นก็เข็นมาแล้ว เข็นขึ้นสามโล ลงสามโล
ข้อมูลการเดินทาง
รถด่วนขบวน55 ออกจากกรุงเทพ-เชียงใหม่ ออกจากหัวลำโพง 18.00 ถึง ขุนตาน 11.00 น. ขบวนนี้มีตู้สินค้ารถเสือภูเขาไปได้เสียค่าระวาง90บาท ราคาตั๊ว 268 บาท
มีอีกขบวนกรุงเทพ-เชียงใหม่ ขบวนรถเร็ว109 ออกจากกรุงเทพเวลา 13.45 ถึงขุนตาน 2.57
ขบวนที่สองคงต้องนอนที่สถานีขุนตาน พอเช้าก็ออกปั่น ถ้าใช้เสื้อภูเขา หรือทัวริ่งยางโตหน่อย ออกแต่เช้าเข้าเส้นทางห้วยแม่ตะไคร้ผมว่าไปนอนบนบ้านแม่กำปองสบายๆ มันดีซะด้วย
เวลาจะเช็คขบวนรถไฟ ผมก็ใช้ App Thaitrain ตรวจสอบดู ไปได้ทุกที่ทั่วไป ยิ่งรถพับ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีตู้สินค้า หน้าด้านๆหิวขึ้นไปก่อน ถ้าผู้โดยสารเยอะ ยอมเสียค่าระวาง90บาท จะได้รู้สึกไม่บาป เจ้าหน้าที่จะได้หาที่วางที่เหมาะสม พร้อมดูแลให้อย่างดี
จากสถานีขุนตานไปตามถนนอีก 7 กิโล ถึงทางหลวงสาย1230 ขี่ทางเรียบๆไปอีก 25 กิโล ผ่านตำบนแม่ทา จะถึงสามแยกเข้าถนน 1229 ซึ่งเลี้ยวซ้ายไปทางสันกำแพง ไปแยกห้วยบก ซึ่งทางนี้เป็นทางอ้อมแต่ถนนดี แต่ถ้าเลยต่อไปเหมือนผมก็จะเจอ อบต แม่ทาเหนือ และที่ทำการอุทยานห้วยแม่ตะไคร้นั่นเอง
จากสามแยกไปถึงจุดชมวิวห้วยแม่ตะไคร้ จะเริ่มขึ้นเขาสูง เข้าเขตป่าสงวน ไม่มีบ้านคน ไม่มีไร่นา ต้องซื้อเสบียงจากบ้านแม่ทาเหนือให้พร้อม เลยบ้านแม่ทาเหนือก็ไต่ขึ้นระดับ 800 เมตร ถนนเริ่มชำรุด ขึ้นเขาลงเขาชันๆตลอด ประมาณ5กิโลถึงจุดชมวิวแม่ตะไคร้และเป็นถนนแดงหินลอยขึ้นลงชันไปตลอดทางอีกประมาณ3กิโล สรุปว่าทางแดงประมาณ8กิโลเท่านั้นก็เจอทางดำเลยไปสักหน่อยก็เจอด่านป่าไม้ จากด่านประมาณ 9 กิโล ก็เจอสามแยกห้วยบกชนกับถนนหลวงเลขที่ 1317 ซึ่งเป็นจุดที่ผมควรจะลง แต่ตะคริวกินซะก่อน เพราะจากจุดนี้ ถ้าผมไปทางซ้ายแค่500เมตร ผมก็เจอสามแยกที่ไปแจ้ซ้อน เป็นจุดท่องเที่ยงที่พัก การเต๊นท์ รีสอท โฮมสเตย เพียบ ผิดกับแยกที่ออกมาซึ่งไม่มีอะไรเลย มีแต่ร้านขายต้นไม้
เส้นทางนี้ขอแนะนำครับ ไม่เข็ดนะครับ ติดอยู่ที่มันเป็นรถพับเท่านั้น ถ้าวันนั้นเป็นทัวริ่งอีม่วงคันเก่งผม ยาง1.9รับรองมันแน่
แต่ตอนนั้นสติสตางหลุด ปิดสวิทไว้หลายตัว เพราะเตรียมนอนในป่าแน่แล้วไม่คิดว่าจะหลุดออกมาได้ พอพี่ที่รับมาถามจุดหมายปลายทางของผม ผมกลับงงไปหมดจำชื่ออะไรไม่ได้สักอย่าง เค้าเลยพาผมวกกลับไปสันกำแพง พอนั่งบนรถได้สักพักเริ่มนึกออก จะบอกให้จอดก็ไม่ทันพี่ท่านก็ขับเร็วเหลือเกินโมโหตัวเองมาก คิดว่ายกเลิกทริปปั่นเข้าไปเสพแสงสีในเมืองเชียงใหม่มันซะเลยดีกว่า จนมาตั้งสติได้ เมื่อตอนนอนนี่แหละ นอนไม่หลับ จัดช้างมาหนึ่งขวดยิ่งไม่หลับหนักเข้าไปอีก ถ้าจำกัดแค่กระป๋องคงจะหลับสบายกว่านี้เยอะ
รถด่วนขบวน55 ออกจากกรุงเทพ-เชียงใหม่ ออกจากหัวลำโพง 18.00 ถึง ขุนตาน 11.00 น. ขบวนนี้มีตู้สินค้ารถเสือภูเขาไปได้เสียค่าระวาง90บาท ราคาตั๊ว 268 บาท
มีอีกขบวนกรุงเทพ-เชียงใหม่ ขบวนรถเร็ว109 ออกจากกรุงเทพเวลา 13.45 ถึงขุนตาน 2.57
ขบวนที่สองคงต้องนอนที่สถานีขุนตาน พอเช้าก็ออกปั่น ถ้าใช้เสื้อภูเขา หรือทัวริ่งยางโตหน่อย ออกแต่เช้าเข้าเส้นทางห้วยแม่ตะไคร้ผมว่าไปนอนบนบ้านแม่กำปองสบายๆ มันดีซะด้วย
เวลาจะเช็คขบวนรถไฟ ผมก็ใช้ App Thaitrain ตรวจสอบดู ไปได้ทุกที่ทั่วไป ยิ่งรถพับ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีตู้สินค้า หน้าด้านๆหิวขึ้นไปก่อน ถ้าผู้โดยสารเยอะ ยอมเสียค่าระวาง90บาท จะได้รู้สึกไม่บาป เจ้าหน้าที่จะได้หาที่วางที่เหมาะสม พร้อมดูแลให้อย่างดี
จากสถานีขุนตานไปตามถนนอีก 7 กิโล ถึงทางหลวงสาย1230 ขี่ทางเรียบๆไปอีก 25 กิโล ผ่านตำบนแม่ทา จะถึงสามแยกเข้าถนน 1229 ซึ่งเลี้ยวซ้ายไปทางสันกำแพง ไปแยกห้วยบก ซึ่งทางนี้เป็นทางอ้อมแต่ถนนดี แต่ถ้าเลยต่อไปเหมือนผมก็จะเจอ อบต แม่ทาเหนือ และที่ทำการอุทยานห้วยแม่ตะไคร้นั่นเอง
จากสามแยกไปถึงจุดชมวิวห้วยแม่ตะไคร้ จะเริ่มขึ้นเขาสูง เข้าเขตป่าสงวน ไม่มีบ้านคน ไม่มีไร่นา ต้องซื้อเสบียงจากบ้านแม่ทาเหนือให้พร้อม เลยบ้านแม่ทาเหนือก็ไต่ขึ้นระดับ 800 เมตร ถนนเริ่มชำรุด ขึ้นเขาลงเขาชันๆตลอด ประมาณ5กิโลถึงจุดชมวิวแม่ตะไคร้และเป็นถนนแดงหินลอยขึ้นลงชันไปตลอดทางอีกประมาณ3กิโล สรุปว่าทางแดงประมาณ8กิโลเท่านั้นก็เจอทางดำเลยไปสักหน่อยก็เจอด่านป่าไม้ จากด่านประมาณ 9 กิโล ก็เจอสามแยกห้วยบกชนกับถนนหลวงเลขที่ 1317 ซึ่งเป็นจุดที่ผมควรจะลง แต่ตะคริวกินซะก่อน เพราะจากจุดนี้ ถ้าผมไปทางซ้ายแค่500เมตร ผมก็เจอสามแยกที่ไปแจ้ซ้อน เป็นจุดท่องเที่ยงที่พัก การเต๊นท์ รีสอท โฮมสเตย เพียบ ผิดกับแยกที่ออกมาซึ่งไม่มีอะไรเลย มีแต่ร้านขายต้นไม้
เส้นทางนี้ขอแนะนำครับ ไม่เข็ดนะครับ ติดอยู่ที่มันเป็นรถพับเท่านั้น ถ้าวันนั้นเป็นทัวริ่งอีม่วงคันเก่งผม ยาง1.9รับรองมันแน่
แต่ตอนนั้นสติสตางหลุด ปิดสวิทไว้หลายตัว เพราะเตรียมนอนในป่าแน่แล้วไม่คิดว่าจะหลุดออกมาได้ พอพี่ที่รับมาถามจุดหมายปลายทางของผม ผมกลับงงไปหมดจำชื่ออะไรไม่ได้สักอย่าง เค้าเลยพาผมวกกลับไปสันกำแพง พอนั่งบนรถได้สักพักเริ่มนึกออก จะบอกให้จอดก็ไม่ทันพี่ท่านก็ขับเร็วเหลือเกินโมโหตัวเองมาก คิดว่ายกเลิกทริปปั่นเข้าไปเสพแสงสีในเมืองเชียงใหม่มันซะเลยดีกว่า จนมาตั้งสติได้ เมื่อตอนนอนนี่แหละ นอนไม่หลับ จัดช้างมาหนึ่งขวดยิ่งไม่หลับหนักเข้าไปอีก ถ้าจำกัดแค่กระป๋องคงจะหลับสบายกว่านี้เยอะ
ปั่นไกลแค่ตามองเห็น
เสือหมอบ Bianchi DAMA-BIANCA She Alu7000 เป็นรถสำหรับผู้หญิง ขนาด 44
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=3&t=1479426
เสือหมอบ Bianchi DAMA-BIANCA She Alu7000 เป็นรถสำหรับผู้หญิง ขนาด 44
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=3&t=1479426
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 1227
- ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ส.ค. 2008, 10:20
- Tel: 0875897608
- team: ไปเรื่อยๆ
- Bike: เมริด้า แลนด์เกียร์
- ตำแหน่ง: ซ.อ่อนนุช 46
- ติดต่อ:
Re: Crius 20นิ้ว มาแจมได้ครับ อยากบอกว่า กิ่วผิ่นก็เข็นมาแล้ว เข็นขึ้นสามโล ลงสามโล
วันที่สอง ตื่นมาหกโมงเช้าอากาศที่สันกำแพงหนาวเย็น ออกมาต้มกาแฟ มาม่า กินแก้หิว เก็บข้าวของเตรียมเดินทาง ระยะทางวันที่เพิ่งขึ้นมาอีก 17 กิโล จากที่วางแผนไว้ เพราะความซื่อบื้อของผมแท้ๆ ก่อนจากกำนันก็มาเชิญไปกินกาแฟ ข้าวต้มหมูร้อนๆบนบ้านอีกหนึ่งรอบ มีของหวานเป็นส้มจีนลูกเล็กๆแต่หวานมาก ผมเลยเก็บใส่กระเป๋ามาอีกสี่ห้าใบ แล้วก็ปั่นออกมาจากน้ำพุร้อนสันกำแพง ขึ้นเนินยาวๆ ที่เมื่อวานนั่งมาบนรถดูมันสูง ไกลมาก พอคิดว่าพรุ่งนี้เราต้องย้อนกลับมาทำให้อยากจะเปลี่ยนแผนเลย แต่พอขี่จริงๆ มันไม่ได้ไกล ไม่ได้ชันเหมือนที่รู้สึกตอนนั้นเลยสักนิด แปลกดีเหมือนกันที่จักรยานคันเล็กๆทำให้ระยะทางไกลๆ มันดูใกล้ลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ฟ้าสวยๆที่สันกำแพง ทริปนี้ฟ้าปิดตลอดสามวัน ถ่ายรูปไม่สวยเลย
เวลาเดินทางเปรียบตัวตนเหมือนดอกหญ้าริมทาง อ่อนไหวไปตามแรงลม แต่ไม่เคยสักครั้งที่จะล้มไปกับพื้นถนน
เป้าหมายวันนี้ สั้นๆ ไม่เกิน 50กิโล
อากาศดีๆแวะถ่ายรูปกันสักหน่อย
แยกห้วยบก ที่เมื่อวานผมดื้อไม่ยอมลงจากรถซะงั้น
แวะพักยอดดอยซักหน่อย วิวดี อิอิ
ไหนๆก็แวะแล้วเลยถวายส้มที่หยิบมาไปหนึ่งลูก พร้อมกับขอให้ปลอดภัยตลอดการเดินทาง
อันนี้แหละครับทางแยกทะลุไปแจ้ซ้อน แหล่งท่องเที่ยง ที่พักเพียบ
จากนี้ไปแค่สิบกว่าโล แต่ขึ้นเขาแบบชันสุดๆ ขึ้นตลอดๆ ขึ้นกันแบบสะใจไปเลย
แวะเติมสเบียง แลคตาซอย ลูกอม ขนมปังหน่อย ตอนนี้มิสชั่นเก็บขยะกับบ้านผมเลิกคิดไปแล้ว โมโหเมื่อวาน แต่ยังอุดหนุนร้านค้าชาวบ้านอยู่นะ ร้านต่างจังหวัดแทบทุกร้านไม่ว่าจะขายอะไรจะมีตู้น้ำดื่ม หรือกระติกน้ำให้คนผ่านไปมากินน้ำเย็นๆ ที่นั่งพักร่มๆ แบบฟรีๆ ไม่เหมือน กทม.บ้านผม ยืนหน้าร้านนานก็โดนไล่แล้ว
ฟ้าสวยๆที่สันกำแพง ทริปนี้ฟ้าปิดตลอดสามวัน ถ่ายรูปไม่สวยเลย
เวลาเดินทางเปรียบตัวตนเหมือนดอกหญ้าริมทาง อ่อนไหวไปตามแรงลม แต่ไม่เคยสักครั้งที่จะล้มไปกับพื้นถนน
เป้าหมายวันนี้ สั้นๆ ไม่เกิน 50กิโล
อากาศดีๆแวะถ่ายรูปกันสักหน่อย
แยกห้วยบก ที่เมื่อวานผมดื้อไม่ยอมลงจากรถซะงั้น
แวะพักยอดดอยซักหน่อย วิวดี อิอิ
ไหนๆก็แวะแล้วเลยถวายส้มที่หยิบมาไปหนึ่งลูก พร้อมกับขอให้ปลอดภัยตลอดการเดินทาง
อันนี้แหละครับทางแยกทะลุไปแจ้ซ้อน แหล่งท่องเที่ยง ที่พักเพียบ
จากนี้ไปแค่สิบกว่าโล แต่ขึ้นเขาแบบชันสุดๆ ขึ้นตลอดๆ ขึ้นกันแบบสะใจไปเลย
แวะเติมสเบียง แลคตาซอย ลูกอม ขนมปังหน่อย ตอนนี้มิสชั่นเก็บขยะกับบ้านผมเลิกคิดไปแล้ว โมโหเมื่อวาน แต่ยังอุดหนุนร้านค้าชาวบ้านอยู่นะ ร้านต่างจังหวัดแทบทุกร้านไม่ว่าจะขายอะไรจะมีตู้น้ำดื่ม หรือกระติกน้ำให้คนผ่านไปมากินน้ำเย็นๆ ที่นั่งพักร่มๆ แบบฟรีๆ ไม่เหมือน กทม.บ้านผม ยืนหน้าร้านนานก็โดนไล่แล้ว
ปั่นไกลแค่ตามองเห็น
เสือหมอบ Bianchi DAMA-BIANCA She Alu7000 เป็นรถสำหรับผู้หญิง ขนาด 44
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=3&t=1479426
เสือหมอบ Bianchi DAMA-BIANCA She Alu7000 เป็นรถสำหรับผู้หญิง ขนาด 44
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=3&t=1479426
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 1227
- ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ส.ค. 2008, 10:20
- Tel: 0875897608
- team: ไปเรื่อยๆ
- Bike: เมริด้า แลนด์เกียร์
- ตำแหน่ง: ซ.อ่อนนุช 46
- ติดต่อ:
Re: Crius 20นิ้ว มาแจมได้ครับ อยากบอกว่า กิ่วผิ่นก็เข็นมาแล้ว เข็นขึ้นสามโล ลงสามโล
เส้นทางนี้ขึ้นเขาตลอดจนถึงกิ่วฝิ่น ข้างทางเป็นลำธารสายน้ำเล็กๆทอดตัวจากยอดเขาลงมาขนานกับถนน ทำให้มีรีสอท บ้านพักริมธารเรียงรายไปตลอดทาง อากาศเย็นกว่าปกติแบบเห็นได้ชัด ปั่นขึ้นเขากับอากาศเย็น พร้อมฟังเสียงสายน้ำไหลสลับโขดหินช่างมีความสุขมากครับ ลืมว่าขึ้นดอยเลย
ถึงจะเป็นเส้นทางท่องเที่ยงแต่รถราไม่มาก จะมาเป็นชุดๆ พอให้รถเล็กๆอย่างเราเลี้อยขึ้นไปสบายๆ
จุดท่องเที่ยงแห่งแรกคือศูนย์ส่งเสริมเกษตรตีนตก ก็พวกขายของ ร้านกาแฟนั่นแหละ สไตล์ผมไม่แวะอยู่แล้ว
จริงๆมองหาสตอเบอรี่สดๆอยู่ ผ่านที่ทำการศูนย์มาหน่อยเจอวัยรุ่นกำลังจัดผัก เราก็มีมิสชั่นที่คิดไว้อีกอันคือจะต้องคุยกับคนแปลกหน้ามากกว่าสิบคนในทริปนี้ รีบแวะแกล้งโง้ถามว่าคะน้าฮ่องกงอ้อนอ่อนที่เด็ดอยู่นั่นคือผักอะไร ช่างน่ากินจัง
ทางเส้นนี้ใครขี่จักรยานขึ้นมาถือเป็นของแปลกอยู่แล้ว ใครๆก็อยากสนทนาด้วย 555 เลยได้คะน้าฮ่องกงมาหนึ่งกำใหญ่ ไว้ใส่มาม่าคืนนี้ฟรีๆ กับแตงญี่ปุ่น หรือซูกิชิอีกหนึ่งลูก
เลยศูนย์มาหน่อยก็เจอหมู่บ้านแม่กำปองเหนือแล้วครับ เส้นทางชันมาก แต่ที่ผ่านมายังขี่ขึ้นได้ตลอด ไม่ต้องเข็นเลย ยกเว้นช่วงที่กำลังทำถนนเท่านั้น เล่าด้วยความภาคภูมิใจ
แวะเติมพลังก่อนละ เห็นร้านจัดหน้ารักดี ทีแรกเลยไปแล้ว เจอเนินข้างหน้าชันมาก ว่าจะลงเข็นเลยเปลี่ยนใจเลี้ยวมากินข้าวก่อนดีกว่า พลังข้าวต้มหมดไปแล้ว
คนขายเป็นชาวบ้านคุยสนุกดีจัดหนักไปเลย หมดนี้60บาท ข้าวเหนียวแถมให้อีกเท่านึง น้ำฟรีๆ เพิ่มอีกหนึ่งกระติกด้วย
ระหว่างนั่งละเลียดกินเพราะเวลาเหลือเยอะ ก็เลยถามแม่ค้า แถวนี้มีอะไรให้เที่ยวบ้าน เธอบอกว่าไม่มีหรอก คนกรุงมาแล้วมันหนาวดี เลยชอบมากัน 555 ในเมืองมันไม่หนาว อ้อมันเป็นอย่างงี้เอง และเมื่อวานฝนตก หมอกลงปกคลุมไปทั้งหมู่บ้านสวยมาก เสียดายที่เรามาช้าไป
แต่ถ้าอากาศหนาวแบบนี้แล้วต้องปั่นจักรยานตากฝน ผมคงไม่เสียดายเท่าไหร่
แถบนี้ไม่ค่อยมีน้กท่องเที่ยวมากนัก เป็นโฮมสเตย์ซะส่วนใหญ่ เงียบสงบดี
เส้นทางเข้าบ้านแต่ละซอย ชันน่ากลัวมาก
ถึงจะเป็นเส้นทางท่องเที่ยงแต่รถราไม่มาก จะมาเป็นชุดๆ พอให้รถเล็กๆอย่างเราเลี้อยขึ้นไปสบายๆ
จุดท่องเที่ยงแห่งแรกคือศูนย์ส่งเสริมเกษตรตีนตก ก็พวกขายของ ร้านกาแฟนั่นแหละ สไตล์ผมไม่แวะอยู่แล้ว
จริงๆมองหาสตอเบอรี่สดๆอยู่ ผ่านที่ทำการศูนย์มาหน่อยเจอวัยรุ่นกำลังจัดผัก เราก็มีมิสชั่นที่คิดไว้อีกอันคือจะต้องคุยกับคนแปลกหน้ามากกว่าสิบคนในทริปนี้ รีบแวะแกล้งโง้ถามว่าคะน้าฮ่องกงอ้อนอ่อนที่เด็ดอยู่นั่นคือผักอะไร ช่างน่ากินจัง
ทางเส้นนี้ใครขี่จักรยานขึ้นมาถือเป็นของแปลกอยู่แล้ว ใครๆก็อยากสนทนาด้วย 555 เลยได้คะน้าฮ่องกงมาหนึ่งกำใหญ่ ไว้ใส่มาม่าคืนนี้ฟรีๆ กับแตงญี่ปุ่น หรือซูกิชิอีกหนึ่งลูก
เลยศูนย์มาหน่อยก็เจอหมู่บ้านแม่กำปองเหนือแล้วครับ เส้นทางชันมาก แต่ที่ผ่านมายังขี่ขึ้นได้ตลอด ไม่ต้องเข็นเลย ยกเว้นช่วงที่กำลังทำถนนเท่านั้น เล่าด้วยความภาคภูมิใจ
แวะเติมพลังก่อนละ เห็นร้านจัดหน้ารักดี ทีแรกเลยไปแล้ว เจอเนินข้างหน้าชันมาก ว่าจะลงเข็นเลยเปลี่ยนใจเลี้ยวมากินข้าวก่อนดีกว่า พลังข้าวต้มหมดไปแล้ว
คนขายเป็นชาวบ้านคุยสนุกดีจัดหนักไปเลย หมดนี้60บาท ข้าวเหนียวแถมให้อีกเท่านึง น้ำฟรีๆ เพิ่มอีกหนึ่งกระติกด้วย
ระหว่างนั่งละเลียดกินเพราะเวลาเหลือเยอะ ก็เลยถามแม่ค้า แถวนี้มีอะไรให้เที่ยวบ้าน เธอบอกว่าไม่มีหรอก คนกรุงมาแล้วมันหนาวดี เลยชอบมากัน 555 ในเมืองมันไม่หนาว อ้อมันเป็นอย่างงี้เอง และเมื่อวานฝนตก หมอกลงปกคลุมไปทั้งหมู่บ้านสวยมาก เสียดายที่เรามาช้าไป
แต่ถ้าอากาศหนาวแบบนี้แล้วต้องปั่นจักรยานตากฝน ผมคงไม่เสียดายเท่าไหร่
แถบนี้ไม่ค่อยมีน้กท่องเที่ยวมากนัก เป็นโฮมสเตย์ซะส่วนใหญ่ เงียบสงบดี
เส้นทางเข้าบ้านแต่ละซอย ชันน่ากลัวมาก
ปั่นไกลแค่ตามองเห็น
เสือหมอบ Bianchi DAMA-BIANCA She Alu7000 เป็นรถสำหรับผู้หญิง ขนาด 44
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=3&t=1479426
เสือหมอบ Bianchi DAMA-BIANCA She Alu7000 เป็นรถสำหรับผู้หญิง ขนาด 44
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=3&t=1479426
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 1227
- ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ส.ค. 2008, 10:20
- Tel: 0875897608
- team: ไปเรื่อยๆ
- Bike: เมริด้า แลนด์เกียร์
- ตำแหน่ง: ซ.อ่อนนุช 46
- ติดต่อ:
Re: Crius 20นิ้ว มาแจมได้ครับ อยากบอกว่า กิ่วผิ่นก็เข็นมาแล้ว เข็นขึ้นสามโล ลงสามโล
รีบมาสรุปให้จบก่อนเดียวจะลืม สิ้นเดือนก็จะไปหลวงพระบางอีกแล้ว
จากแม่กำปองเหนือก็ยังเป็นเนินชันขึ้นไปเลื่อยๆ ริมทางซ้ายเป็นเหวลึก เบื้องล่างเป็นลำธารน้ำ บางจุดเป็นแก่งหินเหมือนน้ำตกเล็กๆ สูงขึ้นไปก็จะเริ่มเห็นร้านกาแฟสวยๆเป็นระยะๆ บางแห่งตั้งอยู่ด้านล่างริมลำธาร ต้องเดินลงไปลึกอยู่ และจะเริ่มเห็นแหล่งท่องเที่ยวชัดเจน มีที่จอดรถ มีเกสเฮ้า ที่พักแบบเท่ๆ ร้านค้า ร้านกาแฟสวยๆ ซึ่งมันไม่ควรมาอยู่ในป่าสักเท่าไหร่ ฯลฯ ที่มนุษย์จัดสร้างไว้ ผมก็ขอผ่านรายละเอียดช่วงนี้ เพราะไม่ถนัดเท่าไหร่
สำหรับนักเดินทางแบบผมคงจะไม่มีเม็ดเงินไปอุดหนุนให้ท้องถิ่นมากนัก(ไม่ได้ใช้เงินเลย จ้องเสพอย่างเดียวแหละ)ได้แต่อ้างว่านักอนุรักษ์ แต่สำหรับนักท่องเที่ยวจริงๆ รถตู้แต่ละคันสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับชุมชนโดยแท้จริง
แต่ผ่านร้านนี้ กลิ่นมันเผาร้อนๆ มันช่างรบกวนโสตประสาทยิ่งนัก ถึงกับวกรถกลับมาอุดหนุนกันทีเดียว
ถึงจะเริ่มมีร้านฮิปๆสร้างขึ้นมาอีกหลายร้าน และกำลังเกิดใหม่อีกมากจริงๆ แต่ก็ถือว่ายังสดอยู่มาก ใครมีโอกาสก็รีบไปก่อนจะเปลี่ยนแปลงไปมากกว่านี้แล้วกัน
ความสะดวกสบายรับประกันมีมากพอกับเงินในกระเป๋าของเราจะซื้อได้แน่ๆ
วันนี้คนเยอะมาก รถจอดกันเต็มลานเลย ทำเอาตกใจหมดเลย
เลยวัดไปหน่อยก็จะถึงน้ำตกแม่กำปอง น้ำตกเล็กๆ ไม่สูงมาก คงไม่มีใครอยากเล่นน้ำ เพราะอากาศเย็นเฉียบ
ถัดจากน้ำตกไป ขึ้นเนินชันๆ พอพ้นโค้งก็จะเจอป้ายนี้ ตั้งแต่นี้ไปก็เตรียมตัวเตรียมใจเข็นกันอย่างเดียวจนถึงกิ่วฝิ่นได้เลย มันชันมาก ลองเลี้อยแล้วไม่ไหว กลัวเฟืองพัง ตัดสินใจถอดบันไดออกมันซะเลยจะได้เข็นถนัดๆ ระยะทางเข็นประมาณ2.5กิโล จนถึงกิ่วฝิ่น
การเข็นรถหนักๆมันเหนื่อยกว่าขี่ช้าๆขึ้นเขามากนะครับ ถ้าคนไม่เคยจะคิดว่าเข็นเอาดีกว่า จริงๆแล้วใช้แรงมากกว่าเยอะเลย ไม่จำเป็นจะไม่ลงเข็นเด็ดขาด เพราะถ้าลงเข็นไปแล้ว จะต้องเข็นไปจนจบ ขามันจะหมดแรงไปโดยปริยาย
ระหว่างที่กำลังเข็นขึ้นมีหนุ่มสาวซ้อนมอเตอร์ไซด์กันมา ขึ้นมาได้นิดเดียวรถเครื่องก็หมดแรง เจ้าหนุ่มเลยต้องกระโดดลงปล่อยให้สาวน้อยขึ่ขึ้นมารอที่ยอดเนินแทน ผมก็หน้าด้านทันความคิดบอกให้น้องเค้าช่วยดันก้นให้หน่อย ไหนๆจะเดินขึ้นแล้ว ปรากฏว่าดันไปแค่สองเนิน หน้าซีด ตาลายจะเป็นลมสะงั้น เรียกว่าหายใจแทบไม่ทัน ผมเห็นแล้วตกใจแทน ตายละเกิดเป็นอะไรขึ้นมาละแย่เลย เดินหอบไปก็บ่นไปว่าพักนี้ไม่ค่อยได้ออกกำลัง เพิ่งรู้ตัวเหรอ อิอิ -เราแก่แล้วสองมือจับแฮนเอาหัวดัน ตีนยันพื้นเข็นมาเป็นร้อยเมตรยังเฉยเลย 555
ในที่สุดก็ขึ้นมาถึงจนได้ ช่วงที่เข็นจริงๆประมาณเกือบสองกิโล ผมเซ็ทไมล์เอาไว้ นอกนั้นก็พอเลื้อยๆขึ้นมาได้
จริงๆ รถพับนี้เลื้อยได้ง่ายกว่ารถใหญ่เยอะ เพราะล้อเล็กคล่องตัว จังหวะเหวี่ยงทำได้ง่าย เวลาขึ้นเนินถ้าถนนว่างๆจะรู้สึกว่าความชันมันหายไป50เปอเซ็นต์เลย และหน้าไม่ลอยเหมือนพวกทัวริ่งด้วย จะติดก็ตรงแฮนมันไม่ค่อยแข็งแรง จะเอาไว้ช่วยดึงดันไม่ค่อยได้ ถ้าเจอช่วงที่มีรถวิ่งมา ต้องขึ้นตรงๆพอหนักมากไม่กล้ายืนโยก ต้องจอดแทน
ตั้งแต่บ้านแม่กำปองมา ที่มองว่าชันมากแล้วผมก็ขี่ขึ้นมาได้ทุกเนินเลย ค่อยๆเลื้อยมาแบบสบายๆ พอจะขึ้นเนินคนข้างทางก็จะมองแบบช่วยลุ้นว่ามันจะขึ้นได้เหรอ แล้วก็ต้องแปลกใจเพราะมันขึ้นได้ซะงั้น ผมเองก็งงตัวเองว่าขึ้นมาได้ไงฟะชันขนาดเนี้ย แต่ก็มาแพ้กิ่วผิ่นอยู่ดี
ถึงแล้วก็ต้องขึ้นไปจุดชมวิวด้วยครับ เดินขึ้นไปอีก200เมตร เพื่อวิวที่สวยงาม
ตามแผนตั้งใจจะนอนหนาวบนนี้ เพื่อจะชมพระอาทิตย์ขึ้นซะหน่อย แต่เห็นทางฟ้าแล้วไม่เอาดีกว่า อีกอย่างก็เพิ่งจะบ่ายโมง ไม่รู้จะทำอะไร สู้ลงไปแช่น้ำร้อนที่แจ้ซ้อนจะดีกว่า พรุ่งนี้จะได้ซิวๆ
ถ่ายรูปตัวเองบ้าง มาคนเดียวมีโอกาสถ่ายรูปตัวเองเยอะ ใครๆก็อยากจะถ่ายรูปให้เรา ดีจัง
จากแม่กำปองเหนือก็ยังเป็นเนินชันขึ้นไปเลื่อยๆ ริมทางซ้ายเป็นเหวลึก เบื้องล่างเป็นลำธารน้ำ บางจุดเป็นแก่งหินเหมือนน้ำตกเล็กๆ สูงขึ้นไปก็จะเริ่มเห็นร้านกาแฟสวยๆเป็นระยะๆ บางแห่งตั้งอยู่ด้านล่างริมลำธาร ต้องเดินลงไปลึกอยู่ และจะเริ่มเห็นแหล่งท่องเที่ยวชัดเจน มีที่จอดรถ มีเกสเฮ้า ที่พักแบบเท่ๆ ร้านค้า ร้านกาแฟสวยๆ ซึ่งมันไม่ควรมาอยู่ในป่าสักเท่าไหร่ ฯลฯ ที่มนุษย์จัดสร้างไว้ ผมก็ขอผ่านรายละเอียดช่วงนี้ เพราะไม่ถนัดเท่าไหร่
สำหรับนักเดินทางแบบผมคงจะไม่มีเม็ดเงินไปอุดหนุนให้ท้องถิ่นมากนัก(ไม่ได้ใช้เงินเลย จ้องเสพอย่างเดียวแหละ)ได้แต่อ้างว่านักอนุรักษ์ แต่สำหรับนักท่องเที่ยวจริงๆ รถตู้แต่ละคันสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับชุมชนโดยแท้จริง
แต่ผ่านร้านนี้ กลิ่นมันเผาร้อนๆ มันช่างรบกวนโสตประสาทยิ่งนัก ถึงกับวกรถกลับมาอุดหนุนกันทีเดียว
ถึงจะเริ่มมีร้านฮิปๆสร้างขึ้นมาอีกหลายร้าน และกำลังเกิดใหม่อีกมากจริงๆ แต่ก็ถือว่ายังสดอยู่มาก ใครมีโอกาสก็รีบไปก่อนจะเปลี่ยนแปลงไปมากกว่านี้แล้วกัน
ความสะดวกสบายรับประกันมีมากพอกับเงินในกระเป๋าของเราจะซื้อได้แน่ๆ
วันนี้คนเยอะมาก รถจอดกันเต็มลานเลย ทำเอาตกใจหมดเลย
เลยวัดไปหน่อยก็จะถึงน้ำตกแม่กำปอง น้ำตกเล็กๆ ไม่สูงมาก คงไม่มีใครอยากเล่นน้ำ เพราะอากาศเย็นเฉียบ
ถัดจากน้ำตกไป ขึ้นเนินชันๆ พอพ้นโค้งก็จะเจอป้ายนี้ ตั้งแต่นี้ไปก็เตรียมตัวเตรียมใจเข็นกันอย่างเดียวจนถึงกิ่วฝิ่นได้เลย มันชันมาก ลองเลี้อยแล้วไม่ไหว กลัวเฟืองพัง ตัดสินใจถอดบันไดออกมันซะเลยจะได้เข็นถนัดๆ ระยะทางเข็นประมาณ2.5กิโล จนถึงกิ่วฝิ่น
การเข็นรถหนักๆมันเหนื่อยกว่าขี่ช้าๆขึ้นเขามากนะครับ ถ้าคนไม่เคยจะคิดว่าเข็นเอาดีกว่า จริงๆแล้วใช้แรงมากกว่าเยอะเลย ไม่จำเป็นจะไม่ลงเข็นเด็ดขาด เพราะถ้าลงเข็นไปแล้ว จะต้องเข็นไปจนจบ ขามันจะหมดแรงไปโดยปริยาย
ระหว่างที่กำลังเข็นขึ้นมีหนุ่มสาวซ้อนมอเตอร์ไซด์กันมา ขึ้นมาได้นิดเดียวรถเครื่องก็หมดแรง เจ้าหนุ่มเลยต้องกระโดดลงปล่อยให้สาวน้อยขึ่ขึ้นมารอที่ยอดเนินแทน ผมก็หน้าด้านทันความคิดบอกให้น้องเค้าช่วยดันก้นให้หน่อย ไหนๆจะเดินขึ้นแล้ว ปรากฏว่าดันไปแค่สองเนิน หน้าซีด ตาลายจะเป็นลมสะงั้น เรียกว่าหายใจแทบไม่ทัน ผมเห็นแล้วตกใจแทน ตายละเกิดเป็นอะไรขึ้นมาละแย่เลย เดินหอบไปก็บ่นไปว่าพักนี้ไม่ค่อยได้ออกกำลัง เพิ่งรู้ตัวเหรอ อิอิ -เราแก่แล้วสองมือจับแฮนเอาหัวดัน ตีนยันพื้นเข็นมาเป็นร้อยเมตรยังเฉยเลย 555
ในที่สุดก็ขึ้นมาถึงจนได้ ช่วงที่เข็นจริงๆประมาณเกือบสองกิโล ผมเซ็ทไมล์เอาไว้ นอกนั้นก็พอเลื้อยๆขึ้นมาได้
จริงๆ รถพับนี้เลื้อยได้ง่ายกว่ารถใหญ่เยอะ เพราะล้อเล็กคล่องตัว จังหวะเหวี่ยงทำได้ง่าย เวลาขึ้นเนินถ้าถนนว่างๆจะรู้สึกว่าความชันมันหายไป50เปอเซ็นต์เลย และหน้าไม่ลอยเหมือนพวกทัวริ่งด้วย จะติดก็ตรงแฮนมันไม่ค่อยแข็งแรง จะเอาไว้ช่วยดึงดันไม่ค่อยได้ ถ้าเจอช่วงที่มีรถวิ่งมา ต้องขึ้นตรงๆพอหนักมากไม่กล้ายืนโยก ต้องจอดแทน
ตั้งแต่บ้านแม่กำปองมา ที่มองว่าชันมากแล้วผมก็ขี่ขึ้นมาได้ทุกเนินเลย ค่อยๆเลื้อยมาแบบสบายๆ พอจะขึ้นเนินคนข้างทางก็จะมองแบบช่วยลุ้นว่ามันจะขึ้นได้เหรอ แล้วก็ต้องแปลกใจเพราะมันขึ้นได้ซะงั้น ผมเองก็งงตัวเองว่าขึ้นมาได้ไงฟะชันขนาดเนี้ย แต่ก็มาแพ้กิ่วผิ่นอยู่ดี
ถึงแล้วก็ต้องขึ้นไปจุดชมวิวด้วยครับ เดินขึ้นไปอีก200เมตร เพื่อวิวที่สวยงาม
ตามแผนตั้งใจจะนอนหนาวบนนี้ เพื่อจะชมพระอาทิตย์ขึ้นซะหน่อย แต่เห็นทางฟ้าแล้วไม่เอาดีกว่า อีกอย่างก็เพิ่งจะบ่ายโมง ไม่รู้จะทำอะไร สู้ลงไปแช่น้ำร้อนที่แจ้ซ้อนจะดีกว่า พรุ่งนี้จะได้ซิวๆ
ถ่ายรูปตัวเองบ้าง มาคนเดียวมีโอกาสถ่ายรูปตัวเองเยอะ ใครๆก็อยากจะถ่ายรูปให้เรา ดีจัง
ปั่นไกลแค่ตามองเห็น
เสือหมอบ Bianchi DAMA-BIANCA She Alu7000 เป็นรถสำหรับผู้หญิง ขนาด 44
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=3&t=1479426
เสือหมอบ Bianchi DAMA-BIANCA She Alu7000 เป็นรถสำหรับผู้หญิง ขนาด 44
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=3&t=1479426