REVIEW เรดาร์และไฟท้ายอัจฉรียะ GARMIN VARIA เพื่อความปลอดภัยของนักปั่น
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 3092
- ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ส.ค. 2008, 15:14
- Tel: 0865040751
- team: Team Bike And Body Cycoling
- Bike: Kemo KE-R5, Giant Propel Advance SL, Specialized Alez E5 Revolution
- ตำแหน่ง: ซอยอารีย์ พหลโยธิน กทม.
- ติดต่อ:
REVIEW เรดาร์และไฟท้ายอัจฉรียะ GARMIN VARIA เพื่อความปลอดภัยของนักปั่น
GARMIN VARIA
"วาเรีย" ถือเป็นไลน์ผลิตภัณฑ์ล่าสุดของค่ายยักษ์ใหญ่แห่งผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็คโทรนิคส์และเครื่องมือเอาท์ดอร์รายบิ๊กของโลกอย่าง "การ์มิน" ที่ก้าวขึ้นมาเป็นจ้าวแห่งอุปกรณ์จักรยานในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี แถมมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองต่อความต้องการของนักปั่นมากมายทั้งระดับนันทนาการและนักจักรยานอาชีพเพื่อการแข่งขัน ทุกๆผลิตภัณฑ์ของการ์มินประสบความสำเร็จสูงมากในการตอบรับของนักปั่นในทุกๆรูปแบบ ซึ่ง GARMIN VARIA เป็นความล้ำหน้าของแนวคิดการนำเทคโนโลยีที่ตนถนัดมารวมเข้ากับการออกแบบเพื่อให้มีประโยชน์ใช้สอยตอบสนองต่อความต้องการของการใช้จักรยาน แนวคิดในการออกแบบ
จักรยานบนถนนโดยทั่วไปมีปัญหาด้านความปลอดภัยเพราะไม่สามารถมองเห็นด้านหลังได้สะดวก แม้จะติดกระจกส่องเพื่อมองด้านหลัง ก็ยังมีมุมมองที่จำกัด ส่งผลให้ 40% ของนักจักรยานที่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุบนท้องถนนมาจากการถูกชนจากด้านหลังโดยไม่รู็ตัวจากพาหนะที่วิ่งเข้าหาด้วยความเร็ว ซึ่งคีย์เวิร์ดสำคัญของกุญแจที่นำไปสู่แนวทางป้องกันนี้คือ หากเราไม่สามารถห้ามรถที่พุ่งเข้ามาได้ อย่างน้อยเราควรรู้ตัวเมื่อมีรถวิ่งเข้าหาเราจากทางด้านหลังโดยที่ไม่ต้องเหลียวไปมอง จนอาจเกิดการเสียการทรงตัวอันก่อให้เกิดอันตรายได้เช่นกัน
ด้วยเหตุนี้ทีมงานออกแบบของการ์มินจึงได้นำเอาเทคโนโลยีเรดาร์ที่ตนเองถนัด มาผนวกกับการออกแบบระบบอุปกรณ์เพื่อจักรยานและการวิจัยการทำงานอย่างละเอียด หลายๆท่านอาจจะยังไม่ทราบแต่การ์มินเป็นหนึ่งในผู้นำเทคโนโลยีเรดาร์ที่ใช้ทั้งในการเดินเรือและอากาศยาน มีความเชี่ยวชาญสูงในการออกแบบระบบรับ-ส่งคลื่นตรวจับวัตถุต่างๆ และสามารถรับมาแสดงผลหรือวิเคราะห์เพื่อแสดงผลได้อย่างรวดเร็วในระดับอากาศยาน และละเอียดในระดับการใช้งานเพื่อนำร่องการสัญจรทางน้ำ การออกแบบ
1.ชุดส่งสัญญาณเรดาร์ทางด้านหลัง ประโยชน์ใช้สอยหลักของมันคือการทำหน้าที่ส่งสัญญาณจากด้านหลังของจักรยานไปจับวัตถุที่วิ่งเข้ามาหาด้วยความเร็วดังนั้นอุปกรณ๊นี้จะทำหน้าที่ส่งคลื่นเรดาร์ออกไปด้านหลัง ระยะทำการประมาณ 100 เมตร เพื่อจับเฉพาะวัตถุที่เข้ามาหาจักรยานเท่านั้น ทำการวิเคราะห์ความเร็วของวัตถุนั้นๆส่งไปยังส่วนแสดงผลอีกต่อหนึ่ง ที่สำคัญ เรดาร์นี้ใช้ความยาวคลื่นที่ไม่ทำปฏิกริยากับจักรยานหรือวัตถุที่มีมวลเบาบางกว่านั้นเพื่อลดความสับสนของสัญญาณ เพื่อให้สามารถตรวจจับพาหนะที่มีมวลมากกว่าจักรยานยนต์ที่วิ่งเข้าหาได้อย่างแม่นยำนั่นเอง 2.ส่วนแสดงผล ส่วนแสดงผลเป็นหน้าจอชุดไฟส่องสว่าง LED ที่สามารถแสดงจุดสัญลักษณ์แทนพาหนะที่วิ่งเข้าหาได้แตกต่างกัน 8 จุดโดยมีระยะห่างที่ต่างกันแบ่งแยกแสดงจำลองความเร็วของการวิ่งเข้าหาได้เห็นอย่างง่ายๆ ที่สำคัญ สามารถทำตัวเองเป็นตัวเชื่อมต่อส่งสัญญาณไปแสดงผลที่หน้าจอของอุปกรณ์การ์มินในตระกูล EDGE ที่มีการอัพระบบปฏิบัติการรองรับได้ด้วย เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งาน และส่งเสียงเป็นสัญญาณเสียงเตือนได้เช่นกัน (EDGE 1000 สามารถเชื่อมต่อกับชุดเรดาร์ได้โดยตรง) ความฉลาดของการออกแบบ
ในเมือชุดสัญญาณเรดาร์ที่ทำหน้าที่รับ-ส่งอยู่ทางด้านหลัง ช่วยให้นักจักรยานรู้ถึงการมาของรถต่างๆ นักออกแบบก็ได้ออกแบบประโยชน์ใช้สอยของชุดสัญญาณนี้ให้ทำหน้าที่เป็น "ไฟท้ายอัจฉรียะ" เพื่อให้รถที่วิ่งเข้ามาสามารถมองเห็นจักรยานได้ด้วยเช่นกัน ถือว่าสอดคล้องและป้องกันอันตรายได้อย่างครบถ้วน เพราะในการป้องกันอันตรายสำหรับนักจักรยานบนท้องถนน พื้นฐานของการป้องกันคือ "ทำให้เค้ารู้และเห็นเรา ทำให้เรารู็และเห็นเค้า" นั่นเอง ไฟท้ายอัจฉรียะ
ตามที่อธิบายเอาไว้ว่าอุปกรณ์รับส่งสัญญาณเรดาร์ถูกออกแบบมาให้เป็นไฟท้ายด้วย ดังนั้นไฟท้ายนี้สามารถทำงานตอบสนองกับวัตถุที่วิ่งเข้าหาจักรยานที่สามารถตรวจจับได้ โดยสัมพันธ์กับระยะห่างและความเร็วของวัตถุนั้นๆด้วยเช่นกัน ตามปกติไฟท้ายจะสว่างเพียงจุดกลาง(2 จุด หรือ 4 จุดกระพริบ แล้วแต่โหมดที่ตั้งเอาไว้) เมื่อตรวจจับวัตถุที่วิ่งเข้าหาได้ ไฟท้ายจะปรับตัวเองให้สว่างและมีขนาดใหญ่ขึ้นด้วยการเพิ่มจำนวนจุดของหลุดไฟตามระยะห่าง ยิ่งเข้าใกล้นักปั่น ไฟท้ายก็จะสว่างขึ่้นเรื่อยๆเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ขับขี่พาหนะที่ตามมาด้านหลัง สามารถมองเห็นและตอบสนองกับจักรยานได้มากที่สุด
ที่สำคัญ ไฟท้ายมีระบบตรวจจับการเคลื่อนไหว เมื่อจักรยานทำการลดความเร็วลง ไฟท้ายจะสว่างขึ้นในลักษณะเดียวกันกับไฟเบรคของรถยนต์ เพื่อเตือนให้จักรยานหรือพาหนะอื่นๆที่ตามมาได้สังเกตุได้ง่ายด้วยเช่นกัน
ขอบเขตุการใช้งานชุดเรดาร์ GARMIN VARIA
แน่นอนครับคำถามเบื้องต้นคือ "มันตวจจับอะไรได้บ้าง?" หลายๆท่านคงอยากจะได้มาไว้ตรวจจับนักปั่นที่ปั่นตามมาข้างหลังด้วย แต่ต้องแสดงความเสียใจครับว่าการออกแบบ GARMIN VARIA ไม่ได้คิดถึงจุดประสงค์ในรูปแบบนั้น ในทางกลักันเพื่อให้การตวจจับและแสดงผลทำได้แม่นยำขึ้น จึงเลือกใช้ขนาดความยาวคลื่นเรดาร์ที่เหมาะสมกับพาหนะที่มีขนาดตอบสนองกับคลื่นที่ใหญ่กว่าจักรยานยนต์ขึ้นไป คลื่นจะไม่ตอบสนองต่อนักจักรยาน หรือแม้แต่กลุ่มนักจักรยานขนาดใหญ่(เปโลตอง) ที่เข้ามาจากด้านหลัง
GARMIN VARIA ไม่ใช่เครื่องมือตรวจจับหาคู่แข่งในการแข่งจักรยาน หากตั้งและออกแบบเรดาร์มาให้ตอบสนองเช่นนั้น จะไม่สามารถช่วยอะไรได้เลยในแง่ของความปลอดภัยในการขี่จัรกยานบนท้องถนน เพราะหากนักปั่นไปปั่นบนถนนกัน 8 คน ก็หมดพื้นที่แสดงผลบนหน้าจอแล้วว่ามีรถพุ่งเข้ามาหาทางด้านหลังหรือไม่ ที่สำคัญระยะของคลื่นก็จะสั้นลง(หรือเปลืองพลังงานมากขึ้น)ด้วย สัญญาณเรดาร์จะตรวจสอบหาเฉพาะวัตถุที่วิ่งเข้าหา ที่มีขนาดใหญ่เท่านั้น ตั้งแต่จักรยานยนต์, รถยนต์ ไปจนถึงรถบรรทุก ต้องย้ำกันว่า "เฉพาะที่วิ่งเข้าหาเท่านั้น" พาหนะที่จอดอยู๋นิ่งๆ หรือวิ่งไกลออกไปจากจักรยาน(รถสวนผ่านไป) ก็จะไม่ถูกตรวจจับมาแสดงผลบนหน้าจอเช่นกัน ทั้งนี้เพื่อกรองให้ได้เฉพาะวัตถุที่เข้าหาจักรยานจริงๆ อันที่จริงถามว่าเรดาร์ตรวจจับหรือไม่ เรดาร์ย่อมตรวจจับทุกอย่างที่มีขนาดใหญ่กว่าความยาคลื่นอย่างแน่นอน แต่เลือกมาแสดงเฉพาะวัตถุที่เข้าหาด้วยความเร็วมี่เหมาะสม ซึ่งสามารถตอบสนองได้ถึงพาหานะที่วิ่งเข้าหาจักรยานด้วยความเร็วประมาณ 96 กม./ชม. แปลว่าอะไร? หมายความว่า ในกรณีที่นักปั่นใช้ความเร็ว 35 กม./ชม. จะสามารถตอบสนองแสดงผลพาหนะที่วิ่งตามมาด้วยความเร็วถึงประมาณ 130 กม./ชม. ได้ และที่ระยะห่าง 100 เมตร เท่ากับ GARMIN VARIA สามารถแสดงผลเตือนบนหน้าจอ(และเสียง) ว่ามีพาหนะพุ่งเข้ามาได้ที่ระยะเวลา 3.6 วินทีก่อนที่พาหนะนั้นจะมาถึงนักจักรยาน (รถยนต์วิ่งเข้าหานักปั่นที่หยุดนิ่งด้วยความเร็ว 100 กม./ชม.) หรือในการใช้งานจริงๆสามารถตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนนักปั่นที่ปั่นอยู่ถึงอันตรายที่อาจเข้ามาจากด้านหลังที่ระยะเวลาประมาณ 5-6 วินาที นั่นมากพอที่จะให้นักจักรยานรู้ตัวหันไปมองหรือหลบออกไปนอกเส้นทางของพาหนะนั้นๆได้แล้ว ตัวเรดาร์สามารถแยกแยะพาหนะที่เข้าหาที่มีระยะห่างกันมากกว่า 1 ช่วงรถจักรยานยนต์แสดงออกเป็นจุดอิสระต่อกัน(มากที่สุด 8 จุดบนหน้าจอ) ได้ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์หรือรถบรรทุกด้วยเช่นกัน ดังนั้นบนถนนที่มีรถสัญจรพอสมควร GARMIN VARIA ก็สามารถแสดงผลแยกให้เห็นถึงจุดต่างๆ ความเร็วและระยะห่างของพาหนะนั้นๆได้ด้วย
ในกรณีกรุงเทพมหานคร ... ที่มีรถยนต์"หนาแน่น" ...GARMIN VARIA ไม่ได้ช่วยอะไรได้มากในถนนที่มีการจราจรคับคั่งเพราะมันจะแสดงผลเต็มตลอดเวลา กระพริบตลอดเวลาจนไม่ได้ช่วยอะไรเลย แต่อย่าคิดครับว่าเป็นปัญหา เพราะในความเป็นจริง ... การขี่จักรยานบนถนนอย่างในกรุงเทพหรือเมืองใหญ่ในเวลาการจราจรคับคั่ง เรารู็ตัวกันอยู่แล้วว่ามีรถมาด้านหลังและต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษแน่นอน
มาดูข้อจำกัดที่พบจากการทดองใช้กันบ้าง ในกรณีที่พาหนะ(โดยเฉพาะจักรยานยนต์)วิ่งใกล้กันมากๆ หรือเบียดมากับรถยนต์ที่ใหญ่กว่า เรดาร์จะแยกวัตถุไม่ออกและแสดงผลออกมาเป็นคันเดียว เมื่อห่างจากกัน ก็จะแสดงผลเป็น 2 จุด (หรือมากกว่า) อีกครั้ง ทั้งนี้รวมถึงการบังกันที่เกิดขึ้นได้ในกรณีที่มีรถยนต์ขนาดเล็กวิ่งตามรถบรรทุกขนาดใหญ่ด้วย เป็นข้อจำกัดจริงที่ต้องยอมรับ และ"อาจ" มีผลกับความสับสนในการใช้อยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม ที่แน่ๆเรารู็ว่ามีพาหนะกำลังตามและเข้ามาหาได้แน่นอน อย่างอน้ย 1 คัน
กรณีนี้ ในการใช้งานควรระลึกเอาไว้ว่าหากมีจุดแสดงว่ามีพาหนะเข้ามา ไม่ควรวางใจว่าเห็นเพียง 1 หรือ 2 จุด มีความเป็นไปได้ว่าอาจมีมากกว่านั้น องศาของคลื่นเรดาร์ถูกส่งออกไปในแนวนอนมากกว่าแนวตั้ง และตอบรับได้ดีในด้านกว้าง สามารถตรวจจับพาหนะที่วิ่งเข้าหาบนถนกว้าง 3 เลนได้สบายๆ (จักรยานอยู่ด้านซ้ายสุด ก็ยังตรวจจับและแสดงผลรถยนต์ที่วิ่งเข้าหาในชองขวาสุดถัดไป 2 ช่องจราจรได้) แต่ในแนวตั้ง เรดาร์มีองศาค่อนข้างแคบ ในกรณีของเนินเขาหรือสะพาน เมื่อขึ้นหรือลงทางชัน เรดาร์จะมีระยะการตรวจจับที่เปลี่ยนไปแล้วไม่สามารถแสดงผลของพาหนะที่กำลังตามมาได้แม้ว่าอยู่ในระยะทำการก็ตาม ตามภาพกราฟฟิคประกอบ จักรยานยนต์คันหลังจะถูกตรวจจับได้ก็ต่อเมื่อเข้ามาในรัศมีของเรดาร์ และหน้าจอจะแสดงผลว่าจักรยานยนต์โผล่มาก็ระยะ 50 เมตร (สมมุติ) แล้ว ไม่ได้แสดงตั้งแต่ระยะห่าง 100 เมตรที่เป็นอยู่
แต่จะเป็นเช่นนี้ได้ต้องเป็นลักษณะของสะพานที่ชันและสั้น หรือเนินเขาที่ขึ้นและลงสลับกันถี่มากๆเท่านั้น กรณีสะพานยาวๆ ไม่มีปัญหาแต่อย่างไร และแน่นอนครับว่าเส้นทางโค้งคดเคี้ยว(โดยเฉพาะที่มีตึกหรือสันเขาขวาสง) เรดาร์เองก็อาจตรวจจับผิดพลาดได้เช่นกัน เพราะวิถีของคลื่นที่ส่งออกไปก็เหมือนับแนวกระจายของแสงสว่างจากไฟฉาย หากวัตถุนั้นๆอยู่นอกแนวของแสงสว่าง ก็จะไม่สามารถส่งคลื่นสะท้อนกลับมาให้เครื่องตรวจจับได้นั่นเอง ในการทดลองใช้งานมีบ่อยครั้งเมื่อเลี้ยวโค้งแคบๆ และมีรถยนต์ตามมา ไฟแสดงสัญญาณเตือนจะหายไปเมื่อเราผ่านรัศมีความโค้งและกลับมาอีกครั้งในระยะห่างที่ตรวจจับได้ (ที่ไม่ใช่ระยะไกล)
หรืออีกเคสที่พบได้ในเมือง เมื่อขี่จักรยานผ่านซอยแยกที่มีรอยนต์กำลังจะออกมา GARMIN VARIA จะไม่ตรวจจับรถยนต์คันนั้นจนกว่ารถจะเลี้ยวและเคลื่อนที่เข้ามาหา(ตามมา) ซึ่งจุดจะแสดงผลระยะห่างออกไปไม่มาก(จุดไฟโผล่มากลางจอเลยไม่ได้เริ่มจากระยะไกลที่สุด) ซึ่งถือเป็นจุดบอดเล็กน้อยเท่านั้น เพราะอย่าลืมครับว่ามันออกแบบให้เรารู้ว่ามีรถหรืออะไรมาด้านหลัง ถึงมันจะมีแต่ยังไม่เข้าหาหรือไม่ได้อยู๋ในแนวที่เข้ามาหาก็ไม่เตือน ก็แปลว่ามันไม่ได้มีโอกาสจะเข้ามาทำอันตรายพวกเรานักปั่นได้นั่นเอง การติดตั้งต้องบอกเลยว่ายอดเยี่ยม เพราะในกล่องแถมชุดติดตั้งมาให้มากมายรองรับลักษณะของหลักอาน ท่อนั่ง แฮนด์ และเสต็มทุกรูปแบบ เกินพอเลยก็ว่าได้ วิธียึดก็เป็นมาตรฐานตัวจับแบบบิดหมุนของการ์มิน รัดกับเฟรมด้วยสายยางยืด (ที่ให้มาเผื่อเพียบ)
การชาร์จไฟอาจจะแปลกๆนิดหน่อย เพราะผุ้ใช้การ์มิน EDGE คงชินกับหัวชาร์จแบบ micro USB แต่เจ้า GARMIN VARIA มากับพอร์ทชาร์จแบบเดียวกับที่พบได้ในสมาร์ทโฟนยุคนี้ (หัวชาร์จแบบมือถือซัมซุง) ชาร์จไฟหนึ่งครั้งใช้งานได้มากกว่า 1 วัน เพียงพอต่อการใช้งาน และมีระบบปิดตัวเองได้เมื่อไม่มีการขยับหรือกดปิดชุดแสดงสัญญาณ ไฟท้ายก็จะดับเองโดยอัตโนมัตินั่นเอง
จุดเด่น
-เตือนอันตรายจากพาหนะที่วิ่งเข้ามาได้ค่อนข้างแม่นยำ เพียงพอกับการป้องกันอันตรายและอุบัติเหตุ
-ไฟท้ายอัจฉรียะ ทำงานได้ดีและเป็นประโยชน์ใช้สอยเสริมที่เด่นเกินหน้าความเป็นเรดาร์เตือน
-การติดตั้งทำได้หลากหลายและสะดวก ย้ายคันได้ง่าย
-ชาร์จแบทฯง่าย ค่อ่นข้างเร็ว ใช้ได้นาน
จุดด้อย
-ราคาสูงไปนิดหน่อยสำหรับอุปกรณ์เสริมที่อาจไม่ใช่ทุกนที่มองว่าสำคัญ แต่สำหรับคนที่เข้าใจมันดี ความปลอดภัยตีมูลค่าไม่ได้ครับ
-มี GARMIN VARIA ไม่ได้แปลว่าไม่ต้องหันไปมอง มันทำหน้าที่แค่แสดงสัญญาณเตือน อย่างไรก็ต้องหันไปมองด้วยอยู่ดีนะครับ มันเป็นตัวช่วย แต่คนจะซวยก็ซวยได้เสมอ
ผมคงบอกไม่ได้ครับว่า GARMIN VARIA เหมาะกับใคร เพราะเราต่างมองความปลอดภัยและมูลค่ามันต่างกันออกไป บางคนอาจมองว่าเทคโนโลยีนี้ไม่คุ้มกับสิ่งที่ต้องจ่ายไป มองไปถึงของที่จะเอามาขี่ให้แรง เร็ว และสนุกมากกว่า แต่สำหรับผมขอให้ความเห็นส่วนตัวในตอนท้ายว่า
บ้านเราพาหนะต่างๆไม่ค่อยใส่ใจจักรยาน นักปั่นหลายคนก็โดนรถหรือมอเตอร์ไซค์"เสยตูด" กระเด็น หรือเสียชีวิตมาแล้ว GARMIN VARIA อาจไม่ได้ช่วยให้คนขับรถมีนิสัยที่ดีขึ้นพอที่นักปั่นปลอดภัยกันทั่วฟ้าสยามราชอาณาจักร และไม่สามารถป้องกันภัยเราได้ทุกรูปแบบ มันคงไม่สามารถเอาไปเทียบกับการติดกระจกมองหลังปลายแฮนด์ (มีคนคิดแน่ๆว่า 35 บาทก็ทำได้) ....
แต่...ตั้งแต่ขี่จักรยานและรู้จักกับจักรยานมากว่า 20 ปี ...ผมเพิ่งเคยเห็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบและใช้เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยของคนขี่จริงๆก็ตัวนี้แหละ และมันทำได้มากกว่าแค่สิ่งพื้นฐานที่เราต้องการ
ลิงค์บทความ PREVIEW GARMIN VARIA
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... &t=1323363
ทดลองใช้งานร่วมกับ Garmin EDGE 1000 เมื่อจับสัญญาณกับชุดไฟท้ายและเอาเรดาร์มาแสดงผลบนหน้าจอ EDGE จะมีแถบทางด้านขวา และแสดงจุดแทนรถที่กำลังวิ่งข้ามา พร้อมเสียงสัญญาณเตือนในกรณีที่มีรถเข้ามาหาเรา ถ้าว่ากันตามหลักแล้วใช้ได้ดีกว่าตัวแสดงไฟเตือนของ VARIA เองด้วยซ้ำ แต่สำหรับ 810, 520 และ 510 ที่อัพเฟิร์มแวร์แล้ว ต้องเชื่อมผ่านตัวแสดงสัญญาณเตือนด้วยอยู่ดี ไม่สามารถจับคู่กับเรดาร์โดยตรงได้
ในคลิป เป็นการมองไปทางด้านหลังของจักรยานนะครับ รถที่วิ่งเข้ามา เข้าหาจักรยานที่หันหลังอยู่
[homeimg=300,250]http://www.thaimtb.com/forum/picture_mt ... 388062.jpg[/homeimg]
[align=center][/align]
"วาเรีย" ถือเป็นไลน์ผลิตภัณฑ์ล่าสุดของค่ายยักษ์ใหญ่แห่งผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็คโทรนิคส์และเครื่องมือเอาท์ดอร์รายบิ๊กของโลกอย่าง "การ์มิน" ที่ก้าวขึ้นมาเป็นจ้าวแห่งอุปกรณ์จักรยานในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี แถมมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองต่อความต้องการของนักปั่นมากมายทั้งระดับนันทนาการและนักจักรยานอาชีพเพื่อการแข่งขัน ทุกๆผลิตภัณฑ์ของการ์มินประสบความสำเร็จสูงมากในการตอบรับของนักปั่นในทุกๆรูปแบบ ซึ่ง GARMIN VARIA เป็นความล้ำหน้าของแนวคิดการนำเทคโนโลยีที่ตนถนัดมารวมเข้ากับการออกแบบเพื่อให้มีประโยชน์ใช้สอยตอบสนองต่อความต้องการของการใช้จักรยาน แนวคิดในการออกแบบ
จักรยานบนถนนโดยทั่วไปมีปัญหาด้านความปลอดภัยเพราะไม่สามารถมองเห็นด้านหลังได้สะดวก แม้จะติดกระจกส่องเพื่อมองด้านหลัง ก็ยังมีมุมมองที่จำกัด ส่งผลให้ 40% ของนักจักรยานที่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุบนท้องถนนมาจากการถูกชนจากด้านหลังโดยไม่รู็ตัวจากพาหนะที่วิ่งเข้าหาด้วยความเร็ว ซึ่งคีย์เวิร์ดสำคัญของกุญแจที่นำไปสู่แนวทางป้องกันนี้คือ หากเราไม่สามารถห้ามรถที่พุ่งเข้ามาได้ อย่างน้อยเราควรรู้ตัวเมื่อมีรถวิ่งเข้าหาเราจากทางด้านหลังโดยที่ไม่ต้องเหลียวไปมอง จนอาจเกิดการเสียการทรงตัวอันก่อให้เกิดอันตรายได้เช่นกัน
ด้วยเหตุนี้ทีมงานออกแบบของการ์มินจึงได้นำเอาเทคโนโลยีเรดาร์ที่ตนเองถนัด มาผนวกกับการออกแบบระบบอุปกรณ์เพื่อจักรยานและการวิจัยการทำงานอย่างละเอียด หลายๆท่านอาจจะยังไม่ทราบแต่การ์มินเป็นหนึ่งในผู้นำเทคโนโลยีเรดาร์ที่ใช้ทั้งในการเดินเรือและอากาศยาน มีความเชี่ยวชาญสูงในการออกแบบระบบรับ-ส่งคลื่นตรวจับวัตถุต่างๆ และสามารถรับมาแสดงผลหรือวิเคราะห์เพื่อแสดงผลได้อย่างรวดเร็วในระดับอากาศยาน และละเอียดในระดับการใช้งานเพื่อนำร่องการสัญจรทางน้ำ การออกแบบ
1.ชุดส่งสัญญาณเรดาร์ทางด้านหลัง ประโยชน์ใช้สอยหลักของมันคือการทำหน้าที่ส่งสัญญาณจากด้านหลังของจักรยานไปจับวัตถุที่วิ่งเข้ามาหาด้วยความเร็วดังนั้นอุปกรณ๊นี้จะทำหน้าที่ส่งคลื่นเรดาร์ออกไปด้านหลัง ระยะทำการประมาณ 100 เมตร เพื่อจับเฉพาะวัตถุที่เข้ามาหาจักรยานเท่านั้น ทำการวิเคราะห์ความเร็วของวัตถุนั้นๆส่งไปยังส่วนแสดงผลอีกต่อหนึ่ง ที่สำคัญ เรดาร์นี้ใช้ความยาวคลื่นที่ไม่ทำปฏิกริยากับจักรยานหรือวัตถุที่มีมวลเบาบางกว่านั้นเพื่อลดความสับสนของสัญญาณ เพื่อให้สามารถตรวจจับพาหนะที่มีมวลมากกว่าจักรยานยนต์ที่วิ่งเข้าหาได้อย่างแม่นยำนั่นเอง 2.ส่วนแสดงผล ส่วนแสดงผลเป็นหน้าจอชุดไฟส่องสว่าง LED ที่สามารถแสดงจุดสัญลักษณ์แทนพาหนะที่วิ่งเข้าหาได้แตกต่างกัน 8 จุดโดยมีระยะห่างที่ต่างกันแบ่งแยกแสดงจำลองความเร็วของการวิ่งเข้าหาได้เห็นอย่างง่ายๆ ที่สำคัญ สามารถทำตัวเองเป็นตัวเชื่อมต่อส่งสัญญาณไปแสดงผลที่หน้าจอของอุปกรณ์การ์มินในตระกูล EDGE ที่มีการอัพระบบปฏิบัติการรองรับได้ด้วย เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งาน และส่งเสียงเป็นสัญญาณเสียงเตือนได้เช่นกัน (EDGE 1000 สามารถเชื่อมต่อกับชุดเรดาร์ได้โดยตรง) ความฉลาดของการออกแบบ
ในเมือชุดสัญญาณเรดาร์ที่ทำหน้าที่รับ-ส่งอยู่ทางด้านหลัง ช่วยให้นักจักรยานรู้ถึงการมาของรถต่างๆ นักออกแบบก็ได้ออกแบบประโยชน์ใช้สอยของชุดสัญญาณนี้ให้ทำหน้าที่เป็น "ไฟท้ายอัจฉรียะ" เพื่อให้รถที่วิ่งเข้ามาสามารถมองเห็นจักรยานได้ด้วยเช่นกัน ถือว่าสอดคล้องและป้องกันอันตรายได้อย่างครบถ้วน เพราะในการป้องกันอันตรายสำหรับนักจักรยานบนท้องถนน พื้นฐานของการป้องกันคือ "ทำให้เค้ารู้และเห็นเรา ทำให้เรารู็และเห็นเค้า" นั่นเอง ไฟท้ายอัจฉรียะ
ตามที่อธิบายเอาไว้ว่าอุปกรณ์รับส่งสัญญาณเรดาร์ถูกออกแบบมาให้เป็นไฟท้ายด้วย ดังนั้นไฟท้ายนี้สามารถทำงานตอบสนองกับวัตถุที่วิ่งเข้าหาจักรยานที่สามารถตรวจจับได้ โดยสัมพันธ์กับระยะห่างและความเร็วของวัตถุนั้นๆด้วยเช่นกัน ตามปกติไฟท้ายจะสว่างเพียงจุดกลาง(2 จุด หรือ 4 จุดกระพริบ แล้วแต่โหมดที่ตั้งเอาไว้) เมื่อตรวจจับวัตถุที่วิ่งเข้าหาได้ ไฟท้ายจะปรับตัวเองให้สว่างและมีขนาดใหญ่ขึ้นด้วยการเพิ่มจำนวนจุดของหลุดไฟตามระยะห่าง ยิ่งเข้าใกล้นักปั่น ไฟท้ายก็จะสว่างขึ่้นเรื่อยๆเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ขับขี่พาหนะที่ตามมาด้านหลัง สามารถมองเห็นและตอบสนองกับจักรยานได้มากที่สุด
ที่สำคัญ ไฟท้ายมีระบบตรวจจับการเคลื่อนไหว เมื่อจักรยานทำการลดความเร็วลง ไฟท้ายจะสว่างขึ้นในลักษณะเดียวกันกับไฟเบรคของรถยนต์ เพื่อเตือนให้จักรยานหรือพาหนะอื่นๆที่ตามมาได้สังเกตุได้ง่ายด้วยเช่นกัน
ขอบเขตุการใช้งานชุดเรดาร์ GARMIN VARIA
แน่นอนครับคำถามเบื้องต้นคือ "มันตวจจับอะไรได้บ้าง?" หลายๆท่านคงอยากจะได้มาไว้ตรวจจับนักปั่นที่ปั่นตามมาข้างหลังด้วย แต่ต้องแสดงความเสียใจครับว่าการออกแบบ GARMIN VARIA ไม่ได้คิดถึงจุดประสงค์ในรูปแบบนั้น ในทางกลักันเพื่อให้การตวจจับและแสดงผลทำได้แม่นยำขึ้น จึงเลือกใช้ขนาดความยาวคลื่นเรดาร์ที่เหมาะสมกับพาหนะที่มีขนาดตอบสนองกับคลื่นที่ใหญ่กว่าจักรยานยนต์ขึ้นไป คลื่นจะไม่ตอบสนองต่อนักจักรยาน หรือแม้แต่กลุ่มนักจักรยานขนาดใหญ่(เปโลตอง) ที่เข้ามาจากด้านหลัง
GARMIN VARIA ไม่ใช่เครื่องมือตรวจจับหาคู่แข่งในการแข่งจักรยาน หากตั้งและออกแบบเรดาร์มาให้ตอบสนองเช่นนั้น จะไม่สามารถช่วยอะไรได้เลยในแง่ของความปลอดภัยในการขี่จัรกยานบนท้องถนน เพราะหากนักปั่นไปปั่นบนถนนกัน 8 คน ก็หมดพื้นที่แสดงผลบนหน้าจอแล้วว่ามีรถพุ่งเข้ามาหาทางด้านหลังหรือไม่ ที่สำคัญระยะของคลื่นก็จะสั้นลง(หรือเปลืองพลังงานมากขึ้น)ด้วย สัญญาณเรดาร์จะตรวจสอบหาเฉพาะวัตถุที่วิ่งเข้าหา ที่มีขนาดใหญ่เท่านั้น ตั้งแต่จักรยานยนต์, รถยนต์ ไปจนถึงรถบรรทุก ต้องย้ำกันว่า "เฉพาะที่วิ่งเข้าหาเท่านั้น" พาหนะที่จอดอยู๋นิ่งๆ หรือวิ่งไกลออกไปจากจักรยาน(รถสวนผ่านไป) ก็จะไม่ถูกตรวจจับมาแสดงผลบนหน้าจอเช่นกัน ทั้งนี้เพื่อกรองให้ได้เฉพาะวัตถุที่เข้าหาจักรยานจริงๆ อันที่จริงถามว่าเรดาร์ตรวจจับหรือไม่ เรดาร์ย่อมตรวจจับทุกอย่างที่มีขนาดใหญ่กว่าความยาคลื่นอย่างแน่นอน แต่เลือกมาแสดงเฉพาะวัตถุที่เข้าหาด้วยความเร็วมี่เหมาะสม ซึ่งสามารถตอบสนองได้ถึงพาหานะที่วิ่งเข้าหาจักรยานด้วยความเร็วประมาณ 96 กม./ชม. แปลว่าอะไร? หมายความว่า ในกรณีที่นักปั่นใช้ความเร็ว 35 กม./ชม. จะสามารถตอบสนองแสดงผลพาหนะที่วิ่งตามมาด้วยความเร็วถึงประมาณ 130 กม./ชม. ได้ และที่ระยะห่าง 100 เมตร เท่ากับ GARMIN VARIA สามารถแสดงผลเตือนบนหน้าจอ(และเสียง) ว่ามีพาหนะพุ่งเข้ามาได้ที่ระยะเวลา 3.6 วินทีก่อนที่พาหนะนั้นจะมาถึงนักจักรยาน (รถยนต์วิ่งเข้าหานักปั่นที่หยุดนิ่งด้วยความเร็ว 100 กม./ชม.) หรือในการใช้งานจริงๆสามารถตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนนักปั่นที่ปั่นอยู่ถึงอันตรายที่อาจเข้ามาจากด้านหลังที่ระยะเวลาประมาณ 5-6 วินาที นั่นมากพอที่จะให้นักจักรยานรู้ตัวหันไปมองหรือหลบออกไปนอกเส้นทางของพาหนะนั้นๆได้แล้ว ตัวเรดาร์สามารถแยกแยะพาหนะที่เข้าหาที่มีระยะห่างกันมากกว่า 1 ช่วงรถจักรยานยนต์แสดงออกเป็นจุดอิสระต่อกัน(มากที่สุด 8 จุดบนหน้าจอ) ได้ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์หรือรถบรรทุกด้วยเช่นกัน ดังนั้นบนถนนที่มีรถสัญจรพอสมควร GARMIN VARIA ก็สามารถแสดงผลแยกให้เห็นถึงจุดต่างๆ ความเร็วและระยะห่างของพาหนะนั้นๆได้ด้วย
ในกรณีกรุงเทพมหานคร ... ที่มีรถยนต์"หนาแน่น" ...GARMIN VARIA ไม่ได้ช่วยอะไรได้มากในถนนที่มีการจราจรคับคั่งเพราะมันจะแสดงผลเต็มตลอดเวลา กระพริบตลอดเวลาจนไม่ได้ช่วยอะไรเลย แต่อย่าคิดครับว่าเป็นปัญหา เพราะในความเป็นจริง ... การขี่จักรยานบนถนนอย่างในกรุงเทพหรือเมืองใหญ่ในเวลาการจราจรคับคั่ง เรารู็ตัวกันอยู่แล้วว่ามีรถมาด้านหลังและต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษแน่นอน
มาดูข้อจำกัดที่พบจากการทดองใช้กันบ้าง ในกรณีที่พาหนะ(โดยเฉพาะจักรยานยนต์)วิ่งใกล้กันมากๆ หรือเบียดมากับรถยนต์ที่ใหญ่กว่า เรดาร์จะแยกวัตถุไม่ออกและแสดงผลออกมาเป็นคันเดียว เมื่อห่างจากกัน ก็จะแสดงผลเป็น 2 จุด (หรือมากกว่า) อีกครั้ง ทั้งนี้รวมถึงการบังกันที่เกิดขึ้นได้ในกรณีที่มีรถยนต์ขนาดเล็กวิ่งตามรถบรรทุกขนาดใหญ่ด้วย เป็นข้อจำกัดจริงที่ต้องยอมรับ และ"อาจ" มีผลกับความสับสนในการใช้อยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม ที่แน่ๆเรารู็ว่ามีพาหนะกำลังตามและเข้ามาหาได้แน่นอน อย่างอน้ย 1 คัน
กรณีนี้ ในการใช้งานควรระลึกเอาไว้ว่าหากมีจุดแสดงว่ามีพาหนะเข้ามา ไม่ควรวางใจว่าเห็นเพียง 1 หรือ 2 จุด มีความเป็นไปได้ว่าอาจมีมากกว่านั้น องศาของคลื่นเรดาร์ถูกส่งออกไปในแนวนอนมากกว่าแนวตั้ง และตอบรับได้ดีในด้านกว้าง สามารถตรวจจับพาหนะที่วิ่งเข้าหาบนถนกว้าง 3 เลนได้สบายๆ (จักรยานอยู่ด้านซ้ายสุด ก็ยังตรวจจับและแสดงผลรถยนต์ที่วิ่งเข้าหาในชองขวาสุดถัดไป 2 ช่องจราจรได้) แต่ในแนวตั้ง เรดาร์มีองศาค่อนข้างแคบ ในกรณีของเนินเขาหรือสะพาน เมื่อขึ้นหรือลงทางชัน เรดาร์จะมีระยะการตรวจจับที่เปลี่ยนไปแล้วไม่สามารถแสดงผลของพาหนะที่กำลังตามมาได้แม้ว่าอยู่ในระยะทำการก็ตาม ตามภาพกราฟฟิคประกอบ จักรยานยนต์คันหลังจะถูกตรวจจับได้ก็ต่อเมื่อเข้ามาในรัศมีของเรดาร์ และหน้าจอจะแสดงผลว่าจักรยานยนต์โผล่มาก็ระยะ 50 เมตร (สมมุติ) แล้ว ไม่ได้แสดงตั้งแต่ระยะห่าง 100 เมตรที่เป็นอยู่
แต่จะเป็นเช่นนี้ได้ต้องเป็นลักษณะของสะพานที่ชันและสั้น หรือเนินเขาที่ขึ้นและลงสลับกันถี่มากๆเท่านั้น กรณีสะพานยาวๆ ไม่มีปัญหาแต่อย่างไร และแน่นอนครับว่าเส้นทางโค้งคดเคี้ยว(โดยเฉพาะที่มีตึกหรือสันเขาขวาสง) เรดาร์เองก็อาจตรวจจับผิดพลาดได้เช่นกัน เพราะวิถีของคลื่นที่ส่งออกไปก็เหมือนับแนวกระจายของแสงสว่างจากไฟฉาย หากวัตถุนั้นๆอยู่นอกแนวของแสงสว่าง ก็จะไม่สามารถส่งคลื่นสะท้อนกลับมาให้เครื่องตรวจจับได้นั่นเอง ในการทดลองใช้งานมีบ่อยครั้งเมื่อเลี้ยวโค้งแคบๆ และมีรถยนต์ตามมา ไฟแสดงสัญญาณเตือนจะหายไปเมื่อเราผ่านรัศมีความโค้งและกลับมาอีกครั้งในระยะห่างที่ตรวจจับได้ (ที่ไม่ใช่ระยะไกล)
หรืออีกเคสที่พบได้ในเมือง เมื่อขี่จักรยานผ่านซอยแยกที่มีรอยนต์กำลังจะออกมา GARMIN VARIA จะไม่ตรวจจับรถยนต์คันนั้นจนกว่ารถจะเลี้ยวและเคลื่อนที่เข้ามาหา(ตามมา) ซึ่งจุดจะแสดงผลระยะห่างออกไปไม่มาก(จุดไฟโผล่มากลางจอเลยไม่ได้เริ่มจากระยะไกลที่สุด) ซึ่งถือเป็นจุดบอดเล็กน้อยเท่านั้น เพราะอย่าลืมครับว่ามันออกแบบให้เรารู้ว่ามีรถหรืออะไรมาด้านหลัง ถึงมันจะมีแต่ยังไม่เข้าหาหรือไม่ได้อยู๋ในแนวที่เข้ามาหาก็ไม่เตือน ก็แปลว่ามันไม่ได้มีโอกาสจะเข้ามาทำอันตรายพวกเรานักปั่นได้นั่นเอง การติดตั้งต้องบอกเลยว่ายอดเยี่ยม เพราะในกล่องแถมชุดติดตั้งมาให้มากมายรองรับลักษณะของหลักอาน ท่อนั่ง แฮนด์ และเสต็มทุกรูปแบบ เกินพอเลยก็ว่าได้ วิธียึดก็เป็นมาตรฐานตัวจับแบบบิดหมุนของการ์มิน รัดกับเฟรมด้วยสายยางยืด (ที่ให้มาเผื่อเพียบ)
การชาร์จไฟอาจจะแปลกๆนิดหน่อย เพราะผุ้ใช้การ์มิน EDGE คงชินกับหัวชาร์จแบบ micro USB แต่เจ้า GARMIN VARIA มากับพอร์ทชาร์จแบบเดียวกับที่พบได้ในสมาร์ทโฟนยุคนี้ (หัวชาร์จแบบมือถือซัมซุง) ชาร์จไฟหนึ่งครั้งใช้งานได้มากกว่า 1 วัน เพียงพอต่อการใช้งาน และมีระบบปิดตัวเองได้เมื่อไม่มีการขยับหรือกดปิดชุดแสดงสัญญาณ ไฟท้ายก็จะดับเองโดยอัตโนมัตินั่นเอง
จุดเด่น
-เตือนอันตรายจากพาหนะที่วิ่งเข้ามาได้ค่อนข้างแม่นยำ เพียงพอกับการป้องกันอันตรายและอุบัติเหตุ
-ไฟท้ายอัจฉรียะ ทำงานได้ดีและเป็นประโยชน์ใช้สอยเสริมที่เด่นเกินหน้าความเป็นเรดาร์เตือน
-การติดตั้งทำได้หลากหลายและสะดวก ย้ายคันได้ง่าย
-ชาร์จแบทฯง่าย ค่อ่นข้างเร็ว ใช้ได้นาน
จุดด้อย
-ราคาสูงไปนิดหน่อยสำหรับอุปกรณ์เสริมที่อาจไม่ใช่ทุกนที่มองว่าสำคัญ แต่สำหรับคนที่เข้าใจมันดี ความปลอดภัยตีมูลค่าไม่ได้ครับ
-มี GARMIN VARIA ไม่ได้แปลว่าไม่ต้องหันไปมอง มันทำหน้าที่แค่แสดงสัญญาณเตือน อย่างไรก็ต้องหันไปมองด้วยอยู่ดีนะครับ มันเป็นตัวช่วย แต่คนจะซวยก็ซวยได้เสมอ
ผมคงบอกไม่ได้ครับว่า GARMIN VARIA เหมาะกับใคร เพราะเราต่างมองความปลอดภัยและมูลค่ามันต่างกันออกไป บางคนอาจมองว่าเทคโนโลยีนี้ไม่คุ้มกับสิ่งที่ต้องจ่ายไป มองไปถึงของที่จะเอามาขี่ให้แรง เร็ว และสนุกมากกว่า แต่สำหรับผมขอให้ความเห็นส่วนตัวในตอนท้ายว่า
บ้านเราพาหนะต่างๆไม่ค่อยใส่ใจจักรยาน นักปั่นหลายคนก็โดนรถหรือมอเตอร์ไซค์"เสยตูด" กระเด็น หรือเสียชีวิตมาแล้ว GARMIN VARIA อาจไม่ได้ช่วยให้คนขับรถมีนิสัยที่ดีขึ้นพอที่นักปั่นปลอดภัยกันทั่วฟ้าสยามราชอาณาจักร และไม่สามารถป้องกันภัยเราได้ทุกรูปแบบ มันคงไม่สามารถเอาไปเทียบกับการติดกระจกมองหลังปลายแฮนด์ (มีคนคิดแน่ๆว่า 35 บาทก็ทำได้) ....
แต่...ตั้งแต่ขี่จักรยานและรู้จักกับจักรยานมากว่า 20 ปี ...ผมเพิ่งเคยเห็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบและใช้เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยของคนขี่จริงๆก็ตัวนี้แหละ และมันทำได้มากกว่าแค่สิ่งพื้นฐานที่เราต้องการ
ลิงค์บทความ PREVIEW GARMIN VARIA
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... &t=1323363
ทดลองใช้งานร่วมกับ Garmin EDGE 1000 เมื่อจับสัญญาณกับชุดไฟท้ายและเอาเรดาร์มาแสดงผลบนหน้าจอ EDGE จะมีแถบทางด้านขวา และแสดงจุดแทนรถที่กำลังวิ่งข้ามา พร้อมเสียงสัญญาณเตือนในกรณีที่มีรถเข้ามาหาเรา ถ้าว่ากันตามหลักแล้วใช้ได้ดีกว่าตัวแสดงไฟเตือนของ VARIA เองด้วยซ้ำ แต่สำหรับ 810, 520 และ 510 ที่อัพเฟิร์มแวร์แล้ว ต้องเชื่อมผ่านตัวแสดงสัญญาณเตือนด้วยอยู่ดี ไม่สามารถจับคู่กับเรดาร์โดยตรงได้
ในคลิป เป็นการมองไปทางด้านหลังของจักรยานนะครับ รถที่วิ่งเข้ามา เข้าหาจักรยานที่หันหลังอยู่
[homeimg=300,250]http://www.thaimtb.com/forum/picture_mt ... 388062.jpg[/homeimg]
[align=center][/align]
- ไฟล์แนบ
-
- _MG_2918.jpg (141.52 KiB) เข้าดูแล้ว 11021 ครั้ง
ฟังสาระจักรยาน Podcast
https://open.spotify.com/show/76iDUCWXgqqixg1CmoSDIp
ข่าวสารจัรกยาน
https://www.facebook.com/cyclinghubthailand/
https://open.spotify.com/show/76iDUCWXgqqixg1CmoSDIp
ข่าวสารจัรกยาน
https://www.facebook.com/cyclinghubthailand/
- jabmon
- ขาประจำ
- โพสต์: 322
- ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2013, 12:29
- Tel: 0813932099
- Bike: Bianchi Impulso, Giant XTC, KHS T20, Commencal meta AM
Re: REVIEW เรดาร์และไฟท้ายอัจฉรียะ GARMIN VARIA เพื่อความปลอดภัยของนักปั่น
เข้ามาบอกว่า...รีวิวได้สุดยอดครับ
อัพขาอย่างเดียวจบ
- winhaha
- ขาประจำ
- โพสต์: 544
- ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ก.ย. 2014, 21:27
Re: REVIEW เรดาร์และไฟท้ายอัจฉรียะ GARMIN VARIA เพื่อความปลอดภัยของนักปั่น
รีวิวเยี่ยมเลยครับ แต่เจอราคาไป นี่เงิบ...........เลย
ขายติมเรื่อย............ไป
- peep_bmw
- ขาประจำ
- โพสต์: 1793
- ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ก.ค. 2013, 15:48
- Bike: Trek 4900
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 799
- ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.ย. 2012, 20:00
- Bike: Titanium & Cro-mo steel alloy.
- rantikaz
- สมาชิก
- โพสต์: 48
- ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ส.ค. 2011, 13:40
- Tel: 095-2596566
- Bike: Bianchi
- ตำแหน่ง: พัทลุง
- ติดต่อ:
Re: REVIEW เรดาร์และไฟท้ายอัจฉรียะ GARMIN VARIA เพื่อความปลอดภัยของนักปั่น
ขอบคุณครับ
ID LINE = superman_june
Tel . = 095-7498614, 082-2696943
"NO Woman No Cry"
Tel . = 095-7498614, 082-2696943
"NO Woman No Cry"
-
- สมาชิก
- โพสต์: 7
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2013, 17:27
- Bike: Storck F.3 : Aernario : Tyrell FSX : Bianchi Methanol : Surly Cross-Check : Bianchi Impulso
- palmykung
- สมาชิก
- โพสต์: 26
- ลงทะเบียนเมื่อ: 14 พ.ย. 2010, 12:52
- Bike: Strida 5.0, Trek 7.4, Spe roubaix SL3
Re: REVIEW เรดาร์และไฟท้ายอัจฉรียะ GARMIN VARIA เพื่อความปลอดภัยของนักปั่น
น่าจะพูดเรื่อง port USB ผิดนะครับ
พวก Garmin edge 510,810 จะเป็น mini USB
ส่วน smartphone android, edge 520, VARIA จะเป็น micro USB
พวก Garmin edge 510,810 จะเป็น mini USB
ส่วน smartphone android, edge 520, VARIA จะเป็น micro USB
- setta2001
- ขาประจำ
- โพสต์: 1072
- ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 13:11
- Tel: T.0818705675 line:thirathanpam
- team: ไม่มีมั่ว
- Bike: Intenso กะ AirBike กะ K2
- ติดต่อ:
Re: REVIEW เรดาร์และไฟท้ายอัจฉรียะ GARMIN VARIA เพื่อความปลอดภัยของนักปั่น
น่าใช้ดีครับ
ปั่นเร็วก็หาว่าเมาม้า ปั่นช้าก็หาว่ากวนตีน
- ngoa
- ขาประจำ
- โพสต์: 1512
- ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ส.ค. 2012, 02:13
Re: REVIEW เรดาร์และไฟท้ายอัจฉรียะ GARMIN VARIA เพื่อความปลอดภัยของนักปั่น
ดีๆ เอาไว้กะตุกหนีคันหลังไม่ให้มาหมก 5555
- porpuay
- สมาชิก
- โพสต์: 55
- ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ธ.ค. 2013, 11:35
- team: SLOW RIDE
- Bike: Mosso 750CB, Bianchi Impulso Celeste, Bianchi Impulso Dama Bianca
Re: REVIEW เรดาร์และไฟท้ายอัจฉรียะ GARMIN VARIA เพื่อความปลอดภัยของนักปั่น
ขอบคุณครับ
SLOW RIDE
YOLO ... You oughta look out
YOLO ... You oughta look out
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 1327
- ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2010, 17:49
- ติดต่อ:
Re: REVIEW เรดาร์และไฟท้ายอัจฉรียะ GARMIN VARIA เพื่อความปลอดภัยของนักปั่น
คิดว่าอีกไม่นานราคาคงจะถูกลงครับ ขอบคุณสำหรับสิ่งดีดีที่มีมาฝากเสมอๆครับคุณGiro......
************************************
แรงไม่มี ปั่นไม่ไว ตามใครๆไม่ค่อยทัน
แต่. ..... ไม่เคยหันหลังกลับ
"เมื่อคิด ต้องถึง"
..... jo_giant ^ ^ .....
*************************************
- วายร้ายอุ๊
- ขาประจำ
- โพสต์: 111
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 19:51
- team: วายร้ายสายสอง
Re: REVIEW เรดาร์และไฟท้ายอัจฉรียะ GARMIN VARIA เพื่อความปลอดภัยของนักปั่น
รอพี่จีน ทำราคา 2000 แต่กลัวมันจับหมาไล่งับด้วยเปล่า
-
- สมาชิก
- โพสต์: 17
- ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ต.ค. 2015, 20:25
- Tel: 0870549889
- Bike: เสือภูเขา
Re: REVIEW เรดาร์และไฟท้ายอัจฉรียะ GARMIN VARIA เพื่อความปลอดภัยของนักปั่น
ราคาเท่าไหล่ครับพี่ๆ
- wisit125
- สมาชิก
- โพสต์: 13
- ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2015, 16:10
- Tel: 0870713804
- team: ขับขี่จักรยานอิสระ
- Bike: Bianchi nirone
- ตำแหน่ง: 280 หมู่ 2 ต.สระกำแพงใหญ่ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ 33120
- ติดต่อ: