VP ควรเติมลมยาง...เท่าไหร่?
ผู้ดูแล: Cycling B®y, spinbike, velocity
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 3092
- ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ส.ค. 2008, 15:14
- Tel: 0865040751
- team: Team Bike And Body Cycoling
- Bike: Kemo KE-R5, Giant Propel Advance SL, Specialized Alez E5 Revolution
- ตำแหน่ง: ซอยอารีย์ พหลโยธิน กทม.
- ติดต่อ:
VP ควรเติมลมยาง...เท่าไหร่?
ควรเติมลมยาง...เท่าไหร่?
แรงดันลมยาง เป็นเรื่องที่ดูเหมือนจะง่ายๆ สบายๆ แค่ดูริมแก้มยางแล้สเติมลมก็เรียบร้อยแล้ว แต่เรื่องง่ายๆมันไม่กล้วยขนาดนั้น เมื่อขี่แล้วรู้สึกว่า เอ๊ะทำไมมันหมืดจัง หรือ โอดครวญว่ามันสะท้านสะเทือนไปหมดจนขี่ไม่ไหว แรงยังเหลือแต่มันล้าเหลือเกิน แสดงว่า มันต้องมีอะไรซักอย่างกับแรงดันลมยางที่ส่งผลกับเรื่องเหล่านี้แน่ๆ ดังนั้นวันนี้เราลองมาดูว่าอะไรบ้างคือตัวแปรที่ส่งผลกับการเลือกเติมลมยางจักรยานของเรากันนะครับ
1.ขนาดของยาง
เรื่องแรกเป็นปัจจัยพื้นฐานของยางแต่ละตัว ซึ่งจุดนี้สังเกตุได้ไม่ยากเลยครับ เพียงลองเอายางของเพื่อน หรือไปร้านจักรยานแล้วเอายางแต่ละขนาดมาเทียบกันตั้งแต่ 700cx19 ไล่ไปจน 700cx28 ก็จะสังเกตุได้ว่าที่แก้มยางระบุแรงดันลมยางมาแตกต่างกัน ซึ่งนอกจากคุณภาพของยางและวัสดุที่ผลิตที่ยางแต่ละตัวรับแรงดันได้ต่างกันแล้ว ปัจจัยที่สำคัญที่วัดคือ "โอกาสที่ยางจะรั่ว" แปลง่ายๆคือยังแต่ละขนาดมีขีดความสามารถในการอัดลม *ต่ำสุด* ไม่เท่ากันนั่นเอง ยางที่มีขนาดเล็กกว่า เมื่ออัดลมน้อยเกินไปยางจะมีแรงดันภายในน้อยและโอกาสเกิดการรั่วจากการกระแทก ตกหลุม เหยียบหินก้อนใหญ่ ได้ง่ายกว่าเนื่องจากอากาศโดนอัดไปโป่งตัวพื้นที่รอบๆและดันให้ยางรั่วได้ง่าย เรียกกันง่ายๆว่า"รอยรั่วงูกัด" เพราะมักมีรอยรั่ว 2 รยอยู่ใกล้ๆกัน ยางที่ใหญ่กว่าที่มีแรงดันลมเท่าๆกันจะมีโอกาสอัดกระแทกจนลมไปดันยางรั่วได้ยากกว่าเพราะมีพื้นที่ว่างภายในมากกว่า
ดังนั้นยางยิ่่งมีขนาดใหญ่ ยิ่งสามารถอัดลมได้*น้อย*กว่ายางที่มีขนาดเล็กกว่า โดยที่มีโอกาสรั่วได้ยากกว่า ส่วนแรงดันลมสูงสุดจะขึ้นอยู๋กับวัสดุและการผลิตยางต่างๆอยู่แล้ว พิจารณาจากเสป็คของยางเพียงอย่างเดียว
2.น้ำหนักตัวคนขี่
ลองนึกภาพว่าท่านเอาของเล่นสูบลมของลูกมาลองขึ้นไปนั่ง เจ้าม้าสูบลมก็จะถูกน้ำหนักตัวของท่านกดจนตาปลิ้น หัวโป่ง หน้าเบี้ยว ก้นบาน หางเป่ง แถมแอ่นงอเสียรูป สภาพแบบนี้ก็เกิดกับยางรถจักรยานที่สูบลมไม่พอเหมาะกับน้ำหนักตัวคนขี่เช่นกัน ยิ่งคนขี่มีน้ำหนักมากเท่าไหร่ น้ำหนักก็กดลงบนยางมากขึ้นเท่านั้น ขึ้นคร่อมหรือขี่เฉยๆอาจไม่ได้รู้สึกมาก แต่ลองนึกภาพว่าขี่ไปด้วยความเร็ว 38 กม./ชม. แล้วเดชะบุญเจอหลุมขอบคมๆหลบไม่ทัน ยางเข้าไปซัดขอบเต็มๆ สะท้านไปทั้งตัว ลองคิดมั้ยครับว่า น้ำหนักของท่านที่พุ่งเข้าใส่ขอบหลุม แรงกระแทกทั้งหมดรวมที่ยางเพียงอย่างเดียวมันจะเปิดเป็นน้ำหนักมหาศาลขนาดไหน? ดังนั้นยิ่งตัวหนักมากๆ ก็ต้องยิ่งเพิ่มแรงดันลมยางเข้าไปอีก เพื่อให้ยางอยู่ตัวได้เมื่อโดนกระแทก
ในทางกลับกัน หากเรามาพูดถึงการยึดเกาะถนน ยางที่ยิ่งแข็งมากยิ่งมีพื้นผิวยึดเกาะถนนน้อยลง และยิ่งส่งผลมากเมื่อถนนเปียกหรือพื้นผิวถนนมีทรายอยู่ ดังนั้น คนที่น้ำหนักตัวไม่มากแล้วยังสูบลมยางมากเกินจำเป็น ยิ่งมีโอกาสเสี่ยงที่จะลื่นหลุดจนเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย อย่าลืมนะครับว่าน้ำหนักตัวที่น้อยอยู่แล้ว กดให้หน้ายังสัมผัสถนนได้น้อยกว่า แถมถนนยังลื่นหรือผิวถนนไม่อำนวย เมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงๆ โอกาสเสียการควบคุมก็ตามมาด้วย
3.รูปแบบและระยะทางการขี่
กรณีนี้เป็นเรื่องที่ล้ำลึกกว่าที่หลายๆคนจะคำนึงถึง เพราะการขี่จักรยานแต่ละประเภทต้องการแรงดันลมยางที่แตกต่างกันออกไป ยางที่สูบลมแข็งยิ่งวิ่งได้ดี เร็วก็จริง แต่แรงสะเทือนจากถนนก็ส่งขึ้นมาที่รถและร่างกายได้มากขึ้นด้วย ส่งผลให้ร่างกายล้าได้เร็วกว่า และเมื่อร่างกายล้า แม้ว่าจะยังมีแรงดีอยู่แต่ก็ลำบากจนถึงขั้นลำเค็ญที่จะขี่ต่อไปได้ ดังนั้นในการขี่ที่ระยะทางไกล หรือเส้นทางขรุขระกว่าปกติ แม้แต่นักแข่งอาชีพเองก็ยังนิยมสูบลมยางน้อยลงกว่าปกติ เพื่อให้ขี่ได้สบายขึ้นหรือลดลมยางลงในวันที่คาดว่าจะฝนตกเพื่อความปลอดภัย ถึงขั้นเพิ่มขนาดยางมากขึ้น เพื่อให้สูบลมได้น้อยลงโดยที่ยางไม่รั่วให้ขี่ได้สบายขึ้นกว่าเดิม(อ่านข่อ 1 ประกอบกับข้อ 2 )
และแน่นอนว่าหากเส้นทางไม่ยาวไกล ต้องการความเร็วสูงมาก เช่นการขี่ไทม์ไทรอัล, การแข่งไครทีเรียม หรืออยากขี่ทำเวลาสนามเขียวหนึ่งรอบแบบซิ่งๆ ยางที่เหมาะคือยางหน้าแคบขนาดเล็กที่อัดลมสูงๆจนแรงเสียดทานการหมุนน้อย ออกตัวได้เร็ว พุ่งตัวดี ออกตัวแล้วไต่ความเร็วได้ง่าย หรือกระชากออกโค้งได้ทันทีไม่ต้องตั้งความเร็วใหม่ ซึ่งตรงกันข้ามกับการปั่นแบบทางไกลที่ไม่เน้นความเร็วอย่างสิ้นเชิง
จากปัจจัยสำคัญทั้ง 3 ประการ คงพอจะสังเกตุได้ว่าการเลือกแรงดันลมยาง สัมพันธ์กับการเลือกใช้ยางให้เหมาะสมด้วยนั่นเอง ปัจจุบันเพื่อนนักปั่นหลายๆคนเป็น"นักเสพย์"ข่าว ติดตามการแข่งและข้อมูลนักแข่งแบบเกาะติด เห็นนักแข่งเลือกใช้แบบไหน อย่างไร ก็รีบไปสรรหามาใช้แบบเดียวกันอย่างไม่รอช้า วันไหนอ่านพบเนื้อหาอะไรใหม่ๆจากหนังสือ นิตยสาร หรือแหล่งข่าวออนไลน์ทั้งหลาย ก็รีบไปเปลี่ยนหมายให้ได้ทันกับกระแสใหม่ โดยที่ลืมเข้าใจที่มาอ่างชัดเจนก่อน แต่ก็ไม่เสียหายครับ ได้ลอง ได้รู้ด้วยการสัมผัส เอาไว้เลือกให้เหมาะ เพราะเรื่องยางและแรงดันลมยาง ใครไม่เคยลองทั้งพวกกระด้างสุดๆ หรืออ่อนจนตกหลุมแล้วรั่ว ย่อมยังไม่รุ็ว่าความต่างมันเป็นอย่างไร
แรงดันลมยาง เป็นเรื่องที่ดูเหมือนจะง่ายๆ สบายๆ แค่ดูริมแก้มยางแล้สเติมลมก็เรียบร้อยแล้ว แต่เรื่องง่ายๆมันไม่กล้วยขนาดนั้น เมื่อขี่แล้วรู้สึกว่า เอ๊ะทำไมมันหมืดจัง หรือ โอดครวญว่ามันสะท้านสะเทือนไปหมดจนขี่ไม่ไหว แรงยังเหลือแต่มันล้าเหลือเกิน แสดงว่า มันต้องมีอะไรซักอย่างกับแรงดันลมยางที่ส่งผลกับเรื่องเหล่านี้แน่ๆ ดังนั้นวันนี้เราลองมาดูว่าอะไรบ้างคือตัวแปรที่ส่งผลกับการเลือกเติมลมยางจักรยานของเรากันนะครับ
1.ขนาดของยาง
เรื่องแรกเป็นปัจจัยพื้นฐานของยางแต่ละตัว ซึ่งจุดนี้สังเกตุได้ไม่ยากเลยครับ เพียงลองเอายางของเพื่อน หรือไปร้านจักรยานแล้วเอายางแต่ละขนาดมาเทียบกันตั้งแต่ 700cx19 ไล่ไปจน 700cx28 ก็จะสังเกตุได้ว่าที่แก้มยางระบุแรงดันลมยางมาแตกต่างกัน ซึ่งนอกจากคุณภาพของยางและวัสดุที่ผลิตที่ยางแต่ละตัวรับแรงดันได้ต่างกันแล้ว ปัจจัยที่สำคัญที่วัดคือ "โอกาสที่ยางจะรั่ว" แปลง่ายๆคือยังแต่ละขนาดมีขีดความสามารถในการอัดลม *ต่ำสุด* ไม่เท่ากันนั่นเอง ยางที่มีขนาดเล็กกว่า เมื่ออัดลมน้อยเกินไปยางจะมีแรงดันภายในน้อยและโอกาสเกิดการรั่วจากการกระแทก ตกหลุม เหยียบหินก้อนใหญ่ ได้ง่ายกว่าเนื่องจากอากาศโดนอัดไปโป่งตัวพื้นที่รอบๆและดันให้ยางรั่วได้ง่าย เรียกกันง่ายๆว่า"รอยรั่วงูกัด" เพราะมักมีรอยรั่ว 2 รยอยู่ใกล้ๆกัน ยางที่ใหญ่กว่าที่มีแรงดันลมเท่าๆกันจะมีโอกาสอัดกระแทกจนลมไปดันยางรั่วได้ยากกว่าเพราะมีพื้นที่ว่างภายในมากกว่า
ดังนั้นยางยิ่่งมีขนาดใหญ่ ยิ่งสามารถอัดลมได้*น้อย*กว่ายางที่มีขนาดเล็กกว่า โดยที่มีโอกาสรั่วได้ยากกว่า ส่วนแรงดันลมสูงสุดจะขึ้นอยู๋กับวัสดุและการผลิตยางต่างๆอยู่แล้ว พิจารณาจากเสป็คของยางเพียงอย่างเดียว
2.น้ำหนักตัวคนขี่
ลองนึกภาพว่าท่านเอาของเล่นสูบลมของลูกมาลองขึ้นไปนั่ง เจ้าม้าสูบลมก็จะถูกน้ำหนักตัวของท่านกดจนตาปลิ้น หัวโป่ง หน้าเบี้ยว ก้นบาน หางเป่ง แถมแอ่นงอเสียรูป สภาพแบบนี้ก็เกิดกับยางรถจักรยานที่สูบลมไม่พอเหมาะกับน้ำหนักตัวคนขี่เช่นกัน ยิ่งคนขี่มีน้ำหนักมากเท่าไหร่ น้ำหนักก็กดลงบนยางมากขึ้นเท่านั้น ขึ้นคร่อมหรือขี่เฉยๆอาจไม่ได้รู้สึกมาก แต่ลองนึกภาพว่าขี่ไปด้วยความเร็ว 38 กม./ชม. แล้วเดชะบุญเจอหลุมขอบคมๆหลบไม่ทัน ยางเข้าไปซัดขอบเต็มๆ สะท้านไปทั้งตัว ลองคิดมั้ยครับว่า น้ำหนักของท่านที่พุ่งเข้าใส่ขอบหลุม แรงกระแทกทั้งหมดรวมที่ยางเพียงอย่างเดียวมันจะเปิดเป็นน้ำหนักมหาศาลขนาดไหน? ดังนั้นยิ่งตัวหนักมากๆ ก็ต้องยิ่งเพิ่มแรงดันลมยางเข้าไปอีก เพื่อให้ยางอยู่ตัวได้เมื่อโดนกระแทก
ในทางกลับกัน หากเรามาพูดถึงการยึดเกาะถนน ยางที่ยิ่งแข็งมากยิ่งมีพื้นผิวยึดเกาะถนนน้อยลง และยิ่งส่งผลมากเมื่อถนนเปียกหรือพื้นผิวถนนมีทรายอยู่ ดังนั้น คนที่น้ำหนักตัวไม่มากแล้วยังสูบลมยางมากเกินจำเป็น ยิ่งมีโอกาสเสี่ยงที่จะลื่นหลุดจนเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย อย่าลืมนะครับว่าน้ำหนักตัวที่น้อยอยู่แล้ว กดให้หน้ายังสัมผัสถนนได้น้อยกว่า แถมถนนยังลื่นหรือผิวถนนไม่อำนวย เมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงๆ โอกาสเสียการควบคุมก็ตามมาด้วย
3.รูปแบบและระยะทางการขี่
กรณีนี้เป็นเรื่องที่ล้ำลึกกว่าที่หลายๆคนจะคำนึงถึง เพราะการขี่จักรยานแต่ละประเภทต้องการแรงดันลมยางที่แตกต่างกันออกไป ยางที่สูบลมแข็งยิ่งวิ่งได้ดี เร็วก็จริง แต่แรงสะเทือนจากถนนก็ส่งขึ้นมาที่รถและร่างกายได้มากขึ้นด้วย ส่งผลให้ร่างกายล้าได้เร็วกว่า และเมื่อร่างกายล้า แม้ว่าจะยังมีแรงดีอยู่แต่ก็ลำบากจนถึงขั้นลำเค็ญที่จะขี่ต่อไปได้ ดังนั้นในการขี่ที่ระยะทางไกล หรือเส้นทางขรุขระกว่าปกติ แม้แต่นักแข่งอาชีพเองก็ยังนิยมสูบลมยางน้อยลงกว่าปกติ เพื่อให้ขี่ได้สบายขึ้นหรือลดลมยางลงในวันที่คาดว่าจะฝนตกเพื่อความปลอดภัย ถึงขั้นเพิ่มขนาดยางมากขึ้น เพื่อให้สูบลมได้น้อยลงโดยที่ยางไม่รั่วให้ขี่ได้สบายขึ้นกว่าเดิม(อ่านข่อ 1 ประกอบกับข้อ 2 )
และแน่นอนว่าหากเส้นทางไม่ยาวไกล ต้องการความเร็วสูงมาก เช่นการขี่ไทม์ไทรอัล, การแข่งไครทีเรียม หรืออยากขี่ทำเวลาสนามเขียวหนึ่งรอบแบบซิ่งๆ ยางที่เหมาะคือยางหน้าแคบขนาดเล็กที่อัดลมสูงๆจนแรงเสียดทานการหมุนน้อย ออกตัวได้เร็ว พุ่งตัวดี ออกตัวแล้วไต่ความเร็วได้ง่าย หรือกระชากออกโค้งได้ทันทีไม่ต้องตั้งความเร็วใหม่ ซึ่งตรงกันข้ามกับการปั่นแบบทางไกลที่ไม่เน้นความเร็วอย่างสิ้นเชิง
จากปัจจัยสำคัญทั้ง 3 ประการ คงพอจะสังเกตุได้ว่าการเลือกแรงดันลมยาง สัมพันธ์กับการเลือกใช้ยางให้เหมาะสมด้วยนั่นเอง ปัจจุบันเพื่อนนักปั่นหลายๆคนเป็น"นักเสพย์"ข่าว ติดตามการแข่งและข้อมูลนักแข่งแบบเกาะติด เห็นนักแข่งเลือกใช้แบบไหน อย่างไร ก็รีบไปสรรหามาใช้แบบเดียวกันอย่างไม่รอช้า วันไหนอ่านพบเนื้อหาอะไรใหม่ๆจากหนังสือ นิตยสาร หรือแหล่งข่าวออนไลน์ทั้งหลาย ก็รีบไปเปลี่ยนหมายให้ได้ทันกับกระแสใหม่ โดยที่ลืมเข้าใจที่มาอ่างชัดเจนก่อน แต่ก็ไม่เสียหายครับ ได้ลอง ได้รู้ด้วยการสัมผัส เอาไว้เลือกให้เหมาะ เพราะเรื่องยางและแรงดันลมยาง ใครไม่เคยลองทั้งพวกกระด้างสุดๆ หรืออ่อนจนตกหลุมแล้วรั่ว ย่อมยังไม่รุ็ว่าความต่างมันเป็นอย่างไร
ฟังสาระจักรยาน Podcast
https://open.spotify.com/show/76iDUCWXgqqixg1CmoSDIp
ข่าวสารจัรกยาน
https://www.facebook.com/cyclinghubthailand/
https://open.spotify.com/show/76iDUCWXgqqixg1CmoSDIp
ข่าวสารจัรกยาน
https://www.facebook.com/cyclinghubthailand/
- KleinMantra1998
- ขาประจำ
- โพสต์: 567
- ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2015, 14:48
- Bike: Trek
Re: VP ควรเติมลมยาง...เท่าไหร่?
ขอบคุณครับ
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 313
- ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ส.ค. 2008, 11:35
- team: Aerothai en Vélo
- Bike: Trek 4300 V, Bianchi Sempre Pro 2014, Dahon Board walk D7
- ตำแหน่ง: ลำลูกกา คลอง4
- ติดต่อ:
Re: VP ควรเติมลมยาง...เท่าไหร่?
ขอบคุณครับ
ผมเติมเกือบสูงสุดที่ยางรับได้ครับ
ผมเติมเกือบสูงสุดที่ยางรับได้ครับ
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 841
- ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2012, 00:00
Re: VP ควรเติมลมยาง...เท่าไหร่?
ขอบคุณครับ
- suttipon
- สมาชิก
- โพสต์: 12
- ลงทะเบียนเมื่อ: 11 พ.ย. 2014, 15:03
- Tel: 0818241035
- Bike: trek 4900, cervelo R3
Re: VP ควรเติมลมยาง...เท่าไหร่?
ขอบคุณความรู้ดีๆๆครับ
-
- สมาชิก
- โพสต์: 56
- ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2014, 21:20
- Bike: jamis trail x1 , bmc gf02
Re: VP ควรเติมลมยาง...เท่าไหร่?
ขอบคุณมากเลยครับ
- จำรัส ละหานทราย
- ขาประจำ
- โพสต์: 1039
- ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ม.ค. 2011, 10:47
- Tel: 087 261 7279
- team: -
Re: VP ควรเติมลมยาง...เท่าไหร่?
ขอบคุณมากครับ
- unicorn.biker
- สมาชิก
- โพสต์: 40
- ลงทะเบียนเมื่อ: 02 มี.ค. 2015, 21:55
- Bike: Merida Scultura 300
Re: VP ควรเติมลมยาง...เท่าไหร่?
กำลังหาข้อมูลอยู่พอดีเลย พึ่งจะรั่วไปวันอาทิตย์ที่ผ่านมา น่าจะมาจากเติมลมยางอ่อนไป
ขอบคุณครับ สำหรับข้อมูลดีๆ
ขอบคุณครับ สำหรับข้อมูลดีๆ
ปั่นเพื่อเฟรช ปั่นเพื่อฟิต
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 315
- ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2011, 15:40
- ติดต่อ:
Re: VP ควรเติมลมยาง...เท่าไหร่?
แล้วความดันลมยางฮาล์ฟละครับมีไหม
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 1590
- ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.ค. 2010, 10:00
- Tel: 086-9440078 dtac
- team: ชมรมจักรยานนครศรีธรรมราช
- Bike: เสือภูเขาMERIDA TFS XC 500 ปี 2010 -//- เสือภูเขาORBEA ALMA HYDRO ปี 2011 -//- เสือภูเขา PEUGEOT CADET -//- รถพับ COYOTE -//- เสือภูเขา KHS ALITE 2000
- ตำแหน่ง: 15/1 ม.5 ต.อินคีรี อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช
- ติดต่อ:
Re: VP ควรเติมลมยาง...เท่าไหร่?
ปัก
..............ถ้าเเม้นปราชัยต่อไพรี ก็ได้เเต่ปฐพีไม่มีคน..............
เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เเละประชาชน ARMY NCO.746 INFANTRY
...................... ชมรมจักรยานนครศรีธรรมราช ..............................
......................ฝากลิ้งค์..ด้านล่าง กดชมฟรี....
** คลิ๊กเลย **.......ปั่น 2 ล้อ ชมเเหล่งท่องเที่ยวเมืองนครศรีธรรมราช
เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เเละประชาชน ARMY NCO.746 INFANTRY
...................... ชมรมจักรยานนครศรีธรรมราช ..............................
......................ฝากลิ้งค์..ด้านล่าง กดชมฟรี....
** คลิ๊กเลย **.......ปั่น 2 ล้อ ชมเเหล่งท่องเที่ยวเมืองนครศรีธรรมราช
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 3092
- ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ส.ค. 2008, 15:14
- Tel: 0865040751
- team: Team Bike And Body Cycoling
- Bike: Kemo KE-R5, Giant Propel Advance SL, Specialized Alez E5 Revolution
- ตำแหน่ง: ซอยอารีย์ พหลโยธิน กทม.
- ติดต่อ:
Re: VP ควรเติมลมยาง...เท่าไหร่?
จริงๆจะยางอะไรก็ใช้แรงดันเหมือนกันครับ ยางฮาล์ฟ ยางงัด แรงดันลมไม่ได้ขึ้นอยู่กับชนิดของยาง แต่ยางฮาล์ฟอัดลมได้สูงกว่า มี rolling resistance ต่ำกว่า และน้ำหนักรวมๆเบากว่าpisitsrib เขียน:แล้วความดันลมยางฮาล์ฟละครับมีไหม
ถามว่าถ้าปั่นยางงัด 120psi ก็วิ่งฉิวๆแล้ว ใส่ยางฮาล์ฟจำเป็นต้องอัดเพิ่ม 140psi ให้สะใจมั้ย? คำตอบคือ ไม่ครับ ยกเว้นจะปั่นเดี่ยวไทม์ไทรอัล 7 กม. ระยะเวลาไม่นาน เอาซิ่งเข้าว่า ยางฮาล์ฟจะได้เปรียบเพราะอัดกัน 160psi ไปเลย บินฉิวๆ ยางงัดน้อยมากที่จะอัดกันได้ขนาดนั้น
แต่ถ้าจะมีขี่ยาวๆ นานๆ สุดท้ายก็ลงมาหาแรงดันลมยางที่ขี่สบายและควบคุมรถได้ง่าย กับสมรรถนะที่พอดีกับความต้องการ
ฟังสาระจักรยาน Podcast
https://open.spotify.com/show/76iDUCWXgqqixg1CmoSDIp
ข่าวสารจัรกยาน
https://www.facebook.com/cyclinghubthailand/
https://open.spotify.com/show/76iDUCWXgqqixg1CmoSDIp
ข่าวสารจัรกยาน
https://www.facebook.com/cyclinghubthailand/
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 315
- ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2011, 15:40
- ติดต่อ:
Re: VP ควรเติมลมยาง...เท่าไหร่?
แต่ที่สงสัยคือตามสเปคของยางtubular อย่างgatorskin แรงดันที่แนะนำคือ110-170 ซึ่งถ้าจากตารางตัวอย่างเช่น64kgให้เติม102psi จะทำให้ต่ำกว่าค่าminimum ที่ผู้ผลิตแนะนำไว้ครับgiro เขียน:จริงๆจะยางอะไรก็ใช้แรงดันเหมือนกันครับ ยางฮาล์ฟ ยางงัด แรงดันลมไม่ได้ขึ้นอยู่กับชนิดของยาง แต่ยางฮาล์ฟอัดลมได้สูงกว่า มี rolling resistance ต่ำกว่า และน้ำหนักรวมๆเบากว่าpisitsrib เขียน:แล้วความดันลมยางฮาล์ฟละครับมีไหม
ถามว่าถ้าปั่นยางงัด 120psi ก็วิ่งฉิวๆแล้ว ใส่ยางฮาล์ฟจำเป็นต้องอัดเพิ่ม 140psi ให้สะใจมั้ย? คำตอบคือ ไม่ครับ ยกเว้นจะปั่นเดี่ยวไทม์ไทรอัล 7 กม. ระยะเวลาไม่นาน เอาซิ่งเข้าว่า ยางฮาล์ฟจะได้เปรียบเพราะอัดกัน 160psi ไปเลย บินฉิวๆ ยางงัดน้อยมากที่จะอัดกันได้ขนาดนั้น
แต่ถ้าจะมีขี่ยาวๆ นานๆ สุดท้ายก็ลงมาหาแรงดันลมยางที่ขี่สบายและควบคุมรถได้ง่าย กับสมรรถนะที่พอดีกับความต้องการ
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 3092
- ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ส.ค. 2008, 15:14
- Tel: 0865040751
- team: Team Bike And Body Cycoling
- Bike: Kemo KE-R5, Giant Propel Advance SL, Specialized Alez E5 Revolution
- ตำแหน่ง: ซอยอารีย์ พหลโยธิน กทม.
- ติดต่อ:
Re: VP ควรเติมลมยาง...เท่าไหร่?
ยางฮาล์ฟอยู่กับขอบได้ด้วย กาว และ แรงรัดตัวที่ได้จากแรงดันยางครับ ดังนั้นแรงดันที่น้อยเกินไป ถึงยางจะอยู่ได้ด้วยกาวก็ตามแต่ก็ต้องการแรงดันที่ทำให้ยางรัดตัวเองกับขอบล้อเอาไว้ได้อย่างปลอดภัยด้วย เพื่อไม่ให้ยางปลิ้นหลุดออกมาได้ง่าย ถ้ากรณีนี้ สูบตามเสป็คของยางจะดีกว่าครับpisitsrib เขียน:แต่ที่สงสัยคือตามสเปคของยางtubular อย่างgatorskin แรงดันที่แนะนำคือ110-170 ซึ่งถ้าจากตารางตัวอย่างเช่น64kgให้เติม102psi จะทำให้ต่ำกว่าค่าminimum ที่ผู้ผลิตแนะนำไว้ครับgiro เขียน:จริงๆจะยางอะไรก็ใช้แรงดันเหมือนกันครับ ยางฮาล์ฟ ยางงัด แรงดันลมไม่ได้ขึ้นอยู่กับชนิดของยาง แต่ยางฮาล์ฟอัดลมได้สูงกว่า มี rolling resistance ต่ำกว่า และน้ำหนักรวมๆเบากว่าpisitsrib เขียน:แล้วความดันลมยางฮาล์ฟละครับมีไหม
ถามว่าถ้าปั่นยางงัด 120psi ก็วิ่งฉิวๆแล้ว ใส่ยางฮาล์ฟจำเป็นต้องอัดเพิ่ม 140psi ให้สะใจมั้ย? คำตอบคือ ไม่ครับ ยกเว้นจะปั่นเดี่ยวไทม์ไทรอัล 7 กม. ระยะเวลาไม่นาน เอาซิ่งเข้าว่า ยางฮาล์ฟจะได้เปรียบเพราะอัดกัน 160psi ไปเลย บินฉิวๆ ยางงัดน้อยมากที่จะอัดกันได้ขนาดนั้น
แต่ถ้าจะมีขี่ยาวๆ นานๆ สุดท้ายก็ลงมาหาแรงดันลมยางที่ขี่สบายและควบคุมรถได้ง่าย กับสมรรถนะที่พอดีกับความต้องการ
ฟังสาระจักรยาน Podcast
https://open.spotify.com/show/76iDUCWXgqqixg1CmoSDIp
ข่าวสารจัรกยาน
https://www.facebook.com/cyclinghubthailand/
https://open.spotify.com/show/76iDUCWXgqqixg1CmoSDIp
ข่าวสารจัรกยาน
https://www.facebook.com/cyclinghubthailand/
-
- สมาชิก
- โพสต์: 90
- ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ธ.ค. 2014, 19:07
Re: VP ควรเติมลมยาง...เท่าไหร่?
ขอบคุณครับ
- eak_ce
- ขาประจำ
- โพสต์: 117
- ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ต.ค. 2013, 23:05
- team: DayRide
- Bike: Giant Propel Advanced SL 2015, Giant TCR Advanced Pro 2016, Format DES66, Bianchi Impulso 2015, Humpert Strive
- ตำแหน่ง: Bangkok
Re: VP ควรเติมลมยาง...เท่าไหร่?
กรณีที่ยางงัดไม่มีระบุ minimum ล่ะครับ ควรสูบเท่าไหร่ดี
ผมหนัก 58 ใช้ยาง 4000sII 700x25c สูบ 83-85 จะไม่ต่ำไปเหรอครับ
ทุกคนที่รู้จักบอกควรเติม 100 ขึ้นไป ไม่อย่างนั้นยางจะรั่วง่าย
เมื่อก่อนผมเติมเกือบสูงสุดที่ยางรับได้ตลอด ที่ 115
ตอนนี้ลดลงมาแล้วแต่ก็ยังไม่กล้าลดต่ำกว่า 100 อยู่ดี (ตอนนี้เติม 105)
ผมหนัก 58 ใช้ยาง 4000sII 700x25c สูบ 83-85 จะไม่ต่ำไปเหรอครับ
ทุกคนที่รู้จักบอกควรเติม 100 ขึ้นไป ไม่อย่างนั้นยางจะรั่วง่าย
เมื่อก่อนผมเติมเกือบสูงสุดที่ยางรับได้ตลอด ที่ 115
ตอนนี้ลดลงมาแล้วแต่ก็ยังไม่กล้าลดต่ำกว่า 100 อยู่ดี (ตอนนี้เติม 105)