- รองเท้าของพ่อ.jpg (286.63 KiB) เข้าดูแล้ว 2688 ครั้ง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว "ในหลวง" ของปวงชนชาวไทย ทรงยาตรารอยพระบาทไปทั่วทุกหนแห่ง ไม่ว่าจะเป็นท้องถิ่นห่างไกลทุรกันดารเพียงใด โดยไม่มีใครสังเกตว่า พระองค์ทรงฉลองพระบาทคู่เดิมๆ
"พระองค์ท่านเลือกที่จะนำฉลองพระบาทคู่เก่ามาซ่อม ผมคิดว่าเจ้าแผ่นดินคงจะใส่รองเท้าประดับทองหรือเพชร แต่ที่ไหนได้ ฉลองพระบาทของพระองค์ ถ้าเป็นคนอย่างเรามีเงินติดตัวบ้าง คงจะทิ้งไปแล้วแหละ" คำพูดซื่อๆ แบบตรงไปตรงมาของ "ศรไกร แน่นศรีนิล" หรือ "ช่างไก่" เจ้าของร้านซ่อมรองเท้า ก.เปรมศิลป์ ช่างซ่อมรองเท้าธรรมดาๆ ที่กลายเป็นช่างซ่อมฉลองพระบาทนอกพระราชวัง เล่าให้ทีมข่าว "ไทยรัฐออนไลน์" ฟัง
ช่างไก่ เล่าว่า มีโอกาสรับใช้เบื้องพระยุคลบาทครั้งแรกเมื่อ 11 ปีก่อน เช้าวันหนึ่ง เปิดร้านเช่นทุกวันประมาณ 09.00 น. สังเกตเห็นรถตู้คันหนึ่ง และเจ้าหน้าที่ 2 คน ประคับประคองอะไรสักอย่าง ข้ามถนนตรงมายังร้าน พอเข้ามาถึง ก็วางถุงผ้าลงแล้วก้มกราบ
ในใจตอนนั้นช่างไก่ ไม่เข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 คน ทำอะไร จึงถามซ้ำกลับไปและได้คำตอบว่า ในถุงผ้านั้นคือ "ฉลองพระบาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" แทบไม่เชื่อหูตัวเอง ความรู้สึกปลื้มปีติก่อเกิดขึ้นในหัวใจ
วินาทีแรกที่ช่างไก่ได้สัมผัสกับฉลองพระบาทของในหลวง เขานึกถึงพระราชดำรัส "ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง" ที่พ่อสอนให้พสกนิกรของพระองค์รู้จักกิน รู้จักอยู่อย่างพอเพียง พอดี พอเหมาะ พอควร
"เพราะเพียงพระองค์ท่านมีพระราชกระแสรับสั่งคำเดียว คงได้ฉลองพระบาทคู่ใหม่ที่ทรงแล้วนุ่มสบายพระบาท หากแต่พระองค์มีพระราชกระแสรับสั่งให้มหาดเล็กนำฉลองพระบาทคู่เดิม สภาพหนังเปื่อยยุ่ย ผุกร่อน มาซ่อมที่ร้าน"
ช่างไก่มีโอกาสซ่อมฉลองพระบาทให้ในหลวงหลายต่อหลายครั้ง มีครั้งหนึ่งตัดสินใจ ตัดฉลองพระบาทคู่ใหม่ทูลเกล้าฯ ถวาย และขอพระราชทานเก็บแผ่นรองฉลองพระบาทคู่เก่า ทูนไว้เหนือเกล้า บรรจุในกล่องอย่างดี เก็บไว้บนหิ้ง เพื่อเตือนใจ ให้ตระหนักถึงความพอเพียง และนำไปอบรมลูกหลานให้ใช้ของใช้ทุกชิ้นอย่างคุ้มค่า
"พระองค์ยังเลือกที่จะนำของเก่ามาใช้ มาทำใหม่ นำรองเท้าคู่เก่ามาซ่อมใช้ใหม่ ทรงเป็นแบบอย่างที่ดีมาก สำหรับพสกนิกรของพระองค์" ช่างไก่ กล่าวอย่างปลื้มปีติ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเคยพระราชทานพระบรมราโชวาทไว้เมื่อปี 2541 ความว่า "คนเราถ้าพอในความต้องการ ก็มีความโลภน้อย เมื่อมีความโลภน้อย ก็เบียดเบียนคนอื่นน้อย ถ้าประเทศใดมีความคิด อันนี้ไม่ใช่เศรษฐกิจนะ มีความคิดว่าทำอะไรต้องพอเพียง หมายความว่า พอประมาณ ไม่สุดโต่ง ไม่โลภอย่างมาก คนเราก็อยู่เป็นสุข"
คำสอนของพ่อ เป็นสัจธรรมที่ดำรงไว้ซึ่งความเป็นจริง ถ้าเราพอในความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใด เราก็อยู่อย่างเป็นสุข
ชมคลิป
https://www.youtube.com/watch?v=2PrhfJeJXsg_______________________________________________
ข้อความ : คัดมาจาก
http://www.thairath.co.th/content/royal/386971รูปภาพ : จากอินเตอร์เน็ท
