ขอร่วมแชร์ด้วยคนครับ
คันแรกผมใช้เสือภูเขาแต่งทัวริง เฟรมอลูฯ ใส่ตะเกียบโครโม แฮนด์ปีกนกปลอกแฮนด์ยางมีรองสันมือกะบาเอนด์โค้งๆ เซ็ทให้แฮนด์ต่ำกว่าเบาะประมาณ 1 นิ้ว ฟิตติ้ง ขยับปรับเปลี่ยนจนพอดีแล้วปั่นสบายมาก ทางดินควบคุมง่าย ลุยได้สบาย ทางดำยาวๆ ก็สบาย อยากซิ่งหน่อยก็ก้มหมอบหลบลมเอา พอเมื่อยก็กลับมาท่าเดิม
ตอนหลังรู้สึกคันๆ เปลี่ยนมาใช้แฮนด์ผีเสื้อ เซ็ทให้แฮนด์ส่วนล่างที่จับเบรกเกียร์ต่ำกว่าเบาะ 1 นิ้ว ก็ใช้ออกทริปอยู่สักพัก พบข้อดีคือตำแหน่งจับแฮนด์หลากหลายกว่าเดิม ปั่นทางเรียบจับข้างๆ ได้อารมณ์ประมาณจับบาร์เอนด์แฮนด์ปีกนก พอขึ้นเขาก็จับด้านบนก้มต้วเพิ่มแรงดึง พอทางลงเขา หรือทางแทรคที่ต้องลุยนิดหน่อยก็จับตำแหน่งล่างสุดพร้อมกำเบรกเปลี่ยนเกียร์
แต่ใช้ไปใช้มาก็รู้สึกว่าแฮนด์ผีเสื้อยังไม่ใช่ แม้จะมีตำแหน่งจับหลากหลายกว่าแต่ก็รู้สึกไม่คล่องตัว เลยกลับมาใช้แฮนด์ปีกนกชุดเดิม
ล่าสุดเปลี่ยนรถมาใช้ทัวริงแท้ๆ ใส่แฮนด์หมอบ เซ็ทแฮนด์ต่ำกว่าเบาะ 1 นิ้วเหมือนเดิม จากที่เคยกลัวแฮนด์แบบนี้มาตลอด กลัวก้มมากๆ จะเมื่อย กลัวจับไม่ถนัด กลัวซิ่งในแทรคไม่มันเหมือนแฮนด์ปีกนก... พอได้ลองของจริงสักพัก ออกทริปสั้นๆ สองสามทริป รู้สึกว่าคันนี้แหละใช่เลย แฮนด์หมอบมีจุดจับให้พักมือหลากหลายมาก 4 จุดหลักๆ ที่ผมใช้บ่อยๆ คือ บนแฮนด์หลังชันไว้พักรับลมชมวิว บนฮูดเบรกไว้ปั่นเรื่อยๆ พร้อมเบรก ตรงดร็อพแฮนด์ด้านหลังใกล้มือเกียร์ปลายแฮนด์ไว้หลบลมปั่นทางเรียบยาวๆ หรือตอนดึงขึ้นเขา และส่วนโค้งด้านหน้าไว้ซิ่งสุดๆ เตรียมพร้อมกำเบรก
เริ่มจากปั่นเสือภูเขาแต่ใจรักทัวริง แต่งเป็นรถทัวร์ ในที่สุดมาลองรถทัวร์แท้ๆ แฮนด์หมอบชิฟท์ปลายแฮนด์ รู้สึกว่าใช่เลยครับ มันเรียบง่ายมากๆ ทนทาน คลาสสิก ดูแลรักษาง่ายๆ รู้สึกว่านี่แหละจักรยานของผม
เทคนิกการปรับเซ็ทตำแหน่งความสูงต่ำของแฮนด์ของผมคือ เอาให้เหมาะกะแนวการปั่นของเรา ถ้าทัวริงก็ต้องปั่นได้นานและสบายที่สุด ปั่นไปเซ็ทไป จนพบว่าถ้าแฮนด์สูงกว่าเบาะ ปั่นสบายจริง แต่ได้ไม่นานปวดก้น(ต่อให้ใช้เบาะเทพๆ ก็เถอะ) เพราะน้ำหนักมาตกที่ก้นมากเกินไป ปั่นไม่ออก ต้านลม เร่งไม่ขึ้น ยิ่งตอนขึ้นเขาจะเห็นชัด ถ้าแฮนด์ต่ำกว่าเบาะมากๆ ก้มมากๆ ลู่ลมดี มีแรงปั่น ซิ่งมัน แต่ปั่นนานๆ ก็ปวดมือ มือชา ลามไปปวดแขนอีก (แม้จะใช้ปลอกแฮนด์เทพๆ) เพราะน้ำหนักไปตกข้างหน้ามากเกิน
สรุปคือไม่ว่าจักรยานอะไร แฮนด์แบบไหน เมื่อได้เฟรมถูกไซซ์ก็ต้องปั่่นไปเรื่อยๆ ปรับเซ็ทไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอจุดลงตัว "sweet spot" ครับ
i RIDE, therefore i AM..