ทัวร์ริ่งปั่นสบายกว่าจักรยานประเภทอื่นมั้ยครับ

[7157213]

เข้ามาเก็บความรู้ครับ

[maesaa hawaii]

อยากจะช่วยตอบในมุมที่เมเข้าใจ เมขอพูดถึงคุณสมบัติโดยทั่วไปของจักรยาน touring แล้วกันนะคะ

1. Concept หลักของจักรยานทัวว์ริ่ง มันเป็นเรื่องความสามารถในการบรรทุก ที่รถทั่วไปไม่สามารถ
ทำได้หรือทำได้แต่ไม่ดีเท่า เช่นจุดยึดตะแกรง จุดยึดอุปกรณ์ ระยะ chain stay ที่ยาวกว่าปกติ

2. เมื่อมีน้ำหนักบรรทุกความแข็งแรงของรถก็เป็นเรื่องที่คำนึงต่อมา จะบรรทุกหนัก บรรทุกน้อย
ก็ขึ้นอยู่การเลือกใช้เหล็กและการออกแบบ geometry ของเฟรมของแต่ละยี่ห้อ ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานประเภทต่างๆ
เช่น เป็น adventure touring, เป็น light touring ,เป็น heavy duty touring ดู style ของเรา
เหมาะกับประเภทไหน ไม่มีจักรยานคันไหนทำได้ดีในทุกกิจกรรม เอา heavy duty มาบรรทุกน้อยๆ มันก็ไม่เหมาะสม
อาจปั่นได้ไม่ดีหรืออาจปั่นรถน้ำหนักมากโดยใช่เหตุ เป็นคนชอบปั่นเข้าป่าทางดิน ใช่ ligth touring ล้อ 700
ก็คงไม่เหมาะนัก

3. การดูแลรักษาง่าย ซ่อมบำรุงน้อย ทนทานเป็นเรื่องจำเป็นอีกประการหนึ่งเมื่อต้องออกเดินทางไกลในแหล่งทุรกันดาร
หรือต้องปั่นข้ามประเทศ ไปในประเทศที่ไม่รู้จัก เป็นระยะเวลานานๆ

4. เรื่องความสบายเป็นส่วนหนึ่งที่สนใจ แต่มันก็เกิดขึ้นจากการเลือกขนาดและวัสดุที่ใช้ของเฟรม การเลือกชนิด
ของแฮนด์ และการเซ็ตอัพรถระยะต่างๆที่เหมาะสมถูกต้องเฉกเช่นเดียวกับรถประเภทอื่นๆ ที่เซ็ตอัพให้เหมาะกับการใช้งานนั้นๆ
การใช้ความเร็วในการปั่นอย่างเหมาะสมกับน้ำบรรทุก การวางแผนการเดินทางให้เหมาะสมกับภูมิประเทศที่ไป
กับเป็นเรื่องที่พึงให้ความสำคัญมากกว่า ต่อให้นั่งสบายแค่ไหนกับปั่นเร็วๆเมื่อบรรทุกน้ำหนักมากๆ ยังไงก็เหนื่อย
และล้าเหมือนกันค่ะ

[O'Pern]

หัวข้อกระทู้ กับเนื้อหาด้านใน ถามไม่เหมือนกัน

"ทัวริ่งปั่นสบายกว่าจักรยานประเภทอื่นไหมครับ"
ตอบ 1 ใช่ครับ ถ้าคุณไปขี่แบบทัวริ่ง เดินทางแบบทัวริ่ง และใช้ชีวิตแบบทัวริ่ง
ตอบ 2 ไม่ใช่ครับ ถ้าคุณไม่ได้ขี่แบบทัวริ่ง
ตอบ 3 ไม่ใช่ครับ ถ้าคุณไม่ได้บรรทุกของ
ตอบ 4 ไม่ใช่ครับ ถ้าคุณขี่สั้น

ในทรรศนะของผม (คิดต่างขออภัยนะ) จักรยานทุกแบบล้วนขี่สบายครับ แต่มีข้อแม้ว่าต้องใช้ให้เหมาะสมกับสภาพเส้นทางและการใช้งาน เช่น
- ถ้าขี่ในเส้นทางแถวลาว เวียดนาม ในบางจุดที่มันไม่ได้ทางลาดยางน่ะ จักรยาน MTB ขี่สบายกว่ารถทัวริ่งเยอะเลย มีช้อคหน้ายิ่งดี สบายข้อมือมากๆ
- ถ้าขี่ทางเรียบ เลือกรถอะไรก็ได้เลย จะหมอบก็ยังไหว จะไฮบริดก็เวิร์ค ขอแค่รถถูกไซส์ และเซ็ทติ้งลงตัว
- ขี่ยาวไกลไหมครับ แบกของหนักเยอะไหมครับ หลาบท่านที่แจ้งเกิดจากเสือหมอบ ผมแนะนำให้ไปเล่นรถแนว Cyclo Cross ได้เลย รับรองถูกจริต
- ขี่เรื่อยๆ ชมวิว ทางเรียบ รถแบบ Cruiser ก็แสนจะนั่งนุ่มสบายสุดๆ จากยางเส้นใหญ่ๆ และฐานล้อยาวปรี๊ด

เหนือสุดยอดสิ่งอื่นใด นั่นคือการพัฒนาร่างกายควบคู่กันกับจักรยานคุณภาพสูงด้วย อัปเกรดรถแล้วก็อย่าลืมอัปเกรดตัวเองควบคู่กันไป ทั้งนี้ยกเว้นท่านที่นิยมชมชอบการตกแต่งมากกว่าการขี่


ปล ถ้าชอบรถทัวริ่งก็จัดไป แต่ก็ยังคงมีนักเดินทางรอบโลกอีกมากมาย ที่เขาไม่ได้ใช้จักรยานทัวริ่งในการเดินทางครับ

[nuugoz]

- อยากปั่นจักรยานไปไกลๆ
- ข้องใจเรื่องทัวร์ริ่งหนัก เข้าใจว่าหมอบและภูเขาเบากว่า

ดูขัดแย้งกันนิดนะครับ ตกลงคือ อยากเดินทางไกลด้วยรถเบาใช่หรือไม่
ถ้าใช่ก็เลือกรถอะไรก็ได้ที่ชอบ และที่น้ำหนักน้อยๆ ครับ แล้วไปโล่ด
(แต่ต้องหาตัวช่วยเรื่องแบกสัมภาระเอาเองนะ)

หรือ อยากเดินทางไกล ด้วยรถทัวร์ริ่ง แต่กลัวบรรทุกซะจนรถหนักครับ
จริงๆ รถทัวร์ริ่งแท้ๆ มันก็ไม่ได้หนักอะไรมากมายนะ หนักแต่ของที่เราหอบไปนั่นล่ะ
(ยกเว้นเทของทิ้ง วิ่งถือรถ) แหะๆ

มีหลายคน ออกทัวร์ด้วยรถที่ไม่ใช่ทัวร์ริ่งครับ เขาก็เสริมเพิ่มเติม ดัดแปลง แก้ไข
ส่วนที่มันหายไป ให้ครบตามที่เขาต้องการ (ซึ่งรถเดิมๆ ไม่มีให้มา) มันต่างกันตรงนี้ครับ
กับทัวร์ริ่งที่มีจุดหลายจุด ให้ได้แขวน ห้อย ติด แบก กันสนุุกมือ แต่รวมๆ แล้วหนักจะตายครับ

ปั่นสบายมั้ย? - เมื่อยเหมือนกันทุกคันแหละฮะ
เหมือนพี่ท่านบนกล่าวไว้ ใช้ให้ตรงวัตถุประสงค์
ยิ่งก้มน้อย ทางไกลมาก ยิ่งเมื่อยช้ากว่าก้มนานๆ ทางไกลเท่าเดิม
ลุยทางขรุขระมาก โช๊คไม่มี หน้าเป็นตะเกียบ ก้นระบมครับ
ทางเป็นลอน ยางหน้ากว้าง วิ่งสบายกว่ายางขอบงัดแน่ๆ

ฯลฯ เลือกใช้ให้ถูกประเภท ดีกว่าครับ อย่าง Araya F. ที่ว่ามา มันก็เยี่ยมแล้ว ในระดับที่คุณพอใจครับ ถ้าปักใจรักมันนะ
แนะนำลองปั่นมันซักดอก สองดอก ลองปั่นไปในทางที่อยากรู้คำตอบจริงๆ เดี๋ยวคำตอบก็มาเองครับ

[ไม่เฒ่าNominee]

ผมเข้าใจแนวคิดของอ.lotusดี เพราะชื่นชอบการปั่นรถเสือหมอบเหมือนกัน รถเสือหมอบถ้าเซ็ทดีๆให้เหมาะกับผู้ปั่น จะทำให้ผู้ปั่นนั่งอยู่บนอานได้วันละหลายๆชั่วโมงโดยไม่เมื่อยครับ เฟรมคาร์บอนก็นุ่มพอสมควรทีเดียว แต่เนื่องจากมีล้อหน้าแคบ+องศารถ การควบคุมรถจะเหนื่อยหน่อย โดยเฉพาะถ้าปั่นที่ความเร็วไม่สูงนัก ถ้าปั่นยาวๆหลายวัน และมีผู้ขนสัมภาระให้(SAG) เสือหมอบปั่นสนุกและไม่เมื่อยแน่นอนครับ แต่ถ้าถนนไม่เรียบเนียน แถมยางอัดลมแน่นกว่ายางทัวริ่ง ความสะเทือนจะมากกว่า

ผมไม่มีรถทัวริ่ง มีก็รถCX ซึ่งท่านั่งสบายกว่าเสือหมอบครับ แต่ถ้าปั่นระยะทางเท่ากันทุกวัน บนถนนลาดยางเนียนๆ การปั่นรถบิแองคี่Volpeของผม จะทำให้เหนื่อย+เมื่อย มากกว่ารถเสือหมอบชัวร์ ต่อให้ปั่นที่ความเร็วสบายๆ เพราะเวลาบนอานจะยาวกว่าครับ เรื่องชมวิวตามทาง ปั่นเสือเสือหมอบ ก็ชมวิวได้ไม่แพ้กัน

ผมว่ารถทั่วริ่งจะได้เปรียบต่อเมื่อบรรทุกแค้มป์+ครัวไปด้วย ไม่พึ่งที่พักพาณิชย์ และถนนอาจจะไม่เรียบเนียนบางช่วงครับ ยางหน้ากว้าง+แรงอัดลมต่ำกว่า ลดการสะเทือนได้ดีครับ การควบคุมรถทำได้ดีกว่าเสือหมอบบนถนนไม่เรียบครับ

[ไม่เฒ่าNominee]

ดูขัดแย้งกันนิดนะครับ ตกลงคือ อยากเดินทางไกลด้วยรถเบาใช่หรือไม่

ปั่นสบายมั้ย? - เมื่อยเหมือนกันทุกคันแหละฮะ
เหมือนพี่ท่านบนกล่าวไว้ ใช้ให้ตรงวัตถุประสงค์
ยิ่งก้มน้อย ทางไกลมาก ยิ่งเมื่อยช้ากว่าก้มนานๆ ทางไกลเท่าเดิม
ลุยทางขรุขระมาก โช๊คไม่มี หน้าเป็นตะเกียบ ก้นระบมครับ
ทางเป็นลอน ยางหน้ากว้าง วิ่งสบายกว่ายางขอบงัดแน่ๆ

ฯลฯ เลือกใช้ให้ถูกประเภท ดีกว่าครับ อย่าง Araya F. ที่ว่ามา มันก็เยี่ยมแล้ว ในระดับที่คุณพอใจครับ ถ้าปักใจรักมันนะ
แนะนำลองปั่นมันซักดอก สองดอก ลองปั่นไปในทางที่อยากรู้คำตอบจริงๆ เดี๋ยวคำตอบก็มาเองครับ

แหะๆ ผมยังไม่เคยเห็นรถทั่วริ่งไม่ใช้ยางขอบงัดครับ

[ไม่เฒ่าNominee]

หัวข้อกระทู้ กับเนื้อหาด้านใน ถามไม่เหมือนกัน

"ทัวริ่งปั่นสบายกว่าจักรยานประเภทอื่นไหมครับ"
ตอบ 1 ใช่ครับ ถ้าคุณไปขี่แบบทัวริ่ง เดินทางแบบทัวริ่ง และใช้ชีวิตแบบทัวริ่ง
ตอบ 2 ไม่ใช่ครับ ถ้าคุณไม่ได้ขี่แบบทัวริ่ง
ตอบ 3 ไม่ใช่ครับ ถ้าคุณไม่ได้บรรทุกของ
ตอบ 4 ไม่ใช่ครับ ถ้าคุณขี่สั้น

ในทรรศนะของผม (คิดต่างขออภัยนะ) จักรยานทุกแบบล้วนขี่สบายครับ แต่มีข้อแม้ว่าต้องใช้ให้เหมาะสมกับสภาพเส้นทางและการใช้งาน เช่น
- ถ้าขี่ในเส้นทางแถวลาว เวียดนาม ในบางจุดที่มันไม่ได้ทางลาดยางน่ะ จักรยาน MTB ขี่สบายกว่ารถทัวริ่งเยอะเลย มีช้อคหน้ายิ่งดี สบายข้อมือมากๆ
- ถ้าขี่ทางเรียบ เลือกรถอะไรก็ได้เลย จะหมอบก็ยังไหว จะไฮบริดก็เวิร์ค ขอแค่รถถูกไซส์ และเซ็ทติ้งลงตัว
- ขี่ยาวไกลไหมครับ แบกของหนักเยอะไหมครับ หลาบท่านที่แจ้งเกิดจากเสือหมอบ ผมแนะนำให้ไปเล่นรถแนว Cyclo Cross ได้เลย รับรองถูกจริต
- ขี่เรื่อยๆ ชมวิว ทางเรียบ รถแบบ Cruiser ก็แสนจะนั่งนุ่มสบายสุดๆ จากยางเส้นใหญ่ๆ และฐานล้อยาวปรี๊ด

เหนือสุดยอดสิ่งอื่นใด นั่นคือการพัฒนาร่างกายควบคู่กันกับจักรยานคุณภาพสูงด้วย อัปเกรดรถแล้วก็อย่าลืมอัปเกรดตัวเองควบคู่กันไป ทั้งนี้ยกเว้นท่านที่นิยมชมชอบการตกแต่งมากกว่าการขี่


ปล ถ้าชอบรถทัวริ่งก็จัดไป แต่ก็ยังคงมีนักเดินทางรอบโลกอีกมากมาย ที่เขาไม่ได้ใช้จักรยานทัวริ่งในการเดินทางครับ

ถูกใจครับ

[nuugoz]

ดูขัดแย้งกันนิดนะครับ ตกลงคือ อยากเดินทางไกลด้วยรถเบาใช่หรือไม่

ปั่นสบายมั้ย? - เมื่อยเหมือนกันทุกคันแหละฮะ
เหมือนพี่ท่านบนกล่าวไว้ ใช้ให้ตรงวัตถุประสงค์
ยิ่งก้มน้อย ทางไกลมาก ยิ่งเมื่อยช้ากว่าก้มนานๆ ทางไกลเท่าเดิม
ลุยทางขรุขระมาก โช๊คไม่มี หน้าเป็นตะเกียบ ก้นระบมครับ
ทางเป็นลอน ยางหน้ากว้าง วิ่งสบายกว่ายางขอบงัดแน่ๆ

ฯลฯ เลือกใช้ให้ถูกประเภท ดีกว่าครับ อย่าง Araya F. ที่ว่ามา มันก็เยี่ยมแล้ว ในระดับที่คุณพอใจครับ ถ้าปักใจรักมันนะ
แนะนำลองปั่นมันซักดอก สองดอก ลองปั่นไปในทางที่อยากรู้คำตอบจริงๆ เดี๋ยวคำตอบก็มาเองครับ

แหะๆ ผมยังไม่เคยเห็นรถทั่วริ่งไม่ใช้ยางขอบงัดครับ

โทษทีฮะ พิมพ์ให้อ่านไม่กระจ่างเอง ยางงัดแบบหมอบน่ะฮะ

[ไม่เฒ่าNominee]

โทษทีฮะ พิมพ์ให้อ่านไม่กระจ่างเอง ยางงัดแบบหมอบน่ะฮะ

เข้าใจว่าคงหมายถึงยางฮาฟ(tubular) ส่วนยางงัด คือยางที่ใช้ยางใน (clincher)

[สส]

รบกวนถามชาวทัวร์ริ่งหน่อยครับ
ผมเคยปั่นแต่หมอบกับภูเขา แต่ตอนนี้มีแผนว่าจะปั่นจักรยานไปเที่ยวไกลๆ และสนใจ araya federal เพราะสวยถูกใจมาก
แล้วด้วยความที่ชื่อว่ารถทัวร์ริ่ง ออกแบบมาเพื่อเน้นปั่นทางไกล ผมก็เลยคิดมาตลอดว่าน่าจะเบาๆ ปั่นสบายนั่งปั่นได้นานๆ กว่ารถประเภทอื่น
แต่พอหาข้อมูลเข้าจริง กลับมีแต่คนบอกว่ารถทัวร์ริ่งจะหนักกว่า เพราะเน้นความแข็งแรง บรรทุกได้เยอะๆ
ตอนนี้เลยอยากรู้ว่าความรู้สึกตอนปั่นจริงๆ ว่าเป็นยังไงเมื่อเทียบกับหมอบกับภูเขาครับ

ผมรู้สึกว่าเวลาคุยเรื่องอย่างนี้จะจบยากหรือสรุปยากแทบทุกที นี่เป็นความรู้สึกของผม
คืออ่านข้อความไหนก็ถูก และไม่ถูก และงงก็ได้ แทบทุกความเห็น
แต่ถ้าจะคุยแบบแยกประเด็น เช่นถ้าพูดในหลักพื้นฐาน คือ:
จักรยานทางไกลและเรียบ คือเสือหมอบ ถ้าเอาไกลเอาเร็วจะต่อวันต่อเดือนต่อปีก็ต้องยกให้เสือหมอบเป็นที่หนึ่ง แต่จะเอาไปปั่นแบบอื่นๆก็จะได้อยู่
จักรยานเสือภูเขา คือเสือภูเขา ถ้าเอาข้ามเนินข้ามทางขรุขระข้ามอุปสรรค์ก็ต้องยกให้เสือภูเขาเป็นที่หนึ่ง แต่จะเอาไปปั่นแบบอื่นๆก็จะได้อยู่
จักรยานทัวร์ริ่ง คือทัวร์ริ่ง ถ้าเอาบรรทุกเยอะแข็งแรงทนทานก็ต้องยกให้ทัวร์ริ่งเป็นที่หนึ่ง แต่จะเอาไปปั่นแบบอื่นๆก็จะได้อยู่
ตัวหนาคือหลักซึ่งไม่มากและตายตัว ส่วนตัวเล็กคือประยุกต์ซึ่งมีมากมากขนาดถกกันตั้งแต่เด็กไปจนแก่ขึ้นจักรยานไม่ได้ก็ยังไม่เสร็จ
ส่วนในประเด็นคำถามที่เปิดกระทู้คือ
"...ด้วยความที่ชื่อว่ารถทัวร์ริ่ง ออกแบบมาเพื่อเน้นปั่นทางไกล..." คำ ทางไกล จะทำให้ไปสับสนกับเสือหมอบ
"...ความรู้สึกตอนปั่นจริงๆ ว่าเป็นยังไงเมื่อเทียบกับหมอบกับภูเขา..." อันนี้ถามถึง ความรู้สึก
ถ้าหมายถึงความรู้สึกพื้นฐานที่สืบเนื่องจากลักษณะพื้นฐานของตัวจักรยานเช่น เสือหมอบก็จะพุ่ง-ไหล-กระด้าง เสือภูเขาจะพุ่ง-ไม่ไหล-นุ่ม ทัวร์ริ่งจะไม่พุ่ง-ไหล-ไม่นุ่มไม่แข็ง
แต่ถ้าหมายถึงความรู้สึกย่อยๆก็มีเพิ่มอีกเยอะ เช่น เสือหมอบก็ต้องก้มเพราะถ้าไม่ก้มมันก็เร็วได้ไม่มากเมื่อก้มก็ต้องเมื่อยไหลเมื่อยแขนเร็วขึ้นด้วย ทัวร์ริ่งก็ไม่ต้องหมอบเพราะจะหมอบให้เมื่อยทำไมถ้าขนกระเป๋าเบ้อเร้ออุ้มลมไปตั้งห้าหกใบ เป็นต้น
และถ้าหมายถึงความรู้สึกที่มีเงื่อนไขเฉพาะ เช่นเอาเสือหมอบดีๆมายกแฮนด์ใส่อานนุ่มๆมันก็ปั่นได้สบายขึ้นและได้เร็ว-พุ่ง-ไหลกว่าทััวร์ริ่ง หรือเอาทัวร์ริ่งที่พุ่งๆเช่นแคนนอนเดลเฟรมและตะเกียบอลูมาแต่งและเซ็ทเพื่อความเร็วก็จะปั่นเร็ว-พุ่ง-ไหลกว่าเสือหมอบบางตัว เอาเสือภูเขามาติดตะแกรงใส่กระเป๋าเข้าป่าก็จะสบายกว่าทัวร์ริ่งบางตัว เป็นต้น พวกนี้จะเรียกความรู้สึกประยุกต์หรือจะเรียกความรู้สึกที่มีเงื่อนไขจำเพาะก็ได้ และความรู้สึกพวกนี้มีมากมายไม่มีหมด ครับ
ผมว่าที่คุยๆกันบ่อยถ้าแยกแยะก็จะได้อย่างนี้ และเข้าใจยิ่งขึ้นว่าความคิดเห็นต่างๆนาๆนั้นมันมาได้อย่างไร ถูกผิดประการใดโปรดใช้วิจารณญานในการรับชมนะครับ

[anubiz]

ขอบคุณคำแนะนำจากพี่ๆ ทุกท่าน กระทู้นี้ทำให้ผมเข้าใจความหมายของรถทัวร์ริ่งมากขึ้นเยอะ
ขอบคุณในน้ำใจ จากใจครับ

[umbabab]

ความคิดผม ทัวรริ่งคือ จักรยานที่ ผู้ปั่นทอดทิ้งอารยธรรมรุ่งเรืองทั้งหลาย แล้วจับมันออกผจญภัยโลกกว้าง มันจึงต้องเป็นจักรยานแบบที่เน้นการพึ่งพาตัวเองให้มากสุด จริงๆน่าจะใช้เรียกจักรยานประเภทนี้ว่า แอดแวนเจอร์ไบท์ มากกว่าทัวรริ่งไบท์นะ
เพราะถ้าแค่ท่องเที่ยว จะจักรยานแบบไหนก็ได้ทั้งนั้น เพราะเป็นร่างกาย80คุณภาพจักรยาน20 แม่บ้านยังทัวรริ่งได้เลย
แต่ถ้าจะผจญภัย ตัดหมอบที่เปราะบาง กับ ภูเขาที่ซ่อมแซมยาก ทิ้งไปได้เลย

[ลุงสุวัฒน์]

ความคิดผม ทัวรริ่งคือ จักรยานที่ ผู้ปั่นทอดทิ้งอารยธรรมรุ่งเรืองทั้งหลาย แล้วจับมันออกผจญภัยโลกกว้าง มันจึงต้องเป็นจักรยานแบบที่เน้นการพึ่งพาตัวเองให้มากสุด จริงๆน่าจะใช้เรียกจักรยานประเภทนี้ว่า แอดแวนเจอร์ไบท์ มากกว่าทัวรริ่งไบท์นะ
เพราะถ้าแค่ท่องเที่ยว จะจักรยานแบบไหนก็ได้ทั้งนั้น เพราะเป็นร่างกาย80คุณภาพจักรยาน20 แม่บ้านยังทัวรริ่งได้เลย
แต่ถ้าจะผจญภัย ตัดหมอบที่เปราะบาง กับ ภูเขาที่ซ่อมแซมยาก ทิ้งไปได้เลย

มาหาความรู้ครับ เห็นด้วยเต็มสิบกับกระทู้ข้างบน แต่ก็ยังไม่เข้าใจชัดเจนนักว่า ก็ทำไมไม่ใช้รถตามประเภทที่เขาทำมาโดยเฉพาะจากมืออาชีพ ก็ใช่ละ การดัดแปลงก็มีบ้างเพื่อให้เหมาะกับตัวและกระเป๋าตังค์ ถ้าจะยกตัวอย่างกับช่างที่มีแค่ประแจเลื่อนหรือคีมปากตาย ตัวเดียวแค่นั้น แต่ใช้ขันน็อตทุกขนาด ทำงานทุกอย่างมันก็ได้ แต่ก็อันตรายนะ ผมคิดว่าถ้าชอบหมอบ ก็เริ่มที่หมอบหนึ่งตัวก่อน ถ้าชอบเสือก็เพิ่มเสือหนึ่งตัว ถ้าชอบทัวร์ริ่งก็มีอีกหนึ่งตัว ถ้าติดเรื่องราคา ก็ไม่จำเป็นต้องใหม่ มือสาม-สี่ยังได้ จะได้ความปลอดภัยพื้นฐาน มากกว่าที่จะเอาชีวิตมาเสี่ยงในทุกวินาที ที่อยู่บนอาน ครอบครัวคนรอบด้านก็ไม่ต้องมาห่วงมาก ก็ไม่รู้นะ ผมอาจะคิดผิดก็ได้