Review Iphone + sunding speed and cadence sensor ครับ
โพสต์: 22 ก.พ. 2017, 23:43
ผมเพิ่งเริ่มปั่นจักรยานมาได้ประมาณ 2เดือน ก่อนหน้านี้วิ่งมาจนเริ่มเจ็บเข่า จึงอยากพักเข่าบ้าง
เพื่อนตัวดีของผม แนะนำว่าถ้าอยากพัฒนาการปั่น ควรทราบรอบการปั่น ความเร็ว Heart rate เพื่อการปั่นที่ดีขึ้นเรื่อยๆ
ก่อนหน้านี้ผมใช้ Iphone + App เช่น Endomundo, Runtastic + Heart rate sensor ของ Mio กับการวิ่งซึ่งก็ใช้การได้ดี แต่เจ้าเพื่อนตัวดีก็ยังแนะนำ Garmin ซึ่งแพงพอดู ประกอบกับเมื่อมาหาข้อมูลในเนต พบว่าการใช้ Iphone เก็บข้อมูลการปั่นมีน้อย ผมจึงเริ่มหาSensor มาจับคู่กับ Iphone ของเรา ด้วยราคาเพียง 3-4xx + 120 ค่าถ่าน จึงเป็นที่มาของ Sunding speed and cadence sensor + iphone ของผม ในคู่มือ แนะนำ App Wahoo fitness
App ยอดฮิตเช่น Endomundo, strava, Runtastic bike ต้องจ่ายเงินเพื่อใช้ฟังชั่นนี้
จัดการ Pair iphone กับ sensor
รูปจากการใช้งานครับ ขอเลือกมาทริปเดียว
เมื่อเทียบกับ Runtastic bike
จะเห็นว่าระยะทางต่างกันถึง 8 กม แคลอรี่ที่ต่างกันมหาศาล และ Max speed ต่างกันไม่มาก
ระยะทางส่วนหนึ่งน่าจะเป็นจากการปรับขนาดล้อในโปรแกรม Wahoo fitness ซึ่งผมก็ยังหาจุดลงตัวไม่ได้ และชอบสลับล้อไปมาโดยไม่เปลี่ยนค่าใน App ส่วนแคลอรี่ ไม่ทราบ algorithm ที่คำนวณ ตอนวิ่งแต่ละ app ก็ต่างกันเหลือเกิน
สำหรับผมที่ไม่ใช่ระดับ Serious rider ถือว่าพอใจสำหรับ sensor นี้พอสมควร อย่างน้อยก็มีค่า speed และ cadence ที่ต้องการ
ระยะเวลา 2เดือนยังไม่เจอปัญหานอกเหนือจากระยะทางที่ผิดไป และถือว่าโชคดีที่ sensor ทำงานได้ดี ไม่รวนแม้ว่าจะมี Bluetooth sensor ใช้2ตัวและติดไฟหน้าด้วยเหมือนที่หลายๆ คนประสบปัญหา และยังโชคดีที่ pair กันเจอตลอด
แต่ปัญหาของการใช้ sensor นี้ถ้าใช้กับ App อื่น เช่น Runtastic bike , Endomundo ตัว app จะไม่ support การแสดงค่า HR, cadence เหล่านี้ ต้องเสียตังซื้อเพิ่ม ซึ่งไม่ใช่สำหรับสายฟรีอย่างผมแน่นอน ซึ่งเป็นปัญหาจาก App เองมากกว่า
สำหรับการใช้ Iphone ตอนปั่น ส่วนตัวผมมองว่าถ้าไปปั่นกลุ่มใหญ่ หรือไปปั่นในที่ที่มีชาวสองล้อเราปั่นกันเยอะ อาจจะอันตรายน้อยกว่าคนเดียวมาก จึงควรระวังจุดนี้ แต่ผมก้เชื่อว่าเพื่อนๆสองล้อที่ใช้ iphone ก็คงพกโทรศัพท์ไปด้วยเวลาออกปั่น เหตุใดเราจะไม่ลองเอามาใช้ดูถ้ามีโอกาสและประหยัดเงิน
ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ ขอบคุณครับ
ปล. - ผมไม่มีส่วนได้เสียใดๆ กับ Sensor ครับ ไม่ได้ขายครับ หาซื้อได้มากมายหลายราคา
- รีวิวนี้อาจจะไม่สมบูรณ์นักเนื่องจากไม่ได้เทียบกับ GPS ตัวแม่แบบ Garmin เพียงอยากแค่แชร์ความคิดและการใช้งาน ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้
- ถ้าพังเมื่อไร หรือมีอะไรเสีย จะมาอัพเดทกันอีกทีครับ ใครเคยใช้งาน หรือปรับแต่งเก่งๆ รบกวนแนะนำผมด้วยครับ
เพื่อนตัวดีของผม แนะนำว่าถ้าอยากพัฒนาการปั่น ควรทราบรอบการปั่น ความเร็ว Heart rate เพื่อการปั่นที่ดีขึ้นเรื่อยๆ
ก่อนหน้านี้ผมใช้ Iphone + App เช่น Endomundo, Runtastic + Heart rate sensor ของ Mio กับการวิ่งซึ่งก็ใช้การได้ดี แต่เจ้าเพื่อนตัวดีก็ยังแนะนำ Garmin ซึ่งแพงพอดู ประกอบกับเมื่อมาหาข้อมูลในเนต พบว่าการใช้ Iphone เก็บข้อมูลการปั่นมีน้อย ผมจึงเริ่มหาSensor มาจับคู่กับ Iphone ของเรา ด้วยราคาเพียง 3-4xx + 120 ค่าถ่าน จึงเป็นที่มาของ Sunding speed and cadence sensor + iphone ของผม ในคู่มือ แนะนำ App Wahoo fitness
App ยอดฮิตเช่น Endomundo, strava, Runtastic bike ต้องจ่ายเงินเพื่อใช้ฟังชั่นนี้
จัดการ Pair iphone กับ sensor
รูปจากการใช้งานครับ ขอเลือกมาทริปเดียว
เมื่อเทียบกับ Runtastic bike
จะเห็นว่าระยะทางต่างกันถึง 8 กม แคลอรี่ที่ต่างกันมหาศาล และ Max speed ต่างกันไม่มาก
ระยะทางส่วนหนึ่งน่าจะเป็นจากการปรับขนาดล้อในโปรแกรม Wahoo fitness ซึ่งผมก็ยังหาจุดลงตัวไม่ได้ และชอบสลับล้อไปมาโดยไม่เปลี่ยนค่าใน App ส่วนแคลอรี่ ไม่ทราบ algorithm ที่คำนวณ ตอนวิ่งแต่ละ app ก็ต่างกันเหลือเกิน
สำหรับผมที่ไม่ใช่ระดับ Serious rider ถือว่าพอใจสำหรับ sensor นี้พอสมควร อย่างน้อยก็มีค่า speed และ cadence ที่ต้องการ
ระยะเวลา 2เดือนยังไม่เจอปัญหานอกเหนือจากระยะทางที่ผิดไป และถือว่าโชคดีที่ sensor ทำงานได้ดี ไม่รวนแม้ว่าจะมี Bluetooth sensor ใช้2ตัวและติดไฟหน้าด้วยเหมือนที่หลายๆ คนประสบปัญหา และยังโชคดีที่ pair กันเจอตลอด
แต่ปัญหาของการใช้ sensor นี้ถ้าใช้กับ App อื่น เช่น Runtastic bike , Endomundo ตัว app จะไม่ support การแสดงค่า HR, cadence เหล่านี้ ต้องเสียตังซื้อเพิ่ม ซึ่งไม่ใช่สำหรับสายฟรีอย่างผมแน่นอน ซึ่งเป็นปัญหาจาก App เองมากกว่า
สำหรับการใช้ Iphone ตอนปั่น ส่วนตัวผมมองว่าถ้าไปปั่นกลุ่มใหญ่ หรือไปปั่นในที่ที่มีชาวสองล้อเราปั่นกันเยอะ อาจจะอันตรายน้อยกว่าคนเดียวมาก จึงควรระวังจุดนี้ แต่ผมก้เชื่อว่าเพื่อนๆสองล้อที่ใช้ iphone ก็คงพกโทรศัพท์ไปด้วยเวลาออกปั่น เหตุใดเราจะไม่ลองเอามาใช้ดูถ้ามีโอกาสและประหยัดเงิน
ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ ขอบคุณครับ
ปล. - ผมไม่มีส่วนได้เสียใดๆ กับ Sensor ครับ ไม่ได้ขายครับ หาซื้อได้มากมายหลายราคา
- รีวิวนี้อาจจะไม่สมบูรณ์นักเนื่องจากไม่ได้เทียบกับ GPS ตัวแม่แบบ Garmin เพียงอยากแค่แชร์ความคิดและการใช้งาน ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้
- ถ้าพังเมื่อไร หรือมีอะไรเสีย จะมาอัพเดทกันอีกทีครับ ใครเคยใช้งาน หรือปรับแต่งเก่งๆ รบกวนแนะนำผมด้วยครับ