ปวดบริเวณน่องขาและปวดต้นคอ
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 152
- ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2012, 19:45
- Bike: bianchi
ปวดบริเวณน่องขาและปวดต้นคอ
เมื่อสองวันก่อน ปั่นช่วงเช้า 80km เสร็จจากปั่นรู้สึกปวดต้นขาและบริเวณสีแดงนิดๆ
พอช่วงเย็น 50km บริเวณต้นขาเริ่มไม่ค่อยปวดแต่ยังรู้สึกเจ็บปวดที่น่องขา(บริเวณสีแดง) ทั้งสองข้างแต่ข้างซ้ายจะรู้ึสึกเจ็บปวดมากกว่า
วันรุ่งขึ้นตื่นมา รู้สึกเจ็บเฉพาะน่องขาข้างซ้าย(บริเวณสีแดง) เดินปกติแค่รู้สึกว่าปวด แต่ถ้าปั่นไม่ว่าจะออกแรงมากหรือน้อยก็เจ็บแล้ว จะรู้สึกเวลาปั่นไปที่ 5-7 นาฬิกา
อยากทราบวิธีแก้และสาเหตุที่เป็น
ถ้าปวดต้นคอเนื่องจากหมอบแล้วเงยหน้าเป็นเวลานาน บริหารร่างกายแบบในรูปจะช่วยได้หรือเปล่าครับ
พอช่วงเย็น 50km บริเวณต้นขาเริ่มไม่ค่อยปวดแต่ยังรู้สึกเจ็บปวดที่น่องขา(บริเวณสีแดง) ทั้งสองข้างแต่ข้างซ้ายจะรู้ึสึกเจ็บปวดมากกว่า
วันรุ่งขึ้นตื่นมา รู้สึกเจ็บเฉพาะน่องขาข้างซ้าย(บริเวณสีแดง) เดินปกติแค่รู้สึกว่าปวด แต่ถ้าปั่นไม่ว่าจะออกแรงมากหรือน้อยก็เจ็บแล้ว จะรู้สึกเวลาปั่นไปที่ 5-7 นาฬิกา
อยากทราบวิธีแก้และสาเหตุที่เป็น
ถ้าปวดต้นคอเนื่องจากหมอบแล้วเงยหน้าเป็นเวลานาน บริหารร่างกายแบบในรูปจะช่วยได้หรือเปล่าครับ
- aroma_GG
- ขาประจำ
- โพสต์: 1431
- ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2011, 21:31
- team: -
Re: ปวดบริเวณน่องขาและปวดต้นคอ
ผมมีปัญหากับไหล่คอประจำครับ (ตั้งแต่ล้มรถ) หมอแนะให้เวทช่วงไหล่เยอะๆ ผมก็ทำมาตั้งแต่ปีใหม่ ได้ผลดีเลยครับทนกว่าเดิม ปวดก็มีบ้างแต่ทายาก็หายแล้ว ไม่เจ็บแบบหันคอไม่ได้แบบเก่า แต่ผมไม่ได้ทำท่านี้นะทำท่ายกขึ้นเหนือไหล่กับท่าอื่นๆ ท่านี้ทำแล้วรู้สึกไม่ค่อยได้ออกแรงเลยไม่ทำ ผมใช้เวทแค่4กิโลก็เห็นผลแล้วลองดูครับ
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 152
- ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2012, 19:45
- Bike: bianchi
Re: ปวดบริเวณน่องขาและปวดต้นคอ
แบบนี้หรอครับaroma_GG เขียน:ผมมีปัญหากับไหล่คอประจำครับ (ตั้งแต่ล้มรถ) หมอแนะให้เวทช่วงไหล่เยอะๆ ผมก็ทำมาตั้งแต่ปีใหม่ ได้ผลดีเลยครับทนกว่าเดิม ปวดก็มีบ้างแต่ทายาก็หายแล้ว ไม่เจ็บแบบหันคอไม่ได้แบบเก่า แต่ผมไม่ได้ทำท่านี้นะทำท่ายกขึ้นเหนือไหล่กับท่าอื่นๆ ท่านี้ทำแล้วรู้สึกไม่ค่อยได้ออกแรงเลยไม่ทำ ผมใช้เวทแค่4กิโลก็เห็นผลแล้วลองดูครับ
- aroma_GG
- ขาประจำ
- โพสต์: 1431
- ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2011, 21:31
- team: -
Re: ปวดบริเวณน่องขาและปวดต้นคอ
ครับท่านี้แหละ แล้วมีท่ายืนตรงแล้วยกแขนมาด้านหน้า (เหมือนทหารเดินสวนสนามอะครับ) เค้าว่าได้กล้ามไหล่ส่วนหน้า ด้านหลังก็มีแต่ผมจำไม่ได้ละเพราะไม่ค่อยได้ทำ เล่นแค่ไหล่ แขน หลังแขน นิดๆหน่อย พออมีกล้ามเนื้อจะได้ไม่เจ็บบ่อยอะครับ (คนขี้เกียจจะให้ทำเยอะๆเด๋วผิดจรรยาบรรณหมด อิอิ)
- ต้อง
- ขาประจำ
- โพสต์: 1444
- ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2011, 11:16
- Tel: 087-0190610
- team: 000000
- Bike: 000000
Re: ปวดบริเวณน่องขาและปวดต้นคอ
เมื่อสองวันก่อน ช่วงเช้าปั่น 80km ช่วงเย็นปั่น 50km การปั่นแบบนี้เป็นการซ้อม หรือ ปั่นออกทริปครับ ......
1. ต้องเซ็ตหลักอานและท่านั่งให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมะสม ( แต่ถ้าได้มาตราฐานของร่างกายเราแล้ว ก็ไปข้อที่ 2 เลยครับ )
2. อาการเหมือนกล้ามเนื้อฉีกครับ ถ้าเป็นการปั่นซ้อม คุณอาจอุ่นเครื่องน้อยเกินไป /ใช้ความเร็วมากเกินไป/ และซ้อมแบบนี้ทำให้กล้ามเนื้อทำงานหนักเกินไป
3. วิธีการปั่นแบบนี้ ทำเป็นประจำหรือไม่ เช่น วัน เว้น วัน แต่ ถ้าเป็นสัปดาห์ละครั้ง ก็จะย้อนกลับไปที่ข้อ 2 ครับ
4. ถ้าเซ็ตรถถูกต้องแล้ว และซ้อมแบบนี้เป็นประจำ ในวัน และ เวลาที่เกิดเหตุนั้น คุณไปควงรอบขาขยี้กับใครมาหรือป่าวครับ... ถ้าใช่ ก็ย้อนไปที่ข้อที่ 2 ครับ
..........ต้องกำหนดตารางซ้อม ไม่ต้องหนักมาก แต่จะต้องทำได้ตามที่กำหนด เป็นประจำ ( คำว่าเป็นประจำสำหรับผมคือ วัน เว้น วัน ) ครับ
- จะรู้ได้งัยว่าซ้อมหนักจนเกินไป คือ
1. สมมุติว่าวันนี้ปั่น 80 โล mx 35 av 26 แต่ วันต่อไป กลับทำเหมือนวันแรกไม่ได้สักครั้งเลย / แต่สิ่งที่ทำได้เป็นประจำกลับเป็น ปั่นได้ 40 โล mx 30 av 24 และส่วนใหญ่ก็ทำแบบนี้ได้ทุกครั้งที่ซ้อมเลย
2. เกิดอาการบาดเจ็บในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายทีใช้งานหนัก ๆ โดยเฉพาะขา
....การประเมินของผม เป็นการประเมินเบื้องต้นน๊ะครับ ถ้ายังงัยก็ลองดูน๊ะครับ หรือรอท่านต่อไปมาเสริมน๊ะครับ...........ขอให้หายใว ๆ น๊ะครับ
1. ต้องเซ็ตหลักอานและท่านั่งให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมะสม ( แต่ถ้าได้มาตราฐานของร่างกายเราแล้ว ก็ไปข้อที่ 2 เลยครับ )
2. อาการเหมือนกล้ามเนื้อฉีกครับ ถ้าเป็นการปั่นซ้อม คุณอาจอุ่นเครื่องน้อยเกินไป /ใช้ความเร็วมากเกินไป/ และซ้อมแบบนี้ทำให้กล้ามเนื้อทำงานหนักเกินไป
3. วิธีการปั่นแบบนี้ ทำเป็นประจำหรือไม่ เช่น วัน เว้น วัน แต่ ถ้าเป็นสัปดาห์ละครั้ง ก็จะย้อนกลับไปที่ข้อ 2 ครับ
4. ถ้าเซ็ตรถถูกต้องแล้ว และซ้อมแบบนี้เป็นประจำ ในวัน และ เวลาที่เกิดเหตุนั้น คุณไปควงรอบขาขยี้กับใครมาหรือป่าวครับ... ถ้าใช่ ก็ย้อนไปที่ข้อที่ 2 ครับ
..........ต้องกำหนดตารางซ้อม ไม่ต้องหนักมาก แต่จะต้องทำได้ตามที่กำหนด เป็นประจำ ( คำว่าเป็นประจำสำหรับผมคือ วัน เว้น วัน ) ครับ
- จะรู้ได้งัยว่าซ้อมหนักจนเกินไป คือ
1. สมมุติว่าวันนี้ปั่น 80 โล mx 35 av 26 แต่ วันต่อไป กลับทำเหมือนวันแรกไม่ได้สักครั้งเลย / แต่สิ่งที่ทำได้เป็นประจำกลับเป็น ปั่นได้ 40 โล mx 30 av 24 และส่วนใหญ่ก็ทำแบบนี้ได้ทุกครั้งที่ซ้อมเลย
2. เกิดอาการบาดเจ็บในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายทีใช้งานหนัก ๆ โดยเฉพาะขา
....การประเมินของผม เป็นการประเมินเบื้องต้นน๊ะครับ ถ้ายังงัยก็ลองดูน๊ะครับ หรือรอท่านต่อไปมาเสริมน๊ะครับ...........ขอให้หายใว ๆ น๊ะครับ
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 152
- ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2012, 19:45
- Bike: bianchi
Re: ปวดบริเวณน่องขาและปวดต้นคอ
เป็นการปั่นซ้อมครับ
1.เซ็ตรถอยู่ตลอด ค่อยๆปรับทีละนิดพยายามหาค่าที่เหมาะสมอยู่
2.อุ่นเครื่องแค่ 15 นาทีต้องมากกว่านี้ใช่มั้ยครับ ผมว่าใช้ความเร็วมากเกินไป
3.ทำสัปดาห์ละ 3 ครั้งแล้วแต่สัปดาห์ บางวันก็ติดกัน บางวันก็วันเว้นวัน ระยะทางใกล้เคียงกันในแต่ละวันแต่เพิ่งมาเริ่มปั่นหลังจากหยุดปั่นช่วงสงกรานต์
4.ปั่นคนเดียวแต่ว่าออกแรงมาก
ถ้าเป็นกล้ามเนื้อฉีกผมควรหยุดปั่นจนกว่าจะหายเลยใช่มั้ยครับบบบบบ
1.เซ็ตรถอยู่ตลอด ค่อยๆปรับทีละนิดพยายามหาค่าที่เหมาะสมอยู่
2.อุ่นเครื่องแค่ 15 นาทีต้องมากกว่านี้ใช่มั้ยครับ ผมว่าใช้ความเร็วมากเกินไป
3.ทำสัปดาห์ละ 3 ครั้งแล้วแต่สัปดาห์ บางวันก็ติดกัน บางวันก็วันเว้นวัน ระยะทางใกล้เคียงกันในแต่ละวันแต่เพิ่งมาเริ่มปั่นหลังจากหยุดปั่นช่วงสงกรานต์
4.ปั่นคนเดียวแต่ว่าออกแรงมาก
ถ้าเป็นกล้ามเนื้อฉีกผมควรหยุดปั่นจนกว่าจะหายเลยใช่มั้ยครับบบบบบ
- ต้อง
- ขาประจำ
- โพสต์: 1444
- ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2011, 11:16
- Tel: 087-0190610
- team: 000000
- Bike: 000000
Re: ปวดบริเวณน่องขาและปวดต้นคอ
waiyakorn เขียน:เป็นการปั่นซ้อมครับ
1.เซ็ตรถอยู่ตลอด ค่อยๆปรับทีละนิดพยายามหาค่าที่เหมาะสมอยู่
2.อุ่นเครื่องแค่ 15 นาทีต้องมากกว่านี้ใช่มั้ยครับ ผมว่าใช้ความเร็วมากเกินไป
3.ทำสัปดาห์ละ 3 ครั้งแล้วแต่สัปดาห์ บางวันก็ติดกัน บางวันก็วันเว้นวัน ระยะทางใกล้เคียงกันในแต่ละวันแต่เพิ่งมาเริ่มปั่นหลังจากหยุดปั่นช่วงสงกรานต์
4.ปั่นคนเดียวแต่ว่าออกแรงมาก
ถ้าเป็นกล้ามเนื้อฉีกผมควรหยุดปั่นจนกว่าจะหายเลยใช่มั้ยครับบบบบบ
ครับ ในข้อที่ 1 รถที่ถูกเซ็ตอยู่ตลอดเวลานั้น ถือ ว่า เป็นการ ฟิตติ้ง ที่ยังไม่สมบูรณ์ครับ ซึ่งจะมีผลต่อการขับขี่พอสมควร เพราะ กล้ามเนื้อที่ใช้นั้น ยังไม่คงที่ครับ
ข้อที่ 2 อุ่นเครื่อง 15 นาที ก็น่าจะพอดีแล้ว เพราะ ผมก็ทำแบบนั้น แต่การอุ่นเครื่องนั้น ไม่ควรใช้ความเร็วมากนัก ( ผมเข้าใจว่าตอนนี้คุณใช้ความเร็วมากเกินไปในระยะเวลาของการอุ่นเครื่อง และ ใช้ความเร็วสูงเกินไปในขณะซ้อมครับ) ประมาณน๊ะครับ เอาซัก 25 และ รอบขาประมาณ 70 ก็ได้ หลังจากนั้น ก็ค่อย ๆ เพิ่มความเร็วไปทีละนิด เช่น พอ 15 นาที ผ่านไป ก็เพิ่มเป็น 27 รอบขาที่ 80 และพอผ่านไป 3 กิโล ก็เพิ่มเป็นความเร็ว 30 และ เอาความเร็วนี้ใช้ยืนพื้น ซ้อมแบบนี้หนึ่งวันใช้ระยะทางแค่ 40-50 โล ก็พอครับ ลองทำแบบนี้ วัน เว้น วัน ประมาณ 2 เดือน ผมว่า คุณ สามารถยืนพื้นที่ 30 + ในทริป 100 โลได้สบายครับ ( วิธีนี้ เป็นวิธีส่วนตัวที่ผมใช้อยู่น๊ะครับ ลองนำไปเป็นแนวทาง และประกอบกับเทคนิคของหลาย ๆ ท่านดูก็ได้ครับ )
ข้อที่ 3 นั้น อาจเกี่ยวโยงมาจากข้อที่ 2 แต่มีข้อสังเกตุครับ สมมุติว่า 4 วัน ไปเล่นสงกานต์ แล้ว วันที่ 5 กลับมาปั่นซ้อม ถ้าหยุดแบบนี้ จะต้องลดตารางการซ้อมลง 30 เปอร์เซ็นต์ เพื่อ เป็นการกระตุ้น เรียกกล้ามเนื้อที่หลับไหลในวันสงกรานต์ให้ตื่นขึ้นมาเสียก่อน แล้ว ในการซ้อมครั้งต่อไป ค่อยกลับมาตารางซ้อมเดิมครับ
ข้อที่ 4 ปั่นคนเดียวออกแรงมาก เพราะ เรากังวลกับความเร็วที่เราเคยปั่นกลุ่มครับ และ บางครั้งเมื่อเจอแรงลม เรายังคงใช้ความเร็วเดิมซึ่งสิ่งนี้จะทำให้กล้ามเนื้อขาทำงานหนักเกินไปครับ
.......ถ้ากล้ามเนื้อฉีก ในระยะ 2-3 วันแรก ควรหยุดครับ ใช้กินยา หรือ ทายา และรับประทานอาหารที่เหมาะสมในการซ่อมแซมกล้ามเนื้อ ( การรักษาขึ้นอยู่กับอาการครับ ) แล้วหลังจากนั้นเมื่อดีขึ้น และเริ่มคันไม้คันมือ ก็ทำตามตารางการซ้อมในข้อที่ 3 ก่อน ได้เลยครับ แต่ก็ต้องลดระยะทางลงให้เหลือประมาณ 20-30 โล ครับ ( ต้องทดสอบกล้ามเนื้อก่อนด้วยครับ ถ้ามีอาการเจ็บขึ้นมาอีก ก็ควรต้องหยุดนานขึ้นเพื่อพักฟื้นกล้ามเนื้อให้สมบูรณ์ครับ) ........ โดยปรกติแล้ว อาการกล้ามเนื้อฉีก จะเจ็บประมาณ 2 สัปดาห์/ 1 เดือน/ หรือมากกว่านั้นครับ ขึ้นอยู่กับอาการครับ
..................... ขอให้หายเร็ว ๆ น๊ะครับ ...................................
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 152
- ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2012, 19:45
- Bike: bianchi
Re: ปวดบริเวณน่องขาและปวดต้นคอ
ขอบคุณมากๆครับ
การปรับหลักอานสูงต่ำ ผมปรับแล้วปรับอีกยังไม่ลงตัวสักที พอจะมีเทคนิคมั้ยครับ
การปรับหลักอานสูงต่ำ ผมปรับแล้วปรับอีกยังไม่ลงตัวสักที พอจะมีเทคนิคมั้ยครับ
- ต้อง
- ขาประจำ
- โพสต์: 1444
- ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2011, 11:16
- Tel: 087-0190610
- team: 000000
- Bike: 000000
Re: ปวดบริเวณน่องขาและปวดต้นคอ
เทคนิคง่าย ๆ มาตราฐานเบื้องต้น บอกกันคร่าว ๆ น๊ะครับ คือwaiyakorn เขียน:ขอบคุณมากๆครับ
การปรับหลักอานสูงต่ำ ผมปรับแล้วปรับอีกยังไม่ลงตัวสักที พอจะมีเทคนิคมั้ยครับ
- ขึ้นไปนั่งบนรถ แล้วใช้ ส้นเท้าทั้งสองข้าง แตะที่บันได เสร็จแล้วให้หมุนควงรอบขาถอยหลังเร็ว ๆ ( ไม่ต้องเร็วมาก ) โดยที่ตัวยังตรงอยู่ ถ้าเท้าหลุดออกจากบันได แสดงว่า สูงไป / แต่ถ้าเท้าไม่หลุดแต่ขานั้น กึ่ง งอ กึ่ง เหยียด (ในขณะที่ตัวยังตรงอยู่ ตูดไม่บิดไปมา) ก็แสดงว่า พอดีแล้วครับ เพราเวลาเรากลับมาปั่นในลักษณะเดิม ขานั้น จะงอ โดยที่ยังมีความยืดหยุ่นของขาในตำแหน่งที่เหมะสม ไม่เหยียด หรือ งอ มากเกินไปครับ ( อันนี้เป็นแบบพื้นฐานน๊ะครับ แต่ถ้าประเภทที่ต้องการเล่นรอบขา หรือ ดรอป ต่ำ ๆ นั้น ก็ต้องปรับ เบาะ กับหลักอานลงอีกประมาณ 2-4 มิล ง่ะครับ เพื่อป้องกันเวลาควงรอบขาแล้วเบาะจะสีไข่มากเกินไปง่ะครับ )
.......ปล... การปรับมาตราฐานนี้ แรก ๆ เมื่อขับขี่ อาจจะเหมือนเมื่อย แต่ก็ไม่เมื่อย ต้องใช้เวลาในการปรับตัวครับ ( ตอนผมซื้อเบาะมาเปลี่ยนใหม่ ใช้เวลาเซ็ตเบาะ และ ปรับตัว ประมาณ 2 เดือนครับ )
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 152
- ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2012, 19:45
- Bike: bianchi
Re: ปวดบริเวณน่องขาและปวดต้นคอ
แต่ถ้าประเภทที่ต้องการเล่นรอบขา หรือ ดรอป ต่ำ ๆ นั้น ก็ต้องปรับ เบาะ กับหลักอานลงอีกประมาณ 2-4 มิล ง่ะครับ เพื่อป้องกันเวลาควงรอบขาแล้วเบาะจะสีไข่มากเกินไปง่ะครับ
อันนี้ดีเลยครับ เพราะรถผมไซส์เล็กกว่าตัว ดรอปต่ำ ไม่น่ารู้สึกแสบง่ายมาก... ขอบคุณครับผม
อันนี้ดีเลยครับ เพราะรถผมไซส์เล็กกว่าตัว ดรอปต่ำ ไม่น่ารู้สึกแสบง่ายมาก... ขอบคุณครับผม
-
- สมาชิก
- โพสต์: 11
- ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.ย. 2013, 15:17
- Tel: 0804955099
- Bike: giant
- ติดต่อ:
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 136
- ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ต.ค. 2013, 14:48
- Tel: 081-8866593
- team: บ้านสวนไบค์
- Bike: Terk8500 BH
- ตำแหน่ง: อ.เมือง จ.สุโขทัย
Re: ปวดบริเวณน่องขาและปวดต้นคอ
waiyakorn เขียน:
ขอบคุณมากๆครับ
การปรับหลักอานสูงต่ำ ผมปรับแล้วปรับอีกยังไม่ลงตัวสักที พอจะมีเทคนิคมั้ยครับ
เทคนิคง่าย ๆ มาตราฐานเบื้องต้น บอกกันคร่าว ๆ น๊ะครับ คือ
- ขึ้นไปนั่งบนรถ แล้วใช้ ส้นเท้าทั้งสองข้าง แตะที่บันได เสร็จแล้วให้หมุนควงรอบขาถอยหลังเร็ว ๆ ( ไม่ต้องเร็วมาก ) โดยที่ตัวยังตรงอยู่ ถ้าเท้าหลุดออกจากบันได แสดงว่า สูงไป / แต่ถ้าเท้าไม่หลุดแต่ขานั้น กึ่ง งอ กึ่ง เหยียด (ในขณะที่ตัวยังตรงอยู่ ตูดไม่บิดไปมา) ก็แสดงว่า พอดีแล้วครับ เพราเวลาเรากลับมาปั่นในลักษณะเดิม ขานั้น จะงอ โดยที่ยังมีความยืดหยุ่นของขาในตำแหน่งที่เหมะสม ไม่เหยียด หรือ งอ มากเกินไปครับ ( อันนี้เป็นแบบพื้นฐานน๊ะครับ แต่ถ้าประเภทที่ต้องการเล่นรอบขา หรือ ดรอป ต่ำ ๆ นั้น ก็ต้องปรับ เบาะ กับหลักอานลงอีกประมาณ 2-4 มิล ง่ะครับ เพื่อป้องกันเวลาควงรอบขาแล้วเบาะจะสีไข่มากเกินไปง่ะครับ )
.......ปล... การปรับมาตราฐานนี้ แรก ๆ เมื่อขับขี่ อาจจะเหมือนเมื่อย แต่ก็ไม่เมื่อย ต้องใช้เวลาในการปรับตัวครับ ( ตอนผมซื้อเบาะมาเปลี่ยนใหม่ ใช้เวลาเซ็ตเบาะ และ ปรับตัว ประมาณ 2 เดือนครับ )
ตอนปรับหลักอานต้องใส่รองเท้าติดคลีทล๊อคด้วยไหมครับ. ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากๆครับ
การปรับหลักอานสูงต่ำ ผมปรับแล้วปรับอีกยังไม่ลงตัวสักที พอจะมีเทคนิคมั้ยครับ
เทคนิคง่าย ๆ มาตราฐานเบื้องต้น บอกกันคร่าว ๆ น๊ะครับ คือ
- ขึ้นไปนั่งบนรถ แล้วใช้ ส้นเท้าทั้งสองข้าง แตะที่บันได เสร็จแล้วให้หมุนควงรอบขาถอยหลังเร็ว ๆ ( ไม่ต้องเร็วมาก ) โดยที่ตัวยังตรงอยู่ ถ้าเท้าหลุดออกจากบันได แสดงว่า สูงไป / แต่ถ้าเท้าไม่หลุดแต่ขานั้น กึ่ง งอ กึ่ง เหยียด (ในขณะที่ตัวยังตรงอยู่ ตูดไม่บิดไปมา) ก็แสดงว่า พอดีแล้วครับ เพราเวลาเรากลับมาปั่นในลักษณะเดิม ขานั้น จะงอ โดยที่ยังมีความยืดหยุ่นของขาในตำแหน่งที่เหมะสม ไม่เหยียด หรือ งอ มากเกินไปครับ ( อันนี้เป็นแบบพื้นฐานน๊ะครับ แต่ถ้าประเภทที่ต้องการเล่นรอบขา หรือ ดรอป ต่ำ ๆ นั้น ก็ต้องปรับ เบาะ กับหลักอานลงอีกประมาณ 2-4 มิล ง่ะครับ เพื่อป้องกันเวลาควงรอบขาแล้วเบาะจะสีไข่มากเกินไปง่ะครับ )
.......ปล... การปรับมาตราฐานนี้ แรก ๆ เมื่อขับขี่ อาจจะเหมือนเมื่อย แต่ก็ไม่เมื่อย ต้องใช้เวลาในการปรับตัวครับ ( ตอนผมซื้อเบาะมาเปลี่ยนใหม่ ใช้เวลาเซ็ตเบาะ และ ปรับตัว ประมาณ 2 เดือนครับ )
ตอนปรับหลักอานต้องใส่รองเท้าติดคลีทล๊อคด้วยไหมครับ. ขอบคุณครับ
"ไม่ได้ดีกว่าเพื่อน" "แค่ดีกว่าตัวเอง"