บันทึกเสือมือใหม่ 500 ก.ม. แรกของคุณ (เชิญร่วมแชร์) - ถึงเวลาเปลี่ยนเฟืองหน้าจาก 2 ใบ เป็น 3 ใบ
- crazy_B
- ขาประจำ
- โพสต์: 297
- ลงทะเบียนเมื่อ: 28 เม.ย. 2011, 18:08
- Bike: มีไรก็ปั่น
Re: บันทึกเสือมือใหม่ 500 กิโลเมตรแรกของคุณ (เชิญร่วมแชร์) - อัพข้อมูลใหม่ถึง 800 กม. แล้วครับ
อ่านแล้วสนุกมากครับ
ชอบกระทู้มีสาระดีครับ
ชอบกระทู้มีสาระดีครับ
- breeze
- ขาประจำ
- โพสต์: 1892
- ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2011, 16:14
- Tel: 0849407000
- team: ยังไม่มีสังกัด แต่อยู่แถวพระราม 5 บางกรวย ครับ
- Bike: Dahon Archer P18 , Anchor CX900
Re: บันทึกเสือมือใหม่ 500 กิโลเมตรแรกของคุณ (เชิญร่วมแชร์) - อัพข้อมูลใหม่ถึง 800 กม. แล้วครับ
ใช้ของตัวไหนอยู่ครับjittakon เขียน:ยางช่วยได้เยอะครับ ผมทีแรกใช้ยางเดิมๆ เกียร์ 2/6 เร็วประมาณเฉลี่ย 20-25 พอเปลี่ยนเป็นยางผิวเลียบทำความเร็วได้ดีขึ้นออกตัวได้แรงขึ้นลื้นไหลมากขึ้น ติดไฟแดงออกตัวที่ทะลุ30up ได้อย่างไม่ยากเย็น เรื่มใช้เกียร์ 2/7 แล้วครับ ได้ความเร็วเฉลี่ย 26-27 ไมล์ผมยังแค่ 380 เองไม่ค่อยได้ปั่นร้างกายยังไม่โอเท่าไร ฝึก็มัวๆ เอามันอย่างเดียว ถ้าท่านลองเปลี่ยนยางน่าจะลื่นได้มากกว่านี้ ครับ
ผมกำลังเล็งๆ ยางสำหรับทัวริ่งอยู่ น่าจะตอบโจทย์ผมที่สุด แต่เท่าที่ตามสืบดู ไม่มีของเลยสักร้าน
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 152
- ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ก.พ. 2011, 01:11
- team: fixgabike
- Bike: BMC TT03 ,fixedgear
- ตำแหน่ง: 314 ถนนประชาธิปก แขวงวัดกัลยาณี เขตธนบุรี กรุงเทพ
- ติดต่อ:
Re: บันทึกเสือมือใหม่ 500 กิโลเมตรแรกของคุณ (เชิญร่วมแชร์) - อัพข้อมูลใหม่ถึง 800 กม. แล้วครับ
Vee Rubber รุ่น confort ราคาไม่แพง ลื้นไหลดีครับ คุณภาพน่าจะกลางๆ เห็นมีคนแนะนำว่าของพานาเลเซอร์ก็ดีนะครับ หาได้จากแถวๆนี้ครับ http://www.thaimtb.com/forum/viewforum.php?f=28
http://www.facebook.com/fixgabike
ขายประกอบซ่อมพร้อมอะไหล่ จักรยานเสือหมอบ เสือภูเขา ฟิกเกียร์ รถพับ
ขายประกอบซ่อมพร้อมอะไหล่ จักรยานเสือหมอบ เสือภูเขา ฟิกเกียร์ รถพับ
- สิงห์หนุ่มอวบ
- สมาชิก
- โพสต์: 38
- ลงทะเบียนเมื่อ: 26 เม.ย. 2011, 17:43
- Bike: BMX(1991) sirius(2001) trek4300(2011)
Re: บันทึกเสือมือใหม่ 500 กิโลเมตรแรกของคุณ (เชิญร่วมแชร์) - อัพข้อมูลใหม่ถึง 800 กม. แล้วครับ
อ่านของพี่บรีสแล้วได้ประโยชน์มาก ขอบคุณครับ
ของผมเพิ่งปั่นได้ 2xx โลเองครับเวลาเกือบเดือน เลยมาขอแชร์มั่ง
ผมอยู่ต่างจังหวัดครับ ร้านจักรยานจะฟันหัวแบะเลยตอนแรก ร้านฝรั่ง =='
มีเพื่อนที่ปั่นทริปไกลๆ เป็นครูให้ แค่ตอนจะซื้อจักรยานยังแทบแย่เลย ติดใจเหมือนกันทำไมแพงจังหว่า
แต่ก็แบบว่าเพิ่งทำคันเดิมโช๊คพังไปเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว เอาฟระ คันดีๆ ใช้สิบปี ก็คุ้มหละ ตอนแรกว่าจะเอา merida เหมือนพี่บรีส
แต่พอจะซื้อของหมด OMG!
เลยต้องเอา trek4300 สั่งกล่องมาจากกรุงเทพเลย ประหยัดไปเกือบ 4000 บาท
(เพราะคันเก่าเคยปรับเคยจูน กับแบบว่าพอมีความรู้ช่างบ้าง ก็เลยไม่ได้กะเซอร์วิสเท่าไหร่ครับ )
วันแรกปั่น 7 โลวอร์มอัพไร้เนินใหญ่ ใช้เวลา 25 นาที ช้ามากมายผมคิด แต่มาคิดได้อีกทีหลังขี่วันที่ 2 ครับ เพราะทุก 50 เมตรจะขึ้นเนิน ลงเนินเล็กๆ ตลอดเลยครับ
ตอนนี้นับวันแต่ละวัน ตื่นเต้นทุกวันเลยครับ เหมือนที่พี่บรีสบอกเลย ที่ว่าอยู่ดีๆ เวลาก็ดีขึ้นแบบประหลาดใจ หลังจากขี่มาสัก 2 เซต 8 วันครับ ตอนนี้ขี่ประมาณ 16 วันครับ
ก็พยายามคุมรอบขาให้ได้ประมาณ 60-80 รอบครับ แต่ความเหนื่อยน้อยลงไปมากเลย
เส้นทางที่ผมขี่จะมีเนินพอประมาณ 1 ลูก กะเนินที่พอเป็นเนิน 2-3 ลูกครับ(ค่อยๆเพิ่มระยะทางจนพอใจสิ่งกีดขวางประมาณนี้ครับ)
แรกๆ ไอ้เนินพอประมาณผมต้องขี่เกียร์ 1-3 แน่ะครับ กว่าจะขึ้นได้ แทบตาย แต่ตอนนี้ใช้ 2-3 ได้ถนัดแล้ว
ผมก็ฝึกมั่วๆ โดยคิดว่าน่าจะเรียกว่า interval รึเปล่าครับ ระยะเท่าเดิม แต่เราฝึกแต่ระจุดให้ได้คล่องขึ้นนะครับ
ที่ตื่นเต้นคือ พอเรารู้สึกว่าเข้าฟอร์มปุ๊บ ทำเวลาได้ดีขึ้นตลอดเลย โดยที่เหนื่อยน้อยลงไปเรื่อยๆ ด้วยครับ
จากเดิมผมขี่ 18 โล(เหตุที่ 18 โลเพราะจะไปสุดที่วัดที่ติดทะเลนะครับเลยปักหมุดไว้เลย) ประมาณ 1 ชม มันมีเนินครับ เหอๆๆๆ
ตอนนี้ 18 โลได้ที่ 48 นาที ดีขึ้นวันละ 2 นาทีเลยครับ สัปดาห์ที่ผ่านมา
แต่ตอนนี้เริ่มตันหละครับ สำหรับเวลาที่ดีขึ้นเพราะรู้สึกว่าจะให้มากกว่านี้มันเริ่มทำให้ร่างกายล้าเกินไปครับ
พอดีผมอ้วนด้วยนะครับ แบบว่าตันไปทั้งตัว ก่อนปั่นอยู่ที่ 107 กก ตอนนี้เหลือ 101 กก ครับ(สูง 168) ก็พอใจนะครับ แค่เกือบเดือนเองแต่รู้สึกสุขภาพดีขึ้นมาก
เฉลี่ยๆ ทางราบพอประมาณ ผมก็ได้เฉลี่ยประมาณ 30 km/hr ครับ เคยเร็วสุดลงเนินที่ 60 km/hr นิ่งสุดๆ เลยครับ แต่โดยประมาณไอ้เนินพอประมาณผมก็จะลงที่ 54-55 ครับ
แล้วอ่านของพี่บรีสกะท่านที่มาบอกเล่า ก็สงสัยจะเริ่มเปลี่ยนไปปั่นแบบทดรอบเอาน่าจะดีครับ เพราะมีญาติปั่นวันละ 60 กมในสนามกีฬานะครับ
แบบว่าจะลดน้ำหนักอย่างจริงจังสักทีครับ
ถ้าปั่นในสนามกีฬา คงไม่ต้องพะวงเนิน จะได้เน้นรอบขาให้ได้แบบแอโรบิคตามพี่ๆ เลยครับ
เหตุที่พล่ามมาซะนาน ก็คิดว่าถ้ามีความเข้าใจผิดๆ ของผมก็รบกวนพี่ๆ ชี้แนะด้วยนะครับ เพราะผมศึกษาเองทางไกลผ่านการบอกเล่าจากเพื่อนและอ่านเองจากในเว็ปครับ
ยังไม่ได้เข้ากลุ่มกับมือโปรหรือใครๆเลยครับ เพราะกลัวเป็นตัวถ่วงครับ ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำชี้แนะครับ
ของผมเพิ่งปั่นได้ 2xx โลเองครับเวลาเกือบเดือน เลยมาขอแชร์มั่ง
ผมอยู่ต่างจังหวัดครับ ร้านจักรยานจะฟันหัวแบะเลยตอนแรก ร้านฝรั่ง =='
มีเพื่อนที่ปั่นทริปไกลๆ เป็นครูให้ แค่ตอนจะซื้อจักรยานยังแทบแย่เลย ติดใจเหมือนกันทำไมแพงจังหว่า
แต่ก็แบบว่าเพิ่งทำคันเดิมโช๊คพังไปเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว เอาฟระ คันดีๆ ใช้สิบปี ก็คุ้มหละ ตอนแรกว่าจะเอา merida เหมือนพี่บรีส
แต่พอจะซื้อของหมด OMG!
เลยต้องเอา trek4300 สั่งกล่องมาจากกรุงเทพเลย ประหยัดไปเกือบ 4000 บาท
(เพราะคันเก่าเคยปรับเคยจูน กับแบบว่าพอมีความรู้ช่างบ้าง ก็เลยไม่ได้กะเซอร์วิสเท่าไหร่ครับ )
วันแรกปั่น 7 โลวอร์มอัพไร้เนินใหญ่ ใช้เวลา 25 นาที ช้ามากมายผมคิด แต่มาคิดได้อีกทีหลังขี่วันที่ 2 ครับ เพราะทุก 50 เมตรจะขึ้นเนิน ลงเนินเล็กๆ ตลอดเลยครับ
ตอนนี้นับวันแต่ละวัน ตื่นเต้นทุกวันเลยครับ เหมือนที่พี่บรีสบอกเลย ที่ว่าอยู่ดีๆ เวลาก็ดีขึ้นแบบประหลาดใจ หลังจากขี่มาสัก 2 เซต 8 วันครับ ตอนนี้ขี่ประมาณ 16 วันครับ
ก็พยายามคุมรอบขาให้ได้ประมาณ 60-80 รอบครับ แต่ความเหนื่อยน้อยลงไปมากเลย
เส้นทางที่ผมขี่จะมีเนินพอประมาณ 1 ลูก กะเนินที่พอเป็นเนิน 2-3 ลูกครับ(ค่อยๆเพิ่มระยะทางจนพอใจสิ่งกีดขวางประมาณนี้ครับ)
แรกๆ ไอ้เนินพอประมาณผมต้องขี่เกียร์ 1-3 แน่ะครับ กว่าจะขึ้นได้ แทบตาย แต่ตอนนี้ใช้ 2-3 ได้ถนัดแล้ว
ผมก็ฝึกมั่วๆ โดยคิดว่าน่าจะเรียกว่า interval รึเปล่าครับ ระยะเท่าเดิม แต่เราฝึกแต่ระจุดให้ได้คล่องขึ้นนะครับ
ที่ตื่นเต้นคือ พอเรารู้สึกว่าเข้าฟอร์มปุ๊บ ทำเวลาได้ดีขึ้นตลอดเลย โดยที่เหนื่อยน้อยลงไปเรื่อยๆ ด้วยครับ
จากเดิมผมขี่ 18 โล(เหตุที่ 18 โลเพราะจะไปสุดที่วัดที่ติดทะเลนะครับเลยปักหมุดไว้เลย) ประมาณ 1 ชม มันมีเนินครับ เหอๆๆๆ
ตอนนี้ 18 โลได้ที่ 48 นาที ดีขึ้นวันละ 2 นาทีเลยครับ สัปดาห์ที่ผ่านมา
แต่ตอนนี้เริ่มตันหละครับ สำหรับเวลาที่ดีขึ้นเพราะรู้สึกว่าจะให้มากกว่านี้มันเริ่มทำให้ร่างกายล้าเกินไปครับ
พอดีผมอ้วนด้วยนะครับ แบบว่าตันไปทั้งตัว ก่อนปั่นอยู่ที่ 107 กก ตอนนี้เหลือ 101 กก ครับ(สูง 168) ก็พอใจนะครับ แค่เกือบเดือนเองแต่รู้สึกสุขภาพดีขึ้นมาก
เฉลี่ยๆ ทางราบพอประมาณ ผมก็ได้เฉลี่ยประมาณ 30 km/hr ครับ เคยเร็วสุดลงเนินที่ 60 km/hr นิ่งสุดๆ เลยครับ แต่โดยประมาณไอ้เนินพอประมาณผมก็จะลงที่ 54-55 ครับ
แล้วอ่านของพี่บรีสกะท่านที่มาบอกเล่า ก็สงสัยจะเริ่มเปลี่ยนไปปั่นแบบทดรอบเอาน่าจะดีครับ เพราะมีญาติปั่นวันละ 60 กมในสนามกีฬานะครับ
แบบว่าจะลดน้ำหนักอย่างจริงจังสักทีครับ
ถ้าปั่นในสนามกีฬา คงไม่ต้องพะวงเนิน จะได้เน้นรอบขาให้ได้แบบแอโรบิคตามพี่ๆ เลยครับ
เหตุที่พล่ามมาซะนาน ก็คิดว่าถ้ามีความเข้าใจผิดๆ ของผมก็รบกวนพี่ๆ ชี้แนะด้วยนะครับ เพราะผมศึกษาเองทางไกลผ่านการบอกเล่าจากเพื่อนและอ่านเองจากในเว็ปครับ
ยังไม่ได้เข้ากลุ่มกับมือโปรหรือใครๆเลยครับ เพราะกลัวเป็นตัวถ่วงครับ ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำชี้แนะครับ
สุดยอดอุปกรณ์ในการขี่จักรยาน คือตัวผู้ขี่ เพราะอัพได้ไม่รู้จบ
- breeze
- ขาประจำ
- โพสต์: 1892
- ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2011, 16:14
- Tel: 0849407000
- team: ยังไม่มีสังกัด แต่อยู่แถวพระราม 5 บางกรวย ครับ
- Bike: Dahon Archer P18 , Anchor CX900
Re: บันทึกเสือมือใหม่ 500 กิโลเมตรแรกของคุณ (เชิญร่วมแชร์) - อัพข้อมูลใหม่ถึง 800 กม. แล้วครับ
ถ้ามีสนามก็ดีครับสิงห์หนุ่มอวบ เขียน: ถ้าปั่นในสนามกีฬา คงไม่ต้องพะวงเนิน จะได้เน้นรอบขาให้ได้แบบแอโรบิคตามพี่ๆ เลยครับ
เหตุที่พล่ามมาซะนาน ก็คิดว่าถ้ามีความเข้าใจผิดๆ ของผมก็รบกวนพี่ๆ ชี้แนะด้วยนะครับ เพราะผมศึกษาเองทางไกลผ่านการบอกเล่าจากเพื่อนและอ่านเองจากในเว็ปครับ
ยังไม่ได้เข้ากลุ่มกับมือโปรหรือใครๆเลยครับ เพราะกลัวเป็นตัวถ่วงครับ ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำชี้แนะครับ
ในแง่รอบขา ได้นิ่ง แล้วร่างกายมันจะจดจำ พอเวลาไปปั่นทางอื่นๆ มันจะพยายามเร่งให้ได้รอบเท่าเดิม
เรื่องลดน้ำหนัก ของใครก็ของใครครับ ของผมปั่นมาจะครบ 3 เดือน ลงไปแค่ 3 กิโลกรัมเอง น้อยกว่าท่านอื่นๆ
แต่ 1. ผมมากางเกงหลายตัวที่ใส่ไม่ได้แล้ว 2. ร่างกายผมแข็งแรงขึ้นเห็นๆ ระยะทางเท่าเดิม ไม่เหนื่อยอีกต่อไป 3. รู้สึกว่าไม่เป็นไข้ เป็นหวัดง่ายเหมือนแต่ก่อน
เป็นผลพ่วงจากการออกกำลังกาย
ส่วนน้ำหนักมันก็ลงเรื่อยๆ อาจช้าแต่ก็ลง เลยไม่คิดมากครับ
ยังไงก็พยายามเข้าครับ อย่าหักโหม ให้ดี ซื้อ HRM มาคุมหัวใจหน่อยก็ดี เพราะบางครั้งร่างกายมันไม่ไหว แต่จิตใจมันไหว
มันอันตรายต่อหัวใจครับ
- สิงห์หนุ่มอวบ
- สมาชิก
- โพสต์: 38
- ลงทะเบียนเมื่อ: 26 เม.ย. 2011, 17:43
- Bike: BMX(1991) sirius(2001) trek4300(2011)
Re: บันทึกเสือมือใหม่ 500 กิโลเมตรแรกของคุณ (เชิญร่วมแชร์) - อัพข้อมูลใหม่ถึง 800 กม. แล้วครับ
ขอบคุณมากครับ พอดีตอนวัยรุ่นผมเล่นกีฬาเป็นบ้าเป็นหลังนะครับห่างจากวัยนั้นมาสิบปีหละครับbreeze เขียน: ยังไงก็พยายามเข้าครับ อย่าหักโหม ให้ดี ซื้อ HRM มาคุมหัวใจหน่อยก็ดี เพราะบางครั้งร่างกายมันไม่ไหว แต่จิตใจมันไหว
มันอันตรายต่อหัวใจครับ
พอขึ้นเลข 3 กับน้ำหนักเพิ่มแล้วรู้สึกร่างกายมันฝืดมากเลยครับ อยากเรียกความรู้สึกวัยรุ่นกลับมา
แต่ก็ลืมดูแลหัวใจตัวเองไปเหมือนกันครับ ขอบคุณที่เตือนครับ
สุดยอดอุปกรณ์ในการขี่จักรยาน คือตัวผู้ขี่ เพราะอัพได้ไม่รู้จบ
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 239
- ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ต.ค. 2010, 23:22
- team: none
- Bike: Copi
Re: บันทึกเสือมือใหม่ 500 กิโลเมตรแรกของคุณ (เชิญร่วมแชร์) - อัพข้อมูลใหม่ถึง 800 กม. แล้วครับ
ผมปั่นมาจะ 6 เดือนแล้ว นน.ไม่ลด เลยbreeze เขียน:เรื่องลดน้ำหนัก ของใครก็ของใครครับ ของผมปั่นมาจะครบ 3 เดือน ลงไปแค่ 3 กิโลกรัมเอง น้อยกว่าท่านอื่นๆ
แต่ 1. ผมมากางเกงหลายตัวที่ใส่ไม่ได้แล้ว 2. ร่างกายผมแข็งแรงขึ้นเห็นๆ ระยะทางเท่าเดิม ไม่เหนื่อยอีกต่อไป 3. รู้สึกว่าไม่เป็นไข้ เป็นหวัดง่ายเหมือนแต่ก่อน
แต่ที่ดีคือเอวลดลง เยอะด้วย ต้องมานั่งหาเกงใหม่
เกงยีนส์ตัวเก่งของผม จะใส่ทีต้องรัดเข็มขัดแน่นๆเลย ไม่งั้นหลุด - -'
แต่ร่างกายแข็งแรงขึ้นนี่จริงครับ ช่วงนี้ไม่เป็นหวัดเลย เป็นก็น้ำมูกนิดหน่อย
ไปปั่นให้เหงื่อมันออก กลับมานอนปุ๊บ หายเลย
ของผมตั้งแต่ 500กม. เป็นต้นมาก็ไม่มีอะไรหวือหวามากนัก เพียงแต่ว่าก็ได้พอมาปั่นเป็นเพื่อนตอนวันหยุด
จากที่เคยปั่นตอนเย็นก็มาปั่นตอน 6โมงเช้าแทน ได้ขี่ไปทางใหม่ๆ เพราะทางเดิมเริ่มจะเบื่อแล้ว
ขี่ไปทางใหม่ก็ ได้พบ ได้คุย กับนักปั่นท่านอื่นก็เฮฮาไปอีกแบบ
ตอนนี้ก็พยายามหาแรงบัลดาลใจให้ปั่นต่อ เพราะปั่นคนเดียวก็ค่อยข้างที่จะเบื่อแล้ว
เพราะแถวบ้านผมก็ปั่นมาจนพรุนแล้ว ถ้าจะไปทางที่ไม่เคยไปก็ต้องปั่นสัก 30โลขึ้น
ตอนนี้เป้าหมายใหม่ของผมก้เป็น 2000 โลก่อนเดือน 8 ไม่รู้จะได้ไหม
เพราะเป้าหมายเก่า 1000 โลก่อนเดือน 6 สำเร็จมาแล้ว วางเป้าหมายให้มันยากๆเป็นแรงบัลดาลใจที่ดี
- gutarara
- ขาประจำ
- โพสต์: 132
- ลงทะเบียนเมื่อ: 19 พ.ค. 2011, 10:05
- Tel: 061 - 662 - 8382
- ตำแหน่ง: อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี
Re: บันทึกเสือมือใหม่ 500 กิโลเมตรแรกของคุณ (เชิญร่วมแชร์) - อัพข้อมูลใหม่ถึง 800 กม. แล้วครับ
อ่านของพี่ บรี๊ซ (แล้วก็ของเพื่อนๆพี่ๆทุกคนด้วยครับ)แล้วมีกำัลังใจมากเลยครับใจจริงว่าจะรอจักรยานใหม่(กำลังหาอยู่น่ะครับ)เป็นไม่รอละไปขุดจักรยานแม่บ้านแอลเอจอดทิ้งอยู่ข้างบ้านมาลองปั่นก่อน(ก่อนปันก็หยอดน้ำมันพ่นเสปร์ซะหน่อย)เมื่อวานลองปั่นครั้งแรกทางไกลได้สิบโลกว่านิดๆเมื่อยมากๆพร้อมกับมีความสุขมากๆ
Live “into”
- sompong39
- ขาประจำ
- โพสต์: 3149
- ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ส.ค. 2008, 08:33
- Tel: 0981019695
- team: แอบขี่ ...
- Bike: แม่บ้าน พับ หมอบ ภูเขา ทัวร์ริ่ง
Re: บันทึกเสือมือใหม่ 500 กิโลเมตรแรกของคุณ (เชิญร่วมแชร์) - อัพข้อมูลใหม่ถึง 800 กม. แล้วครับ
ยังไม่เข้า ขั้น เด๋ว ก็จะมี ลูกๆจักรยาน คลอด ออก มาเรื่อยๆ จน ..ฉึกๆ
___H__
_/\ \
/\__\\__ __\
| | "" | |''''||`
~~~""""`"""""`~~* ความรัก..คือ อะไร .....
_/\ \
/\__\\__ __\
| | "" | |''''||`
~~~""""`"""""`~~* ความรัก..คือ อะไร .....
- breeze
- ขาประจำ
- โพสต์: 1892
- ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2011, 16:14
- Tel: 0849407000
- team: ยังไม่มีสังกัด แต่อยู่แถวพระราม 5 บางกรวย ครับ
- Bike: Dahon Archer P18 , Anchor CX900
Re: บันทึกเสือมือใหม่ 500 กิโลเมตรแรกของคุณ (เชิญร่วมแชร์) - อัพข้อมูลใหม่ถึง 800 กม. แล้วครับ
จาก 800 ถึง 1200 ว่าด้วยเรื่องปั่นทางไกล
หลังจากเริ่มค้นพบวิธีการใหม่ในการลดน้ำหนัก โดยใช้หลักการของเสืออิฐ ผมพบว่า การปั่นจักรยานระยะทางโดยรวมเท่ากัน ระหว่างการปั่น 20 กิโลเมตรติดกัน 3 วัน เป็น 60 กิโลเมตร กับ การปั่นวันเดียว 60 กิโลเมตร
ให้ผลลัพธ์ของน้ำหนักที่ลดลงต่างกันมาก
ผนวกกับช่วงที่ผ่านมาฝนตกบ่อยๆ จึงทำให้กลายเป็นอุปสรรค ไม่สามารถปั่นตอนเช้ามืดได้เหมือนเคย จึงจัดตารางเวลาใหม่ ปั่นช่วงเช้ามืดวันเสาร์ถึงช่วงสายของวันเสาร์แทน
ในการปั่นแต่ละครั้ง พอร่างกายปรับสภาพได้ ผลคือ น้ำหนักมักจะหายไปเห็นๆ 2-3 ขีดขึ้นไป
ช่วง 800 กิโลเมตรเป็นต้นมา ผมจึงเริ่มวางแผน ปั่นทางไกล ผนวกกับ ลุงโท จัดทริปไปอยุธยา ก็ได้ทดสอบร่างกายตัวเอง กับระยะทาง 147 กิโลเมตร เป็นที่เรียบร้อย
และได้เรียนรู้อะไรอีกมากมาย เกี่ยวกับหลักการปั่นทางไกล
ไม่ว่าจะเป็น
หลักการปั่นทางไกล (ประยุกต์มาจากแนวคิดของเอ็ม.เจ. ไบค์ นครปฐม)
1. ต้องปั่นควบคุมโซนหัวใจไม่ให้เกิด 70% จะสามารถปั่นได้ยาวนาน กว่าและไม่อ่อนล้าในวันต่อไป
2. ต้องพักบ่อยตามสภาพร่างกาย อย่าฝืนปั่นยาวเกินกว่าสภาพร่างกาย แม้คิดว่าทนได้ ก็ไม่ควรปั่นต่อ ควรหยุดเป็นระยะๆ อาจคำนวณตามกิโลเมตร หรือตามระยะเวลาปั่นก็ตามสะดวก เวลาพักก็อย่าพักมากเกินไป สัก 5-10 นาที กำลังดี
3. ต้องจิบน้ำบ่อยๆ จิบน้อย แค่จิบบ่อย ดีกว่า ดื่มครั้งเดียวมากๆ ห้ามให้ตัวเองรู้สึกว่า หิวน้ำเป็นอันขาด
4. ต้องทานให้อิ่ม หากทานไม่อิ่มหรือเพียงพอ จะทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายตามมาอีกหลายวัน
การวางแผนปั่นทางไกล
ผมไม่รู้ว่านิยามของการปั่นทางไกล เริ่มต้นที่กี่กิโลเมตร แต่สำหรับผม คือ ระยะทางที่คนทั่วไป เขาไม่คิดปั่นกัน ก็น่าจะเป็นทางไกลได้แล้วละ ที่สำคัญต้องปั่นต่อเนื่องนะ ดังนั้นการปั่นทางไกลสำหรับผม จึงเริ่มต้นที่เกิน 50 กิโลเมตรขึ้นไป
วิธีการวางแผนของผม ใช้ Google Map ครับ
โดยหากมีอีเมล์ของ Google (Gmail) ก็สามารถใช้ฟังก์ชัน "แผนที่ของฉัน" หรือ "My Maps" ได้
ซึ่งเราสามารถสร้างเส้นทางการปั่นได้เลย กำหนดช่วงเส้นทาง แบ่งสีของเส้นทาง คำนวณระยะทางได้ รวมถึงบันทึกเก็บไว้ใช้ยามปั่นได้ด้วย
หากใครใช้มือถือรุ่นใหม่ๆ จะมีโปรแกรม Google Map ให้ดาวน์โหลด หรือถ้าใช้มือถือระบบ Android ก็มีมาพร้อมเลย
พอเปิด Google Map ในมือถือขึ้นมา ก็จะมีฟังก์ชันดูเส้นทาง (Layers) โดยสามารถเลือกค้นหา หรือสร้างเส้นทางได้เหมือนอุปกรณ์ GPS ทั่วไป หรือเลือกใช้ My Maps ที่เราสร้างไว้ก็ได้ พอเลือกแล้ว โปรแกรมจะทำงานและแสดงผลว่าปัจจุบันเราอยู่ที่ไหน อยู่ในเส้นทางหรือเปล่า ซึ่งช่วยให้เราสามารถใช้เป็นเครื่องมือบอกเส้นทางได้แทน แผนที่ หรือเครื่อง GPS ราคาแพง
ปัจจุบันทริปทางไกล (ที่เกิน 50 กิโลเมตรขึ้นไป) ของผมมีหลายเส้นทางมาก ทั้งแบบปั่นเป็นวงกลม ออกจากบ้านตีห้า ถึงบ้านแปดโมง หรือแบบไปทั้งวัน ไปครึ่งวัน มีให้เลือกไว้พร้อม
ช่วง 800 - 1200 กิโลเมตรนี้ ตัวเลขไมล์จึงขึ้นเร็วมาก เพราะวันเสาร์แต่ละอาทิตย์ที่ผ่านไป ผมปั่นอย่างน้อยๆ ก็ 60 กิโลเมตร รวมถึงวันธรรมดา ก็ปั่นด้วยเท่าที่อากาศจะอำนวย
กลายเป็น ติดใจ ชอบทัวริ่ง เสียแล้ว (กำลังคิดอยากเปลี่ยนจักรยานเลยทีเดียว)
เมื่อ 26 พ.ค. ที่ผ่านมา ครบกำหนดปั่นจักรยานมา 3 เดือน ผลลัพธ์คือ น้ำหนักจาก 92.4 (จริงๆ ผมว่ามากกว่านี้อีก) ลงมาเหลือ 88 กิโลกรัม และเอวหายไป 4 นิ้ว ตัวเริ่มเล็กลง จากเสื้อ XXL ใส่แล้วกำลังพอดี ตอนนี้กลายเป็น ไหล่ตกหมดทุกตัว
หลังจากเริ่มค้นพบวิธีการใหม่ในการลดน้ำหนัก โดยใช้หลักการของเสืออิฐ ผมพบว่า การปั่นจักรยานระยะทางโดยรวมเท่ากัน ระหว่างการปั่น 20 กิโลเมตรติดกัน 3 วัน เป็น 60 กิโลเมตร กับ การปั่นวันเดียว 60 กิโลเมตร
ให้ผลลัพธ์ของน้ำหนักที่ลดลงต่างกันมาก
ผนวกกับช่วงที่ผ่านมาฝนตกบ่อยๆ จึงทำให้กลายเป็นอุปสรรค ไม่สามารถปั่นตอนเช้ามืดได้เหมือนเคย จึงจัดตารางเวลาใหม่ ปั่นช่วงเช้ามืดวันเสาร์ถึงช่วงสายของวันเสาร์แทน
ในการปั่นแต่ละครั้ง พอร่างกายปรับสภาพได้ ผลคือ น้ำหนักมักจะหายไปเห็นๆ 2-3 ขีดขึ้นไป
ช่วง 800 กิโลเมตรเป็นต้นมา ผมจึงเริ่มวางแผน ปั่นทางไกล ผนวกกับ ลุงโท จัดทริปไปอยุธยา ก็ได้ทดสอบร่างกายตัวเอง กับระยะทาง 147 กิโลเมตร เป็นที่เรียบร้อย
และได้เรียนรู้อะไรอีกมากมาย เกี่ยวกับหลักการปั่นทางไกล
ไม่ว่าจะเป็น
หลักการปั่นทางไกล (ประยุกต์มาจากแนวคิดของเอ็ม.เจ. ไบค์ นครปฐม)
1. ต้องปั่นควบคุมโซนหัวใจไม่ให้เกิด 70% จะสามารถปั่นได้ยาวนาน กว่าและไม่อ่อนล้าในวันต่อไป
2. ต้องพักบ่อยตามสภาพร่างกาย อย่าฝืนปั่นยาวเกินกว่าสภาพร่างกาย แม้คิดว่าทนได้ ก็ไม่ควรปั่นต่อ ควรหยุดเป็นระยะๆ อาจคำนวณตามกิโลเมตร หรือตามระยะเวลาปั่นก็ตามสะดวก เวลาพักก็อย่าพักมากเกินไป สัก 5-10 นาที กำลังดี
3. ต้องจิบน้ำบ่อยๆ จิบน้อย แค่จิบบ่อย ดีกว่า ดื่มครั้งเดียวมากๆ ห้ามให้ตัวเองรู้สึกว่า หิวน้ำเป็นอันขาด
4. ต้องทานให้อิ่ม หากทานไม่อิ่มหรือเพียงพอ จะทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายตามมาอีกหลายวัน
การวางแผนปั่นทางไกล
ผมไม่รู้ว่านิยามของการปั่นทางไกล เริ่มต้นที่กี่กิโลเมตร แต่สำหรับผม คือ ระยะทางที่คนทั่วไป เขาไม่คิดปั่นกัน ก็น่าจะเป็นทางไกลได้แล้วละ ที่สำคัญต้องปั่นต่อเนื่องนะ ดังนั้นการปั่นทางไกลสำหรับผม จึงเริ่มต้นที่เกิน 50 กิโลเมตรขึ้นไป
วิธีการวางแผนของผม ใช้ Google Map ครับ
โดยหากมีอีเมล์ของ Google (Gmail) ก็สามารถใช้ฟังก์ชัน "แผนที่ของฉัน" หรือ "My Maps" ได้
ซึ่งเราสามารถสร้างเส้นทางการปั่นได้เลย กำหนดช่วงเส้นทาง แบ่งสีของเส้นทาง คำนวณระยะทางได้ รวมถึงบันทึกเก็บไว้ใช้ยามปั่นได้ด้วย
หากใครใช้มือถือรุ่นใหม่ๆ จะมีโปรแกรม Google Map ให้ดาวน์โหลด หรือถ้าใช้มือถือระบบ Android ก็มีมาพร้อมเลย
พอเปิด Google Map ในมือถือขึ้นมา ก็จะมีฟังก์ชันดูเส้นทาง (Layers) โดยสามารถเลือกค้นหา หรือสร้างเส้นทางได้เหมือนอุปกรณ์ GPS ทั่วไป หรือเลือกใช้ My Maps ที่เราสร้างไว้ก็ได้ พอเลือกแล้ว โปรแกรมจะทำงานและแสดงผลว่าปัจจุบันเราอยู่ที่ไหน อยู่ในเส้นทางหรือเปล่า ซึ่งช่วยให้เราสามารถใช้เป็นเครื่องมือบอกเส้นทางได้แทน แผนที่ หรือเครื่อง GPS ราคาแพง
ปัจจุบันทริปทางไกล (ที่เกิน 50 กิโลเมตรขึ้นไป) ของผมมีหลายเส้นทางมาก ทั้งแบบปั่นเป็นวงกลม ออกจากบ้านตีห้า ถึงบ้านแปดโมง หรือแบบไปทั้งวัน ไปครึ่งวัน มีให้เลือกไว้พร้อม
ช่วง 800 - 1200 กิโลเมตรนี้ ตัวเลขไมล์จึงขึ้นเร็วมาก เพราะวันเสาร์แต่ละอาทิตย์ที่ผ่านไป ผมปั่นอย่างน้อยๆ ก็ 60 กิโลเมตร รวมถึงวันธรรมดา ก็ปั่นด้วยเท่าที่อากาศจะอำนวย
กลายเป็น ติดใจ ชอบทัวริ่ง เสียแล้ว (กำลังคิดอยากเปลี่ยนจักรยานเลยทีเดียว)
เมื่อ 26 พ.ค. ที่ผ่านมา ครบกำหนดปั่นจักรยานมา 3 เดือน ผลลัพธ์คือ น้ำหนักจาก 92.4 (จริงๆ ผมว่ามากกว่านี้อีก) ลงมาเหลือ 88 กิโลกรัม และเอวหายไป 4 นิ้ว ตัวเริ่มเล็กลง จากเสื้อ XXL ใส่แล้วกำลังพอดี ตอนนี้กลายเป็น ไหล่ตกหมดทุกตัว
- a lone wolf
- ขาประจำ
- โพสต์: 446
- ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ธ.ค. 2010, 01:57
- Bike: kona sutra
Re: บันทึกเสือมือใหม่ 500 กิโลเมตรแรกของคุณ (เชิญร่วมแชร์) - อัพข้อมูลใหม่ถึง 1200 กม. แล้วครับ
เห็นด้วยกับคุณ breeze เรื่องทิปส์ในการปั่นทางไกลที่ประมวลมาจากหลายๆกระทู้ของพี่เมธาแห่ง เอ็ม เจ ไบค์ นครปฐมครับ
แนวคิดนี้ยังเป็นที่ถกเถียงกันในไทยเอ็มทีบีมานานพอสมควร
แต่ผมลองนำไปปฏิบัติด้วยตัวเองแล้วพบว่าเวิร์คมากครับ (ผมถือว่าพี่เมธาเป็นครูท่านหนึ่ง แบบว่า "ครูพักลักจำ")
ตัดประเด็นเรื่องการลดน้ำหนักไปก่อน เพราะตัวผมไม่มีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัว
แต่มุ่งเน้นการเดินทางไกลกันแบบร้อยกว่ากิโลหรือสองร้อยกิโลต่อวัน
แล้วไม่ใช่แค่วันเดียวแต่เดินทางติดต่อกัน สองวัน สามวัน สี่วัน ห้าวัน...
หัวใจหลักของทิปส์ที่พี่เมธาว่าไว้คือการควบคุมการใช้กำลัง (และการเต้นของหัวใจ) ให้อยู่ในระดับแอโรบิกให้ได้สม่ำเสมอที่สุด
ไม่ทำให้การปั่นทำให้ร่างกายออกกำลังข้ามจากโซนแอโรบิกไปโซนอแนโรบิก
หลักคิดคือโซนแอโรบิกทำให้ร่างกายไม่โทรม
ในขณะที่อแนโรบิกหากใช้บ่อยๆติดต่อกันร่างกายจะโทรม ทำให้รับภาระต่อเนื่องกันยาวๆหลายวันในทริปทางไกลไม่ได้
ไม่เน้นรักษารอบขา ไม่เน้นความเร็ว แต่เน้นกำลังที่ใส่ในการถีบลูกกระไดให้ไม่วูบวาบตลอดเส้นทาง คงที่ให้ได้มากที่สุดเท่าที่ทำได้
ในการขึ้นทางชันหากเน้นรอบขาไม่ให้ตก เน้นการซอยและใช้เกียร์ต่ำมักต้องหมุนขาจี๋ ทำให้หัวใจข้ามโซนไปอแนโรบิก...ใช้ต่อเนื่องร่างกายบอบช้ำ
....อันนี้ผมประมวลเอาเองจากที่อ่านนะครับ อาจไม่ตรงร้อยเปอร์เซนต์แต่ไม่น่าจะห่างไกลจากที่พี่เมธาให้ความรู้ไว้สักเท่าใด
ลองทำแล้วพบว่าด้วยการหัดขี่มาไม่นาน ผมก็พอเดินทางไกลได้โดยที่วันถัดมาก็ยังรักษาความแข็งแรงของร่างกายเอาไว้ได้
ปล. คุณ breeze ครับ รถทัวร์ริ่งติดกระเป๋าหลังนี่มันขี่ทางเรียบได้นุ่มและเสถียรมากครับ ตัวถังและสัมภาระหนัก แต่ให้ความรู้สึกตอน cruise ได้ยอดเยี่ยม น่าลองครับน่าลอง เหมือนนั่งบนรถโรลส์สรอยตัวถังหนักสามตันครึ่งที่จะให้ความบรรเจิดที่แตกต่างจากเฟอร์รารีฝีเท้าจัดจ้านน่ะครับ (ไม่เคยนั่งทั้งสองยี่ห้อแหละครับ แต่คิดว่าน่าจะคล้ายกัน)
แนวคิดนี้ยังเป็นที่ถกเถียงกันในไทยเอ็มทีบีมานานพอสมควร
แต่ผมลองนำไปปฏิบัติด้วยตัวเองแล้วพบว่าเวิร์คมากครับ (ผมถือว่าพี่เมธาเป็นครูท่านหนึ่ง แบบว่า "ครูพักลักจำ")
ตัดประเด็นเรื่องการลดน้ำหนักไปก่อน เพราะตัวผมไม่มีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัว
แต่มุ่งเน้นการเดินทางไกลกันแบบร้อยกว่ากิโลหรือสองร้อยกิโลต่อวัน
แล้วไม่ใช่แค่วันเดียวแต่เดินทางติดต่อกัน สองวัน สามวัน สี่วัน ห้าวัน...
หัวใจหลักของทิปส์ที่พี่เมธาว่าไว้คือการควบคุมการใช้กำลัง (และการเต้นของหัวใจ) ให้อยู่ในระดับแอโรบิกให้ได้สม่ำเสมอที่สุด
ไม่ทำให้การปั่นทำให้ร่างกายออกกำลังข้ามจากโซนแอโรบิกไปโซนอแนโรบิก
หลักคิดคือโซนแอโรบิกทำให้ร่างกายไม่โทรม
ในขณะที่อแนโรบิกหากใช้บ่อยๆติดต่อกันร่างกายจะโทรม ทำให้รับภาระต่อเนื่องกันยาวๆหลายวันในทริปทางไกลไม่ได้
ไม่เน้นรักษารอบขา ไม่เน้นความเร็ว แต่เน้นกำลังที่ใส่ในการถีบลูกกระไดให้ไม่วูบวาบตลอดเส้นทาง คงที่ให้ได้มากที่สุดเท่าที่ทำได้
ในการขึ้นทางชันหากเน้นรอบขาไม่ให้ตก เน้นการซอยและใช้เกียร์ต่ำมักต้องหมุนขาจี๋ ทำให้หัวใจข้ามโซนไปอแนโรบิก...ใช้ต่อเนื่องร่างกายบอบช้ำ
....อันนี้ผมประมวลเอาเองจากที่อ่านนะครับ อาจไม่ตรงร้อยเปอร์เซนต์แต่ไม่น่าจะห่างไกลจากที่พี่เมธาให้ความรู้ไว้สักเท่าใด
ลองทำแล้วพบว่าด้วยการหัดขี่มาไม่นาน ผมก็พอเดินทางไกลได้โดยที่วันถัดมาก็ยังรักษาความแข็งแรงของร่างกายเอาไว้ได้
ปล. คุณ breeze ครับ รถทัวร์ริ่งติดกระเป๋าหลังนี่มันขี่ทางเรียบได้นุ่มและเสถียรมากครับ ตัวถังและสัมภาระหนัก แต่ให้ความรู้สึกตอน cruise ได้ยอดเยี่ยม น่าลองครับน่าลอง เหมือนนั่งบนรถโรลส์สรอยตัวถังหนักสามตันครึ่งที่จะให้ความบรรเจิดที่แตกต่างจากเฟอร์รารีฝีเท้าจัดจ้านน่ะครับ (ไม่เคยนั่งทั้งสองยี่ห้อแหละครับ แต่คิดว่าน่าจะคล้ายกัน)
It's not the years in your life but the life in your years that counts
หมาป่าเดียวดาย สวนหลวงร.9 - พระธาตุดอยสุเทพ
หมาป่าเดียวดายกับ "ความไม่รู้" เรื่องเขาใหญ่
หมาป่าเดียวดาย สวนหลวงร.9 - พระธาตุดอยสุเทพ
หมาป่าเดียวดายกับ "ความไม่รู้" เรื่องเขาใหญ่
- breeze
- ขาประจำ
- โพสต์: 1892
- ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2011, 16:14
- Tel: 0849407000
- team: ยังไม่มีสังกัด แต่อยู่แถวพระราม 5 บางกรวย ครับ
- Bike: Dahon Archer P18 , Anchor CX900
Re: บันทึกเสือมือใหม่ 500 กิโลเมตรแรกของคุณ (เชิญร่วมแชร์) - อัพข้อมูลใหม่ถึง 1200 กม. แล้วครับ
ตอนนี้กำลังชั่งใจ ว่า จะใช้คันนี้ จนได้ตามเป้าหมาย คือ น้ำหนักลงถึง 80 กิโลกรัม แล้วค่อยเปลี่ยนเป็นทัวริ่งa lone wolf เขียน:
รถทัวร์ริ่งติดกระเป๋าหลังนี่มันขี่ทางเรียบได้นุ่มและเสถียรมากครับ ตัวถังและสัมภาระหนัก แต่ให้ความรู้สึกตอน cruise ได้ยอดเยี่ยม น่าลองครับน่าลอง เหมือนนั่งบนรถโรลส์สรอยตัวถังหนักสามตันครึ่งที่จะให้ความบรรเจิดที่แตกต่างจากเฟอร์รารีฝีเท้าจัดจ้านน่ะครับ (ไม่เคยนั่งทั้งสองยี่ห้อแหละครับ แต่คิดว่าน่าจะคล้ายกัน)
หรือเปลี่ยนมันตอนนี้เลย 555
ส่วนทัวริ่ง ก็คิดอยู่ 3 ทาง
1. ให้ร้านเอ็ม.เจ ประกอบให้ สบายใจ ได้รถดี ราคาไม่แพง แถมไม่ต้องห่วงกลัวหายมากนัก
2. เลือกทัวริ่ง สำเร็จรูป
3. เอารถพับทัวริ่ง เพื่อเปิดโอกาสให้ตัวเอง เดินทางได้ไกลขึ้น ในเวลาสั้นๆ คือ ใช้พาหนะอย่างอื่น ไปถึงที่หมาย ใช้รถพับ ปั่นเที่ยว แล้วกลับด้วยพาหนะอย่างอื่น
- breeze
- ขาประจำ
- โพสต์: 1892
- ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2011, 16:14
- Tel: 0849407000
- team: ยังไม่มีสังกัด แต่อยู่แถวพระราม 5 บางกรวย ครับ
- Bike: Dahon Archer P18 , Anchor CX900
Re: บันทึกเสือมือใหม่ 500 กิโลเมตรแรกของคุณ (เชิญร่วมแชร์) - อัพข้อมูลใหม่ถึง 1200 กม. แล้วครับ
ลืมไปอย่าง
ระหว่างปั่นทางไกล ผมคิดคำที่อธิบายความรู้สึกเวลาปั่นทางไกลได้ดีที่สุด
ระหว่างปั่นทางไกล ผมคิดคำที่อธิบายความรู้สึกเวลาปั่นทางไกลได้ดีที่สุด
breeze เขียน:ปั่นทางไกล ก็เหมือนกับการใช้ชีวิต บางครั้งมันไม่มีทางเลือกที่จะถอยหลัง แม้จะเหนื่อยสักเพียงใด แม้จะคิดว่าจะทนไม่ไหวแล้ว แต่ทางเลือกก็มีเพียงแค่เดินหน้าต่อไป รางวัลที่ได้อาจไม่มีใครภาคภูมิใจ มีเพียงเราที่รูู้เท่านั้นว่า เราทำสำเร็จถึงเป้าหมาย
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 1532
- ลงทะเบียนเมื่อ: 11 เม.ย. 2011, 08:24
- ตำแหน่ง: ชลบุรี
- ติดต่อ:
Re: บันทึกเสือมือใหม่ 500 กิโลเมตรแรกของคุณ (เชิญร่วมแชร์) - อัพข้อมูลใหม่ถึง 1200 กม. แล้วครับ
ชอบกระทู้นี้มาก ขอบคุณครับ คุณbreeze
ถึงแม้จะเก่า ถึงมันจะหนัก ผมก็รัก CrMo นะจ๊ะ
ห้องโชว์รถเก่าประกอบใหม่ บรรจงสร้างสรรค์ by ป๋านึก Chonburi http://thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=70&t=647398
ห้องโชว์รถเก่าประกอบใหม่ บรรจงสร้างสรรค์ by ป๋านึก Chonburi http://thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=70&t=647398
- pandalov
- สมาชิก
- โพสต์: 35
- ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2011, 13:04
- Bike: supersix,oyama
Re: บันทึกเสือมือใหม่ 500 กิโลเมตรแรกของคุณ (เชิญร่วมแชร์) - อัพข้อมูลใหม่ถึง 1200 กม. แล้วครับ
-ขอบคุณพี่บรีซมากๆที่แชร์ประสบการณ์ดีๆครับ ผมว่าเป็นประโยชน์มากสำหรับคนที่กำลังจะลดน้ำหนัก ส่วนตัวผมเองก็ขอแชร์ส่วนตัวนิดหน่อยครับ คือน้ำหนักผมได้ลดลงมาจาก95กก เหลือ77กก ผมจะพูดถึงคือเรื่องของแรงบันดาลใจ,แรงกระตุ้นครับ ผมออกกำลังกายมาหลายปีจนได้ดูbiggestloser แล้วมีแรงกระตุ้นที่ได้เห็นคนแก่ และผู้หญิงวิ่งฮาล์ฟมาราธอน ฟูลมาราธอน สำเร็จ น้ำหนักจากหลายร้อยโล ลดลงเหลือไม่ถึงร้อยโล ทำให้เราคิดว่าแค่ 10 20โลทำไมเราลดไม่ได้ ครับพี่ๆลองดูนะครับหาแรงบันดาลใจหรือแรงกระตุ้นจากอะไรก็ได้ที่มันเป็นพลังที่ทำให้เราทำสำเร็จ ส่วนวิธีลดผมว่าหลายท่านมีวิธีอยู่แล้วบางทีอาจจะขาดเรื่องนี้ก็ได้ครับ ขอบคุณมากครับพี่บรีซมีโอกาสคงได้ขี่จักรยานด้วยกันครับ