หน้า 32 จากทั้งหมด 62
Re: ☆☆☆ คำภีร์เสือภูเขา ☆☆☆
โพสต์: 26 พ.ค. 2011, 21:16
โดย sabadee
อู๊ด-พีระ เขียน:18.เทคนิคการหายใจสำหรับนักปั่นจักรยาน
เทคนิคการหายใจขณะขี่แข่งขันถือว่าเป็นหัวใจสำคัญที่จะนำไปสู่ชัยชนะในการแข่งขัน: ทำได้ดังนี้
1. ถ้าคุณหายใจไม่ทันขณะที่ปล่อยตัวออกไปอย่างรวดเร็ว คุณต้องฝึกการหายใจเข้า - ออกทุกๆ วันก่อนออกฝึกซ้อม
มีวิธีฝึกดังนี้
....1. ฝึกหายใจเข้าทางจมูกให้เต็มปอด และ เป่าลมออกทางปากจนหมดปอด จังหวะการหายใจให้หายใจลึกๆ ( ยาว ) ช้าๆก่อนทั้งเข้า - ออก
....2. ฝึกหายใจเข้า-ออกทั้งทางปากและจมูกพร้อมๆกัน จังหวะการหายใจเหมือนแบบที่ 1.
....3. รวมการหายใจแบบที่ 1+2 เข้าด้วยกันแต่เน้นจังหวะการหายใจที่หนักหน่วงแรงและเร็วเหมือนแข่งขันฯประมาณ 15-20 สะโตก( เข้า - ออก ) แล้วผ่อนการหายใจยาวๆเป็นแบบที่หนึ่งหรือสองจนกว่าจะรู้สึกว่าหายเหนื่อยดีแล้วก็ให้กลับมาเริ่มฝึกหายใจแบบที่สามอีก คือหนักหน่วงแรงและเร็ว ทำสลับกันอย่างนี้ใช้เวลาประมาณ 5 - 10 นาที แล้วก็ออกไปฝึกซ้อม
หมายเหตุ: การฝึกแรกๆระวังหน้ามืดเป็นลม ต้องค่อยเป็นค่อยไป เมื่อร่างกายปรับตัวได้ดีแล้วคุณจะเห็นคุณค่าและประโยชน์ของการหายใจว่า " นี่คือหัวใจของความอึด " ในการปั่นเสือที่คุณชอบครับ การฝึกหายใจเป็นประจำทำให้ปอดขยายใหญ่ขึ้น พร้อมกับฝึกประสาทควบคุมการหายใจให้รับรู้วิธีการหายใจในขณะแข่งขันฯ ทำให้คุณผ่านพ้น " ภาวะอึดอัด " ( หายใจไม่ทัน )ไปได้ ซึ่งจะเป็นผลดีในการปั่นแข่งขัน มากกว่าคนที่ไม่เคยฝึกเทคนิคการหายใจครับ แต่ทุกๆคนต้องหายใจเพื่อชีวิตเพียงแต่ว่าคุณหายใจได้ดีแค่ไหน ? โดยเฉพาะอากาศออกซิเจนที่คุณต้องการน่ะมากพอหรือยังครับ
ข้อมูลจาก เสือเฒ่า เทอร์โบ ขอบคุณมากครับ
Re: ☆☆☆ คำภีร์เสือภูเขา-เสือหมอบ ☆☆☆
โพสต์: 27 พ.ค. 2011, 07:17
โดย อู๊ด-พีระ
Re: ☆☆☆ คำภีร์เสือภูเขา-เสือหมอบ ☆☆☆
โพสต์: 27 พ.ค. 2011, 08:43
โดย อึ่ง76
ขอบคุณครับ
Re: ☆☆☆ คำภีร์เสือภูเขา-เสือหมอบ ☆☆☆
โพสต์: 27 พ.ค. 2011, 09:19
โดย อู๊ด-พีระ
129.แนวทางการเลือกตกแต่ง รถ FIXED GEAR อย่างมีสไตล์..
จักรยานฟิกซ์เกียร์ (Fixed Gear)
ปัจจุบันมีการใช้จักรยานฟิกซ์เกียร์ Fixed Gear ในท้องถนนเป็นจำนวนมาก เพราะมี รูปทรง ที่ทันสมัยอุปกรณ์ไม่เยอะและสามารถเก็บรักษาได้ง่าย ถ้าคุณต้องการจักรยานฟิกซ์เกียร์ Fixed Gear สักคันลองมาดูกันนะครับว่าจะมีวิธีการเลือกจักรยานฟิกซ์เกียร์ Fixed Gear อย่างไร
อันดับแรกคุณจะต้องตอบโจทย์ตัวเองให้ได้ก่อนว่าคุณมีงบประมาณเท่าไหร่ ? วัตถุประสงค์ในการใช้จักรยาน ชอบแนวไหน ชอบรถทันสมัย หรือแฟชั่น street เนื่องจากมีเกียร์เดียวคุณจะปั่นไปทำงาน ปั่นไปเที่ยว เล่นท่า หรือขับขี่ชอบความเก่าคลาสสิค วินเทจ สไตล์หมอบ เมื่อรู้ว่าตัวเองชอบแบบไหน ก็ตัดสินใจต่อได้ว่าจะประกอบรถตนเองแนวไหน ซึ่งถ้าเลือกใช้อะไหล่ที่ผลิตมาสำหรับรถลู่ หรือ Fixed Gear ซึ่งแน่นอนว่าอะไหล่จะถูกใจผู้ขับขี่ทุกชิ้น แต่งบประมาณก็สูงทีเดียวนะครับ
ผมมีวิธีการเลือกง่าย ๆ สำหรับคนที่ไม่รู้ว่าตนเองเหมาะกับสไตล์ไหน ผมขอแนะนำว่าควรซื้อรถ Complete สักคันมาลองปั่นก่อน Fuji Classic เป็นอีกทางเลือกหนี่งที่ราคาไม่สูง ปั่นได้สบาย ถ้าจะเล่นทริคก็สามารถแต่งต่อได้ แต่สำหรับมืออาชีพสามารถเลือกได้ตามสไตล์ของตัวเองและเลือกปรับแต่งรถให้เข้ากับการใช้งานและงบประมาณของตนเอง
สำหรับการแต่งรถจักรยานฟิกซ์เกียร์ Fixed Gear ให้โดยใจไม่ยากอย่างงที่คิดเลยครับ วิธีง่าย ๆ โดยการเลือกเปลี่ยนชิ้นส่วนบางชิ้น เช่น ตะเกียบ แฮนด์ ล้อ จาน ซึ่งแนวทริกทั่วไปจะใช้แฮนด์ยก กว้าง น้ำหนักเบา แข็งแรง ใส่ล้อขอบสูง หน้าล้อกว้าง เพื่อให้ใส่ยางใหญ่รับน้ำหนักแรงกระแทกจากการกระโดด ใส่จานหน้าเล็ก ใหม่ได้ไม่เกิน 42 T ใส่ cog(สเตอร์) 19T ให้เบาขึ้นเพื่อให้เล่นท่าง่าย บันได BMX เนื้อพลาสติกชั้นดี มีรูสำหรรับร้อยสาย Foot Strap (สายรัดเท้า) ใส่เพื่อเบรกและให้กระชับเท้า เอาไว้เล่นท่าต่าง ๆ
หากต้องการรถสวยผมขอแนะนำ Fuji Feather ที่มาพร้อมกับความสวยงามเพราะทาง Fuji เขาได้แต่งมาเพื่อให้เข้ากับสไตล์ที่คุณต้องการแน่นอน แต่ถ้าอยากปรับแต่งเพิ่มเติม ก็อาจจะเปลี่ยนสี หรืออาจจะเลือกใช้ยางและล้อที่มีสีสันสวยงามเพื่อให้แมทซ์กับเบาะ แฮนด์ตะกร้อ ก็ได้ครับ แล้วแต่ความชอบของแต่ละบุคคล ซึ่งการแต่งรถก็จะเป็นไปตามความนิยมของแต่ละคนช่วงนั้น ๆ อย่าง TREND ปีที่แล้วก็จะเน้นแฮนด์สั้น ยางสี และรถที่มีสีสันฉูดฉาด
ปีนี้ TREND เราจะแต่งให้เล่นทริคได้มากขึ้น การแต่งรถจะเป็นแฮนด์กว้าง ยางใหญ่ Frame ดำด้าน Frame เปลือยกำลังมาแรง การเลือกหาตะเกียบก็ขึ้นอยู่กับทรงของรถว่าเป็นทรงไหน ตะเกียบตรงแบบ BMX ขนาด 410 มม. เหมาะสำหรับล้อ 700 C ใส่แล้วบาร์สปินได้ แต่ถ้าใช้ล้อ ขนาด 26 หรือ 650 C แนะนำให้ใช้ตะเกียบ 420+ มม. เพื่อให้รถระดับขนานกับพื้น การแต่งรถ Fixed Gear ส่วนใหญ่อะไหล่สามารถสลับสับเปลี่ยนกันได้ครับ
ข้อมูลจาก Thai Cycling Club ขอบคุณมากครับ
Re: ☆☆☆ คำภีร์เสือภูเขา-เสือหมอบ ☆☆☆
โพสต์: 29 พ.ค. 2011, 19:01
โดย อู๊ด-พีระ
Re: ☆☆☆ คำภีร์เสือภูเขา-เสือหมอบ ฯลฯ ☆☆☆
โพสต์: 31 พ.ค. 2011, 09:39
โดย ระ ซอยสิบสี่
ขอบคุณครับ
Re: ☆☆☆ คำภีร์เสือภูเขา-เสือหมอบ ฯลฯ ☆☆☆
โพสต์: 02 มิ.ย. 2011, 09:28
โดย JACK_GT1
ขอบคุณครับสำหรับข้อมูลดีๆ
Re: ☆☆☆ คำภีร์เสือภูเขา-เสือหมอบ ฯลฯ ☆☆☆
โพสต์: 02 มิ.ย. 2011, 16:37
โดย nir009
ขอบคุณครับ มาอ่านอยู่เรื่อยๆ
Re: ☆☆☆ คำภีร์เสือภูเขา-เสือหมอบ ฯลฯ ☆☆☆
โพสต์: 05 มิ.ย. 2011, 03:44
โดย caramel
ราตรีสวัสดิ์เด้อค่ะคุณอู๊ด
สปิริตการโพสต์สุดยอดเลยค่ะ คุณอู๊ดอย่าหยุดนะคะ
Re: ☆☆☆ คำภีร์เสือภูเขา-เสือหมอบ ฯลฯ ☆☆☆
โพสต์: 09 มิ.ย. 2011, 12:08
โดย อู๊ด-พีระ
ขอบคุณครับ!...คุณcaramel...ดำเนินการต่อครับ
Re: ☆☆☆ คำภีร์เสือภูเขา-เสือหมอบ ฯลฯ ☆☆☆
โพสต์: 09 มิ.ย. 2011, 12:09
โดย อู๊ด-พีระ
Re: ☆☆☆ คำภีร์เสือภูเขา-เสือหมอบ ฯลฯ ☆☆☆
โพสต์: 09 มิ.ย. 2011, 12:18
โดย อู๊ด-พีระ
131.แฮนด์เสือหมอบเพื่อความสบายยามปั่นไกล
แฮนด์เสือหมอบเพื่อความสบายยามปั่นไกล
Handlebar หรือที่เราเรียกกันอย่างคุ้นเคยว่า แฮนด์ นั้น คือส่วนประกอบของจักรยานที่มีความสำคัญมาก มันช่วยให้บังคับทิศทางได้สะดวก ช่วยการทรงตัวก็ได้ หากตั้งหรือวัดแฮนด์ไม่ได้ขนาดแล้วมันก็อาจจะทำคุณปวดเมื่อยได้ทั้งตัวเหมือนกัน เคยคิดกันบ้างหรือไม่ก็ตามว่าแฮนด์ซึ่งทำจากอลูมินั่มหรือคาร์บอนไฟเบอร์เป็นแท่ง ๆ นี้คืออุปกรณ์สำคัญที่จะช่วยให้คุณสบายตัว หรือเจ็บตัวก็ได้ในการขี่จักรยานทางไกลโดยเฉพาะที่ระยะมากกว่า 100 ไปจนถึง 200 ก.ม.
หากจะถามถึงความเหมาะสมแล้ว แฮนด์ที่เหมาะกับการขี่ไกลที่สุดคือแฮนด์ดร็อป หรือแฮนด์เสือหมอบที่เราเคยเห็นกันบ่อย ๆ เหมือนมันจะเป็นแค่ท่อซึ่งเอามาดัดเป็นรูปคดโค้งแล้วพันด้วยเทปให้จับได้ไม่ลื่น แต่จริง ๆ แล้วกระบวนการเพื่อความสบายเริ่มขึ้นตั้งแต่ตอนเลือกแฮนด์ คุณสมบัติข้อแรกที่ต้องการคือต้องเบาก่อนแล้วตามด้วยความกว้างของแฮนด์ซึ่งวัดได้ง่าย ๆ คือต้องกว้าวเท่าช่วงไหล่ของคนขี่ ส่วนจะสร้างจากวัสดุแปลกพิสดารอะไรก็คงขึ้นอยู่กับกำลังทรัพย์ของแต่ละคน
เมื่อพิจารณากันให้ดีจะพบว่าตำแหน่งต่าง ๆ ที่วางมือได้บนแฮนด์เสือหมอบนั้นมันมีความหมาย อย่างแรกคือเพื่อให้คุณได้เปลี่ยนอิริยาบเมื่อต้องวางตัวอยู่ในท่าเดิม ๆ ตลอดนานเป็นชั่วโมง ๆ ตลอดระยะทาง เมื่อเมื่อยระหว่างเดินทางคุณสามารถเลื่อนมือมาวางในตำแหน่งต่าง ๆ ของแฮนด์ได้ตั้งแต่บนสุดถึงล่างสุด
นอกจากตำแหน่งการจับแฮนด์แล้ว วิธีจับที่ถูกต้องก็มี
ตำแหน่งบนสุด: จับด้วยการวางฝ่ามือลงบนแฮนด์ทั้งฝ่ามือแล้วกำแฮนด์ให้รอบ ให้นิ้วหัวแม่มืออยู่หลังท่อนแฮนด์เพื่อล็อคเอาไว้กันลื่น ถ้าคุณวางทั้งห้านิ้วบนแฮนด์มันจะลื่นไหลเสียหลักหัวคะมำได้หากปั่นไปเจอกับลูกระนาดหรือสันเหล็กสะท้องแสงบนถนน ตำแหน่งนี้คือท่าที่สบายที่สุด เหมาะกับการขี่ในย่านความเร็วไม่มากนัก และจะมั่นคงเมื่อปั่นขึ้นเนินโดยก้นยังติดเบาะ ถ้าเมื่อยแต่ยังไม่อยากจับเบรกก็เลื่อนมือมาตรงโค้งแฮนด์ใกล้เบรกได้เป็นการเปลี่ยนท่าทางเพื่อความสบาย
หัวมือเบรค: เมื่อเอื้อมมือมากำหัวมือเบรก ความรู้สึกหนึ่งที่คุณสัมผัสได้คือลำตัวจะโน้มมาข้างหน้าเล็กน้อย นิ้วเอื้อมมือถึงมือเบรคและก้านเปลี่ยนเกียร์ เมื่อใดที่ไม่มั่นใจว่าจะปลอดภัยเช่นการปั่นรวมกลุ่มซึ่งชิดกันมาก ๆ ระหว่างเข้าโค้ง การเอื้อมนิ้วถึงมือเบรคและมือเปลี่ยนเกียร์จะช่วยให้คุณปลอดภัยขึ้นหากมีเหตุหรืออุบัติเหตุที่ทำให้ต้องหยุดจักรยานกะทันหัน ในตำแหน่งนี้ลำตัวยังตั้งต้านลมอยู่ จึงเหมาะสำหรับการปั่นช่วงเดินทางโดยไม่หวังจะเร่งเครื่องแซงหรือใช้ความเร็วสูง ๆ
ตำแหน่งดร็อป: หรือตำแหน่งที่ต่ำสุดเกือบถึงปลายแฮนด์ตามปกติแล้วนักจักรยานทางไกลจะไม่ค่อยได้จับแฮนด์ตรงจุดนี้กัน เพราะมั่นต่ำและชวนให้ปวดเมื่อยหลังกับก้านคอได้ง่าย ๆ เอื้อมมือจับมือเบรกก็ไม่ได้อีก แต่ก็ต้องมีไว้เพราะเป็นตำแหน่งเดียวที่ทำให้ลำตัวนักจักรยานขนานกับพื้นที่สุด ผลที่ตามมาคือลู่ลมที่สุด เหมาะแก่การหลบลมพุ่งแหวกอากาศเพื่อการแซงจักรยานคันหน้าหรือเพื่อเร่งความเร็ว เมื่อเอื้อมมือจับแฮนด์ในตำแหน่งนี้แล้วตัวนักจักรยานจะกดลงต่ำสุด น้ำหนักจะถ่ายมาข้างหน้าแทนที่จะเป็นกดลงตรง ๆ ที่อานกลางจักรยาน
ตำแหน่งดร็อปจะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างมากต่อท่าทางและความรู้สึก รวมทั้งไม่ค่อยปลอดภัย นักจักรยานจึงแทบไม่ค่อยได้ก้มตัวลงมาจับแฮนด์ในตำแหน่งนี้บ่อยนัก เว้นแต่ช่วงที่จะเร่งแซงหรือเพื่อช่วงชิงความได้เปรียบช่วงสั้น ๆ เพราะแฮนด์เสือหมอบเป็นเนื้อวัสดุล้วน ๆ และโค้ง การจะทำปลอกหุ้มเหมือนแฮนด์เมาเท่าไบค์นั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลยจึงต้องใช้วิธีพัน เทปพันแฮนด์เสือหมอบดี ๆ จะเป็นฟองน้ำแผ่นบาง ๆ เพื่อคอยซับแรงกระแทกจากพื้นดินที่วิ่งตามล้อและตะเกียบหน้าขึ้นมาถึงมือ
แต่ทั้งนี้การจะขี่ให้สบายตลอดเส้นทางนั้นเป็นไปไม่ได้ เมื่อร่างกายต้องวางตำแหน่งอยู่ในท่าเดิม ๆ ทีละนาน ๆ และมีน้ำหนักกดทับกล้ามเนื้อกับเส้นประสาท คุณย่อมต้องเจ็บปวด เมื่อย ซึ่งทำอย่างดีก็คงได้แค่บรรเทาให้ทรมานน้อยที่สุด ซึ่งจะเกิดจากการปรับระยะห่างระหว่างอานกับแฮนด์ให้พอเหมาะ การเปลี่ยนตำแหน่งวางมือการเลือกขนาดของแฮนด์ให้พอดกับช่วงกว้างหน้าอกหรือไหล่ เมื่อรู้สึกว่าปวดเมื่อยก็ลุกจากเบาะขึ้นโขยกเสียบ้าง
เรื่องราวข้างต้นนั่นคือรายละเอียดของการใช้แฮนด์เสือหมอบเพื่อปั่นทางไกล 100 – 200 กิโลเมตร และวิธีวางมือซึ่งจะช่วยให้คุณสบายขึ้นในระยะทางไกล ๆ นอกจากตัวแฮนด์เองจะสำคัญแล้ว ความสำคัญรองลงไปก็น่าจะไม่พ้นความสูงของคอแฮนด์ซึ่งจะขึ้นอยู่กับการวางแหวนรอง (สเปเซอร์) ความยาวของคอตะเกียบแม้แต่การสร้างเฟรมให้เป็นแบบเพอร์ฟอร์แมนซ์ ฟิต (เน้นความสบายในการขี่ทางไกล) หรือ โปร ฟิต (เน้นท่าทางการแข่งเพื่อให้เกิดความเร็วมากกว่าความสบาย)
ถ้าคุณอยากให้จักรยานขี่สบาย (หรือที่ถูกต้องคือเพื่อทรมานน้อยที่สุด) ในระยะไกล ๆ ก็ต้องใส่ใจให้รายละเอียดเพราะมันคืออุปกรณ์หนึ่งในสามชิ้นที่รับน้ำหนัก นอกเหนือจากอานและลูกบันได ถ้าเลือกไม่ดีหรือได้ขนาดไม่พอเหมาะสิ่งที่จะตามมาคงไม่พ้นเรื่องการปวดไหล่และเอว ทั้งที่ทุกสิ่งพร้อมแล้วแต่ถ้าได้แฮนด์ไม่ดีปรับระยะไม่เหมาะสม คุณก็อาจไปไม่ถึงจุดหมายเอาง่าย ๆ เหมือนกัน
ข้อมูลจาก Thai Cycling Club ขอบคุณมากครับ
Re: ☆☆☆ คำภีร์เสือภูเขา-เสือหมอบ ฯลฯ ☆☆☆
โพสต์: 11 มิ.ย. 2011, 07:28
โดย อู๊ด-พีระ
Re: ☆☆☆ คำภีร์เสือภูเขา-เสือหมอบ ฯลฯ ☆☆☆
โพสต์: 11 มิ.ย. 2011, 07:39
โดย อู๊ด-พีระ
132.ประเภทและการเลือกใช้ยางเสือภูเขา
สำหรับยางที่ใช้ในจักรยานเสือภูเขานั้นจะแบ่งได้ 2 ประเภทใหญ่ ๆ ได้ดังนี้
1. แบ่งตามประเภทของการใช้งาน
2. แบ่งตามลักษณะทางกายภาพของยาง
1. แบ่งตามประเภทของการใช้งาน ได้แก่ ทางขรุขระ ทางโคลน ทางเรียน นักปั่นจักรยานที่ชอบขี่ไปในแทรกทางขรุขระ ทางลูกรังที่เป็นทางที่แห้ง ก็ควรใช้ยางที่มีดอกยางบั้งถี่ ๆ ซึ่งจะช่วยในการยึดเกาะได้ดี ถ้าหากวันไหนจะต้องไปลุยกับโคลนพื้นเฉอะแฉะเป็นดินเหนียว ยางที่ใช้ก็ควรจะมีดอกยางที่ห่างซึ่งจะช่วยในการสะบัดโคลนไม่ให้ติดยางมากเกินไป และส่วนใหญ่ขี่บนถนนทางเรียบเป็นส่วนใหญ่ ก็ให้เลือกใช้ยางที่ไม่มีดอกยาง (ยาง Slick) และถ้าผิวถนนมีน้ำหรือฝนตกก็ให้เลือกใช้ยางที่มีดอกยางละเอียด (Semi Slick) ซึ่งดอกยางที่ละเอียดจะช่วยรีดน้ำและช่วยในการยึดเกาะกนนที่เปียกน้ำได้ดีครับ และยางอีกประเภทคือยางที่ใช้กับยางเสือภูเขาประเภทดาวน์ฮิลล์ ซึ่งจะมีดอกยางที่ใหญ่มากเป็นพิเศษ เพื่อรองรับการกระแทกและช่วยในการยึดเกาะในการลงมาจากที่สูง
2. แบ่งตามลักษณะทางกายภาพของยาง ซึ่งแบ่งได้อีก 4 ประเภทดังนี้
2.1 ยางขอบแข็งหรือที่เราชอบเรียกกันว่ายางงัด เป็นยางยุคบุกเบิกเริ่มแรกที่ใช้ในจักรยานจนถึงปัจจุบัน โดยขอบของยางจะมีความแข็งซึ่งขอบของยางชนิดนี้จะทำด้วยเส้นลวด ข้อเสียของยางงัดคือมันมีน้ำหนักมากถอดเปลี่ยนลำบาก ต้องมีอุปกรณ์ในการช่วยงัดยางออกมา เปลืองเนื้อที่ในการเก็บ พกพาไม่สะดวก มีโอกาสที่จะทำให้ยางในขาดได้ง่าย ตอนที่งัดยางกลับเข้าวงล้อ ข้อดีของยางงัด มีราคาถูก มีอายุการใช้งานทนทานกว่า
2.2 ยางขอบอ่อนหรือยางพับ ซึ่งเป็นยางที่พัฒนาขึ้นมาใหม่จากยางยุคแรก ขอบของยางจะทำมาจากวัสดุที่มีความยึดหยุ่นสูง สามารถพับเก็บได้สะดวก มีน้ำหนักเบา ประหยัดเนื้อที่ในการเก็บ พกพาสะดวก ข้อเสียคือราคาแพงอายุการใช้งาน ความทนทานน้อยกว่าแบบแรก
2.3 ยางนอกประเภทที่ใช้ยางใน ซึ่งก็เป็นแบบที่ใช้กันมานาน โดยจะมียางชั้นในทำหน้าที่กักเก็บลมเอาไว้ และมีจุกเติมลมโผล่ทะลุออกมาจากขอบล้อยาง ยางในจะทำหน้าที่คอยพยุงยางนอกให้ทรงตัวอยู่ได้ ข้อดีคือมีน้ำหนักพอประมาณ ราคาไม่แพง อัตราการซึมของลมมีน้อย
2.4 ยางนอกประเภทที่ไม่ใช้ยางใน ทู๊ปเลส (Tube less) เป็นยางที่ไม่ใช้ยางในในการกักเก็บลม แต่ใช้ตัวมันเองและวงล้อในการกักเก็บลม ซึ่งจะใช้หลักการเดียวกันกับยางรถยนต์แต่เมื่อนำมาใช้ในรถจักรยานประสิทธิภาพในการกักเก็บลมจะด้อยกว่า เวลาใช้จะต้องเติมน้ำยากันรั่วซึมเข้าไปด้วย ข้อดีคือไม่ต้องเสียเวลามานั่งปะยาง เมื่อมีของแข็งแทงทะละยาง ก็ยังสามารถขี่ต่อไปได้ ข้อเสียคือมีน้ำหนักค่อนข้างมาก มีการรั่วซึมของลมยางค่อนข้างสูง และมีราคาแพง
หวังว่าเพื่อน ๆ คงจะเลือกใช้ยางได้ถูกตามสถานการณ์ และกำลังทรัพย์ของแต่ละคนนะครับ
ข้อมูลจาก Thai Cycling Club ขอบคุณมากครับ