หน้า 13 จากทั้งหมด 62
Re: ☆☆☆ คำภีร์เสือภูเขา ☆☆☆
โพสต์: 10 ม.ค. 2011, 20:32
โดย ไอ้มดแดง
ขอบคุณครับ...สำหรับความรู้ดีๆ
Re: ☆☆☆ คำภีร์เสือภูเขา ☆☆☆
โพสต์: 11 ม.ค. 2011, 08:17
โดย อู๊ด-พีระ
ยินดีครับ!...โอกาสหน้าเชิญใหม่ครับ
Re: ☆☆☆ คำภีร์เสือภูเขา ☆☆☆
โพสต์: 11 ม.ค. 2011, 08:26
โดย อู๊ด-พีระ
ครับผม!...โอกาสหน้าเชิญใหม่ครับ
Re: ☆☆☆ คำภีร์เสือภูเขา ☆☆☆
โพสต์: 11 ม.ค. 2011, 09:08
โดย อู๊ด-พีระ
Re: ☆☆☆ คำภีร์เสือภูเขา ☆☆☆
โพสต์: 11 ม.ค. 2011, 09:24
โดย อู๊ด-พีระ
57.การฝึกด้วย Trainer
ทำความเข้าใจกับการฝึกด้วย Trainer
เทรนเนอร์(Trainer) คืออุปกรณ์ช่วยในการฝึกซ้อมจักรยาน เดิมถูกเรียกว่าอุปกรณ์สำหรับฝึกซ้อมจักรยานภายในอาคาร แต่ความจริงสามารถใช้ที่ไหนก็ได้ แม้แต่ในคอนโยที่พักอาศัย ระเบียงบ้าน ริมสวน หรือแม้กระทั่งสำนักงานที่ยังพอมีที่ว่างและมีความเป็นส่วนตัว เทรนเนอร์เป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นโดยเฉพาะประเทศที่หน้าหนาวมีหิมะตกจนออกซ้อมไม่ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าในบ้านเราไม่ควรใช้เทรนเนอร์ บ้านเรามาโอกาสที่จะต้องใช้เทรนเนอร์มากมายหรืออาจจะมากกว่าสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองที่มีรถราติดขัด ออกซ้อมต่อเนื่องไม่ได้ไม่ว่าเวลาไหน หากเป็นหน้าฝนยิ่งอันตราย ไม่ใช่อันตรายจากถนนลื่นอย่างเดียว ยังอันตรายจากรถที่เสียการควบคุมซึ่งอาจเกิดขึ้นได้
เทรนเนอร์เป็นอุปกรณ์การซ้อมจักรยานที่มีคุณประโยชน์อย่างคาดไม่ถึง สามารถใช้ได้สำหรับทำให้เกิดการซ้อมอย่างต่อเนื่องเพื่อการขี่จักรยานอย่างสนุก ตามพรรคพวกได้ทันในวันหยุดสุดสัปดาห์ ในต่างประเทศนิยมใช้ประกอบการซ้อมทั่วไปเพื่อเพิ่มความแข็งแรงเฉพาะทาง เช่นการซ้อมขึ้นเขาซึ่งหลายแห่งหาเขาแทบจะไม่ได้ การซ้อมสำหรับไทม์ไทรอัล (Time Trial) หรือแม้กระทั่งการซ้อมเพื่อพัฒนาความสามารถทางแอโรบิคของร่างกาย
ผู้ที่ต้องทนอยู่ในกรุงเทพหรือต้องอยู่กับบ้านทำอะไรไม่ได้ในช่วงที่ฝนตก อาจนึกถึงการฝึกซ้อมกับเทรนเนอร์พร้อมๆกับความคิดที่ว่า”มันน่าเบื่อ” แต่ใครจะรู้ว่าตอนที่เรานั่งจิบกาแฟหรือนอนหลับอุตุ เพื่อนของเราบางคนอาจกำลังฝึกซ้อมอยู่กับบ้าน รอเวลที่จะร่วมกลุ่มกับเราในวันหยุดกับพัฒนาการที่ดีขึ้นจนเราตามไม่ทันก็เป็นไปได้ เทรนเนอร์สามารถให้สิ่งที่ดีกว่าที่คนอื่นพูดเยอะ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาด้านพละกำลัง ความทนทานของกล้ามเนื้อ และทักษะของการใช้กำลังที่ดีขึ้น ไม่เพียงแต่มีประโยชน์กับจอมยุทธสุดสัปดาห์เท่านั้น จอมยุทธตัวจริงระดับมืออาชีพที่ติดอยู่ในเมืองใหญ่ หรือติดกับอยู่กับบ้านช่วงหน้าฝนก็สามารถ ฝึกฝนทักษะของการสปริ๊นท์ หรือการฝึกซ้อมแบบอินเทอวัล (Interval) ซึ่งค่อนข้างจะอันตรายหากทำกันบนถนนที่มีรถราแล่นอยู่
ในอดีตนักจักรยานระดับทีมชาติจะใช้เทรนเนอร์ที่เรียกกันว่าลูกกลิ้ง 3 ลูกช่วยในการฝึกซ้อม จนทุกวันนี้นักจักรยานจำนวนหนึ่งก็ยังพิสมัยที่จะใช้ลูกกลิ้งแบบนี้ นัยว่าให้ความรู้สึกที่คล้ายจริงมากที่สุด เพียงแต่ได้ทักษะของเรื่องรอบขากับสมาธิเท่านั้น หากเป็นการฝึกซ้อมชนิดอื่นอาจเกิดอันตรายได้เพราะ ล้อจักรยานที่ตั้งอยู่บนลูกกลิ้งโดยไม่มีอะไรจับยึด ค่อนข้างจะอันตราย เพียงแค่หันหน้าหรือเสียสมาธิเพียงวินาทีเดียวก็มีสิทธิ์กลิ้งได้ ช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านผู้ผลิตหลายรายจึงพยายามพัฒนาอุปกรณ์ที่จะมาแทนที่ลูกกลิ้ง ทำให้คนทั่วไปสามารถฝึกซ้อมจักรยานได้มากขึ้น ไม่จำเป็นต้องเป็นมืออาชีพที่มีความชำนาญ แม้แต่ผู้ที่ต้องการออกกำลังกายอยู่กับบ้านก็สามารถฝึกซ้อมเองได้
ผู้ผลิตเทรนเนอร์รายใหญ่คือ Minoura ได้แนะนำเทรนเอร์หลายรุ่นหลายแบบ แบบที่นิยมมากที่สุดมี 2 แบบคือแบบที่สร้างแรงต้านด้วยแรงเหนี่ยวนำแม่เหล็ก (Magnetic) และแบบสร้างแรงต้านด้วยของเหลว (Fluid)
• แบบแรงต้านเหนี่ยวนำแม่เหล็ก (Magnetic)
มีจุดเด่นที่สามารถปรับความหนืดเป็นขั้นๆได้ ทำให้เทรนเนอร์ชนิดนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการฝึกการขึ้นเขา ฝึกซอยรอบขาสูง ฝึกสปริ๊นท์ หรือแม้กระทั่งฝึกไทม์ไทรอัล สามารถปรับความหนืดได้ตามความต้องการหรือเหมาะสมกับความแข็งแรง การปรับความหนืดของเทรนเนอร์ Minoura จะใช้วิธีปรับมุมของแม่เหล็กเพื่อให้เปลี่ยนแปลงความเข้มของสนามแม่เหล็ก เป็นระบบแบบง่ายๆ หากใช้กับยางหน้าเรียบแล้วเสียงจะค่อยมาก ค่ายยุโรปมีการพัฒนาเทรนเนอร์แบบแรงต้านเหนี่ยวนำโดยใช้กระแสไฟฟ้า ด้วยการปรับค่ากระแสไฟฟ้า เพื่อเพิ่มความเข้มของสนามแม่เหล็ก เทรนเนอร์เหล่านี้มักจะมีอุปกรณ์ช่วยวัดที่สามารถบอกความเร็ว รอบขา กำลังที่ใช้ (watt) รวมถึงการจับเวลา ในขณะที่บ้างแบรนด์สามารถตั้งโปรแกรมการซ้อมเองได้
• แบบแรงต้านจากของเหลว (Fluid)
เป็นเทรนเนอร์ที่โปรค่อนข้างจะนิยมกันมาก มีความเงียบมาก เป็นเทรนเนอร์ที่เงียบมากเพราะแรงต้านได้จากชุดใบพัดที่อยู่ในกระเปาะที่บรรจุด้วยของเหลวประเภทน้ำมันความหนืดสูง ทำให้แรงต้านของเทรนเนอร์ชนิดนี้เพิ่มขึ้นตามอัตราความเร็วรอบขาที่เราปั่น ยิ่งรอบสูงความหนืดยิ่งสูงขึ้นตามไปด้วย เทรนเนอร์ชนิดนี้จึงเหมาะที่จะใช้กับตารางการฝึกซ้อมอินเทอวัลที่ค่อนข้างหนักเพื่อรักษาระดับอัตราการเต้นหัวใจที่ค่อนข้างสูง
http://www.probike.co.th/view_news.php?id=121
Re: ☆☆☆ คำภีร์เสือภูเขา ☆☆☆
โพสต์: 12 ม.ค. 2011, 19:06
โดย NiKee
Re: ☆☆☆ คำภีร์เสือภูเขา ☆☆☆
โพสต์: 13 ม.ค. 2011, 10:21
โดย อู๊ด-พีระ
Re: ☆☆☆ คำภีร์เสือภูเขา ☆☆☆
โพสต์: 13 ม.ค. 2011, 10:35
โดย อู๊ด-พีระ
ครับผม...โอกาสหน้าเชิญใหม่ครับ...เรายังมีเกร็ดความรู้ รอเพื่อนๆอีกเพียบ
Re: ☆☆☆ คำภีร์เสือภูเขา ☆☆☆
โพสต์: 13 ม.ค. 2011, 16:41
โดย อู๊ด-พีระ
Re: ☆☆☆ คำภีร์เสือภูเขา ☆☆☆
โพสต์: 13 ม.ค. 2011, 22:50
โดย hatori11
ขอบคุณมากครับสำหรับ ความรู้ที่มากมาย
Re: ☆☆☆ คำภีร์เสือภูเขา ☆☆☆
โพสต์: 14 ม.ค. 2011, 10:59
โดย อู๊ด-พีระ
59.ฝึกขี่จักรยาน เสือหมอบ (Road Bike) หรือ จักรยานเสือภูเขา (MTB)
ปั่นจักรยานไปเพื่ออะไร
1. ปั่นจักรยานเพื่อเดินทางไปทำงาน หมายถึง คุณใช้จักรยานเป็นพาหนะหลักของคุณในการเดินทางไปที่ต่างๆ ไปทำงานในเมือง หรือต่างจังหวัด ข้อนี้ สิ่งที่ต้องตอบโจทย์แรก คือ 1.ระยะทางเท่าไร 2.ต้องใช้เวลาเท่าไร 3.จักรยานประเภทไหนถึงจะเหมาะ
การฝึกฝน คุณคงไม่ต้องไปฝึกอะไรมาก เมื่อคุณปั่นเป็นประจำนั่นคือการฝึกของคุณอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการร่นระยะเวลาลง ก็ปั่นให้มันเร็วขึ้นเท่านั้นเอง
2. ปั่นเพื่อสุขภาพ หมายถึงคุณต้องการลดน้ำหนัก หรือเพื่อใช้กีฬานี้พัฒนาร่างกายให้มีสุขภาพแข็งแรง แทนที่จะเป็นการออกกำลังกายชนิดอื่น
การฝึกฝน คุณควรจะปั่นจักรยานให้สม่ำเสมอ ไม่ต้องคิดจะไปชนะใคร แค่ชนะใจตัวเองให้ได้ ว่าต้องออกปั่นอย่างน้อย อาทิตย์ละ 3 วัน วันละ ไม่ต่ำกว่า 30 นาที – 1 ชั่วโมง แต่ไม่ควรหักโหมเกินไป กรณีที่คุณมีอายุมาก หรือมีโรคประจำตัว ก็ควรจะปรึกษาแพทย์ด้วยนะครับ
3. ปั่นเพื่อออกทริป ท่องเที่ยว สันทนาการ หมายถึงคุณต้องการใช้จักรยานเป็นพาหนะ เป็นกีฬาออกกำลังกาย เริ่มจริงจังมากขึ้น
การฝึกฝน ควรจะเริ่มมองหากลุ่มเพื่อน ที่ปั่นด้วยกันระแวกใกล้ๆที่พัก เพื่อทำให้การปั่นมาประสิทธิภาพ มีการเปรียบเทียบ มีการแข่งขันเล็กๆภายในกันมากขึ้น ใช้เวลาอย่างมีค่า ในการออกทริปต่างๆกับกลุ่มเพื่อนในวันหยุด ครั้งละ 3-4 ชั่วโมงก็เข้าทีครับ มาถึงระดับนี้เพื่อเป็นการไม่ให้น้อยหน้าเพื่อนๆในกลุ่ม เราก็จะหาเวลาปั่นซ้อมกันเองมากขึ้น วันละ 1-2 ชั่วโมง ควรจะมีวันให้ร่างกายได้พักผ่อนบ้าง อาทิตย์ละ 2-3 วัน
4. ปั่นเพื่อจะเป็น “ขาแรง” เมื่อเข้ากลุ่มมาแล้ว เริ่มมีการแข่งขัน หรืออยากออกทริปปั่นกับกลุ่มอื่นๆ ก็มีอารมณ์อยากจะไปวัดแรงกับกลุ่มอื่นที่ไม่รู้จักบ้าง ขั้นนี้ก็แสดงว่าคุณต้องใส่ใจกับการฝึกซ้อมมากขึ้นแล้วล่ะครับ ยกตัวอย่างออกทริปปั่น 100 กิโล พอผ่านพ้นไป 60-70 กิโล เราโดนทิ้งห่างจากกลุ่มนำเป็นชั่วโมง ไม่มีกำลังใจจะปั่นต่อ อยากขึ้นรถแล้ว 555 ทำไมเราถึงปั่นตามพวกข้างหน้าไม่ทันนะ?
การฝึกฝน ในขั้นนี้จะไม่ใช่การออกปั่นจักรยานแบบ 3 ข้อด้านบนแล้ว คุณต้องเปลี่ยนเป็นคำว่า “ซ้อมปั่นจักรยาน” ให้ตามเป้าหมายที่ว่าคุณสามารถ ออกทริปใหญ่แล้วปั่นไปกับกลุ่มนำได้ หรือไม่โดนทิ้งขาดจนเกินไป อุปกรณ์ที่จำเป็นต้องมีมาเสริมนอกจากไมล์วัดระยะทางแล้ว ก็ควรจะมี ไมล์วัดรอบขา Cadance ไมล์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ Hart rate Monitor เพื่อนำมาประยุกต์ในการซ้อมให้มีประสิทธิภาพและ ตรวจสอบความก้าวหน้าของคุณได้
เวลาที่ใช้ในการฝึกซ้อม ไม่ต่ำกว่า 4 วัน/1สัปดาห์ เวลาอย่างน้อย 1 ชม.ตามตารางที่จัดแตกต่างกันออกไป วันไหนมีเวลามาก เช่นเสาร์ หรืออาทิตย์ ควรจะให้เวลากับการซ้อม 3-4 ชั่วโมง ระยะทาง 80-100 กิโล สำหรับในวันธรรมดา คนที่ไม่สามารถออกจากบ้านหลังเลิกทำงานได้ ก็ควรมี เทรนเนอร์ หรือลุกกลิ้งไว้ฝึกซ้อม อย่างต่ำวันละ 40 นาทีครับ
ตัวผมเองก็ถือว่าฝึกอยู่ในขั้นนี้ที่4 ล่ะครับ ซึ่งในขั้นสุดท้ายคงเป็นระดับ 5 หรือระดับการแข่งขัน ซึ่งผม หรือท่านๆที่มีหน้าที่การงานครอบครัวแล้วคงให้เวลากับมันมากขนาดนักแข่งไม่ได้ แค่มีคนมาเรียกเราว่า “ขาแรง” ก็ปลื้มแล้ว
ข้อดีของ “ขาแรง” สนุกสนานเมื่อไปทริปไหนๆ ก็ยังมีเพื่อนๆ ที่ร่วมทางไปด้วย ไม่ถูกทิ้ง หรือถ้าเราแรงกว่าคนอื่นก็ถนอมแรงมาปั่นไปกับเพื่อนๆได้ ทำให้การปั่นจักรยานของเราสนุกสนานขึ้น นอกเหนือจากนั้นก็คือร่างกาย และหัวใจเราที่แข็งแรงขึ้นไปด้วยนั่นเองครับ
Re: ☆☆☆ คำภีร์เสือภูเขา ☆☆☆
โพสต์: 14 ม.ค. 2011, 11:05
โดย อู๊ด-พีระ
ครับผม!...ขอบคุณครับ...โอกาสหน้าเชิญใหม่ครับ
Re: ☆☆☆ คำภีร์เสือภูเขา ☆☆☆
โพสต์: 14 ม.ค. 2011, 14:29
โดย อู๊ด-พีระ
Re: ☆☆☆ คำภีร์เสือภูเขา ☆☆☆
โพสต์: 14 ม.ค. 2011, 21:36
โดย น้องคอม
ตัองเอาไปฝึกดู