นอกจาก Brooks แล้วก็ยังมีเบาะยุคใหม่ที่น่าสนใจอยู่อีกมากมายครับ แต่ที่วันนี้จะเล่าสู่กันฟังคือเบาะที่ผมเคยดูแล้วน่าสนใจสำหรับตัวผมเอง บางตัวก็น่าสนใจมากถีงขั้นสั่งไปแล้วก็มีครับ นอกจากเป็นเบาะที่น่าใช้บนรถพับก็ยังถือว่าน่าใช้สำหรับรถทั่วๆไปด้วยครับ
เริ่มที่เจ้าแรกก่อนครับ Specialized ครับ ปรกติเวลาพูดถีง Specialized นี่ผมจะเฉยๆนะครับ ก็คิดว่าเป็นแค่จักรยานแบรนด์ธรรมดาอีกเจ้า เหมือน Giant หรือ Cannondale แต่ในตอนที่ผมค้นคว้าเรื่องเบาะนี่ ผมค้นพบว่า Specialized นี่เป็นเจ้าที่สนใจเรื่องการออกแบบ และมีการค้นคว้าอย่างจริงจังเต็มที่ครับ เรียกว่าเปลี่ยนภาพพจน์ที่มองไปเลย หลักการหลายๆอย่างที่ผมเจอในการวัดเบาะ ก็ได้มาจาก Specialized นี่ละครับ บางอย่างเขาก็ถีงขั้นกับจดสิทธิบัตรกันไว้เลยทีเดียว เบาะจาก Specialized แบบรุ่นธรรมดาๆก็ยังดูเต็มไปด้วยเทคโนโลยี่ครับ และก็นั่งสบายมากๆด้วย จากที่เคยลองของเพื่อนมา
ผมสงสัยนิดหน่อยว่าจะสั่งซื้อ Specialized เมืองไทยได้ที่ใหน ลองได้หรือเปล่า และไม่ทราบว่าตัวแทนของ Specialized มีเบาะพวกนี้หรือเปล่า เพราะส่วนใหญ่ผมสั่ง e-bay เอาครับ แต่ถ้าสั่ง Specialized ที่เมืองนอกนี่ลองได้ 30 วันเลยนะครับ ถ้านั่งไม่สบายสามารถคืนหรือเปลี่ยนรุ่นใด้ด้วย ดีจัง ในเมืองไทยผมเห็นแต่ร้าน online สั่งมาขายกัน (เพิ่มเติมครับ ผมพบว่าตัวแทน Specialized มีเบาะเข้ามาขายสองสามรุ่นครับ และเป็นรุ่นที่มีในนี้บ้างเหมือนกัน ถ้าสนใจยังไงติดต่อตัวแทนนะครับ)
ตัวแรกของ Specialized ที่ผมคิดว่าเป็น สุดยอดทั้งในเชิงการออกแบบ คุณภาพและก็ราคาก็คือตัวนี้ครับ
- Romin_evo_expert.jpg (6.66 KiB) เข้าดูแล้ว 3391 ครั้ง
Specialized Romin Evo Expert
เจ้าเบาะตัวนี้ใช้โครงเป็น carbon ครับที่ให้ตัวได้ดีมากๆ แล้วหุ้มชั้น carbon ด้วย Memory Foam บางๆ ทำให้เบามากๆด้วย เบาะของ Specialized ทุกเบาะจะมี Cut Out ครับ ตัวนี้ใช้โครงรางเบาะเป็นไททาเนี่ยมอีกต่างหาก ตัววัสดุหุ้มเบาะก็กันน้ำ และมีแถบกันลื่นอยู่บนขอบสองข้างของร่อง Cut Out ด้วยครับ เบาะ Specialized ทุกรุ่นจะมีขนาดให้เลือกครับ ราคาแบบนี้ได้ เบาะ คาร์บอน กับ ขารางไททาเนี่ยม นี่ บางทีก็รู้สีกว่า Brooks ขายของแอบแพงนะครับ ฮ่าๆ ถ้าเพิ่มอีก $25 นี่จะได้ เบาะรุ่นเดียวกันที่มีขารางเป็น คาร์บอนที่ทำให้น้ำหนักน้อยลงไปอีกประมาณ 30g ครับ (เพิ่มเติมนะครับ แต่ราคาเบาะ Specialized ในไทยพอๆกับ Brooks ครับ)
width 130, 143, 155 mm
weight 199, 205, 212 g
ราคา $120
- toupe_pro.jpg (9.02 KiB) เข้าดูแล้ว 3391 ครั้ง
Specialized Toupe Pro
เบาะตัวนี้ก็โครงเป็น carbon อีกเช่นกันครับ ออกแบบเป็นเบาะแบบ มี Cut Out ที่มี จุดรองรับ Sit Bone ที่เรียบและกว้างพอควรครับ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ เทคโนโลยี่ที่ Specialized เรียกว่า Adaptive Edge ซี่งจากที่อ่านมาทำตัวคล้ายๆการให้ตัวของหนัง ของเบาะ Brooks ครับ คือใช้ไปแล้วสักพักตัวเบาะมันจะปรับรูปร่างด้านข้างให้เข้ากับผู้ใช้เอง ตัวรางเบาะตัวนี้เป็น คาร์บอนนะครับ Adaptive Edge มีอยู่ในเบาะแค่สองรุ่นของ Specialized ก็คือตัวนี้แล้วก็อีกตัวที่ชื่อ Ruby Pro ซี่งเป็นเบาะเฉพาะของผู้หญิงครับ
เบาะ Specialized ที่มีขารางเป็นคาร์บอนทุกรุ่นจะมีขารางหน้าตัดเป็นรูปวงรีซี่งมีขนาดใหญ่กว่าปรกติ ซี่งจะใช้กับ หลังอานที่มีที่หนีบรางเบาะข้างๆไม่ใด้นะครับ จะใช้ได้แต่กับหลังอานที่มีที่หนีบจากด้านบนเท่านั้น (ตัว Thudbuster ใช้ได้ครับ) ตัว Toupe Pro นี่ก็เหมือนกันครับ
width 130, 143, 155 mm
weight 154, 159, 165 g
ราคา $145
- henge_expert.jpg (5.66 KiB) เข้าดูแล้ว 3391 ครั้ง
Specialized Henge Expert
อีกเช่นเคยครับ Henge เป็นเบาะที่โครงสร้างทำจาก Carbon (จริงๆแล้วเท่าที่ดูมาผมยังไม่เจอ เบาะตัวใหนของ Specialized ที่ไม่ใช้ Carbon เลยครับ แต่ไม่ใด้ดูหมดทุกรุ่น) Henge เป็นเบาะที่ถูกออกแบบมาให้ใช้กับเสือภูเขา แบบ XC ครับ เลยแทนที่จะมี Cut Out ทะลุลงไปเหมือนเบาะสองตัวแรก Henge จะแค่เป็นช่องเว้าลงไปในเบาะเท่านั้นครับเพื่อกันโคลนหรือสิ่งสกปรกกระเด็นขี้นมา หน้าตาเบาะตัวนี้ดูไม่ Hightech เท่าพี่น้องในตระกูล Specialized ด้วยกัน แต่จากรีวิวทุกอันที่อ่านมายังไม่มีใครบอกว่านั่งไม่สบายเลยครับ Henge Expert รางเป็นไททาเนี่ยมเหมือนกัน นอกจาก ตัว Expert ยังมี Henge Pro อีกรุ่นที่เพิ่มแค่ $15 ได้รางคาร์บอนแล้วน้ำหนักลดไป อีก 40 g ครับ ตัวนี้เป็นตัวที่ผมหมายตาไว้ เพราะน่าจะดีสำหรับเวลาฝนตกที่เมืองไทยพอสมควร
Width 130, 143, 155 mm
Length 267 mm
Weight 212, 221, 230 g
ราคา $130
นอกจากสามรุ่นนี้ยังมีรุ่น Phenom อีกรุ่นนีงนะครับที่ถูกออกแบบให้ใช้กับการแข่ง MTB XC แต่จากรีวิวเกือบทุกคนจะบอกว่า Toupe Pro นั่งสบายกว่าครับ เบาะ Specialized ยังมีอีกมากมายครับ แต่ตัวที่ผมดูๆว่าน่าสนใจก็มีสามตัวนี้เท่านั้น
เจ้าถัดมานี่น่าสนใจนะครับ ผมจะพูดสองแบรนต์พร้อมๆกัน แบรนด์นี้ก็คือ Sella Royal นั่นเอง Sella Royal นี่เป็น แบรนด์ของ อิตาลี่ที่ตั้งมาตั้งแต่ 1956 ครับ แต่ก็สู้กับอีกสองเจ้าคือ Sella Italia และก็ San Marco ไม่ใด้ในช่วงแรกๆในตลาดอิตาลี่ ผลสุดท้าย Sella Royal ก็เลยตั้งบริษัทลูกขี้นมาอีกบริษัทที่ชื่อ Fizik เข้ามาแข่งกับสองเจ้านั้นครับ น่าสนใจมากในเชิงกลยุทธ์นะครับ พอตั้งขี้นมาบริษัทก็เริ่มเจริญรุ่งเรืองครับ สิ่งที่น่าสนใจไปกว่านั้นก็คือในปี 2002 Sella Royal ก็ซื้อ Brooks เข้ามารวมด้วย ใช่แล้วครับ Fizik กับ Brooks จริงๆตอนนี้มีเจ้าของเดียวกัน มันเลยเกิดที่มาที่น่าสนใจครับ ลองมาดู เบาะจาก Fizik และ Sella Royal กันครับ มีน่าสนใจหลายตัวทีเดียว
- sedlo-fizik-kurve-bull_4c73bfa39e49885fc314f4517469583b.jpg (29.33 KiB) เข้าดูแล้ว 3391 ครั้ง
Fizik ตัวแรกที่อยากพูดถีง ก็คือ Kurve series ครับ สิ่งที่น่าสนใจคือ Fizik ทำการ research เบาะ series นี้ร่วมกับทีม R&D ของ Brooks ซึ่งอาจจะพูดได้ว่า นี่คือ เบาะแบบ Brooks ที่สร้างด้วยเทคโนโลยี่ใหม่ก็ว่าได้ครับ ถ้าเราพลิกเบาะดูข้างหลังก็จะเห็นว่าหน้าตามันละม้ายคล้าย Brooks ครับ เจ้าตัว Kurve ทุกรุ่นจะมี โครงรางอลูมิเนียมที่ไปวนเป็นวงกลมอยู่ข้างหลังเพื่อหนุนโครงเบาะด้านหลังทำหน้าที่เทียบเท่ากับ suspension ในการดูดซับแรงสั่นสะเทือนซี่งถือว่าออกแบบมาเพื่อเสริมความสามารถในการให้ตัวของโครงสร้าง ส่วนตัววัสดุเบาะแทนที่จะใช้หนังเหมือนกับ Brooks เจ้า Kurve นี่จะใช้แผ่นไฟเบอร์ของตัวเองที่ชื่อ TwinFlex Shell ซ้อนเป็นชั้นๆโดยมีชั้นนอกเป็น carbon ส่วนชั้นในเป็น Kevlar ผสมคาร์บอน และมีการวางชั้นบางกว่าปรกติตรงจุดรองรับ Sit Bone และ ร่องที่เกือบจะเหมือน Cut Out ตามรูปครับ
- kurve_under.jpg (20.6 KiB) เข้าดูแล้ว 3391 ครั้ง
ถ้าดูเบาะ Kurve รุ่น Bull ในรูปแรกจากด้านข้างแล้วลองเลื่อนขี้นไปดูโพสต์เก่าของผมตอน Brooks B17 ก็คงต้องตกใจละครับว่ามันช่างเหมือนกันเสียจริงๆในเชิงของมุมของเบาะด้านข้าง แต่สิ่งที่ Kurve แตกต่างก็คือตัวเบาะจะเป็นรูปโดมมากกว่าซี่งก็จะทำตัวเหมือนเป็นสปริงรองรับการนั่งอยู่ เมื่อรวมกับวัสดุ TwinFlex ที่ใช้ สิ่งที่ได้จากวิธีออกแบบก็คือ เวลาเรานั่งส่วนที่ให้ตัวได้ของเบาะก็จะยุบตัวมารับกับสรีระของคนนั่งแต่ละคนโดยไม่ต้องรอ Break In เหมือนของ Brooks ครับ ตัวเบาะเองก็ยังสามารถปรับอ่อนแข็งได้โดยการเปลี่ยนชิ้นส่วนของจมูกเบาะอีกด้วย
ด้านข้างของ Kurve มีแถบยางที่มีการกรีดให้มีแรงเสียดทานต่ำซี่งเป็นเทคโนโลยี่ที่ชื่อ WingFlex ที่ใช้กันอยู่ในหลายๆรุ่นของเบาะ Fizik ด้วยครับทำให้ปั่นสบายไม่มีความเจ็บปวดจากการเสียดสีกับบริเวณข้างเบาะ
เบาะ Kurve มีสามรุ่น คือ Snake, Chameleon และ Bull เจ้า Snake นี่สำหรับเสือหมอบ ส่วน Chamelon ก็สำหรับคนที่มีท่าการขี่แบบกลางๆในขณะที่ Bull จะเป็นเบาะสำหรับคนที่ขี่นั่งตัวตรงครับ ในความเห็นผม Bull มี Profile คล้ายๆ Swift กับ B17 รวมกันแต่เบากว่าแยะ และมีข้อดีตรงกันน้ำและไม่ต้องรอ break in ด้วย น่าใช้ชนาดนี้ราคาก็เลยขี้นไปพอๆกับ Brooks Swift ครับ ก็ถือได้ว่าเกือบๆจะเป็นเบาะที่ perfect เลยทีเดียวสำหรับใช้แทน Brooks สำหรับผมนี่ไม่รู้ว่า 146 mm นี่เล็กเกินไปหรือเปล่าสำหรับตัวเอง แต่เป็นเบาะตัวหนี่งที่อยากลองมากทีเดียวครับ แต่นี่มันก็แค่อ่านๆมานะครับ ของจริงคงต้องลอง
Width 135, 144, 146 mm (snake, chameleon, Bull)
Length 294, 278, 265 mm
Weight 220 g
ราคา $230
ข้อดี: เบา, นั่งสบาย (จากรีวิวต่างประเทศ), ให้ feeling น่าจะคล้ายๆ Brooks จากโครงสร้างและเจตนาการทำ , มี Wingflex, ปรับความนุ่มแข็งได้, กันน้ำ, ไม่ต้องรอ break in
ข้อเสีย: ราคาสูงพอสมควรครับ
เดี๋ยวมาต่อ Fizik ตัวอื่นกันตอนหน้าครับ