จะปั่นรถพับไล่เสือหมอบ

ถ้าเป็นรถหรืออุปกรณ์ที่ออกแบบมาเป็นของ"รถพับ" โดยเฉพาะ เชิญเข้าห้องนี้ครับ
รูปประจำตัวสมาชิก
Pisit sirichote
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4206
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 พ.ย. 2011, 09:28
Tel: 085 534 1078
team: ไม่มี
Bike: Trek 930 , Da Bike USA , Giant morph , Dahon Mu P24 , KHS F20t3f
ตำแหน่ง: เดอะนอร์ทเทิร์นทาร์วรังสิต

Re: จะปั่นรถพับไล่เสือหมอบ

โพสต์ โดย Pisit sirichote »

ขอบคุณมากครับ
เท่าที่มองว่าาจะใส่จานหน้าของ Lite Pro แบบ 2 จาน เห็นมีขนาด 39 กับ 53 ครับ
รูปประจำตัวสมาชิก
Cookiebike
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 2441
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ค. 2012, 19:58
team: Bkkwheels
Bike: รถที่ผ่านมือ Trek 4300 /Dahon P8/Dahon Dove/Tern Verge Duo /Dr. hon MU Duo/Bike Friday tikit/กำลังทำรถพับทัวร์ริ่งปีนเขา/Crius 14"

Re: จะปั่นรถพับไล่เสือหมอบ

โพสต์ โดย Cookiebike »

yellowjerseycycling เขียน:
Cookiebike เขียน:
yellowjerseycycling เขียน:ความเห็นนะครับ เชิญทักท้วงได้ถ้าไม่ถูกต้อง
ผมขี่ทั้ง 451 และ 700 ทำรถไปซักพักนึงพบว่า
ขี่700ได้เท่าไหร่ก็ขี่ 451 ได้เท่านั้นขึ้นอยู่กับเซ็ทรถมาให้ขี่ได้เท่าไหร่
เราสามารถชดเชยรอบจัดของล้อเล็กได้ด้วยการทดเกียร์เพิ่ม
ถ้าทดเกียร์มาไม่พอให้ได้ความเร็วเดียวกับหมอบยังไงก็ไล่เค้าไม่ทัน
ถ้าทดมาพอแล้วยังไล่ไม่ทันก็แปลว่าเค้าแรงกว่าเรา ไม่ได้อยู่ที่รถ
ลองดูภาพแรกประกอบนะครับ

แปลว่า mini ทำ 45kg/hr ได้ที่รอบขา 90
สำหรับคนที่ขี่รถมีวัดรอบขาจะรู้ว่ารอบขา 90 ไม่ได้โหดเท่าไหร่
ยิ่งพวกรถพับขาแรง ยืนรอบขา 100ได้สบายๆ

ภาพที่สองนะครับ ออกทริปยืนความเร็วที่ 37km/hr
miniในภาพนี้เปลี่ยนจานเป็น 56 นะครับเพราะดูจะหาได้ง่ายกว่า
จะเห็นว่าจาน 56 เฟืองหลัง 13 ก็สามารถทำได้แล้วที่รอบขา 90
(ผมใช้ 90 เพราะเป็นรอบขาถนัดของผมอะครับ :P )
ถ้าต้องการรอบขาต่ำกว่านี้เราก็ยังเหลือ 12, 11 อีกสองเบอร์
แต่ก็จะหนักขึ้นอีกนิดหน่อยตามความถนัดและความชอบของแต่ละคน
เมื่อเทียบกับหมอบ(ล้อ 700)ที่ใช้ 50/15 รอบขา 90 ทั้งสองคัน
ออกแรงเท่ากันได้ความเร็วที่ใกล้เคียงกัน

ดูแล้วพับ/mini น่าจะวิ่งกับหมอบที่ความเร็วเดินทางได้ ถ้าคนขี่แรงเท่ากันและทำรถมาได้เหมาะสม
ที่น้ำหนักรถและคนขี่ที่ใกล้เคียงกัน

แต่ถ้ามาแข่งกันยังไงหมอบก็เร็วกว่าเพราะล้อเล็กจะถึงmax รอบขาก่อน

มีใครเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยยังไงไม๊ครับ???
app ตัวนี้ต้องอัพเกรดครับ ถึงจะมีฟังก์ชั่นเทียบละเอียดกว่านี้ ในรูปที่ลงไม่ได้มีค่า GI ที่เป็นตัวสำคัญในการกำหนดความหนักเบาในการปั่น แค่เพิ่ม 1 ฟันหลังเข้ามา GI ก็กระโดดไป 5-7 ได้เลยครับ ยังมีเรื่องปั่น 1 รอบขารถไหลไปได้กี่เมตรเข้ามาด้วย ยังไงรถล้อใหญ่กว่ามากๆ แบบนี้ก็ใช้แรงต่างกันครับ ความเร็วทำได้เท่ากันก็จริง แต่ยืนระยะใช้แรงมากกว่าแน่นอน

แต่ถ้า 406 กับ 451 นี่ไม่ได้ต่างกันมากแบบที่คิด
ขอบคุณครับเดี๋ยวจะไปลอง upgrade app ดู

ในความเข้าใจของผม 451 กับ 700 ที่รอบขาเท่ากันได้ความเร็วเท่ากันน่าจะใช้แรงกดเท่ากัน??? รึเปล่าครับ??? เพราะว่าเกียร์กะล้อ compensate ความแตกต่างของรถทั้งสองคันแล้ว ว่ากันง่ายๆก็คือ "จานหน้าใหญ่ใส่ล้อเล็กน่าจะหนักเท่ากับจานหน้าเล็กใส่ล้อใหญ่(ที่เฟืองหลังเท่ากันนะครับ)"

รถใครวิ่งได้เท่าไหร่แล้วหมดนี่ลองลงรายละเอียดรถแล้วคุยกันดีกว่าครับ ผมเชื่อว่าหลายๆคนที่บอกว่า 30นิดๆก็หมดแล้วเนี่ย น่าจะเป็นที่set up ของเกียร์ครับเพราะmini/พับ standard นีเค้าทำมาให้ขี่เล่นสบายๆไม่ใช่เอาไว้ไล่รถใหญ่ แล้วที่ว่าหมดนี่ก้อต้องดูที่ว่า หมดแรง :D หรือเกียร์หมดด้วยนะครับ

เรื่องของการขี่ "รอบจัดเบาขากับรอบต่ำหนักขา" น่าจะเป็นstyleของใครของมัน คนที่ฝึกมามีกล้ามเนื้อขาที่แข็งแรงก็จะสามารถกดหนักได้ดี คนที่ฝึกรอบขาสูงมาก็จะควงไปได้เรื่อยๆ ผมแนะนำให้ทุกคนมีวัดรอบขา+heart rate sensor ครับไม่ต้องแพงมากก็ได้4000กว่าบาทก็น่าจะได้ cateyes ที่มี HR แล้ว มันจะช่วยให้เรารู้ว่าเมื่อไหร่เราควรจะพอ รู้จักออมแรง และแบ่งเวลาพักหรืออัดเต็ม โดยเฉพาะคนสูงอายุที่ชอบอัดแล้วคิดว่าตัวเองไหว(เช่นผมเป็นต้น :lol: ) HR จะเป็นตัวคอยเตือนว่าเกินตัวแล้วชลอเถอะ อีกอย่างคือว่ามันจะช่วยให้เราซ้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นครับ

ไม่เท่ากันแน่นอนครับ เพราะค่า GI คือเอาอัตราทดเฟืองหลังมาคูณด้วยขนาดล้อ ผมก็ไม่ใช่วิศวะเลยไม่รู้ว่าสูตรมันมีทีีมาหลักการคิดยังไง แต่มันถูกต้องตามนี้แน่นอนครับ ล้อยิ่งใหญ่ GI ยิ่งสูง ลองอัพเกรดแอพดูก็ได้ครับ จะเห็นค่าที่สำคัญกับเรื่องนี้อีกมากอย่างระยะทางต่อ 1 รอบขาว่าไปได้เท่าไหร่ ตรงนี้มันเป็นตัวที่ทำให้เห็นว่าต่างกันชัดเจนขึ้น แต่ไม่ใช่ว่ารถใหญ่จะได้เปรียบเสมอไปหรอกนะ เพราะรถเล็กอัตราเร่งไวกว่ามาก (ระยะเวลาสปรินใช้เวลาน้อยกว่า)

ส่วนเรื่องน้ำหนักรถมันมีผลแน่ๆ ครับ คิดกันง่ายๆ เลยถ้าคนหนักเท่ากันแต่รถไม่เท่ากัน แล้วให้ปั่นขึ้นเนินที่มีแรงฉุดรถไหลกลับตลอดเวลา ถามว่ารถคันไหนจะต้องออกแรงมากกว่า ลองคิดดูก็น่าจะได้คำตอบ หรือถ้าใครไม่เชื่อก็เอาของหนักๆ สัก 5 กิโลติดแร็คแบกขึ้นเนินสูงในระยะทางที่ทดสอบได้นาน กับรถคันเดิมเปล่าๆ ดู ถ้าให้ดีติดวัดรอบขาไว้ด้วยจะเห็นชัดว่าแรงตกแค่ไหน แต่มันก็แล้วแต่คนกับรถด้วย หลายคนขี่รถหนักๆ มาจนชิน แบกเพิ่มมากหน่อยก็ไม่รู้สึก แต่ถ้าลองมาขี่รถเบานี่ขี่ตัวปลิวแน่นอน

ส่วนเรื่องที่ว่าลดน้ำหนักคนดีกว่าไม่เปลืองตัง มันก็จริงครับ แต่สำหรับนักแข่งเขามีลิมิตกล้ามเนื้อไขมันที่ต้องใช้ ทุกคนเขาลดมาให้พอดีไม่มีส่วนเกินอยู่แล้วแรงจะได้ไม่ตก ทีนี้ลดอะไรเพิ่มได้ก็ต้องเอาหมด น้ำหนักจักรยานก็เป็นเรื่องที่ต้องทำเหมือนกันเพื่อความต่างที่จะนำมาสู่ชัยชนะ ส่วนเราๆ ท่านๆ จะเลือกลดอะไรก็แล้วแต่งบละกัน
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 4&t=839658
เทสต์กล้อง Gopro Hero 3+ Black Edition /Garmin Edge 510/DashWare
รูปประจำตัวสมาชิก
pantoffski
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 142
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ม.ค. 2013, 23:32
team: ทีมพี่ล้ง
Bike: LA Urbano TBT, Strida จีน

Re: จะปั่นรถพับไล่เสือหมอบ

โพสต์ โดย pantoffski »

เรื่องล้อ 451 กับ 700 ที่รอบขาเท่ากันได้ความเร็วเท่ากันน่าจะใช้แรงกดเท่ากัน?
ผมคิดแบบฟิสิกส์มัธยมนะครับ...
การปั่นที่ความเร็วคงที่ก็คือใส่แรงไปให้พอทำลายแรงต้านในระบบให้มันหมดพอดีกัน รถก็จะไม่มีความเร่งหรือหน่วง
จากที่เราเรียนกันมาว่าพลังงานมันเปลี่ยนรูปไปมาได้ เอาแค่เรื่องดุมก็บอกได้ว่าเสียงคลิ๊กๆๆของดุมล้อก็เป็นการเสียพลังงานรูปแบบนึง
ดังนั้นดุมเดียวกัน ที่ gi เท่ากัน ล้อเล็กกว่ามันก็คลิ๊กๆๆหลายครั้งกว่าในการควงบันได 1 รอบ พลังงานที่ต้องเติมให้ระบบในส่วนนี้ล้อเล็กต้องเติมมากกว่า
ถ้าเอาเรื่องแรงต้านจากลมไปคิด คันไหนท่านั่งต้านลมมากกว่าก็ต้องเติมมากกว่า
จะเอาละเอียดก็คงต้องไปดูวัสดุศาสตร์,วิเคราะห์ tensor,ฯลฯ กันอิลุงตุงนังครับ

แอบเห็นต่างเรื่อง gi หน่อยครับพี่คุ๊กกี้
ถ้าเป็นระบบในอุดมคติ ไม่มีความฝืดในระบบขับเคลื่อน ไม่มีแรงต้านลม,ความสะเทือนจากพื้น gi เท่ากัน ผมว่าใช้แรงเท่ากันครับ เพราะ gi มันสัมพันธ์กับขนาดล้อ,เฟืองท้ายและจานหน้า ไม่ใช่ล้ออย่างเดียวหนิครับ ?!?
ผิดถูกยังไงช่วยทักท้วงหน่อยนะครับผม :mrgreen:
รูปภาพ

ส่วนเรื่องน้ำหนักรถในส่วนของนักกีฬาผมเห็นด้วยเต็มๆเลยครับ
คือเรื่องแต่งรถที่มีเข็มมุ่ง (เบา,เร็ว,สวย,สบาย,ฯลฯ) สำหรับผมน่าชื่นชมและน่าติดตามทั้งหมดครับ
แต่รู้สึกไม่ดีกับกรณีที่อยากปั่นเร็วขึ้นแต่ไม่ซ้อมแล้วดันไปเลือก upgrade รถเป็นทางเลือกแรกหน่ะครับ
(ไม่ได้ว่าพี่อู๊ดนะครับ ท่านนั้นก็ออกกำลังเป็นประจำ ผมเห็นกระทู้อื่นแกก็ตอบดีออกครับ)
รูปประจำตัวสมาชิก
Pisit sirichote
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4206
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 พ.ย. 2011, 09:28
Tel: 085 534 1078
team: ไม่มี
Bike: Trek 930 , Da Bike USA , Giant morph , Dahon Mu P24 , KHS F20t3f
ตำแหน่ง: เดอะนอร์ทเทิร์นทาร์วรังสิต

Re: จะปั่นรถพับไล่เสือหมอบ

โพสต์ โดย Pisit sirichote »

Pisit sirichote เขียน:ขอบคุณมากครับ
เท่าที่มองว่าาจะใส่จานหน้าของ Lite Pro แบบ 2 จาน เห็นมีขนาด 39 กับ 53 ครับ
ขอถามเพิ่มเติมสักนิดครับ ขนาดจานที่ Mu P24 คันที่ชนะที่ 1 ที่สุพรรณบุรี ใช้จานหน้าย่ีห้อ ขนาดของจาน ขาจานยาวเท่าไรครับ
Shifter ใช้ของอะไรและติดตั้งตรงจุดไหนครับ ขอบคุณมากครับ
รูปประจำตัวสมาชิก
ข้าวหอม's Daddy
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 443
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 พ.ค. 2013, 02:35
Bike: Dr.Hon Jifo, Dahon 30th Anniversary, BMC SLR02

Re: จะปั่นรถพับไล่เสือหมอบ

โพสต์ โดย ข้าวหอม's Daddy »

ผมสรุปตามความเข้าใจผมแบบนี้ครับ...ผิดพลาดอย่างไรก็ขออภัยด้วย

1. รถคันเดียวกัน อัตราทดเท่ากัน (แต่อาจจะขึ้นจานหน้าต่างกัน) จะใช้แรงในการปั่นเท่ากัน ความหนักเบารอบขาเท่ากัน ที่ความเร็วเดียวกัน

2. รถต่างชนิดกันต้องดูค่า G.I. เช่น Jifo 16" 39T/10T อัตราทด = 3.9 คูณ 16" ได้ค่า G.I. 62.4
Dahon 20" ถ้าขี่ที่อัตราทดเดียวกันคือ 3.9 ความหนักของรอบขาจะมากกว่าพอสมควร หากต้องการปั่นที่ความหนักของรอบขาใกล้เดียงกัน อัตราทดต้องต่ำกว่าเช่น 56T/17T = 3.29 คูณ 20" ได้ค่า G.I. = 65.8

3. Geometry มีผลต่อการส่งผ่านแรงจากคนไปยังรถได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด เสือหมอบมักจะได้เปรียบรถพับมี size ที่ฟิตกับคนขี่

4. ความแอโร่ ... ทั้งรถและคน ท่าปั่น อุปกรณ์ต่างๆ รวมไปถึงหมวกันน็อค ใครแอโร่กว่าคนนั้นได้เปรียบ

5. น้ำหนัก... เบากว่า (แต่ต้อง stiff) ได้เปรียบ

โดยทั่วไป... หากคนขี่คนเดียวกัน เสือหมอบจึงได้เปรียบรถพับ โดยเฉพาะการขี่ระยะไกล เพราะมีหลายปัจจัยที่ได้เปรียบ ยกเว้นว่ารถพับจะสามารถลดข้อจำกัดต่างๆเช่น geometry aero weight ให้อยู่ในระดับเดียวกับหมอบ และใช้อัตราทดช่วยเพื่อให้ได้ค่า G.I. ที่ใกล้เคียงหมอบ ถึงจะพอแข่งกับหมอบได้ครับ
The bicycle is the noblest invention of mankind. ~ William Saroyan Nobel prize winner
รูปประจำตัวสมาชิก
nguang4
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 143
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 พ.ค. 2013, 20:42
Tel: 098-5622945
team: โอเลี้ยง
Bike: dahon vector x27h,trek 1.2,colnago ace,giant propel advance3, trek emonda sl,giant tcr sl,trek domane slr
ตำแหน่ง: 246 หมู่บ้านสิทธารมย์ ซ.11/1 ถ.รอบเมือง ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี 41000

Re: จะปั่นรถพับไล่เสือหมอบ

โพสต์ โดย nguang4 »

วันนี้จากอุดรไป อ.หนองหาน กับเพื่อนขี่หมอบ2คัน ขาไปยังสดเลยทำเวลาดีกว่า
รูปภาพ
ขากลับแรงถอยประกอบกับมืดพอดีเลยครับ
รูปภาพ
ผมว่าซื้อรถที่อยากได้แล้วขี่ให้สนุกขี่หนักขี่เบาอยู่ที่ตัวเราไหว เอาให้คุ้ม แค่นี้ก็มีความสุขกับการขี่จักรยานได้สุดๆแล้วครับ ผมสูง 173 หนัก80 อายุ38ครับ
ซื้อที่ใช่ ใช้ที่ชอบครับ
รถผมไม่เน้นเบาเน้นมัน น้ำหนักรถปัจจุบัน 13กิโลเป๊ะ
สรุปว่า เพื่อนหมอบ2ลำถึงเส้นชัยก่อนผมคนแรก500เมตร คนที่สอง300เมตร ไม่เคยถึงก่อนหมอบเลยครับ
รูปประจำตัวสมาชิก
ข้าวหอม's Daddy
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 443
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 พ.ค. 2013, 02:35
Bike: Dr.Hon Jifo, Dahon 30th Anniversary, BMC SLR02

Re: จะปั่นรถพับไล่เสือหมอบ

โพสต์ โดย ข้าวหอม's Daddy »

ปกติปั่นกันกี่โมงครับ สภาพเส้นทางมีขึ้น/ลงเนินบ้างมั้ย รถยนต์เยอะมั้ย มีพักดื่มน้ำบ้างมั้ยครับ ดูน่าสนุกดีครับ ทำความเร็วได้ดีมากครับ
The bicycle is the noblest invention of mankind. ~ William Saroyan Nobel prize winner
รูปประจำตัวสมาชิก
nguang4
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 143
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 พ.ค. 2013, 20:42
Tel: 098-5622945
team: โอเลี้ยง
Bike: dahon vector x27h,trek 1.2,colnago ace,giant propel advance3, trek emonda sl,giant tcr sl,trek domane slr
ตำแหน่ง: 246 หมู่บ้านสิทธารมย์ ซ.11/1 ถ.รอบเมือง ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี 41000

Re: จะปั่นรถพับไล่เสือหมอบ

โพสต์ โดย nguang4 »

เวลาประจำล้อหมุน 17:00 ครับ วันนี้เพื่อนพาไปเส้นอุดร-หนองหาน มีผมคนเดียวที่ไม่เคยไปถึง นี่ครั้งแรก รถมีเป็นพักๆไหล่ทางกว้างพอประมาณไม่ค่อยอันตรายเท่าไหร่ครับ เส้นทางเป็นเนินขึ้นลงยาวๆประมาณ4-5เนิน สำหรับผมขี่รถพับมักแพ้เนินโดนทิ้งตอนนี้ทุกที แต่ไปไล่คืนตอนลงเนินเอาครับ ถนนโล่งลมค่อนข้างแรง แล้วแต่วัน ปกติจะไปปั่นเส้นอุดรหนองคายกับพี่ๆกลุ่มหมอบครับ ผมแรงหมดกลับรถก่อนประจำ เพิ่งจะเกาะกลุ่มตั้้งแต่ต้นจนจบครั้งแรกก็เมื่อวานนี่เอง กลุ่มผมและเพื่อนๆจะมี4-5คน จะไปอาศัยดูดกับกลุ่มพี่เค้า รุ่น 50-60 ขี่กันอึดมากเกาะกันตั้งแต่ต้นจนจบเลยครับ วันไหนได้มาอุดรมาปั่นด้วยกันครับ โทรมาได้เลยครับ
kook777
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 159
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ม.ค. 2013, 12:15
team: เสือพับครยก
ตำแหน่ง: ข/3-465 ถ.พาณิชย์เจริญ อ.เมือง จ.นครนายก 26000
ติดต่อ:

Re: จะปั่นรถพับไล่เสือหมอบ

โพสต์ โดย kook777 »

nguang4 เขียน:เวลาประจำล้อหมุน 17:00 ครับ วันนี้เพื่อนพาไปเส้นอุดร-หนองหาน มีผมคนเดียวที่ไม่เคยไปถึง นี่ครั้งแรก รถมีเป็นพักๆไหล่ทางกว้างพอประมาณไม่ค่อยอันตรายเท่าไหร่ครับ เส้นทางเป็นเนินขึ้นลงยาวๆประมาณ4-5เนิน สำหรับผมขี่รถพับมักแพ้เนินโดนทิ้งตอนนี้ทุกที แต่ไปไล่คืนตอนลงเนินเอาครับ ถนนโล่งลมค่อนข้างแรง แล้วแต่วัน ปกติจะไปปั่นเส้นอุดรหนองคายกับพี่ๆกลุ่มหมอบครับ ผมแรงหมดกลับรถก่อนประจำ เพิ่งจะเกาะกลุ่มตั้้งแต่ต้นจนจบครั้งแรกก็เมื่อวานนี่เอง กลุ่มผมและเพื่อนๆจะมี4-5คน จะไปอาศัยดูดกับกลุ่มพี่เค้า รุ่น 50-60 ขี่กันอึดมากเกาะกันตั้งแต่ต้นจนจบเลยครับ วันไหนได้มาอุดรมาปั่นด้วยกันครับ โทรมาได้เลยครับ
เริ่มเข้าที่แล้วครับ ทีนนี้หมอบจะเริ่มหนีไม่ออกแล้ว หมอบไปไหน พับไปด้วย
นาย ธีรวัฒน์ บุษราคัมวดี
เลขบัญชี 305-041367-7 ธนาคารกรุงเทพ
บัญชี ออมทรัพย์ สาขานครนายก
day_dodge@yahoo.co.th
facebook/กุ๊ก ธีรวัฒน์ บุษราคัมวดี
081-4492269
รูปประจำตัวสมาชิก
Cookiebike
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 2441
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ค. 2012, 19:58
team: Bkkwheels
Bike: รถที่ผ่านมือ Trek 4300 /Dahon P8/Dahon Dove/Tern Verge Duo /Dr. hon MU Duo/Bike Friday tikit/กำลังทำรถพับทัวร์ริ่งปีนเขา/Crius 14"

Re: จะปั่นรถพับไล่เสือหมอบ

โพสต์ โดย Cookiebike »

pantoffski เขียน:เรื่องล้อ 451 กับ 700 ที่รอบขาเท่ากันได้ความเร็วเท่ากันน่าจะใช้แรงกดเท่ากัน?
ผมคิดแบบฟิสิกส์มัธยมนะครับ...
การปั่นที่ความเร็วคงที่ก็คือใส่แรงไปให้พอทำลายแรงต้านในระบบให้มันหมดพอดีกัน รถก็จะไม่มีความเร่งหรือหน่วง
จากที่เราเรียนกันมาว่าพลังงานมันเปลี่ยนรูปไปมาได้ เอาแค่เรื่องดุมก็บอกได้ว่าเสียงคลิ๊กๆๆของดุมล้อก็เป็นการเสียพลังงานรูปแบบนึง
ดังนั้นดุมเดียวกัน ที่ gi เท่ากัน ล้อเล็กกว่ามันก็คลิ๊กๆๆหลายครั้งกว่าในการควงบันได 1 รอบ พลังงานที่ต้องเติมให้ระบบในส่วนนี้ล้อเล็กต้องเติมมากกว่า
ถ้าเอาเรื่องแรงต้านจากลมไปคิด คันไหนท่านั่งต้านลมมากกว่าก็ต้องเติมมากกว่า
จะเอาละเอียดก็คงต้องไปดูวัสดุศาสตร์,วิเคราะห์ tensor,ฯลฯ กันอิลุงตุงนังครับ

แอบเห็นต่างเรื่อง gi หน่อยครับพี่คุ๊กกี้
ถ้าเป็นระบบในอุดมคติ ไม่มีความฝืดในระบบขับเคลื่อน ไม่มีแรงต้านลม,ความสะเทือนจากพื้น gi เท่ากัน ผมว่าใช้แรงเท่ากันครับ เพราะ gi มันสัมพันธ์กับขนาดล้อ,เฟืองท้ายและจานหน้า ไม่ใช่ล้ออย่างเดียวหนิครับ ?!?
ผิดถูกยังไงช่วยทักท้วงหน่อยนะครับผม :mrgreen:
รูปภาพ

ส่วนเรื่องน้ำหนักรถในส่วนของนักกีฬาผมเห็นด้วยเต็มๆเลยครับ
คือเรื่องแต่งรถที่มีเข็มมุ่ง (เบา,เร็ว,สวย,สบาย,ฯลฯ) สำหรับผมน่าชื่นชมและน่าติดตามทั้งหมดครับ
แต่รู้สึกไม่ดีกับกรณีที่อยากปั่นเร็วขึ้นแต่ไม่ซ้อมแล้วดันไปเลือก upgrade รถเป็นทางเลือกแรกหน่ะครับ
(ไม่ได้ว่าพี่อู๊ดนะครับ ท่านนั้นก็ออกกำลังเป็นประจำ ผมเห็นกระทู้อื่นแกก็ตอบดีออกครับ)
ตามนั้นล่ะครับ ที่บอกไปก่อนนี้หมายถึงว่าถ้าอัตราทดเดิมๆ แต่เพิ่มขนาดล้อ GI มันจะสูงขึ้นๆ เห็นหลายคนเวลาเปลี่ยนรถมักคิดแต่อัตราทดเท่าเดิม แบบนั้นไม่ถูกน่ะ

แต่ค่า GI ผมเข้าใจว่ามันเป็นการจำลองค่าแรงกดบันไดในรอบขาระดับนึง ตรงนี้ถ้ารอบขาสูงถึงเกียร์ลอยไม่ว่า GI จะเยอะแค่ไหนมันจะหลุดจากแรงต้านไปเยอะ รถที่ล้อใหญ่กว่า หรือจานใหญ่ๆ มันจะมาได้เปรียบตรงนี้แหละ แต่ถ้าปั่นไม่ถึงรอบขาขนาดนั้นมันก็กลายมาเป็นนรกดีๆ นี่เอง
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 4&t=839658
เทสต์กล้อง Gopro Hero 3+ Black Edition /Garmin Edge 510/DashWare
รูปประจำตัวสมาชิก
Pisit sirichote
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4206
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 พ.ย. 2011, 09:28
Tel: 085 534 1078
team: ไม่มี
Bike: Trek 930 , Da Bike USA , Giant morph , Dahon Mu P24 , KHS F20t3f
ตำแหน่ง: เดอะนอร์ทเทิร์นทาร์วรังสิต

Re: จะปั่นรถพับไล่เสือหมอบ

โพสต์ โดย Pisit sirichote »

pantoffski เขียน:เรื่องล้อ 451 กับ 700 ที่รอบขาเท่ากันได้ความเร็วเท่ากันน่าจะใช้แรงกดเท่ากัน?
ผมคิดแบบฟิสิกส์มัธยมนะครับ...
การปั่นที่ความเร็วคงที่ก็คือใส่แรงไปให้พอทำลายแรงต้านในระบบให้มันหมดพอดีกัน รถก็จะไม่มีความเร่งหรือหน่วง
จากที่เราเรียนกันมาว่าพลังงานมันเปลี่ยนรูปไปมาได้ เอาแค่เรื่องดุมก็บอกได้ว่าเสียงคลิ๊กๆๆของดุมล้อก็เป็นการเสียพลังงานรูปแบบนึง
ดังนั้นดุมเดียวกัน ที่ gi เท่ากัน ล้อเล็กกว่ามันก็คลิ๊กๆๆหลายครั้งกว่าในการควงบันได 1 รอบ พลังงานที่ต้องเติมให้ระบบในส่วนนี้ล้อเล็กต้องเติมมากกว่า
ถ้าเอาเรื่องแรงต้านจากลมไปคิด คันไหนท่านั่งต้านลมมากกว่าก็ต้องเติมมากกว่า
จะเอาละเอียดก็คงต้องไปดูวัสดุศาสตร์,วิเคราะห์ tensor,ฯลฯ กันอิลุงตุงนังครับ

แอบเห็นต่างเรื่อง gi หน่อยครับพี่คุ๊กกี้
ถ้าเป็นระบบในอุดมคติ ไม่มีความฝืดในระบบขับเคลื่อน ไม่มีแรงต้านลม,ความสะเทือนจากพื้น gi เท่ากัน ผมว่าใช้แรงเท่ากันครับ เพราะ gi มันสัมพันธ์กับขนาดล้อ,เฟืองท้ายและจานหน้า ไม่ใช่ล้ออย่างเดียวหนิครับ ?!?
ผิดถูกยังไงช่วยทักท้วงหน่อยนะครับผม :mrgreen:
รูปภาพ

ส่วนเรื่องน้ำหนักรถในส่วนของนักกีฬาผมเห็นด้วยเต็มๆเลยครับ
คือเรื่องแต่งรถที่มีเข็มมุ่ง (เบา,เร็ว,สวย,สบาย,ฯลฯ) สำหรับผมน่าชื่นชมและน่าติดตามทั้งหมดครับ
แต่รู้สึกไม่ดีกับกรณีที่อยากปั่นเร็วขึ้นแต่ไม่ซ้อมแล้วดันไปเลือก upgrade รถเป็นทางเลือกแรกหน่ะครับ
(ไม่ได้ว่าพี่อู๊ดนะครับ ท่านนั้นก็ออกกำลังเป็นประจำ ผมเห็นกระทู้อื่นแกก็ตอบดีออกครับ)
อย่าไปรู้สึกไม่ดีเลยครับ
ผมว่าทุกคนก็มีเหตุผลของตนเองครับ
สิ่งที่สำคัญที่ผมเป็นห่วงก็คือ ไม่เดือดร้อนตนเองและครอบครัว ไม่ทุจริต ไม่ทำความชั่วเพื่อจะได้เงินมาแต่งรถครับ
ส่วนที่จะแต่งเพื่อให้สวยงาม น้ำหนักเบาหรือขี่ได้เร็ว ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละบุคคล
ส่วนที่รู้สึกไม่ดีกับคนที่อยากปั่นได้เร็ว แต่ไม่ขยันฝึกซ้อม แล้วใช้วิธีลัด Upgrade รถให้ดีขึ้น คงลำบากครับ
เพราะจะมีมากครับ ความจริงแล้วอาจจะมีเหตุผลอื่นประกอบด้วยครับ เช่น ขี่แล้วไม่พอใจการทำงานบางส่วนแล้วต้องปรับปรุงครับ
ผมยกตัวอย่างตัวผมเอง ซื้อ Mu P24 มาใช้งาน
เริ่มชิ้นแรกคือเบาะ นั่งแล้วไม่สะบาย ถ้าจะใช้งานต่อไปต้องซื้อกางเกงสำหรับปั่นจักรยานจึงจะปั่นได้ ผมก็เปลี่ยนเบาะไหม่
พอมาบันใดก็ไม่ค่อยลื่น พอดีเพื่อนสมาชิกแนะนำรุ่นให้ก็ซื้อเปลี่ยน ปั่นสะบายขึ้นครับ
แฮนด์เพื่อนสมาชิกบอกเปลี่ยนเป็นคาร์บอนจะซับแรงสะเทือนดีกว่าของเดิม ก็เปลี่ยนแล้วสะบายขึ้นจริงๆ
สำหรับยางกำลังคิดจะใส่ Big Apple เพราะยางติดรถสะเทือนไปสำหรับถนนที่ผมปั่นเป็นประจำครับ

ระบบขับเคลื่อนปัจจุบันผมขี่รถคันนี้ผมใช้เกียร์ดุมที่ 2 เกียร์นอก 4,5,6 ส่วนใหญ่อยู่ที่ 5 ขนาดจานหน้า 46
ผมขี่รถเสือภูเขาที่จานกลางขนาด 34 เฟืองหลัง 5,6,7 รถผมเกียร์หลัง 7 สปีด
เท่าที่ผมขี่แล้วผมชอบขี่รถที่จานหน่า 34 มากกว่าครับ
คราวนี้ผมก็คิดว่าจะเปลี่ยนจานหน้า Mu P24 ให้เหลือสามสิบกว่าฟัน เพื่อเวลาขี่ผมจะได้ใช้เฟืองหลังที่ 5,6,7 หรือ 6,7,8
แต่เท่าที่ดูจานหน้า Lite Pro แบบจานเดียวไม่มีขนาดสามสิบกว่าฟัน ผมจึงมอง 2 จาน ที่ขนาด 39/53
เวลาขี่ก็ได้ใช้งานจานหน้า 39 บ่อยๆ ส่วนจาน 53 เอาไว้ทดลองปั่นเล่นช่วงลงเขา
อีกอย่างเวลาขึ้นเขาจานหน้า 39 จากเดิม 46 ทำให้ผมปั่นสะบายขึ้น เนื่องกำลังไม่มากเหมือนตอนหนุ่มๆ
ผมคาดว่าปลายปีนี้จะไปเที่ยวแถวปาย ดอยอ่างขาง คงใด้ใช้งานระบบเกียร์เต็มที่ครับ
ยังมีอีกหลายอย่างครับ เช่นล้อและดุม ที่เพื่อนสมาชิกว่าดีมาก อันนี้ถ้าเปลี่ยนเพราะอยากสัมผัสดูครับ

อันนี้คือเหตุผลของผม สำหรับของคนอื่นก็คงมีครับ ผมขออย่างเดียวอย่าให้ตนเองและผู้อื่นเดือดร้อนครับ
ขอให้มีความสุขกับการเล่นจักรยานครับ
รูปประจำตัวสมาชิก
nguang4
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 143
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 พ.ค. 2013, 20:42
Tel: 098-5622945
team: โอเลี้ยง
Bike: dahon vector x27h,trek 1.2,colnago ace,giant propel advance3, trek emonda sl,giant tcr sl,trek domane slr
ตำแหน่ง: 246 หมู่บ้านสิทธารมย์ ซ.11/1 ถ.รอบเมือง ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี 41000

Re: จะปั่นรถพับไล่เสือหมอบ

โพสต์ โดย nguang4 »

ผมค่อยๆแต่งทีละนิดจะได้เห็นความแตกต่าง(แต่ชอบคิดเองก่อนว่าดีเพราะเสียตังซื้อของแต่งไปแล้ว) แต่แรงก็ต้องอั้ปด้วยนะถ้ารู้สึกว่าดีขึ้นก็สบายใจ แต่ถ้าไม่ดีก็เปลี่ยน ตอนนี้กำลังหาข้อมูลล้อเหวี่ยง20"406 เน้นเหวี่ยงอลูก็ได้ถูกดี คาร์บอนก็สวย ส่วนมากอลูมีแต่ขอบสูงแต่ไม่เหวี่ยง ถ้าเหวี่ยงก็เป็นคาร์บอนราคาไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่ พี่ท่านใดเคยใช้ ล้อเหวี่ยง20"เห็นผลต่างดีขึ้นมากไหมครับ อยากให้เหวี่ยงช่วงความเร็ว30-35 และ 35-40 ต้องใช้ขอบสูงประมาณกี่มิลครับ ขอบคุณมากครับ
kook777
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 159
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ม.ค. 2013, 12:15
team: เสือพับครยก
ตำแหน่ง: ข/3-465 ถ.พาณิชย์เจริญ อ.เมือง จ.นครนายก 26000
ติดต่อ:

Re: จะปั่นรถพับไล่เสือหมอบ

โพสต์ โดย kook777 »

Pisit sirichote เขียน:
pantoffski เขียน:เรื่องล้อ 451 กับ 700 ที่รอบขาเท่ากันได้ความเร็วเท่ากันน่าจะใช้แรงกดเท่ากัน?
ผมคิดแบบฟิสิกส์มัธยมนะครับ...
การปั่นที่ความเร็วคงที่ก็คือใส่แรงไปให้พอทำลายแรงต้านในระบบให้มันหมดพอดีกัน รถก็จะไม่มีความเร่งหรือหน่วง
จากที่เราเรียนกันมาว่าพลังงานมันเปลี่ยนรูปไปมาได้ เอาแค่เรื่องดุมก็บอกได้ว่าเสียงคลิ๊กๆๆของดุมล้อก็เป็นการเสียพลังงานรูปแบบนึง
ดังนั้นดุมเดียวกัน ที่ gi เท่ากัน ล้อเล็กกว่ามันก็คลิ๊กๆๆหลายครั้งกว่าในการควงบันได 1 รอบ พลังงานที่ต้องเติมให้ระบบในส่วนนี้ล้อเล็กต้องเติมมากกว่า
ถ้าเอาเรื่องแรงต้านจากลมไปคิด คันไหนท่านั่งต้านลมมากกว่าก็ต้องเติมมากกว่า
จะเอาละเอียดก็คงต้องไปดูวัสดุศาสตร์,วิเคราะห์ tensor,ฯลฯ กันอิลุงตุงนังครับ

แอบเห็นต่างเรื่อง gi หน่อยครับพี่คุ๊กกี้
ถ้าเป็นระบบในอุดมคติ ไม่มีความฝืดในระบบขับเคลื่อน ไม่มีแรงต้านลม,ความสะเทือนจากพื้น gi เท่ากัน ผมว่าใช้แรงเท่ากันครับ เพราะ gi มันสัมพันธ์กับขนาดล้อ,เฟืองท้ายและจานหน้า ไม่ใช่ล้ออย่างเดียวหนิครับ ?!?
ผิดถูกยังไงช่วยทักท้วงหน่อยนะครับผม :mrgreen:
รูปภาพ

ส่วนเรื่องน้ำหนักรถในส่วนของนักกีฬาผมเห็นด้วยเต็มๆเลยครับ
คือเรื่องแต่งรถที่มีเข็มมุ่ง (เบา,เร็ว,สวย,สบาย,ฯลฯ) สำหรับผมน่าชื่นชมและน่าติดตามทั้งหมดครับ
แต่รู้สึกไม่ดีกับกรณีที่อยากปั่นเร็วขึ้นแต่ไม่ซ้อมแล้วดันไปเลือก upgrade รถเป็นทางเลือกแรกหน่ะครับ
(ไม่ได้ว่าพี่อู๊ดนะครับ ท่านนั้นก็ออกกำลังเป็นประจำ ผมเห็นกระทู้อื่นแกก็ตอบดีออกครับ)
อย่าไปรู้สึกไม่ดีเลยครับ
ผมว่าทุกคนก็มีเหตุผลของตนเองครับ
สิ่งที่สำคัญที่ผมเป็นห่วงก็คือ ไม่เดือดร้อนตนเองและครอบครัว ไม่ทุจริต ไม่ทำความชั่วเพื่อจะได้เงินมาแต่งรถครับ
ส่วนที่จะแต่งเพื่อให้สวยงาม น้ำหนักเบาหรือขี่ได้เร็ว ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละบุคคล
ส่วนที่รู้สึกไม่ดีกับคนที่อยากปั่นได้เร็ว แต่ไม่ขยันฝึกซ้อม แล้วใช้วิธีลัด Upgrade รถให้ดีขึ้น คงลำบากครับ
เพราะจะมีมากครับ ความจริงแล้วอาจจะมีเหตุผลอื่นประกอบด้วยครับ เช่น ขี่แล้วไม่พอใจการทำงานบางส่วนแล้วต้องปรับปรุงครับ
ผมยกตัวอย่างตัวผมเอง ซื้อ Mu P24 มาใช้งาน
เริ่มชิ้นแรกคือเบาะ นั่งแล้วไม่สะบาย ถ้าจะใช้งานต่อไปต้องซื้อกางเกงสำหรับปั่นจักรยานจึงจะปั่นได้ ผมก็เปลี่ยนเบาะไหม่
พอมาบันใดก็ไม่ค่อยลื่น พอดีเพื่อนสมาชิกแนะนำรุ่นให้ก็ซื้อเปลี่ยน ปั่นสะบายขึ้นครับ
แฮนด์เพื่อนสมาชิกบอกเปลี่ยนเป็นคาร์บอนจะซับแรงสะเทือนดีกว่าของเดิม ก็เปลี่ยนแล้วสะบายขึ้นจริงๆ
สำหรับยางกำลังคิดจะใส่ Big Apple เพราะยางติดรถสะเทือนไปสำหรับถนนที่ผมปั่นเป็นประจำครับ

ระบบขับเคลื่อนปัจจุบันผมขี่รถคันนี้ผมใช้เกียร์ดุมที่ 2 เกียร์นอก 4,5,6 ส่วนใหญ่อยู่ที่ 5 ขนาดจานหน้า 46
ผมขี่รถเสือภูเขาที่จานกลางขนาด 34 เฟืองหลัง 5,6,7 รถผมเกียร์หลัง 7 สปีด
เท่าที่ผมขี่แล้วผมชอบขี่รถที่จานหน่า 34 มากกว่าครับ
คราวนี้ผมก็คิดว่าจะเปลี่ยนจานหน้า Mu P24 ให้เหลือสามสิบกว่าฟัน เพื่อเวลาขี่ผมจะได้ใช้เฟืองหลังที่ 5,6,7 หรือ 6,7,8
แต่เท่าที่ดูจานหน้า Lite Pro แบบจานเดียวไม่มีขนาดสามสิบกว่าฟัน ผมจึงมอง 2 จาน ที่ขนาด 39/53
เวลาขี่ก็ได้ใช้งานจานหน้า 39 บ่อยๆ ส่วนจาน 53 เอาไว้ทดลองปั่นเล่นช่วงลงเขา
อีกอย่างเวลาขึ้นเขาจานหน้า 39 จากเดิม 46 ทำให้ผมปั่นสะบายขึ้น เนื่องกำลังไม่มากเหมือนตอนหนุ่มๆ
ผมคาดว่าปลายปีนี้จะไปเที่ยวแถวปาย ดอยอ่างขาง คงใด้ใช้งานระบบเกียร์เต็มที่ครับ
ยังมีอีกหลายอย่างครับ เช่นล้อและดุม ที่เพื่อนสมาชิกว่าดีมาก อันนี้ถ้าเปลี่ยนเพราะอยากสัมผัสดูครับ

อันนี้คือเหตุผลของผม สำหรับของคนอื่นก็คงมีครับ ผมขออย่างเดียวอย่าให้ตนเองและผู้อื่นเดือดร้อนครับ
ขอให้มีความสุขกับการเล่นจักรยานครับ
ถ้าไปขึ้นอ่างขาง ผมว่าได้ใช้รถคุ้มแน่ๆ ในดุมนี่หละตัวแปรเลยครับ ผมว่าเป็นภูเขา ก็ยังน่าจะร้องเลย แต่MU P24 จานหน้า 39 ผมว่าค่อยๆซอยขึ้นได้ ไม่หนักแน่นอนครับ
ผมแค่35 ขึ้นดอยอินทนนท์ มาแล้ว แต่ไปเห็นดอยอ่างขาง แล้วขนลกครับ ไม่รู้ว่าตะคริวจะมาช่วงไหน แต่ถ้าไปขึ้นทางเชียงดาว ผมว่าน่าจะขึ้นสบาย สนุกกว่า ได้ขี่ผ่านหมุ่บ้าน ทิวทัศน์ สวยๆ น่าจะเปลี่ยนจากความเหนื่อเป็นความสุขแทนครับ
ไฟล์แนบ
1157543_318319941646567_2076364751_n.jpg
1157543_318319941646567_2076364751_n.jpg (8.14 KiB) เข้าดูแล้ว 777 ครั้ง
แก้ไขล่าสุดโดย kook777 เมื่อ 08 ก.ย. 2013, 12:21, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
นาย ธีรวัฒน์ บุษราคัมวดี
เลขบัญชี 305-041367-7 ธนาคารกรุงเทพ
บัญชี ออมทรัพย์ สาขานครนายก
day_dodge@yahoo.co.th
facebook/กุ๊ก ธีรวัฒน์ บุษราคัมวดี
081-4492269
รูปประจำตัวสมาชิก
pantoffski
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 142
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ม.ค. 2013, 23:32
team: ทีมพี่ล้ง
Bike: LA Urbano TBT, Strida จีน

Re: จะปั่นรถพับไล่เสือหมอบ

โพสต์ โดย pantoffski »

Cookiebike เขียน:
pantoffski เขียน:เรื่องล้อ 451 กับ 700 ที่รอบขาเท่ากันได้ความเร็วเท่ากันน่าจะใช้แรงกดเท่ากัน?
ผมคิดแบบฟิสิกส์มัธยมนะครับ...
การปั่นที่ความเร็วคงที่ก็คือใส่แรงไปให้พอทำลายแรงต้านในระบบให้มันหมดพอดีกัน รถก็จะไม่มีความเร่งหรือหน่วง
จากที่เราเรียนกันมาว่าพลังงานมันเปลี่ยนรูปไปมาได้ เอาแค่เรื่องดุมก็บอกได้ว่าเสียงคลิ๊กๆๆของดุมล้อก็เป็นการเสียพลังงานรูปแบบนึง
ดังนั้นดุมเดียวกัน ที่ gi เท่ากัน ล้อเล็กกว่ามันก็คลิ๊กๆๆหลายครั้งกว่าในการควงบันได 1 รอบ พลังงานที่ต้องเติมให้ระบบในส่วนนี้ล้อเล็กต้องเติมมากกว่า
ถ้าเอาเรื่องแรงต้านจากลมไปคิด คันไหนท่านั่งต้านลมมากกว่าก็ต้องเติมมากกว่า
จะเอาละเอียดก็คงต้องไปดูวัสดุศาสตร์,วิเคราะห์ tensor,ฯลฯ กันอิลุงตุงนังครับ

แอบเห็นต่างเรื่อง gi หน่อยครับพี่คุ๊กกี้
ถ้าเป็นระบบในอุดมคติ ไม่มีความฝืดในระบบขับเคลื่อน ไม่มีแรงต้านลม,ความสะเทือนจากพื้น gi เท่ากัน ผมว่าใช้แรงเท่ากันครับ เพราะ gi มันสัมพันธ์กับขนาดล้อ,เฟืองท้ายและจานหน้า ไม่ใช่ล้ออย่างเดียวหนิครับ ?!?
ผิดถูกยังไงช่วยทักท้วงหน่อยนะครับผม :mrgreen:
รูปภาพ

ส่วนเรื่องน้ำหนักรถในส่วนของนักกีฬาผมเห็นด้วยเต็มๆเลยครับ
คือเรื่องแต่งรถที่มีเข็มมุ่ง (เบา,เร็ว,สวย,สบาย,ฯลฯ) สำหรับผมน่าชื่นชมและน่าติดตามทั้งหมดครับ
แต่รู้สึกไม่ดีกับกรณีที่อยากปั่นเร็วขึ้นแต่ไม่ซ้อมแล้วดันไปเลือก upgrade รถเป็นทางเลือกแรกหน่ะครับ
(ไม่ได้ว่าพี่อู๊ดนะครับ ท่านนั้นก็ออกกำลังเป็นประจำ ผมเห็นกระทู้อื่นแกก็ตอบดีออกครับ)
ตามนั้นล่ะครับ ที่บอกไปก่อนนี้หมายถึงว่าถ้าอัตราทดเดิมๆ แต่เพิ่มขนาดล้อ GI มันจะสูงขึ้นๆ เห็นหลายคนเวลาเปลี่ยนรถมักคิดแต่อัตราทดเท่าเดิม แบบนั้นไม่ถูกน่ะ

แต่ค่า GI ผมเข้าใจว่ามันเป็นการจำลองค่าแรงกดบันไดในรอบขาระดับนึง ตรงนี้ถ้ารอบขาสูงถึงเกียร์ลอยไม่ว่า GI จะเยอะแค่ไหนมันจะหลุดจากแรงต้านไปเยอะ รถที่ล้อใหญ่กว่า หรือจานใหญ่ๆ มันจะมาได้เปรียบตรงนี้แหละ แต่ถ้าปั่นไม่ถึงรอบขาขนาดนั้นมันก็กลายมาเป็นนรกดีๆ นี่เอง
ครับพี่ เห็นด้วยเต็มๆครับ :mrgreen:
แก้ไขล่าสุดโดย pantoffski เมื่อ 08 ก.ย. 2013, 12:22, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
รูปประจำตัวสมาชิก
pantoffski
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 142
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ม.ค. 2013, 23:32
team: ทีมพี่ล้ง
Bike: LA Urbano TBT, Strida จีน

Re: จะปั่นรถพับไล่เสือหมอบ

โพสต์ โดย pantoffski »

ขอบคุณ พี่พิสิฐ, คุณ nguang4 และคุณ kook777 ที่มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันนะครับ :mrgreen:
กรณีที่ไม่เดือดร้อนกระเป๋าตังก์ผมไม่มีปัญหาเลยครับ งานอดิเรกอย่างอื่นที่หมดเงินมากๆก็มีเยอะครับ นึกถึงตอนไปถามรุ่นน้องว่าซื้อรองเท้าแพงๆทำไมแล้วมันตอบว่า "สุขกู" 555
แล้วอย่างที่พี่พิสิฐหรือคุณ nguang4 อธิบายมา ผมว่ามันเป็นการคิดก่อนซื้อแล้วอ่ะพี่ แบบคิดแล้วว่าปัญหามันอยู่ตรงไหน จะเปลี่ยนอะไรเพื่ออะไร
หรือพวกชิ้นที่เปลี่ยนเพื่อความสบายยิ่งไม่มีอคติเลยครับ ถ้าสะดวกจะจ่าย

ที่ไม่ค่อยชอบเพราะ(คิดไปเอง)ว่าเวลามีคนที่อยากได้จักรยานซักคันมาอ่าน แล้วกระทู้ส่วนมากมันท่วมไปด้วยของที่ค่อนข้างแพง
กระทู้ของกลางๆระดับ entry level ที่ควรมันจมหายไปหมดหรือไม่ค่อยมี มันอาจจะไปสร้างบรรทัดฐานให้มือใหม่ซื้อจักรยานที่เกินตัวอ่ะครับ
เห็นแล้วนึกถึงนศ.ขายตัวซื้อกระเป๋าแบรนด์ครับ
ก็นานาจิตตังครับ ถ้าผมหาข้อมูลมากกว่านี้ คันแรกผมคงไม่ซื้อ dr.hon อาจไปซื้อ trinx มาใช้ให้เข้าใจความต้องการตัวเองก่อน แล้วถ้าไม่โอเคค่อยขยับไปเป็นคันอื่นอะไรแบบนั้นครับ
ผมก็คิดไปเองนะครับ แถมประเด็นก็ไม่ค่อยชัดเจน หลักฐานสนับสนุนก็ไม่มี แถมพูดเหมือนตอบชิงมงกุฎนางงามโลกสวยเกินด้วย 555 แต่ประเด็นผมก็ประมาณนี้แหละครับ

ปล.บอร์ดรถพับผมว่าเป็นน้อยแล้วนะครับ ถ้าบอร์ดย่อยจักรยานประเภทอื่น
ตอบกลับ

กลับไปยัง “รถพับ”