กระแสจักรยานกำลังจะหายไปไหม??
- moraruang
- ขาประจำ
- โพสต์: 110
- ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2013, 20:24
- Tel: 0817006558
- team: ชมรมเครื่องบินเล็กปิยะพร, ชมรมเสือนวมินทร์
- Bike: LA buddy20i, LA Spirit, LA Urbano
- ตำแหน่ง: เพชรเกษม80 บางแค หมู่บ้านศุภวรรณ3
- ติดต่อ:
Re: กระแสจักรยานกำลังจะหายไปไหม??
ส่วนตัวผมว่า มันเริ่มแผ่วมาโดยตลอดตั้งแต่จบงานสุดยิ่งใหญ่อย่าง bike for dad แล้วครับ และที่อีกหลายท่านกล่าวมา ทั้งเศรษฐกิจ คนที่ซื้อไปแล้วก็ไม่ซื้ออีก ขนาด JAVA ที่ว่าเป็นหมอบคาร์บอนราคาถูก ร้านแถวบ้านผมยังเบ้หน้าเลยว่าช่วงนี้เป็นอะไรที่เงียบเหงามาก ขายได้ยาก กระแสมันตกแล้วจริงๆ ครับ
บินไปกับ walkera ปั่นไปกับ LA
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 265
- ลงทะเบียนเมื่อ: 05 พ.ย. 2012, 21:32
- team: LONG TIME AGO CLOTHING
- Bike: khs folding touring
Re: กระแสจักรยานกำลังจะหายไปไหม??
ถ้าคิดกับจักรยานเป็นแฟชั่น มันจะผ่านมาและผ่านไป แต่ถ้าฝังจักรยานลงไปในชีวิตประจำวันได้ มันจอยู่กับเราตลอดชีวิต
Folding touring thailand เพจคนไทยชวนกันไปเที่ยวโดยรถพับบ้าหอบฟาง
https://www.facebook.com/pages/Folding-touring-thailand/1533522773598001?ref=hl
https://www.facebook.com/pages/Folding-touring-thailand/1533522773598001?ref=hl
- nopcung
- สมาชิก
- โพสต์: 79
- ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ส.ค. 2013, 17:32
- Bike: Taokas and ORIBIKE
Re: กระแสจักรยานกำลังจะหายไปไหม??
bang_the_kop เขียน:ถ้าคิดกับจักรยานเป็นแฟชั่น มันจะผ่านมาและผ่านไป แต่ถ้าฝังจักรยานลงไปในชีวิตประจำวันได้ มันจอยู่กับเราตลอดชีวิต
ผมอยากให้ทุกคนคิดแบบนี้จังเลยครับ
- ku chelsea
- ขาประจำ
- โพสต์: 477
- ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มี.ค. 2014, 13:06
- Tel: 094-942-5858, 081-734-7306
- team: เสือดอนใหญ่
- Bike: Panasonics Order, BMC SLR01, Pina Gan GRS, Surly LHT, Fuji Comet R, Voodoo Bizango, Brompton
- ตำแหน่ง: ลำลูกกา ปทุมธานี
Re: กระแสจักรยานกำลังจะหายไปไหม??
ผมไม่ค่อยสนใจกระแสเท่าไหร่ รู้แต่ว่าเราชอบปั่นก็ปั่น เพื่อนที่ปั่นด้วยกันก็ยังปั่น แต่ไม่อัพอะไรมากมาย เป็นอย่างงี้ตั้งแต่แรก และปัจจุบันก็ยังเหมือนเดิมไม่หวือหวา แต่ก็ไม่ได้ถอยลงไป สุขภาพความสุข สนุกสนาน อยู่ที่ตัวเรามากกว่าอย่างอื่นครับ
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 124
- ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2011, 20:51
- ตำแหน่ง: นครปฐม
Re: กระแสจักรยานกำลังจะหายไปไหม??
ไม่รู้ะนะ แต่ผมถอยทั้งเสือภูเขา และ จักรยานพับ
แบบว่าคันเก่ามันก็เก่ามาก ที่เห็นคืออะหลั่ยจักรยานแพงจัง จะ up ทีเสียดายเงิน
แบบว่าคันเก่ามันก็เก่ามาก ที่เห็นคืออะหลั่ยจักรยานแพงจัง จะ up ทีเสียดายเงิน
- nopcung
- สมาชิก
- โพสต์: 79
- ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ส.ค. 2013, 17:32
- Bike: Taokas and ORIBIKE
Re: กระแสจักรยานกำลังจะหายไปไหม??
[quote="กระทิงดำ"]ไม่รู้ะนะ แต่ผมถอยทั้งเสือภูเขา และ จักรยานพับ
แบบว่าคันเก่ามันก็เก่ามาก ที่เห็นคืออะหลั่ยจักรยานแพงจัง จะ up ทีเสียดายเงิน[/quote
สุดยอดครับพี่ แต่อะไหล่ผมว่ามันถูกลงนะ ถ้าเทียบกับเมื่อ 3 ปีที่แล้วครับ ผมคิดว่านะ ไม่แน่ใจ
แบบว่าคันเก่ามันก็เก่ามาก ที่เห็นคืออะหลั่ยจักรยานแพงจัง จะ up ทีเสียดายเงิน[/quote
สุดยอดครับพี่ แต่อะไหล่ผมว่ามันถูกลงนะ ถ้าเทียบกับเมื่อ 3 ปีที่แล้วครับ ผมคิดว่านะ ไม่แน่ใจ
- สมเกียรติ
- ขาประจำ
- โพสต์: 438
- ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ส.ค. 2008, 14:54
- Tel: 089-789-4545
- team: สายลมเหนือ
- Bike: G๋T Jamis
- ตำแหน่ง: เมืองตาก
Re: กระแสจักรยานกำลังจะหายไปไหม??
เชื่อมันครับ ปั่นแล้วมีความสุขทุกวัน
ฝนไม่ตก ปั่นเช้าปั่นเย็น
ก่อนปั่น เด็ดลูกหม่อน เคี้ยวกิน 4-5 ลูก
ป้องกันอัลไซเมอ จะได้กลับบ้านถูก
ฝนไม่ตก ปั่นเช้าปั่นเย็น
ก่อนปั่น เด็ดลูกหม่อน เคี้ยวกิน 4-5 ลูก
ป้องกันอัลไซเมอ จะได้กลับบ้านถูก
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=63&t=1049867&start=285
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 124
- ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2011, 20:51
- ตำแหน่ง: นครปฐม
Re: กระแสจักรยานกำลังจะหายไปไหม??
ใช่ครับ ราคาถูกลงเยอะnopcung เขียน:กระทิงดำ เขียน:ไม่รู้ะนะ แต่ผมถอยทั้งเสือภูเขา และ จักรยานพับ
แบบว่าคันเก่ามันก็เก่ามาก ที่เห็นคืออะหลั่ยจักรยานแพงจัง จะ up ทีเสียดายเงิน[/quote
สุดยอดครับพี่ แต่อะไหล่ผมว่ามันถูกลงนะ ถ้าเทียบกับเมื่อ 3 ปีที่แล้วครับ ผมคิดว่านะ ไม่แน่ใจ
- nopcung
- สมาชิก
- โพสต์: 79
- ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ส.ค. 2013, 17:32
- Bike: Taokas and ORIBIKE
-
- สมาชิก
- โพสต์: 1
- ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.ค. 2017, 06:09
- ติดต่อ:
Re: กระแสจักรยานกำลังจะหายไปไหม??
ราคาถูกลงกว่าแต่ก่อน ดุเหมือนว่าตอนนี้มีรุ่นให้เลือกน้อยกว่าปีก่อน เข้าใจว่ายังไม่นำเข้ามาเพิ่ม เหลือแต่ยี่ห้อหลักอย่างค่าย D
กระพ๊มเพิ่งถอย Banian 20" เป็นรถพับคันที่ 2 ในบ้านบ้านแล้ว ชอบนะ พับขึ้นสบาย ๆ ไม่กินพื้นที่
กระพ๊มเพิ่งถอย Banian 20" เป็นรถพับคันที่ 2 ในบ้านบ้านแล้ว ชอบนะ พับขึ้นสบาย ๆ ไม่กินพื้นที่
- nopcung
- สมาชิก
- โพสต์: 79
- ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ส.ค. 2013, 17:32
- Bike: Taokas and ORIBIKE
Re: กระแสจักรยานกำลังจะหายไปไหม??
เท่าที่ทราบมา ผู้นำเข้าบ่นกันครับว่าขายไม่ดี ของเก่าก็ยังเหลือ ก็เอาเข้ามาไม่ได้ครับมดงาน ตัวจิ๋ว เขียน:ราคาถูกลงกว่าแต่ก่อน ดุเหมือนว่าตอนนี้มีรุ่นให้เลือกน้อยกว่าปีก่อน เข้าใจว่ายังไม่นำเข้ามาเพิ่ม เหลือแต่ยี่ห้อหลักอย่างค่าย D
กระพ๊มเพิ่งถอย Banian 20" เป็นรถพับคันที่ 2 ในบ้านบ้านแล้ว ชอบนะ พับขึ้นสบาย ๆ ไม่กินพื้นที่
จักรยานพับก็สะดวกแบบนี้แหละครับ ผมชอบจักรยาพับก็เพราะว่าสะดวกเหมือนกัน
- Tangchai007
- ขาประจำ
- โพสต์: 480
- ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ส.ค. 2013, 09:22
- Bike: รถมือสอง
Re: กระแสจักรยานกำลังจะหายไปไหม??
ผมตอนนี้ก็ทะยอยขายรถที่สะสมออกมั้ง พึ่งขาย Brompton Black Edition ซื้อมายังไม่ถึงปี รุ่นM6L
แต่งไป15000กว่าๆ ขายไป 45,000 บาท เพราะไม่ค่อยได้ขี่ ซื้อมาเพราะตามกระแสความเห่อ
แต่งไป15000กว่าๆ ขายไป 45,000 บาท เพราะไม่ค่อยได้ขี่ ซื้อมาเพราะตามกระแสความเห่อ
- ณ.หนุ่ม@บางบัวทอง
- ขาประจำ
- โพสต์: 1231
- ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2008, 13:06
- Tel: 0813619549
- team: ์Nonthaburi Cycling Club
- Bike: Old School Steel Alloy
Re: กระแสจักรยานกำลังจะหายไปไหม??
ถ้าจะให้ผมท้าวความถึงความนิยมของจักรยานในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้มันมาจาก Trend ของกลุ่มสังคมชั้นสูงที่เห็นว่าการออกกำลังกายเป็นความเท่ห์ ยิ่งออกได้หนักเท่าไหร่ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแรงของตัวเองมากเท่านั้น กอปรกับจักรยานเป็นของที่มีลูกเล่นเยอะ ของแต่งเยอะ และราคาก็ไม่ใช่เบาๆ ก็เลยทำให้กระแสการขี่รถจริงๆ กลายเป็นกระแส Fashion ไปซะ ซึ่งปัจจัยนี้ผมมองมาตั้งแต่แรกๆ แล้วว่ามันจะต้องออกแนวและทิศทางนี้
เมื่อมามองถึงสภาพความเป็นจริง ถ้าคนรักการขี่จักรยานจริงๆ รถอะไรก็ขี่ได้ครับ ไม่ต้องเจาะจงว่าจะเป็นเสือหมอบ เสือภูเขา รถพับ หรือ Touring แต่เราจะเลือกรถจากรูปแบบการขี่จักรยานของเราว่าเราต้องการขี่แบบไหน อย่างไร แล้วจึงมาจบที่รถที่เราจะใช้ หลักๆ แล้วเราก็ต้องมาประเมินถึงสภาพแวดล้อมที่เราจะขี่ด้วยว่ามันเหมาะสมกับการใช้งานของรถประเภทไหนด้วย ซึ่ง ณ. ปัจจุบันนี้ก็ต้องยอมรับว่านักปั่นหน้าใหม่หลายๆ คนมองที่ความสวยงามของรถก่อนที่จะมองถึงลักษณะการขี่ของตัวเอง และเมื่อเลือกรถผิดตั้งแต่แรกก็ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บ ท้อแท้ เสียดาย จนกลายเป็นเลิกขี่ไปในที่สุด
ส่วนหนึ่งที่ทำให้ Trend มันจางลงก็เพราะว่ารูปแบบเดิมๆ เส้นทางเดิมๆ และคนกลุ่มเดิมๆ ที่ก็ขี่กันแบบเดิมๆ มันก็เลยทำให้เกิดความจำเจเข้ามาด้วย อีกอย่างนึงก็คือมือเก่าที่ชอบเอามือใหม่มาเชือด เช่น ชวนเค้ามาขี่ แต่ล่อขี่กันซะมือใหม่หัวใจแทบวายตาย หรือปล่อยให้เค้าขี่ตามหลังอย่างเดียวดายจนเกิดอาการท้อ "กูไม่ไปด้วยแล้ว" และอีกหลายๆ ปัจจัย ซึ่งมันก็แล้วแต่ความคิดใครความคิดมัน เพราะเราต้องเป็นผู้ประเมินตัวเราเองด้วยว่าศักยภาพของเราอยู่ที่ระดับไหน และก็ยังคงทิ้งปัจจัยเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนไม่ได้ เพราะช่วงหลังๆ มานี้มีหลายเหตุการณ์ทีเดียวเชียว ทั้งจักรยานผิดและรถยนต์ผิด
แต่อย่างไรก็ดี จำนวนของผู้ที่ขี่จักรยานในสมัยนี้กับสมัยที่ผมเริ่มขี่ใหม่ๆ นั้นก็ถือว่ามีความแตกต่างกันมากมายนัก แถมการหาซื้ออะไหล่และอุปกรณ์ต่างๆ ก็หาที่ซื้อยาก อะไรๆ ก็ต้องเข้าไปที่วรจักร แถมของก็ไม่ค่อยจะมีให้ด้วย ตัวแทนจำหน่ายมีน้อยมาก จะมีเจ้าหลักๆ ก็แค่ 2 เจ้าเท่านั้น แต่สมัยนี้มีเพียบจนเลือกไม่ถูกเลย แถมยังมีอะไหล่ที่เป็น Non Brand เข้ามาขายอีก ซึ่งก็จะมีราคาที่ถูกว่าของ Brand อยู่พอสมควร ที่เหลืออยู่ที่ว่าผู้บริโภคจะยึดติดกับเครื่องหมายการค้าหรือไม่ ซึ่งเราก็ต้องมาดูว่าของที่เราจะใช้นั้นมีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหนกับคำว่า "เครื่องหมายการค้า"
แต่อย่างไรซะ ถ้าตัวเรามาขี่จักรยานเพราะความชอบในสันทนาการรูปแบบนี้ ต่อให้สถานะการณ์ของความนิยมเปลี่ยนไปแค่ไหน เราก็จะยังคงที่จะขี่จักรยานอยู่ต่อไปล่ะ เพราะสำหรับส่วนตัวของผมแล้ว จากการขี่จักรยานครั้งแรกกับกลุ่มแถวบ้านที่ไปกัน 3 คน ไปจนถึงงานที่ขี่กันเป็นพัน เป็นหมื่นคน และก็กลับมาขี่กัน 3 คนเหมือนครั้งแรก หรือบางทีก็ไปคนเดียวก็มี ผมก็ยังคงรู้สึกสนุกและมีความสุขกับการได้ออกไปขี่จักรยานในรูปแบบที่ผมขี่และก็จะคงอยู่กับจักรยานไปเรื่อยๆ จนกว่าจะไม่มีแรงขี่กันล่ะ
เพราะฉะนั้น ถ้าคุณมาขี่จักรยานเพราะกระแสของความนิยม คุณก็จะหยุดขี่เพราะกระแสมันจางลงและหยุดนิ่ง แต่ถ้าคุณขี่จักรยานเพราะว่า "คุณมีความสุขกับการขี่จักรยาน" ต่อให้กระแสความนิยมรอบตัวคุณหยุดนิ่งยังไง จักรยานของคุณก็จะยังคงเคลื่อนที่ไปตามที่ใจคุณอยากจะพาเค้าไปโลดแล่นบนเส้นทางแน่นอนครับ.
ณ.หนุ่ม@บางบัวทอง
เมื่อมามองถึงสภาพความเป็นจริง ถ้าคนรักการขี่จักรยานจริงๆ รถอะไรก็ขี่ได้ครับ ไม่ต้องเจาะจงว่าจะเป็นเสือหมอบ เสือภูเขา รถพับ หรือ Touring แต่เราจะเลือกรถจากรูปแบบการขี่จักรยานของเราว่าเราต้องการขี่แบบไหน อย่างไร แล้วจึงมาจบที่รถที่เราจะใช้ หลักๆ แล้วเราก็ต้องมาประเมินถึงสภาพแวดล้อมที่เราจะขี่ด้วยว่ามันเหมาะสมกับการใช้งานของรถประเภทไหนด้วย ซึ่ง ณ. ปัจจุบันนี้ก็ต้องยอมรับว่านักปั่นหน้าใหม่หลายๆ คนมองที่ความสวยงามของรถก่อนที่จะมองถึงลักษณะการขี่ของตัวเอง และเมื่อเลือกรถผิดตั้งแต่แรกก็ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บ ท้อแท้ เสียดาย จนกลายเป็นเลิกขี่ไปในที่สุด
ส่วนหนึ่งที่ทำให้ Trend มันจางลงก็เพราะว่ารูปแบบเดิมๆ เส้นทางเดิมๆ และคนกลุ่มเดิมๆ ที่ก็ขี่กันแบบเดิมๆ มันก็เลยทำให้เกิดความจำเจเข้ามาด้วย อีกอย่างนึงก็คือมือเก่าที่ชอบเอามือใหม่มาเชือด เช่น ชวนเค้ามาขี่ แต่ล่อขี่กันซะมือใหม่หัวใจแทบวายตาย หรือปล่อยให้เค้าขี่ตามหลังอย่างเดียวดายจนเกิดอาการท้อ "กูไม่ไปด้วยแล้ว" และอีกหลายๆ ปัจจัย ซึ่งมันก็แล้วแต่ความคิดใครความคิดมัน เพราะเราต้องเป็นผู้ประเมินตัวเราเองด้วยว่าศักยภาพของเราอยู่ที่ระดับไหน และก็ยังคงทิ้งปัจจัยเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนไม่ได้ เพราะช่วงหลังๆ มานี้มีหลายเหตุการณ์ทีเดียวเชียว ทั้งจักรยานผิดและรถยนต์ผิด
แต่อย่างไรก็ดี จำนวนของผู้ที่ขี่จักรยานในสมัยนี้กับสมัยที่ผมเริ่มขี่ใหม่ๆ นั้นก็ถือว่ามีความแตกต่างกันมากมายนัก แถมการหาซื้ออะไหล่และอุปกรณ์ต่างๆ ก็หาที่ซื้อยาก อะไรๆ ก็ต้องเข้าไปที่วรจักร แถมของก็ไม่ค่อยจะมีให้ด้วย ตัวแทนจำหน่ายมีน้อยมาก จะมีเจ้าหลักๆ ก็แค่ 2 เจ้าเท่านั้น แต่สมัยนี้มีเพียบจนเลือกไม่ถูกเลย แถมยังมีอะไหล่ที่เป็น Non Brand เข้ามาขายอีก ซึ่งก็จะมีราคาที่ถูกว่าของ Brand อยู่พอสมควร ที่เหลืออยู่ที่ว่าผู้บริโภคจะยึดติดกับเครื่องหมายการค้าหรือไม่ ซึ่งเราก็ต้องมาดูว่าของที่เราจะใช้นั้นมีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหนกับคำว่า "เครื่องหมายการค้า"
แต่อย่างไรซะ ถ้าตัวเรามาขี่จักรยานเพราะความชอบในสันทนาการรูปแบบนี้ ต่อให้สถานะการณ์ของความนิยมเปลี่ยนไปแค่ไหน เราก็จะยังคงที่จะขี่จักรยานอยู่ต่อไปล่ะ เพราะสำหรับส่วนตัวของผมแล้ว จากการขี่จักรยานครั้งแรกกับกลุ่มแถวบ้านที่ไปกัน 3 คน ไปจนถึงงานที่ขี่กันเป็นพัน เป็นหมื่นคน และก็กลับมาขี่กัน 3 คนเหมือนครั้งแรก หรือบางทีก็ไปคนเดียวก็มี ผมก็ยังคงรู้สึกสนุกและมีความสุขกับการได้ออกไปขี่จักรยานในรูปแบบที่ผมขี่และก็จะคงอยู่กับจักรยานไปเรื่อยๆ จนกว่าจะไม่มีแรงขี่กันล่ะ
เพราะฉะนั้น ถ้าคุณมาขี่จักรยานเพราะกระแสของความนิยม คุณก็จะหยุดขี่เพราะกระแสมันจางลงและหยุดนิ่ง แต่ถ้าคุณขี่จักรยานเพราะว่า "คุณมีความสุขกับการขี่จักรยาน" ต่อให้กระแสความนิยมรอบตัวคุณหยุดนิ่งยังไง จักรยานของคุณก็จะยังคงเคลื่อนที่ไปตามที่ใจคุณอยากจะพาเค้าไปโลดแล่นบนเส้นทางแน่นอนครับ.
ณ.หนุ่ม@บางบัวทอง
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 2063
- ลงทะเบียนเมื่อ: 14 เม.ย. 2012, 11:51
- Tel: 0812683291
- Bike: Araya Excella Race, Tern Clutch, Splading, Bridgestone Grandtech
- Tangchai007
- ขาประจำ
- โพสต์: 480
- ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ส.ค. 2013, 09:22
- Bike: รถมือสอง
Re: กระแสจักรยานกำลังจะหายไปไหม??
ผมก็ขี่อยู่คนเดียวมาแต่ไหน แต่ไร เพียงแต่มาช่วงหลัง มาเห่อกระแสจักรยานตามกระแสแฟชั่นเขานิดหน่อย
จักรบางประเภทมาทดลองปั่นก็ไม่เหมาะกับบุคคลิคกับวัยของเรา ผมชอบจักรยานรถเล็กที่มีความคล่องตัวเวลาปั่นอยู่ในเมือง
พวกจักรยานล้อประมาณ20นิ้ว ไม่เล็กไม่ใหญ่ ทำความเร็วประมาณ20กิโลเมตรต่อชั่วโมง พาเราไปสถานที่ต่างๆได้
บวกกับอายุเราเริ่มมากขึ้น ทำให้เราเริ่มก้มหลังก้มคอไม่สะดวก เลยไม่เหมาะกับพวกเสือหมอบ ส่วนเสือภูเขาก็ใหญ่เทอะทะไป
ไม่สะดวกเหมือนรถเล็ก วันหยุด เป็นวันที่ผมมีความสุขมาก ที่ผมจะได้ออกไปปั่นจักรยาน ยิ่งไปเจอเพื่อนที่รักนักปั่นด้วยกัน
แล้วคุยถูกคอก็จะเก็บความสุข กลับมาที่บ้าน
เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา มีน้องคนหนึงแวะมาที่บ้าน เพื่อขอดูจักรยาน ไม่รู้จักกันมาก่อน เจอกันทางกลุ่ม face
น้องมาจากเมืองนนท์ แวะมาหาผม อยู่กันคนละมุมเมืองเลย คุยกันถูกคอหลายชั่วโมงเลยละครับ มันก็เป็นสังคมเล็ก สังคมหนึ่ง
ที่อยู่ท่ามกลางความวุ่นวายของเมืองกรุง
จักรบางประเภทมาทดลองปั่นก็ไม่เหมาะกับบุคคลิคกับวัยของเรา ผมชอบจักรยานรถเล็กที่มีความคล่องตัวเวลาปั่นอยู่ในเมือง
พวกจักรยานล้อประมาณ20นิ้ว ไม่เล็กไม่ใหญ่ ทำความเร็วประมาณ20กิโลเมตรต่อชั่วโมง พาเราไปสถานที่ต่างๆได้
บวกกับอายุเราเริ่มมากขึ้น ทำให้เราเริ่มก้มหลังก้มคอไม่สะดวก เลยไม่เหมาะกับพวกเสือหมอบ ส่วนเสือภูเขาก็ใหญ่เทอะทะไป
ไม่สะดวกเหมือนรถเล็ก วันหยุด เป็นวันที่ผมมีความสุขมาก ที่ผมจะได้ออกไปปั่นจักรยาน ยิ่งไปเจอเพื่อนที่รักนักปั่นด้วยกัน
แล้วคุยถูกคอก็จะเก็บความสุข กลับมาที่บ้าน
เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา มีน้องคนหนึงแวะมาที่บ้าน เพื่อขอดูจักรยาน ไม่รู้จักกันมาก่อน เจอกันทางกลุ่ม face
น้องมาจากเมืองนนท์ แวะมาหาผม อยู่กันคนละมุมเมืองเลย คุยกันถูกคอหลายชั่วโมงเลยละครับ มันก็เป็นสังคมเล็ก สังคมหนึ่ง
ที่อยู่ท่ามกลางความวุ่นวายของเมืองกรุง