สอบถามครับ Power Meter คุ้มค่า สมควรกับเงินที่จ่ายไปมากน้อยแค่ไหนครับ

[louisesay]

สวัสดีครับ ตอนนี้ผมจะตัดสินใจซื้อ Power2max มาใช้ครับ แต่ก่อนจะจ่ายเงินที่มากพอสมควรกับของชิ้นนี้ ผมจึงมาข้อสงสัยโผล่ขึ้นมาครับ
ส่วนตัวผม ปั่นซ้อมคนเดียววันละประมาณ 30 กิโลเมตรครับ วันหยุดสุดสัปดาห์อาจจะมีมากกว่านั้นนิดหน่อยครับ
จากที่ผมหาข้อมูลมา ก็ส่วนมากจะมีแต่การโฆษณาเสียเป็นส่วนใหญ่ อย่างเช่น เหมาะสำหรับผู้ที่ฝึกซ้อมอย่างจริงจังและพัฒนาศักยภาพ?
ซึ่งผมก็อยากเข้าใจอย่างลึกซึ้งนะครับ สำหรับคำจำกัดความของการใช้เครื่องวัด WATT ตัวนี้ ว่ามันสมควรที่จะมี และคุ้มค่ามากน้อยแค่ไหนครับ
เพราะผมเห็นนักปั่นมืออาชีพบางคนยังไม่ได้ใช้เลยครับ แต่พวกๆเรามือสมัครเล่นกลับซื้อมาใช้กัน ซึ่งจะดึงศักยภาพของของชิ้นนี้ได้มากแค่ไหนครับ
ถ้าหากสมมุติว่า ผมเป็นคนที่มีวินัยในการปั่น ปั่นประจำทุกวันอยู่แล้ว จำเป็นมั้ยครับ ที่ต้องมี Power meter มาช่วยอีกในการฝึกซ้อม ถ้ามันจำเป็น จะช่วยผมพัฒนายังไง และด้านไหนบ้างครับ
ขอถามข้อมูลสำหรับท่านที่เคยใช้งานจริงๆนะครับ หรือพี่ๆที่รู้ข้อมูลครับ เพราะส่วนมากเจอแต่คำแนะนำว่า งบถึงจัดเลย, ไม่ลองไม่รู้ พวกนี้มาเยอะแล้วครับ
ปล. ผมมีงบถึงพอที่จะซื้อครับ ไม่ใช้ซื้อเพราะตอบสนองความอยากนะครับ แต่อยากทราบความคุ้มค่าของเงินที่ต้องเสียไปจริงๆ เพราะผมจะได้เอาเงินไปทำอย่างอื่นดีกว่าครับ
ขอบคุณครับผม

[kamkon]

ลองศึกษาดูครับ..
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 2&t=470867

[CK3]

มันคือเครื่องวัดที่แสดงค่าเป็นตัวเลขให้เราเห็น สิ่งที่จะคิดว่ามันสมควรหรือไม่กับเงินที่จ่ายไปนั้นมันขึ้นอยุ่กับว่า
ท่านจะเอาตัวเลขที่มันแสดงออกมาไปทำอะไรต่อ

หากว่าให้มันแสดงเหมือนไมล์รถยนต์ มันก็คงจะไม่สมควรกับเงินที่จ่ายไปเพราะว่ามันก็จะมีค่าแค่ตัวเลขสามตัวเท่านั้นเอง
หากว่ามันแสดงผลออกมาแล้วท่านเอาผลนั้นไปทำการวิเคาะห์คิด และออกแแบบการซ้อมมันก็จะมีค่ามากๆในการพัฒนาครับ

ควรถามตัวเองว่าเราจะเอาตัวเลขค่าสามตัวนั้นมาเพื่ออะไรก่อนครับ

[Supa]

ผมว่าความคุ้มค่าอยู่ที่วิธีใช้งานของตัวผู้ใช้ กับความคาดหวังส่วนตัวมากกว่าครับ
โดยตัวเครื่องมันมีคุณสมบัติที่ดีอยู่แล้ว แต่เราศึกษามันและสามารถใช้การมันได้เต็มตรงความต้องการของตัวเองรึเปล่า และเราสนใจกับการพัฒนาความสามารถจากการดูตัวเลขนี้จริงๆรึเปล่าครับ
ถ้าคำตอบในใจคือแค่ได้ปั่นก็มีความสุขแล้วและไม่ชอบพวกฟังก์ชั่นมากๆ. ผมว่ามันจะไม่คุ้มค่าในความรู้สึกของคุณแน่ๆ
แต่ถ้าคำตอบคือ ชอบเล่่นอุปกรณ์เทคโนโลยี และอยากพัฒนาตัวเองขึ้นแบบมีจุดอ้างอิงที่แน่นอน อันนี้ผมว่ามันคุ้มค่าแน่ๆครับ

และส่วนมากโปรเค้าใช้กันนะครับ โดยเฉพาะSRM ถ้าไม่ได้เป็นสปอนเซอร์ให้ทีม เค้าจะใช้ตอนซ้อมครับ แต่ไม่ออกสื่อเพราะติดเรื่องการโฆษณาต่างๆ แต่ถ้าเคยอ่านนิตยสาร Procycling ฉบับช่วงพักฤดูกาลที่ไม่ใช่ตอนเข้าแคมป์โปรส่วนมากติดกันหมดครับ

ผมไม่เคยได้้ใช้นะครับเพราะไม่มีตังส์ติดแต่จากที่ศึกษาดู การปั่นแล้วมีค่า วัตต์บอกมันเป็นการแสดงผลที่บอกความสามารถเราได้ตรงและง่ายที่สุดแล้วครับ เพราะแค่เฉพาะความเร็วเฉลี่ยบอกอะไรได้ไม่มากนัก ส่วนการเต้นหัวใจกับความเร็ว พอบอกความแข็งแรงของเราได้แต่มันมีตัวแปรร่วมเยอะจนยากที่จะเข้าใจได้ง่ายๆ

[pnarischat]

ถ้าคิดจะพัฒนาตัวเองให้ปั่นได้ดีขึ้นมันต้องมีครับเพราะมันบอกว่าเราออกแรงได้เท่าไหร่ และเราสามารถรู้ว่าเราพัฒนาขึ้นแค่ไหนโดยดูจากค่าftp ที่เราหาได้
คือมันเหมือนเป็นตัวกระตุ้นให้เราพัฒนาครับว่าสามารถปั่นวัตต์ได้แค่ไหน อย่างผมจากเริ่มที่ftp140 ตอนนี้หลังติดมา6 เดือนftpเริ่มขึ้นมาเป็น170 วัตต์
เป้าหมายผมคือให้ได้200วัตต์ใน1-2 ปีนี้ครับ
ปล.แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือเราต้องมีcourse การฝึกซ้อมที่ชัดเจนครับ ไม่งั้นติดวัตต์แต่ไม่ได้ซ้อม ขี่ไปวันๆ อย่างนี้คงไม่คุ้มนะ

[Behindthemoon]

ตอบให้นะครับ เหตุที่ต้องมี watt meter

เพราะว่าความเร็วที่คุณใช้ปั่นจักรยาน มันไม่ได้บอกว่าคุณแข็งแรง มีประสิทธิภาพแค่ไหน

ยกตัวอย่างเช่นคุณขี่จักรยาน ปั่นซ่้อมๆบ่อยๆ ช่วงแรกคุณปั่นได้ AV 30ในเวลาสองชั่วโมง
แต่ผ่านมาสองเดือน คุณขี่ AV 38 ในเวลาสองชั่วโมง

คำถามคือ คุณแข็งแรงขึ้นสุดยอดเลยไหม อาจจะไม่

ค่าที่ได้อาจจะเพี้ยนเพราะ

1.สองเดือนก่อน รถคุณเป็นจักรยานธรรมดา
2.เดือนล่าสุด รถคุณมีการอัพเกรดอุปกรณ์ เป็นล้อเทพคู่ละสี่หมื่น ยางเทพคู่ละสามพันเจ็ด บันได้คลีทเลส ปั่นจักรยานพร้อมรองเท้า



ทีนี้คุณอยากจะรู้ว่าศักยภาพคุณดีขึ้อย่างเห็นได้ชัดแค่ไหน คุณอาจจะต้องไปถอดอุปกรณ์ อัพเกรดรถทั้งหมดเหรอ
ไม่จำเป็น แค่ใช้วัตต์มิเตอร์วัดก็พอแล้ว ไม่แน่วัดมาอาจแปลกใจ ทำไม FTP ค่าวัตต์ไม่ต่างจากเดิมมาก (เพราะล้อเบา ทำให้การฝึกเบาลงไปด้วยก็เป็นได้)

[mr_young]

[punya467]

เหมาะสำหรับผู้ที่ฝึกซ้อมอย่างจริงจังและพัฒนาศักยภาพ?

จริงๆ มันก็ตามนั้นแหละครับ

ไม่ทราบปัจจุบัน จขกท มี hrm, cadence sensor พวกนี้หรือยังครับ และใช้งานอย่างไรบ้าง เช่นมีการปั่นคุมโซน หรือปั่นซ้อม interval, tempo บ้างไหม ถ้ายังไม่มี หรือมีแล้วไม่ได้ใช้งานในลักษณะดังกล่าว ผมว่า watt meter ก็ไม่จำเป็นสำหรับ จขกท ครับ เก็บตังค์ไปอัปล้อ อัปเฟรมดีกว่า อัปแล้วเห็นผลทันที พูดจริงนะครับ ไม่ได้ประชด ไม่ได้กวน

ปล ตอนนี้ผมก็เริ่มหัดเล่น watt โดยการใช้ล้อ powertap เพิ่งซื้อหนังสือมาศึกษา เท่าที่อ่านดูคร่าวๆ นับว่าต้องใช้เวลา และความมุ่งมั่นในการฝึกซ้อมพอสมควรครับ

[Leon_Patt]

คุ้มไหม ต้องถามว่าจริงจังกับการฝึกซ้อมขนาดไหนคับ คุณเอาตัวเลขที่ได้ไปทำอะไรได้บ้าง จากที่คุณบอกมาลักษณะการขี่ตอนนี้ ผมบอกได้ว่าไม่คุ้มคับ เพราะจักรยานไม่มีทางลัด มันต้องขี่ๆๆและก็ขี่คับ
ส่วนที่คุณบอกว่า ถ้ามีวินัยในการปั่น ปั่นทุกวัน คุ้มไหม อย่างที่บอกถ้าจริงจัง อยากไปลงแข่งงานต่างๆ มันก็คุ้มคับ แต่มีคนส่วนใหญ่จำพวกนึง มีวินัยในการซ้อม การปั่น ก็ไม่ได้ใช้ วัตต์ มิเตอร์ นะ แต่พวกเขาเหล่านี้ ใช้ตารางการฝึกซ้อม คอร์สต่างๆ การฝึกแบบ อินเทอร์วัล เป็นต้น ขึ้นอยู่กับคุณแล้วคับ ว่าจะมีความจริงจัง อดทนได้มากแค่ไหน เป้าหมายที่คุณต้องการจะไปให้ถึง ง่ายสะดวกแม่นยำกว่า ก็ติดวัตต์ หรือ ต้องมาคำนวนค่าเอง ยุ่งยาก คลาดเคลื่อนเล็กน้อย ก็ต้องศึกษาค้นคว้า หาโปรแกรมมาฝึก ไม่ว่าเลือกทางไหน ก็ต้อง ขี่ๆๆๆและก็ขี่คับ

ปล.ความจริงการ์มินเองก็มีจำลองวัตต์ให้แม้จะไม่ได้ติดวัตต์ และอาจจะคลาดเคลื่อนไปบ้าง แต่ก็พอจะช่วยคุณได้หาคุณมีการจัดการโปรแกรมการฝึกที่ดี มีวินัยในการฝึกฝน

[Tdf]

มันก็เป็นเครื่องมือวัดค่าการออกแรงเป็นตัวเลขให้เห็นชัดเจนเป็นรูปธรรมวิทยาศาสตร์นะครับ ถ้ามีแล้วขยันขวนขวายหาตารางฝึกซ้อมมันก็พัฒนาเร็วกว่าใช้ความรู้สึกแน่นอน

อย่างเช่นตารางฝึกบอกให้ออกแรง 80% ของแรงสูงสุดที่เราทำได้ ถ้าเราไม่มีพาวเวอร์มิเตอร์เราจะรู้ได้ยังไงล่ะครับ

นักแข่งส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยใช้กันมากนะครับ เพราะตอนปั่นจริงมันไม่มีเวลาดูวัตต์หรอกต้องดูสภาพแวดล้อมรอบตัวตลอดเวลา แต่ตอนซ้อมมันสามารถก้มหน้าก้มตาดูตัวเลขได้ ฉะนั้นมันสำคัญถ้าจะใช้ฝึกซ้อมน่ะครับ

[Steve]

มันคือเครื่องวัดที่แสดงค่าเป็นตัวเลขให้เราเห็น สิ่งที่จะคิดว่ามันสมควรหรือไม่กับเงินที่จ่ายไปนั้นมันขึ้นอยุ่กับว่า
ท่านจะเอาตัวเลขที่มันแสดงออกมาไปทำอะไรต่อ

หากว่าให้มันแสดงเหมือนไมล์รถยนต์ มันก็คงจะไม่สมควรกับเงินที่จ่ายไปเพราะว่ามันก็จะมีค่าแค่ตัวเลขสามตัวเท่านั้นเอง
หากว่ามันแสดงผลออกมาแล้วท่านเอาผลนั้นไปทำการวิเคาะห์คิด และออกแแบบการซ้อมมันก็จะมีค่ามากๆในการพัฒนาครับ

ควรถามตัวเองว่าเราจะเอาตัวเลขค่าสามตัวนั้นมาเพื่ออะไรก่อนครับ

ตามที่คุณCK3 สุดหล่อพูดมากถูกต้องครับ

[drkija]

คุ้มค่าหรือไ่ม่ ก็ต้องดูว่าเอาตัวเลขไปทำอะไร
อยากได้ตัวเลขดี ดีขึ้นทุกวัน ----> power training เหนื่อยครับ ปั่นกะใครที่แบบจะแวะ จะเที่ยว จะช้า จะชะลอ ก็ไม่ได้ เพราะเดี๋ยว av watts ตก ...ยิ่งได้ล้อ zipp ติดวัตต์ ยิ่งต้องคุมให้ความเร็วถึง ไม่งั้นยิ่งเหนื่อยหนัก .... ผลคือ เพื่อนไม่ชอบไปด้วย หาว่าไอนี่ชอบวิ่งเร็ว หนี.... ทรมานสังขาร ไม่ยอมแวะ ถ่ายรูปก็ไม่ได้ ต้องวิ่งไปหากลุ่มที่แรงๆด้วย ...ผลคือ ยิ่งเหนื่อย
เพราะการฝึกให้ power เพิ่ม ก็ต้องฝึกให้ไปอยู่ในโซน submaximum power เหมือนคนเล่นกล้าม ต้องฝึกให้ถึง ...ให้ร่างกายมันปรับตัว ปั่นชิวๆนี่หมดสิทธิ์เลย
อยากดูตัวเลขเฉยๆ----> ซื้อ ไมล์ รอบขา หัวใจ ธรรมดา คุ้มกว่าเยอะครับ

ช่วงแรกๆ เวลาเอารถติดวัตต์ออก ไม่รู้สึกว่าผ่อนคลาย สบาย หรือ relax ไม่รู้สึกว่ามันถนอมสุขภาพเท่าที่ควร ...แต่ก็ต้องเอาออกเพราะซื้อมาแล้ว ...
แต่พอสักพัก ก็เริ่มดีขึ้นหน่อย เพราะ shaping ได้ เกลี่ยวัตต์เป็น ขึ้นเขา ไต่เนิน ไม่ตายกลางทาง ได้รู้ว่าเนินแบบนี้นะ ปั่นให้วัตต์เท่านี้นะ เพราะมันใกล้จุดที่นายทำได้ อย่าเกินนานเกินสองนาทีนะ อะไรแบบนี้ ก็ถึงยอดเนินแล้ว ดีขึ้นเร็วกว่าฝึกแบบเดิมมาทั้งปีเลย โอ้โฮ แฮปปี้มากๆ แต่ก็ยังไม่คุ้มอยู่ดีครับ เพราะก็ยิ่งต้องซ้อมเพิ่ม หนักขึ้นๆ ตามโปรแกรม ถ้าไม่ทำ วัตต์ก็ตก รอบขาไม่เนียน ก็จะกลุ้มอีก เลยช่วงหลังๆบางที ก็แอบถอดเอาล้อวัตต์ออก ...ดีขึ้นแฮะ 555
มันเหมือนปีนหลังเสือเลย

[lucifer]

คำถามที่จขกท. จะต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อน จึงจะสรุปความคุ้มค่าของ PowerMeter ได้

คำถามคือ คุณต้องการอัตราการก้าวหน้าสำหรับกีฬาจักรยานมากน้อยแค่ไหน อยากจะฟิตและแกร่งขึ้นมาอีกแค่ไหน ในเวลาเท่าไร ? มีเวลาซ้อมมากน้อยแค่ไหน ?


คุณตอบคำถามตรงนี้ให้ผมได้ ผมจะบอกว่าความคุ้มค่าของมันมีอะไรบ้าง