รถ time trial มีสเหน่ห์ในตัวเองตรงไหนครับ อยากรู้ครับ ไม่เคยแตะ ไม่เคยลองเลยครับ
ผู้ดูแล: Cycling B®y, spinbike, velocity
- keepmoment
- ขาประจำ
- โพสต์: 1485
- ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มิ.ย. 2010, 21:50
- Bike: P2
รถ time trial มีสเหน่ห์ในตัวเองตรงไหนครับ อยากรู้ครับ ไม่เคยแตะ ไม่เคยลองเลยครับ
หรือว่ามีแค่เรื่อง การใช้เวลาที่ต่ำกว่า aero กว่าเท่านั้น ตามชื่อประเภทรถครับ
อยากให้พี่ๆ ที่มี มาช่วยแบ่งปันหน่อยครับ ไม่มีวาสนาได้ลองจริงๆครับ
ดูท่าปั่นแล้ว ผมว่า ท่าจะเมื่อยพอดูเลย
อยากให้พี่ๆ ที่มี มาช่วยแบ่งปันหน่อยครับ ไม่มีวาสนาได้ลองจริงๆครับ
ดูท่าปั่นแล้ว ผมว่า ท่าจะเมื่อยพอดูเลย
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 1373
- ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ม.ค. 2010, 21:20
- Tel: 0819555673
- team: SAHAKIJ JOHO..KORATBIKE... P.C.S.Clycling Team Korat
- Bike: KONA KHS TREK GIANT SCOTT ANCHOR
Re: รถ time trial มีสเหน่ห์ในตัวเองตรงไหนครับ อยากรู้ครับ ไม่เคยแตะ ไม่เคยลองเลยครับ
ขี่ไม่พุ่งครับ เติมไม่เต็ม ยกไม่มัน ต้องนั่งปั่นท่าไทม์ไทรอัลอย่างเดียวครับ แต่ปั่นแล้วสบายครับ ต้องมีแรงรักษารอบขานะครับ ปั่นนานๆ ลงรถมาวิ่งต่อไม่มีเมื่อยครับ รอท่านอื่นมาแนะนำครับ ขอบคุณครับ
- janisa88
- ขาประจำ
- โพสต์: 3866
- ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.พ. 2010, 14:57
- Tel: 0889533678
Re: รถ time trial มีสเหน่ห์ในตัวเองตรงไหนครับ อยากรู้ครับ ไม่เคยแตะ ไม่เคยลองเลยครับ
ผมก็ไม่มีความรู้..ตอนแรกผมคิดว่าตรงกันข้ามกับท่านข้างบนตอบทั้งหมดเลย.... ขอบคุณที่ให้ความรู้เสือรถพ่วง เขียน:ขี่ไม่พุ่งครับ เติมไม่เต็ม ยกไม่มัน ต้องนั่งปั่นท่าไทม์ไทรอัลอย่างเดียวครับ แต่ปั่นแล้วสบายครับ ต้องมีแรงรักษารอบขานะครับ ปั่นนานๆ ลงรถมาวิ่งต่อไม่มีเมื่อยครับ รอท่านอื่นมาแนะนำครับ ขอบคุณครับ
แจกสายคล้องแว่นฟรีมีตลอดครับแจกเพื่อนๆthai mtb
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 2&t=461606
ชมภาพ รถmtb รุ่นล้าสมัย
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 0&t=690950
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 2&t=461606
ชมภาพ รถmtb รุ่นล้าสมัย
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 0&t=690950
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 3479
- ลงทะเบียนเมื่อ: 05 พ.ย. 2009, 21:43
- Tel: 0896508333
- team: PHUKET BIKE
- Bike: ยืมเพื่อนขี่
- ตำแหน่ง: 112/34 กาแลกซี่ที่8 ดาวพีโตชุส
Re: รถ time trial มีสเหน่ห์ในตัวเองตรงไหนครับ อยากรู้ครับ ไม่เคยแตะ ไม่เคยลองเลยครับ
น้องในกลุ่ม ปกติขี่ๆด้วยกันอยู่ เป็นเสือหมอบนะครับ ก็ไม่ได้เด่นอะไรมากมาย ไปซื้อ tt ตัวแพงมากมา ขี่ซ้อมคนเดียวสักระยะ มาขี่ในกลุ่ม ผิดหูผิดตา หมอบไล่กันหน้ามืด ลากยาวๆ แอร์โร่มากๆ ระหว่างที่ก้มลงไหล่ ห่อ หัวมุด นิ่งอยู่อย่างนั้นนานมาก น้องเค้าบอกไม่เมื่อยๆ เหมือนกับพักสบายๆ แต่หมอบ ขนาดจับดร๊อปล่างยังปะทะลมมากกว่ามาก แรงเท่ากัน เสียเปรียบเรื่องลมปะทะเยอะมาก น้องเค้าไม่จี๊ดจ๊าด แต่ปั่นลากยาวๆได้ไกลๆ ผมว่าเค้าแพ้หมอบแค่ความคล่องตัวเท่านั้น อันนี้เป็นสิ่่งที่ผมเจอกับตัวเองนะครับ(รวมทั้งคนในกลุ่มด้วย) ก็เล่าตามประสบการณ์ ท่านอื่นเจอ หรือ เห็นเป็นอย่างไรก็ มาเล่าสู่กันฟังนะครับ
- JADE555
- ขาประจำ
- โพสต์: 7878
- ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.พ. 2009, 06:31
- Tel: อยากรู้ให้โทรมาถาม (- -")
- team: CARBON ASS!!!
- Bike: เหล็กมาร
Re: รถ time trial มีสเหน่ห์ในตัวเองตรงไหนครับ อยากรู้ครับ ไม่เคยแตะ ไม่เคยลองเลยครับ
ถ้าเฟรม TT ใส่แฮนด์หมอบ มีใครทำแล้วมั่งครับ
แล้วชิฟเตอร์หมอบ จะไปใส่แฮนด์ TT ได้ไหมครับ
แล้วชิฟเตอร์หมอบ จะไปใส่แฮนด์ TT ได้ไหมครับ
ปั่นต่อไป จนกว่าตูดจะไหม้เป็นเถ้าถ่าน CARBON ASS TEAM
เฟรมบุบกลาง ยางก็แบน แฮนด์ก็หลุด
โซ่สะดุด ล้อสะบัด เฟืองก็แหลม
ยางนอกโล้น ขอบล้อแตก ยางในแพลม
สนิมแจม ลูกปืนร้าว รองเท้าพัง!!
เฟรมบุบกลาง ยางก็แบน แฮนด์ก็หลุด
โซ่สะดุด ล้อสะบัด เฟืองก็แหลม
ยางนอกโล้น ขอบล้อแตก ยางในแพลม
สนิมแจม ลูกปืนร้าว รองเท้าพัง!!
- biggestsmart
- ขาประจำ
- โพสต์: 379
- ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ส.ค. 2008, 12:02
- Tel: 0847144949
- Bike: เก่าของเขา ...ใหม่ของเรา
- ตำแหน่ง: มหาสารคาม
Re: รถ time trial มีสเหน่ห์ในตัวเองตรงไหนครับ อยากรู้ครับ ไม่เคยแตะ ไม่เคยลองเลยครับ
รูปทรงมันอวกาศดีแท้ครับ พี่น้อง
อยู่แบบไม่เบียดเบียนใคร.......ขอให้มีความสุขทุกๆคนเทอญ
อยากได้ล้อหมอบ700c ขอบเตี้ย เบาๆอ่ะคับ ราคาก็เบาด้วยนะ
ขายsingle speed ราคาถูกๆครับ
อยากได้ล้อหมอบ700c ขอบเตี้ย เบาๆอ่ะคับ ราคาก็เบาด้วยนะ
ขายsingle speed ราคาถูกๆครับ
- StoRkE
- ขาประจำ
- โพสต์: 615
- ลงทะเบียนเมื่อ: 24 มิ.ย. 2010, 13:33
- Tel: 081-6532517
- team: ปั่นตีโกก
- Bike: !!!!
Re: รถ time trial มีสเหน่ห์ในตัวเองตรงไหนครับ อยากรู้ครับ ไม่เคยแตะ ไม่เคยลองเลยครับ
JADE555 เขียน:ถ้าเฟรม TT ใส่แฮนด์หมอบ มีใครทำแล้วมั่งครับ
แล้วชิฟเตอร์หมอบ จะไปใส่แฮนด์ TT ได้ไหมครับ
ผมอยากทำแบบนี้เหมือนกันนะครับเนี้ย
Jumm'sBikeStudio
ซ่อมบำรุงจักรยานทั้งในและนอกสถานที่ ด้วยอุปกรณ์มาตรฐาน
ยินดีรับใช้และให้คำปรึกษาครับ
Call:087-813-7117Jumm(Bilingual)
Please call for detail
ร้านช่างจ้ำ คลิก!!!
Nich Cycling(ร้านชิน):::จำหน่าย เฟรมเสือหมอบ - ล้อหมอบคาร์บอนคุณภาพสมราคา By Nich Cycling คลิก!!!
ซ่อมบำรุงจักรยานทั้งในและนอกสถานที่ ด้วยอุปกรณ์มาตรฐาน
ยินดีรับใช้และให้คำปรึกษาครับ
Call:087-813-7117Jumm(Bilingual)
Please call for detail
ร้านช่างจ้ำ คลิก!!!
Nich Cycling(ร้านชิน):::จำหน่าย เฟรมเสือหมอบ - ล้อหมอบคาร์บอนคุณภาพสมราคา By Nich Cycling คลิก!!!
- StoneRoses
- ขาประจำ
- โพสต์: 3149
- ลงทะเบียนเมื่อ: 03 เม.ย. 2009, 16:12
- Bike: Pinarello Dogma F8, Trek Speed Concept 9.9
Re: รถ time trial มีสเหน่ห์ในตัวเองตรงไหนครับ อยากรู้ครับ ไม่เคยแตะ ไม่เคยลองเลยครับ
ความได้เปรียบ
1. แอร์โร่สุดๆ ท่านั่งจับแอร์โร่บาร์ ถ้าเซ็ตรถมาดีๆ ร่างกายจะห่อเป็นก้อนเล็กๆ ในทิศทางปะทะลม ลดพื้นที่ปะทะ ถามว่าช่วยได้แค่ไหน จากประสบการณ์ส่วนตัว ผมขี่หมอบเดี่ยวๆ ความเร็วที่ยืนระยะได้ยาวๆ บนทางราบไม่มีลม จะอยู่แถวๆ 35 แต่ถ้าขี่รถ TT จะได้ประมาณเกือบ 40 ยิ่งลมแรง หรือที่ความเร็วสูงๆ ความได้เปรียบเรื่องนี้จะยิ่งมาก
ถ้าเราขี่ TT ถ้าจะหนีหมอบ ให้ไปหนีช่วงลมแรงๆ หรือลงเนิน จะยิงหนีหมอบได้ง่ายๆ คือถ้าแรงพอๆ กัน เจอ TT ตั้งรอบหนีที่ความเร็ว 50-55 (ลงเนิน) แรกๆ หมอบอาจจะพยาม Sprint ตามไปได้ แต่นวดสักพักก็จะดูดไม่ติดครับ ยิ่งถ้าต้องขึ้นมา Sprint เจอแรงลมปะทะ ไม่นานก็หมด
2. ความสบาย รถ TT ที่เซ็ตมาถูกต้อง จะขี่สบายมากๆ ในท่าแอร์โร่ มีรองศอกรับนน.ตัว ไปเต็มๆ ไม่ต้องเกร็งแขน หรือใช้หลังส่วนล่างเกร็งรับนน.เหมือนตอนขี่หมอบจับดร็อปก้มต่ำ
3. ส่วนใหญ่รถ TT โดยเฉพะรถไตร ถ้าเซ็ตอานตามปกติ ด้วยองศารถมันจะทำให้หลักอานมักไม่เยื้องหลังกระโหลก (ผิดกติกา UCI) ส่งผลให้ออกแรงกระทืบบันไดได้หนักหน่วงกว่าหมอบที่มีระยะ setback ประมาณ 5cm
ความเสียเปรียบ
1. รถหนักกว่าหมอบที่ราคาพอๆ กันอยู่พอสมควร เพราะเฟรมเน้น aero ต้องใช้เนื้อวัสดุเยอะกว่า แถม aerobar ทั้งชุดขนาดแบบเทพๆ มันก็หนักโลกว่าๆ เข้าไปแล้ว ในขณะที่ drop bar นน.สองขีด ตัวอย่างเช่นหมอบขั้นเทพราคาแถวๆ สองแสน นน.ไม่ควรเกิน 6.5kg แต่ถ้าเป็นรถ TT หนักน้อยกว่า 8 โลได้ก็มหัศจรรย์แล้ว
2. ยืนโยกได้ไม่ถนัด รวมกับนน.ที่มากกว่า จะทำให้เสียเปรียบทางขึ้นเขา (แต่ไปได้เปรียบนิดๆ ตอนลง ถ้าโค้งไม่แคบนัก) การกระชากปรู๊ดปราดหรือ sprint จะสูู้หมอบไม่ได้ ถ้าเจอหมอบเป็นฝูง ช่วยกันรุม อาจโดนกลุ่มกระชากหนีแล้วโดนทิ้งได้ แต่ถ้าหมอบที่ยกหนีมีแค่คันสองคัน และคนขี่มีแรงพอๆ กัน ถึงจะหนีไปได้ แต่ก็ไปไม่ได้ไกลหรอก TT ตั้งความเร็วยืนระยะได้ยาวกว่า
3. ความคล่องตัวต่ำว่า นน. จะทิ้งลงล้อหน้าเยอะกว่าหมอบมาก หมอบนน.ลงล้อหน้าแค่ราวๆ 20% แต่ถ่้าเป็นรถ TT ตอนจับแอร์โร่บาร์อาจลงล้อหน้าถึง 40% เลยทีเดียว ทำให้หัวหนัก ถึงแม้จะมาจับที่ base bar ก็ยังพริ้วไม่เท่าหมอบ เพราะเครื่องเคราของแอร์โร่บาร์ มันก็ทำให้หัวหนัก (ภาษาวิชาการก็คือ moment of inertia ของแกนเลี้ยวเยอะ) การเข้าโค้งแคบๆ หรือปาดซ้ายขวา จะสู้หมอบไม่ได้ อีกสาเหตุที่รถ TT ไม่พริ้วคือเขาจะออกแบบให้มีองศาท่อคอต่ำกว่า เพื่อให้มีเสถียรภาพมากขึ้น เหมาะกับการขี่ท่าแอร์โร่
4. เบรกไม่ได้ตอนจับแอร์โร่บาร์ เปลี่ยนเกียร์ไม่ได้จาก base bar (เว้นแต่ใช้ Di2) แต่ก็มีบางคนติดมือเบรกอันที่ 3 แต่ไม่นิยมเท่าไหร่นัก ข้อนี้รวมกับข้อ 3 ทำให้อันตรายตอนขี่กลุ่ม หรือขี่ในที่มีรถเยอะ TT ควรนำกลุ่ม หรือถ้าจะตามต้องทิ้งระยะซักเมตรสองเมตร และขี่เยื้องหน่อยๆ ให้มีทางหนีทีไล่บ้าง ด้วยความได้เปรียบเรื่องแอร์โร่ ถึงตามไม่ติดเท่าไหร่ก็ยังเซฟแรงได้พอๆ กับหมอบขี่จี้ติดสนิท
แนะนำว่าถ้ามีโอกาศควรลองครับ มันส์ไปอีกแบบ
ป.ล. หมอบติดคลิ๊บแอร์โร่ ถ้าเซ็ตมาแบบหมอบเดิมๆ จะขี่ไม่สบายหรือขี่แทบไม่ได้ เพราะระยะแผ่นรองศอกจะยาวเกินไป ควรลด stem ลง 2-3cm และเซ็ตอานมาหน้าเยอะๆ และกดแฮนด์ลงต่ำกว่าที่ขี่ปกติหน่อยโดยการลดแหวนรองคอ
1. แอร์โร่สุดๆ ท่านั่งจับแอร์โร่บาร์ ถ้าเซ็ตรถมาดีๆ ร่างกายจะห่อเป็นก้อนเล็กๆ ในทิศทางปะทะลม ลดพื้นที่ปะทะ ถามว่าช่วยได้แค่ไหน จากประสบการณ์ส่วนตัว ผมขี่หมอบเดี่ยวๆ ความเร็วที่ยืนระยะได้ยาวๆ บนทางราบไม่มีลม จะอยู่แถวๆ 35 แต่ถ้าขี่รถ TT จะได้ประมาณเกือบ 40 ยิ่งลมแรง หรือที่ความเร็วสูงๆ ความได้เปรียบเรื่องนี้จะยิ่งมาก
ถ้าเราขี่ TT ถ้าจะหนีหมอบ ให้ไปหนีช่วงลมแรงๆ หรือลงเนิน จะยิงหนีหมอบได้ง่ายๆ คือถ้าแรงพอๆ กัน เจอ TT ตั้งรอบหนีที่ความเร็ว 50-55 (ลงเนิน) แรกๆ หมอบอาจจะพยาม Sprint ตามไปได้ แต่นวดสักพักก็จะดูดไม่ติดครับ ยิ่งถ้าต้องขึ้นมา Sprint เจอแรงลมปะทะ ไม่นานก็หมด
2. ความสบาย รถ TT ที่เซ็ตมาถูกต้อง จะขี่สบายมากๆ ในท่าแอร์โร่ มีรองศอกรับนน.ตัว ไปเต็มๆ ไม่ต้องเกร็งแขน หรือใช้หลังส่วนล่างเกร็งรับนน.เหมือนตอนขี่หมอบจับดร็อปก้มต่ำ
3. ส่วนใหญ่รถ TT โดยเฉพะรถไตร ถ้าเซ็ตอานตามปกติ ด้วยองศารถมันจะทำให้หลักอานมักไม่เยื้องหลังกระโหลก (ผิดกติกา UCI) ส่งผลให้ออกแรงกระทืบบันไดได้หนักหน่วงกว่าหมอบที่มีระยะ setback ประมาณ 5cm
ความเสียเปรียบ
1. รถหนักกว่าหมอบที่ราคาพอๆ กันอยู่พอสมควร เพราะเฟรมเน้น aero ต้องใช้เนื้อวัสดุเยอะกว่า แถม aerobar ทั้งชุดขนาดแบบเทพๆ มันก็หนักโลกว่าๆ เข้าไปแล้ว ในขณะที่ drop bar นน.สองขีด ตัวอย่างเช่นหมอบขั้นเทพราคาแถวๆ สองแสน นน.ไม่ควรเกิน 6.5kg แต่ถ้าเป็นรถ TT หนักน้อยกว่า 8 โลได้ก็มหัศจรรย์แล้ว
2. ยืนโยกได้ไม่ถนัด รวมกับนน.ที่มากกว่า จะทำให้เสียเปรียบทางขึ้นเขา (แต่ไปได้เปรียบนิดๆ ตอนลง ถ้าโค้งไม่แคบนัก) การกระชากปรู๊ดปราดหรือ sprint จะสูู้หมอบไม่ได้ ถ้าเจอหมอบเป็นฝูง ช่วยกันรุม อาจโดนกลุ่มกระชากหนีแล้วโดนทิ้งได้ แต่ถ้าหมอบที่ยกหนีมีแค่คันสองคัน และคนขี่มีแรงพอๆ กัน ถึงจะหนีไปได้ แต่ก็ไปไม่ได้ไกลหรอก TT ตั้งความเร็วยืนระยะได้ยาวกว่า
3. ความคล่องตัวต่ำว่า นน. จะทิ้งลงล้อหน้าเยอะกว่าหมอบมาก หมอบนน.ลงล้อหน้าแค่ราวๆ 20% แต่ถ่้าเป็นรถ TT ตอนจับแอร์โร่บาร์อาจลงล้อหน้าถึง 40% เลยทีเดียว ทำให้หัวหนัก ถึงแม้จะมาจับที่ base bar ก็ยังพริ้วไม่เท่าหมอบ เพราะเครื่องเคราของแอร์โร่บาร์ มันก็ทำให้หัวหนัก (ภาษาวิชาการก็คือ moment of inertia ของแกนเลี้ยวเยอะ) การเข้าโค้งแคบๆ หรือปาดซ้ายขวา จะสู้หมอบไม่ได้ อีกสาเหตุที่รถ TT ไม่พริ้วคือเขาจะออกแบบให้มีองศาท่อคอต่ำกว่า เพื่อให้มีเสถียรภาพมากขึ้น เหมาะกับการขี่ท่าแอร์โร่
4. เบรกไม่ได้ตอนจับแอร์โร่บาร์ เปลี่ยนเกียร์ไม่ได้จาก base bar (เว้นแต่ใช้ Di2) แต่ก็มีบางคนติดมือเบรกอันที่ 3 แต่ไม่นิยมเท่าไหร่นัก ข้อนี้รวมกับข้อ 3 ทำให้อันตรายตอนขี่กลุ่ม หรือขี่ในที่มีรถเยอะ TT ควรนำกลุ่ม หรือถ้าจะตามต้องทิ้งระยะซักเมตรสองเมตร และขี่เยื้องหน่อยๆ ให้มีทางหนีทีไล่บ้าง ด้วยความได้เปรียบเรื่องแอร์โร่ ถึงตามไม่ติดเท่าไหร่ก็ยังเซฟแรงได้พอๆ กับหมอบขี่จี้ติดสนิท
แนะนำว่าถ้ามีโอกาศควรลองครับ มันส์ไปอีกแบบ
ป.ล. หมอบติดคลิ๊บแอร์โร่ ถ้าเซ็ตมาแบบหมอบเดิมๆ จะขี่ไม่สบายหรือขี่แทบไม่ได้ เพราะระยะแผ่นรองศอกจะยาวเกินไป ควรลด stem ลง 2-3cm และเซ็ตอานมาหน้าเยอะๆ และกดแฮนด์ลงต่ำกว่าที่ขี่ปกติหน่อยโดยการลดแหวนรองคอ
แก้ไขล่าสุดโดย StoneRoses เมื่อ 22 มี.ค. 2013, 23:02, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง
- keepmoment
- ขาประจำ
- โพสต์: 1485
- ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มิ.ย. 2010, 21:50
- Bike: P2
Re: รถ time trial มีสเหน่ห์ในตัวเองตรงไหนครับ อยากรู้ครับ ไม่เคยแตะ ไม่เคยลองเลยครับ
ขอ กด like ให้ คุณ stonerose ไปหนึ่งดอก
ผมชอบเฟรม TT มากมาย สวยสุดๆ เอามาใส่แฮนด์หมอบ สาวหลงแน่
ผมชอบเฟรม TT มากมาย สวยสุดๆ เอามาใส่แฮนด์หมอบ สาวหลงแน่
- phongsiri
- ขาประจำ
- โพสต์: 5786
- ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ก.พ. 2009, 11:25
- Tel: -
- team: Nong Khai Cycling Club
Re: รถ time trial มีสเหน่ห์ในตัวเองตรงไหนครับ อยากรู้ครับ ไม่เคยแตะ ไม่เคยลองเลยครับ
เคยทำครับ และขอบอกได้เลยว่าขี่เส้นทางเดียวกัน ระยะสั้นซัก20km หลังใส่ แอโรบาร์ ความเร็วเฉยี่ยเพิ่มจาก30เป็น33KM/HJADE555 เขียน:ถ้าเฟรม TT ใส่แฮนด์หมอบ มีใครทำแล้วมั่งครับ
แล้วชิฟเตอร์หมอบ จะไปใส่แฮนด์ TT ได้ไหมครับ
ไม่รู้อุปทานหรือไม่อย่างไรแต่ก็ไม่ได้ใส่บ่อยครับ นานๆใส่ที
แต่ปัญหาเวลาเปลี่ยนเกียร์ต้องเปลี่ยนตำแหน่งมือไปมาแต่รถไทม์ไทร ถ้าขี่คนเดียวแบบไม่ต้องเบรกหลบใคร เปลี่ยนเกียร์ได้จากตำแหน่งปลายแอโร่บาร์ยิ่งจะมันส์
แต่เวลาเบรก ก็ต้องเปลี่ยนที่จับทั้งไทม์ไทร และหมอบติดแอโรบาร์ ยกเว้นแต่ว่าใช้ Di2 เห็นว่าเปลี่ยนเกียร์ได้ทั้งที่มือเบรกทั้งปลายแอโรบาร์ ล้ำมากๆแต่แพงสุดๆ
ส่วเรื่องเอา shifterหมอบมาใส่ที่ปลายแอโร่บาร์ผมว่าทำได้นะครับ แต่เอาเข้าจริงๆแล้วเวลาเลี้ยวๆหรือเบรก ถ้าเราทำขณะที่จะแอโรบาร์อยู่การทรงตัวจะแย่มาก
ทางที่ดีถ้าขี่หมอบเวลาจะเบรกก็กลับไปจับที่เดิ่มดีแล้วครับ อาจจะไปหาshifter ปลายแอโร่บาร์มาใส่แล้วต่อสายเกียร์แยกไปอีกทีไม่รู้ทำไหม แต่ถ้าให้เอาเบรกมาไว้ที่ปลายแฮนด์ เสียวครับ ทรงตัวยากมากๆแน่ๆ
ชีวิตที่ผ่านมานั้นมันคุ้มค่าจริงหรือ และตอนนี้ได้ทำอะไรเพื่อจะก้าวต่อไปแล้วหรือยัง
If not now. When? Let's get start.
คิดมากเกินไป ก็ออกทะเลไปเรื่อยๆ
If not now. When? Let's get start.
คิดมากเกินไป ก็ออกทะเลไปเรื่อยๆ
- mhonglio
- ขาประจำ
- โพสต์: 658
- ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ต.ค. 2009, 14:47
- Tel: 0863549963
- team: Lingbaa XS, 99 City Bike,DTK
- Bike: Pinarello FP 4:13
Re: รถ time trial มีสเหน่ห์ในตัวเองตรงไหนครับ อยากรู้ครับ ไม่เคยแตะ ไม่เคยลองเลยครับ
ล่าสุดได้ลองเอา 1885 คันเก่งไปติดแอโร่บาร์แล้วปั่นไปบางปะอินช่วงเลียบคลองตั้งความเร็วได้มากขึ้น มุดลมได้มากขึ้นยิงยาวๆลากฝ่ากระแสลมเนียนๆได้ตลอดทั้งเส้นเลยครับ
รบกวนถามคุณ StoneRoses หรือผู้ที่มีความรู้การขี่รถที่มีแอโร่บาร์หน่อยครับ ปกติเวลาผมขี่แล้วจับแฮนด์ดรอปรอบขาที่ 100+ขี่ได้ปกติ
แต่เมื่อติดแอร์โร่บาร์แล้วกลับปั่นไม่ถนัดรอบขาต้องลดลงเหลือ 85-90 (ต้องกดหนักขึ้น)หรือผมเซ็ทรถไม่ถูก หรือคิดไปเองครับ ขอบคุณครับ
รบกวนถามคุณ StoneRoses หรือผู้ที่มีความรู้การขี่รถที่มีแอโร่บาร์หน่อยครับ ปกติเวลาผมขี่แล้วจับแฮนด์ดรอปรอบขาที่ 100+ขี่ได้ปกติ
แต่เมื่อติดแอร์โร่บาร์แล้วกลับปั่นไม่ถนัดรอบขาต้องลดลงเหลือ 85-90 (ต้องกดหนักขึ้น)หรือผมเซ็ทรถไม่ถูก หรือคิดไปเองครับ ขอบคุณครับ
- StoneRoses
- ขาประจำ
- โพสต์: 3149
- ลงทะเบียนเมื่อ: 03 เม.ย. 2009, 16:12
- Bike: Pinarello Dogma F8, Trek Speed Concept 9.9
Re: รถ time trial มีสเหน่ห์ในตัวเองตรงไหนครับ อยากรู้ครับ ไม่เคยแตะ ไม่เคยลองเลยครับ
ถ้าไปดูโปร เขาขี่กัน จะเห็นได้ชัดว่าขี่รถ TT โดยเฉพาะนักไตร จะขี่กันด้วยรอบขา 80-90 เท่านั้น ในขณะที่นักจักรยานขี่เสือหมอบ ในการแข่งขันจะใช้รอบขา 90-110 แล้วแต่ความถนัดของแต่ละคน และเมื่อนักจักรยานพวกนี้ขี่ TT ก็จะใช้รอบขาต่ำกว่าปกติ เน้นเกียร์หนัก รอบต่ำ
ผู้รู้เขาบอกว่าตอนขี่จับแอร์โร่บาร์ ท่าขี่มันจะก้มต่ำกว่าขี่หมอบนิดหน่อย และมักนั่งอยู่บนจมูกอาน หรือเยื้องมาหน้ามากที่สุด มุมนั่งแบบนี้มันช่วยให้เรากดบันไดได้หนัก แต่ก็ควงรอบอาจจะทำได้ไม่สูง ซึ่งมันเป็นธรรมชาติของท่าขี่แบบนี้
ผมไม่ได้มีประสบการณ์อะไรมากมายครับ ผมขี่รถไตรมาไม่ถึงเดือน แต่เท่าที่ศึกษามา (อ่านเรื่อง fitting จากเว็บ slowtwitch.com) หลักการเซ็ตรถประเภทนี้คือ
1. ต้องขี่สบาย โดยเฉพาะรถไตร ขี่ระยะไกลๆ ถ้าเซ็ตเป็นรถ TT ขี่สั้นๆ อาจยอมลดความสบายลงได้
2. ท่าขี่ต้องให้แอร์โร่หน่อย คือ หลังโค้งหลังส่วนบนเกือบๆ ขนานพื้น ไหล่ห่อ เก็บคอ วางตำแหน่งหัวไม่ให้ยื่นไปต้านลมด้านบนมากนัก ควรช่วยบังลมที่จะเข้าไปปะทะหน้าอก แขนวางเป็นแนวสามเหลี่ยมเพื่อแหวกลมออกไปด้านข้างลำตัว
3. มุมสะโพก (มุมระหว่างเส้นตรงที่ลากจากจุดติดคลีตถึงกระดูกสะโพก และเส้นกระดูกสะโพกถึงไหปลาร้า) จะต้องไม่แคบเกินไป ถ้ามุมแหลมไปจะทำให้ออกแรงกดได้ไม่เต็มที่ แต่ถ้าป้านไปจะทำให้ต้านลม ดูรูปด้านล่างประกอบ เขาว่ามุมที่เหมาะสมคือ 90-95 องศา
ถ้าเปิดมุมสะโพก 90 องศา ในขณะที่หลักอานเยื้องหลังมากๆ (องศาเฟรมรถหมอบทั่วไป) จะพบว่าหลังจะไม่ขนานพื้่น หัวโผล่มาต้านลม เสียแอร์โร่ไดนามิกส์ แต่ถ้ากดแฮนด์ต่ำ เพื่อให้หลังขนานพื้น มุมสะโพกก็จะแคบกว่า 90 องศา แบบนี้ก็เสียแรงกด
ดังนั้น การเซ็ตรถที่เหมาะสม คือบาลานซ์ระหว่างข้อ 2 กะ ข้อ 3 ต้องเอาทั้งสองอย่าง องศารถและตำแหน่งอานเมื่อเทียบกับกระโหลก จะมีผลมาก ตามรูป
หลักอานยิ่งเยื้องหน้า จะกดให้หลังต่่ำลง โดยมุมสะโพกอยู่ในช่วงที่แรงกดสูงได้ ดังนั้นการขี่รถไตร ที่ไม่บังคับระยะเยื้องหลัง เลยมักเซ็ตรถโดยวางจมูกอานเกิน BB มานิดหน่อย เพื่อเปิดองศาสะโพกให้ออกแรงได้ดี และไม่เสีย Aerodynamics
ป.ล. ภาพประกอบจาก slowtwitch.com
ผู้รู้เขาบอกว่าตอนขี่จับแอร์โร่บาร์ ท่าขี่มันจะก้มต่ำกว่าขี่หมอบนิดหน่อย และมักนั่งอยู่บนจมูกอาน หรือเยื้องมาหน้ามากที่สุด มุมนั่งแบบนี้มันช่วยให้เรากดบันไดได้หนัก แต่ก็ควงรอบอาจจะทำได้ไม่สูง ซึ่งมันเป็นธรรมชาติของท่าขี่แบบนี้
ผมไม่ได้มีประสบการณ์อะไรมากมายครับ ผมขี่รถไตรมาไม่ถึงเดือน แต่เท่าที่ศึกษามา (อ่านเรื่อง fitting จากเว็บ slowtwitch.com) หลักการเซ็ตรถประเภทนี้คือ
1. ต้องขี่สบาย โดยเฉพาะรถไตร ขี่ระยะไกลๆ ถ้าเซ็ตเป็นรถ TT ขี่สั้นๆ อาจยอมลดความสบายลงได้
2. ท่าขี่ต้องให้แอร์โร่หน่อย คือ หลังโค้งหลังส่วนบนเกือบๆ ขนานพื้น ไหล่ห่อ เก็บคอ วางตำแหน่งหัวไม่ให้ยื่นไปต้านลมด้านบนมากนัก ควรช่วยบังลมที่จะเข้าไปปะทะหน้าอก แขนวางเป็นแนวสามเหลี่ยมเพื่อแหวกลมออกไปด้านข้างลำตัว
3. มุมสะโพก (มุมระหว่างเส้นตรงที่ลากจากจุดติดคลีตถึงกระดูกสะโพก และเส้นกระดูกสะโพกถึงไหปลาร้า) จะต้องไม่แคบเกินไป ถ้ามุมแหลมไปจะทำให้ออกแรงกดได้ไม่เต็มที่ แต่ถ้าป้านไปจะทำให้ต้านลม ดูรูปด้านล่างประกอบ เขาว่ามุมที่เหมาะสมคือ 90-95 องศา
ถ้าเปิดมุมสะโพก 90 องศา ในขณะที่หลักอานเยื้องหลังมากๆ (องศาเฟรมรถหมอบทั่วไป) จะพบว่าหลังจะไม่ขนานพื้่น หัวโผล่มาต้านลม เสียแอร์โร่ไดนามิกส์ แต่ถ้ากดแฮนด์ต่ำ เพื่อให้หลังขนานพื้น มุมสะโพกก็จะแคบกว่า 90 องศา แบบนี้ก็เสียแรงกด
ดังนั้น การเซ็ตรถที่เหมาะสม คือบาลานซ์ระหว่างข้อ 2 กะ ข้อ 3 ต้องเอาทั้งสองอย่าง องศารถและตำแหน่งอานเมื่อเทียบกับกระโหลก จะมีผลมาก ตามรูป
หลักอานยิ่งเยื้องหน้า จะกดให้หลังต่่ำลง โดยมุมสะโพกอยู่ในช่วงที่แรงกดสูงได้ ดังนั้นการขี่รถไตร ที่ไม่บังคับระยะเยื้องหลัง เลยมักเซ็ตรถโดยวางจมูกอานเกิน BB มานิดหน่อย เพื่อเปิดองศาสะโพกให้ออกแรงได้ดี และไม่เสีย Aerodynamics
ป.ล. ภาพประกอบจาก slowtwitch.com
- mhonglio
- ขาประจำ
- โพสต์: 658
- ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ต.ค. 2009, 14:47
- Tel: 0863549963
- team: Lingbaa XS, 99 City Bike,DTK
- Bike: Pinarello FP 4:13
Re: รถ time trial มีสเหน่ห์ในตัวเองตรงไหนครับ อยากรู้ครับ ไม่เคยแตะ ไม่เคยลองเลยครับ
ขอบคุณ คุณStoneRoses มากครับทำให้ผมเริ่มเข้าใจอะไรๆได้มากขึ้นแล้ว มิน่าๆ
- แมวทอง
- ขาประจำ
- โพสต์: 8731
- ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.พ. 2010, 08:47
- team: อันนี้ลิงค์เข้า facebook ครับ https://www.facebook.com/songkran.kook
Re: รถ time trial มีสเหน่ห์ในตัวเองตรงไหนครับ อยากรู้ครับ ไม่เคยแตะ ไม่เคยลองเลยครับ
ตอบกันดีๆทั้งนั้นครับ
อย่าลืมความแข็งแรงของลำตัวด้วย จะทำให้ท่านั่งปั่น มีความมั่นคง
ไปได้ นานขึ้น เร็วขึ้นครับ และ ปวดหลังน้อยลงครับ
อย่าลืมความแข็งแรงของลำตัวด้วย จะทำให้ท่านั่งปั่น มีความมั่นคง
ไปได้ นานขึ้น เร็วขึ้นครับ และ ปวดหลังน้อยลงครับ
แมวทองคือแมวน้ำแมวน้ำคือแมวทะเล
- โต้งหลังอนามัย
- ขาประจำ
- โพสต์: 3543
- ลงทะเบียนเมื่อ: 09 เม.ย. 2010, 11:35
- Tel: 0848507344
- team: นาคาไบท์ ภูเก็ต
- Bike: อยากได้ s3 เรด ซิป
- ตำแหน่ง: ภูเก็ตครับ
Re: รถ time trial มีสเหน่ห์ในตัวเองตรงไหนครับ อยากรู้ครับ ไม่เคยแตะ ไม่เคยลองเลยครับ
สเหน่ห์ของ tt ก็คือความเร็ว รถที่เน้นความเร็วก็จะดู ปาดเปรียว ดุดัน ท่านั่งมันก็เลยดูเทห์ แถมหลบลมได้อย่างสุดยอด...
ดูอุปกรณ์ที่ใส่กับรถประเภทนี้แต่ละอย่างสิ โครตเทห์เลย แอร์โรบา เอย ล้อดิส์ เอย สามก้าน เอย หมวก เอย ที่พูดมานี่ไม่มีสักอย่าง..
ไม่มีรถ tt หรอกน่ะ แค่ลองทำท่านั่งเวลาปั่นหมอบเฉยๆ...
ดูอุปกรณ์ที่ใส่กับรถประเภทนี้แต่ละอย่างสิ โครตเทห์เลย แอร์โรบา เอย ล้อดิส์ เอย สามก้าน เอย หมวก เอย ที่พูดมานี่ไม่มีสักอย่าง..
ไม่มีรถ tt หรอกน่ะ แค่ลองทำท่านั่งเวลาปั่นหมอบเฉยๆ...
ภูมิใจเถอะทูนหัว มีผัวขี่จักรยาน 555