ถามว่า ถ้าน้ำหนักตกที่สันมือ แล้วมือจะไม่ชาไหม ก็บอกเลยว่า"ไม่"
ฟิตติ้งดีแล้ว มือจะไม่ชาหรือ คำตอบคือ "ไม่"
ถ้าไม่อยากมือชา ก็อย่าจับแฮนด์
ครับ คือ ตราบใดที่ยังต้องจับแฮนด์ ไม่ว่าจะจับแฮนด์ล่าง หรือ ดรอป หรือ จับกลางแฮนด์ ( ส่วนตรง ) หรือ ฮูด ยังไงก็ชา เพราะสุดท้ายแล้ว น้ำหนักก็จะตกลงไปผ่านอุ้งมือ หรือ ผ่านอุโมงค์ใต้ข้อมือ ที่มีเส้นประสาทลอดผ่านเข้าไปอยู่ดี
วิธีในการลดปัญหาเรื่องมือชา ทำได้อย่างไร ?
1. ฟิตติ้งครับ ฟิตติ้งเพื่อให้ปรับตำแหน่งแฮนด์ มุมของมือเบรค ตำแหน่งสูงต่ำของมือเบรค เมื่อให้สุดท้ายแล้วเมื่อเราจับฮูดแล้ว น้ำหนักตกลงบนสันมือ ( แต่สุดท้ายแรงก็จะส่งผ่านไปยังอุ้งมือได้บ้างอยู่ดี ) การฟิตติ้งที่ดีจะช่วยชะลอให้มือชาเกิดขึ้นได้ช้าลง
2. เปลี่ยนย้ายตำแหน่งที่วางมือไปเรื่อยๆ เคยพิสูจน์แล้วครั้งหนึ่งกับทริป 100 กม. กับโปรไบค์ วันนั้นรีบมากไปหน่อย ลืมถุงมือไว้ในกระเป๋า ก็ปั่นมันไปแบบมือเปล่าๆนี่แหละ อาศัยสลับตำแหน่งวางมือไปเรื่อยๆ ปรากฏว่าวันนั้นมือไม่ชาเลย ผิดกับคันข้างหน้า ใส่ถุงมือครบ แต่สะบัดมือเร่าๆตลอดทริป
สำหรับผมแล้ว ถุงมือไม่ได้ช่วยให้ปั่นแล้วมือไม่ชา แต่ช่วยให้จับแฮนด์ได้กระชับขึ้น โดยเฉพาะเวลาเหงื่อออกมากๆ มือจะลื่น บางคน ( รวมทั้งผมด้วย ) เหงื่อจะออกบริเวณฝ่ามือ จับแฮนด์แล้วจะลื่น และประโยชน์ที่สำคัญของถุงมือคือ ถ้าล้ม ถุงมือจะช่วยsafeหนังฝ่ามือให้เราได้แบบคาดไม่ถึงทีเดียว
และในทางตรงกันข้าม ถุงมือจะทำให้เรามือชาได้ง่ายกว่ามือเปล่าๆ เพราะบ่อยครั้งที่ถุงมือบุเจล บุอะไรก็ตามที่นุ่ม ความรู้สึกว่ามีอะไรมากดมือก็จะเกิดขึ้นช้ากว่ามือเปล่าๆ เราก็จะเกิดอาการ"เริ่มชา"ขึ้นโดยไม่รู้ตัว ผิดกับมือเปล่าเราจะรู้สึกเร็วกว่า และทำการย้ายสลับจุดสัมผัสกับแฮนด์ไปได้เร็วกว่าที่เริ่มเกิดอาการชา
3. ข้อนี้คือ ข้อที่สำคัญที่สุด ผมพูดขำๆว่า ถ้าไม่อยากมือชา ก็อย่าจับแฮนด์ จริงๆมันไม่ขำหรอกครับ มันเป็นเรื่องล้อกัน เพราะว่า ถ้าคุณไม่ต้องส่งผ่านน้ำหนักของร่างกายทั้งหมดลงไปที่มือแล้ว มือก็มีหน้าที่แค่ประคองแฮนด์ให้รถสามารถรักษาทิศทางการวิ่งหรือไม่ให้มันล้มเท่านั้นแหละ มือไม่ได้เป็นตัวรับน้ำหนักของร่างกายท่อนบนเลย
แล้วน้ำหนักท่อนบนของร่างกายจะถูกใครรับเป็นภาระไปหละ ? ภาระจะตกอยู่ที่กล้ามเนื้อแกนกลางของลำตัวครับ ไม่ว่าจะเป็นกล้ามเนื้อหลัง กล้ามเนื้อหน้าท้อง แต่นั่นก็หมายความว่า กล้ามเนื้อแกนกลางของลำตัวก็ต้องมีความแข็งแรงใช่ไหม
ทำยังไงให้กล้ามเนื้อลำตัวแข็งแรง? ปั่นไปสักพักหนึ่ง มันก็จะแข็งแรงขึ้น เพราะมันถูกใช้งาน แต่เรื่องอะไรจะต้องรอแบบนั้นหละ สู้พัฒนาให้มันแข็งแรงโดยไม่ต้องรอให้มือชาจะไม่ดีกว่าเหรอ !!!
Planking คือ ท่าบริหารง่ายๆ ครับ
ภาพตัวอย่างนี้ คือ ท่าที่ถูกต้องที่สุดคือ ก้นจะต้องโด่งนิดๆ หลังจะต้องไม่แอ่น
ทำ วันละ 2-3 set set ละ 1 นาที พัก 2-3 นาที
Back Extension ก็คืออีกท่าหนึ่ง
ท่านี้จำเป็นต้องพึ่งเครื่องมือบ้าง งอ ยก งอยก ติดต่อกัน set ละ 10-15 ครั้ง พักยกไปนานๆ แล้วมาทำซ้ำใหม่ก็ได้เท่าที่ยังไหว สักวันละ 3 sets ก็สุดยอดแล้ว
SuperMan ท่านี้โหดสุดหละ
เล่นเป็น set เหมือนกับ Planking นั่นแหละ setหนึ่งจะเล่นได้นานกี่วินาที อันนี้อยู่ที่ความแข็งแรงหละครับ พวกโปรนี่ เขาเล่นท่านี้บน Ball เขาเรียกว่า ท่าปลาดาว คือ กางแขน กางขา เลี้ยงตัวบนลูกบอลโยคะ
หรือจะลองส่องดูใน link ที่ให้ไปก็ได้ครับ
https://www.google.co.th/search?q=back+ ... rcise+ball
ขอเพียงแต่กล้ามเนื้อแกนกลางคุณแข็งแรงขึ้น คุณก็จะปั่นได้ดีขึ้นกว่าเดิมแบบประหลาดใจเลยทีเดียวแหละ
ปั่นแล้วมือชาครับ
ผู้ดูแล: Cycling B®y, spinbike, velocity
- lucifer
- ขาประจำ
- โพสต์: 6413
- ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ย. 2010, 14:53
- team: BPMTB , BPRB , Bikeloves
- Bike: Only 2-wheels bike
- ติดต่อ:
Re: ปั่นแล้วมือชาครับ
ถ้าอ่อนซ้อม อ่อนทักษะ ก็จะพบว่าจักรยานคันไหนๆก็ไม่แตกต่างกันหรอก เพราะปั่นไม่ไปเหมือนๆกัน และบังคับควบคุมได้ห่วยพอๆกัน
- Woot Pimpaporn
- สมาชิก
- โพสต์: 79
- ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.ค. 2016, 08:21
- Bike: Giant tcr adv Pro
Re: ปั่นแล้วมือชาครับ
ยืนยันครับว่าการทำ แพล้งกิ้ง ช่วยได้จริง..ส่งผลดีต่อกล้ามเนื้อในส่วนแกนลำตัวดีมาก
- trek3900/2009
- ขาประจำ
- โพสต์: 1958
- ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ส.ค. 2009, 02:31
Re: ปั่นแล้วมือชาครับ
จริงเลยครับ 2 ประเด็นแรก ครับlucifer เขียน:ถามว่า ถ้าน้ำหนักตกที่สันมือ แล้วมือจะไม่ชาไหม ก็บอกเลยว่า"ไม่"
ฟิตติ้งดีแล้ว มือจะไม่ชาหรือ คำตอบคือ "ไม่"
ถ้าไม่อยากมือชา ก็อย่าจับแฮนด์
ครับ คือ ตราบใดที่ยังต้องจับแฮนด์ ไม่ว่าจะจับแฮนด์ล่าง หรือ ดรอป หรือ จับกลางแฮนด์ ( ส่วนตรง ) หรือ ฮูด ยังไงก็ชา เพราะสุดท้ายแล้ว น้ำหนักก็จะตกลงไปผ่านอุ้งมือ หรือ ผ่านอุโมงค์ใต้ข้อมือ ที่มีเส้นประสาทลอดผ่านเข้าไปอยู่ดี
วิธีในการลดปัญหาเรื่องมือชา ทำได้อย่างไร ?
1. ฟิตติ้งครับ ฟิตติ้งเพื่อให้ปรับตำแหน่งแฮนด์ มุมของมือเบรค ตำแหน่งสูงต่ำของมือเบรค เมื่อให้สุดท้ายแล้วเมื่อเราจับฮูดแล้ว น้ำหนักตกลงบนสันมือ ( แต่สุดท้ายแรงก็จะส่งผ่านไปยังอุ้งมือได้บ้างอยู่ดี ) การฟิตติ้งที่ดีจะช่วยชะลอให้มือชาเกิดขึ้นได้ช้าลง
2. เปลี่ยนย้ายตำแหน่งที่วางมือไปเรื่อยๆ เคยพิสูจน์แล้วครั้งหนึ่งกับทริป 100 กม. กับโปรไบค์ วันนั้นรีบมากไปหน่อย ลืมถุงมือไว้ในกระเป๋า ก็ปั่นมันไปแบบมือเปล่าๆนี่แหละ อาศัยสลับตำแหน่งวางมือไปเรื่อยๆ ปรากฏว่าวันนั้นมือไม่ชาเลย ผิดกับคันข้างหน้า ใส่ถุงมือครบ แต่สะบัดมือเร่าๆตลอดทริป
สำหรับผมแล้ว ถุงมือไม่ได้ช่วยให้ปั่นแล้วมือไม่ชา แต่ช่วยให้จับแฮนด์ได้กระชับขึ้น โดยเฉพาะเวลาเหงื่อออกมากๆ มือจะลื่น บางคน ( รวมทั้งผมด้วย ) เหงื่อจะออกบริเวณฝ่ามือ จับแฮนด์แล้วจะลื่น และประโยชน์ที่สำคัญของถุงมือคือ ถ้าล้ม ถุงมือจะช่วยsafeหนังฝ่ามือให้เราได้แบบคาดไม่ถึงทีเดียว
และในทางตรงกันข้าม ถุงมือจะทำให้เรามือชาได้ง่ายกว่ามือเปล่าๆ เพราะบ่อยครั้งที่ถุงมือบุเจล บุอะไรก็ตามที่นุ่ม ความรู้สึกว่ามีอะไรมากดมือก็จะเกิดขึ้นช้ากว่ามือเปล่าๆ เราก็จะเกิดอาการ"เริ่มชา"ขึ้นโดยไม่รู้ตัว ผิดกับมือเปล่าเราจะรู้สึกเร็วกว่า และทำการย้ายสลับจุดสัมผัสกับแฮนด์ไปได้เร็วกว่าที่เริ่มเกิดอาการชา
3. ข้อนี้คือ ข้อที่สำคัญที่สุด ผมพูดขำๆว่า ถ้าไม่อยากมือชา ก็อย่าจับแฮนด์ จริงๆมันไม่ขำหรอกครับ มันเป็นเรื่องล้อกัน เพราะว่า ถ้าคุณไม่ต้องส่งผ่านน้ำหนักของร่างกายทั้งหมดลงไปที่มือแล้ว มือก็มีหน้าที่แค่ประคองแฮนด์ให้รถสามารถรักษาทิศทางการวิ่งหรือไม่ให้มันล้มเท่านั้นแหละ มือไม่ได้เป็นตัวรับน้ำหนักของร่างกายท่อนบนเลย
แล้วน้ำหนักท่อนบนของร่างกายจะถูกใครรับเป็นภาระไปหละ ? ภาระจะตกอยู่ที่กล้ามเนื้อแกนกลางของลำตัวครับ ไม่ว่าจะเป็นกล้ามเนื้อหลัง กล้ามเนื้อหน้าท้อง แต่นั่นก็หมายความว่า กล้ามเนื้อแกนกลางของลำตัวก็ต้องมีความแข็งแรงใช่ไหม
ทำยังไงให้กล้ามเนื้อลำตัวแข็งแรง? ปั่นไปสักพักหนึ่ง มันก็จะแข็งแรงขึ้น เพราะมันถูกใช้งาน แต่เรื่องอะไรจะต้องรอแบบนั้นหละ สู้พัฒนาให้มันแข็งแรงโดยไม่ต้องรอให้มือชาจะไม่ดีกว่าเหรอ !!!
Planking คือ ท่าบริหารง่ายๆ ครับ
ภาพตัวอย่างนี้ คือ ท่าที่ถูกต้องที่สุดคือ ก้นจะต้องโด่งนิดๆ หลังจะต้องไม่แอ่น
ทำ วันละ 2-3 set set ละ 1 นาที พัก 2-3 นาที
Back Extension ก็คืออีกท่าหนึ่ง
ท่านี้จำเป็นต้องพึ่งเครื่องมือบ้าง งอ ยก งอยก ติดต่อกัน set ละ 10-15 ครั้ง พักยกไปนานๆ แล้วมาทำซ้ำใหม่ก็ได้เท่าที่ยังไหว สักวันละ 3 sets ก็สุดยอดแล้ว
SuperMan ท่านี้โหดสุดหละ
เล่นเป็น set เหมือนกับ Planking นั่นแหละ setหนึ่งจะเล่นได้นานกี่วินาที อันนี้อยู่ที่ความแข็งแรงหละครับ พวกโปรนี่ เขาเล่นท่านี้บน Ball เขาเรียกว่า ท่าปลาดาว คือ กางแขน กางขา เลี้ยงตัวบนลูกบอลโยคะ
หรือจะลองส่องดูใน link ที่ให้ไปก็ได้ครับ
https://www.google.co.th/search?q=back+ ... rcise+ball
ขอเพียงแต่กล้ามเนื้อแกนกลางคุณแข็งแรงขึ้น คุณก็จะปั่นได้ดีขึ้นกว่าเดิมแบบประหลาดใจเลยทีเดียวแหละ
ผมเปลี่ยนจุดจับบ่อยๆ จับจุดเดิมเมื่อไหร่นานๆ ชา แน่ และเดี๋ยวนี้ไม่ใส่ถุงมือด้วยครับเพราะฟีลลิ่งดีกว่า รู้สึกไวกว่าใส่ถุงมือลดการชาได้ไวด้วยแต่ก็เสี่ยงเรื่องล้ม ก็ขี่ระวังไม่ให้ล้มมีสติให้มากแทน 5555
รับบริการฟิตติ้งจักรยานที่บ้านลูกค้า ราคามิตรภาพ เยี่ยมเพจได้เลยครับhttps://www.facebook.com/RasitFitter/
https://www.facebook.com/pages/Lapierre-bike-Thailand/1543570505857513
https://www.facebook.com/groups/763837143758055/
https://www.facebook.com/pages/Lapierre-bike-Thailand/1543570505857513
https://www.facebook.com/groups/763837143758055/
- junhom
- ขาประจำ
- โพสต์: 459
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ก.ย. 2014, 20:37
- Tel: 0896119759
- team: แอวมองไซคลิ่งทีม
- Bike: Giant TCR Advance
Re: ปั่นแล้วมือชาครับ
ผ้าพันแฮนด์ก็มีส่วนนะครับ คันก่อนหน้านี้ผ้าพันแฮนจะนุ่มมากมือจะไม่ชา คันปัจจุบันนี้ผ้าพันแฮนด์แข็งเป๊กมือชาตั้งแต่3กิโลแรก ตอนนี้เปลี่ยนผ้าพันแฮนใหม่นุ่มขึ้นมือหายชาเลย
"ขอแค่ได้ปั่น"
L-Mong cycling
L-Mong cycling
-
- สมาชิก
- โพสต์: 6
- ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.ย. 2015, 08:43
- Tel: 081-5758766
Re: ปั่นแล้วมือชาครับ
ขอบคุณครับจะลองไปทำดู ผมเองก็มีปัญหากล้ามเนืิอไม่แข็งแรง ปั่นนานๆจะเริ่มเมือยไหล่lucifer เขียน:ถามว่า ถ้าน้ำหนักตกที่สันมือ แล้วมือจะไม่ชาไหม ก็บอกเลยว่า"ไม่"
ฟิตติ้งดีแล้ว มือจะไม่ชาหรือ คำตอบคือ "ไม่"
ถ้าไม่อยากมือชา ก็อย่าจับแฮนด์
ครับ คือ ตราบใดที่ยังต้องจับแฮนด์ ไม่ว่าจะจับแฮนด์ล่าง หรือ ดรอป หรือ จับกลางแฮนด์ ( ส่วนตรง ) หรือ ฮูด ยังไงก็ชา เพราะสุดท้ายแล้ว น้ำหนักก็จะตกลงไปผ่านอุ้งมือ หรือ ผ่านอุโมงค์ใต้ข้อมือ ที่มีเส้นประสาทลอดผ่านเข้าไปอยู่ดี
วิธีในการลดปัญหาเรื่องมือชา ทำได้อย่างไร ?
1. ฟิตติ้งครับ ฟิตติ้งเพื่อให้ปรับตำแหน่งแฮนด์ มุมของมือเบรค ตำแหน่งสูงต่ำของมือเบรค เมื่อให้สุดท้ายแล้วเมื่อเราจับฮูดแล้ว น้ำหนักตกลงบนสันมือ ( แต่สุดท้ายแรงก็จะส่งผ่านไปยังอุ้งมือได้บ้างอยู่ดี ) การฟิตติ้งที่ดีจะช่วยชะลอให้มือชาเกิดขึ้นได้ช้าลง
2. เปลี่ยนย้ายตำแหน่งที่วางมือไปเรื่อยๆ เคยพิสูจน์แล้วครั้งหนึ่งกับทริป 100 กม. กับโปรไบค์ วันนั้นรีบมากไปหน่อย ลืมถุงมือไว้ในกระเป๋า ก็ปั่นมันไปแบบมือเปล่าๆนี่แหละ อาศัยสลับตำแหน่งวางมือไปเรื่อยๆ ปรากฏว่าวันนั้นมือไม่ชาเลย ผิดกับคันข้างหน้า ใส่ถุงมือครบ แต่สะบัดมือเร่าๆตลอดทริป
สำหรับผมแล้ว ถุงมือไม่ได้ช่วยให้ปั่นแล้วมือไม่ชา แต่ช่วยให้จับแฮนด์ได้กระชับขึ้น โดยเฉพาะเวลาเหงื่อออกมากๆ มือจะลื่น บางคน ( รวมทั้งผมด้วย ) เหงื่อจะออกบริเวณฝ่ามือ จับแฮนด์แล้วจะลื่น และประโยชน์ที่สำคัญของถุงมือคือ ถ้าล้ม ถุงมือจะช่วยsafeหนังฝ่ามือให้เราได้แบบคาดไม่ถึงทีเดียว
และในทางตรงกันข้าม ถุงมือจะทำให้เรามือชาได้ง่ายกว่ามือเปล่าๆ เพราะบ่อยครั้งที่ถุงมือบุเจล บุอะไรก็ตามที่นุ่ม ความรู้สึกว่ามีอะไรมากดมือก็จะเกิดขึ้นช้ากว่ามือเปล่าๆ เราก็จะเกิดอาการ"เริ่มชา"ขึ้นโดยไม่รู้ตัว ผิดกับมือเปล่าเราจะรู้สึกเร็วกว่า และทำการย้ายสลับจุดสัมผัสกับแฮนด์ไปได้เร็วกว่าที่เริ่มเกิดอาการชา
3. ข้อนี้คือ ข้อที่สำคัญที่สุด ผมพูดขำๆว่า ถ้าไม่อยากมือชา ก็อย่าจับแฮนด์ จริงๆมันไม่ขำหรอกครับ มันเป็นเรื่องล้อกัน เพราะว่า ถ้าคุณไม่ต้องส่งผ่านน้ำหนักของร่างกายทั้งหมดลงไปที่มือแล้ว มือก็มีหน้าที่แค่ประคองแฮนด์ให้รถสามารถรักษาทิศทางการวิ่งหรือไม่ให้มันล้มเท่านั้นแหละ มือไม่ได้เป็นตัวรับน้ำหนักของร่างกายท่อนบนเลย
แล้วน้ำหนักท่อนบนของร่างกายจะถูกใครรับเป็นภาระไปหละ ? ภาระจะตกอยู่ที่กล้ามเนื้อแกนกลางของลำตัวครับ ไม่ว่าจะเป็นกล้ามเนื้อหลัง กล้ามเนื้อหน้าท้อง แต่นั่นก็หมายความว่า กล้ามเนื้อแกนกลางของลำตัวก็ต้องมีความแข็งแรงใช่ไหม
ทำยังไงให้กล้ามเนื้อลำตัวแข็งแรง? ปั่นไปสักพักหนึ่ง มันก็จะแข็งแรงขึ้น เพราะมันถูกใช้งาน แต่เรื่องอะไรจะต้องรอแบบนั้นหละ สู้พัฒนาให้มันแข็งแรงโดยไม่ต้องรอให้มือชาจะไม่ดีกว่าเหรอ !!!
Planking คือ ท่าบริหารง่ายๆ ครับ
ภาพตัวอย่างนี้ คือ ท่าที่ถูกต้องที่สุดคือ ก้นจะต้องโด่งนิดๆ หลังจะต้องไม่แอ่น
ทำ วันละ 2-3 set set ละ 1 นาที พัก 2-3 นาที
Back Extension ก็คืออีกท่าหนึ่ง
ท่านี้จำเป็นต้องพึ่งเครื่องมือบ้าง งอ ยก งอยก ติดต่อกัน set ละ 10-15 ครั้ง พักยกไปนานๆ แล้วมาทำซ้ำใหม่ก็ได้เท่าที่ยังไหว สักวันละ 3 sets ก็สุดยอดแล้ว
SuperMan ท่านี้โหดสุดหละ
เล่นเป็น set เหมือนกับ Planking นั่นแหละ setหนึ่งจะเล่นได้นานกี่วินาที อันนี้อยู่ที่ความแข็งแรงหละครับ พวกโปรนี่ เขาเล่นท่านี้บน Ball เขาเรียกว่า ท่าปลาดาว คือ กางแขน กางขา เลี้ยงตัวบนลูกบอลโยคะ
หรือจะลองส่องดูใน link ที่ให้ไปก็ได้ครับ
https://www.google.co.th/search?q=back+ ... rcise+ball
ขอเพียงแต่กล้ามเนื้อแกนกลางคุณแข็งแรงขึ้น คุณก็จะปั่นได้ดีขึ้นกว่าเดิมแบบประหลาดใจเลยทีเดียวแหละ
-
- สมาชิก
- โพสต์: 3
- ลงทะเบียนเมื่อ: 02 พ.ค. 2020, 08:13
Re: ปั่นแล้วมือชาครับ
แนะนำที่ฟิตติ้งกันด้วยได้มั้ยคะ