ขอสอบถามเกี่ยวกับพลังงานในการปั่นครับ

[Nuttadon]

เรื่องมีอยู่ว่าผมออกกำลังกายโดยการปั่นจักรยาน ปกติปั่นสนาม sky lane พักหลังพอทำงานมากๆ น้ำหนักขึ้น ไม่มีเวลาเลยตัดสินใจซื้อ smart trainer (wahoo KickR)มาครับ ซื้อมาครบทั้ง HR และ รอบขา ตั้งใจจะซ้อมให้คงสภาพ+อัพแรง แล้วก็ลดน้ำหนักด้วยการคำนวณ calories ครับ แต่หลังจากปั่นเสร็จพอมาดูค่าพลังงานที่ออกไป มันไม่ตรงกันครับ เช่น
ผมปั่น 1 ชั่วโมง
wahoo อ่านค่าได้ 642 กิโลจูล คิดกลับไปได้ 153 กิโลแคลรอรี่ พออัพโหลดขึ้น strava กลับแสดงค่าพลังงานแค่ 716 แคลโลรี่ ต่างกันเกือบ 2 เท่าครับ ส่วนในโปรแกรม zwift แสดง 615 แคลโลรี่
ด้วยความสงสัยก็เลยไปหาตาม internet พบว่า smart trainer ก็มีค่า error ได้เหมือนกันครับประมาณ 5% ก็เลยอยากถามเพื่อนๆสมาชิกว่ามีแนวทางในการวัด พลังงานอย่างไรบ้างครับ เพราะถ้าต่างกันขนาดนี้มีผลในเรื่องการทานอาหารและคำนวณโปรตีนอย่างชัดเจนเลยครับ ขอบคุณครับ

[lucifer]

เรื่องมันเยอะนะครับ

ต้องเข้าใจก่อนว่า ค่า Calories ที่ได้ออกมานั้น มันเป็นแค่"ประมาณ"เท่านั้น เพราะมันไม่ได้ถูกวัดจริงๆ
สมการในการคำนวณเพื่อ"ประมาณ"ค่า Calories นั้น จะซับซ้อนมาก เช่น จะต้องใส่ขนาดน้ำหนักและส่วนสูง เพื่อคำนวณหาค่า surface area , ถ้าให้แม่นยำก็ต้องเอาไปปั่นบนถนน โดยประเมิณจากน้ำหนักรถ น้ำหนักคน แล้วดูความเร็วที่เกิดขึ้น ร่วมกับการประเมิน HR เพื่อประเมิณดูความหนักเบาที่เกิดขึ้นด้วย

ดังนั้นโปรแกรมทั้งหลายจะไม่สามารถกะเกณฑ์ค่า Calories อย่างถูกต้องได้เลย เพราะมันไม่ใช่ความเร็วที่เราใช้บนถนน

ยังมีการประเมินค่าพลังงานจากการใช้ power meter อีก ซึ่งแปลงจากค่า วัตต์ต่อวินาที ออกมาเป็นค่าพลังงาน ซึ่งจะถูกต้องที่สุดแต่ก็มีข้อแม้ว่าจะต้องไม่มีการสูญเสียพลังงานใดๆในการสร้างกำลังเพื่อถีบบันได

แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันก็ไม่เคยเป็นเช่นนั้น เพราะการเผาผลาญสารอาหารมาให้เป็นพลังงานนั้น ไม่ใช่ว่าทั้ง 100% จะถูกใช้ไปกับการสร้าง"กำลัง"ในการปั่นจักรยาน กำลังนี้ power meter วัดได้ แต่สำหรับพลังงานที่เสียเปล่าไปในรูปของความร้อน การเอาชนะความต้านทานภายในร่างกาย เช่น การสั่งให้กล้ามเนื้อหดตัวก็ต้องเอาชนะความต้านทานการหดตัวของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันต่าๆก่อน ฯลฯ พวกนี้จะไม่มีทางรู้เลยว่าเท่าไหร่

การวัด calories จาก smart trainer จะใช้หลักการแปลงค่ากำลัง มาเป็นพลังงาน ซึ่งก็น่าจะให้ค่าพลังงานต่ำสุด เพราะมันคำนวณมาจาก"กำลัง"ที่กล้ามเนื้อสร้าง แต่ไม่ได้ประมาณพลังงานที่สูญเปล่าไป

การคำนวณแคลอรี่จริงๆนั้น ซับซ้อนทั้งการคำนวณและเครื่องมือที่ใช้ อย่าจริงจังกับค่าที่ได้จาก application ทั้งหลายนัก เพราะ"มั่ว"แบบมีหลักการทั้งสิ้น เพียงแต่หลักการมันไม่เหมือนกัน ค่าจึงแตกต่างกัน

การมั่วนั้น มันก็มีแนวโน้มสอดคล้องกับความถูกต้องอยู่เช่นกัน เลือกใช้แค่ตัวเดียวก็พอครับ จะได้ไม่สับสนมาก

[visual3dmax]

เรื่องมันเยอะนะครับ

ต้องเข้าใจก่อนว่า ค่า Calories ที่ได้ออกมานั้น มันเป็นแค่"ประมาณ"เท่านั้น เพราะมันไม่ได้ถูกวัดจริงๆ
สมการในการคำนวณเพื่อ"ประมาณ"ค่า Calories นั้น จะซับซ้อนมาก เช่น จะต้องใส่ขนาดน้ำหนักและส่วนสูง เพื่อคำนวณหาค่า surface area , ถ้าให้แม่นยำก็ต้องเอาไปปั่นบนถนน โดยประเมิณจากน้ำหนักรถ น้ำหนักคน แล้วดูความเร็วที่เกิดขึ้น ร่วมกับการประเมิน HR เพื่อประเมิณดูความหนักเบาที่เกิดขึ้นด้วย

ดังนั้นโปรแกรมทั้งหลายจะไม่สามารถกะเกณฑ์ค่า Calories อย่างถูกต้องได้เลย เพราะมันไม่ใช่ความเร็วที่เราใช้บนถนน

ยังมีการประเมินค่าพลังงานจากการใช้ power meter อีก ซึ่งแปลงจากค่า วัตต์ต่อวินาที ออกมาเป็นค่าพลังงาน ซึ่งจะถูกต้องที่สุดแต่ก็มีข้อแม้ว่าจะต้องไม่มีการสูญเสียพลังงานใดๆในการสร้างกำลังเพื่อถีบบันได

แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันก็ไม่เคยเป็นเช่นนั้น เพราะการเผาผลาญสารอาหารมาให้เป็นพลังงานนั้น ไม่ใช่ว่าทั้ง 100% จะถูกใช้ไปกับการสร้าง"กำลัง"ในการปั่นจักรยาน กำลังนี้ power meter วัดได้ แต่สำหรับพลังงานที่เสียเปล่าไปในรูปของความร้อน การเอาชนะความต้านทานภายในร่างกาย เช่น การสั่งให้กล้ามเนื้อหดตัวก็ต้องเอาชนะความต้านทานการหดตัวของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันต่าๆก่อน ฯลฯ พวกนี้จะไม่มีทางรู้เลยว่าเท่าไหร่

การวัด calories จาก smart trainer จะใช้หลักการแปลงค่ากำลัง มาเป็นพลังงาน ซึ่งก็น่าจะให้ค่าพลังงานต่ำสุด เพราะมันคำนวณมาจาก"กำลัง"ที่กล้ามเนื้อสร้าง แต่ไม่ได้ประมาณพลังงานที่สูญเปล่าไป

การคำนวณแคลอรี่จริงๆนั้น ซับซ้อนทั้งการคำนวณและเครื่องมือที่ใช้ อย่าจริงจังกับค่าที่ได้จาก application ทั้งหลายนัก เพราะ"มั่ว"แบบมีหลักการทั้งสิ้น เพียงแต่หลักการมันไม่เหมือนกัน ค่าจึงแตกต่างกัน

การมั่วนั้น มันก็มีแนวโน้มสอดคล้องกับความถูกต้องอยู่เช่นกัน เลือกใช้แค่ตัวเดียวก็พอครับ จะได้ไม่สับสนมาก

ถาม ป๋าลู ครับ ปกติผมออกำลังกายโดยใช้ hr มาตลอด 1 ชม จะได้แคล 800 แต่หลังจากผมติดหวัด ขึ้นไป 2000 แคล
งงเหมือนกัน นี่มันแคลที่ใช้งานจริงๆหรือเปล่า และหน่วยของ Kj 768 มันคิดหน่วยยังไง จะดีมากครับถ้า ป๋าลู อธิบาย เรื่อง แคล และ KJ กิโลจูน จะเป็นความกรุณา มากครับ

ไฟล์แนบ

a2.jpg (31.02 KiB) เข้าดูแล้ว 1218 ครั้ง

a1.jpg (60.82 KiB) เข้าดูแล้ว 1218 ครั้ง

[dt86374]

อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะครับ ผมว่านะไม่ต้องไปคิดอะไรมากกับเรื่องการทานอาหารเรื่องโปรตีน ร่างกายเราน่าจะมีวิธีจัดการกับพลังงานและอาหารที่เรารับเข้าไปแบบที่เราไม่ต้องไปวุ่นวายกับมันมาก ทานปกติเท่าที่เคยทานอยู่ประจำนี่ล่ะครับ ถ้าปวดเมื่อยก็ค่อยเพิ่มโปรตีนมากขึ้นหน่อย

เทียบจากตัวเองสมัยซ้อมวิ่งมาราธอน พีคสุดๆนี่วิ่งรวมอาทิตย์ละ 80 กว่ากม. เช้ามาแต่ละวันแทบคลานขึ้นลงบันได ตอนนั้นก็ทานอาหารปกติธรรมดาเหมือนตอนไม่ได้ซ้อม เพิ่มมาแค่เวย์โปรตีนวันละ 2 แก้วเช้าเย็น เคยลองทานมากกว่านั้นก็ไม่ได้มีผลอะไร หลังวันเสาร์วิ่งเบา 16 กม. ก็ฟื้นไปซ้อมวิ่งยาวๆ 35 กม.วันอาทิตย์ได้อีกครับ

เรื่องมีอยู่ว่าผมออกกำลังกายโดยการปั่นจักรยาน ปกติปั่นสนาม sky lane พักหลังพอทำงานมากๆ น้ำหนักขึ้น ไม่มีเวลาเลยตัดสินใจซื้อ smart trainer (wahoo KickR)มาครับ ซื้อมาครบทั้ง HR และ รอบขา ตั้งใจจะซ้อมให้คงสภาพ+อัพแรง แล้วก็ลดน้ำหนักด้วยการคำนวณ calories ครับ แต่หลังจากปั่นเสร็จพอมาดูค่าพลังงานที่ออกไป มันไม่ตรงกันครับ เช่น
ผมปั่น 1 ชั่วโมง
wahoo อ่านค่าได้ 642 กิโลจูล คิดกลับไปได้ 153 กิโลแคลรอรี่ พออัพโหลดขึ้น strava กลับแสดงค่าพลังงานแค่ 716 แคลโลรี่ ต่างกันเกือบ 2 เท่าครับ ส่วนในโปรแกรม zwift แสดง 615 แคลโลรี่
ด้วยความสงสัยก็เลยไปหาตาม internet พบว่า smart trainer ก็มีค่า error ได้เหมือนกันครับประมาณ 5% ก็เลยอยากถามเพื่อนๆสมาชิกว่ามีแนวทางในการวัด พลังงานอย่างไรบ้างครับ เพราะถ้าต่างกันขนาดนี้มีผลในเรื่องการทานอาหารและคำนวณโปรตีนอย่างชัดเจนเลยครับ ขอบคุณครับ

[dt86374]

อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะครับ ผมว่านะไม่ต้องไปคิดอะไรมากกับเรื่องการทานอาหารเรื่องโปรตีน ร่างกายเราน่าจะมีวิธีจัดการกับพลังงานและอาหารที่เรารับเข้าไปแบบที่เราไม่ต้องไปวุ่นวายกับมันมาก ทานปกติเท่าที่เคยทานอยู่ประจำนี่ล่ะครับ ถ้าปวดเมื่อยก็ค่อยเพิ่มโปรตีนมากขึ้นหน่อย

เทียบจากตัวเองสมัยซ้อมวิ่งมาราธอน พีคสุดๆนี่วิ่งรวมอาทิตย์ละ 80 กว่ากม. เช้ามาแต่ละวันแทบคลานขึ้นลงบันได ตอนนั้นก็ทานอาหารปกติธรรมดาเหมือนตอนไม่ได้ซ้อม เพิ่มมาแค่เวย์โปรตีนวันละ 2 แก้วเช้าเย็น เคยลองทานมากกว่านั้นก็ไม่ได้มีผลอะไร หลังวันเสาร์วิ่งเบา 16 กม. ก็ฟื้นไปซ้อมวิ่งยาวๆ 35 กม.วันอาทิตย์ได้อีกครับ

ปล. กล้วย 1 ลูก จะวิ่งได้ 1 กม. อันนี้สังเกตุดูจากตัวเองช่วงวิ่งกม.ท้ายๆสัก 30 กม.ไปแล้ว พอแรงหมดจะทานกล้วยหอมลูกนึงก็จะมีแรงพอวิ่งไปได้อีก 1 กม. ทานอีกลูกนึงก็จะวิ่งไปได้ถึงจุดให้น้ำจุดต่อไป ปกติจะมีกล้วยแจกตามจุดให้น้ำแต่ละจุดห่างกัน 2 กม. เลยคำนวนกลับมาได้ว่า วิ่ง 1 กม. ใช้พลังงานประมาณเท่ากับกล้วยหอม 1 ลูกหรือประมาณ 100 Calories
แต่ของจักรยานไม่แน่ใจ ยังไม่เคยลองปั่นจนแรงหมดขนาดนั้นสักทีครับ

เรื่องมีอยู่ว่าผมออกกำลังกายโดยการปั่นจักรยาน ปกติปั่นสนาม sky lane พักหลังพอทำงานมากๆ น้ำหนักขึ้น ไม่มีเวลาเลยตัดสินใจซื้อ smart trainer (wahoo KickR)มาครับ ซื้อมาครบทั้ง HR และ รอบขา ตั้งใจจะซ้อมให้คงสภาพ+อัพแรง แล้วก็ลดน้ำหนักด้วยการคำนวณ calories ครับ แต่หลังจากปั่นเสร็จพอมาดูค่าพลังงานที่ออกไป มันไม่ตรงกันครับ เช่น
ผมปั่น 1 ชั่วโมง
wahoo อ่านค่าได้ 642 กิโลจูล คิดกลับไปได้ 153 กิโลแคลรอรี่ พออัพโหลดขึ้น strava กลับแสดงค่าพลังงานแค่ 716 แคลโลรี่ ต่างกันเกือบ 2 เท่าครับ ส่วนในโปรแกรม zwift แสดง 615 แคลโลรี่
ด้วยความสงสัยก็เลยไปหาตาม internet พบว่า smart trainer ก็มีค่า error ได้เหมือนกันครับประมาณ 5% ก็เลยอยากถามเพื่อนๆสมาชิกว่ามีแนวทางในการวัด พลังงานอย่างไรบ้างครับ เพราะถ้าต่างกันขนาดนี้มีผลในเรื่องการทานอาหารและคำนวณโปรตีนอย่างชัดเจนเลยครับ ขอบคุณครับ

[lucifer]

ถาม ป๋าลู ครับ ปกติผมออกำลังกายโดยใช้ hr มาตลอด 1 ชม จะได้แคล 800 แต่หลังจากผมติดหวัด ขึ้นไป 2000 แคล
งงเหมือนกัน นี่มันแคลที่ใช้งานจริงๆหรือเปล่า และหน่วยของ Kj 768 มันคิดหน่วยยังไง จะดีมากครับถ้า ป๋าลู อธิบาย เรื่อง แคล และ KJ กิโลจูน จะเป็นความกรุณา มากครับ

ไฟล์แนบ

a2.jpg

a1.jpg

1 joule มีค่าเท่ากับ กำลังเป็นวัตต์ คูณด้วย เวลาเป็นวินาที

Moving time 1:18:17 hr หรือ 4,697 วินาที
Avg Power ( กำลังเฉลี่ย ) = 164 วัตต์

งาน เท่ากับ กำลัง x เวลา = 164 x 4697 = 770,308 Joule หรือ 770.3 K-Joule ( ในโปรแกรมแสดงว่า 771 K-Joule เข้าใจว่า ทั้งAvg power และ moving time คงไม่ใช้เลขจำนวนเต็ม อาจจะมีเศษทศนิยมที่ถูกปัดเป็นเลขจำนวนเต็ม พอคิดแบบละเอียดก็เลยกลายเป้น 771 K.Joule

พลังงาน 1 K.cal หรือ 1 Cal ทำงานได้เท่ากับ 4.184 K.Joule

งานจากการปั่นจักรยาน 771 KJ ใช้พลังงานเท่ากับ 771/4.184 = 184 Cal

แล้วอีก 2070 - 184 = 1886 Cal มาจากไหน อันนี้คือค่าที่ โปรแกรมคำนวณขึ้นมาโดยประเมินว่า พลังงานที่ร่างกายใช้ไปในการสร้างกำลัง 771 KJ นั้น ไม่ได้มีเพียงแค่ 184 Cal เท่านั้น แต่ยังมีการใช้พลังงานต่างๆจากการทำงานของกล้ามเนื้อเอง ระบบไหลเวียน การสูญเสียพลังงานไปในระหว่างนั้น โดยคำนวณจาก parameter ต่างๆ ซึ่งแต่ละ applicationจะแตกต่างกันไป

ส่วนตัวถ้าเป็น Garmin connect ของผมเอง มันจะคำนวณง่ายๆว่า งานที่ได้ 1 KJ จะต้องใช้พลังงานทั้งหมดเลยเท่ากับ 1 Cal แบบว่ามัน"มั่ว"ได้งงมากๆ

[lucifer]

อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะครับ ผมว่านะไม่ต้องไปคิดอะไรมากกับเรื่องการทานอาหารเรื่องโปรตีน ร่างกายเราน่าจะมีวิธีจัดการกับพลังงานและอาหารที่เรารับเข้าไปแบบที่เราไม่ต้องไปวุ่นวายกับมันมาก ทานปกติเท่าที่เคยทานอยู่ประจำนี่ล่ะครับ ถ้าปวดเมื่อยก็ค่อยเพิ่มโปรตีนมากขึ้นหน่อย

เทียบจากตัวเองสมัยซ้อมวิ่งมาราธอน พีคสุดๆนี่วิ่งรวมอาทิตย์ละ 80 กว่ากม. เช้ามาแต่ละวันแทบคลานขึ้นลงบันได ตอนนั้นก็ทานอาหารปกติธรรมดาเหมือนตอนไม่ได้ซ้อม เพิ่มมาแค่เวย์โปรตีนวันละ 2 แก้วเช้าเย็น เคยลองทานมากกว่านั้นก็ไม่ได้มีผลอะไร หลังวันเสาร์วิ่งเบา 16 กม. ก็ฟื้นไปซ้อมวิ่งยาวๆ 35 กม.วันอาทิตย์ได้อีกครับ

ปล. กล้วย 1 ลูก จะวิ่งได้ 1 กม. อันนี้สังเกตุดูจากตัวเองช่วงวิ่งกม.ท้ายๆสัก 30 กม.ไปแล้ว พอแรงหมดจะทานกล้วยหอมลูกนึงก็จะมีแรงพอวิ่งไปได้อีก 1 กม. ทานอีกลูกนึงก็จะวิ่งไปได้ถึงจุดให้น้ำจุดต่อไป ปกติจะมีกล้วยแจกตามจุดให้น้ำแต่ละจุดห่างกัน 2 กม. เลยคำนวนกลับมาได้ว่า วิ่ง 1 กม. ใช้พลังงานประมาณเท่ากับกล้วยหอม 1 ลูกหรือประมาณ 100 Calories
แต่ของจักรยานไม่แน่ใจ ยังไม่เคยลองปั่นจนแรงหมดขนาดนั้นสักทีครับ

ร่างกายใช้โปรตีนไปในเรื่องของการซ่อมแซม และ รักษาสมดุลของร่างกายมากกว่าจะนำไปใช้เป็นพลังงานครับ

ในบางกรณีเราก็เอาโปรตีนไปใช้เป็นพลังงานบ้าง แต่ก็ไม่ใช้เป็นการใช้โดยตรง เช่น เอา"เศษ"ของกล้ามเนื้อที่เสียหาย มาเข้ากระบวนการ Gluconeogenesis เอามาสร้างเป็นน้ำตาลแล้วเอาไปใช้ ( เวลาใช้งานกล้ามเนื้อต่อเนื่องกันนานๆ สัก 3 ชม. ขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง ก็จะเริ่มเกิดความเสียหายของเส้นใยกล้ามเนื้อในระดับ micro ชิ้นส่วนพวกนี้ร่างกายสามารถเอาไปแปลงเป็นน้ำตาลใช้เป็นพลังงานได้ ) กับ ในภาวะขาดแคลนพลังงานจากคาร์โบไฮเดรต ร่างกายก็จะสลายไขมันและโปรตีนในส่วนที่ไม่ได้ใช้ ( ตามกฏของ use and disuse ) มาสร้างเป็นน้ำตาล

คราวนี้ถ้ากล้ามเนื้อไม่ได้เสียหายอะไรมากมาย การรับโปรตีนเข้าไปเกินพอ ก็ไม่ได้ช่วยอะไร ไม่ได้ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงหรือใหญ่ขึ้นด้วย แล้วก็ยังมีการศึกษาที่สรุปมาว่า ถ้ากินไปมากกว่าที่ต้องการ ปริมาณไขมันในร่างกายจะเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำไป เพราะอะไรก็ตามที่มันเกินเก็บ เกินใช้ ร่างกายก็จะเปลี่ยนไปเก็บเป็นไขมันแทน

เวย์โปรตีน มีข้อดีตรงที่ มีไขมันเจือปนในขนาดที่น้อย และสะดวกในการเข้าถึง แต่เทียบราคาแล้วสูงมากครับ
ถ้าไม่ได้มีปัญหาเรื่องการย่อยน้ำตาล lactose และไม่ต้องการรับไขมันจากนม พวกนมสดพร่องมันเนย หรือ ไขมัน 0% จะคุ้มค่ากว่าเวย์โปรตีนมาก เพราะอันทีจริงแล้ว เวย์ก็คือส่วนของนมนั่นเอง แต่ส่วนที่มีคุณค่าทางอาหารสูงมากของนม ก็คือ curds ที่แยกออกมาจากนมเอามาทำ cheese ก็แค่บริษัทที่ผลิตเวย์โจมตีว่า ในนมสดมีเคซีนที่ย่อยยากกว่าเวย์ แต่ในเคซีนมีโปรตีนอยู่มากกว่าเวย์ด้วยซ้ำไป ถึงย่อยยากแต่ก็ย่อยได้นี่หน่า แถมยังได้ Calcium Phosphorous ซึ่งจำเป็นในการสร้างมวลกระดูกด้วย

อ่านขำๆที่ http://www.cyclingplusthailand.com/deta ... &proid=197

[visual3dmax]

ยิ่งอ่านยิ่งงง

[Nuttadon]

ขอบคุณ อ.ลู และสมาชิกทุกท่านครับ ^_^