รอบขาสูง ใช้พลังงานมากกว่า รอบขาต่ำมั้ยครับ

[Juhaha]

อยากอ้วนก็กินกับนอนให้มากขึ้น

ว้าวว แนวทางนี้เยี่ยมเลยครับ ขายจักรยานทิ้งซื้อเตียงนวดดีฟ่า

[swasin185]

อยากอ้วนก็กินกับนอนให้มากขึ้น

ว้าวว แนวทางนี้เยี่ยมเลยครับ ขายจักรยานทิ้งซื้อเตียงนวดดีฟ่า

จักรยาน มันทำให้เรา กินได้ นอนหลับ ง่ายขึ้นครับ

[poohbear]

เล่นเวทคู่กับปั่นจักรยานแล้วรู้สึกตัวเล็กลงเพราะเราทานคาร์บไม่เพียงพอครับ แค่ปรับอาหารเล็กน้อย

คำว่า "กล้ามเนื้อหาย" นี่ใครฟังแล้วตลกบ้างครับ หนูมันแทะแขนขาแหว่งไปรึไงครับ กล้ามเราใหญ่ขนาดไหนกันถึงขั้นบอกว่าคาร์ดิโอแล้วกล้ามหาย ต้องแยกเป็น 2 กลุ่มนะครับ คือ "นักเพาะกาย" กับ "คนเล่นเวท" เราๆท่านๆอยู่กลุ่มหลังไม่มีความจำเป็นต้องรักษาความคมชัดของกล้ามเนื้อไว้ทุกเม็ด ออกกำลังกายประเภท cardio ได้เต็มที่ครับ รับรองว่าแขนไม่แหว่งแต่ความคมชัดจะหายไปบ้าง กล้ามยังใหญ่เหมือนเดิมครับ

เรื่องกล้ามหายไม่หาย คงไม่ถึงขนาดรอบแขนหายเป็นนิ้วครับ จริงๆมันมีวิธีให้เลือกใช้ในการพยายามรักษามวลกล้ามเนื้อไว้ก่อนทำคาร์ดิโอ การโหลดคาร์บ(ที่ถูกต้อง) ที่พี่ว่าก็เป็นวิธีหนึ่งครับ
แต่ถ้าใครเล่นกล้ามจริงจัง น่าจะเข้าใจคำพูดติดปากกันว่า"ตัวเล็กลง"ครับ เพราะสายกล้ามจริงๆจะค่อนข้างวิตกกังวล
กับกล้ามเนื้อที่หายไป แน่ละครับ ค่ายิม ค่าอาหาร ค่าเวย์ เทรนเนอร์ ต้องมานั่งต้มไข่ ปั่นไก่กิน กินข้าวกล้องวันละ 5 มื้อ
ผมละคนนึงที่ช่วงนั้นก้เคยบ้าแบบนั้น แต่เลิกแล้วครับ ตั้งแต่หันมาปั่นจักรยาน
เอาละครับ ไม่อยากจะออกทะเลมาก ไม่อยากเถียงกับใครด้วย บอร์ดจักรยานไม่ใช่บอร์ดเพาะกาย

[Paitoon1956]

ขอตอบแบบบ้านๆนะครับ
ผมจะซ้อมแบบไล่ระยะขึ้น จาก 30 ก.ม/วัน,5~6วันต่อสัปดาห์
แล้วขึ้นไป 60,80,100 ก.ม
เสร็จแล้ว ผมจะซ้อม จานหน้า 42 เฟืองหลัง 19 ที่ 60 ก.ม เป็นประจำ
วันใหนจับเวลา จึงจะปั่น เกียร์ที่ถนัด คือปรับเกียร์ตามสภาพถนนและความเร็ว

เราปั่นจักรยานเพื่อการพัฒนา
1.แรงกด
2.รอบขา

เพื่อให้ได้ผลคือ
1.ความเร็ว
2.ระยะทาง

รอบขาต่ำเช่น 80~90 จะ
ใช้แรงกดมาก กว่า รอบขา 100~120 ที่ความเร็วเท่ากัน
แต่ว่ารอบขาที่สูงกว่า หัวใจจะเต้น เร็วกว่า เพราะ เลือดใหลเวียนมากกว่า

สำหรับคนที่กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรง การใหลเวียนของเลือดลมดีไม่ติดขัด จึงจะใช้รอบขาสูงๆได้

ดังนั้น การปั่นระยะทางเท่าๆกัน ความเร็วเท่าๆกัน คนที่รอบขา 80~90 จะเหนื่อยกว่า คนที่ปั่นรอบขา 100~120

แต่ว่า คนที่ปั่นรอบขาสูงกว่า ต้องมีระบบกล้ามเนื้อหัวใจที่ดี เส้นเลือดเส้นลมต้องเปิดโล่ง

กล้ามเนื้อหัวใจที่ดีที่แข็งแรง เกิดจากการฝึกฝน เช่นการฝึกปั่น 100 ก.ม ใน 3 ช.ม ด้วยเกียร์ต่ำเช่น จานหน้า 42 เฟืองหลัง 19/21

ส่วนการทลวงหลอดเลือดนั้น ใช้การนวด+สมุนไพรจีน

การจะปั่นจักรยานให้ได้ดี ต้องเตรียมพร้อมร่างกายให้พร้อมด้วย

1.ล้างระบบขับถ่ายให้โล่ง สูตรที่ดีที่สุดคือของสำนักสันติอโศก ต้องทำจนกว่า นิ่วทั้งหลายถูกขับออกจนหมด
2.จัดกระดูก จัดเส้นเอ็นกล้ามเนื้อ จัดเรียงเส้นเลือด เส้นลม เส้นประสาท ให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง
3.ดื่มสมุนไพรทะลวงเส้นเลือดให้ปลอดโปร่ง

ทำได้ตามนี้ก่อนการซ้อมปั่นจักรยานจึงจะได้ผลเร็ว

อยากได้รอบขาสูงๆ ก็ซ้อมเกียร์ต่ำๆ
อยากได้แรงกดมากๆ ก็ยัน น.น /แบกน.นซิดอั๊พ

ซ้อมแบบใหน วิธีใหนมันก้าวหน้า ได้ความเร็ว ได้ระยะดีขึ้น ก็ยึดแบบนั้น

ผมซ้อม 2 เดือน พัก 1 เดือน(เล่น น.น)สลับกันไป

ก็แค่ปั่นให้แข็งแรง+อายุขัยยืนยาว

[poohbear]

ส่วนมากนักปั่นก่เวท แต่เวทเฉพาะ corebody และช่วงขา คิทเทน คาเรฟยวน ก่เข้ายิม เรื่องกล้ามใหญ่ไม่ต้องกลัวมันไม่ได้ขึ้นง่ายๆ อย่างที่หลายคนคิด กินไม่ถึงยังไงก่ไม่โต พี่น่าจะรู้อยู่ เพราะเคยเล่นเวท จักยานแท๊คเวโลโดม ระดับโอเลมปิกนี่นักล้ามย่อมๆเลยบอกก่อน ถ้ายากกดให้แรงยังไม่ก่ไม่พ้นการสร้างกล้ามเนื้อหรอกครับ

ไม่ต้องส่วนมากหรอกครับ ใช้คำว่าทุกคนเลยดีกว่า สมัยนี้มีระดับนักกีฬาคนไหนไม่เวทบ้าง
นักปั่นเข้ายิมเล่นเวท เพื่อเพิ่มPerformance ในด้านPower และ Strength เป็นจุดประสงค์หลักครับ
ไอ้เรื่องกล้ามใหญ่ เป็นผลพลอยได้ครับ ซึ่งเค้าไม่ได้มานั่งสนใจขนาดกล้ามเนื้อกันหรอกครับ
คนกล้ามใหญ่ไม่จำเป็นต้องแข็งแรง คนแข็งแรงไม่จำเป็นต้องกล้ามใหญ่
แต่ถ้าให้เฟี้ยวให้เท่ ต้องใหญ่และแข็งแรงด้วย

[Juhaha]

แต่ถ้าให้เฟี้ยวให้เท่ ต้องใหญ่และแข็งด้วย

ผมว่าเริ่ม 18++ ละ

[Supa]

ถามผู้รู้หน่อยครับ

ถ้าที่ความเร็วเท่ากัน คนที่ปั่นเกียร์หนัก/รอบขาต่ำ กับคนที่ปั่นเกียร์เบา/รอบขาสูง จะใช้. Power. ในการปั่นเท่ากันไหมครับ

ถ้าเท่ากัน พอแปลได้ไหมว่า ทั้งสองต้องใช้แรงเท่ากัน แต่ต่างกันคือ จุดเริ่มต้นของการออกแรง
แนวๆ รอบขาสูงมาจากการเคลื่อนที่ของรอบขา ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร แต่หัวใจเต้นสูงกว่าปกติ(กล้ามเนื้อออกแรงน้อย). เหนื่อยและหอบกว่าแต่ขาไม่ล้า
กับ รอบขาต่ำมาจากพลังจากกล้ามเนื้อขาเป็นส่วนมาก หัวใจเต้นต่ำกว่าแบบรอบขาสูง ขาล้าแต่ไม่หอบเท่าการปั่นรอบขาสูง


แบบนี้รอบาที่เหมาะสมน่าจะอยู่ที่ใครมีสภาพร่างกายทางไหน. ไหมครับ

[Paitoon1956]

ถามผู้รู้หน่อยครับ

ถ้าที่ความเร็วเท่ากัน คนที่ปั่นเกียร์หนัก/รอบขาต่ำ กับคนที่ปั่นเกียร์เบา/รอบขาสูง จะใช้. Power. ในการปั่นเท่ากันไหมครับ

ไม่เท่ากันครับ ปั่นเกียร์หนัก/รอบขาต่ำ ใช้แรงมากกว่า ในแต่ละรอบขา คิดดูว่า ปั่นนานๆ ปั่นไกลๆ ใครจะหมดก่อน ใครจะชนะ

ถ้าเท่ากัน พอแปลได้ไหมว่า ทั้งสองต้องใช้แรงเท่ากัน แต่ต่างกันคือ จุดเริ่มต้นของการออกแรง
แนวๆ รอบขาสูงมาจากการเคลื่อนที่ของรอบขา ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร แต่หัวใจเต้นสูงกว่าปกติ(กล้ามเนื้อออกแรงน้อย). เหนื่อยและหอบกว่าแต่ขาไม่ล้า
กับ รอบขาต่ำมาจากพลังจากกล้ามเนื้อขาเป็นส่วนมาก หัวใจเต้นต่ำกว่าแบบรอบขาสูง ขาล้าแต่ไม่หอบเท่าการปั่นรอบขาสูง

ถ้าคนปั่นคนเดียวกัน ก็จะเป็นดังว่า
แต่ถ้าคนปั่นมานาน ผ่านการฝึกฝนที่ถูกต้อง เพื่อการแข่งขัน

เขาก็ต้องพัฒนา แรงกด การยืนระยะ รอบขา
พร้อมๆกับการสะสมพลังงานใว้ในร่างกาย
สะสมพัฒนา กล้ามเนื้อปอด กล้ามเนื้อหัวใจ
สะสมการใหลเวียนของเลือดลมได้ทั่วร่างกาย

ที่สำคัญมีเวลาใหม ทำให้นักจักรยานทีมชาติรุ่นใหม่ๆ เกือบทั้งหมดมาจากนักเรียนโรงเรียนกีฬา
เพราะเรียนครึ่งวัน ซ้อมครึ่งวัน อยู่กับโค๊ชตลอด อุปกรณ์พร้อม

ที่เห็นโวๆกันอยู่นี่ เขาปั่นไปโชว์ครับ งาน อบต,อบจ,ชมรม,เทศบาล,สนามเขียว สกายเลน

ของจริงต้องแข่งกีฬาแห่งชาติ,เยาวชนแห่งชาติ,เก็บคะแนนสมาคมจักรยาน,แข่งสี่เหล่าทัพ

พวกกลุ่มนี้จะคัดตัวไปเข้าแค้มป์ทีมชาติ ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้หลัก

ส่วนที่โชว์อยู่ใน youtube นั้น เขาเอาใว้ส่งเสริมการตลาดครับ

ถึงได้มีคนแห่เข้ามาปั่นจักรยานกันมากมาย ถ้าจะปั่นเพื่อสุขภาพกันจริงๆ จักรยานล้อเดียวก็พอแล้ว หรือแค่ที่เขาเรียกกันว่าจักรยานเริ่มต้นคันละหมื่นเศษๆ

เห็นหลายๆคนซื้อแพงๆ ปั่นไม่ทันไรประกาศขายซะแล้ว แถมยังบอกหน้าตาเฉยว่า

เลิกปั่น ไม่มีเวลาปั่น แรงไม้ถึง

ก็แค่ หาจักรยานซักคัน หาวิธีซ้อมให้ถูก แล้วค่อยๆสะสมไปๆ

แล้วอย่าไปเต็มใจให้เขาหลอกเอาล่ะ แค่จะปั่นจักรยาน
ต้องรถรุ่นนั้น เฟรมรุ่นนี้ ชุดขับรุ่นโน้น ล้อรุ่นนั้น ยางรุ่นโน้น

เตือนสติตัวเองว่า แชมป์โลกทีมไทม์ไทรอัลปั่นกัน 6 คนที่ 40 ก.ม เอวียังไม่ถึง 55 เลย

แล้วมันยังจะมีรถวิเศษวิโสอะไร มาหลอกเอาเงินเราอีก!!!!!