อังเดร เซทส์
สังกัดทีม อัสทาน่าโปรทีม
สัญชาติ คาซักสถาน
ถือว่าเป็นชนชาติเอเชียสายพันธุ์ยุโรปก็ว่าได้ครับสำหรับชาตินี้ เพราะคาซักสถานนั้นโดยตำแหน่งที่ตั้งอยู่ในทวีปเอเชียก็จริงแต่ชาติพันธุ์ของชาวคาซัคฯนั้นจะละม้ายไปทางกลุ่มคอเคซอยหรือ"ฝรั่ง" มากกว่าจะมาทางมองโกลอย หรือ "ผิวเหลือง" อย่างพวกเราะๆ ถ้าจะเรียกกันง่ายๆก็เป็นกลุ่มประเทศอดีตสหภาพโซเวียตแตกทัพเมื่อคราวล่มสลายสิ้นสุดยุคสงครามเย็น ถ้านับย้อนไปก่อนหน้านั้นก็เป็นกลุ่มชนเผ่าเร่ร่อนในทุ่งราบกว้างใหญ่ ที่กระจายตัวอยู่ในทุ่งราบ และเป็นหนึ่งในพวกเผ่าที่ตกอยู่ภายใต้การปกครองของชนชาติ "มองโกล" (เจงกีสข่าน)
จบวิชาสังคมคร่าวๆกันไปก่อนนะครับ กลับมาพละศึกษากันต่อ อังเดร เซทส์เป็นเด็กปั้นของทีมอัสทาน่าโปรทีม ปั้นกันมาตั้งแต่ชุดเยาวชน ไล่มาจนถึงชุดใหญ่ อดีตโชกโชนรับใช้ทีมมายาวนาน ปี 2006 ก็ได้สัญญาขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ลงแข่งโปรทัวร์รายการต่างๆมากมาย ด้วยผลงานในช่วงแจ้งเกิดยืนโพเดี้ยมรายการชิงแชมป์คาซักสถานอยู่หลายปี และทำผลงานได้โดดเด่นในรายการทัวร์ออฟตุรกี และ ทัวร์เดอไห่หนาน ในจีน ที่สำคัญลงแข่งแกรนด์ทัวร์มาครบถ้วน 3 รายการทั้งในอิตาลี ฝรั่งเศส และสเปน รวมกันมากกว่า 10 ครั้ง นับเป็นนักแข่งเก๋าประสบการณ์คนหนึ่ง ที่มีหน้าที่เป็นโดเมสทีค (ผู้ช่วยเหลือ) ในทีมที่มีประโยชน์หลากหลาย ทำให้เป็นนักปั่นคนสำคัญที่มักจะถูกทีมอัสทาน่าใส่ลงในชุดใหญ่ลงรายการสำคัญอยู๋เสมอเช่นกัน
สำหรับจิโร่ฯปีนี้ เปิดแสตจแรกมาเป็นการเดี่ยวไทม์ไทอัล เซทส์ทำเวลามาได้อันดับ 113 ตามหลังผู้นำอยู่ 51 วินาที แต่หน้าที่ของเค้าไม่ใช่การไล่ล่าเอาอันดับของตนเองแน่นอน หน้าที่หลักคือการเป็นผู้ช่วยให้ วินเชนโซ่ นิบาลี ตัวหลักของทีมคว้าแชมป์ให้ได้เท่านั้น ดังนั้นในเสตจต่อๆมาที่เป็นทางราบ เวทีของบรรดาสปรินท์เตอร์ ทุกคนในทีมต้องพยายามปกป้องนิบาลีให้อยู่รอดปลอดภัยและไม่เสียเวลาให้กับใครจนกว่าจะถึงภูเขาสำคัญที่เป็นจุดวัดความได้เรปียบของบรรดาผู้นำทีม ในเสตจที่ 2 เซทส์จึงเข้าเส้นชัยไปในอันดับที่ 154 พร้อมกับกลุ่มใหญ่ ส่วนเสตจที่ 3 ก็เกาะกลุ่มหลักเข้าเส้นชัยไปในอันดับที่ 20 ทำเวลารวมมาอันดับ 65
บาค์ติยา โคซาทาเยฟ
สังกัดทีม อัสทาน่าโปรทีม
สัญชาติ คาซักสถาน
หนุ่มคนนี้เป็นเลือดใหม่อนาคตของวงการนักปั่นคาซักฯ ด้วยอายุเพียง 24 ปี แต่รักษาตำแหน่งนักปั่นตัวสำคัญของทีมใหญ่ระดับโลกอย่างอัสทาน่าที่ปั้นขึ้นมากับมือเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ขึ้นมาปั่นชุดใหญ่ได้ปีนี้เป็นปีที่ 3 (ติดชิดใหญ่ตั้งแต่ปี 2014 ตั้งแต่อายุ 22 ปี) หน้าที่หลักของทีมเป็นตัวเสริมทีม ช่วยทำประโยชน์ทุกอย่างที่พี่ๆและเพื่อนๆต้องการ ทั้งลาก บังลม เอาน้ำ ดูแลตัวหลัก เรียกว่าถึงไม่สำคัญ ไม่เด่น ไม่ดัง แต่ขาดไม่ได้ ผลงานในปีนี้ที่เด่นได้แก่อันดับ 11 ในรุ่นอายุไม่เกิน 25 ปีจากรายการใหญ่ ติเรโน่-อาดริอาโก้ จบการแข่งรายการสเตรดเบียงเก้ได้พร้อมกับนักปั่นระดับโลกอย่างไม่ยิ่งหย่อน แม้จะไม่ถูกใครมองว่าเป็นคนสำคัญ แต่เค้าติดทีมชุดใหญ่ลงแข่งรายการโปรทัวร์หลักๆแทบจะทุกรายการ ทั้งทัวร์ซานหลุยส์ ทัวร์โรมังดี ทัวร์เดอสวิสฯ แม้จะยังไม่ฉายแววเด่นและไม่จบการแข่งขันหลายๆครั้ง แต่ทางด้านหน้าที่เพื่อทีมแล้วถือว่าเป็นคนที่เสียสละอันดับตนเองเพื่อทีมได้อย่างยอดเยี่ยม
ผลงานในระดับเอเชียเคยขึ้นถึงอันดับ 5 รายการถนนชิงแชมป์เอเชีย เมื่อ 2 ปีก่อน ที่สำคัญได้มาลงรายการทัวร์ออฟไทยแลนด์ของไทยเราเมื่อปี 2012 และทำผลงานอันดับเวลารวมได้ที่ 16 ของนักแข่งทั้งหมด ทุกวันไม่มีอะไรโดดเด่นแต่ทำหน้าที่ของตนเองและสามารถเข้าเส้นชัยพร้อมกลุ่มหน้าเซฟเวลามาได้เรื่อยๆ
เช็ง จี
สังกัดทีม ไจแอ็นท์ อัลเปซิน
สัญชาติ จีน
มาถึงนักปั่นเอเชีย ผิวเหลือง ผมดำ ชาติพันธุ์ใกล้เคียงคนไทยกันแล้วครับ สำหรับหนุ่มชาวจีนคนนี้ไม่ใช่หน้าใหม่สำหรับเปโลตองถนนจักรยานอาชีพ เพราะได้สัญญาร่วมทีมโปรระดับสูงสุดมาก็หลายปี ลงแข่งในรายการระดับโลกมาก็หลายรายการร่วมกับทีมและดาราระดับโลกมาแล้ว และปัจจุบันเป็นเหมือนกับซุปเปอร์สตาร์ ไอด้อลของนักปั่นยุคใหม่ชาวจีนที่ใฝ่ฝันมุ่งหน้าไต่อันดับ พยายามทำผลงานให้ได้โอกาสเลื่อนขึ้นสู่ทีมใหญ่ระดับโลกตามรุ่นพี่ไปให้ได้
เช็ง จี เริ่มขึ้นมาสู่ทีมระดับหัวแถวเมื่อได้รับสัญญากับทีม สกิล-ชิมาโน่ ทีมระดับดิวิชั่นสองของเนเธอแลนด์ หลังจากที่รอนแรมไปแข่งจักรยานสมัครเล่นตามหาฝันอยู่ที่นั่นได้ปีกว่าๆ จากนั้นเป็นต้นมา ก็ได้เป็นนักแข่งสำคัญของทีมมาตลอดและจากทีม สกิล-ชิมาโน่ ก็ได้ปรับโครงสร้าง เปลี่ยนผู็สนับสนุน เปลี่ยนชื่อ มาจนวันนี้คือทีม ไจแอ็นท์-อัลเปซีน ทีมระดับดิวิชั่นสูงสุดนั่นเอง เส้นทางจากเด็กชานเมืองประเทศจีน ที่ผันตัวเองมาหัดปั่นจักรยานแข่งขัน เน้นไปที่การฝึกรถลู่ และจบการศึกษาแล้วมุ่งมั่นไปไล่ล่าฝันอยู่ยุโรปเป็นแรมปี ก็ได้กลายเป็นเหมือนนิยายชีวิตของการขึ้นมาเป็นคนจีนคนแรกที่ได้แข่งจักรยานอาชีพระดับสูงสุด ได้เข้าร่วมรายการแกรนด์ทัวร์ และจบการแข่งขันอย่างสวยงาม
หน้าที่ของ เช็ง จี ในทีม ถือเป็นโดเมสทีคคนแรกๆของทีม ที่จะพลีร่างกายตนเองเพื่อทีม ทำทุกอย่าง บังลม เอาน้ำ รอลากเพื่อนหากเพื่อนรถมีปัญหา และมักจะหมดความสำคัญออกไปก่อนที่การถ่ายทอดช่วงตื่นเต้นจะเริ่มขึ้น ดังนั้นแทบจะไม่มีใครสังเกตุเห็นเขามีส่วนร่วมกับการแข่งเลย เมื่อครั้งที่เป็นทีมสปรินท์เตอร์อย่างทีม อาโกส์-ชิมาโน่ (ก่อนจะเปลีี่ยนมาเป็นไจแอ็นท์-ชิมาโน่) เช็งจีเป็นหนึ่งใน 2-3 นักปั่นที่จะทำทุกอย่างเพื่อรักษะ 5-6 คนของทีมเอาไว้ในช่วง 5-8 กม.สุดท้ายเท่านั้น ดังนั้นในการแข่งระยะทางเกือบๆ 200 กม. เช็ง จี และเพื่อนร่วมทีมในรหน้าที่เดียวกันจะต้องรับบทสำคัญตลอดเวลาเกือบทั้งหมด และเมื่อความเร็วสูงขึ้น เข้าสู่เกมส์สปรินท์ ก็จะหมดบทบาทหายไปจากเกมส์ในที่สุด
แม้แต่ทัวร์จักรยานอาชีพในประเทศจีนอย่าง ทัวร์ออฟปักกิ่ง, ทัวร์ออฟไห่หนาน และทัวร์ออฟชิงไห่เลค เช็ง จี ก็ลงแข่งในฐานะพระรอง อยู๋เสมอๆ ซ้ำดวงฉายแววดังจะไม่ค่อยมีเพราะเนื่องจากใช้ชีวิตและแข่งอยู่ที่ยุโรปเป็นหลัก ทำให้ตารางชีวิตของเขาไม่สอดคล้องกับรายการเอเชียต่างๆ ไม่ได้มีส่วนร่วมทั้งรายการชิงแชมป์เอเชีย และชิงแชมป์แห่งชาติจีน ดังนั้นภาพลักษณ์ของเขาจึงเป็นเหมือนไอด้อลผู้ซึ่งไม่ได้ครองรางวัลอะไรยิ่งใหญ่ แต่ได้ขึ้นสู่ระดับของอาชีพที่ยิ่งใหญ่อย่างเต็มภาคภูมิ และเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักปั่นเอเชียในรุ่นหลังได้เป็นอย่างดี
แม้แต่ทีมเองก็มีการให้สัมภาษณ์ว่า เช็ง จี คือนักจักรยานอาชีพที่หาได้ยากยิ่งในสังคมนักปั่นปัจจุบันที่ต่างคนต่างแข่งกันตะกายฝัน สร้างผลงานเพื่อตนเองจะก้าวหน้าไปสู่ทีมใหญ่และโอกาสอันสวยงามของชีวิต สำหรับนักปั่นสักคนที่ไม่เคยได้รับชัยชนะในฐานะนักปั่นอาชีพคนนี้อาจไม่ใช่ดาราดังของแฟนๆ แต่สำหรับทีมงานของทีม เค้าคือสหายรักและคนสำคัญที่ขาดไม่ได้คนหนึ่ง ไม่ต่างจากดาราดังของทีมคนอื่น
เก็งคิ ยามาโมโตะ
สังกัดทีม นิปโป้ ฟีนี่ ฟันตินี่
สัญชาติ ญี่ปุ่น
เป็นอีกหนึ่งนักแข่งชาติพันธุ์ผิวเหลือง และเป็นชาวเอเชียคนสุดท้ายที่ได้ลงปั่นรายการจิโร่ดิตาเลียตอนนี้อยู่ สำหรับทีมนิปโป ฟินี่ ฟันตินี่ นั้นเป็นทีมจักรยานอาชีพ สัญชาติอิตาเลี่ยน ดำเนินการโดยทีมงานอาชีพในอิตาลี ได้รับการสนับสนุนหลักจากกลุ่มทุนญี่ปุ่นในเครือนิปโป ที่เคยทำทีมอาชีพในเอเชียมาก่อน และด้วยความฝันที่จะสร้างให้เกิดทีมจักรยานระดับโลกของคนเอเชียให้สำเร็จ จึงตัดสินใจ ย้ายทุนไปสนับสนุน ปั้นทีมมาจากรากฐานของทีมยุโรปด้วยข้อจำกัดหลายๆอย่างที่คงไม่สามารถดันให้ทีมสัญชาิตญี่ปุ่นขึ้นสู่รายการระดับโลกได้
และไม่แปลกใจที่ในทีมนี้จะมีนักปั่นชาวญี่ปุ่นสังกัดอยู่หลายๆคน ส่วนมากเป็นดาวรุ่งมาแรงในช่วงอายุกำลังแจ้งเกิด ที่ได้โอกาสมาร่วมทีมยุโรป และลงแข่งในรายการน้อยใหญ่ของยุโรป เพราะถึงแม้ว่าทีมนิปโปฯจะเป็นทีมดิวิชั่นสอง แต่ก็เป็นทีมดิวิชั่นสองแนวหน้าของอิตาลี และได้สิทธิลงแข่งรายการสำคัญๆในยุโรปมากมาย รวมถึงได้รับเชิญร่วมรายการใหญ่ระดับโลกอยู๋ก็หลายครั้งเช่นกัน ดังนั้นไม่ว่าจะสำเร็จในระดับไหน ก็ถือว่าเป็นโอกาสอันดีที่นักปั่นญี่ปุ่นจะได้ลงแข่งในระดับเหล่านั้นจริงจัง
สำหรับ เก็งคิ ยามาโมโตะ อายุ 24 ปีนั้นทำผลงานโดดเด่นในรายการอาชีพของเอเชียมาแม้ว่าอายุจะยังน้อย แต่ก็เคยได้เป็นแชมป์แห่งชาติญี่ปุ่นในรุ่นอายุต่ำกว่า 23 ปีอยู๋หลายครั้ง รวมถึงได้เสตจรายการอาชีพของญี่ปุ่นอย่าง ทัวร์เดอฮอคไกโด ที่เป็นรายการรวมนักปั่นอาชีพและทีมอาชีพของญี่ปุ่น(และเอเชียเช่นเกาหลีและจีน)มากมาย หลังจากที่แจ้งเกิดในระดับอายุ 23 ปีโดดเด่น ก็ได้สัญญากระโดดมาเป็นนักปั่นเมืองอิตาลีเมื่ออายุ 22 ปี จนถึงปัจจุบันค่อยๆขยับบทบาทในทีมขึ้นมาเรื่อยๆ
ผลงานในอดีตของยามาโมโตะ ได้แก่อันดับ 6 เวลารวมรายการทัวร์เดอฮอคไกโดในปี 2011 และมีลุ้นชิงจ้าวภูเขาของรายการเดียวกันในปี 2012 สะสมคะแนนมาเป็นอันดับ 5 รวมถึงอันดับสูงสุดรองแชมป์ และติดโพเดี้ยมประเภทเดี่ยวไทม์ไทรอัลชิงแชมป์เอเชียอีกหลายปี และแน่นอนว่าเคยมาร่วมรายการทัวร์ออฟไทยแลนด์ด้วยเช่นกันเมื่อครั้งยังสังกัดทีมดิวิชั่นสามของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสัญญาในระดับกึ่งอาชีพ และทำผลงานเวลารวมได้อันดับราวๆ 50 ของนักแข่งทั้งหมด
ยามาโมโตะทำผลงานจิโร่ดิตาเลียวันแรกเดี่ยวไทม์ไทรอัลได้เป็นอันดับที่ 190 จากผู้เข้าแข่ง 198 คน นำหน้า เจ้าหนูกิมจิลูกครึ่งเกาหลี คาเล็บ ยวน สปรินท์เตอร์คนดังระดับโลก อยู่ 1 วินาที ส่วนวันที่สองเกาะติดกลุ่มนำเข้าเส้นชัยไปพร้อมกันได้เวลาเดียวกันกับผู้ชนะเสตจเป็นลำดับที่ 174 ทำให้เวลารวมของยามาโมโตะขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 169 ส่วนเสตจที่สามเค้าเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 185 พร้อมกับกลุ่มหลังๆแต่ยังอยู่ในเวลาที่สามารถแข่งต่อไปได้ และมีเวลารวมอยู่ที่ลำดับที่ 189 ก็คงเดาได้ไม่ยากครับว่าหน้าที่ของโปรหนุ่มหน้าใหม่ของแกรนด์ทัวร์น่าจะเป็นผู้ช่วยของทีมในงานต่างๆ และพยายามเอาตัวเองให้รอดจบการแข่งไปวันต่อวัน พยายามรอดพ้นจากเวลาตัดออกไปให้ได้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมเชื่อว่าเป้าหมายของยามาโมโตะคือจบการแข่งแกรนด์ทัวร์แรกนี้ให้ได้ทุกเสตจนั่นเอง[homeimg=300,250]http://www.thaimtb.com/forum/picture_mt ... 788340.jpg[/homeimg]
