ลองของใหม่ : 4iiii PRECISION power meter ( บททดสอบใช้งานจริงเขียนเพิ่มเข้าไปเสร็จแล้วครับ )

ถ้าเป็นรถหรืออุปกรณ์ที่ออกแบบมาเป็นของเสือหมอบโดยเฉพาะ เชิญเข้าห้องนี้ครับ

ผู้ดูแล: Cycling B®y, spinbike, velocity

รูปประจำตัวสมาชิก
lucifer
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 6413
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ย. 2010, 14:53
team: BPMTB , BPRB , Bikeloves
Bike: Only 2-wheels bike
ติดต่อ:

ลองของใหม่ : 4iiii PRECISION power meter ( บททดสอบใช้งานจริงเขียนเพิ่มเข้าไปเสร็จแล้วครับ )

โพสต์ โดย lucifer »

ลองของใหม่ : 4iiii PRECISION power meter

สำหรับนักปั่นจักรยานที่มีความจริงจังและมุ่งหวังที่จะพัฒนาระดับความแข็งแกร่งไปอย่างถูกวิธีแล้ว Power meter ก็น่าจะถูกจัดไว้ใน Project ถัดไปอย่างไม่ต้องคาดเดากันให้วุ่นวายเลย แต่เพราะราคาค่าตัวของมันในช่วงเวลาที่ผ่านมาก็ล้วนแต่ทำให้หลายคนต้องกลับไปคิดใหม่ ก็อย่างที่รู้ๆกันดีอะนะ คงไม่ต้องสาธยาย

ใครจะไปคิดนะว่า เทคโนโลยี่ในการพัฒนาและผลิตpower meter มันจะก้าวหน้าไปเร็วมากขนาดนี้ มีการแตกยอดความคิดออกไปได้หลายแนวทาง ซึ่งจากเดิมจะเป็นการวัดกำลังที่ออกมาจากบริเวณcrankโดยตรง ( ผลรวมจากการออกแรงกระทำของขาทั้งสองข้าง ) หรือวัดจากดุมล้อหลัง ซึ่งเป็นผลผลิตสุดท้ายก่อนส่งออกไปยังล้อและยาง ก็มีการพัฒนารูปแบบในการวัดจากแกนบันไดทั้ง 2 ข้าง และบางรายก็วัดจากขาจานทั้ง 2 ข้าง

ทำไปทำมา ธุรกิจ power meter ก็เริ่มจะกลายเป็นตลาดใหญ่ที่มีการแข่งขันกันมากขึ้น มีสินค้ารุ่นใหม่ๆที่ถูกพัฒนาและผลิตออกสู่ตลาดไม่หยุดหย่อน ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า จะทำอย่างไรให้ราคาย่อมเยาลงมาจนสามารถแข่งขันกับผู้ผลิตรายใหญ่ที่ถือสัดส่วนในตลาดไว้ได้

การพัฒนาอุปกรณ์ที่สามารถวัดแรงบิดตัวของขาจาน แล้วนำขาจานโลหะยี่ห้อที่ติดตลาดอยู่แล้วเช่น Shimano มาทำการดัดแปลงติดตั้งอุปกรณ์ดังกล่าวลงไป แถมยังติดตั้งลงบนขาจานด้านซ้ายเพียงด้านเดียว ( ง่ายต่อการดัดแปลง ไม่ต้องห่วงเรื่องใบจาน โซ่ ที่จะพบเวลาที่ทำกับขาจานด้านขวา ) ทำให้สามารถตั้งราคาขายแข่งกับคู่แข่งรายเก่าได้อย่างสบายๆ เพราะไม่ต้องลงทุนพัฒนาผลิตขาจานของตัวเองขึ้นมา ค่าที่วัดได้ก็คูณด้วย 2 ซึ่งก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า สามารถเทียบเคียงใช้ประกอบการฝึกได้ดีเช่นกัน

วิธีการคิดแบบนี้ ดูเหมือนว่า Stages power จะเป็นผู้ผลิตขึ้นมาเป็นรายแรกๆ ดูแล้วก็น่าจะทำให้เกิดแรงบันดาลใจต่อผู้ผลิตรายเดิม เช่น Rotor power ที่เดิมผลิต power meter ที่วัดจากขาจาน 2 ข้าง ก็มาผลิต Rotor Power LT และ Rotor InPower แม้แต่ Garmin ที่เคยผลิต Garmin Vector ที่วัดจากแกนบันได 2 ข้าง ก็มาผลิต Garmin Vector S ที่วัดจากแกนบันไดเพียงข้างเดียว

แต่ก็ใช่ว่าจะสามารถตอบโจทย์เรื่องราคาให้กับผู้ใช้ส่วนใหญ่ได้ อีกทั้งการวัดจากขาเพียงข้างเดียวแล้วเอามาคูณ 2 นั้น ก็ยังมีสิ่งที่ยังถกเถียงกันอยู่พอสมควร

**************************************************************************************************


รูปภาพ

4iiii innovations inc. เป็นผู้ผลิตอีกรายหนึ่ง ที่ได้กระโดดเข้ามาร่วมวังวนแห่งทะเลสีเลือดอันนี้ ด้วยการพัฒนาPower meter ในชื่อว่า PRECISION Power meter ภายใต้เงื่อนไขในเรื่องของราคาที่น่าสนใจเอามากๆ และยังพัฒนาsoftware และ firmware เพื่อแก้ในเรื่องที่ถกเถียงกันเกี่ยวกับการวัดpowerจากขาจานเพียงข้างเดียว

ดูภายนอกแล้ว 4iiii Precision มีความละม้ายคล้ายคลึงกับ Stages power อยู่บ้าง แต่มันก็ไม่ใช่เป็นแบบที่เข้าใจ เพราะตัวpower meter จริงๆนั้น ก็คือ ก้อนดำๆขนาด 8mm x 38mm x 29mm กับน้ำหนักตัว 9 gm เท่านั้น เท่านั้นจริงๆ (​รวม Battery CR-2032 ที่หนักเพียง 3gm ไปเรียบร้อยแล้วนะครับ ) โดยเจ้าก้อนดำๆนี้ ถูกวางแปะและยึดอยู่บนขาจานด้านซ้ายด้วยกาวอีปอกซี่เรซิน ซึ่งในช่วงพัฒนาแรกๆนั้น ผู้ผลิตยังแนะนำวิธีการและอุปกรณ์ในการติดตั้งให้ผู้ใช้สามารถซื้อไปติดตั้งได้เอง ซึ่ง DC rainmaker เจ้าสำนักทดสอบอุปกรณ์ชื่อดังก็เคยเอามาเผยแพร่มาแล้ว

รูปภาพ
ภาพจาก http://media.dcrainmaker.com/images/201 ... G_6798.jpg

ในระยะหลัง ผู้ผลิตคงจะมองเห็นว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องง่ายนักสำหรับจะให้ผู้ใช้งานทำการติดตั้งเอง เพราะสิ่งที่กังวลก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของความแม่นยำ หรือ Accuracy ที่หลายๆคนห่วงกันนั่นเอง

ทาง 4iiii จึงตอบโจทย์ผู้ซื้อด้วยการเสนอ Option ให้ 2 ทาง โดยในระยะแรก ผู้ซื้อจะต้องส่งขาจานด้านซ้ายไปให้ทาง 4iiii ทำการติดตั้งตัว PRECISION และทำการ Calibrate ก่อนจะส่งกลับมายังผู้ซื้อ ซึ่งถ้าจากบ้านเรา ไป-กลับก็คงจะประมาณ 1 เดือน ส่วนอีกแนวทางหนึ่งซึ่งก็คงจะเริ่มในระยะเวลาข้างหน้า ก็คือ ขายขาจานพร้อมใช้ที่ติดตั้ง PRECISION มาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งในระยะแรกจะมีเฉพาะ Shimano 105 , Ultegra , Dura Ace ความยาว 165 ,170 ,172.5 และ 175mm

แล้วถ้าหากว่ามีตัวแทนนำเข้าในบ้านเรา ที่จำหน่ายขาที่พร้อมใช้ได้เลย หรือ รับเป็นธุระจัดส่งขาไปให้ทาง 4iiii ติดตั้งให้หละ ชีวิตน่าจะง่ายกว่านี้นะ


สัปดาห์ก่อน คุณgiro ได้ชักชวนให้ผมไปพบกับผู้นำเข้า PRECISION power meter คุยกันไปคุยกันมา อ้าวมันมาอยู่ในมือผมแล้ว บอกก่อนว่า ถ้าผมเขียนreview อะไรสักอย่าง ผมไม่เขียนเฉพาะเรื่องดีๆเพียงอย่างเดียวนะ อะไรไม่ดีก็ต้องเขียนออกไปด้วย ซึ่งก็คงเป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว

PRECISION ตัวนี้ถูกติดตั้งอยู่บนขาจาน Dura Ace FC-9000 ขาซ้ายเพียงขาเดียว ( ทราบมาว่า แบบ 2 ขา ที่วัดขาขวารวมกับขาซ้าย พร้อมfunctionอะไรอีกมากมาย เช่น balance ฯลฯ กำลังอยู่ในช่วงพัฒนา และคงอีกไม่นาน ) น้ำหนักเบาหวิวสมกับเป็นขา Dura Ace ก็อย่างที่บอกไงครับ มันงอกมาอีกแค่ 9 gm เท่านั้น การติดตั้งก็แสนจะง่ายดาย ใส่แบตเตอรี่ลงไปให้เรียบร้อย รื้อขาจานเดิมออกมาจากเฟรม แล้วใส่ขาจาน Dura Ace ทั้งชุดเข้าไปแทน ( ขาซ้ายเดิมเก็บใส่กล่องเอาไว้แล้วกัน ในอนาคตอาจจะมีการรับเทรดขาจานซ้ายแลกกับขาจานที่ติดตั้งPRECISIONมาแล้วก็เป็นไปได้นะครับ )

รูปภาพ

มองจากด้านบนก็เห็นเพียงแค่นี้เอง ผู้ผลิตแนะนำว่า เฟรมที่ลงตัวกับ PRECISION จะต้องมีระยะฟรีระหว่างขาจานด้านซ้ายกับตะเกียบโซ่ด้านซ้ายอย่างน้อย 10mm ซึ่งสำหรับเฟรมส่วนใหญ่แล้ว ระยะเพียงเท่านี้ไม่น่าจะมีปัญหาเลย



PRECISION สามารถสื่อสารกับ Head Unit อย่าง Garmin ผ่านทางระบบ ANT+ และยังสามารถสื่อสารกับ SmartPhone ผ่านทาง Bluetooth smart ได้อีกด้วย

ส่วนการเชื่อมต่อผ่านทาง ANT+ นั้น ผมใช้ Garmin EDGE 810 US versionเป็นตัวเชื่อมต่อ

PRECISION ก็เหมือนกับ power meter ทั่วไปที่จะต้องมีตัววัดรอบเพื่อมาเป็นตัวตั้งสำหรับคูณกับค่าtorqueที่วัดได้ เพือให้แสดงผลออกมาเป็นค่า วัตต์ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องติดตั้งเซนเซอร์วัดรอบขาเพิ่มขึ้นมาให้วุ่นวาย

PRECISION ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นจากการหลับไหลง่ายๆด้วยการหมุนบันไดปั่นล้อสัก 3-4 รอบ แล้วสั่งให้ Garminทำการค้นหา เราสามารถทำการ Calibration ( ซึ่งจริงๆต้องเรียกว่า Zero ) ผ่านทางGarmin ได้ง่ายๆด้วยวิธีที่ทำกับpower meter ทั่วไป แต่ค่าที่แสดงออกมาจะเป็นตัวเลข 2 ชุด สลับกันไปมา ( ชุดแรก จะมีค่า 4000 - 15000 , ชุดที่สอง จะมีค่า 15000 -25000 ซึ่งถ้ามีค่าอยู่ในช่วงที่แจ้งไว้ ก็แปลว่า สุขภาพของมันยังปกติดี )

รูปภาพ
ขั้นตอนในการCalibrateที่สำคัญก็คือ ก่อนจะcalibration ควรจะขี่หรือปั่นจักรยานไปก่อนสัก 1-4นาที ระวังอุณหภูมิที่แกว่งในขณะทำcalibration และจะต้องจัดตำแหน่งของขาจานด้านซ้ายทำมุม 6 นาฬิกา

ครับแน่นอนนะครับ ก่อนใช้ทุกครั้งก็จะต้องทำการZero เสมอ จึงจะแสดงผลที่ถูกต้องและแม่นยำ


สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับเจ้า PRECISION ก็คือ มันสามารถเชื่อมต่อกับ smart phone ด้วยระบบ BlueTooth smart ผ่าน application ที่ทำมาโดยเฉพาะ ทั้ง iOS และ Android

สำหรับค่าย iOS นั้น ให้เข้าไปที่ App store ( สำหรับ iPad ให้เลือกไปที่ for iPhone Only ) แล้ว search : 4iiii innovations inc. แล้วเลือก 4iiii ซึ่ง App ตัวนี้เป็นสิ่งที่อำนวยความสะดวกให้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นการแสดงค่า workout ซึ่งจะแสดงค่าวัตต์ รอบขา ความเร็ว(จากGPSของsmartphone) ฯลฯ การupdateต่างๆ รวมไปถึงการcalibration และset up บางอย่างที่คุณคิดไม่ถึงอีกด้วย

( ขออภัยสำหรับชาว Android นะครับ ผมเป็นติ่ง Apple )

หลังจากติดตั้งเรียบร้อยแล้ว ก็เปิด 4iiii แล้วเลือกไปที่ menu

รูปภาพ

เลือกที่ PRECISION Configuration


รูปภาพ

ปลุกเจ้า PRECISION ให้ตื่นด้วยการปั่นขาจาน หรือ จะปั่นจักรยานเล่นสักพักหนึ่งก็ดีนะครับ แล้วสั่งให้search

รูปภาพ

รูปภาพ

เจอซะที ( บอกตรงๆว่า ผมไม่ค่อยถูกชะตากับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth กับ smartphone ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น iPhone หรือ iPad เลย บทมันจะเรื่องมาก มันก็เรื่องมากจริงๆ ) เอานิ้วจิ้มเข้าไปเลย

รูปภาพ

รูปภาพ

สิ่งที่ผมชอบมากก็คือ มันจะบอกทุกสิ่งทุกอย่างที่ควรจะต้องรู้ และบ่อยครั้งที่Garminเองไม่บอกรายละเอียดอะไรให้เรารู้มากมายเลย อย่างน้อยมันก็บอกระดับเปอร์เซนต์ของแบตเตอรี่ให้เราอย่างละเอียด , อายุแบตเตอรี่ ใช้งานได้ประมาณ 100 ชม. สิ่งที่ผู้ผลิตแนะนำคือ ให้เปลี่ยนชื่อ Device name จาก Precision เป็นอะไรก็ได้ที่ชอบ เขาบอกว่ามันจะช่วยให้ครั้งหน้าสามารถเชื่อมต่อได้เร็วขึ้น ( ก่อนเปลี่ยนชื่อนี่ fail to connect อยู่หลายครั้งทีเดียว ถึงกับต้อง forget device แล้วหาและเชื่อมต่อใหม่ )

แน่นอนครับ มันสามารถสั่ง upgrade Software ( ก็ Firmware นั่นแหละ ) ผ่านทางช่องทางนี้ได้เลยครับ ( ตัวนี้ล่าสุดแล้ว ) และเมื่อเราคลิกเข้าไปที่ Advanced config กัน

รูปภาพ

เราจะเจอสิ่งที่จะทำให้เราเลิกถกเถียงกันว่า วัดขาซ้ายขาเดียวแล้วคูณ2 มันจะแม่นได้อย่างไร ในเมื่อขาซ้าย : ขาขวานั้น ไม่ใช่ทุกคนหรอกนะที่จะสามารถทำ balance ได้ 50% : 50% กันหรอกนะ

เจ้า App ตัวนี้ก็เลยมีคำสั่ง Scale factor ซึ่งเป็นตัวเซทค่าวัตต์ที่อ่านออกมาให้เป็นค่าที่ใกล้เคียงความถูกต้องที่สุด
แต่ท่านจะต้องทราบก่อนว่า กำลังของขาซ้าย : ขาขวานั้น แท้จริงแล้วเป็นเท่าไหร่ ซึ่งอันที่จริงอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่หลายคนจะทราบได้ ผมเองนั้นมีกำลังขาซ้าย : ขาขวา ป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ 50% : 50% หรือ 49% : 51% อยู่บ่อยๆ ( วัดจาก Power2Max type S ) ผมจึงไม่จำเป็นต้องไปตั้งค่า Scale factor ใหม่ คงค่าไว้ที่ 1.000 ตามเดิม

แต่สำหรับคนที่เคยไปทำ fitting มา ร้านfittingที่ได้มาตรฐาน จะใช้โปรแกรม SpinScan ทำการวัดpattern ของการปั่น รวมไปถึง balance ของขา 2 ข้าง สำหรับคนที่ปั่นยังไงๆก็ไม่ได้ 50% : 50% ซะที เผลอเมื่อไหร่ หรือ ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ คือ ปั่นโดยไม่มองจอคอมพ์ ไม่ฝืน ค่าก็ได้ก็จะเป็นตามธรรมชาติ เช่น อ่านได้ 45% : 55%

แบบนี้ก็แปลว่า ขาซ้ายอ่อนแอกว่าขาขวา ถ้าหากไม่สามารถแก้ค่าได้ แน่นอนครับ Powerที่ได้จากการคูณ 2 ก็จะมีค่าเพียง 90%ของค่าที่ถูกต้อง แต่สำหรับ 4iiii เราสามารถสร้างคาบแก้ได้ โดย ใช้ 50 หารด้วย 45 ( มันคือการ แปลงค่าที่ได้จากด้านซ้าย ให้กลายเป็น50% ) ซึ่งจะมีค่าเท่ากับ 1.111 เราก็กรอกตัวเลข 1.111 เข้าไปแทนที่ 1.000 แล้วสั่ง Save ซะ คำสั่งนี้จะไป set up เจ้า PRECISION เสียใหม่ โดยจะสั่งใหัมันทำการคูณค่าวัตต์ที่วัดออกมาด้วย 1.111 เสียก่อน แล้วส่งค่าที่คูณไปแล้วนี้ออกไปให้ HeadUnit แสดงผล

ดังนั้น ค่าที่แสดงผลจริงๆ จึงมีความถูกต้องยิ่งขึ้น

ส่วนการ Zero นั้น ก็มีค่าเท่ากับการสั่ง Calibrate จาก Garmin เช่นกัน วิธีการก็เหมือนๆกัน ปั่นมันแล้วก็เอาขาจานด้านซ้ายทำมุม 6นาฬิกา แล้วกด Zero เมื่อสำเร็จมันก็จะมีข้อความแจ้งให้ทราบ

สิ่งที่น่าประทับใจก็คือ คำสั่ง Compare Factory Calibration ซึ่งจะแสดงผลตามข้างล่าง

รูปภาพ

สิ่งที่ผมชอบมากคือ มันจะบอกเลยว่า ค่าที่ทำ zero มามันเริ่มจะเพี้ยนแล้วหรือยัง ถ้ามันไม่ตรงกัน ก็ให้กด Restore ค่าจากโรงงานใส่เข้าไปซะ

*****************************************************************************************

สำหรับตัวเป็นๆของเจ้า PRECISION สามารถพบได้ในงาน International Bangkok Bike 2016 ในระหว่างวันที่ 28 เมย. - 1 พค. 2559 ที่อิมแพค เมืองทองธานี

สำหรับผลการใช้งานจริงๆของเจ้า PRECISION ผมจะเขียนถัดลงไปในความเห็นแรกนะให้รออ่านในสัปดาห์หน้านะครับ วันอาทิตย์นี้ผมจะเอาไปทดสอบการใช้งานนอกสถานที่ หลังจากที่ได้ลองใช้งานในสถานที่เทียบกับ CompuTrainer Lab version ไปเรียบร้อยแล้ว แล้วจะมาเขียนให้อ่านกันนะครับ

ปล.
โปรดอย่าถามว่า ใครนำเข้า ไปรู้กันในงานก็แล้วกัน
ราคาชุดที่เป็นขาจาน 105 ซึ่งถือว่าประหยัดที่สุดนั้น มันทำให้คุณอยากจะจ่ายเงินในทันที ( ถ้าคุณมีเงินอยู่ ) เพราะมันจะเป็น Power Meter ที่วัดจากขาซ้ายเพียงข้างเดียวที่ราคาประหยัดมากๆ อาจจะถึงกับเรียกว่า”ที่สุด”ในขณะนี้ก็เป็นได้

พบตัวจริงและราคาในงานแสดงนะครับ[homeimg=300,250]http://www.thaimtb.com/forum/picture_mt ... 753658.jpg[/homeimg]
แก้ไขล่าสุดโดย lucifer เมื่อ 30 เม.ย. 2016, 10:44, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
ถ้าอ่อนซ้อม อ่อนทักษะ ก็จะพบว่าจักรยานคันไหนๆก็ไม่แตกต่างกันหรอก เพราะปั่นไม่ไปเหมือนๆกัน และบังคับควบคุมได้ห่วยพอๆกัน
รูปประจำตัวสมาชิก
lucifer
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 6413
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ย. 2010, 14:53
team: BPMTB , BPRB , Bikeloves
Bike: Only 2-wheels bike
ติดต่อ:

Re: ลองของใหม่ : 4iiii PRECISION power meter

โพสต์ โดย lucifer »

ภาคทดสอบใช้งานจริง

ขออภัยแฟนๆทั้งหลายด้วย กว่าจะคลอดบทความนี้ก็ปาเข้าไปอีกวันศุกร์ ตามประสาคนไม่ว่างงาน ฮ่า ฮ่า

เอาหละมาดูกันแบบเป็นเรื่องเป็นราวนะครับ อ่านกันง่ายๆไม่ต้องดูกราฟวุ่นวายกันมาก



ความยากง่ายในการติดตั้ง ?

บอกเลย ไม่ยากไปกว่าการถอดใส่ขาจานมาตรฐานของShimano เครื่องมือเหมือนกันทุกอย่าง
ฝาปิดถ่านออกแบบมาดีมาก ขอเพียงแต่ดูทิศทางในการหมุน และไม่ทำตัวเหมือนกับช่างตีเหล็ก รับรองว่ามันไม่หักง่ายๆเหมือนกับบางยี่ห้อที่เห็นคนเอาเทปกาวพันรัดเอาไว้

*********************************************************
แม่นยำแค่ไหน ?

เวลาซื้อ Power meter มาใช้งาน ความสงสัยของเราก็มักจะเริ่มที่คำถามแรกคือ แม่นแค่ไหน
อันที่จริงเป็นการตั้งคำถามผิด เพราะต้องถามว่าแม่นเมื่อเทียบกับอะไร

คำว่า accuracy +/- 1% ที่ระบุมาในคู่มือกำกับสินค้า ผู้ผลิตดูแล้วคงจะค่อนข้างจะมั่นใจเหลือเกิน ว่าสินค้าได้รับการcalibrateมาเป็นอย่างดี และคุณภาพของstrain guage ก็ควรจะต้องมีคุณภาพเช่นกัน

ขั้นตอนในการทดสอบของผม จะทำการปั่นเทียบกันบน Computrainer Lab ซึ่ง Trainerตัวนี้เป็น Smart trainer ที่ได้รับการ calibrate มาอย่างละเอียด จนสามารถนำไปใช้เป็น Reference ได้เป็นอย่างดี ทำให้เป็นที่นิยมใช้ในร้าน fitting ที่ได้มาตรฐาน ยังไม่นับsoftware ที่พ่วงมา

หลังจากได้ทำการวอร์มยางต่อเนื่องกัน 20 นาที และทำ Rolling resistant calibration จนนิ่ง จึงเริ่มทำการทดสอบโดยการปั่นด้วยความหนักคงที่โดยจะเริ่มต้นที่ 50%FTP ซึ่งถือเป็นการวอร์ม แล้วจะเพิ่มความหนักทีละ 10%FTP ทุกๆ5นาที จนไปหยุดที่ 110%FTP

วัดค่าpowerเฉลี่ยในแต่ละstep ( Power avg 5นาที ) เทียบกันระหว่าง computrainer กับ Precision

ผลที่ได้คือ ในช่วง50 - 80 %FTP ค่าเฉลี่ย 5 นาทีที่วัดได้จะมีค่าเท่ากัน แต่พอเพิ่มความหนักขึ้นไปที่ 90 100 และ 110%FTP ก็จะเริ่มพบว่าค่าที่วัดได้จะต่ำกว่าค่าเฉลี่ยจากComputrainer Lab อยู่เล็กน้อย ซึ่งถ้าหากกลับมาคิดใหม่แล้วก็จะเข้าใจเหตุผล

Power meter ที่วัดจากขาเพียงข้างเดียว แล้วเอามาคูณด้วย 2 หรือจะแก้ factor scale แล้วก็ตามนั้น จะมีปัญหาตรงที่ ขาสองข้างของเรานั้นมีความแข็งแรงไม่เท่ากัน ในระดับความหนักไม่มากนัก สำหรับคนที่ฝึกมาดีแล้ว ขาสองข้างสามารถสร้าง balance 50% : 50% ได้ไม่ยากเลย แต่เมื่อเพิ่มระดับความหนักขึ้นไปเรื่อยๆ ขาที่แข็งแรงกว่าก็จะมีบทบาทมากขึ้น ซึ่งส่วนตัวผมเองนั้นในการปั่นลักษณะปกตินั้น balance ขาซ้าย : ขาขวา จะมีค่าป้วนเปี้ยนแถว 50% : 50% ถึง 49% : 51% แต่สังเกตเสมอว่าในการปั่นที่หนักๆ เช่น ปั่น TT มักจะพบเสมอว่าขาซ้าย : ขาขวา จะเปลี่ยนไป บางครั้งพบว่าแตกต่างกันถึง 47% : 53% ได้ทีเดียว แต่สำหรับทริปขึ้นเขาหนักๆยาวๆ ที่มีการกดบันไดหนัก หรือ ยืนย่ำบ้างเป็นครั้งคราว กลับจะมีค่า balance เป็น 50% : 50%

โดยส่วนตัวแล้ว พบว่าสัดส่วนการออกแรงของขาซ้าย : ขาขวา อาจจะไม่ใช่ค่าคงที่เสมอไป ขึ้นกับการฝึกฝน ขึ้นกับลักษณะของการปั่น การนั่ง การยืน รวมไปถึงวิธีการออกแรง ดังนั้นการใช้งานPower meter ที่วัดจากขาเพียงข้างเดียว ผู้ใช้ก็ควรที่จะต้องทำความเข้าใจกับธรรมชาติของตัวเอง

บทสรุปสั้นๆของผม คือ Precision มีความแม่นยำในระดับสูงมากพอสำหรับการใช้งาน ความผิดเพี้ยนที่เกิดขึ้นอาจจะมีสาเหตุมาจากธรรมชาติของขา 2 ข้างที่ไม่ได้สมดุลกัน

อย่างไรก็ตาม ถ้าหากเข้าใจถึงขั้นตอนในการใช้ Power meter เพื่อการฝึกฝน ความแม่นยำในระดับที่สูงมากก็อาจจะไม่ใช่ประเด็นมากมายนัก เพราะ สุดท้ายเราจะหาค่า FTP ซึ่งเป็นค่าเฉพาะของเรา ถ้าหากไม่คิดจะเอาค่าวัตต์ของเราไปเกทับเพื่อนฝูงหละก้อ จะวัดขาเดียวแล้วคูณ2 หรือ จะวัดผลรวมจริงๆจากทั้ง 2ขา ต่างก็สามารถนำมาใช้ฝึกฝนเพื่อพัฒนาให้เกิดความก้าวหน้าได้ไม่แตกต่างกันครับ

หมายเหตุ ผมสนใจแค่ค่าเฉลี่ย ซึ่งเป็นค่าที่เราเอามาใช้งานจริง จึงไม่ได้ให้สาระสำคัญกับการเปรียบเทียบ เพื่อดูค่า peakสูงสุดและต่ำสุด


*********************************************************


ค่าที่ได้แกว่งมากน้อยแค่ไหน ?

สำหรับคนที่ไม่เคยใช้ power meter มาก่อนเลย ก็อาจจะนึกว่า ค่าวัตต์ที่วัดได้นั้นมันจะนิ่งเหมือนกับความเร็วบนไมล์ในขณะที่ปั่นจักรยาน แต่ความจริงแล้วมันไม่ได้เป็นอย่างที่คิด แถมถ้าหากปั่นแบบควงบันไดไม่เป็น ถนัดไปทางย่ำหละก้อ รับรองเลยว่ามันจะเป็นมากกว่าที่คิด

ครับมันแกว่งแน่ๆ แกว่งมากแกว่งน้อยขึ้นกับหลายสาเหตุ ได้แก่

1. ลักษณะการปั่นของเราเอง
ต้องไม่ลืมนะครับว่า ขาของเราไม่ใช่มอเตอร์ไฟฟ้าที่หมุนด้วยรอบคงที่ หรือมีแรงบิดคงที่
ใน 1 รอบการปั่น ขาของเราจะอาศัยกล้ามเนื้อจำนวนมากมายหลายมัดทำงานผสมผสานกัน ทำให้เกิดแรงกระทำกับบันไดแล้วเกิดการหมุนของขาจาน ดังนั้นแรงที่กระทำกับบันไดในแต่ละองศาการหมุนของขาจานจะไม่ได้เป็นค่าคงที่ ขึ้นกับการออกแรงของกล้ามเนื้อในแต่ละชุด ยังขึ้นกับการฝึกฝน ขึ้นกับวิธีการออกแรง เช่น ย่ำปั่น กับ ควงปั่น ก็ให้ความคงที่ของแรงไม่เหมือนกัน

ดังนั้นจึงมีโปรแกรมที่ชื่อว่า SpinScan ซึ่งจะวัดรูปแบบของการปั่น และเทียบเป็นเปอร์เซนต์ออกมา ถ้าเปอร์เซนต์สูงก็แปลว่าแรงที่กระทำกับบันไดในแต่ละองศาการหมุนของขาจานมีค่าที่ค่อนข้างคงที่ แต่ถ้าเปอร์เซนต์ต่ำก็หมายถึงว่า มีความแตกต่างกันอย่างมาก ในระหว่างแรงที่มีค่าสูงสุด กับ ที่มีค่าน้อยที่สุด

2. วิธีการแสดงผลของ Head Unit
Garmin เป็น Head Unit ที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี Garmin ทุกรุ่นจะมี Refresh rate ทุกๆ 1 วินาที นั่นแปลว่ามันจะคำนวนค่าที่ได้จากpower meter แล้วประมวลผลรายงานออกมาทุกๆ 1 วินาที จริงๆถ้าจะบอกว่ามันคือค่าเฉลี่ย 1 วินาที ผมว่าก็คงจะไม่ได้ผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริงนัก ค่าเฉลี่ยยิ่งนาน เช่นเฉลี่ยทุกๆ 3 วินาที , 5วินาที ,10วินาที ค่าที่แสดงผลออกมาก็จะนิ่งและแกว่งน้อยลงไปตามลำดับ

Trainerroad เป็นโปรแกรมตัวหนึ่งที่ run บน PC หรือ Mac จะรับสัญญาณ ANT+ จาก USB ANT+ Key แล้วเอามาแปลผล refresh rate ของมันจะเรียกว่าถี่มากเลยก็ได้ ก็เพราะโปรแกรมมันใช้CPUที่มีความเร็วสูงกว่า Garminมาก เราจึงเห็นการแกว่งของค่าที่แสดงจากโปรแกรมที่refreshถี่ๆได้ค่อนข้างมากเลยทีเดียว

Wahoo fitness เป็น App ที่ run บน smart phone ซึ่งสามารถ run บน iPad ได้ เช่นกัน CPUของ iPad ยังไงๆก็แรงกว่า CPU ของ Garminอยู่แล้ว เท่าที่สังเกตดู จะมีrefresh rate 2ครั้ง/วินาที

3. Sampling rate ของ Power meter
ตัว Power meter เองก็ไม่ใช่ว่าจะปล่อยค่าออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่จะปล่อยออกมาเป็นชุดข้อมูล ถ้าSampling rate สูง ก็จะหมายถึงว่าใน 1 หน่วยเวลา จำนวนชุดข้อมูลที่ส่งออกมาก็จะมีจำนวนสูง ซึ่งจะทำให้ค่าที่ได้มีความแม่นยำสูงขึ้นตามไปด้วย แต่นั่นแหละถ้าหากคนปั่นไม่สามารถปั่นโดยการออกแรงให้คงที่ได้ Sampling rateสูงๆก็จะแสดงผลให้เห็นเลยว่า ค่าวัตต์มีการแกว่งตัวได้มากมายเลยทีเดียวเช่นกัน

4. วิธีในการวัด พูดง่ายๆคือ วัดค่าที่เกิดจากขาเพียงข้างเดียว แล้วนำมาคูณ 2 หรือ วัดค่าที่เกิดจากผลรวมของขาทั้ง 2 ข้าง
ตามทฤษฎีแล้ว การวัดแรงที่เกิดจากการออกแรงของขาเพียงข้างเดียว ย่อมจะมีการแกว่งของค่าที่ได้มากกว่า เพราะในกรณีที่วัดจาก2ขานั้น ในช่วงที่ขาซ้ายถีบก็จะมีแรงดึงเสริมจากขาขวา และในช่วงที่ขาขวาถีบก็จะมีแรงดึงเสริมจากขาซ้าย ทำให้มีความกลมกลืนกันมากกว่า

พิสูจน์ง่ายๆด้วยการปั่นจักรยานด้วยขาเพียงข้างเดียวบนบันไดclipless คุณจะสัมผัสถึงการแกว่งของแรงที่กระทำให้จักรยานเคลื่อนที่ได้เลย ยกเว้นว่าคุณจะสามารถฝึกการปั่นด้วยขาข้างเดียวจนเกิดความกลมกลืนกัน แล้วจึงมาพัฒนาฝึกปั่นพร้อมกันด้วยขา 2 ข้าง นั่นแหละ ถึงตรงนั้นคุณก็จะพบว่า คุณ"ควง"บันได้อย่างอย่างราบรื่น ส่งแรงได้อย่างต่อเนื่อง

แต่ Power meterแต่ละค่าย เขารู้ปัญหานี้ดี แน่นอนครับ ใน firmware ของเขาก็น่าจะออกแบบเผื่อกรณีเช่นนี้ไว้แล้ว เช่น มี filter หรือ มีการ smooth ข้อมูล พูดง่ายๆ ก็คือ การปรุงแต่งข้อมูลเพื่อให้แสดงผลออกมาสวยๆนั่นเอง

ผมได้ทำการทดสอบทั้งบนเทรนเนอร์ ( Rock’n Roll , โดยวัดเทียบการแสดงผลจาก Wahoo fitness , Trainerroad และ บน Edge 810 ( เฉพาะบน Edge 810 จะวัดค่า power ทุก 1 วินาที และค่าเฉลี่ย power 3 วินาที และ แสดงรอบขา ) ) และวัดจากการใช้งานจริงๆบนเส้นทางขึ้นเขาใหญ่

ผลลัพธ์ที่ได้ เมื่อเทียบกับ Power meter หลายตัว ที่ผมเคยใช้มา ผมพอจะสรุปได้ว่า มันก็ไม่ได้แสดงค่าที่แกว่งไปมากมายเลย จริงๆแล้วอยากจะบอกว่ามันแกว่งเป็นปกติตามที่มันควรจะเป็น

ผลที่ได้ทั้งบนเทรนเนอร์ และปั่นใช้งานจริง การแสดงผลบน EDGE 810 ในลักษณะ Power Avg 3sec จะมีค่าที่นิ่งในระดับที่ดีเลยทีเดียวแหละ ทำให้ง่ายต่อการแปลผลและใช้งานจริง

สรุปว่า ซึ่งถ้าหากใช้Garmin แสดงผล ผมแนะนำให้ตั้งค่าแสดงผลเป็น power avg 3sec จะได้ค่าที่นิ่งที่สุด และง่ายต่อการแปลผลและใช้งาน


*********************************************************


หน่วงไหม ?

คำถามนี้ เชื่อว่าหลายคนต้องการคำตอบ หน่วงหรือไม่หน่วงนั้น มันขึ้นกับปัจจัยหลักอยู่ 2 อันเลยคือ

1. Sampling rate ของpower meter
2. Processing rate ของHead Unit

Sampling rate สูง แต่ Processing rate ต่ำ แน่นอนครับ ชุดข้อมูลมหาศาลที่ส่งออกมานั้น กว่ามันจะคำนวนแล้วแสดงผลออกมา ก็ต้องรอกันนานหน่อย พูดง่ายๆก็คือ หน่วงน่ารำคาญ

แต่ถ้าSampling rateพอสมควร ในเวลาเท่ากันไม่ได้มีชุดข้อมูลมากมายเกินความจำเป็น การแสดงผลก็ไม่ต้องรอกันนานจนรู้สึกน่ารำคาญ

จากการทดสอบบนเทรนเนอร์ แสดงผลจาก Wahoo fitness , Trainerroad และ EDGE 810 พบว่า ทั้งWahoo fitness และ Trainload ใช้เวลาในการเริ่มแสดงผลไล่ๆกัน รอแป๊บหนึ่ง EDGE 810 จึงแสดงผลตาม

และเมื่อเทียบกับ 4iiii ซึ่งเป็น App โดยตรงของ PRECISION ที่รับสัญญาณผ่านทาง Bluetoothแล้ว จะยิ่งพบว่า มันแสดงผลเร็วมาก จนรู้สึกว่า EDGE 810 มันช้าไปเลยแฮะ

แต่ถ้าเทียบกับ Power meter ตัวอื่นๆที่ผมเคยใช้มา ผมก็ยืนยันว่าทุกตัวหน่วงทั้งนั้น ยิ่งถ้าใช้ Garmin รุ่นเก่าๆในระดับเริ่มต้นที่มีความเร็วในการประมวลผลต่ำกว่ารุ่นใหม่ๆ จะเข้าถึงและสัมผัสถึงความหน่วงได้อย่างง่ายดาย :lol: :lol: :lol:

เช่น ออกแรงมากขึ้น ค่าวัตต์ไม่ได้เพิ่มขึ้นในทันที แต่ใช้เวลาอีกนิดหนึ่งถึงจะแสดงค่าวัตต์ที่เพิ่มขึ้นให้เห็นกัน แต่พอใช้รุ่นใหม่แล้วเป็นรุ่นตัวเคยTop คนละอารมณ์ :mrgreen:

สรุป หน่วงเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ได้แตกต่างจากpower meterตัวอื่นๆ แถมยังหน่วงน้อยกว่าบางตัวที่ผมเคยใช้มาแล้วซะอีก

ดู clip กันดีกว่า เปรียบเทียบกันเลยชัดๆ
อ้อ เสียงไม่ค่อยเพราะนะครับ
แถมไม่ได้ตัดต่อด้วย


คลิปแสดงการแกว่ง และ ความหน่วงในการแสดงผล บน Head unit แต่ละประเภท



คลิปแสดงการเปรียบเทียบระหว่าง 4iiii app กับ Garmin EDGE 810

*********************************************************

มี Temperature compensation ไหม ?

เออ อันนี้ไม่รู้แฮะ ใน specification ไม่ได้ระบุไว้นะ :lol: :lol: :lol:

แต่พูดจริงๆนะ ในบ้านเราไม่ค่อยมีผลหรอก เพราะอุณหภูมิในบ้านเราเป็นอะไรที่ค่อนข้างคงที่ ไม่ได้ผันแปรกันวุ่นวาย ไม่ได้มีภูเขาสูงมากจนอุณหภูมิเชิงดอยกับยอดดอยต่างกันมากมาย

กด zero หรือ calibrate ในทุกๆครั้งก่อนจะเริ่มออกตัว หลังจากหยุดพักซะก็สิ้นเรื่อง
ผมเองทำประจำๆ ไม่เคยสนใจเลยว่า Power meterที่ผมใช้อยู่นั้น มันก็มี temperature compensation อยู่แล้ว

*********************************************************

ความเห็นส่วนตัว

จุดเด่นหลักๆของ PRECISON คือ ความคุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความแม่นยำ , อาการหน่วง , Free App ที่สามารถติดตั้งบน smart phone หรือ iPad , น้ำหนักที่เบา ติดตั้งง่าย เปลี่ยนถ่านง่าย , ใช้งานง่าย โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับราคา

ข้อด้อยหลักๆคือ วัดจากขาซ้ายเพียงข้างเดียว แต่ถ้าหากเข้าใจธรรมชาติของตัวเอง เข้าใจวิธีการคำนวณและแสดงผล ก็จะสามารถยอมรับมันได้ และเมื่อย้อนกลับไปดูที่ราคา ผมว่าหลายๆคนคงจะไม่คิดว่ามันเป็นข้อด้อยที่ยอมรับกันไม่ได้ เพราะการใช้ power meter เพื่อการฝึกให้เกิดความก้าวหน้านั้น ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ตัวเลข 3 หลักที่วิ่งไปวิ่งมา แต่อยู่ที่ความเข้าใจและการประยุกต์นำมาใช้ต่างหาก

เงินเและความพอใจเป็นของคุณ จะซื้อหรือไม่ โปรดอย่าถามนะครับ
ของราคาไม่กี่ร้อย ซื้อมาแล้วเก็บไว้บนหิ้ง ผมก็เรียกว่าแพง
ของราคาเป็นหมื่น แต่ซื้อมาแล้วใช้ให้เกิดประโยชน์ แบบนี้ผมเรียกว่า คุ้มค่า


หวังว่าคงจะคุ้มค่ากับการรอคอยนะครับ
แก้ไขล่าสุดโดย lucifer เมื่อ 29 เม.ย. 2016, 18:06, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
ถ้าอ่อนซ้อม อ่อนทักษะ ก็จะพบว่าจักรยานคันไหนๆก็ไม่แตกต่างกันหรอก เพราะปั่นไม่ไปเหมือนๆกัน และบังคับควบคุมได้ห่วยพอๆกัน
waranon1974
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 722
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ม.ค. 2013, 18:48
Bike: Super Six EVO Hi-Mod
ตำแหน่ง: 111/11 ถนนรัษฎา ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง 92000
ติดต่อ:

Re: ลองของใหม่ : 4iiii PRECISION power meter

โพสต์ โดย waranon1974 »

ขอขอบคุณอ.ลูฯ
และรอความคืบหน้าต่อไปด้วยใจจดจ่อครับ
visual3dmax
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1356
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 ส.ค. 2014, 11:44

Re: ลองของใหม่ : 4iiii PRECISION power meter

โพสต์ โดย visual3dmax »

ถ้าเป็นเยี่ยงนั้นผมจะขาย จานเรด ไปใ่ส่ 105 กับชุดฟอสเลย :mrgreen: :mrgreen: :mrgreen:
edonkey
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 486
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 พ.ย. 2014, 19:23
Bike: Merida Scultura 4000, Ridley Noah, Canyon Ultimate, Canyon Aeroad, Specialized Venge Vias Disk, Pinarello Dogma F10 Disk, S-Works Venge Disc

Re: ลองของใหม่ : 4iiii PRECISION power meter

โพสต์ โดย edonkey »

สงสัยต้องเบรคโครงการ Zipp ไว้ก่อนแล้ว
papapunpun
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 69
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ต.ค. 2015, 07:30
Tel: 0819387859
Bike: Canyon Ultimate CF SLX8.0

Re: ลองของใหม่ : 4iiii PRECISION power meter

โพสต์ โดย papapunpun »

ปักธงติดตามอาจารย์ต่อไป
รูปประจำตัวสมาชิก
น้องหนึ่ง
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 10797
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 04:07
Tel: 0891441866
ตำแหน่ง: http://www.thaimtb.com/forum/viewforum.php?f=528
ติดต่อ:

Re: ลองของใหม่ : 4iiii PRECISION power meter

โพสต์ โดย น้องหนึ่ง »

เปิดโลกอีกแล้ว ขอบคุณครับ
ร้านจักรยานฝีมือดี มาดึกๆได้

www.thaimtb.com/forum/viewforum.php?f=528
www.facebook.com/HomeMadeBicycle
รูปประจำตัวสมาชิก
trek3900/2009
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1953
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ส.ค. 2009, 02:31

Re: ลองของใหม่ : 4iiii PRECISION power meter

โพสต์ โดย trek3900/2009 »

รออ่านค่อครับ
รับบริการฟิตติ้งจักรยานที่บ้านลูกค้า ราคามิตรภาพ เยี่ยมเพจได้เลยครับhttps://www.facebook.com/RasitFitter/

https://www.facebook.com/pages/Lapierre-bike-Thailand/1543570505857513

https://www.facebook.com/groups/763837143758055/
รูปประจำตัวสมาชิก
KleinMantra1998
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 567
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2015, 14:48
Bike: Trek

Re: ลองของใหม่ : 4iiii PRECISION power meter

โพสต์ โดย KleinMantra1998 »

รอติดตามครับพี่หนก
ว่าภาคทดสอบจะออกมาเป็นอย่างไร
และรอดูราคาจากในงาน
pmv2008
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1959
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2010, 15:13
team: เสือบางไทร "Bangsai cycling club"
Bike: Giant TCR composite,Giant Anthem GT,ภูเขาทัวร์ริ่ง
ตำแหน่ง: 51 หมู่ 3 ต.ห่อหมก อ.บางไทร จ.อยุธยา
ติดต่อ:

Re: ลองของใหม่ : 4iiii PRECISION power meter

โพสต์ โดย pmv2008 »

ติดตามครับ ขอบคุณครับ
http://www.facebook.com/pramotev
zone 1 99-119
zone 2 119-139
zone 3 139-158
zone 4 158-178
zone 5 178-198
รูปประจำตัวสมาชิก
Bkkbikelove
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1010
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ส.ค. 2008, 12:30
Tel: 089xxxxxxx
Bike: Thorn Raven, Principia, GT Grade carbon

Re: ลองของใหม่ : 4iiii PRECISION power meter

โพสต์ โดย Bkkbikelove »

มีผู้นำเข้าแว้ว
งี้ราคาน่าจะพอจับต้องได้ง่ายขึ้น
compass
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 806
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ส.ค. 2011, 23:16
Bike: TREK EMONDA SL6, Nich KEM, TREK MADONE 3.1 2012
ตำแหน่ง: จตุจักร กรุงเทพฯ
ติดต่อ:

Re: ลองของใหม่ : 4iiii PRECISION power meter

โพสต์ โดย compass »

มารอติดตามครับ ^^
รูปประจำตัวสมาชิก
JayTHAI
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 452
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2015, 15:59
team: Zephyr Elite Team, Crazie Bike
Bike: Giant TCR SL ISP '2016
ติดต่อ:

Re: ลองของใหม่ : 4iiii PRECISION power meter

โพสต์ โดย JayTHAI »

เพิ่งจัด Stages Dura-Ace ไปเมื่อสองวีคที่แล้ว แทบอยากจะร้องไห้ "รู้งี้"น่าจะรอซื้อของที่มีผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการ
My Gear : [Giant TCR SL ISP '16]+[Ultegra mix with Dura-Ace]+[Stages Dura-Ace9000]+[Dura-Ace C50]

Crazie Bike : Bike Fitting Service (Static) Line ID : @craziebikefitting
ขวัญใจขาอ่อน... www.facebook.com/kwanjaikhaorn
รูปประจำตัวสมาชิก
ethylalc
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 634
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2011, 19:59
Bike: Specialized E5 2015
ตำแหน่ง: onnut bkk

Re: ลองของใหม่ : 4iiii PRECISION power meter

โพสต์ โดย ethylalc »

หมันไส้ stage จะซื้อก็ไม่ยอมขายให้ดีดี เจ้านี้เนี้ยแหละ หึหึ
รูปประจำตัวสมาชิก
DayWalker
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 960
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ส.ค. 2012, 09:53
team: Tiger Hack & Speed Limit AV 25
Bike: Pinarello Dogma 65.1 Think 2 & Colnago Master X-Light Rabobank team & De Rosa MERAK

Re: ลองของใหม่ : 4iiii PRECISION power meter

โพสต์ โดย DayWalker »

รอติดตามครับ
ตอบกลับ

กลับไปยัง “เสือหมอบ (roadbike)”