มีปัญหาเกี่ยวกับขาจานครับ เดือยเข็มหัก
ผู้ดูแล: Cycling B®y, spinbike, velocity
- NuERK
- ขาประจำ
- โพสต์: 125
- ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ต.ค. 2014, 22:35
- team: ปั้นออกกำลังกายครับ ลำพูน
- Bike: sped pro
มีปัญหาเกี่ยวกับขาจานครับ เดือยเข็มหัก
มันจะมีปัญหาขาจานหลุดไหมครับ
มีวิธีแก้ไขไหม
ขอบคุณครับล่วงหน้าครับ
- ช่างกั้ง
- ขาประจำ
- โพสต์: 125
- ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ก.ค. 2009, 13:58
- Tel: 081-5433536
- team: smartbikes
- Bike: sl3
Re: มีปัญหาเกี่ยวกับขาจานครับ เดือยเข็มหัก
ถ้าขันแน่นแล้วมันไม่หลุดแน่นอนครับ ไม่ต้องห่วง ขาจานรุ่นแรกๆมันก็ไม่มีตัวล๊อคเหมือนกันก็ไม่มีปัญหาหลุดครับ
- น้องหนึ่ง
- ขาประจำ
- โพสต์: 10797
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 04:07
- Tel: 0891441866
- ตำแหน่ง: http://www.thaimtb.com/forum/viewforum.php?f=528
- ติดต่อ:
Re: มีปัญหาเกี่ยวกับขาจานครับ เดือยเข็มหัก
เดือยตัวนั้นไม่ได้มีไว้กันขาจานหลุดครับ ตรงกันข้ามคือมันมีไว้กันขาจานขันแน่นเกินไป ถ้าเดือยนี้หักแสดงกว่าตอนประกอบมีอะไรผิดแน่นอน เดือยตัวนี้มักจะหักเมื่อประกอบไม่ดี รองแหวนกระโหลกผิด หรือใส่แผ่นนี้กลับด้าน หรือเสียบขาจานไม่ตรงตำแหน่ง
แต่ไม่ว่าจะมีเดือยนี้หรือไม่ หากตอนประกอบประณีตพอ ใส่แหวนให้ถูกต้อง ขันน็อตให้ได้แรงดึงพอดี ก็สามารถใช้งานได้ปกติครับ
แต่ไม่ว่าจะมีเดือยนี้หรือไม่ หากตอนประกอบประณีตพอ ใส่แหวนให้ถูกต้อง ขันน็อตให้ได้แรงดึงพอดี ก็สามารถใช้งานได้ปกติครับ
ร้านจักรยานฝีมือดี มาดึกๆได้
www.thaimtb.com/forum/viewforum.php?f=528
www.facebook.com/HomeMadeBicycle
www.thaimtb.com/forum/viewforum.php?f=528
www.facebook.com/HomeMadeBicycle
- NuERK
- ขาประจำ
- โพสต์: 125
- ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ต.ค. 2014, 22:35
- team: ปั้นออกกำลังกายครับ ลำพูน
- Bike: sped pro
Re: มีปัญหาเกี่ยวกับขาจานครับ เดือยเข็มหัก
ขอถามเพิ่มหน่อยนะครับน้องหนึ่ง เขียน:เดือยตัวนั้นไม่ได้มีไว้กันขาจานหลุดครับ ตรงกันข้ามคือมันมีไว้กันขาจานขันแน่นเกินไป ถ้าเดือยนี้หักแสดงกว่าตอนประกอบมีอะไรผิดแน่นอน เดือยตัวนี้มักจะหักเมื่อประกอบไม่ดี รองแหวนกระโหลกผิด หรือใส่แผ่นนี้กลับด้าน หรือเสียบขาจานไม่ตรงตำแหน่ง
แต่ไม่ว่าจะมีเดือยนี้หรือไม่ หากตอนประกอบประณีตพอ ใส่แหวนให้ถูกต้อง ขันน็อตให้ได้แรงดึงพอดี ก็สามารถใช้งานได้ปกติครับ
ตอนนี้มีปัญหาขาจานหลุด ตอนปั้น
น่าจะเป็นเพราะน็อต ขาจานใช่ไหมครับ
พอดีคิดว่าขันแรงไปจนขอบมันจม
ทำให้ไม่มีขอบมากันขาจานไม่ให้หลุด
- เด็กราดรีขี่4300
- ขาประจำ
- โพสต์: 13038
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 11:01
- Tel: 081-9951152
- team: LoveBike
- Bike: จักรยานเก่าๆ
Re: มีปัญหาเกี่ยวกับขาจานครับ เดือยเข็มหัก
ที่ว่าขันจมนี่เบอร์ 5 ในรูปใช่ไหม ลองหาคลิปดูนะ
รู้สึกว่าจะประกอบผิดวิธีหลายขั้นตอน
ไอเดือยเข็มที่ว่ามา ที่มันหักก็เพราะขาจานมันหลุด
ที่ขาจานมันหลุดก็เพราะขันน็อตเบอร์ 6 ไม่แน่น
รู้สึกว่าจะประกอบผิดวิธีหลายขั้นตอน
ไอเดือยเข็มที่ว่ามา ที่มันหักก็เพราะขาจานมันหลุด
ที่ขาจานมันหลุดก็เพราะขันน็อตเบอร์ 6 ไม่แน่น
- lucifer
- ขาประจำ
- โพสต์: 6413
- ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ย. 2010, 14:53
- team: BPMTB , BPRB , Bikeloves
- Bike: Only 2-wheels bike
- ติดต่อ:
Re: มีปัญหาเกี่ยวกับขาจานครับ เดือยเข็มหัก
เอากันจริงๆ ตามตำราเลยนะครับ ชิมาโน่ออกแบบขาจานแบบ Hollowtech II ขึ้นมาตั้งแต่สมัย DA7800 หรือ 10สปีดรุ่นแรกๆแล้ว ผมเคยประกอบมันมาตั้งแต่มันเพิ่งเริ่มจำหน่ายได้ไม่นาน
ตัวเดือยเข็มตัวนี้ ถูกออกแบบมาเพื่อลดอุบัติการณ์การหลุดของขาจานครับ เพราะตัวเดือยจะสอดเข้าไปในรูที่แกนขาจานพอดี ทำให้เวลาที่เราคลายสกรูที่บีบขาจานเข้ากับแกนขาจานออกจนหมดแล้ว เราจะไม่สามารถถอดขาจานออกมาได้ ยกเว้นแต่จะเขี่ยให้เดือยเข็มตัวนี้เปิดขึ้นมาเสียก่อน
โดยขั้นตอนของการประกอบขาจานชุดนี้ จะเริ่มจากใส่ขาจานเข้าไปในแกนขาจานด้านซ้าย แล้วขันฝาปิดปลายขาจาน หรือ pretension cap ซึ่งเอาเข้าจริงๆแล้ว เราก็ไม่มีทางที่จะขันเจ้าฝาปิดหรือcapดังกล่าวได้แน่นจนเกินไป เพราะShimano ออกแบบเครื่องมือที่ขนาดเล็กเพียงพอสำหรับการขันให้พอตึงเท่านั้น ไม่สามารถขันไปได้แน่นกว่านี้อีก
เจ้าฝาปิดนี้จะไปดันให้ขาจานเข้าไปในตำแหน่งที่เหมาะสม ไม่ตึงและไม่หลวมจนเกินไป
จากนั้นให้เขี่ย stopper plate หรือ เดือยเข็มให้ปิด ตัวปลายเดือยเข็มจะเข้าไปขัดในรูด้านข้างของปลายแกนขาจาน ทำหน้าที่เป็น safety lock ไม่ให้ขาจานหลุดออกมา ซึ่งเท่ากับว่า Shimanoออกแบบตัวlock กันขาจานหลุดออกมาถึง 2 ชั้น คือ pretension cap ( ฝาปิดปลายแกนขาจาน ) กับ Stopper plate ( เดือยเข็ม ) แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ สกรูที่ทำหน้าที่ขันรัดให้ขาจานไม่หลุดไปจากแกนขาจาน เพราะถ้าไม่มีสกรูตัวนี้ อะไรก็เอาไม่อยู่ทั้งสิ้น
ที่ขาจานหลุดส่วนใหญ่ก็เพราะขันสกรู 2 ตัวนี้ไม่ถึงtorque ที่ตั้งไว้ คู่มือกำหนดไว้ที่ 12-15 N-m ซึ่งถ้าใช้ประแจปอนด์ขัน จะรู้เลยว่ามันเป็นแรงขันที่สูงมาก ลำพังหกเหลี่ยมด้ามสั้นทั้งหลาย ถ้าไม่ใช่พวกมือหินตีนโหดจริงๆไม่น่าจะขันได้ถึงทอร์คที่กำหนดไว้อย่างแน่นอนครับ ผมเองเคยขันด้วยมือซึ่งคิดว่าแน่นมากแล้ว พอเอาประแจทอร์คมาขันกวดอีกที ปรากฏว่ามือเรายังขันได้ไม่แน่นพอ
พอขาจานเริ่มขยับไปเรื่อยๆ เดือยเข็มซึ่งเล็กนิดเดียวก็ทนไม่ไหว ฝาปิดปลายแกนขาจานก็จะคลายเกลียวตามแรงสะเทือนไปเรื่อยๆ บางรุ่นทำจากพลาสติกก็จะไปทนอะไรไหว สุดท้ายก็หลุดออกมาทั้งยวง
ตัวเดือยเข็มตัวนี้ ถูกออกแบบมาเพื่อลดอุบัติการณ์การหลุดของขาจานครับ เพราะตัวเดือยจะสอดเข้าไปในรูที่แกนขาจานพอดี ทำให้เวลาที่เราคลายสกรูที่บีบขาจานเข้ากับแกนขาจานออกจนหมดแล้ว เราจะไม่สามารถถอดขาจานออกมาได้ ยกเว้นแต่จะเขี่ยให้เดือยเข็มตัวนี้เปิดขึ้นมาเสียก่อน
โดยขั้นตอนของการประกอบขาจานชุดนี้ จะเริ่มจากใส่ขาจานเข้าไปในแกนขาจานด้านซ้าย แล้วขันฝาปิดปลายขาจาน หรือ pretension cap ซึ่งเอาเข้าจริงๆแล้ว เราก็ไม่มีทางที่จะขันเจ้าฝาปิดหรือcapดังกล่าวได้แน่นจนเกินไป เพราะShimano ออกแบบเครื่องมือที่ขนาดเล็กเพียงพอสำหรับการขันให้พอตึงเท่านั้น ไม่สามารถขันไปได้แน่นกว่านี้อีก
เจ้าฝาปิดนี้จะไปดันให้ขาจานเข้าไปในตำแหน่งที่เหมาะสม ไม่ตึงและไม่หลวมจนเกินไป
จากนั้นให้เขี่ย stopper plate หรือ เดือยเข็มให้ปิด ตัวปลายเดือยเข็มจะเข้าไปขัดในรูด้านข้างของปลายแกนขาจาน ทำหน้าที่เป็น safety lock ไม่ให้ขาจานหลุดออกมา ซึ่งเท่ากับว่า Shimanoออกแบบตัวlock กันขาจานหลุดออกมาถึง 2 ชั้น คือ pretension cap ( ฝาปิดปลายแกนขาจาน ) กับ Stopper plate ( เดือยเข็ม ) แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ สกรูที่ทำหน้าที่ขันรัดให้ขาจานไม่หลุดไปจากแกนขาจาน เพราะถ้าไม่มีสกรูตัวนี้ อะไรก็เอาไม่อยู่ทั้งสิ้น
ที่ขาจานหลุดส่วนใหญ่ก็เพราะขันสกรู 2 ตัวนี้ไม่ถึงtorque ที่ตั้งไว้ คู่มือกำหนดไว้ที่ 12-15 N-m ซึ่งถ้าใช้ประแจปอนด์ขัน จะรู้เลยว่ามันเป็นแรงขันที่สูงมาก ลำพังหกเหลี่ยมด้ามสั้นทั้งหลาย ถ้าไม่ใช่พวกมือหินตีนโหดจริงๆไม่น่าจะขันได้ถึงทอร์คที่กำหนดไว้อย่างแน่นอนครับ ผมเองเคยขันด้วยมือซึ่งคิดว่าแน่นมากแล้ว พอเอาประแจทอร์คมาขันกวดอีกที ปรากฏว่ามือเรายังขันได้ไม่แน่นพอ
พอขาจานเริ่มขยับไปเรื่อยๆ เดือยเข็มซึ่งเล็กนิดเดียวก็ทนไม่ไหว ฝาปิดปลายแกนขาจานก็จะคลายเกลียวตามแรงสะเทือนไปเรื่อยๆ บางรุ่นทำจากพลาสติกก็จะไปทนอะไรไหว สุดท้ายก็หลุดออกมาทั้งยวง
ถ้าอ่อนซ้อม อ่อนทักษะ ก็จะพบว่าจักรยานคันไหนๆก็ไม่แตกต่างกันหรอก เพราะปั่นไม่ไปเหมือนๆกัน และบังคับควบคุมได้ห่วยพอๆกัน
- น้องหนึ่ง
- ขาประจำ
- โพสต์: 10797
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 04:07
- Tel: 0891441866
- ตำแหน่ง: http://www.thaimtb.com/forum/viewforum.php?f=528
- ติดต่อ:
Re: มีปัญหาเกี่ยวกับขาจานครับ เดือยเข็มหัก
ตอบป๋าลูฯ พี่เด็กราดรีฯ และพี่ จขกท. พร้อมกันเลยนะครับ
ก่อนอื่นต้องบอกว่า ยังมั่นใจเต็มที่ ว่าเดือยตัวนี้มีไว้กันใส่ขาจานลึกเกินไป
เพราะจานชิมาโน่ใช้ขาจาน "บีบ" ลูกปืนกระโหลกไว้ทั้งสองด้าน* โดยอาศัยการเลื่อนขาจานข้างซ้ายเข้าจนเหลือเพลายาวพอดีเท่ากระโหลก ปัญหาจึงเกิดตามมาว่า หากขันฝาปิดขาจานข้างซ้ายแน่นเกินไป จะทำให้ลูกปืนฝืด
ชิมาโน่จึงสร้างเครื่องมือเฉพาะขึ้นมาจากพลาสติก อันเล็กๆ บางๆ เพื่อบังคับให้เราจับได้ไม่แน่น และออกแรงขันได้ไม่มาก
แต่ถ้ายังฝืนออกแรงขันมากไป ขาจานก็จะไปติดกับสต็อปเปอร์เพลตตัวนี้ ไม่ให้ขาจานเข้าไปลึกกว่านั้น
เรื่องป้องกันขาจานหลุด ผมไม่คิดว่าเดือยเล็กๆ ขนาดที่ใช้มือเปล่าดึงได้ จะป้องกันแรงกระชากจากเท้าได้เลย
แต่น็อตยึดขาจานสองตัวนั่นแหละ ที่เป็นตัวป้องกันอย่างแท้จริง นอกจากน็อตยึดสองตัวจะหนีบเพลาขาจานไว้แล้ว ยังหนีบฝาปิดขาจานด้านซ้ายไว้ไม่ให้คลายด้วย "การที่ไม่ทำเพลาให้ยาวออกมาจนเต็มขาจานด้านซ้าย" เพราะต้องการให้ปลายขาซ้ายหนีบลงมาบนฝาปิดขาจานนี่ด้วย แค่ขันน็อตยึดพอตึงมือก็หมุนฝาปิดขาจานไม่ได้แล้ว เมื่อหมุนไม่ได้ฝาก็ไม่หลุด จึงป้องกันขาจานหลุดได้ระดับนึง แม้ขันน็อตยึดไม่แน่นมากก็ตาม
ส่วนสาเหตุที่เดือยหัก ผมพบอยู่สองสาเหตุ ว่ารองแหวนกระโหลกผิดจำนวน กับใส่เพลตนี้กลับข้าง คือเอามาใส่ไว้ที่น็อตยึดตัวนอก ทำให้เดือยกับรูไม่ตรงกัน แต่ยังฝืนกดเข้าไป ไม่ใช่เพราะถูกดันหรือดึงขาจานเข้าออก
เพราะจากที่เคยซ่อมรถลูกค้า เดือยที่หักนี่จะมาในสภาพที่โดนดันให้จมลึกเข้าไปในเพลตพลาสติก ไม่ใช่เอียงเข้าหรือเอียงออกครับ
* ต่างจากยี่ห้ออื่น เช่น แสรม ใช้ปลายเพลาและขาจานซ้าย หนีบลูกปืนลูกซ้ายลูกเดียว หรือแคมปี้ ที่ใช้แหวนสปริงกดลูกปืนไว้ โดยไม่ต้องขันขาจานบีบลูกปืนจนแน่น ชิมาโน่จึงต้องกำหนดแรงขันฝาตัวนี้ไว้อย่างแน่นอนมาก
ก่อนอื่นต้องบอกว่า ยังมั่นใจเต็มที่ ว่าเดือยตัวนี้มีไว้กันใส่ขาจานลึกเกินไป
เพราะจานชิมาโน่ใช้ขาจาน "บีบ" ลูกปืนกระโหลกไว้ทั้งสองด้าน* โดยอาศัยการเลื่อนขาจานข้างซ้ายเข้าจนเหลือเพลายาวพอดีเท่ากระโหลก ปัญหาจึงเกิดตามมาว่า หากขันฝาปิดขาจานข้างซ้ายแน่นเกินไป จะทำให้ลูกปืนฝืด
ชิมาโน่จึงสร้างเครื่องมือเฉพาะขึ้นมาจากพลาสติก อันเล็กๆ บางๆ เพื่อบังคับให้เราจับได้ไม่แน่น และออกแรงขันได้ไม่มาก
แต่ถ้ายังฝืนออกแรงขันมากไป ขาจานก็จะไปติดกับสต็อปเปอร์เพลตตัวนี้ ไม่ให้ขาจานเข้าไปลึกกว่านั้น
เรื่องป้องกันขาจานหลุด ผมไม่คิดว่าเดือยเล็กๆ ขนาดที่ใช้มือเปล่าดึงได้ จะป้องกันแรงกระชากจากเท้าได้เลย
แต่น็อตยึดขาจานสองตัวนั่นแหละ ที่เป็นตัวป้องกันอย่างแท้จริง นอกจากน็อตยึดสองตัวจะหนีบเพลาขาจานไว้แล้ว ยังหนีบฝาปิดขาจานด้านซ้ายไว้ไม่ให้คลายด้วย "การที่ไม่ทำเพลาให้ยาวออกมาจนเต็มขาจานด้านซ้าย" เพราะต้องการให้ปลายขาซ้ายหนีบลงมาบนฝาปิดขาจานนี่ด้วย แค่ขันน็อตยึดพอตึงมือก็หมุนฝาปิดขาจานไม่ได้แล้ว เมื่อหมุนไม่ได้ฝาก็ไม่หลุด จึงป้องกันขาจานหลุดได้ระดับนึง แม้ขันน็อตยึดไม่แน่นมากก็ตาม
ส่วนสาเหตุที่เดือยหัก ผมพบอยู่สองสาเหตุ ว่ารองแหวนกระโหลกผิดจำนวน กับใส่เพลตนี้กลับข้าง คือเอามาใส่ไว้ที่น็อตยึดตัวนอก ทำให้เดือยกับรูไม่ตรงกัน แต่ยังฝืนกดเข้าไป ไม่ใช่เพราะถูกดันหรือดึงขาจานเข้าออก
เพราะจากที่เคยซ่อมรถลูกค้า เดือยที่หักนี่จะมาในสภาพที่โดนดันให้จมลึกเข้าไปในเพลตพลาสติก ไม่ใช่เอียงเข้าหรือเอียงออกครับ
* ต่างจากยี่ห้ออื่น เช่น แสรม ใช้ปลายเพลาและขาจานซ้าย หนีบลูกปืนลูกซ้ายลูกเดียว หรือแคมปี้ ที่ใช้แหวนสปริงกดลูกปืนไว้ โดยไม่ต้องขันขาจานบีบลูกปืนจนแน่น ชิมาโน่จึงต้องกำหนดแรงขันฝาตัวนี้ไว้อย่างแน่นอนมาก
ร้านจักรยานฝีมือดี มาดึกๆได้
www.thaimtb.com/forum/viewforum.php?f=528
www.facebook.com/HomeMadeBicycle
www.thaimtb.com/forum/viewforum.php?f=528
www.facebook.com/HomeMadeBicycle
- lucifer
- ขาประจำ
- โพสต์: 6413
- ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ย. 2010, 14:53
- team: BPMTB , BPRB , Bikeloves
- Bike: Only 2-wheels bike
- ติดต่อ:
Re: มีปัญหาเกี่ยวกับขาจานครับ เดือยเข็มหัก
ด้วยความเคารพในความเห็นของคุณน้องหนึ่ง แต่ผมเห็นด้วยไม่ทั้งหมด โดยเฉพาะในเรื่องที่ว่า
1. Shimano ออกแบบระบบขาจาน Hollowtech II ภายใต้เงื่อนไขดังนี้
1.1 ใช้กับเฟรมกระโหลกเกลียวที่มีความกว้างตามมาตรฐาน ( เฟรมเสือหมอบ BSA กว้าง 68mm และ ITA กว้าง 70 mm ,หรือเฟรมเสือภูเขา กว้าง 68 หรือ 72mm ซึ่งก็ต้องพึ่งพาจำนวนแหวนรอง ให้เหมาะสมว่าเป็นเฟรม 68 mm หรือ 72mm , ใช้หรือไม่ใช้สับจานแบบเกี่ยวกระโหลก หรือ E-Type , ในกรณีของเสือภูเขานั้น จะพังหรือไม่พัง ใส่แหวนครบหรือไม่ถูกต้องนั้น เป็นเรื่อง"ความมั่ว"ของช่าง เพราะขาดความรู้และ ไม่ศึกษาคู่มือ )
1.2 กระโหลก Outboard ที่ตัวเองเป็นผู้ออกแบบไว้ มีความกว้างต่อข้างประมาณ 11.5mm
จาก 2 เงื่อนไขนี้ ( แปลว่า ห้ามผิดเงื่อนไข ) จึงทำให้การใส่ขาจานด้านซ้ายจะสามารถใส่เข้าไปได้อย่างพอดี ยิ่งถ้าเป็นกรณีของเสือหมอบแล้ว เราไม่มีทางที่จะใส่ขาจานด้านซ้ายเข้าไปได้ลึกกว่าที่ทางผู้ผลิตออกแบบไว้อย่างแน่นอน เพราะสุดท้ายมันจะเข้าไปยันกับบ่าซีลของลูกปืนกระโหลกพอดี
2. การที่ช่างไทยไม่นิยมอ่านคู่มือ จึงทำให้ผิดขั้นตอนสำคัญ เพราะ shimano กำหนดขั้นตอนไว้โดยให้
2.1 เริ่มที่ขันฝาปิดแกนขาจานด้วยเครืองมือที่กำหนดให้เท่านั้น นั่นแปลว่าจะไม่มีทางขันได้เกินกว่าค่า Torqueที่ควรจะเป็นเพราะเครื่องมือเล็กจับไม่ถนัด โดยเฉพาะฝรั่งมือใหญ่ที่บ่นกันในช่วงแรกว่า ออกแบบเครื่องมือมาให้จับไม่สะดวกเอาเสียเลย แต่ถ้าคิดตามผู้ผลิตก็จะเข้าใจว่า มันเป็นวิธีการออกแบบเครื่องมือให้ใช้ได้ง่ายๆ ไม่ต้องพึ่งประแจทอร์คเลย แรงคนที่ขันด้วยเครื่องมือนี้จนแน่นก็ไม่มากเกินกว่าจะเพิ่มside load ให้ลูกปืนแล้ว และมากพอที่จะกดให้ขาจานด้านซ้ายเข้าไปอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม เน้นว่า ปลายแกนขาจานของ Hollowtech II ไม่ใช่แกน Tapered
2.2 เขี่ยเดือยเข็มให้เข้าไปลอคอยู่ในรู ( จริงๆต้องเรียกว่าแอ่งมากกว่า เพราะมัน"ไม่ทะลุ") นอกจากจะเป็นการconfirm ว่าขาจานอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมแล้ว ( ซึ่งจริงๆแล้วมันไม่ได้ช่วยอะไรเลย ถ้าทำตามข้อ 1 ที่กล่าวไว้แล้ว เพราะยังไงๆมันก็ลงตัว ยกเว้นเสือภูเขาและไม่อ่านคู่มือ ) แต่ผมก็ยังเชื่อว่า ผู้ผลิตคิดเอาไว้แล้วว่า เดือยเข็มนี้คือหลักประกันอีกอันหนึ่งที่จะเป็นตัวช่วยประคองให้ขาจานด้านซ้ายไม่หลุดโพล๊ะออกมาในทันที เน้นอีกครั้งว่า ปลายแกนขาจานของ Hollowtech II ไม่ใช่แกน Tapered ดังนั้นเอามือกระชากก็หลุดออกมาได้แล้ว ไม่มีอะไรเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวนอกจากสกรูที่บีบให้มันอยู่กับที่ และตัวช่วยดันซึ่งไม่ขยับไปไหน
( เมื่อขันสกรูยึดขาจานทั้งสองตัวจนแน่นหนาตามทอร์คแล้ว ทั้งฝาปิดปลายแกนขาจาน และเดือยเข็มจะไม่สามารถขยับตัวได้เลย , และถ้าไม่มือซนไปรื้อหรือถอนยวงสกรูที่ยึดขาจานทั้งสองตัวออกมา จนStopper plateหลุดออกมาจากตำแหน่งที่ถูกต้องแล้วหละก้อ เจ้าเดือยเข็มนี้ก็จะไม่มีทางสลับหน้าหลังกันได้เลย "มันพัง เพราะความมั่วของคน" )
พักตรงนี้ไว้
แล้วลองย้อนกลับไปดูเรื่อง Stem แบบคอหนีบที่เราใช้กันในปัจจุบันกันดีกว่าครับ (คอเกลียวหรือคอจุ่มมันเป็นเรื่องของอดีตที่ผมเองก็ยังติดใจอยู่ แต่มันโบราณแล้วต้องปล่อยผ่าน) ผมถามว่า stem แบบคอหนีบนั้น ตัวที่ทำให้ Stem ยังอยู่ในตำแหน่งของมันได้ ไม่ขยับตัวออกมานั้น มันประกอบด้วย 2 ปัจจัย
1. ตัวหลักก็คือ แรงขันสกรูที่บีบstemไว้กับซาง ในสมัยก่อนที่ผมใช้เสือภูเขานั้น ผมใช้ซางโครโมลี่ และสเตมตัวบักเอ้ง ที่ใช้สกรูหัวหกเหลี่ยม 5 mm ขัน ดังนั้นไม่ต้องห่วงว่าจะขันกันได้ไม่เต็มเหนี่ยว ( ผิดกับในปัจจุบันที่ซางคาร์บอนและสเตมอันบอบบาง กำหนดทอร์คกันไว้แค่ไม่เกิน 5 N-m เสียเป็นส่วนใหญ่ ( นานๆจะเจอ 8 N-m ) ยังไงๆสมัยก่อนก็น่าจะขันกันได้มากกว่า 8 N-m ด้วยแรงควายๆของผมอย่างแน่นอน แล้วลำพังแค่สกรู 2 ตัวใหญ่ๆนี่ มันเพียงพอที่จะรัดให้สเตมมันกดอยู่บนลูกถ้วยลูกปืนคอได้อย่างแข็งแรงแล้วหรือ ??? คำตอบคือ ไม่พอ จึงต้องพึ่งตัวช่วยคือ
2. ตัวช่วยคือ สกรูที่ทำหน้าที่ขันกดฝาปิดสเตม เพื่อดันให้สเตมกดลงบนลูกปืนถ้วยคอได้อย่างแน่นหนา จริงๆแล้วแรงขันตัวสกรูตัวนี้น้อยมาก คือ ประมาณไม่เกิน 3 N-m ( บางผู้ผลิตกำหนดไว้ แต่ขันจริงๆปรากฏว่า คอฝืด ต้องคลายออกมา ซึ่งมารู้ทีหลังว่า เราผิดขั้นตอน )
ซึ่งขั้นตอนของการประกอบ Stem เข้ากับซางจะประกอบด้วย 3 ขั้นตอน
1. ขันสกรูฝาปิดstem จนstemกดลงบนถ้วยคอได้อย่างดี ไม่แน่นเกินไปจนคอฝืด และไม่หลวมเกินไปจนคอคลอน
2. จัดทิศทางตำแหน่งให้ล้อตรง แล้วจึงขันสกรูยึดสเตมให้แน่นตามทอร์คที่ระบุไว้
3. ขั้นตอนที่ทุกคนนึกไม่ถึง เพราะไม่คิดว่าจำเป็น คือ ออกแรงขันสกรูยึดฝาปิดstemต่ออีกนิดหนึ่ง ตรงนี้แหละที่ต้องเข้าใจก่อนว่า เราไม่ทำกันเพราะคิดกันว่ามันผิดขั้นตอน เพราะจะไปถอนstar nutออกมาทั้งยวง หรือ ถอนตัวเบ่งซางออกมา แต่จริงๆแล้วถ้าเราทำโดยกำหนดทอร์คให้เหมาะสมตามที่ผู้ผลิตแจ้งไว้ คือ ไม่เกิน 3 N-m ก็จะไม่สร้างความเสียหายอย่างที่เราคิด และผลของการทำเช่นนี้จะเป็นการตอกตะปูปิดฝาโลงอีกชั้นหนึ่ง เพื่อกันไม่ให้ stem ถอยตัวขึ้นมาแล้วเกิดอาการคอคลอนในที่สุด
( หากคิดว่า ตัวช่วยไม่มีความสำคัญหละก้อ พิสูจน์ง่ายๆ คือ ในขั้นตอนที่ 3 แทนที่จะออกแรงกวดอีกนิดหนึ่ง ก็ให้คลายมันออกมาเลย คลายแบบให้เกือบหลุดก็ได้ แล้วเอาจักรยานไปปั่นดูสักหลายกม. ผ่านสันถนนสักหลายๆครั้ง แล้วมาดูกันว่า ลำพังสกรูบีบสเตมแค่ 2 ตัว มันจะเอาอยู่ไหม )
จากสาธกเรื่อง Stem คอหนีบ ก็น่าจะกลับไปคุยกันต่อเรื่อง ขาจาน Hollowtech II กันได้นะครับว่าทำไม Shimano ถึงคิดเล็กคิดน้อย คิดหยุมคิดหยิม คิดจนบางทีเราก็"ไม่เชื่อ"ว่า มันจะเป็นแบบนั้น ยิ่งถ้ามีความสุขที่จะไม่เชื่อด้วยแล้ว ก็จะยิ่งไม่คิดเล็กคิดน้อยตามที่ผู้ผลิตคิดไว้เลย แต่แนะนำว่า ให้ลองสอบถามจากผู้ที่ผ่านการฝึกอบรม workshop จากผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการ เพราะเขาจะต้องจัดการฝึกอบรมตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์ของเขาให้เข้าใจถึงอุปกรณ์และวิธีคิดของผู้ผลิต ว่าแท้จริงแล้วผู้ผลิตเขาออกแบบอุปกรณ์ตัวนี้มาเพื่อเหตุผลใดนะครับ ( เสียดาย WhitePaper ของShimano เป็นของหายาก )
- ฝาปิดขาจานเป็นพลาสติกหรือResin เมื่อถูกบีบให้แน่นแล้วก็จะหมุนไม่ออก แต่มันก็เคยถูกถอนยกยวงรูดเกลียวออกมาแล้ว และพังมาแล้ว ชิมิ
- เดือยเข็มเล็กนิดเดียวจะทนทานอะไรไหว? ก็จริง แต่มันก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลย เพราะก่อนที่ขาจานจะหลุดออกมานั้น มันไม่ได้หลุดออกมาในทีเดียว ก็คล้ายๆกับ stemคอหนีบที่ออกอาการคอคลอนให้รู้สึกได้ก่อนที่ลูกปืนถ้วยคอจะเสียหาย แต่ส่วนใหญ่ที่หลุดออกมาทั้งยวงนั้น ก็มักจะเกิดกับคนที่"ปั่นเป็นอย่างเดียว "แต่ดูแลรักษาเบื้องต้นไม่เป็น" มันจึงเป็นเหมือนกับเชือกเส้นสุดท้ายที่มีไว้ให้เหนี่ยวก่อนจะหลุดไปกับกระแสน้ำ เชือกอาจจะไม่เหนียวพอที่จะทนแรงต้านได้ แต่ก็ยื้อชีวิตไว้ได้อีกพักหนึ่งจนกว่าจะมีคนมาช่วย
แล้วทำไมขาจานหลากหลายยี่ห้อเขาไม่ทำกันแบบนี้
1. Sram , FSA ใช้แหวนสปริงรูปคลื่น ( Wavy spring ) เป็นตัวช่วยดันไว้ ทำให้ถึงแม้ว่าสกรูจะคลายตัว แต่ยังมีแหวนสปริงคอยดัน เมื่อเกิดการขยับตัว ผู้ปั่นก็จะรู้สึกได้โดยง่าย และการใส่แหวนสปริงจะเป็นตัวช่วยป้องกันการคลายตัวของฝาปิดแกนขาจานได้อีกระดับหนึ่ง ( คล้ายๆกับการเพิ่มtension ให้กับเกลียวของฝาปิดแกนขาจาน ) อีกทั้งยังปรับตั้ง side load ได้ง่ายขึ้นอีกด้วย แถมบางรุ่นปลายขาจานเป็น Tapered ด้วย ทำให้นอกจากจะอยู่เพราะแรงขันของสกรูตัวบังเอ้งแล้ว ยังอยู่เพราะโดนบีบด้วยความเป็นTapered ของปลายขาจานอีก
2. Rotor 3D ใช้สกรูแค่ตัวเดียว ขันแค่ 7 N-m ซึ่งดูเหมือนน้อย แต่ความจริงแล้วมากพอ เพราะยังมีแรงบีบของขาจานที่ถูกออกแบบไว้ให้ถูกง้างออกมาก่อนด้วยสกรูอัจฉริยะ พอสวมแล้วขันสกรูเข้าไป ก็จะบีบปลายแกนขาจานด้วยตัวของมันเอง และจะบีบให้แน่นขึ้นอีกด้วยแรงกวดของสกรูอีกทีหนึ่ง และถ้าอ่านในคู่มือของผู้ผลิตจนจบ เขาจะบอกให้เราขันฝาปิดปลายขาจานจนได้ side load ที่พอดีไม่ทำให้ลูกปืนกระโหลกฝืดตัว ซึ่งก็ประมาณ 1N-m ( เขาจะให้ยางO-ring มาใส่รองไว้ระหว่างขาจานด้านซ้ายกับบ่าลูกปืนกระโหลกด้านซ้ายไว้ เพื่อช่วยในเรื่องtension ทำให้ไม่ต้องขันฝาปิดปลายขาจานแน่นเกินไป จากนั้นจึงให้ขันสกรูตัวเก่งจนได้ทอร์คที่ 7N-m และในขั้นตอนสุดท้าย ท่านบอกว่า ให้ขันฝาปิดแกนขาจานด้วยทอร์คอีก 5-8 N-m ซึ่งเป็นตัวกันเหนียวไว้อีกชั้นหนึ่ง ซึ่งถึงแม้ว่ามันจะไม่สามารถกดให้ขาจานขยับได้อีกก็ตาม แต่แรงขันจะทำให้ลดโอกาสการขยับตัวของขาจานด้านซ้าย
แต่ละผู้ผลิต จึงมีวิธีการคิดที่แตกต่างกัน
จริงๆแล้วผมไม่ค่อยจะสงสัยในวิธีการคิดของแต่ละค่ายเลย บอกตรงๆว่าหลายๆสิ่ง หลายๆอย่าง ในโลกจักรยานที่ผ่านตามาหลายปีนั้น มันเป็นเรื่องง่ายๆไม่ซับซ้อน เป็นเหตุผลตรงตัวแบบ 1+1 = 2 เสียแทบจะทุกเรื่องไป มีไม่กี่เรื่องที่ถึงกับอ้าปากค้างเพราะนึกไม่ถึงก็มีบ้าง เช่น สกรูอัจฉริยะของ Rotor แต่พอเข้าใจแล้วก็เฉยๆ เรื่องน่าอัศจรรย์ยังมีอีกมากมาย
เพียงแต่สำหรับ Shimanoแล้ว มันคือ Japanese product ที่เอาปรัชญาแบบคนญี่ปุ่นใส่เข้าไป คือ คิดถึงและรับผิดชอบต่อผู้ใช้ จึงดูเหมือนจะเป็นเรื่องคิดเล็กคิดน้อย ถึงแม้ว่าบางอย่างจะอิงการตลาดไปบ้างก็ตาม แต่ปรัชญาหลักๆของเขาก็ยังคงเป็นเช่นนั้น
บทสรุปของผม สั้นๆครับ
ของเสียหายเกิดจาก
1. ช่างมั่ว และขาดความรู้ หรือ ไม่อ่านคู่มือ
2. ผู้ใช้ไม่แยแส
3. วัสดุด้อยคุณภาพ
4. "ดวง" ใครๆเขาไม่เป็นกัน ทำไมท่านถึงซวย
ถือว่าแลกเปลี่ยนมุมมองกันนะครับ
คือ ถ้าหากประกอบกันตามคู่มือกันแล้ว เดือยตัวนี้จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความตื้นลึกของขาจานเลย ทั้งนี้เพราะ Shimano มีวิธีการออกแบบเอาไว้อย่างรัดกุม ดังนี้น้องหนึ่ง เขียน:ตอบป๋าลูฯ พี่เด็กราดรีฯ และพี่ จขกท. พร้อมกันเลยนะครับ
ก่อนอื่นต้องบอกว่า ยังมั่นใจเต็มที่ ว่าเดือยตัวนี้มีไว้กันใส่ขาจานลึกเกินไป
1. Shimano ออกแบบระบบขาจาน Hollowtech II ภายใต้เงื่อนไขดังนี้
1.1 ใช้กับเฟรมกระโหลกเกลียวที่มีความกว้างตามมาตรฐาน ( เฟรมเสือหมอบ BSA กว้าง 68mm และ ITA กว้าง 70 mm ,หรือเฟรมเสือภูเขา กว้าง 68 หรือ 72mm ซึ่งก็ต้องพึ่งพาจำนวนแหวนรอง ให้เหมาะสมว่าเป็นเฟรม 68 mm หรือ 72mm , ใช้หรือไม่ใช้สับจานแบบเกี่ยวกระโหลก หรือ E-Type , ในกรณีของเสือภูเขานั้น จะพังหรือไม่พัง ใส่แหวนครบหรือไม่ถูกต้องนั้น เป็นเรื่อง"ความมั่ว"ของช่าง เพราะขาดความรู้และ ไม่ศึกษาคู่มือ )
1.2 กระโหลก Outboard ที่ตัวเองเป็นผู้ออกแบบไว้ มีความกว้างต่อข้างประมาณ 11.5mm
จาก 2 เงื่อนไขนี้ ( แปลว่า ห้ามผิดเงื่อนไข ) จึงทำให้การใส่ขาจานด้านซ้ายจะสามารถใส่เข้าไปได้อย่างพอดี ยิ่งถ้าเป็นกรณีของเสือหมอบแล้ว เราไม่มีทางที่จะใส่ขาจานด้านซ้ายเข้าไปได้ลึกกว่าที่ทางผู้ผลิตออกแบบไว้อย่างแน่นอน เพราะสุดท้ายมันจะเข้าไปยันกับบ่าซีลของลูกปืนกระโหลกพอดี
2. การที่ช่างไทยไม่นิยมอ่านคู่มือ จึงทำให้ผิดขั้นตอนสำคัญ เพราะ shimano กำหนดขั้นตอนไว้โดยให้
2.1 เริ่มที่ขันฝาปิดแกนขาจานด้วยเครืองมือที่กำหนดให้เท่านั้น นั่นแปลว่าจะไม่มีทางขันได้เกินกว่าค่า Torqueที่ควรจะเป็นเพราะเครื่องมือเล็กจับไม่ถนัด โดยเฉพาะฝรั่งมือใหญ่ที่บ่นกันในช่วงแรกว่า ออกแบบเครื่องมือมาให้จับไม่สะดวกเอาเสียเลย แต่ถ้าคิดตามผู้ผลิตก็จะเข้าใจว่า มันเป็นวิธีการออกแบบเครื่องมือให้ใช้ได้ง่ายๆ ไม่ต้องพึ่งประแจทอร์คเลย แรงคนที่ขันด้วยเครื่องมือนี้จนแน่นก็ไม่มากเกินกว่าจะเพิ่มside load ให้ลูกปืนแล้ว และมากพอที่จะกดให้ขาจานด้านซ้ายเข้าไปอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม เน้นว่า ปลายแกนขาจานของ Hollowtech II ไม่ใช่แกน Tapered
2.2 เขี่ยเดือยเข็มให้เข้าไปลอคอยู่ในรู ( จริงๆต้องเรียกว่าแอ่งมากกว่า เพราะมัน"ไม่ทะลุ") นอกจากจะเป็นการconfirm ว่าขาจานอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมแล้ว ( ซึ่งจริงๆแล้วมันไม่ได้ช่วยอะไรเลย ถ้าทำตามข้อ 1 ที่กล่าวไว้แล้ว เพราะยังไงๆมันก็ลงตัว ยกเว้นเสือภูเขาและไม่อ่านคู่มือ ) แต่ผมก็ยังเชื่อว่า ผู้ผลิตคิดเอาไว้แล้วว่า เดือยเข็มนี้คือหลักประกันอีกอันหนึ่งที่จะเป็นตัวช่วยประคองให้ขาจานด้านซ้ายไม่หลุดโพล๊ะออกมาในทันที เน้นอีกครั้งว่า ปลายแกนขาจานของ Hollowtech II ไม่ใช่แกน Tapered ดังนั้นเอามือกระชากก็หลุดออกมาได้แล้ว ไม่มีอะไรเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวนอกจากสกรูที่บีบให้มันอยู่กับที่ และตัวช่วยดันซึ่งไม่ขยับไปไหน
( เมื่อขันสกรูยึดขาจานทั้งสองตัวจนแน่นหนาตามทอร์คแล้ว ทั้งฝาปิดปลายแกนขาจาน และเดือยเข็มจะไม่สามารถขยับตัวได้เลย , และถ้าไม่มือซนไปรื้อหรือถอนยวงสกรูที่ยึดขาจานทั้งสองตัวออกมา จนStopper plateหลุดออกมาจากตำแหน่งที่ถูกต้องแล้วหละก้อ เจ้าเดือยเข็มนี้ก็จะไม่มีทางสลับหน้าหลังกันได้เลย "มันพัง เพราะความมั่วของคน" )
พักตรงนี้ไว้
แล้วลองย้อนกลับไปดูเรื่อง Stem แบบคอหนีบที่เราใช้กันในปัจจุบันกันดีกว่าครับ (คอเกลียวหรือคอจุ่มมันเป็นเรื่องของอดีตที่ผมเองก็ยังติดใจอยู่ แต่มันโบราณแล้วต้องปล่อยผ่าน) ผมถามว่า stem แบบคอหนีบนั้น ตัวที่ทำให้ Stem ยังอยู่ในตำแหน่งของมันได้ ไม่ขยับตัวออกมานั้น มันประกอบด้วย 2 ปัจจัย
1. ตัวหลักก็คือ แรงขันสกรูที่บีบstemไว้กับซาง ในสมัยก่อนที่ผมใช้เสือภูเขานั้น ผมใช้ซางโครโมลี่ และสเตมตัวบักเอ้ง ที่ใช้สกรูหัวหกเหลี่ยม 5 mm ขัน ดังนั้นไม่ต้องห่วงว่าจะขันกันได้ไม่เต็มเหนี่ยว ( ผิดกับในปัจจุบันที่ซางคาร์บอนและสเตมอันบอบบาง กำหนดทอร์คกันไว้แค่ไม่เกิน 5 N-m เสียเป็นส่วนใหญ่ ( นานๆจะเจอ 8 N-m ) ยังไงๆสมัยก่อนก็น่าจะขันกันได้มากกว่า 8 N-m ด้วยแรงควายๆของผมอย่างแน่นอน แล้วลำพังแค่สกรู 2 ตัวใหญ่ๆนี่ มันเพียงพอที่จะรัดให้สเตมมันกดอยู่บนลูกถ้วยลูกปืนคอได้อย่างแข็งแรงแล้วหรือ ??? คำตอบคือ ไม่พอ จึงต้องพึ่งตัวช่วยคือ
2. ตัวช่วยคือ สกรูที่ทำหน้าที่ขันกดฝาปิดสเตม เพื่อดันให้สเตมกดลงบนลูกปืนถ้วยคอได้อย่างแน่นหนา จริงๆแล้วแรงขันตัวสกรูตัวนี้น้อยมาก คือ ประมาณไม่เกิน 3 N-m ( บางผู้ผลิตกำหนดไว้ แต่ขันจริงๆปรากฏว่า คอฝืด ต้องคลายออกมา ซึ่งมารู้ทีหลังว่า เราผิดขั้นตอน )
ซึ่งขั้นตอนของการประกอบ Stem เข้ากับซางจะประกอบด้วย 3 ขั้นตอน
1. ขันสกรูฝาปิดstem จนstemกดลงบนถ้วยคอได้อย่างดี ไม่แน่นเกินไปจนคอฝืด และไม่หลวมเกินไปจนคอคลอน
2. จัดทิศทางตำแหน่งให้ล้อตรง แล้วจึงขันสกรูยึดสเตมให้แน่นตามทอร์คที่ระบุไว้
3. ขั้นตอนที่ทุกคนนึกไม่ถึง เพราะไม่คิดว่าจำเป็น คือ ออกแรงขันสกรูยึดฝาปิดstemต่ออีกนิดหนึ่ง ตรงนี้แหละที่ต้องเข้าใจก่อนว่า เราไม่ทำกันเพราะคิดกันว่ามันผิดขั้นตอน เพราะจะไปถอนstar nutออกมาทั้งยวง หรือ ถอนตัวเบ่งซางออกมา แต่จริงๆแล้วถ้าเราทำโดยกำหนดทอร์คให้เหมาะสมตามที่ผู้ผลิตแจ้งไว้ คือ ไม่เกิน 3 N-m ก็จะไม่สร้างความเสียหายอย่างที่เราคิด และผลของการทำเช่นนี้จะเป็นการตอกตะปูปิดฝาโลงอีกชั้นหนึ่ง เพื่อกันไม่ให้ stem ถอยตัวขึ้นมาแล้วเกิดอาการคอคลอนในที่สุด
( หากคิดว่า ตัวช่วยไม่มีความสำคัญหละก้อ พิสูจน์ง่ายๆ คือ ในขั้นตอนที่ 3 แทนที่จะออกแรงกวดอีกนิดหนึ่ง ก็ให้คลายมันออกมาเลย คลายแบบให้เกือบหลุดก็ได้ แล้วเอาจักรยานไปปั่นดูสักหลายกม. ผ่านสันถนนสักหลายๆครั้ง แล้วมาดูกันว่า ลำพังสกรูบีบสเตมแค่ 2 ตัว มันจะเอาอยู่ไหม )
จากสาธกเรื่อง Stem คอหนีบ ก็น่าจะกลับไปคุยกันต่อเรื่อง ขาจาน Hollowtech II กันได้นะครับว่าทำไม Shimano ถึงคิดเล็กคิดน้อย คิดหยุมคิดหยิม คิดจนบางทีเราก็"ไม่เชื่อ"ว่า มันจะเป็นแบบนั้น ยิ่งถ้ามีความสุขที่จะไม่เชื่อด้วยแล้ว ก็จะยิ่งไม่คิดเล็กคิดน้อยตามที่ผู้ผลิตคิดไว้เลย แต่แนะนำว่า ให้ลองสอบถามจากผู้ที่ผ่านการฝึกอบรม workshop จากผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการ เพราะเขาจะต้องจัดการฝึกอบรมตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์ของเขาให้เข้าใจถึงอุปกรณ์และวิธีคิดของผู้ผลิต ว่าแท้จริงแล้วผู้ผลิตเขาออกแบบอุปกรณ์ตัวนี้มาเพื่อเหตุผลใดนะครับ ( เสียดาย WhitePaper ของShimano เป็นของหายาก )
- ฝาปิดขาจานเป็นพลาสติกหรือResin เมื่อถูกบีบให้แน่นแล้วก็จะหมุนไม่ออก แต่มันก็เคยถูกถอนยกยวงรูดเกลียวออกมาแล้ว และพังมาแล้ว ชิมิ
- เดือยเข็มเล็กนิดเดียวจะทนทานอะไรไหว? ก็จริง แต่มันก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลย เพราะก่อนที่ขาจานจะหลุดออกมานั้น มันไม่ได้หลุดออกมาในทีเดียว ก็คล้ายๆกับ stemคอหนีบที่ออกอาการคอคลอนให้รู้สึกได้ก่อนที่ลูกปืนถ้วยคอจะเสียหาย แต่ส่วนใหญ่ที่หลุดออกมาทั้งยวงนั้น ก็มักจะเกิดกับคนที่"ปั่นเป็นอย่างเดียว "แต่ดูแลรักษาเบื้องต้นไม่เป็น" มันจึงเป็นเหมือนกับเชือกเส้นสุดท้ายที่มีไว้ให้เหนี่ยวก่อนจะหลุดไปกับกระแสน้ำ เชือกอาจจะไม่เหนียวพอที่จะทนแรงต้านได้ แต่ก็ยื้อชีวิตไว้ได้อีกพักหนึ่งจนกว่าจะมีคนมาช่วย
แล้วทำไมขาจานหลากหลายยี่ห้อเขาไม่ทำกันแบบนี้
1. Sram , FSA ใช้แหวนสปริงรูปคลื่น ( Wavy spring ) เป็นตัวช่วยดันไว้ ทำให้ถึงแม้ว่าสกรูจะคลายตัว แต่ยังมีแหวนสปริงคอยดัน เมื่อเกิดการขยับตัว ผู้ปั่นก็จะรู้สึกได้โดยง่าย และการใส่แหวนสปริงจะเป็นตัวช่วยป้องกันการคลายตัวของฝาปิดแกนขาจานได้อีกระดับหนึ่ง ( คล้ายๆกับการเพิ่มtension ให้กับเกลียวของฝาปิดแกนขาจาน ) อีกทั้งยังปรับตั้ง side load ได้ง่ายขึ้นอีกด้วย แถมบางรุ่นปลายขาจานเป็น Tapered ด้วย ทำให้นอกจากจะอยู่เพราะแรงขันของสกรูตัวบังเอ้งแล้ว ยังอยู่เพราะโดนบีบด้วยความเป็นTapered ของปลายขาจานอีก
2. Rotor 3D ใช้สกรูแค่ตัวเดียว ขันแค่ 7 N-m ซึ่งดูเหมือนน้อย แต่ความจริงแล้วมากพอ เพราะยังมีแรงบีบของขาจานที่ถูกออกแบบไว้ให้ถูกง้างออกมาก่อนด้วยสกรูอัจฉริยะ พอสวมแล้วขันสกรูเข้าไป ก็จะบีบปลายแกนขาจานด้วยตัวของมันเอง และจะบีบให้แน่นขึ้นอีกด้วยแรงกวดของสกรูอีกทีหนึ่ง และถ้าอ่านในคู่มือของผู้ผลิตจนจบ เขาจะบอกให้เราขันฝาปิดปลายขาจานจนได้ side load ที่พอดีไม่ทำให้ลูกปืนกระโหลกฝืดตัว ซึ่งก็ประมาณ 1N-m ( เขาจะให้ยางO-ring มาใส่รองไว้ระหว่างขาจานด้านซ้ายกับบ่าลูกปืนกระโหลกด้านซ้ายไว้ เพื่อช่วยในเรื่องtension ทำให้ไม่ต้องขันฝาปิดปลายขาจานแน่นเกินไป จากนั้นจึงให้ขันสกรูตัวเก่งจนได้ทอร์คที่ 7N-m และในขั้นตอนสุดท้าย ท่านบอกว่า ให้ขันฝาปิดแกนขาจานด้วยทอร์คอีก 5-8 N-m ซึ่งเป็นตัวกันเหนียวไว้อีกชั้นหนึ่ง ซึ่งถึงแม้ว่ามันจะไม่สามารถกดให้ขาจานขยับได้อีกก็ตาม แต่แรงขันจะทำให้ลดโอกาสการขยับตัวของขาจานด้านซ้าย
แต่ละผู้ผลิต จึงมีวิธีการคิดที่แตกต่างกัน
จริงๆแล้วผมไม่ค่อยจะสงสัยในวิธีการคิดของแต่ละค่ายเลย บอกตรงๆว่าหลายๆสิ่ง หลายๆอย่าง ในโลกจักรยานที่ผ่านตามาหลายปีนั้น มันเป็นเรื่องง่ายๆไม่ซับซ้อน เป็นเหตุผลตรงตัวแบบ 1+1 = 2 เสียแทบจะทุกเรื่องไป มีไม่กี่เรื่องที่ถึงกับอ้าปากค้างเพราะนึกไม่ถึงก็มีบ้าง เช่น สกรูอัจฉริยะของ Rotor แต่พอเข้าใจแล้วก็เฉยๆ เรื่องน่าอัศจรรย์ยังมีอีกมากมาย
เพียงแต่สำหรับ Shimanoแล้ว มันคือ Japanese product ที่เอาปรัชญาแบบคนญี่ปุ่นใส่เข้าไป คือ คิดถึงและรับผิดชอบต่อผู้ใช้ จึงดูเหมือนจะเป็นเรื่องคิดเล็กคิดน้อย ถึงแม้ว่าบางอย่างจะอิงการตลาดไปบ้างก็ตาม แต่ปรัชญาหลักๆของเขาก็ยังคงเป็นเช่นนั้น
บทสรุปของผม สั้นๆครับ
ของเสียหายเกิดจาก
1. ช่างมั่ว และขาดความรู้ หรือ ไม่อ่านคู่มือ
2. ผู้ใช้ไม่แยแส
3. วัสดุด้อยคุณภาพ
4. "ดวง" ใครๆเขาไม่เป็นกัน ทำไมท่านถึงซวย
ถือว่าแลกเปลี่ยนมุมมองกันนะครับ
ถ้าอ่อนซ้อม อ่อนทักษะ ก็จะพบว่าจักรยานคันไหนๆก็ไม่แตกต่างกันหรอก เพราะปั่นไม่ไปเหมือนๆกัน และบังคับควบคุมได้ห่วยพอๆกัน
- ktspyder
- ขาประจำ
- โพสต์: 1318
- ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.ค. 2013, 09:15
- Tel: 0818352055
- team: DSR
- Bike: Kuwahara/Kestrel/Kramer
- ตำแหน่ง: บางนา กทม.
Re: มีปัญหาเกี่ยวกับขาจานครับ เดือยเข็มหัก
เปลี่ยนฝาปิดเบอร์5 เป็นแบบอลูแทนพลาสติกเพื่อความมั่นใจครับ แต่น๊อตที่รับแรงจริงๆคือเบอร์6
ส่วนเพลทเดือยนั่น หักไปแล้วก็แล้วกันไป ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ประกอบให้พอดีก็ใช้งานได้ปกติครับ
ปล.ขาจานไม่ได้หลุดใช่มั๊ยครับ คุณแค่สงสัยเฉยๆ
ส่วนเพลทเดือยนั่น หักไปแล้วก็แล้วกันไป ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ประกอบให้พอดีก็ใช้งานได้ปกติครับ
ปล.ขาจานไม่ได้หลุดใช่มั๊ยครับ คุณแค่สงสัยเฉยๆ
line id: ktspy
ใหม่ที่นี่ แต่เก่า(โคตร)ที่นู่น
http://www.guitarthai.com/member/accoun ... raID=18283
ใหม่ที่นี่ แต่เก่า(โคตร)ที่นู่น
http://www.guitarthai.com/member/accoun ... raID=18283
- น้องหนึ่ง
- ขาประจำ
- โพสต์: 10797
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 04:07
- Tel: 0891441866
- ตำแหน่ง: http://www.thaimtb.com/forum/viewforum.php?f=528
- ติดต่อ:
Re: มีปัญหาเกี่ยวกับขาจานครับ เดือยเข็มหัก
ขอบคุณป๋าลูฯ ที่กรุณาให้ความเห็นครับ
ร้านจักรยานฝีมือดี มาดึกๆได้
www.thaimtb.com/forum/viewforum.php?f=528
www.facebook.com/HomeMadeBicycle
www.thaimtb.com/forum/viewforum.php?f=528
www.facebook.com/HomeMadeBicycle
- เด็กราดรีขี่4300
- ขาประจำ
- โพสต์: 13038
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 11:01
- Tel: 081-9951152
- team: LoveBike
- Bike: จักรยานเก่าๆ
- paweenwat
- ขาประจำ
- โพสต์: 137
- ลงทะเบียนเมื่อ: 22 เม.ย. 2013, 14:15
- Tel: 08-1555-1330
- team: ยังไม่มี
- Bike: อารายา, จีที
- ตำแหน่ง: นนทบุรี
Re: มีปัญหาเกี่ยวกับขาจานครับ เดือยเข็มหัก
ขอบคุณข้อมูลอันเป็นประโยชน์ ทั้งคำถามและคำตอบ
*จึงขอสรุปเองว่ามันมีประโยชน์สำหรับแผ่นพลาสติกที่มีเดือยเข็มที่ว่า แต่อาจไม่จำเป็นถึงขนาดไม่มีแล้วขี่ไม่ได้เลย
คำถามผมคือผมก็ทำหัก แล้วมันมีขายไหมครับ รู้สึกควรใส่ยังไงไม่รู้
ช่วยชี้เป้าให้หน่อยครับ
ขอบคุณครับ
*จึงขอสรุปเองว่ามันมีประโยชน์สำหรับแผ่นพลาสติกที่มีเดือยเข็มที่ว่า แต่อาจไม่จำเป็นถึงขนาดไม่มีแล้วขี่ไม่ได้เลย
คำถามผมคือผมก็ทำหัก แล้วมันมีขายไหมครับ รู้สึกควรใส่ยังไงไม่รู้
ช่วยชี้เป้าให้หน่อยครับ
ขอบคุณครับ