REVIEW STEVENS เสือหมอบแห่งฮัมบูร์ก
ผู้ดูแล: Cycling B®y, spinbike, velocity
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 3092
- ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ส.ค. 2008, 15:14
- Tel: 0865040751
- team: Team Bike And Body Cycoling
- Bike: Kemo KE-R5, Giant Propel Advance SL, Specialized Alez E5 Revolution
- ตำแหน่ง: ซอยอารีย์ พหลโยธิน กทม.
- ติดต่อ:
REVIEW STEVENS เสือหมอบแห่งฮัมบูร์ก
REVIEW STEVENS เสือหมอบแห่งฮัมบูร์ก
STEVENS อาจไม่ใช่แบรนด์เสือหมอบทั่วไปที่ได้ยินกันจนติดหู เพราะไม่ใช่แบรนด์ตลาดที่เน้นการขายด้วยการโฆษณา ทุ่มทุนซื้อทีมอาชีพลงแข่งในรายการโปรทัวร์ต่างๆ และเน้นการอวดสรรพคุณทางด้านวิศวกรรมกระตุ้นต่อมอยากของนักปั่นทั่วไป แต่เน้นการออกแบบและการควบคุมคุณภาพอย่างละเอียด คงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีแห่งวิศวกรรมเยอรมัน โดยเฉพาะความภาคภูมิใจของแคว้นฮัมบูร์ก ต้นกำเนิดของแบรนด์นี้
STEVENS ก่อกำเนิดที่ฮัมบูร์กในปี 1991 จากการก่อตั้งของสองพี่น้อง Werner และ Wolfgang von Hacht (เวอร์เนอร์ และ วูล์ฟกัง แห่งตระกูล วอนฮัท อดีตตระกูลขุนนางแห่งแคว้นฮัมบูร์ก) อดีคนักแข่งจักรยานที่หลงใหลในจักรยาน การออกแบบวิจัยและพัฒนาทั้งหมดทำในเยอรมัน ผลิตในประเทศแถบเอเชีย และผ่านการตรวจรับรองคุณภาพอย่างเข้มงวดในมาตรฐานของแบรนด์ ก่อนจะส่งมาควบคุมการผลิตประกอบขั้นสุดท้ายในเยอรมันนี ดังนั้น STEVENS จึงภูมิใจในความมีมาตรฐานของตนซึ่งมั่นใจว่าไม่เป็นสองรองใครแม้แต่เทียบกับแบรนด์ดังระดับโลก
แม้ว่าจะไม่ได้เป็นแบรนด์ระดับโลก แต่ STEVENS ประสบความสำเร็จอย่างมากในตลาดยุโรปด้วยช่องทางจำหน่ายที่ทั่วถึงและการทำกลยุทธตลาดที่คล่องตัว ทำให้แบรนด์ที่ดูเล็กกลับมีพื้นฐานความมั่นคงไม่เล็กตามตัว และสร้างชื่อเสียงเป็นอย่างยิ่งในตลาด Cycle Cross มาก่อนที่จะเริ่มทำตลาดเสือหมอบแข่งขันของแท้ในระยะหลัง วันนี้ ผมได้มีโอกาสดี ได้ทดลอง STEVENS XENON เสือหมอบระดับแข่งที่ใช้ในทีมอาชีพที่ได้รับการสนับสนุนจาก STEVENS ในกลุ่มรถทั่วไปที่เน้นน้ำหนักเบาและความสติฟตอบสนองที่ดีเป็นหลัก
เซ็ทอัพรถคร่าวๆไม่มีอะไรหวือหวาครับ มากับเฟรมคาร์บอน STEVENS XENON ขนาด 50 ใส่กับชุดขับเคลื่อน Shimano Ultegra 6800 จานหน้า 53/39 เฟือง 11-28 แฮนด์และเสต็ม House Brand มาพร้อมกับรถขนาด 42 ระยะเสต็ม 110 มิลลิเมตร จุดน่าสนใจคือล้อคาร์บอนยางงัดแบรนด์ STEVENS ขนาด 40 มิลลิเมตร และดุมแบรนด์ Citec ที่ลื่นดีสำหรับล้อที่ยังไม่ได้รันอินอะไรมากมาย (ทางบริษัทบอกว่าตั้งแต่ประกอบมาก็เพิ่งลงถนนนี่แหละ) บันได Look Keo2max
เส้นทางทดสอบเลือกเส้นทางโรงเรียนนายร้อย จปร. - ด่านเขาใหญ่เนินหอม ระหว่างทางแวะขึ้นสันอ่างเก็บน้ำระหว่างทางเพื่อทดสอบการอัดขึ้นเนิน เฟรมประกอบด้วยคาร์บอนแบบ Uni-Direction High-Modulus ท่อคอใช้แบบเทเปอร์มาตรฐาน 1 1/8 - 1 1/4 นิ้ว ตะเกียบซางคาร์บอน ระบบเดินสายแบบภายในและพร้อมรองรับระบบเกียร์ไฟฟ้า จุดเด่นของการออกแบบคือสามเหลี่ยมด้านหน้า(ท่อคอ/ท่อนอน/ท่อล่าง) ประกอบขึ้นจากคาร์บอนแบบ Monocoque ขึ้นรูปชิ้นเดียว โดยเฉพาะท่อล่างที่มีการเสริมโครงสร้างภายในแบบ Double Chamber ซึ่งในโลกนี้มีเพียงแค่ 2 ยี่ห้อที่ใช้โครงสร้างแบบนี้ได้แก่ Merida และ Stevens ช่วงรถด้านหน้าจึงสติฟและแกร่งมาก ในขณะที่ด้านหลังใช้การขึ้นรูปแบบแยกชิ้นทั้ง chainstay, seatstay และท่อนั่ง โดยที่มีจุดกระโหลกที่แข็งแกร่งจากการเสริมแรงเป็นพิเศษ รวมทั้ง Chainstay แบบ Double-Box Size เป็นโครงสร้างส่งกำลัง ฟิลลิ่งการขี่แรก
รถคันนี้เป็นรถแข่งแท้ๆอย่างแน่นอนครับ เฟรมส่งแรงสะเทือนให้สัมผัสได้ชัดเจนถึงอณูของผิวถนนที่ผ่านล้อไป แม้ว่าจะสูบลมไม่ได้มากไปกว่าปกติ แต่ต้องบอกว่าเทียบกับรถอื่น่ๆโดยทั่วไป ความสะท้านสะเทือนของเจ้า XENON อยู่ในระดับหัวๆเลยก็ว่าได้ แต่ไม่มากขนาดเฟรมอลูมินั่มแน่นอนครับ อาจจะเพราะความสบายอาจไม่ใช่เป้าหมายหลักของการออกแบบ ปกติสามเหลี่ยมด้านหลังจะมีส่วนช่วยในการซับแรงสะเทือนแนวตั้งได้ดี แต่รูปร่างและการขึ้นรูปของ XENON เน้นการผลิตที่รวดเร็วและสมรรถนะด้านอื่นมากกว่า จุดนี้อาจเป็นจุดด้อยสำหรับโจทย์ของใครหลายคนแต่สามารถแก้ปัญหาได้ไม่ยากเลยทั้งการฟิตติ้งที่เหมาะสม เลือกใช้ยางหน้ากว้างและแรงดันลมยางที่นิ่มนวลกว่า ช่วยเปลี่ยนรถสะท้านให้เป็นรถสบายได้แบบพลิกฝ่ามือ และยังได้สมรรถนะดุดันตอบสนองดีพอๆกับเดิมได้ ความประทับใจ
จากเบื้องต้นที่สัมผัสแล้วนึกถึงรถดุดันคันเก่าที่เคยใช้มาก่อน ก็เปรียบเทียบไปถึงจุดเด่นที่น่าจะไม่ได้เป็นรองกันก็คือความสติฟที่จะส่งผลบนเขาและทางชันเห็นได้ชัดๆ ซึ่งตลอดเส้นทางวันที่ทดสอบ มีเนินความชันตั้งแต่ 3-8% ให้ลองอยู่หลายรอบ และทุกรอบที่ลองอัดขึ้นเนินไปแบบเต็มพิกัด เฟรมตัวนี้สามารถสะท้อนแรงที่กระทำเปลี่ยนไปเป็นแรงขับเคลื่อนรถขึ้นไปได้แบบพรวดๆต่อเนื่อง ยิ่งถ้ายืนโยกรถแบบสุดขีด ทิ้งน้ำหนักตัวลงไป ก็สัมผัสได้ว่ารถไม่ได้เกิดอาการ"ย้วย"หรือบิดไปมามากจนเสียความรู้สึก ทางด้านทางราบ แน่นอนอยู๋แล้วครับว่าเฟรมตัวนี้ดูแว่บแรกก็เดาได้ทันทีว่าการออกแบบไม่ได้เอาด้านอากาศพลศาสตร์เข้ามาเป็นเป้าหมายของการออกแบบ แต่อัตราเร่งบนทางราบก็เป็นสิ่งที่บรรดานักปั่นต้องการกันอยู่ด้วยเสมอ ผมทดลองปั่นสบายๆด้วยการให้รถเซอร์วิสลากความเร็วนิ่งๆราวๆ 40 กม./ชม. แล้วกระชากแซงรถขึ้นไปอีกที ที่พิกัดความเร็ว 50+ อาการตื้อของเฟรมส่งผลนิดๆอย่างที่คาดเอาไว้ แต่ดีกว่าที่คาดหวังมาก ส่วนหนึ่งเพราะล้อที่ช่วยคงความเร็วเอาไว้ได้บ้าง สิ่งที่ประทับใจมากๆคือช่วงเปลี่ยนความเร็วจาก 40 ขึ้นไป กระแทกออกมาได้ทันใจมากๆ จากท้ายรถตู้ กระชากไม่กี่ครั้งเท่านั้นก็พ้นรถตู้ได้แล้ว น้ำหนักเฟรม เฟรมตัวนี้เป็นรุ่นรองท็อปในสายรถทั่วไปของ Stevens มีน้ำหนักรวมทั้งชุดเฟรมเซ็ท (เฟรม, ตะเกียบ, หลักอาน) อยู๋ต่ำกว่า 1500g นิดหน่อย โดยมีน้ำหนักเฟรมเปล่าที่ราวๆ 920g มากกว่าตัวท็อปรุ่นสูงสุดอยู่ประมาณ 130g จัดเป็นน้ำหนักปกติของรถทั่วไป อาจจะดูแล้วมากกว่ารถ"สายเบา" ไปบ้าง แต่ผมอยากฝากให้คิดว่า ย้อนเวลากลับไปเพียงไม่กี่ปี Specialized SL3 ที่ที่ อัลเบอร์โต้ คอนทาดอร์ ขี่ได้แชมป์ เฟรมเปล่าก็มีน้ำหนักไม่ต่างกันเลย หากเป็นคนที่ซีเรียสเรื่องน้ำหนัก เอาส่วนต่างราคาเฟรมตัวท็อปและรองท็อป กับน้ำหนักที่ต่างกันขีดกว่าๆ ไปเป็นงบประมาณในชิ้นส่วนอื่นๆ สามารถทำน้ำหนักรวมได้น้อยกว่า ลองมาวิเคราะห์มิติของเฟรม STEVENS XENON กันดูนะครับ จุดเด่นแรกๆที่น่าสนใจมากคือความสั้นของท่อนอนของเฟรม XENON ที่มีระยะเอื้อมจริงจัดว่าสั้นกว่าเฟรมที่มีระยะท่อนอนยาวเท่ากันในค่ายอื่น (Specialized Tarmac มีระยะเอื้อมเฟรม 386 ที่ขนาดเฟรมท่อนอนยาว 518 เท่ากัน) แปลว่าอะไรครับ? แปลว่า ที่เฟรมขนาดเท่ากันผู้ขี่สามารถปรับรถได้ทั้งรุขี่สบายๆเอื้อมไม่ไกล หรือสามารถใส่เสต็มยาวได้รถที่น้ำหนักไปด้านหน้าได้แบบรถแข่ง จากนั้นลองมาดูระยะก้มกันบ้าง ยิ่งระยะก้มน้อยลงเท่าไหร่ ก็แปลว่าเฟรมนั้นสามารถ"กด"หน้ารถต่ำลงได้มากขึ้นด้วย และพบว่าระยะก้มของเฟรม XENON จัดว่า "ดุ" พอสมควรเลยทีเดียว ด้วบท่อคอความยาวเพียง 110 มม. ในไซส์ 50 ทำระยะก้มลงไปได้ดุดันกว่ารถไซส์เล็กของหลายๆค่ายๆ ยิ่งถ้าดูไซส์เล็กสุดที่ท่อคอ 90 มม. ก็ถือว่าบรรดาสาวกเล่นรถเล็กแต่งดุแบบโปร มุดกันได้สะใจอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่น่าสนใจมันอยู่ตรงที่รถคันนี้ซึ่งมีมิติรถที่ดุดันสมกับที่ออกแบบมาเพื่อให้เป็นสายพันธุ์แข่งโดยเฉพาะ กลับมาฐานล้อที่ยาวกว่ารถในขนาดไล่เลี่ยกันอย่างเห็นได้ชัด ในไซส์รถเล็กๆด้วยกัน ฐานล้อของ XENON ยาวกว่าเพื่อนอยู่ราวๆ 5 มม. และยาวกว่ารถที่ได้ชื่อว่า"ไวปานวอก" บางค่ายอยู่ถึง 20 มม. ซึ่งนับว่าเป็นการสร้างบุคลิกที่แปลกไปอีกแบบสำหรับรถ Racing ขนาดนี้
ส่วนสุดท้ายที่น่าสนใจก็คือท่อคอที่ลาดด้วยองศาไม่มากนัก และน่าจะเป็นที่มาของฐานล้อที่ยาวกว่าเพื่อน ที่ต่างจากรถแนวแข่งขันดุดันที่มักจะมีองศาท่อคอที่ชันกว่า(องศามากกว่า) ทั้งสองมิติทั้งฐานล้อและองศาท่อคอนี้เองที่สร้างเสน่ห์บางอย่างให้กับเฟรม STEVENS XENON นี้ เฟรมที่เซ็ทจนได้องศาดุดันมากๆ ตอบสนองคนปั่นที่มีร่างกายยืดหยุ่นแข็งแรงพอที่จะปั่นท่าแบบโปรได้ดี แถมสติฟและกระด้างสนุกตอบสนองโยกขึ้นเขาได้สะใจ ไม่บิด ไม่ย้วย กลับมีฟิลลิ่งที่"นิ่ง" อย่างไม่น่าเชื่อ ลองนึกภาพของรถที่สติฟ โยกมันส์ ตอบสนองบนเขาดีๆบางยี่ห้อ เราจะนึกถึงบคคลิกภาพของเฟรมที่คล่องแคล่ว ซุกซน ปราดเปรียว และว่องไวในตัวเอง จนอาจจะ"เกินไป" สำหรับนักปั่นหลายๆคนที่ชอบความดุดันแต่ไม่ชอบรถที่ต้องคุมตลอดเวลา สำหรับเฟรม XENON นี้ ซ่อนไว้ด้วยการยืนระยะทางยาวที่ดี ขี่ไกลๆ ไม่ต้องล้ามากกับการคุมรถให้นิ่ง มากนัก อาจเรียกได้ว่ามีความสบายแบบรถเดินทางไกล หรือการยืนทางตรงเนียนๆแบบรถแอโร่ฯแฝงอยู่ด้วย สำหรับข้อเสียเล็กๆน้อยๆสำหรับเฟรมที่ออกแบบเช่นนี้ ก็สะท้อนออกมาที่การปั่นที่รับรู้ได้ทันทีเช่นกัน ซึ่งก็คือความไม่คมของการเข้าโค้งที่อาจจะออกอาการฝืนๆนิดหน่อย หากจะมองหาอารมณ์การพุ่งเข้าหาโค้งแล้วเอียงรถ กดน้ำหนักลงหน้าแล้วเหวี่ยงออกไปแบบคมๆอาจจะต้องผิดหวังกับอาการตอบสนองของเฟรมอยู่บ้าง เพราะเฟรมนี้ไม่ใช่เฟรมที่เล่นโค้งคมๆได้ง่ายนัก ยิ่งในวันที่ทดสอบมีฝนลงมาด้วยแล้ว รู้สึกว่ารถพุ่งเข้าและออกจากโค้งได้แบบไม่เนียนสนุกเท่าไหร่
ส่วนตัวผมไม่ได้มองว่าเป็นจุดด้อยนะครับ รถที่มีระยะฐานล้อและองศาแบบนี้ก็มีอาการนี้ทั้งนั้น และไม่ใช่ปัญหาของการขี่ด้วย เพียงแค่คุณต้องปรับตัวและหาความลงตัวกับองศาและฟิลลิ่งการถ่ายน้ำหนักให้เหมาะ เฟรมไหนๆก็ต่างกันทั้งนั้น แต่ไม่ได้หมายความว่าเฟรม STEVENS XENON นี้เข้าโค้งไม่ดีแต่อย่างใด เพราะตะเกียบหน้าที่ภายในก็มีระบบ Double Chamber เป็นโครงสร้างเหมือนท่อล่าง ร่วมกับท่อคอแบบเทเปอร์เองส่งผลให้ด้านหน้าของรถมีความสติฟสุงมาก ซึ่งช่วยรักษาแนวของหน้ารถเวลาเข้าโค้งได้ เมื่อแนวของหน้ารถไม่อ่อนตัวได้ง่าย ล้อหน้าและล้อหลังก็อยู่ในแนวเส้นที่เหมาะที่จะทรงตัวได้ดีตลอดการเข้าโค้ง เกาะถนนได้ดีด้วยเช่นกัน
ส่วนหน้ารถที่สติฟนอกจากช่วยให้เทรถได้อย่างมั่นใจ ยังทำให้การยืนโยกขึ้นเขา หรือสปรินท์จับดร็อปล่างแล้วอัดรถพุ่งออกไปทำได้อย่างสนุกมือ ไม่มีอาการยวบ สรุปจุดเด่นของ STEVENS XENON
1.lสติฟ มาก ตอบสนองแรงได้ดีทั้งการกระชากบนทางราบและการไต่เขา
2.น้ำหนักเบาสมเหตุสมผลกับความสติฟ และราคาค่าตัวในระดับกลางๆไม่สูงจนเกินไป
3.องสารถรองรับการเซ็ทได้ดุดันมาก ในขณะที่สามารถปรับให้เป็นรถขี่สบายๆได้ไม่ยากนัก
4.งานสี เก็บผิว และคุณภาพเนื้องานดีมาก การควบคุมมาตรฐานชิ้นงานและการประกอบอันเป็นหัวใจของบริษัทแม่ที่ฮัมบูร์ก ทำได้ประทับใจเป็นอย่างยิ่ง
5.ขี่นิ่งได้ดี วิ่งทางตรงๆแทบไม่ต้องออกแรงจับแฮนด์เลย วางมือประคองเอาไว้รถก็รักษาแนวตรงได้ดี
สรุปจุดด้อยของ STEVENS XENON
1.กระด้างและสั่นสะท้าน หากต้องการเอาไปขี่ระยะทางไกลๆนานๆโดยที่ร่างกายไม่ได้แกร่ง และมีเวลาซ้อมปรับตัวมาก คงต้องหาทางเซ็ท และโมดิฟายให้ขี่สบายกันให้ดีก่อนเริ่มปั่น
2.ถ้าท่านเป็นคนที่ชอบโยก กระแทก แบบพุ่งเปรียวๆ อาจไม่ค่อยถูกใจเพราะฟิลลิ่งเวลาโยกไม่กระทัดรัดแบบเฟรมทรงคอมแพ็คมาก การตอบสนองออกไปในทางรถทั่วไปมากกว่ารถไต่เขา
3.วงเลี้ยวไม่ค่อยคม เวลาลงเขาแรงๆหรือเข้าโค้งแบบหักมุมแคบความเร็วสูง ต้องอาศัยทักษะมากกว่ารถที่คล่องตัวมากๆ ใครจะเหมาะกับ STEVENS XENON
-หากคุณไม่ติดในกระแสของยี่ห้อตลาด อยากมีรถที่โดดเด่น ไม่เหมือนใคร และเชื่อมั่นในมาตรฐานงานวิศวกรรมเยอรมัน
-อยากได้รถที่ขี่มันส์ แม้ว่าจะกระด้างไปบ้างแต่รถแบบนี้แหละครับที่ขี่สนุก สัมผัสอณูของถนนที่ผ่านไปได้ เร่งก็รู็สึก กระชากก็รู้สึก มันเป็นเฟรมที่ดุและ"ดิบ"
-ถ้าคุณชอบความนิ่งของรถถนนที่ยังสามารถเรียกพลังและความเร็วได้มากกว่ารถแนวเอนดูรานซ์อื่นๆ ลองเลือก XENON แล้วนำไปเซ็ทให้ขี่สบายสักนิด รับรองว่าได้ความลงตัวที่ถูกใจไม่ยากเลย
ทีมและนักกีฬาอาชีพที่ใช้ STEVENS
ทีม Team Stölting ประเทศเยอรมันนี ทีม Team Vorarlberg ทีมระดับดิวิชั่นของประเทศออสเตรีย (UCI Continental Team) และนักปั่นอาชีพ Amber Neben ชาวสหรัฐอเมริกาที่เป็นเจ้าของรางวัล World Champion ประเภทเดี่ยวไทม์ไทรอัลหญิงปี 2008 สนใจเฟรมและจักรยาน STEVENS ติดต่อตัวแทนจำหน่ายได้เลยนะครับ ทางผู้นำเข้าและบริษัทแม่ที่เยอรมัน มีกลยุทธการขายและกระจายสินค้าที่น่าสนใจ รวดเร็ว ชมตัวอย่างรถที่ถูกใจ จากนั้นสั่งเลือกส่วนประกอบต่างๆได้ตามที่ต้องการ ถือเป็นรูปแบบการขายที่น่าสนใจสำหรับผู้บริโภคครับ เพราะมีตัวเลือกและอิสระในการเลือกซื้อมากกว่าที่จะรอดูว่ามีสี ไซส์ และรุ่นไหนมาเก็บไว้คอยขายบ้าง[homeimg=300,200]http://www.thaimtb.com/forum/picture_mt ... 363f-0.jpg[/homeimg]
เส้นทางทดสอบเลือกเส้นทางโรงเรียนนายร้อย จปร. - ด่านเขาใหญ่เนินหอม ระหว่างทางแวะขึ้นสันอ่างเก็บน้ำระหว่างทางเพื่อทดสอบการอัดขึ้นเนิน เฟรมประกอบด้วยคาร์บอนแบบ Uni-Direction High-Modulus ท่อคอใช้แบบเทเปอร์มาตรฐาน 1 1/8 - 1 1/4 นิ้ว ตะเกียบซางคาร์บอน ระบบเดินสายแบบภายในและพร้อมรองรับระบบเกียร์ไฟฟ้า จุดเด่นของการออกแบบคือสามเหลี่ยมด้านหน้า(ท่อคอ/ท่อนอน/ท่อล่าง) ประกอบขึ้นจากคาร์บอนแบบ Monocoque ขึ้นรูปชิ้นเดียว โดยเฉพาะท่อล่างที่มีการเสริมโครงสร้างภายในแบบ Double Chamber ซึ่งในโลกนี้มีเพียงแค่ 2 ยี่ห้อที่ใช้โครงสร้างแบบนี้ได้แก่ Merida และ Stevens ช่วงรถด้านหน้าจึงสติฟและแกร่งมาก ในขณะที่ด้านหลังใช้การขึ้นรูปแบบแยกชิ้นทั้ง chainstay, seatstay และท่อนั่ง โดยที่มีจุดกระโหลกที่แข็งแกร่งจากการเสริมแรงเป็นพิเศษ รวมทั้ง Chainstay แบบ Double-Box Size เป็นโครงสร้างส่งกำลัง ฟิลลิ่งการขี่แรก
รถคันนี้เป็นรถแข่งแท้ๆอย่างแน่นอนครับ เฟรมส่งแรงสะเทือนให้สัมผัสได้ชัดเจนถึงอณูของผิวถนนที่ผ่านล้อไป แม้ว่าจะสูบลมไม่ได้มากไปกว่าปกติ แต่ต้องบอกว่าเทียบกับรถอื่น่ๆโดยทั่วไป ความสะท้านสะเทือนของเจ้า XENON อยู่ในระดับหัวๆเลยก็ว่าได้ แต่ไม่มากขนาดเฟรมอลูมินั่มแน่นอนครับ อาจจะเพราะความสบายอาจไม่ใช่เป้าหมายหลักของการออกแบบ ปกติสามเหลี่ยมด้านหลังจะมีส่วนช่วยในการซับแรงสะเทือนแนวตั้งได้ดี แต่รูปร่างและการขึ้นรูปของ XENON เน้นการผลิตที่รวดเร็วและสมรรถนะด้านอื่นมากกว่า จุดนี้อาจเป็นจุดด้อยสำหรับโจทย์ของใครหลายคนแต่สามารถแก้ปัญหาได้ไม่ยากเลยทั้งการฟิตติ้งที่เหมาะสม เลือกใช้ยางหน้ากว้างและแรงดันลมยางที่นิ่มนวลกว่า ช่วยเปลี่ยนรถสะท้านให้เป็นรถสบายได้แบบพลิกฝ่ามือ และยังได้สมรรถนะดุดันตอบสนองดีพอๆกับเดิมได้ ความประทับใจ
จากเบื้องต้นที่สัมผัสแล้วนึกถึงรถดุดันคันเก่าที่เคยใช้มาก่อน ก็เปรียบเทียบไปถึงจุดเด่นที่น่าจะไม่ได้เป็นรองกันก็คือความสติฟที่จะส่งผลบนเขาและทางชันเห็นได้ชัดๆ ซึ่งตลอดเส้นทางวันที่ทดสอบ มีเนินความชันตั้งแต่ 3-8% ให้ลองอยู่หลายรอบ และทุกรอบที่ลองอัดขึ้นเนินไปแบบเต็มพิกัด เฟรมตัวนี้สามารถสะท้อนแรงที่กระทำเปลี่ยนไปเป็นแรงขับเคลื่อนรถขึ้นไปได้แบบพรวดๆต่อเนื่อง ยิ่งถ้ายืนโยกรถแบบสุดขีด ทิ้งน้ำหนักตัวลงไป ก็สัมผัสได้ว่ารถไม่ได้เกิดอาการ"ย้วย"หรือบิดไปมามากจนเสียความรู้สึก ทางด้านทางราบ แน่นอนอยู๋แล้วครับว่าเฟรมตัวนี้ดูแว่บแรกก็เดาได้ทันทีว่าการออกแบบไม่ได้เอาด้านอากาศพลศาสตร์เข้ามาเป็นเป้าหมายของการออกแบบ แต่อัตราเร่งบนทางราบก็เป็นสิ่งที่บรรดานักปั่นต้องการกันอยู่ด้วยเสมอ ผมทดลองปั่นสบายๆด้วยการให้รถเซอร์วิสลากความเร็วนิ่งๆราวๆ 40 กม./ชม. แล้วกระชากแซงรถขึ้นไปอีกที ที่พิกัดความเร็ว 50+ อาการตื้อของเฟรมส่งผลนิดๆอย่างที่คาดเอาไว้ แต่ดีกว่าที่คาดหวังมาก ส่วนหนึ่งเพราะล้อที่ช่วยคงความเร็วเอาไว้ได้บ้าง สิ่งที่ประทับใจมากๆคือช่วงเปลี่ยนความเร็วจาก 40 ขึ้นไป กระแทกออกมาได้ทันใจมากๆ จากท้ายรถตู้ กระชากไม่กี่ครั้งเท่านั้นก็พ้นรถตู้ได้แล้ว น้ำหนักเฟรม เฟรมตัวนี้เป็นรุ่นรองท็อปในสายรถทั่วไปของ Stevens มีน้ำหนักรวมทั้งชุดเฟรมเซ็ท (เฟรม, ตะเกียบ, หลักอาน) อยู๋ต่ำกว่า 1500g นิดหน่อย โดยมีน้ำหนักเฟรมเปล่าที่ราวๆ 920g มากกว่าตัวท็อปรุ่นสูงสุดอยู่ประมาณ 130g จัดเป็นน้ำหนักปกติของรถทั่วไป อาจจะดูแล้วมากกว่ารถ"สายเบา" ไปบ้าง แต่ผมอยากฝากให้คิดว่า ย้อนเวลากลับไปเพียงไม่กี่ปี Specialized SL3 ที่ที่ อัลเบอร์โต้ คอนทาดอร์ ขี่ได้แชมป์ เฟรมเปล่าก็มีน้ำหนักไม่ต่างกันเลย หากเป็นคนที่ซีเรียสเรื่องน้ำหนัก เอาส่วนต่างราคาเฟรมตัวท็อปและรองท็อป กับน้ำหนักที่ต่างกันขีดกว่าๆ ไปเป็นงบประมาณในชิ้นส่วนอื่นๆ สามารถทำน้ำหนักรวมได้น้อยกว่า ลองมาวิเคราะห์มิติของเฟรม STEVENS XENON กันดูนะครับ จุดเด่นแรกๆที่น่าสนใจมากคือความสั้นของท่อนอนของเฟรม XENON ที่มีระยะเอื้อมจริงจัดว่าสั้นกว่าเฟรมที่มีระยะท่อนอนยาวเท่ากันในค่ายอื่น (Specialized Tarmac มีระยะเอื้อมเฟรม 386 ที่ขนาดเฟรมท่อนอนยาว 518 เท่ากัน) แปลว่าอะไรครับ? แปลว่า ที่เฟรมขนาดเท่ากันผู้ขี่สามารถปรับรถได้ทั้งรุขี่สบายๆเอื้อมไม่ไกล หรือสามารถใส่เสต็มยาวได้รถที่น้ำหนักไปด้านหน้าได้แบบรถแข่ง จากนั้นลองมาดูระยะก้มกันบ้าง ยิ่งระยะก้มน้อยลงเท่าไหร่ ก็แปลว่าเฟรมนั้นสามารถ"กด"หน้ารถต่ำลงได้มากขึ้นด้วย และพบว่าระยะก้มของเฟรม XENON จัดว่า "ดุ" พอสมควรเลยทีเดียว ด้วบท่อคอความยาวเพียง 110 มม. ในไซส์ 50 ทำระยะก้มลงไปได้ดุดันกว่ารถไซส์เล็กของหลายๆค่ายๆ ยิ่งถ้าดูไซส์เล็กสุดที่ท่อคอ 90 มม. ก็ถือว่าบรรดาสาวกเล่นรถเล็กแต่งดุแบบโปร มุดกันได้สะใจอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่น่าสนใจมันอยู่ตรงที่รถคันนี้ซึ่งมีมิติรถที่ดุดันสมกับที่ออกแบบมาเพื่อให้เป็นสายพันธุ์แข่งโดยเฉพาะ กลับมาฐานล้อที่ยาวกว่ารถในขนาดไล่เลี่ยกันอย่างเห็นได้ชัด ในไซส์รถเล็กๆด้วยกัน ฐานล้อของ XENON ยาวกว่าเพื่อนอยู่ราวๆ 5 มม. และยาวกว่ารถที่ได้ชื่อว่า"ไวปานวอก" บางค่ายอยู่ถึง 20 มม. ซึ่งนับว่าเป็นการสร้างบุคลิกที่แปลกไปอีกแบบสำหรับรถ Racing ขนาดนี้
ส่วนสุดท้ายที่น่าสนใจก็คือท่อคอที่ลาดด้วยองศาไม่มากนัก และน่าจะเป็นที่มาของฐานล้อที่ยาวกว่าเพื่อน ที่ต่างจากรถแนวแข่งขันดุดันที่มักจะมีองศาท่อคอที่ชันกว่า(องศามากกว่า) ทั้งสองมิติทั้งฐานล้อและองศาท่อคอนี้เองที่สร้างเสน่ห์บางอย่างให้กับเฟรม STEVENS XENON นี้ เฟรมที่เซ็ทจนได้องศาดุดันมากๆ ตอบสนองคนปั่นที่มีร่างกายยืดหยุ่นแข็งแรงพอที่จะปั่นท่าแบบโปรได้ดี แถมสติฟและกระด้างสนุกตอบสนองโยกขึ้นเขาได้สะใจ ไม่บิด ไม่ย้วย กลับมีฟิลลิ่งที่"นิ่ง" อย่างไม่น่าเชื่อ ลองนึกภาพของรถที่สติฟ โยกมันส์ ตอบสนองบนเขาดีๆบางยี่ห้อ เราจะนึกถึงบคคลิกภาพของเฟรมที่คล่องแคล่ว ซุกซน ปราดเปรียว และว่องไวในตัวเอง จนอาจจะ"เกินไป" สำหรับนักปั่นหลายๆคนที่ชอบความดุดันแต่ไม่ชอบรถที่ต้องคุมตลอดเวลา สำหรับเฟรม XENON นี้ ซ่อนไว้ด้วยการยืนระยะทางยาวที่ดี ขี่ไกลๆ ไม่ต้องล้ามากกับการคุมรถให้นิ่ง มากนัก อาจเรียกได้ว่ามีความสบายแบบรถเดินทางไกล หรือการยืนทางตรงเนียนๆแบบรถแอโร่ฯแฝงอยู่ด้วย สำหรับข้อเสียเล็กๆน้อยๆสำหรับเฟรมที่ออกแบบเช่นนี้ ก็สะท้อนออกมาที่การปั่นที่รับรู้ได้ทันทีเช่นกัน ซึ่งก็คือความไม่คมของการเข้าโค้งที่อาจจะออกอาการฝืนๆนิดหน่อย หากจะมองหาอารมณ์การพุ่งเข้าหาโค้งแล้วเอียงรถ กดน้ำหนักลงหน้าแล้วเหวี่ยงออกไปแบบคมๆอาจจะต้องผิดหวังกับอาการตอบสนองของเฟรมอยู่บ้าง เพราะเฟรมนี้ไม่ใช่เฟรมที่เล่นโค้งคมๆได้ง่ายนัก ยิ่งในวันที่ทดสอบมีฝนลงมาด้วยแล้ว รู้สึกว่ารถพุ่งเข้าและออกจากโค้งได้แบบไม่เนียนสนุกเท่าไหร่
ส่วนตัวผมไม่ได้มองว่าเป็นจุดด้อยนะครับ รถที่มีระยะฐานล้อและองศาแบบนี้ก็มีอาการนี้ทั้งนั้น และไม่ใช่ปัญหาของการขี่ด้วย เพียงแค่คุณต้องปรับตัวและหาความลงตัวกับองศาและฟิลลิ่งการถ่ายน้ำหนักให้เหมาะ เฟรมไหนๆก็ต่างกันทั้งนั้น แต่ไม่ได้หมายความว่าเฟรม STEVENS XENON นี้เข้าโค้งไม่ดีแต่อย่างใด เพราะตะเกียบหน้าที่ภายในก็มีระบบ Double Chamber เป็นโครงสร้างเหมือนท่อล่าง ร่วมกับท่อคอแบบเทเปอร์เองส่งผลให้ด้านหน้าของรถมีความสติฟสุงมาก ซึ่งช่วยรักษาแนวของหน้ารถเวลาเข้าโค้งได้ เมื่อแนวของหน้ารถไม่อ่อนตัวได้ง่าย ล้อหน้าและล้อหลังก็อยู่ในแนวเส้นที่เหมาะที่จะทรงตัวได้ดีตลอดการเข้าโค้ง เกาะถนนได้ดีด้วยเช่นกัน
ส่วนหน้ารถที่สติฟนอกจากช่วยให้เทรถได้อย่างมั่นใจ ยังทำให้การยืนโยกขึ้นเขา หรือสปรินท์จับดร็อปล่างแล้วอัดรถพุ่งออกไปทำได้อย่างสนุกมือ ไม่มีอาการยวบ สรุปจุดเด่นของ STEVENS XENON
1.lสติฟ มาก ตอบสนองแรงได้ดีทั้งการกระชากบนทางราบและการไต่เขา
2.น้ำหนักเบาสมเหตุสมผลกับความสติฟ และราคาค่าตัวในระดับกลางๆไม่สูงจนเกินไป
3.องสารถรองรับการเซ็ทได้ดุดันมาก ในขณะที่สามารถปรับให้เป็นรถขี่สบายๆได้ไม่ยากนัก
4.งานสี เก็บผิว และคุณภาพเนื้องานดีมาก การควบคุมมาตรฐานชิ้นงานและการประกอบอันเป็นหัวใจของบริษัทแม่ที่ฮัมบูร์ก ทำได้ประทับใจเป็นอย่างยิ่ง
5.ขี่นิ่งได้ดี วิ่งทางตรงๆแทบไม่ต้องออกแรงจับแฮนด์เลย วางมือประคองเอาไว้รถก็รักษาแนวตรงได้ดี
สรุปจุดด้อยของ STEVENS XENON
1.กระด้างและสั่นสะท้าน หากต้องการเอาไปขี่ระยะทางไกลๆนานๆโดยที่ร่างกายไม่ได้แกร่ง และมีเวลาซ้อมปรับตัวมาก คงต้องหาทางเซ็ท และโมดิฟายให้ขี่สบายกันให้ดีก่อนเริ่มปั่น
2.ถ้าท่านเป็นคนที่ชอบโยก กระแทก แบบพุ่งเปรียวๆ อาจไม่ค่อยถูกใจเพราะฟิลลิ่งเวลาโยกไม่กระทัดรัดแบบเฟรมทรงคอมแพ็คมาก การตอบสนองออกไปในทางรถทั่วไปมากกว่ารถไต่เขา
3.วงเลี้ยวไม่ค่อยคม เวลาลงเขาแรงๆหรือเข้าโค้งแบบหักมุมแคบความเร็วสูง ต้องอาศัยทักษะมากกว่ารถที่คล่องตัวมากๆ ใครจะเหมาะกับ STEVENS XENON
-หากคุณไม่ติดในกระแสของยี่ห้อตลาด อยากมีรถที่โดดเด่น ไม่เหมือนใคร และเชื่อมั่นในมาตรฐานงานวิศวกรรมเยอรมัน
-อยากได้รถที่ขี่มันส์ แม้ว่าจะกระด้างไปบ้างแต่รถแบบนี้แหละครับที่ขี่สนุก สัมผัสอณูของถนนที่ผ่านไปได้ เร่งก็รู็สึก กระชากก็รู้สึก มันเป็นเฟรมที่ดุและ"ดิบ"
-ถ้าคุณชอบความนิ่งของรถถนนที่ยังสามารถเรียกพลังและความเร็วได้มากกว่ารถแนวเอนดูรานซ์อื่นๆ ลองเลือก XENON แล้วนำไปเซ็ทให้ขี่สบายสักนิด รับรองว่าได้ความลงตัวที่ถูกใจไม่ยากเลย
ทีมและนักกีฬาอาชีพที่ใช้ STEVENS
ทีม Team Stölting ประเทศเยอรมันนี ทีม Team Vorarlberg ทีมระดับดิวิชั่นของประเทศออสเตรีย (UCI Continental Team) และนักปั่นอาชีพ Amber Neben ชาวสหรัฐอเมริกาที่เป็นเจ้าของรางวัล World Champion ประเภทเดี่ยวไทม์ไทรอัลหญิงปี 2008 สนใจเฟรมและจักรยาน STEVENS ติดต่อตัวแทนจำหน่ายได้เลยนะครับ ทางผู้นำเข้าและบริษัทแม่ที่เยอรมัน มีกลยุทธการขายและกระจายสินค้าที่น่าสนใจ รวดเร็ว ชมตัวอย่างรถที่ถูกใจ จากนั้นสั่งเลือกส่วนประกอบต่างๆได้ตามที่ต้องการ ถือเป็นรูปแบบการขายที่น่าสนใจสำหรับผู้บริโภคครับ เพราะมีตัวเลือกและอิสระในการเลือกซื้อมากกว่าที่จะรอดูว่ามีสี ไซส์ และรุ่นไหนมาเก็บไว้คอยขายบ้าง[homeimg=300,200]http://www.thaimtb.com/forum/picture_mt ... 363f-0.jpg[/homeimg]
ฟังสาระจักรยาน Podcast
https://open.spotify.com/show/76iDUCWXgqqixg1CmoSDIp
ข่าวสารจัรกยาน
https://www.facebook.com/cyclinghubthailand/
https://open.spotify.com/show/76iDUCWXgqqixg1CmoSDIp
ข่าวสารจัรกยาน
https://www.facebook.com/cyclinghubthailand/
- nbt
- Site Admin
- โพสต์: 2713
- ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ส.ค. 2008, 23:44
- Tel: 0882160166
- team: thaimtb , osk
- Bike: Trek Procaliber, Bianchi OrtheXR2 , cBroadman CX , Canyon Enduro
- ติดต่อ:
Re: REVIEW STEVENS เสือหมอบแห่งฮัมบูร์ก
เป็น minor brand อีกตัวที่น่าใช้มากครับ
ThaiMTB facebook -> facebook.com/ThaiMTB
nbt facebook -> facebook.com/nbt.thaimtb
สงสัยอะไรดูที่นี่ก่อนนะครับ -> ประกาศสำคัญของเวบ / เทคนิคการใช้งานเวบ / คำถามที่พบบ่อย
nbt facebook -> facebook.com/nbt.thaimtb
สงสัยอะไรดูที่นี่ก่อนนะครับ -> ประกาศสำคัญของเวบ / เทคนิคการใช้งานเวบ / คำถามที่พบบ่อย
- trek3900/2009
- ขาประจำ
- โพสต์: 1953
- ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ส.ค. 2009, 02:31
Re: REVIEW STEVENS เสือหมอบแห่งฮัมบูร์ก
รีวิวยอดเยี่ยมครับ
รับบริการฟิตติ้งจักรยานที่บ้านลูกค้า ราคามิตรภาพ เยี่ยมเพจได้เลยครับhttps://www.facebook.com/RasitFitter/
https://www.facebook.com/pages/Lapierre-bike-Thailand/1543570505857513
https://www.facebook.com/groups/763837143758055/
https://www.facebook.com/pages/Lapierre-bike-Thailand/1543570505857513
https://www.facebook.com/groups/763837143758055/
- ใต้ฟ้าเดียวกัน
- ขาประจำ
- โพสต์: 2362
- ลงทะเบียนเมื่อ: 07 พ.ค. 2009, 08:11
- Tel: 0817070618
- team: Tak's spin clup
- Bike: SCOTT scale 70
Re: REVIEW STEVENS เสือหมอบแห่งฮัมบูร์ก
+1 ขอบคุณครับtrek3900/2009 เขียน:รีวิวยอดเยี่ยมครับ
- jump_ai
- ขาประจำ
- โพสต์: 1034
- ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ส.ค. 2008, 14:56
- Tel: 0826544868
- team: อ้วนผอมไซคลิ่ง
- Bike: Planet X Kaffenbcak [ V-Brake ]
Re: REVIEW STEVENS เสือหมอบแห่งฮัมบูร์ก
แบรนด์นี้ต้องนึกถึง cyclocrosssssss!!!!!!!!!!
ซ้อม ซ้อม ซ้อม เเล้วก็ซ้อม สิงอยู่ที่สนามซ้อม
- ืnok macro
- สมาชิก
- โพสต์: 11
- ลงทะเบียนเมื่อ: 26 พ.ค. 2014, 16:31
- ตำแหน่ง: LEAR AUTOMOTIVE
- ติดต่อ:
Re: REVIEW STEVENS เสือหมอบแห่งฮัมบูร์ก
การรีวิวที่ไม่เอนเอียง ถือว่ามีทั้งข้อดีและข้อเสียให้ผู้บริโภคได้ตัดสินใจเอง ขอชมตรงจุดนี้ครับ
-
- สมาชิก
- โพสต์: 23
- ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ต.ค. 2013, 10:47
Re: REVIEW STEVENS เสือหมอบแห่งฮัมบูร์ก
รีวิวยอดเยี่ยมมากครับ ขอบคุณมากๆครับ
- lucifer
- ขาประจำ
- โพสต์: 6413
- ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ย. 2010, 14:53
- team: BPMTB , BPRB , Bikeloves
- Bike: Only 2-wheels bike
- ติดต่อ:
Re: REVIEW STEVENS เสือหมอบแห่งฮัมบูร์ก
น่าเสียดาย มาเปิดตัวกันตอนตลาดขาลง
ถ้าอ่อนซ้อม อ่อนทักษะ ก็จะพบว่าจักรยานคันไหนๆก็ไม่แตกต่างกันหรอก เพราะปั่นไม่ไปเหมือนๆกัน และบังคับควบคุมได้ห่วยพอๆกัน
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 3092
- ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ส.ค. 2008, 15:14
- Tel: 0865040751
- team: Team Bike And Body Cycoling
- Bike: Kemo KE-R5, Giant Propel Advance SL, Specialized Alez E5 Revolution
- ตำแหน่ง: ซอยอารีย์ พหลโยธิน กทม.
- ติดต่อ:
Re: REVIEW STEVENS เสือหมอบแห่งฮัมบูร์ก
ขอบคุณครับขออธิบายเพิ่มนะครับ
1.แบรนด์นี้มีนักแข่งที่เป็นนักจักรยานอาชีพระดับ world champion ในประเภท cyclo crozz เยอะครับ แต่ยังไม่พูดถึงเพราะในอนาคตคงมีรีวิวรถซีรีส์อื่นๆของแบรนด์นี้ด้วยครับ เอาไว้เราค่อยๆแทรกเกร็ดลงไป แต่ด้านไซโครครอส ถือว่าเป็นแบรนด์ดังระดับโลกเลยก็ว่าได้ ประสบความสำเร็จสูงมาก และมาทำตลาดเสือหมอบ ไหนจะเรื่องความเป็นอุตสาหกรรมพื้นถิ่นของเมืองฮัมบูร์กที่น่าสนใจ
...จักรยานหลายๆยี่ห้อที่ดังในเวลานี้ก็ทำตลาดอื่นๆมาก่อน เช่น Merida ทำตลาดเสือภูเขาจนได้แชมป์โลกมาก่อน แล้วจึงกระโดดมาทำเสือหมอบเต็มตัวไม่นานมานี้ และ Cervelo ที่เกิดมาจากตลาดไตรกีฬาเป็นหลัก ทุกวันนี้สำเร็จสวยงามในตลาดเสือหมอบเช่นกัน
2.ฐานล้อที่ยาวไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดีนะครับ โอเคว่ามันไม่ได้คล่องตัว เมื่อเทียบกับรถฐานล้อสั้น แต่รถประเภท endurance หรือ TT ก็มีฐานล้อที่ยาวเพื่อให้รถนิ่งและวิ่งทางตรงได้เสถียร รถระดับแข่งขันบางคายเช่น Cannondale ก็มีฐานล้อที่ไม่สั้นมากแบบนี้แหละครับ เพื่อให้ขี่ได้นิ่งๆ มันอยู่ที่ชอบ และแนวทางการออกแบบของผู้ออกแบบ
...การที่ผมใส่ฐานล้อยาวไม่คล่องตัวในข้อด้อยนั้น เพราะผมมองว่าส่วนมากนิยมรถที่"มันส์" กันมากกว่า ซึ่งไม่ได้แปลว่าทุกคนขี่แล้วจะชอบแบบนี้ คนอีกไม่น้อยที่ไม่ชอบรถที่คล่องมากๆ ถ้าใครได้ลองขี่รถฐานล้อสั้นๆจะรู้ครับว่าอาการ"ไวปานวอก" มันสนุก แต่แลกมาด้วยอาการหน้าไว รถนิ่งยากกว่า
ผมขี่รถฐานล้อสั้นมา ดังนั้นเจอรถยาวๆผมเลยรู้สึกได้ไว และข้อดีก็อย่างที่บอกล่ะครับ มันดีที่นิ่งได้ เสถียรดี ซึ่งมากับความสติฟและการตอบสนองแบบรถแข่งแท้ๆ อาจจะกระด้างไปบ้าง แต่เฟรมใส่ล้อหน้ากว้างได้ ดังนั้นทางออกที่ชดเชยทั้งหมดคือ การใส่ล้อขอบสูงหน้ากว้าง ให้ได้อาการไหลจากขอบ และขี่สบายขึ้น เท่านี้รถคันนี้ก็มันส์และตอบโจทย์คนได้กว้างแล้วครับ
ผมขอเทียบง่ายๆว่า รถแข่งที่ไวมากๆมันก็เป็นพวก roadster ที่เล็ฏ แรง รถสั้น เข้าโค้งง่ายคนขับเหนื่อยหน่อย ส่วนรถแข่งแบบนี้ที่ช่วงรถนิ่งๆก็เป็นพวกรถแข่งทางยาวๆ ขับสบายความเร็วสูงอัตราเร่งดี
มันเป็นส่วนผสมที่นักออกแบบต้องสร้างสมดุลย์ออกมาครับ ไม่มีเฟรมอะไรที่สามารถใส่ทุกอย่างลงไปได้ และไม่จำเป็นต้องใส่ทุกอย่างเข้าไป เพราะกลุ่มเป้าหมายอาจไม่จำเป็นต้องได้ทุกอย่างหรอกครับ เฟรมที่พยายามสมดุลย์ทุกอย่างก็มีอยู๋เยอะแยะ แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันไม่สุดซักด้าน(กลายเป็นข้อเสียอีก) สำหรับ XENON ผมมองว่านักออกแบบเค้ากล้าใส่ความสุดไปที่เรื่องสติฟ และใส่บุคลิกที่น่าสนใจเข้าไป
มันอยู่ที่ คนเลือกเข้าใจในความต้องการตนเองหรือเปล่า และสามารถปรับมันเข้ากับตัวได้แค่ไหน (และปรับตัวเข้ากับมันได้ด้วย)
ผมว่าเป็นรถ"ขี่สนุก" คันนึงเลยครับ แข็ง พุ่ง สะใจ ฟิตติ้งไม่ยาก(สำหรับตัวผมนะ) ไม่หนักมาก ราคาสบายๆ เอาแบบหล่อๆเลยทั้งคัน Di2 ใส่ล้อคาร์บอน จบที่แสนครึ่งได้ครับ งบเท่านี้ บางยี่ห้อได้แต่เฟรม
ปล. ตลาดจักรยานซบเซาลง จากหลายปัจจัยครับ ภาวะเศรษฐกิจก็เป็นส่วนนึง ถ้ามองดีๆ มันคือทางเลือกที่ดีสำหรับงบประมาณครับ ไม่ได้แปลว่าตลาดเฟื่องฟูแล้วแบรนด์ทางเลือกจะอยู่ได้ ผมว่าตลาดเล็กลง(จำนวนคนปั่นไม่ได้ลดลงนะครับ แค่อัตราการจับจ่ายลดลง) แต่คนซื้อมีความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น คิดได้มากขึ้น เป็นโอกาสให้ minor brand สามารถมองหาคู่กับผู้บริโภคได้ไม่ยากครับ มีนักปั่นไม่น้อยที่เบื่อกับแบรนด์หลักๆ รถที่ไปไหนมาไหนเห็นคนปั่นรุ่นเดียวกันสีเดียวกันเป็นสิบเป็นร้อยคน ประชากรแบบนี้มีครับ ดังนั้นตลาดที่หลากหลาย สร้างความคึกคักให้กับวงการจักรยานดีกว่าครับ ตลาดที่ครอบครองโดยรายใหญ่ๆไม่กี่เจ้า ผู้บริโภคต้องโดนบังคับให้ซื้อตามสิ่งที่มี และเลือกตามการตลาดที่ถูกปลูกฝังในหัวเท่านั้น
1.แบรนด์นี้มีนักแข่งที่เป็นนักจักรยานอาชีพระดับ world champion ในประเภท cyclo crozz เยอะครับ แต่ยังไม่พูดถึงเพราะในอนาคตคงมีรีวิวรถซีรีส์อื่นๆของแบรนด์นี้ด้วยครับ เอาไว้เราค่อยๆแทรกเกร็ดลงไป แต่ด้านไซโครครอส ถือว่าเป็นแบรนด์ดังระดับโลกเลยก็ว่าได้ ประสบความสำเร็จสูงมาก และมาทำตลาดเสือหมอบ ไหนจะเรื่องความเป็นอุตสาหกรรมพื้นถิ่นของเมืองฮัมบูร์กที่น่าสนใจ
...จักรยานหลายๆยี่ห้อที่ดังในเวลานี้ก็ทำตลาดอื่นๆมาก่อน เช่น Merida ทำตลาดเสือภูเขาจนได้แชมป์โลกมาก่อน แล้วจึงกระโดดมาทำเสือหมอบเต็มตัวไม่นานมานี้ และ Cervelo ที่เกิดมาจากตลาดไตรกีฬาเป็นหลัก ทุกวันนี้สำเร็จสวยงามในตลาดเสือหมอบเช่นกัน
2.ฐานล้อที่ยาวไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดีนะครับ โอเคว่ามันไม่ได้คล่องตัว เมื่อเทียบกับรถฐานล้อสั้น แต่รถประเภท endurance หรือ TT ก็มีฐานล้อที่ยาวเพื่อให้รถนิ่งและวิ่งทางตรงได้เสถียร รถระดับแข่งขันบางคายเช่น Cannondale ก็มีฐานล้อที่ไม่สั้นมากแบบนี้แหละครับ เพื่อให้ขี่ได้นิ่งๆ มันอยู่ที่ชอบ และแนวทางการออกแบบของผู้ออกแบบ
...การที่ผมใส่ฐานล้อยาวไม่คล่องตัวในข้อด้อยนั้น เพราะผมมองว่าส่วนมากนิยมรถที่"มันส์" กันมากกว่า ซึ่งไม่ได้แปลว่าทุกคนขี่แล้วจะชอบแบบนี้ คนอีกไม่น้อยที่ไม่ชอบรถที่คล่องมากๆ ถ้าใครได้ลองขี่รถฐานล้อสั้นๆจะรู้ครับว่าอาการ"ไวปานวอก" มันสนุก แต่แลกมาด้วยอาการหน้าไว รถนิ่งยากกว่า
ผมขี่รถฐานล้อสั้นมา ดังนั้นเจอรถยาวๆผมเลยรู้สึกได้ไว และข้อดีก็อย่างที่บอกล่ะครับ มันดีที่นิ่งได้ เสถียรดี ซึ่งมากับความสติฟและการตอบสนองแบบรถแข่งแท้ๆ อาจจะกระด้างไปบ้าง แต่เฟรมใส่ล้อหน้ากว้างได้ ดังนั้นทางออกที่ชดเชยทั้งหมดคือ การใส่ล้อขอบสูงหน้ากว้าง ให้ได้อาการไหลจากขอบ และขี่สบายขึ้น เท่านี้รถคันนี้ก็มันส์และตอบโจทย์คนได้กว้างแล้วครับ
ผมขอเทียบง่ายๆว่า รถแข่งที่ไวมากๆมันก็เป็นพวก roadster ที่เล็ฏ แรง รถสั้น เข้าโค้งง่ายคนขับเหนื่อยหน่อย ส่วนรถแข่งแบบนี้ที่ช่วงรถนิ่งๆก็เป็นพวกรถแข่งทางยาวๆ ขับสบายความเร็วสูงอัตราเร่งดี
มันเป็นส่วนผสมที่นักออกแบบต้องสร้างสมดุลย์ออกมาครับ ไม่มีเฟรมอะไรที่สามารถใส่ทุกอย่างลงไปได้ และไม่จำเป็นต้องใส่ทุกอย่างเข้าไป เพราะกลุ่มเป้าหมายอาจไม่จำเป็นต้องได้ทุกอย่างหรอกครับ เฟรมที่พยายามสมดุลย์ทุกอย่างก็มีอยู๋เยอะแยะ แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันไม่สุดซักด้าน(กลายเป็นข้อเสียอีก) สำหรับ XENON ผมมองว่านักออกแบบเค้ากล้าใส่ความสุดไปที่เรื่องสติฟ และใส่บุคลิกที่น่าสนใจเข้าไป
มันอยู่ที่ คนเลือกเข้าใจในความต้องการตนเองหรือเปล่า และสามารถปรับมันเข้ากับตัวได้แค่ไหน (และปรับตัวเข้ากับมันได้ด้วย)
ผมว่าเป็นรถ"ขี่สนุก" คันนึงเลยครับ แข็ง พุ่ง สะใจ ฟิตติ้งไม่ยาก(สำหรับตัวผมนะ) ไม่หนักมาก ราคาสบายๆ เอาแบบหล่อๆเลยทั้งคัน Di2 ใส่ล้อคาร์บอน จบที่แสนครึ่งได้ครับ งบเท่านี้ บางยี่ห้อได้แต่เฟรม
ปล. ตลาดจักรยานซบเซาลง จากหลายปัจจัยครับ ภาวะเศรษฐกิจก็เป็นส่วนนึง ถ้ามองดีๆ มันคือทางเลือกที่ดีสำหรับงบประมาณครับ ไม่ได้แปลว่าตลาดเฟื่องฟูแล้วแบรนด์ทางเลือกจะอยู่ได้ ผมว่าตลาดเล็กลง(จำนวนคนปั่นไม่ได้ลดลงนะครับ แค่อัตราการจับจ่ายลดลง) แต่คนซื้อมีความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น คิดได้มากขึ้น เป็นโอกาสให้ minor brand สามารถมองหาคู่กับผู้บริโภคได้ไม่ยากครับ มีนักปั่นไม่น้อยที่เบื่อกับแบรนด์หลักๆ รถที่ไปไหนมาไหนเห็นคนปั่นรุ่นเดียวกันสีเดียวกันเป็นสิบเป็นร้อยคน ประชากรแบบนี้มีครับ ดังนั้นตลาดที่หลากหลาย สร้างความคึกคักให้กับวงการจักรยานดีกว่าครับ ตลาดที่ครอบครองโดยรายใหญ่ๆไม่กี่เจ้า ผู้บริโภคต้องโดนบังคับให้ซื้อตามสิ่งที่มี และเลือกตามการตลาดที่ถูกปลูกฝังในหัวเท่านั้น
ฟังสาระจักรยาน Podcast
https://open.spotify.com/show/76iDUCWXgqqixg1CmoSDIp
ข่าวสารจัรกยาน
https://www.facebook.com/cyclinghubthailand/
https://open.spotify.com/show/76iDUCWXgqqixg1CmoSDIp
ข่าวสารจัรกยาน
https://www.facebook.com/cyclinghubthailand/
- ClassiccizzalD
- ขาประจำ
- โพสต์: 257
- ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2015, 07:11
- Bike: Canyon Aeroad cf slx
Re: REVIEW STEVENS เสือหมอบแห่งฮัมบูร์ก
แหม่มองนายแบบพี่จิโร่ผ่านๆผมคิดว่าครีมทาน่า 55555
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 3092
- ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ส.ค. 2008, 15:14
- Tel: 0865040751
- team: Team Bike And Body Cycoling
- Bike: Kemo KE-R5, Giant Propel Advance SL, Specialized Alez E5 Revolution
- ตำแหน่ง: ซอยอารีย์ พหลโยธิน กทม.
- ติดต่อ:
Re: REVIEW STEVENS เสือหมอบแห่งฮัมบูร์ก
(UCI Continental Team)
เป็นทีมจักรยานอาชีพรับรองโดย UCI ระดับดิวิชั่นสาม(Contonental Team) สัญชาติออสเตรีย ก่อตั้งตั้งแต่ปี 1999 อดีตเคยใช้ชื่อแตกต่างไปจากการร่วมมือกับผู้สนับสนุนเช่น ÖAMTC Volksbank-Colnago, Volksbank-Schwinn, Volksbank-Ideal, Volksbank-Ideal Leingruber, Volksbank-Vorarlberg, Vorarlberg-Corratec และ Team Vorarlberg ถึงแม้ทีมจะจัดอยู๋ในดิวิชั่นสาม ที่มักจะมีขนาดเล็ก แต่ทีม Team Vorarlberg มีความเป็นสากลสูงมากเนื่องจากในทีมประกอบด้วยนักกีฬาจากหลายๆประเทศเช่นออสเตรีย, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, สเปน, สวิสเซอร์แลนด์ และ ญี่ปุ่น ทีมทำผลงานการแข่งขันรายการอาชีพมาตรฐาน UCI ในยุโรปหลายรายการเช่น คว้าแชมป์ Tour of Austria, เคยมาคว้าแชมป์เสตจรายการ Tour de Taiwan, แชมป์รายการ Tour of Greece ทีมมีโครงสร้างที่เป็นทีมอาชีพตามมาตรฐาน UCI ผ่านทุกอย่าง มีความมั่นคงของงบประมาณทุนทำทีมที่เหมาะสมและมีแผนการทำทีมระยะยาวที่เน้นความสำเร็จในระยะยาวมากกว่าการทุ่มทุนสร้างทีมแล้วหายไป ดังนั้นทีมจึงได้รับเชิญเข้าร่วมรายการทัวร์และการแข่งจักรยานต่างๆในระดับสูงบ่อยครับ ซึ่งสามารถทำผลงานได้น่าพอใจแม้ว่าต้องลงแข่งกับทีมที่มีดิวิชั่นสูงกว่าก็ตาม
Team Vorarlberg เป็นทีมจักรยานอาชีพรับรองโดย UCI ระดับดิวิชั่นสาม(Contonental Team) สัญชาติออสเตรีย ก่อตั้งตั้งแต่ปี 1999 อดีตเคยใช้ชื่อแตกต่างไปจากการร่วมมือกับผู้สนับสนุนเช่น ÖAMTC Volksbank-Colnago, Volksbank-Schwinn, Volksbank-Ideal, Volksbank-Ideal Leingruber, Volksbank-Vorarlberg, Vorarlberg-Corratec และ Team Vorarlberg ถึงแม้ทีมจะจัดอยู๋ในดิวิชั่นสาม ที่มักจะมีขนาดเล็ก แต่ทีม Team Vorarlberg มีความเป็นสากลสูงมากเนื่องจากในทีมประกอบด้วยนักกีฬาจากหลายๆประเทศเช่นออสเตรีย, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, สเปน, สวิสเซอร์แลนด์ และ ญี่ปุ่น ทีมทำผลงานการแข่งขันรายการอาชีพมาตรฐาน UCI ในยุโรปหลายรายการเช่น คว้าแชมป์ Tour of Austria, เคยมาคว้าแชมป์เสตจรายการ Tour de Taiwan, แชมป์รายการ Tour of Greece ทีมมีโครงสร้างที่เป็นทีมอาชีพตามมาตรฐาน UCI ผ่านทุกอย่าง มีความมั่นคงของงบประมาณทุนทำทีมที่เหมาะสมและมีแผนการทำทีมระยะยาวที่เน้นความสำเร็จในระยะยาวมากกว่าการทุ่มทุนสร้างทีมแล้วหายไป ดังนั้นทีมจึงได้รับเชิญเข้าร่วมรายการทัวร์และการแข่งจักรยานต่างๆในระดับสูงบ่อยครับ ซึ่งสามารถทำผลงานได้น่าพอใจแม้ว่าต้องลงแข่งกับทีมที่มีดิวิชั่นสูงกว่าก็ตาม
ฟังสาระจักรยาน Podcast
https://open.spotify.com/show/76iDUCWXgqqixg1CmoSDIp
ข่าวสารจัรกยาน
https://www.facebook.com/cyclinghubthailand/
https://open.spotify.com/show/76iDUCWXgqqixg1CmoSDIp
ข่าวสารจัรกยาน
https://www.facebook.com/cyclinghubthailand/
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 122
- ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2008, 09:53
Re: REVIEW STEVENS เสือหมอบแห่งฮัมบูร์ก
ไซท์ 47 ท่อนอน 502 ผมนี่ตาเป็นกระกายเลยครับ
ขอทราบชื่อร้านตัวแทนจำหน่ายทางหลังไมล์หน่อยนะครับ
ขอทราบชื่อร้านตัวแทนจำหน่ายทางหลังไมล์หน่อยนะครับ
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 895
- ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ย. 2013, 18:18
Re: REVIEW STEVENS เสือหมอบแห่งฮัมบูร์ก
จัดมาแล้วครับ. ไม่เคยออกทริปเลย ทริปแรกได้74กม. ตามเพื่อนๆทันสบายๆ
VELO FABRIC
33 Tesaban Rangsan Tai Road Lad Yao Chatuchak BKK 10900 (เยื้องตลาดประชานิเวศน์1)
เปิดบริการทุกวัน 10.30-19.30 น.
Tel:คุณตุ๊ก 081-509-8409
Facebook: https://www.facebook.com/Velofabric
Instagram:Velofabric
We can Delivery at your door step*
33 Tesaban Rangsan Tai Road Lad Yao Chatuchak BKK 10900 (เยื้องตลาดประชานิเวศน์1)
เปิดบริการทุกวัน 10.30-19.30 น.
Tel:คุณตุ๊ก 081-509-8409
Facebook: https://www.facebook.com/Velofabric
Instagram:Velofabric
We can Delivery at your door step*
-
- สมาชิก
- โพสต์: 90
- ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ธ.ค. 2014, 19:07
Re: REVIEW STEVENS เสือหมอบแห่งฮัมบูร์ก
สวยงามมากๆ
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 895
- ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ย. 2013, 18:18
Re: REVIEW STEVENS เสือหมอบแห่งฮัมบูร์ก
การออกแบบให้ภายในFrame และตะเกียบ ให้เป็นห้องChamber 2ห้อง เพื่อเพิ่มความแข็งStiff
In order to better handle the applied loads, frame main tubes and fork legs are devided into two chambers by an inner reinforcement rib. In model year 2015 riders of the top road bike models Ventoux and Xenon and carbon MTB hardtail Sonora 2.0 will benefit from this feature.
In order to better handle the applied loads, frame main tubes and fork legs are devided into two chambers by an inner reinforcement rib. In model year 2015 riders of the top road bike models Ventoux and Xenon and carbon MTB hardtail Sonora 2.0 will benefit from this feature.
- ไฟล์แนบ
-
- image.jpg (45.44 KiB) เข้าดูแล้ว 8251 ครั้ง
VELO FABRIC
33 Tesaban Rangsan Tai Road Lad Yao Chatuchak BKK 10900 (เยื้องตลาดประชานิเวศน์1)
เปิดบริการทุกวัน 10.30-19.30 น.
Tel:คุณตุ๊ก 081-509-8409
Facebook: https://www.facebook.com/Velofabric
Instagram:Velofabric
We can Delivery at your door step*
33 Tesaban Rangsan Tai Road Lad Yao Chatuchak BKK 10900 (เยื้องตลาดประชานิเวศน์1)
เปิดบริการทุกวัน 10.30-19.30 น.
Tel:คุณตุ๊ก 081-509-8409
Facebook: https://www.facebook.com/Velofabric
Instagram:Velofabric
We can Delivery at your door step*