Storck Scenero G2 เป็นรถที่ดีและคุ้มราคาไหมครับ
ผู้ดูแล: Cycling B®y, spinbike, velocity
-
- สมาชิก
- โพสต์: 27
- ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ก.ย. 2013, 15:57
Storck Scenero G2 เป็นรถที่ดีและคุ้มราคาไหมครับ
ตอนนี้กำลังหาเฟรมรถใหม่อยู่ครับ ในใจก็มีพวก Bianchi Infinito CV, Ridley Noah SL, Swift Ultravox TI แล้วก็เจ้า Storck Scenero G2 เนี่ยแหละครับ เจ้า Storck นี่ราคาแรงกว่าใครเพื่อน แถมหนักกว่าด้วย แต่ก็ชอบเพราะมันเป็น Storck นี่แหละครับ เลยอยากจะถามพี่ๆน้องๆว่าเจ้า Storck นี้มันเป็นรถที่ดี คุ้มค่าคุ้มราคาไหมครับ แล้วถ้าเทียบ Performance ด้านการขับขี่กับเฟรมตัวอื่นๆจะเป็นอย่างไรบ้างครับ ขอบคุณครับ
-
- สมาชิก
- โพสต์: 4
- ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ธ.ค. 2013, 23:55
Re: Storck Scenero G2 เป็นรถที่ดีและคุ้มราคาไหมครับ
เป็นรถที่ประหลาดมากครับ และไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับ sempre pro(ไม่เคยขี่ infinito) ได้เลย เพราะ คนละโครงสร้างครับ นน.เยอะแต่เป็นที่มาของจุดได้เปรียบของ g2 เพราะรถนิ่งกว่า sempre pro 4-5เท่าเลย รถไม่ปราดเปรียวนักแต่เข้าโค้งแม่นมากขี่แล้วไม่ร้สึกก๊อง เพราะมันแน่นมากจนบางทีร้สึกอึดอัด มันเป๋็นรถที่พุุ่งมาก แต่ออกตัวช้ามาก งงไหม??แต่จริงครับ โครงสร้างเสถียรมาก
ความเร็ว
ณ ความเร็ว 30 กระชากข้ึน 50 นี่เฟรมตอบสนองได้ดีเหมือนความเร็ว 20 ขึ้น 30 เพราะมันแน่นมากจริงๆ ความเร็วยืน 40 นี่พี่สตอคเค้าเก็บได้ทกเม็ดจริงๆ ขี่ย่าวๆเหนือยน้อยกว่า แต่ผมยอมรับเลยว่าไม่เคยขี่ได้เกิน 55 km/hทั้งๆที่ เคยขี่ scott cr 1 ล้อขอบต่ำ ได้ 57.8 km/h แต่พอจะเข้าใจครับว่ากล้ามเนื้อผมยังแขงแรงไม่พอ เพราะเพิ่งเปลี่ยนล้อจาก mavic ksyrium เป็น hed stinger 5 แต่การทำความเร็วในช่วงความเรวระดับนี้กับรถ นน.ขนาดนี้มันน่าทึ่งมาก ยิ่งตอนยิงขึ้นสะพานข้ามแยกกับ hed ล่อไป32-36 km/h โดยที่เฟรมทำงานได้สะใจมาก แรงที่กดไปไม่ได้เสียไปไหนเลย ลงล้อครบจริงๆ ขึ้นปิ้นเกล้าเร็วสุด 31 km/h
ความสวย และ โครงสร้าง
งานคาร์บอนและเรซิ่นกินขาด เป็นเฟรมที่คิดเยอะ บางอย่างแอบใช้งานยาก มีสีน้ำเงินแต้มมาจากโรงงาน
ตามจุดเครื่องหมายการค้าต่างๆ อาจทำให้หาของแต่งเข้ากับรถได้ยาก และโครงสร้างมันประหลาด ท่อนั่ง 47 แต่ท่อนอน 52.5 ซึึ่งยาวมาก ถ้าเซทติ้งลงตัวก็ดีไป ถ้าตัวเล็กกว่า 165 หมดสิทธิ์ครับ
ความสบายใจและความสุุขใจในการใช้รถ
คนมักจะคาดหวังว่าเราต้องขาแรงออกแนวโดนหมันไส้นิดๆ
คนที่ขี่จักรยานจะคิดว่า แม่งอวดรวย
เวลาจอดที่ทำงานจะทรมานใจนิดๆ หาลงมาเห็นว่ามันไม่อย่ตำแหน่งเดิมจะวิตกจริต
ในกรณีล้มหรือ เกิดอบัติเหตแล้วต้องซ่อมเอง ก็คิดเอาเองละกันครับ แฮ่ๆ....
การเปรียบเทียบ
ถ้าหากจะเทียบต้องวัดกับมวยอย่าง s5(โคตรแข็ง) แต่นุ่มเหมือนขี่ r3(โคตรนุ่มถ้าเทียบกับ s5) ลงหลุมในกทมนี่ สบายมากครับ ล้อขอบต่ำ กับ g2 ผมขี่คนเดียวทำav ได้ 35.6 @ 21 km และขอบสูง (เพิ่งเปลี่ยน) วิ่งได้av 38.2 km/h ยังไม่เคยลองขี่หลัก ร้อยโล หลังๆนี้ไม่มีเวลาเลย เวลายืนโยกรถ
มันติดมือดีครับน้ำหนักตอนโยนรถซ้ายขวา ไม่เบาจะทำเราคลอนจนเกินไป แถมพุ่งมากอีกต่างหาก
โดยรวมแล้วมันเป็นรถที่ดีและประทับใจมากคันนึง มันคือ Bugatti ที่หนักมากแต่พร้อมรองรับความเร็ว ในย่านสูงๆ ถ้าคุณแข็งแรงพอเทียยบเท่ากับเครื่อง w16 ก็ซื้อมันมาขี่เถอะครับ ส่วนตัวผม
ผมร้สึกว่าขาตัวเองยังอ่อนไป ยังใช้มันได้ไม่เต็มความสามารถ ที่เค้าทำรถแน่นขนาดนี้ ผมเชื่อว่าเค้ารอง
รับความเร็วย่าน 50-60 บวกก สบายๆแน่นอน!!! ณ ความเร็วขนาดนั้น มันจะนุ่มมากและค้มค่า
แต่ถ้ามีงบสบายๆ และขี่แถวๆ 30-40 คณก็จะหล่อมาก ไปขี่เจอกลุ่มไหนก็ที่ไม่ไช่สนามเขียว คนก็จะ
ตะโกนสโต๊กๆๆ !!! ถ้าลองแล้วไม่เดือดร้อนใครแนะนำให้ลอง จะซื้อรถไม่ต้องเชื่อใครหรอกครับ
แม้กระทั้งที่ผมเขียน เพราะ เราอาจจะไม่ได้ใช้รถในลักษณะเดียวกัน และชื่นชอบเหมือนกัน
ฝากไว้ครับ อาจจะไม่ได้ช่วยอะไรเลย แต่น่าจะเห็นภาพและความเป็นจริงบางประการ
ขอให้มีความสุขกับ สตอค ครับ
ความเร็ว
ณ ความเร็ว 30 กระชากข้ึน 50 นี่เฟรมตอบสนองได้ดีเหมือนความเร็ว 20 ขึ้น 30 เพราะมันแน่นมากจริงๆ ความเร็วยืน 40 นี่พี่สตอคเค้าเก็บได้ทกเม็ดจริงๆ ขี่ย่าวๆเหนือยน้อยกว่า แต่ผมยอมรับเลยว่าไม่เคยขี่ได้เกิน 55 km/hทั้งๆที่ เคยขี่ scott cr 1 ล้อขอบต่ำ ได้ 57.8 km/h แต่พอจะเข้าใจครับว่ากล้ามเนื้อผมยังแขงแรงไม่พอ เพราะเพิ่งเปลี่ยนล้อจาก mavic ksyrium เป็น hed stinger 5 แต่การทำความเร็วในช่วงความเรวระดับนี้กับรถ นน.ขนาดนี้มันน่าทึ่งมาก ยิ่งตอนยิงขึ้นสะพานข้ามแยกกับ hed ล่อไป32-36 km/h โดยที่เฟรมทำงานได้สะใจมาก แรงที่กดไปไม่ได้เสียไปไหนเลย ลงล้อครบจริงๆ ขึ้นปิ้นเกล้าเร็วสุด 31 km/h
ความสวย และ โครงสร้าง
งานคาร์บอนและเรซิ่นกินขาด เป็นเฟรมที่คิดเยอะ บางอย่างแอบใช้งานยาก มีสีน้ำเงินแต้มมาจากโรงงาน
ตามจุดเครื่องหมายการค้าต่างๆ อาจทำให้หาของแต่งเข้ากับรถได้ยาก และโครงสร้างมันประหลาด ท่อนั่ง 47 แต่ท่อนอน 52.5 ซึึ่งยาวมาก ถ้าเซทติ้งลงตัวก็ดีไป ถ้าตัวเล็กกว่า 165 หมดสิทธิ์ครับ
ความสบายใจและความสุุขใจในการใช้รถ
คนมักจะคาดหวังว่าเราต้องขาแรงออกแนวโดนหมันไส้นิดๆ
คนที่ขี่จักรยานจะคิดว่า แม่งอวดรวย
เวลาจอดที่ทำงานจะทรมานใจนิดๆ หาลงมาเห็นว่ามันไม่อย่ตำแหน่งเดิมจะวิตกจริต
ในกรณีล้มหรือ เกิดอบัติเหตแล้วต้องซ่อมเอง ก็คิดเอาเองละกันครับ แฮ่ๆ....
การเปรียบเทียบ
ถ้าหากจะเทียบต้องวัดกับมวยอย่าง s5(โคตรแข็ง) แต่นุ่มเหมือนขี่ r3(โคตรนุ่มถ้าเทียบกับ s5) ลงหลุมในกทมนี่ สบายมากครับ ล้อขอบต่ำ กับ g2 ผมขี่คนเดียวทำav ได้ 35.6 @ 21 km และขอบสูง (เพิ่งเปลี่ยน) วิ่งได้av 38.2 km/h ยังไม่เคยลองขี่หลัก ร้อยโล หลังๆนี้ไม่มีเวลาเลย เวลายืนโยกรถ
มันติดมือดีครับน้ำหนักตอนโยนรถซ้ายขวา ไม่เบาจะทำเราคลอนจนเกินไป แถมพุ่งมากอีกต่างหาก
โดยรวมแล้วมันเป็นรถที่ดีและประทับใจมากคันนึง มันคือ Bugatti ที่หนักมากแต่พร้อมรองรับความเร็ว ในย่านสูงๆ ถ้าคุณแข็งแรงพอเทียยบเท่ากับเครื่อง w16 ก็ซื้อมันมาขี่เถอะครับ ส่วนตัวผม
ผมร้สึกว่าขาตัวเองยังอ่อนไป ยังใช้มันได้ไม่เต็มความสามารถ ที่เค้าทำรถแน่นขนาดนี้ ผมเชื่อว่าเค้ารอง
รับความเร็วย่าน 50-60 บวกก สบายๆแน่นอน!!! ณ ความเร็วขนาดนั้น มันจะนุ่มมากและค้มค่า
แต่ถ้ามีงบสบายๆ และขี่แถวๆ 30-40 คณก็จะหล่อมาก ไปขี่เจอกลุ่มไหนก็ที่ไม่ไช่สนามเขียว คนก็จะ
ตะโกนสโต๊กๆๆ !!! ถ้าลองแล้วไม่เดือดร้อนใครแนะนำให้ลอง จะซื้อรถไม่ต้องเชื่อใครหรอกครับ
แม้กระทั้งที่ผมเขียน เพราะ เราอาจจะไม่ได้ใช้รถในลักษณะเดียวกัน และชื่นชอบเหมือนกัน
ฝากไว้ครับ อาจจะไม่ได้ช่วยอะไรเลย แต่น่าจะเห็นภาพและความเป็นจริงบางประการ
ขอให้มีความสุขกับ สตอค ครับ
-
- สมาชิก
- โพสต์: 4
- ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ธ.ค. 2013, 23:55
Re: Storck Scenero G2 เป็นรถที่ดีและคุ้มราคาไหมครับ
เป็นรถที่ประหลาดมากครับ และไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับ sempre pro(ไม่เคยขี่ infinito) ได้เลย เพราะ คนละโครงสร้างครับ นน.เยอะแต่เป็นที่มาของจุดได้เปรียบของ g2 เพราะรถนิ่งกว่า sempre pro 4-5เท่าเลย รถไม่ปราดเปรียวนักแต่เข้าโค้งแม่นมากขี่แล้วไม่ร้สึกก๊อง เพราะมันแน่นมากจนบางทีร้สึกอึดอัด มันเป๋็นรถที่พุุ่งมาก แต่ออกตัวช้ามาก งงไหม??แต่จริงครับ โครงสร้างเสถียรมาก
ความเร็ว
ณ ความเร็ว 30 กระชากข้ึน 50 นี่เฟรมตอบสนองได้ดีเหมือนความเร็ว 20 ขึ้น 30 เพราะมันแน่นมากจริงๆ ความเร็วยืน 40 นี่พี่สตอคเค้าเก็บได้ทกเม็ดจริงๆ ขี่ย่าวๆเหนือยน้อยกว่า แต่ผมยอมรับเลยว่าไม่เคยขี่ได้เกิน 55 km/hทั้งๆที่ เคยขี่ scott cr 1 ล้อขอบต่ำ ได้ 57.8 km/h แต่พอจะเข้าใจครับว่ากล้ามเนื้อผมยังแขงแรงไม่พอ เพราะเพิ่งเปลี่ยนล้อจาก mavic ksyrium เป็น hed stinger 5 แต่การทำความเร็วในช่วงความเรวระดับนี้กับรถ นน.ขนาดนี้มันน่าทึ่งมาก ยิ่งตอนยิงขึ้นสะพานข้ามแยกกับ hed ล่อไป32-36 km/h โดยที่เฟรมทำงานได้สะใจมาก แรงที่กดไปไม่ได้เสียไปไหนเลย ลงล้อครบจริงๆ ขึ้นปิ้นเกล้าเร็วสุด 31 km/h
ความสวย และ โครงสร้าง
งานคาร์บอนและเรซิ่นกินขาด เป็นเฟรมที่คิดเยอะ บางอย่างแอบใช้งานยาก มีสีน้ำเงินแต้มมาจากโรงงาน
ตามจุดเครื่องหมายการค้าต่างๆ อาจทำให้หาของแต่งเข้ากับรถได้ยาก และโครงสร้างมันประหลาด ท่อนั่ง 47 แต่ท่อนอน 52.5 ซึึ่งยาวมาก ถ้าเซทติ้งลงตัวก็ดีไป ถ้าตัวเล็กกว่า 165 หมดสิทธิ์ครับ
ความสบายใจและความสุุขใจในการใช้รถ
คนมักจะคาดหวังว่าเราต้องขาแรงออกแนวโดนหมันไส้นิดๆ
คนที่ขี่จักรยานจะคิดว่า แม่งอวดรวย
เวลาจอดที่ทำงานจะทรมานใจนิดๆ หาลงมาเห็นว่ามันไม่อย่ตำแหน่งเดิมจะวิตกจริต
ในกรณีล้มหรือ เกิดอบัติเหตแล้วต้องซ่อมเอง ก็คิดเอาเองละกันครับ แฮ่ๆ....
การเปรียบเทียบ
ถ้าหากจะเทียบต้องวัดกับมวยอย่าง s5(โคตรแข็ง) แต่นุ่มเหมือนขี่ r3(โคตรนุ่มถ้าเทียบกับ s5) ลงหลุมในกทมนี่ สบายมากครับ ล้อขอบต่ำ กับ g2 ผมขี่คนเดียวทำav ได้ 35.6 @ 21 km และขอบสูง (เพิ่งเปลี่ยน) วิ่งได้av 38.2 km/h ยังไม่เคยลองขี่หลัก ร้อยโล หลังๆนี้ไม่มีเวลาเลย เวลายืนโยกรถ
มันติดมือดีครับน้ำหนักตอนโยนรถซ้ายขวา ไม่เบาจะทำเราคลอนจนเกินไป แถมพุ่งมากอีกต่างหาก
โดยรวมแล้วมันเป็นรถที่ดีและประทับใจมากคันนึง มันคือ Bugatti ที่หนักมากแต่พร้อมรองรับความเร็ว ในย่านสูงๆ ถ้าคุณแข็งแรงพอเทียยบเท่ากับเครื่อง w16 ก็ซื้อมันมาขี่เถอะครับ ส่วนตัวผม
ผมร้สึกว่าขาตัวเองยังอ่อนไป ยังใช้มันได้ไม่เต็มความสามารถ ที่เค้าทำรถแน่นขนาดนี้ ผมเชื่อว่าเค้ารอง
รับความเร็วย่าน 50-60 บวกก สบายๆแน่นอน!!! ณ ความเร็วขนาดนั้น มันจะนุ่มมากและค้มค่า
แต่ถ้ามีงบสบายๆ และขี่แถวๆ 30-40 คณก็จะหล่อมาก ไปขี่เจอกลุ่มไหนก็ที่ไม่ไช่สนามเขียว คนก็จะ
ตะโกนสโต๊กๆๆ !!! ถ้าลองแล้วไม่เดือดร้อนใครแนะนำให้ลอง จะซื้อรถไม่ต้องเชื่อใครหรอกครับ
แม้กระทั้งที่ผมเขียน เพราะ เราอาจจะไม่ได้ใช้รถในลักษณะเดียวกัน และชื่นชอบเหมือนกัน
ฝากไว้ครับ อาจจะไม่ได้ช่วยอะไรเลย แต่น่าจะเห็นภาพและความเป็นจริงบางประการ
ขอให้มีความสุขกับ สตอค ครับ
ความเร็ว
ณ ความเร็ว 30 กระชากข้ึน 50 นี่เฟรมตอบสนองได้ดีเหมือนความเร็ว 20 ขึ้น 30 เพราะมันแน่นมากจริงๆ ความเร็วยืน 40 นี่พี่สตอคเค้าเก็บได้ทกเม็ดจริงๆ ขี่ย่าวๆเหนือยน้อยกว่า แต่ผมยอมรับเลยว่าไม่เคยขี่ได้เกิน 55 km/hทั้งๆที่ เคยขี่ scott cr 1 ล้อขอบต่ำ ได้ 57.8 km/h แต่พอจะเข้าใจครับว่ากล้ามเนื้อผมยังแขงแรงไม่พอ เพราะเพิ่งเปลี่ยนล้อจาก mavic ksyrium เป็น hed stinger 5 แต่การทำความเร็วในช่วงความเรวระดับนี้กับรถ นน.ขนาดนี้มันน่าทึ่งมาก ยิ่งตอนยิงขึ้นสะพานข้ามแยกกับ hed ล่อไป32-36 km/h โดยที่เฟรมทำงานได้สะใจมาก แรงที่กดไปไม่ได้เสียไปไหนเลย ลงล้อครบจริงๆ ขึ้นปิ้นเกล้าเร็วสุด 31 km/h
ความสวย และ โครงสร้าง
งานคาร์บอนและเรซิ่นกินขาด เป็นเฟรมที่คิดเยอะ บางอย่างแอบใช้งานยาก มีสีน้ำเงินแต้มมาจากโรงงาน
ตามจุดเครื่องหมายการค้าต่างๆ อาจทำให้หาของแต่งเข้ากับรถได้ยาก และโครงสร้างมันประหลาด ท่อนั่ง 47 แต่ท่อนอน 52.5 ซึึ่งยาวมาก ถ้าเซทติ้งลงตัวก็ดีไป ถ้าตัวเล็กกว่า 165 หมดสิทธิ์ครับ
ความสบายใจและความสุุขใจในการใช้รถ
คนมักจะคาดหวังว่าเราต้องขาแรงออกแนวโดนหมันไส้นิดๆ
คนที่ขี่จักรยานจะคิดว่า แม่งอวดรวย
เวลาจอดที่ทำงานจะทรมานใจนิดๆ หาลงมาเห็นว่ามันไม่อย่ตำแหน่งเดิมจะวิตกจริต
ในกรณีล้มหรือ เกิดอบัติเหตแล้วต้องซ่อมเอง ก็คิดเอาเองละกันครับ แฮ่ๆ....
การเปรียบเทียบ
ถ้าหากจะเทียบต้องวัดกับมวยอย่าง s5(โคตรแข็ง) แต่นุ่มเหมือนขี่ r3(โคตรนุ่มถ้าเทียบกับ s5) ลงหลุมในกทมนี่ สบายมากครับ ล้อขอบต่ำ กับ g2 ผมขี่คนเดียวทำav ได้ 35.6 @ 21 km และขอบสูง (เพิ่งเปลี่ยน) วิ่งได้av 38.2 km/h ยังไม่เคยลองขี่หลัก ร้อยโล หลังๆนี้ไม่มีเวลาเลย เวลายืนโยกรถ
มันติดมือดีครับน้ำหนักตอนโยนรถซ้ายขวา ไม่เบาจะทำเราคลอนจนเกินไป แถมพุ่งมากอีกต่างหาก
โดยรวมแล้วมันเป็นรถที่ดีและประทับใจมากคันนึง มันคือ Bugatti ที่หนักมากแต่พร้อมรองรับความเร็ว ในย่านสูงๆ ถ้าคุณแข็งแรงพอเทียยบเท่ากับเครื่อง w16 ก็ซื้อมันมาขี่เถอะครับ ส่วนตัวผม
ผมร้สึกว่าขาตัวเองยังอ่อนไป ยังใช้มันได้ไม่เต็มความสามารถ ที่เค้าทำรถแน่นขนาดนี้ ผมเชื่อว่าเค้ารอง
รับความเร็วย่าน 50-60 บวกก สบายๆแน่นอน!!! ณ ความเร็วขนาดนั้น มันจะนุ่มมากและค้มค่า
แต่ถ้ามีงบสบายๆ และขี่แถวๆ 30-40 คณก็จะหล่อมาก ไปขี่เจอกลุ่มไหนก็ที่ไม่ไช่สนามเขียว คนก็จะ
ตะโกนสโต๊กๆๆ !!! ถ้าลองแล้วไม่เดือดร้อนใครแนะนำให้ลอง จะซื้อรถไม่ต้องเชื่อใครหรอกครับ
แม้กระทั้งที่ผมเขียน เพราะ เราอาจจะไม่ได้ใช้รถในลักษณะเดียวกัน และชื่นชอบเหมือนกัน
ฝากไว้ครับ อาจจะไม่ได้ช่วยอะไรเลย แต่น่าจะเห็นภาพและความเป็นจริงบางประการ
ขอให้มีความสุขกับ สตอค ครับ
- ClassiccizzalD
- ขาประจำ
- โพสต์: 257
- ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2015, 07:11
- Bike: Canyon Aeroad cf slx
Re: Storck Scenero G2 เป็นรถที่ดีและคุ้มราคาไหมครับ
แหม่พี่ได้ค่าโฆษณาปะครับ (แซวเล่นนะครับ ) เล่นซะผมคันไม้คันมืออยากมี storck มาควบเลยที่เดียว 5555555 ยิ่งชอบรถบึกบึน นุ่มๆหนึบๆ อยู่ซะด้วยmonkamolsilp เขียน:เป็นรถที่ประหลาดมากครับ และไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับ sempre pro(ไม่เคยขี่ infinito) ได้เลย เพราะ คนละโครงสร้างครับ นน.เยอะแต่เป็นที่มาของจุดได้เปรียบของ g2 เพราะรถนิ่งกว่า sempre pro 4-5เท่าเลย รถไม่ปราดเปรียวนักแต่เข้าโค้งแม่นมากขี่แล้วไม่ร้สึกก๊อง เพราะมันแน่นมากจนบางทีร้สึกอึดอัด มันเป๋็นรถที่พุุ่งมาก แต่ออกตัวช้ามาก งงไหม??แต่จริงครับ โครงสร้างเสถียรมาก
ความเร็ว
ณ ความเร็ว 30 กระชากข้ึน 50 นี่เฟรมตอบสนองได้ดีเหมือนความเร็ว 20 ขึ้น 30 เพราะมันแน่นมากจริงๆ ความเร็วยืน 40 นี่พี่สตอคเค้าเก็บได้ทกเม็ดจริงๆ ขี่ย่าวๆเหนือยน้อยกว่า แต่ผมยอมรับเลยว่าไม่เคยขี่ได้เกิน 55 km/hทั้งๆที่ เคยขี่ scott cr 1 ล้อขอบต่ำ ได้ 57.8 km/h แต่พอจะเข้าใจครับว่ากล้ามเนื้อผมยังแขงแรงไม่พอ เพราะเพิ่งเปลี่ยนล้อจาก mavic ksyrium เป็น hed stinger 5 แต่การทำความเร็วในช่วงความเรวระดับนี้กับรถ นน.ขนาดนี้มันน่าทึ่งมาก ยิ่งตอนยิงขึ้นสะพานข้ามแยกกับ hed ล่อไป32-36 km/h โดยที่เฟรมทำงานได้สะใจมาก แรงที่กดไปไม่ได้เสียไปไหนเลย ลงล้อครบจริงๆ ขึ้นปิ้นเกล้าเร็วสุด 31 km/h
ความสวย และ โครงสร้าง
งานคาร์บอนและเรซิ่นกินขาด เป็นเฟรมที่คิดเยอะ บางอย่างแอบใช้งานยาก มีสีน้ำเงินแต้มมาจากโรงงาน
ตามจุดเครื่องหมายการค้าต่างๆ อาจทำให้หาของแต่งเข้ากับรถได้ยาก และโครงสร้างมันประหลาด ท่อนั่ง 47 แต่ท่อนอน 52.5 ซึึ่งยาวมาก ถ้าเซทติ้งลงตัวก็ดีไป ถ้าตัวเล็กกว่า 165 หมดสิทธิ์ครับ
ความสบายใจและความสุุขใจในการใช้รถ
คนมักจะคาดหวังว่าเราต้องขาแรงออกแนวโดนหมันไส้นิดๆ
คนที่ขี่จักรยานจะคิดว่า แม่งอวดรวย
เวลาจอดที่ทำงานจะทรมานใจนิดๆ หาลงมาเห็นว่ามันไม่อย่ตำแหน่งเดิมจะวิตกจริต
ในกรณีล้มหรือ เกิดอบัติเหตแล้วต้องซ่อมเอง ก็คิดเอาเองละกันครับ แฮ่ๆ....
การเปรียบเทียบ
ถ้าหากจะเทียบต้องวัดกับมวยอย่าง s5(โคตรแข็ง) แต่นุ่มเหมือนขี่ r3(โคตรนุ่มถ้าเทียบกับ s5) ลงหลุมในกทมนี่ สบายมากครับ ล้อขอบต่ำ กับ g2 ผมขี่คนเดียวทำav ได้ 35.6 @ 21 km และขอบสูง (เพิ่งเปลี่ยน) วิ่งได้av 38.2 km/h ยังไม่เคยลองขี่หลัก ร้อยโล หลังๆนี้ไม่มีเวลาเลย เวลายืนโยกรถ
มันติดมือดีครับน้ำหนักตอนโยนรถซ้ายขวา ไม่เบาจะทำเราคลอนจนเกินไป แถมพุ่งมากอีกต่างหาก
โดยรวมแล้วมันเป็นรถที่ดีและประทับใจมากคันนึง มันคือ Bugatti ที่หนักมากแต่พร้อมรองรับความเร็ว ในย่านสูงๆ ถ้าคุณแข็งแรงพอเทียยบเท่ากับเครื่อง w16 ก็ซื้อมันมาขี่เถอะครับ ส่วนตัวผม
ผมร้สึกว่าขาตัวเองยังอ่อนไป ยังใช้มันได้ไม่เต็มความสามารถ ที่เค้าทำรถแน่นขนาดนี้ ผมเชื่อว่าเค้ารอง
รับความเร็วย่าน 50-60 บวกก สบายๆแน่นอน!!! ณ ความเร็วขนาดนั้น มันจะนุ่มมากและค้มค่า
แต่ถ้ามีงบสบายๆ และขี่แถวๆ 30-40 คณก็จะหล่อมาก ไปขี่เจอกลุ่มไหนก็ที่ไม่ไช่สนามเขียว คนก็จะ
ตะโกนสโต๊กๆๆ !!! ถ้าลองแล้วไม่เดือดร้อนใครแนะนำให้ลอง จะซื้อรถไม่ต้องเชื่อใครหรอกครับ
แม้กระทั้งที่ผมเขียน เพราะ เราอาจจะไม่ได้ใช้รถในลักษณะเดียวกัน และชื่นชอบเหมือนกัน
ฝากไว้ครับ อาจจะไม่ได้ช่วยอะไรเลย แต่น่าจะเห็นภาพและความเป็นจริงบางประการ
ขอให้มีความสุขกับ สตอค ครับ
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 933
- ลงทะเบียนเมื่อ: 24 มิ.ย. 2013, 11:21
- Tel: 0875576081
- Bike: orbea oiz , cannondale super six , Giant TCR advanced , Giant TCR Composite , swift RS-1 , swift Ti Drapac , Sarto Lampo
- ติดต่อ:
Re: Storck Scenero G2 เป็นรถที่ดีและคุ้มราคาไหมครับ
อาจจะไม่เกี่ยวกับหัวกระทู้แต่เห็นว่าเป็น 1 ในตัวเลือก ผมเลยก๊อปข้อความที่ผมเคยเขียนไว้แบบบ้านๆมาให้อ่านเล่นๆครับ เพราะตัวเลือกอื่นที่ จขกท มีไว้ในใจกับ สตอค ผมไม่เคยลอง
ประสบการณ์ที่ได้เป็นเจ้าของ swift ULTRAVOX TI (DRAPAC)
หลังจากผ่านการปั่นจักรยานเสือหมอบมาได้ซักระยะนึง
ก่อนหน้านี้ยอมรับเลยว่าไม่เคยรู้จัก จักรยานยี่ห้อ swift มาก่อน
ก็เลยเลือกใช้จักรยานแบรนด์ตลาดทั่วไปที่คนนิยม เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา วนเวียน ตามกระแส...ระดับเฟรมที่ผมเลือกใช้ในตอนแรกจะอยู่ในระดับกลางถึงเกือบท๊อปของแต่ล่ะแบรนด์
เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาชักรำคาญตัวเองที่มัวแต่วุ่นวายเรื่องอุปกรณ์ทำให้มีความรู้สึกว่าทำไมไม่จบซักทีกับเรื่องนี้
...จึงเริ่มมองหาอะไรที่จะทำให้เรารู้สึก''จบ''ได้...หรือขอให้อย่างน้อยก็ในช่วงระยะเวลายาวๆที่เราจะไม่มานั่งวุ่นวายกับความรู้สึกร้อนรนมองหาจักรยานใหม่ๆอีก
swift เข้ามาในชีวิตผมจากการที่ผมเห็นมีคนมาขายเฟรม ULTRAVOX RS-1 ในบอร์ดซื้อขายมือสอง...แว่บแรกที่เห็น เฮ้ยเฟรมอะไรทำไมสวยจัง(ผมเป็นคนที่ชอบหมอบทรงเทรดดิชั่นเป็นทุนเดิม)แถมราคาที่เค้าขายก็ถูกมากเพราะเลิกปั่น เลยรีบหาข้อมูลจักรยานยี่ห้อนี้ทันที หลังจาก1คืนที่ผมหาข้อมูลของยี่ห้อนี้ ผมรู้สึกรัก swift ขึ้นมา...หลายเรื่องที่ผมประทับใจ...
Mark Blewett คนก่อตั้งแบรนด์เป็นนักปั่นมาก่อน ทดสอบ ทำงานร่วมกับวิศวกร เค้ายกทีมทั้งหมดไปที่ไต้หวันเลยเพื่อที่โมลด์เฟรมเสร็จก็จับปั่นทดสอบแถวๆโรงงานตัวเองได้เลย ไม่ต้องส่งข้ามน้ำข้ามทะเลไปทดสอบที่อื่นอีกให้เสียเวลา การแก้ไขปรับปรุงเก็บรายละเอียดข้อผิดพลาด โปรดักส์ ทำได้รวดเร็วประหยัดเวลา
swift ไม่เคยคิดจะปิดบังเหมือนพวกแบรนด์ใหญ่ๆหลายๆแบรนด์ที่ชอบบอกว่าโปรดักส์ตัวเองทำใน อเมริกา หรือ ยุโรป (made in...)swift บอกเลยว่าจบทุกขั้นตอนการผลิตที่ไต้หวัน
ให้ bikeradarเยี่ยมชมโรงงานแบบละเอียดไม่เหมือนแบรนด์อื่นที่งุบงิบตัวเองไม่กล้าเปิดตัวเองว่าทำในเอเซีย
นักทดสอบให้ข้อเสียกับ swift แค่เรื่องเดียวคือ For those of you who want the distinction of "Made in Italy", this isn't for you.
Mark Blewett ตรวจสอบเฟรมทุกเฟรมเองกับมือก่อนส่งขาย
หรือคำว่า ULTRAVOX มาจากวงดนตรีที่ Mark Blewett ชื่นชอบ(เกี่ยวไหม)
เอาแค่นี้เช้ามาผมก็เลยติดต่อซื้อ ULTRAVOX RS-1 มาลอง
หลังจากลองประกอบและปั่น RS-1 เกิดความประทับใจทันทีทั้งเรื่อง รูปทรง ความสติฟที่ได้ ความสวยงามของการออกแบบเฟรม งานสีที่ละเอียด นำหนัก มันคุ้มค่ามากๆกับราคาที่ผมได้มา
ข้อเสียที่ผมรู้สึกได้คือ RS-1 ยังส่งความรู้สึกย้วยนิดๆมาที่ผมเวลาโยกแต่ก็ไม่ได้เสียหายมากมายอะไร ความประทับใจโดยรวมมันส่งผลทำให้ผมอยากสัมผัสรุ่นท๊อปของ swift ขึ้นมาทันที...นี่ก็ผิดจากคอนเซ็ปตอนแรกอีกแล้วว่าอยากจบฮ่าๆๆๆ
เลยติดต่อทางตัวแทน ซึ่งบอกกลับมาว่ามีตัวสีทีม DRAPAC แขวนโชว์อยู่ตัวเดียว ผมอยากได้ตัวนี้อยู่พอดี ไซ้ส์ก็ถูกระเบียบสำหรับผม จึงสอยมันลงมาประกอบเพื่อสนองตัณหาตัวเองอีกครั้งหนึ่ง
ในที่สุดผมก็ได้สัมผัสตัวท๊อปของแบรนด์ซักทีในงบที่ประหยัดลงมาได้อย่างมาก คุณจะหาราคานี้จากตัวท๊อปของแบรนด์อื่นไม่ได้แน่นอน
เฟรมที่โปรใช้ในการแข่งขันจริงในราคาที่จับต้องได้ นักวิจารณ์ทุกสำนักเทคะแนนให้สูงมากในการทดสอบ การใส่ใจตรวจสอบคุณภาพของ Mark Blewett
งานสีที่ละเอียดแบบสุดๆ การให้ความสำคัญกับจุดเล็กน้อยเช่น drop out ที่เป็นไททาเนี่ยม รวมไปถึง graphics design ในตัวเฟรมที่ใช้ typography เป็นหลัก มันดูดีมากๆในสายตา graphic designer แบบผม
สิ่งเหล่านี้เป็นส่วนเสริมให้กับผลที่ได้จากการปั่น ULTRAVOX TI ของผมมีความพิเศษยิ่งขึ้น
ในตอนแรกผมกังวลว่าความรู้สึกติดย้วยนิดๆจาก rs-1 จะมา TI ไหมเพราะจีโอเมททรี่เดียวกันเป๊ะๆแต่การผสมเกรดคาร์บอน Toray 700, 800 & 1000 อย่างลงตัว ทำให้ข้อเสียเดียวที่ผมรู้สึกกลัวในตอนแรกหมดลงทันที
ความสบายในการปั่น endurance บวกกับความสตริฟ ส่งต่อไปที่ความพุ่ง การกดกระชาก เร่งแซง ความเสถียรตอนเข้าโค้ง จะขึ้นเขาไหลลงเนิน ปั่นทางราบ ULTRAVOX TI มอบความรู้สึกด้านบวกให้กับผมทุกข้อ
ULTRAVOX TI คือหนึ่งในรถ all around ของจริงสำหรับผม ผมหยุดความต้องการในกิเลสที่อยากจะมีรถ aero ตามสมัยนิยมได้เพราะ TI ทำให้มั่นใจว่าอยากจะเร็วกว่านี้ก็แรงตัวเองล่ะไม่ใช่อุปกรณ์
ผมปั่น endurance ยาวๆได้สบายพอๆกับรถ endurance แท้ๆแบบพวก tcr
โดยรวมทั้งหมดมันทำให้ความรู้สึกที่ว่าต้อง ''จบ'' ของผมมันเป็นไปได้แล้ว ถึงจะอยากมีใหม่ในวันข้างหน้ากับแบรนด์อื่นก็คงไม่ขายคันนี้ทิ้ง เพราะจากที่สัมผัส เชื่อว่า Mark Blewett ทุ่มสุดตัวใส่ทุกอย่างลงไปด้วยใจใน ULTRAVOX TI เพื่อให้เป็นเรือธงของ swift อย่างเต็มภาคภูมิ
ในวันข้างหน้าหาก swift โตขึ้นจนติดตลาดแล้วโดนโลกทุนนิยมกลืน concept แรกๆของ Mark Blewett ไป อย่างน้อยผมก็ยังภูมิใจว่าเป็นเจ้าของชิ้นงานในช่วงเวลาที่ swift ผลิตชิ้นงานด้วยใจจริงๆ
ยาวหน่อยก็เพื่ออยากจะให้การแชร์ ประสบการณ์ที่ได้เป็นเจ้าของ swift ULTRAVOX TI (DRAPAC) มีที่มาที่ไปมากกว่าจะมาแชร์ลอยๆอวยรถตัวเองครับ เป็นความเห็นส่วนตัวจากนักปั่นบ้านๆเท่านั้นน่ะครับผิดถูกประการใดต้องขออภัย
ประสบการณ์ที่ได้เป็นเจ้าของ swift ULTRAVOX TI (DRAPAC)
หลังจากผ่านการปั่นจักรยานเสือหมอบมาได้ซักระยะนึง
ก่อนหน้านี้ยอมรับเลยว่าไม่เคยรู้จัก จักรยานยี่ห้อ swift มาก่อน
ก็เลยเลือกใช้จักรยานแบรนด์ตลาดทั่วไปที่คนนิยม เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา วนเวียน ตามกระแส...ระดับเฟรมที่ผมเลือกใช้ในตอนแรกจะอยู่ในระดับกลางถึงเกือบท๊อปของแต่ล่ะแบรนด์
เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาชักรำคาญตัวเองที่มัวแต่วุ่นวายเรื่องอุปกรณ์ทำให้มีความรู้สึกว่าทำไมไม่จบซักทีกับเรื่องนี้
...จึงเริ่มมองหาอะไรที่จะทำให้เรารู้สึก''จบ''ได้...หรือขอให้อย่างน้อยก็ในช่วงระยะเวลายาวๆที่เราจะไม่มานั่งวุ่นวายกับความรู้สึกร้อนรนมองหาจักรยานใหม่ๆอีก
swift เข้ามาในชีวิตผมจากการที่ผมเห็นมีคนมาขายเฟรม ULTRAVOX RS-1 ในบอร์ดซื้อขายมือสอง...แว่บแรกที่เห็น เฮ้ยเฟรมอะไรทำไมสวยจัง(ผมเป็นคนที่ชอบหมอบทรงเทรดดิชั่นเป็นทุนเดิม)แถมราคาที่เค้าขายก็ถูกมากเพราะเลิกปั่น เลยรีบหาข้อมูลจักรยานยี่ห้อนี้ทันที หลังจาก1คืนที่ผมหาข้อมูลของยี่ห้อนี้ ผมรู้สึกรัก swift ขึ้นมา...หลายเรื่องที่ผมประทับใจ...
Mark Blewett คนก่อตั้งแบรนด์เป็นนักปั่นมาก่อน ทดสอบ ทำงานร่วมกับวิศวกร เค้ายกทีมทั้งหมดไปที่ไต้หวันเลยเพื่อที่โมลด์เฟรมเสร็จก็จับปั่นทดสอบแถวๆโรงงานตัวเองได้เลย ไม่ต้องส่งข้ามน้ำข้ามทะเลไปทดสอบที่อื่นอีกให้เสียเวลา การแก้ไขปรับปรุงเก็บรายละเอียดข้อผิดพลาด โปรดักส์ ทำได้รวดเร็วประหยัดเวลา
swift ไม่เคยคิดจะปิดบังเหมือนพวกแบรนด์ใหญ่ๆหลายๆแบรนด์ที่ชอบบอกว่าโปรดักส์ตัวเองทำใน อเมริกา หรือ ยุโรป (made in...)swift บอกเลยว่าจบทุกขั้นตอนการผลิตที่ไต้หวัน
ให้ bikeradarเยี่ยมชมโรงงานแบบละเอียดไม่เหมือนแบรนด์อื่นที่งุบงิบตัวเองไม่กล้าเปิดตัวเองว่าทำในเอเซีย
นักทดสอบให้ข้อเสียกับ swift แค่เรื่องเดียวคือ For those of you who want the distinction of "Made in Italy", this isn't for you.
Mark Blewett ตรวจสอบเฟรมทุกเฟรมเองกับมือก่อนส่งขาย
หรือคำว่า ULTRAVOX มาจากวงดนตรีที่ Mark Blewett ชื่นชอบ(เกี่ยวไหม)
เอาแค่นี้เช้ามาผมก็เลยติดต่อซื้อ ULTRAVOX RS-1 มาลอง
หลังจากลองประกอบและปั่น RS-1 เกิดความประทับใจทันทีทั้งเรื่อง รูปทรง ความสติฟที่ได้ ความสวยงามของการออกแบบเฟรม งานสีที่ละเอียด นำหนัก มันคุ้มค่ามากๆกับราคาที่ผมได้มา
ข้อเสียที่ผมรู้สึกได้คือ RS-1 ยังส่งความรู้สึกย้วยนิดๆมาที่ผมเวลาโยกแต่ก็ไม่ได้เสียหายมากมายอะไร ความประทับใจโดยรวมมันส่งผลทำให้ผมอยากสัมผัสรุ่นท๊อปของ swift ขึ้นมาทันที...นี่ก็ผิดจากคอนเซ็ปตอนแรกอีกแล้วว่าอยากจบฮ่าๆๆๆ
เลยติดต่อทางตัวแทน ซึ่งบอกกลับมาว่ามีตัวสีทีม DRAPAC แขวนโชว์อยู่ตัวเดียว ผมอยากได้ตัวนี้อยู่พอดี ไซ้ส์ก็ถูกระเบียบสำหรับผม จึงสอยมันลงมาประกอบเพื่อสนองตัณหาตัวเองอีกครั้งหนึ่ง
ในที่สุดผมก็ได้สัมผัสตัวท๊อปของแบรนด์ซักทีในงบที่ประหยัดลงมาได้อย่างมาก คุณจะหาราคานี้จากตัวท๊อปของแบรนด์อื่นไม่ได้แน่นอน
เฟรมที่โปรใช้ในการแข่งขันจริงในราคาที่จับต้องได้ นักวิจารณ์ทุกสำนักเทคะแนนให้สูงมากในการทดสอบ การใส่ใจตรวจสอบคุณภาพของ Mark Blewett
งานสีที่ละเอียดแบบสุดๆ การให้ความสำคัญกับจุดเล็กน้อยเช่น drop out ที่เป็นไททาเนี่ยม รวมไปถึง graphics design ในตัวเฟรมที่ใช้ typography เป็นหลัก มันดูดีมากๆในสายตา graphic designer แบบผม
สิ่งเหล่านี้เป็นส่วนเสริมให้กับผลที่ได้จากการปั่น ULTRAVOX TI ของผมมีความพิเศษยิ่งขึ้น
ในตอนแรกผมกังวลว่าความรู้สึกติดย้วยนิดๆจาก rs-1 จะมา TI ไหมเพราะจีโอเมททรี่เดียวกันเป๊ะๆแต่การผสมเกรดคาร์บอน Toray 700, 800 & 1000 อย่างลงตัว ทำให้ข้อเสียเดียวที่ผมรู้สึกกลัวในตอนแรกหมดลงทันที
ความสบายในการปั่น endurance บวกกับความสตริฟ ส่งต่อไปที่ความพุ่ง การกดกระชาก เร่งแซง ความเสถียรตอนเข้าโค้ง จะขึ้นเขาไหลลงเนิน ปั่นทางราบ ULTRAVOX TI มอบความรู้สึกด้านบวกให้กับผมทุกข้อ
ULTRAVOX TI คือหนึ่งในรถ all around ของจริงสำหรับผม ผมหยุดความต้องการในกิเลสที่อยากจะมีรถ aero ตามสมัยนิยมได้เพราะ TI ทำให้มั่นใจว่าอยากจะเร็วกว่านี้ก็แรงตัวเองล่ะไม่ใช่อุปกรณ์
ผมปั่น endurance ยาวๆได้สบายพอๆกับรถ endurance แท้ๆแบบพวก tcr
โดยรวมทั้งหมดมันทำให้ความรู้สึกที่ว่าต้อง ''จบ'' ของผมมันเป็นไปได้แล้ว ถึงจะอยากมีใหม่ในวันข้างหน้ากับแบรนด์อื่นก็คงไม่ขายคันนี้ทิ้ง เพราะจากที่สัมผัส เชื่อว่า Mark Blewett ทุ่มสุดตัวใส่ทุกอย่างลงไปด้วยใจใน ULTRAVOX TI เพื่อให้เป็นเรือธงของ swift อย่างเต็มภาคภูมิ
ในวันข้างหน้าหาก swift โตขึ้นจนติดตลาดแล้วโดนโลกทุนนิยมกลืน concept แรกๆของ Mark Blewett ไป อย่างน้อยผมก็ยังภูมิใจว่าเป็นเจ้าของชิ้นงานในช่วงเวลาที่ swift ผลิตชิ้นงานด้วยใจจริงๆ
ยาวหน่อยก็เพื่ออยากจะให้การแชร์ ประสบการณ์ที่ได้เป็นเจ้าของ swift ULTRAVOX TI (DRAPAC) มีที่มาที่ไปมากกว่าจะมาแชร์ลอยๆอวยรถตัวเองครับ เป็นความเห็นส่วนตัวจากนักปั่นบ้านๆเท่านั้นน่ะครับผิดถูกประการใดต้องขออภัย
- punya467
- ขาประจำ
- โพสต์: 2222
- ลงทะเบียนเมื่อ: 02 เม.ย. 2012, 14:55
- team: Rayong road bike, On/Off cycling
- Bike: NICH LTD
Re: Storck Scenero G2 เป็นรถที่ดีและคุ้มราคาไหมครับ
อ่านรีวิว 2 คันนี้เข้าไป ถ้าผมเป็น จขกท นี่คงถึงขั้นเลือกไม่ถูกเลยทีเดียว
ลูกเผลอแล้วเจอกัน
- infer007
- ขาประจำ
- โพสต์: 168
- ลงทะเบียนเมื่อ: 03 มิ.ย. 2013, 13:41
- Bike: Specialized Tarmac comp 2012, BMC TMR01 2014, Dogma F8
Re: Storck Scenero G2 เป็นรถที่ดีและคุ้มราคาไหมครับ
ราคา G2 มันมีตัวเลือกให้เล่นหลายตัวเลย(ที่ดีกว่า) ถ้าใจรักจริงก็จัด G2 ครับ เท่าที่ตามๆอ่านมา G2 รู้สึกจะตื้อๆแต่นิ่งลงเขาเข้าโค้งนิ่ง ซับแรงสะเทือนดีนุ่ม
- Bkkbikelove
- ขาประจำ
- โพสต์: 1010
- ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ส.ค. 2008, 12:30
- Tel: 089xxxxxxx
- Bike: Thorn Raven, Principia, GT Grade carbon
Re: Storck Scenero G2 เป็นรถที่ดีและคุ้มราคาไหมครับ
รีวิวจักรยานนี่ชักจะเหมือนเครื่องเสียงเข้าไปทุกที
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 933
- ลงทะเบียนเมื่อ: 24 มิ.ย. 2013, 11:21
- Tel: 0875576081
- Bike: orbea oiz , cannondale super six , Giant TCR advanced , Giant TCR Composite , swift RS-1 , swift Ti Drapac , Sarto Lampo
- ติดต่อ:
Re: Storck Scenero G2 เป็นรถที่ดีและคุ้มราคาไหมครับ
ของผมนี่มโนซ่ะเย่อะครับพี่Bkkbikelove เขียน:รีวิวจักรยานนี่ชักจะเหมือนเครื่องเสียงเข้าไปทุกที
- pomroland
- ขาประจำ
- โพสต์: 2756
- ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2013, 00:19
- Bike: Specialized
Re: Storck Scenero G2 เป็นรถที่ดีและคุ้มราคาไหมครับ
อ่านแล้ว เหมือยถูกสะกดเลยจิตเลย เคลิ้ม
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 880
- ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ต.ค. 2013, 17:53
- Bike: Trek Domane SLR
Re: Storck Scenero G2 เป็นรถที่ดีและคุ้มราคาไหมครับ
ความชอบของคนเรามันต่างกันครับ
ส่วนตัวผมไม่เคยปั่น G2 เพราะดูจาก geometry แล้ว size เล็กสุดก็คงไม่เหมาะกับผม ซึ่งขายาวแต่ช่วงตัวสั้น
แต่ความคิดผมคือราคามันได้ ตัว top ของหลายรุ่น ทั้งๆที่มันเป็นรุ่นเริ่มต้น แต่ไม่ได้จะบอกว่ามันจะขี่ไม่ได้ดีกว่านะครับ
ส่วนตัวผมไม่เคยปั่น G2 เพราะดูจาก geometry แล้ว size เล็กสุดก็คงไม่เหมาะกับผม ซึ่งขายาวแต่ช่วงตัวสั้น
แต่ความคิดผมคือราคามันได้ ตัว top ของหลายรุ่น ทั้งๆที่มันเป็นรุ่นเริ่มต้น แต่ไม่ได้จะบอกว่ามันจะขี่ไม่ได้ดีกว่านะครับ
- O2
- ขาประจำ
- โพสต์: 763
- ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ส.ค. 2008, 07:42
- Tel: 0998185288
- Bike: Argon Krypton / Pinarello Razha/Focus Cayo / Giant TCR Advanced / Specialized Tarmac SL2 / Giant TCR Composite / Giant TCR Aluxx / Cannondale CADD 10 / Cannondale F500 / Jamis XC Pro / Merida Espresso
Re: Storck Scenero G2 เป็นรถที่ดีและคุ้มราคาไหมครับ
ผมเนี่ยดั่งต้องมนต์สะกดจากการรีวิวของทั้ง 2 ท่านเลยครับ
Line ID: booksland
Facebook: https://www.facebook.com/wasin.booksland
Facebook: https://www.facebook.com/wasin.booksland
- peehung
- ขาประจำ
- โพสต์: 169
- ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2013, 09:04
- Bike: storck g1
Re: Storck Scenero G2 เป็นรถที่ดีและคุ้มราคาไหมครับ
โดนส่วนตัวแล้วผมไม่เคยลองตัว G2 นะครับแต่ลองตัว G1 ประทับใจสต๊อคมากครับวันแรกที่ลองปั่นบอกเลยว่ามันเบามาก(G1) และนุ่มสบายแต่พุ่ง(เค้าว่าเป็นบุคลิคของสต๊อคในทุกรุ่นแต่มีคนแอบบอกว่าG2จะพุ่งน้อยกว่าG1)ผมเองก่อนจะเลือกสต๊อคผมก็ดูมาหลายตัวเลือกแล้วเลือกอีก ทั้ง f8 แคนย่อน แต่สุดท้ายผมชอบสต๊อคเลยเลือกครับแล้วตัวแทน BIBดูแลดีมากครับ(ไม่ได้ค่าโฆษณานะครับแต่เค้าดีจริงก็ต้องเอ่ยชมครับ)ถ้าเจ้าของกระทู้ชอบสต๊อคซื้อเถอะครับซื้อรถที่เราชอบเราจะอยากออกปั่นมากขึ้นอยากปั่นบ่อยเพื่อพัฒนาตัวเองให้ใช้รถอย่างคุ้มค่ามากที่สุดครับ...ขอให้ได้รถที่ถูกใจวัยๆนะครับแอบเชียร์ไป G1 ครับเพราะเบา..นุ่ม พุ่งและตัดลมได้ดีมากครับ
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 195
- ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ม.ค. 2014, 18:26
Re: Storck Scenero G2 เป็นรถที่ดีและคุ้มราคาไหมครับ
เกือบจะเคลิ้มตามแล้ว ถ้าไม่ติดว่ามีเฟรมScenero G2ที่ยังประกอบไม่เสร็จอยู่............sexton เขียน:อาจจะไม่เกี่ยวกับหัวกระทู้แต่เห็นว่าเป็น 1 ในตัวเลือก ผมเลยก๊อปข้อความที่ผมเคยเขียนไว้แบบบ้านๆมาให้อ่านเล่นๆครับ เพราะตัวเลือกอื่นที่ จขกท มีไว้ในใจกับ สตอค ผมไม่เคยลอง
ประสบการณ์ที่ได้เป็นเจ้าของ swift ULTRAVOX TI (DRAPAC)
หลังจากผ่านการปั่นจักรยานเสือหมอบมาได้ซักระยะนึง
ก่อนหน้านี้ยอมรับเลยว่าไม่เคยรู้จัก จักรยานยี่ห้อ swift มาก่อน
ก็เลยเลือกใช้จักรยานแบรนด์ตลาดทั่วไปที่คนนิยม เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา วนเวียน ตามกระแส...ระดับเฟรมที่ผมเลือกใช้ในตอนแรกจะอยู่ในระดับกลางถึงเกือบท๊อปของแต่ล่ะแบรนด์
เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาชักรำคาญตัวเองที่มัวแต่วุ่นวายเรื่องอุปกรณ์ทำให้มีความรู้สึกว่าทำไมไม่จบซักทีกับเรื่องนี้
...จึงเริ่มมองหาอะไรที่จะทำให้เรารู้สึก''จบ''ได้...หรือขอให้อย่างน้อยก็ในช่วงระยะเวลายาวๆที่เราจะไม่มานั่งวุ่นวายกับความรู้สึกร้อนรนมองหาจักรยานใหม่ๆอีก
swift เข้ามาในชีวิตผมจากการที่ผมเห็นมีคนมาขายเฟรม ULTRAVOX RS-1 ในบอร์ดซื้อขายมือสอง...แว่บแรกที่เห็น เฮ้ยเฟรมอะไรทำไมสวยจัง(ผมเป็นคนที่ชอบหมอบทรงเทรดดิชั่นเป็นทุนเดิม)แถมราคาที่เค้าขายก็ถูกมากเพราะเลิกปั่น เลยรีบหาข้อมูลจักรยานยี่ห้อนี้ทันที หลังจาก1คืนที่ผมหาข้อมูลของยี่ห้อนี้ ผมรู้สึกรัก swift ขึ้นมา...หลายเรื่องที่ผมประทับใจ...
Mark Blewett คนก่อตั้งแบรนด์เป็นนักปั่นมาก่อน ทดสอบ ทำงานร่วมกับวิศวกร เค้ายกทีมทั้งหมดไปที่ไต้หวันเลยเพื่อที่โมลด์เฟรมเสร็จก็จับปั่นทดสอบแถวๆโรงงานตัวเองได้เลย ไม่ต้องส่งข้ามน้ำข้ามทะเลไปทดสอบที่อื่นอีกให้เสียเวลา การแก้ไขปรับปรุงเก็บรายละเอียดข้อผิดพลาด โปรดักส์ ทำได้รวดเร็วประหยัดเวลา
swift ไม่เคยคิดจะปิดบังเหมือนพวกแบรนด์ใหญ่ๆหลายๆแบรนด์ที่ชอบบอกว่าโปรดักส์ตัวเองทำใน อเมริกา หรือ ยุโรป (made in...)swift บอกเลยว่าจบทุกขั้นตอนการผลิตที่ไต้หวัน
ให้ bikeradarเยี่ยมชมโรงงานแบบละเอียดไม่เหมือนแบรนด์อื่นที่งุบงิบตัวเองไม่กล้าเปิดตัวเองว่าทำในเอเซีย
นักทดสอบให้ข้อเสียกับ swift แค่เรื่องเดียวคือ For those of you who want the distinction of "Made in Italy", this isn't for you.
Mark Blewett ตรวจสอบเฟรมทุกเฟรมเองกับมือก่อนส่งขาย
หรือคำว่า ULTRAVOX มาจากวงดนตรีที่ Mark Blewett ชื่นชอบ(เกี่ยวไหม)
เอาแค่นี้เช้ามาผมก็เลยติดต่อซื้อ ULTRAVOX RS-1 มาลอง
หลังจากลองประกอบและปั่น RS-1 เกิดความประทับใจทันทีทั้งเรื่อง รูปทรง ความสติฟที่ได้ ความสวยงามของการออกแบบเฟรม งานสีที่ละเอียด นำหนัก มันคุ้มค่ามากๆกับราคาที่ผมได้มา
ข้อเสียที่ผมรู้สึกได้คือ RS-1 ยังส่งความรู้สึกย้วยนิดๆมาที่ผมเวลาโยกแต่ก็ไม่ได้เสียหายมากมายอะไร ความประทับใจโดยรวมมันส่งผลทำให้ผมอยากสัมผัสรุ่นท๊อปของ swift ขึ้นมาทันที...นี่ก็ผิดจากคอนเซ็ปตอนแรกอีกแล้วว่าอยากจบฮ่าๆๆๆ
เลยติดต่อทางตัวแทน ซึ่งบอกกลับมาว่ามีตัวสีทีม DRAPAC แขวนโชว์อยู่ตัวเดียว ผมอยากได้ตัวนี้อยู่พอดี ไซ้ส์ก็ถูกระเบียบสำหรับผม จึงสอยมันลงมาประกอบเพื่อสนองตัณหาตัวเองอีกครั้งหนึ่ง
ในที่สุดผมก็ได้สัมผัสตัวท๊อปของแบรนด์ซักทีในงบที่ประหยัดลงมาได้อย่างมาก คุณจะหาราคานี้จากตัวท๊อปของแบรนด์อื่นไม่ได้แน่นอน
เฟรมที่โปรใช้ในการแข่งขันจริงในราคาที่จับต้องได้ นักวิจารณ์ทุกสำนักเทคะแนนให้สูงมากในการทดสอบ การใส่ใจตรวจสอบคุณภาพของ Mark Blewett
งานสีที่ละเอียดแบบสุดๆ การให้ความสำคัญกับจุดเล็กน้อยเช่น drop out ที่เป็นไททาเนี่ยม รวมไปถึง graphics design ในตัวเฟรมที่ใช้ typography เป็นหลัก มันดูดีมากๆในสายตา graphic designer แบบผม
สิ่งเหล่านี้เป็นส่วนเสริมให้กับผลที่ได้จากการปั่น ULTRAVOX TI ของผมมีความพิเศษยิ่งขึ้น
ในตอนแรกผมกังวลว่าความรู้สึกติดย้วยนิดๆจาก rs-1 จะมา TI ไหมเพราะจีโอเมททรี่เดียวกันเป๊ะๆแต่การผสมเกรดคาร์บอน Toray 700, 800 & 1000 อย่างลงตัว ทำให้ข้อเสียเดียวที่ผมรู้สึกกลัวในตอนแรกหมดลงทันที
ความสบายในการปั่น endurance บวกกับความสตริฟ ส่งต่อไปที่ความพุ่ง การกดกระชาก เร่งแซง ความเสถียรตอนเข้าโค้ง จะขึ้นเขาไหลลงเนิน ปั่นทางราบ ULTRAVOX TI มอบความรู้สึกด้านบวกให้กับผมทุกข้อ
ULTRAVOX TI คือหนึ่งในรถ all around ของจริงสำหรับผม ผมหยุดความต้องการในกิเลสที่อยากจะมีรถ aero ตามสมัยนิยมได้เพราะ TI ทำให้มั่นใจว่าอยากจะเร็วกว่านี้ก็แรงตัวเองล่ะไม่ใช่อุปกรณ์
ผมปั่น endurance ยาวๆได้สบายพอๆกับรถ endurance แท้ๆแบบพวก tcr
โดยรวมทั้งหมดมันทำให้ความรู้สึกที่ว่าต้อง ''จบ'' ของผมมันเป็นไปได้แล้ว ถึงจะอยากมีใหม่ในวันข้างหน้ากับแบรนด์อื่นก็คงไม่ขายคันนี้ทิ้ง เพราะจากที่สัมผัส เชื่อว่า Mark Blewett ทุ่มสุดตัวใส่ทุกอย่างลงไปด้วยใจใน ULTRAVOX TI เพื่อให้เป็นเรือธงของ swift อย่างเต็มภาคภูมิ
ในวันข้างหน้าหาก swift โตขึ้นจนติดตลาดแล้วโดนโลกทุนนิยมกลืน concept แรกๆของ Mark Blewett ไป อย่างน้อยผมก็ยังภูมิใจว่าเป็นเจ้าของชิ้นงานในช่วงเวลาที่ swift ผลิตชิ้นงานด้วยใจจริงๆ
ยาวหน่อยก็เพื่ออยากจะให้การแชร์ ประสบการณ์ที่ได้เป็นเจ้าของ swift ULTRAVOX TI (DRAPAC) มีที่มาที่ไปมากกว่าจะมาแชร์ลอยๆอวยรถตัวเองครับ เป็นความเห็นส่วนตัวจากนักปั่นบ้านๆเท่านั้นน่ะครับผิดถูกประการใดต้องขออภัย