หน้า 2 จากทั้งหมด 3
Re: จุดเดือดนํ้ามันเบรค
โพสต์: 21 ก.ย. 2013, 21:02
โดย demolisher
sakda2503 เขียน:ไปอ่านเจอคนใช้น้ำมันพืช ก็มี น้ำมันมะกอกก็มี เห็นคนขี่ยังปกติดีอยู่ แต่ผมไม่มีรถดิส กำลังได้เฟรมมาคันนี้จะลองดิสดูมั่ง
ผมเองตีความแบบนี้นะครับ
1. อาจจะเพราะปรกติจักรยานเราไม่ค่อยได้เบรกรุนแรงกันหรอกเว้นแต่ลงเขาชัน บางท่านเพียงแต่ไม่ประมาทหรือบางท่านก็แค่อยากจะเผื่อไว้เพราะไม่อยากเจอเหตุการณ์เบรกไม่อยู่ หรืออื่นๆ หลายท่านจึงยินดีใช้ของที่เชื่อว่าประสิทธิภาพดีหน่อย
2. แต่เนื่องจากถ้าพวกทางราบๆ เราก็ไม่ค่อยได้เบรก หรือเบรกจึ๊กเดียวก็ไปต่อแระไม่ได้เบรกอีกซักพักแระ ชุดเบรกไม่ค่อยได้ร้อนเลย ผ้าเบรกแทบจะไม่สึก ของเหลวในระบบเบรกก็เลยไม่ได้ค่อยได้แสดงอิทธิฤทธิ์ แค่ส่งต่อแรงดันได้ก็รู้สึกว่า ok แล้ว
3. ส่วนการเอาน้ำมันพืชมาใช้แทนน้ำมันเบรก ผมเอง...เกรงว่าจะ...ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาอะจิครับ ผมเองไม่ได้ขวางไม่ได้ห้าม (ไม่มีสิทธิ ไม่ใช่หน้าที่ และบางเรื่องมันก็ต้องปล่อยให้ลองเองงิ) และไม่เคยมีความเห็นอะไรไม่ว่าทางใดกับความเห็นของท่านเหล่านั้นเลย แต่ว่า...เฉพาะในกระทู้นี้นะครับ คุณสมบัติสำคัญบางอย่างของน้ำมันเบรกคือมัน "อัดตัว" ได้โดยไม่สูญเสียปริมาตรหรือสูญเสียน้อยมากเพื่อให้คงประสิทธิภาพการอัดไว้ให้ได้มากที่สุด ในระดับโมเลกุลก็อาจจะประมาณว่าแต่ละโมเลกุลที่อยู่ติดกันมันรักษาระยะห่างภายใต้แรงดันสูงได้ดีกว่า พร้อมๆ กับในทางกลับกันมันก็ต้องไม่ "ขยาย" กำลังหรือแรงดันในระบบเบรก ไม่ใช่ไม่ได้บีบแต่ดันขยายตัวได้หรือบีบไป 100 ดันเบ่งขึ้นเป็น 120 ได้ด้วย (อาจเกิดจากอุณหภูมิ ความข้นใส ความหนืด ความชื้น หรืออื่นๆ ที่น้ำมันเบรกปรกติไม่ควรจะเป็น) ไม่งั้นนึกง่ายๆ ว่าเอาน้ำมันพวงมาลัยหรือน้ำมันเกียร์น้ำมันเฟืองท้ายมาเติมในระบบเบรกรถยนต์ก็ได้ซิ จะได้ลดประเภทของของเหลวในรถยนต์ลงไปอีกรายการหนึ่ง เป็นต้น ส่วนน้ำมันพืชหรือน้ำมันอื่นๆ มันคงไม่มีคุณสมบัติอย่างที่ว่านี้ ใช้ชั่วคราวหรือในภารกิจที่ไม่หนักมากก็เรื่องหนึ่ง แต่ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมา ...จะประมาทไปมั้ย เผื่อวิกฤติน้อยไปหน่อยมั้ย ? เป็นต้นครับ
และถ้าจะลองน้ำมันพืช ผมไม่กล้ายุให้คุณพี่ sakda2503 (ผมเดาว่า 2503 คือปีเกิดอะครับ) ลงเขาเร็วๆ นะแต่ถ้าไม่ได้ลองแบบนี้จะเห็นจุดวิกฤติของมันมั้ยนะ ?
Re: จุดเดือดนํ้ามันเบรค
โพสต์: 21 ก.ย. 2013, 21:34
โดย mookpa
sakda2503 เขียน:ไปอ่านเจอคนใช้น้ำมันพืช ก็มี น้ำมันมะกอกก็มี เห็นคนขี่ยังปกติดีอยู่ แต่ผมไม่มีรถดิส กำลังได้เฟรมมาคันนี้จะลองดิสดูมั่ง
อย่าเอาจักรยานไปต้มเล่นนะครับ
Re: จุดเดือดนํ้ามันเบรค
โพสต์: 21 ก.ย. 2013, 21:36
โดย mookpa
สำหรับ mineral oil ที่ใช้กับดิสเบรคของ shimano เนี่ยเพียงพอแล้วสำหรับการใช้งานทั่วไป ซึ่งในกรณีที่เราขี่ลงเขายาวๆซัก 2-3 กิโลเมตร เบรคถี่ๆก็ไม่มีปัญหาอะไรนอกจากถ้ามากกว่านั้นก็อาจจะเป็นผ้าเบรคทีไหม้ก่อนที่นํ้ามันจะเดือด จนเบรคไม่อยู่ใช่มั้ยคร้าบ
Re: จุดเดือดนํ้ามันเบรค
โพสต์: 21 ก.ย. 2013, 22:29
โดย sakda2503
เล่นเดาอายุซะเขินเลย อันตัวผมก็คงไม่กล้าเอามาเติมเหมือนกันแหละประเภทอื่นนอกเหนือจากเสปคที่เขากำหนดน่ะครับ เพียงแต่ไปอ่านเจอเลยเอามาเล่าให้ฟังครับ บังเอิญผมเป็นนักอ่านน่ะครับเล่นอะไรก็อยากให้รู้เยอะๆ เพราะชอบทำเองครับแต่ไม่เคยอายที่จะถามในสิ่งที่ตัวเองไม่รู้ ตอนนี้ก็ได้ความรู้เรื่องน้ำมันเบรคจักรยานจากกระทู้นี้ไปแบบเต็มๆ ขอบคุณครับที่แบ่งปัน
Re: จุดเดือดนํ้ามันเบรค
โพสต์: 22 ก.ย. 2013, 01:26
โดย iDeasMtb
กำลังสงสัยอยู่เหมือนกันครับ ว่าใครเคยมีประสบการณ์เบรค shimano เกิดอาการเฟดบ้างไหมครับ
และถ้าจะว่า mineral oil อาจจะมีปัญหาเรื่องจุดเดือดกับการใช้เบรคหนักๆ ผมก็สงสัยอีกว่าพวก shimano saint ซึ่งเจาะกลุ่ม downhill ที่มีลูกสูบ 4 ตัว ทำไมทาง shimano ก็ยังใช้ mineral oil อยู่อีกล่ะ? คาใจเหมือนกันครับ
Re: จุดเดือดนํ้ามันเบรค
โพสต์: 22 ก.ย. 2013, 20:50
โดย demolisher
iDeasMtb เขียน:กำลังสงสัยอยู่เหมือนกันครับ ว่าใครเคยมีประสบการณ์เบรค shimano เกิดอาการเฟดบ้างไหมครับ
และถ้าจะว่า mineral oil อาจจะมีปัญหาเรื่องจุดเดือดกับการใช้เบรคหนักๆ ผมก็สงสัยอีกว่าพวก shimano saint ซึ่งเจาะกลุ่ม downhill ที่มีลูกสูบ 4 ตัว ทำไมทาง shimano ก็ยังใช้ mineral oil อยู่อีกล่ะ? คาใจเหมือนกันครับ
ขออนุญาตขอให้ลืมเรื่องว่าน้ำมันเบรกยี่ห้อนั้นเป็นไอ้นั่นยี่ห้อนี้เป็นไอ้นี่ไปซักแป๊บนึงครับ :
ไม่ว่าน้ำมันเบรกนั้นจะมีพื้นฐานมาจากสารอะไร ถ้าหากจะต้องการอ้างอิงมาตรฐาน DOT (Department of Transportation ของ USA) ก็แน่นอนว่าสามารถถูกจัดอยู่ในเกณฑ์ DOT3 DOT4 หรือ DOT5 หรืออื่นๆ เท่าที่มาตรฐาน DOT จะมีเสมอครับ วันข้างหน้าอาจจะมี DOT6 DOT7 หรืออื่นๆ ก็เป็นได้ เพียงแต่ Shimano แค่อาจจะมีมาตรฐานของตัวเอง มาตรฐานของญี่ปุ่น หรือแค่ไม่ได้สนใจใช้มาตรฐาน DOT ก็เป็นได้ ส่วนน้ำมันเบรกยี่ห้ออื่นที่อ้างมาตรฐาน DOT ก็หาใช่เขาใช้สารพื้นฐานที่เหนือกว่า (เสมอไป ?) และถ้าไม่ได้บอกว่าตัวเองเป็นสังเคราะห์ก็ไม่น่าจะเป็นสังเคราะห์เช่นกัน ดังนั้นแต่ละยี่ห้อจะอ้างของตัวว่าใช้สารอะไรมันก็อาจจะแค่เป็นเรื่องของการตลาดเท่านั้นก็เป็นได้ครับ
**********************************
ถ้าอยากรู้ว่าน้ำมันเบรก Shimano อยู่ในเกณฑ์ DOT ผมว่าหาจุดเดือดของน้ำมันเบรก Shimano มาเทียบกับ DOT เองง่ายกว่าครับ ซึ่งผมลองหาดูแล้ว (หาโคตรยากเรย) ข้อมูลที่ใกล้เคียงสุดน่าจะมาจาก Wikipedia เช่นเคยครับ :
http://en.wikipedia.org/wiki/Bicycle_br ... OT_4_Fluid โดยดูในหัวข้อ 2.6.3 ที่บอกว่า
Mineral Oil vs. DOT 4 Fluid
Hydraulic disc brakes make use of two common forms of fluid. Automotive grade DOT 4 which is hygroscopic and has a boiling point of 230 °C, and mineral oil which is not hygroscopic and has a boiling point of 260 °C. O-rings and seals inside the brake are specifically designed to work with one or the other fluid. Using the incorrect fluid type will cause the seals to fail resulting in a "squishy" feeling in the lever, and the caliper pistons are unable to retract, so a scraping disc is common. To ensure the correct fluid is used the manufacturer will usually stamp or laser mark the lever reservoir cap/body with the compatible fluid type.
โดยเขาบอกว่า mineral brake fluid มีจุดเดือด “สูงกว่า” พวก DOT4 อยู่นะครับ ประมาณ DOT5 นั่นแหละ และเนื่องจากเขาบอกว่าพวก mineral oil (น่าจะหมายถึงยี่ห้อต่างๆ ที่บอกว่าตัวเองเป็น mineral oil เช่น Magura หรือ Tektro ด้วย) ไม่ใช่พวก hydroscopic ผมจึงทึกทักเอาเองว่าพวก mineral oil ก็น่าจะถูกจัดเป็นพวก hydrophobic จาก
http://en.wikipedia.org/wiki/Brake_fluid ในหัวข้อ 1.1
Boiling point
Brake fluid is subjected to very high temperatures, especially in the wheel cylinders of drum brakes and disk brake calipers. It must have a high boiling point to avoid vaporizing in the lines. This vaporization is a problem because vapor is highly compressible relative to liquid, and therefore negates the hydraulic transfer of braking force.
Quality standards refer to a brake fluid's "dry" and "wet" boiling points. Wet boiling point, which is usually much lower (although above most normal service temperatures), refers to the fluid's boiling point after absorbing a certain amount of moisture. This is several (single digit) percent, varying from formulation to formulation. Glycol-ether (DOT 3, 4, and 5.1) brake fluids are hygroscopic (water absorbing), which means they absorb moisture from the atmosphere under normal humidity levels. Non-hygroscopic fluids (e.g. silicone/DOT 5-based formulations), are hydrophobic, and can maintain an acceptable boiling point over the fluid's service life, although at the cost of potential phase separation/water pooling and freezing/boiling in the system over time - the main reason single phase hygroscopic fluids are used.
ที่บอกว่าพวก hydrophobic จะไม่ค่อยดูดซับความชื้น จึงมีอายุงานยาวกว่า ไม่ด้อยลงตามความชื้นเหมือนพวก hydroscopic บลา บลา บลา บลา
เอาเป็นผมขออนุญาตไม่ฟันธงนะครับ และแน่ๆ คือผมไม่ได้เชียร์ให้ใช้เบรกที่ใช้น้ำมันเบรกแบบ mineral หรือที่ใช้น้ำมันเบรก DOT อะไรเป็นการเฉพาะ ผมสรุปเอาจากที่ผมตีความเองจาก Wikipedia ว่า mineral base brake fluid น่าจะมีจุดเดือดเทียบเท่ากับพวก DOT5 และมีจุดเดือดชื้นค่อนข้างสูงตลอดอายุงานจากคุณสมบัติของพวก hydrophobic ไม่ค่อยต้องคอยไล่น้ำมันเบรกทิ้งทุก 1-2 ปี (เนื่องจากอิ่มความชื้น) และน่าจะเอาไปใช้กับเบรกยี่ห้ออื่นที่ไม่เป็นพวก mineral หรือ DOT5 ไม่ได้ครับ และผมว่าเบรกบางยี่ห้อที่ถูกบ่นว่าลูกยางบวมเก่งไม่รู้ว่าเพราะร้านหรือเราเองดันเอาน้ำมันเบรก Shimano (หรือพวก silicone หรือพวก hydroscopic) ไปเติมแล้วโทษว่าเบรกยี่ห้อนั้นๆ ไม่ดีหรือเปล่านะ ?
*******************************
พวกใช้ลูกสูบเยอะน่าจะเพื่อเพิ่มพื้นที่หน้าสัมผัสผ้าเบรก (คือผ้าเบรกชิ้นใหญ่กว่านั่นแหละ) เพื่อให้ใช้ได้ยาวนานขึ้นอีกซักหน่อย คงเพราะความเร็วโหด เบรกถี่ เบรกหนัก ...คล้ายยางลบดินสอก้อนใหญ่หน่อยจะใช้ได้นานกว่าอะครับ ไม่เกี่ยวกับความเร็วในการเบรกได้ดีนะครับเพราะถ้าเบรกจึ๊กเดียว-เบรกอะไรก็น่าจะหยุดได้ดีไม่ต่างกันเยอะนะครับ ส่วนถ้าเบรกถี่ๆ เบรกหนักๆ กับรถมีความเร็วสูงๆ เราจะต้องการเบรกที่ร้อนช้ากว่า สะสมความร้อนช้ากว่า (รถยนต์ก็เหมือนกัน ไม่ใช่เอาไปแข่งวนรอบสนามเป็นสิบรอบ-จึ๊กเดียวขอให้หยุดสนิทละกัน-ไม่ต้องเสียเงินกับเบรกเทพมาก "ขนาดนั้น" ก็ได้มั้ง)
ส่วนการใช้จานเบรกใหญ่ เพื่อเมื่อต้องการให้เบรกเร็วเท่ากันเราจะใช้แรงน้อยกว่า+กลไกเบรกใช้แรงน้อยกว่า ก่อให้เกิดความร้อนน้อยกว่า ความร้อนก็จะสะสมขึ้นช้ากว่า ผ้าเบรกและจานเบรกก็จะสึกน้อยและช้ากว่า ความร้อนที่จะส่งมาถึง caliper ก็น้อยและช้ากว่า น้ำมันเบรกก็มีโอกาสเดือดช้ากว่า ครับ
Re: จุดเดือดนํ้ามันเบรค
โพสต์: 22 ก.ย. 2013, 21:21
โดย demolisher
mookpa เขียน:สำหรับ mineral oil ที่ใช้กับดิสเบรคของ shimano เนี่ยเพียงพอแล้วสำหรับการใช้งานทั่วไป ซึ่งในกรณีที่เราขี่ลงเขายาวๆซัก 2-3 กิโลเมตร เบรคถี่ๆก็ไม่มีปัญหาอะไรนอกจากถ้ามากกว่านั้นก็อาจจะเป็นผ้าเบรคทีไหม้ก่อนที่นํ้ามันจะเดือด จนเบรคไม่อยู่ใช่มั้ยคร้าบ
ผมเข้าใจว่า mineral brake fluid มีจุดเดือดและจุดเดือดชื้นสูงประมาณ DOT5 นะครับ และตอนนี้ DOT (Department of Transportation ของ USA) ก็น่าจะยังไม่มีเกณฑ์ที่สูงกว่า DOT5 เนาะ
ผ้าเบรกเนื้อนิ่มมีโอกาสไหม้ง่ายกว่าเร็วกว่าแต่ก็มักจะเงียบและนุ่มนวลมือกว่า (ไม่ใช่ไม่ดีเน่อ ที่สำคัญคือเหมาะกับนักปั่นเพื่อการออกกำลังกายหรือเพื่อสันทนาการส่วนใหญ่ด้วย) ส่วนพวกผ้าเบรกเนื้อแข็งแน่นอนว่าเน้นใช้กับงานหนักหน่อยก็จะไหม้ช้ากว่าแต่ก็น่าจะชอบส่งเสียงครวญครางและเบรกลื่นหน่อยตอนยังเย็นอยู่ ซึ่งผมเองรู้จักแต่ของ Shimano ที่คิดว่าแบบมีครีบระบายความร้อนน่าจะมีเนื้อแข็งกว่าแบบที่ไม่มีครีบอะครับ ส่วนเราจะขยี้จนน้ำมันเบรกถึงกับเดือดก่อนหรือผ้าเบรกไหม้ก่อนนั้น...บอกยากง่ะ แต่ประสบการณ์ผมกับจักรยานนะ เราน่าจะรู้ตัวนะว่าเบรกเราจะไหวหรือเปล่า ผ้าเบรกไหม้ก็จะได้กลิ่น น้ำมันเบรกเดือดก็น่าจะบีบแล้วหายซึ่งไม่ได้หายไปตอนบีบเล่นด้วยเนาะ-หายตอนวิกฤตินี่แหละ...ผมว่าพวกเราน่าจะไม่ค่อยเจอสถานการณ์เช่นว่านี้นะครับ
และผมเองขออนุญาตออกตัวว่าผมมีใช้ชุดเบรกของ 2-3 ยี่ห้ออยู่นะครับ และก็ชอบของหลายยี่ห้อหลายระบบเลยครับผม
Re: จุดเดือดนํ้ามันเบรค
โพสต์: 22 ก.ย. 2013, 22:30
โดย iDeasMtb
Re: จุดเดือดนํ้ามันเบรค
โพสต์: 23 ก.ย. 2013, 00:56
โดย ngoa
กระจ่างเลยทีนี้ ได้เลิกเอาเรื่องจุดเดือดมาโจมตีกันซะที
พวกdot4แล้วคิดเอาเอง มาบอก mineral เดือดเร็วกว่าคงเงิบเป็นแถว
Re: จุดเดือดนํ้ามันเบรค
โพสต์: 23 ก.ย. 2013, 08:54
โดย mookpa
Re: จุดเดือดนํ้ามันเบรค
โพสต์: 23 ก.ย. 2013, 18:03
โดย ngoa
ยอมรับครับ บางเรื่องเราก็เรียนรู้กันมาแบบผิดๆ บอกต่อๆกันมาแบบไม่รู้ มันเป็นสิ่งใหม่ที่เราไม่ได้รู้มาตั้งแต่เกิด
Re: จุดเดือดนํ้ามันเบรค
โพสต์: 23 ก.ย. 2013, 19:44
โดย ตู่มอ'ไซค์
ngoa เขียน:
ยอมรับครับ บางเรื่องเราก็เรียนรู้กันมาแบบผิดๆ บอกต่อๆกันมาแบบไม่รู้ มันเป็นสิ่งใหม่ที่เราไม่ได้รู้มาตั้งแต่เกิด
ผมเข้ามากระทู้นี้ได้รู้เรื่อง mineral oil ครับไอ้ DOT 3 4 5อยู่กันมานานแล้วครับพอรู้เรื่อง
Re: จุดเดือดนํ้ามันเบรค
โพสต์: 23 ก.ย. 2013, 21:16
โดย amscmu
Re: จุดเดือดนํ้ามันเบรค
โพสต์: 23 ก.ย. 2013, 21:40
โดย mookpa
จุดเดือดสูงแฮะ..เหลือๆเลยคราวนี้
ถามต่อเล่นๆแล้วจุดเดือดของนํ้ามันมะกอกอยู่ที่เท่าไหร่ครับ
Re: จุดเดือดนํ้ามันเบรค
โพสต์: 23 ก.ย. 2013, 21:44
โดย demolisher