Chromolybdenum Steel Alloy MTB.
โพสต์: 14 มิ.ย. 2010, 22:31
มีหลายคนถามผมว่าทำไมถึงชอบขี่รถ Chromoly ผมก็เลยตอบไปว่า เพราะผมชอบที่ความรู้สึกได้รับจากรถจักรยาน Chromoly ครับ
แล้ว Chromoly มันดีกว่า Aluminum หรือ Titanium อย่างไร ผมก็บอกว่า "มันต้องมองในมุมมองของความรู้สึกครับ เพราะโลหะทุกประเภทมีข้อดีและข้อด้อยของมันครับ"
Chromoly ในความรู้สึกของผมมันก็เป็นโลหะที่ให้ความพอดีมากที่สุดในสภาพการขี่จักรยานของเรา เพราะว่าผมอาจจะไม่ใช่นักจักรยานที่ชอบ Sprint หรือขี่แบบกระชากความเร็วได้โดยทันที ผมเน้นการขี่ที่เป็นแนวสันทนาการมากกว่า ผมก็เลยรู้สึกว่า Chromoly ให้ความรู้สึกที่ทำให้ผมสบายตัวมากกว่าครับ แต่ Chromoly ก็ใช่ว่าจะใช้ลงแข่งขันในสนามแข่งไม่ได้นะครับ ลงแข่งได้สบายครับ และมันยังให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากรถ Titanium หรือ Aluminum ด้วยครับ อาจจะเร่งไม่ทันใจขาบู๊ แต่ถ้าเข้าทางขรุขระเมื่อไหร่ เจ้า Chromoly จะแสดงให้เห็นว่าว่าเป็นโลหะที่ดีอย่างไร
Chromoly คือ โลหะในกลุ่ม Steel Alloy ที่ใช้การผสมผสานกันของ Chromium, Molybdenum, Carbon, Maganese และโลหะอื่น จึงมีชื่อเรียกเต็มๆว่า Chrom Molybdenum Steel Alloy
ถ้าเปรียบเทียบความแข็งกระด้างของรถจักรยานที่ทำจากวัสดุกลุ่มโลหะ 3 ชนิด ไล่ตามความกระด้างของโลหะ ได้แก่ 1. Aluminum 2. Titanium 3. Chromoly
Chromoly จะถือว่าเป็นโลหะที่นิ่มที่สุด และก็ตามมาด้วย Titanium และที่แข็งกระด้างที่สุดก็จะเป็น Aluminum แต่ถ้าจะมองถึงน้ำหนักของรถจักรยานที่เทียบปริมาตรโลหะที่เท่ากัน Aluminum ก็จะเบาที่สุดและตามมาที่ Titanium และ Chromoly ตามลำดับ
แต่ด้วยความแข็งแรงต่อปริมาตรที่มากกว่าของ Titanium และ Chromoly จึงทำให้สามารถใช้เนื้อโลหะที่น้อยกว่า Aluminum ได้ จึงทำให้รถที่ทำจาก Titanium และ Chromoly สามารถทำให้มีน้ำหนักที่เบากว่า Aluminum ได้นั่นเอง
Chromoly ที่ใช้ทำตัวถังจักรยานจะใช้ท่อรหัส 4130 เป็นท่อพื้นฐาน เพราะว่าเจ้าท่อ 4130 นี้จะมีค่า Carbon อยู่ที่ไม่เกิน 0.30% ซึ่งจะทำให้เมื่อทำการเชื่อมต่อแล้วนั้น รอยเชื่อมของตัวถังรถคันนั้นจะไม่เปราะนั่นเอง เพราะว่าถ้ามีค่า Carbon มากกว่า 0.30% จะทำให้รอยเชื่อมท่อ Chromoly นั้นมีความเปราะมากเกินไปสำหรับการนำมาทำท่อรถจักรยาน
Update 25/11/55
มาดูส่วนผสมของท่อ Dedacciai รุ่น 18MCDV6 Heat Treated ที่ใช้กับรถจักรยาน Ibis Mojo Cr-Mo ว่ามีส่วนผสมของอะไรบ้างครับ
เจ้าท่อรุ่นนี้มีส่วนผสมของโลหะดังนี้ครับ
Carbon (c) 0.16/0.19
Silicio (si) 0.25/0.40
Maganese (Mn) 1.40/1.60
Cromo (Cr) 0.45/0.55
Molibdeno (Mo) 0.25/0.35
Allumino (Al) 0.02/0.04
Vandaio (Va) 0.10/0.15
Nickel (Ni) 0.25
(data is percentage of weight)
ซึ่งจากข้อมูลตรงนี้ก็น่าจะเป็นบรรทัดฐานของโลหะ Cr-Mo ยี่ห้ออื่น ๆ ได้ว่ามันน่าจะมีส่วนผสมของอะไรบ้าง ซึ่งที่เราเห็นหลัก ๆ ก็จะมีแน่ ๆ คือ โครเมียม, โมลิบดินัม, วานาเดียม, มังกานีส, ซิลิคอน, นิกเกิล และ อลูมินั่ม
Dedacciai โฆษณาว่าท่อ 18MCDV6 นี้มีค่า Tensile Strength อยู่ที่ 1,200 N/mm2 และจะเพิ่มขึ้นไปถึง 1,400 N/mm2 เมื่อทำการ Heat Treated
การ Butted ท่อ ก็คือการที่ทำให้ผนังท่อตัวถังมีขนาดบางลง แต่ยังคงมีความแข็งแรงที่พอเพียง และการ Butted นี้ก็เป็นกระบวนการที่ทำขึ้นเพื่อการลดน้ำหนักของตัวถังจักรยานและลดความกระด้างของตัวถังจักรยานคันนั้นได้ด้วย ซึ่งในตัวถัง Chromoly 4130 จะนิยมทำการ Butted ที่ประมาณ 2 ชั้น ( Dubble Butted ) ซึ่งจะได้ทั้งความแข็งแรงและน้ำหนักที่เหมาะสม และยังได้ความหยุ่นตัวที่ค่อนข้างจะพอดีซะด้วย แต่ก็มีบ้างที่มีการ Butted ไปถึง 3 ชั้นและ 4 ชั้น ซึ่งในมุมมองของผมเอง ผมมองว่า Butted เพียงแค่ 2 ชั้นก็ถือว่าพอเพียงมากที่สุดสำหรับรถ Chromoly 4130 แล้ว
การอบผิวหรือภาษาอังกฤษจะเรียกว่า Heat Treated ซึ่งก็คือการให้ความร้อนเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของโลหะนั่นเอง
Air Hardening Steel Alloy เจ้าตัวนี้จะเป็นโลหะในกลุ่ม Chromoly ที่มีการพัฒนาส่วนผสมของโลหะเพิ่มเติมเข้าไปโดยที่จะใช้โลหะ 3 ชนิดแรกและเพิ่ม Vanadium หรือโลหะชนิดอื่น ๆ แล้วแต่ว่าบริษัทไหนจะใช้สูตรทางโลหะแบบไหน การเพิ่มโลหะอื่น ๆ เข้าไปทำให้ท่อมีความแข็งแรงมากกว่า 4130 ธรรมดา แต่เจ้าท่อ Air Hardening Steel Alloy นี้จะมีความกระด้างมากกว่า 4130 Cr-Mo เพราะฉะนั้นในการที่จะนำเจ้า Air Hardening Steel Alloy มาทำรถจักรยานทั้งคันเลยก็น่าจะไม่ดีนัก เพราะว่าจะทำให้รถคันนั้นกระด้างสุดๆ เหมือนกัน เนื่องด้วยเพราะโลหะอื่น ๆ ที่ผสมลงไปเพิ่มนั่นเอง ซึ่งในกรณีนี้เค้าจึงมักจะใช้ท่อ Air Hardening Steel Alloy ในส่วนของท่อหลักหน้า แต่ในส่วนท่อหลักหลัง (หางหลัง) ก็จะยังใช้ 4130 Cr-Mo อยู่นั่นเอง ซึ่งเพื่อลดความกระด้างให้กับจักรยานคันนั้น
Stainless Steel Alloy เจ้าโลหะตัวนี้ถือว่าเป็นโลหะกลุ่มเหล็กกล้าตัวใหม่ที่พึ่งคิดค้นสำหรับวงการจักรยาน ซึ่งเท่าที่ผมเคยได้ยินหรือได้อ่านมา เค้าว่ากันว่ามันแข็งแรงกว่า Titanium ซะอีกนะ มี Chromium Nickel และ Copper เป็นโลหะหลัก แต่ผมยังไม่เคยใช้ เพราะว่ามันผลิตมาเพื่อรถเสือหมอบซะเป็นส่วนใหญ่ ส่วนเสือภูเขาที่ใช้เจ้าท่อ Stainless Steel Alloy มาทำตัวถังก็มีราคาแพงซะบ้าเลือดไม่ใช่น้อย แต่เท่าที่ผมได้ลองสอบถามโรงงานผู้ผลิตจักรยานยี่ห้อหนึ่งเค้าบอกว่าราคาก็จะค่อนข้างใกล้เคียงกับ Titanium แต่ความแข็งแรงมันมีมากกว่า Titanium ซึ่งตรงนี้ ผมเองก็ต้องยอมรับว่าไม่ทราบจริงๆว่าความรู้สึกของ Stainless Steel Alloy จะให้ความรู้สึกกระด้างเหมือนกับ Air Hardening Steel Alloy หรือไม่ แต่ที่แน่ๆ มันไม่เป็นสนิมแน่นอนครับ
เพราะฉะนั้น ผมก็คงจะบอกได้ว่าผมชอบรถจักรยาน Chromoly ก็เพราะว่ามันทำให้ผมขี่จักรยานได้มีความสุขและสบายตัวที่สุด เพราะความนิ่มนวลในการรับแรงกระแทกของตัวโลหะเอง อาจจะไม่นิ่มนวลเท่ารถ Full Suspension แต่มันก็ทำให้ผมรู้สึกได้ว่ารถมันนิ่มนวลตามธรรมชาติของรถ Hardtail รูปร่างที่เพรียวบางตามแบบฉบับของ Chromoly เอง และอาการไหลที่ต้องมาสัมผัสเองกับคำว่า "ไหลปลาย" มันเป็นอย่างไรครับ
ปล. ทั้งหมดที่ผมได้พิมพ์มานี้ เป็นความรู้สึกที่ได้รับมาจากประสบการณ์ส่วนตัวที่ผมได้สัมผัสกับเจ้ารถ Chromoly มาร่วม 20 ปี และช่วงนี้ก็เป็นช่วงที่กระแสรถ Chromoly กำลังกลับเข้ามาสู่ตลาดจักรยานอีกครั้ง ผมจึงอยากจะแบ่งปันความรู้สึก ความประทับใจและเนื้อหาสาระที่จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนนักปั่นทั้งมือเก่าและมือใหม่เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจเลือกจักรยาน Chromoly ของท่านครับ
แล้ว Chromoly มันดีกว่า Aluminum หรือ Titanium อย่างไร ผมก็บอกว่า "มันต้องมองในมุมมองของความรู้สึกครับ เพราะโลหะทุกประเภทมีข้อดีและข้อด้อยของมันครับ"
Chromoly ในความรู้สึกของผมมันก็เป็นโลหะที่ให้ความพอดีมากที่สุดในสภาพการขี่จักรยานของเรา เพราะว่าผมอาจจะไม่ใช่นักจักรยานที่ชอบ Sprint หรือขี่แบบกระชากความเร็วได้โดยทันที ผมเน้นการขี่ที่เป็นแนวสันทนาการมากกว่า ผมก็เลยรู้สึกว่า Chromoly ให้ความรู้สึกที่ทำให้ผมสบายตัวมากกว่าครับ แต่ Chromoly ก็ใช่ว่าจะใช้ลงแข่งขันในสนามแข่งไม่ได้นะครับ ลงแข่งได้สบายครับ และมันยังให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากรถ Titanium หรือ Aluminum ด้วยครับ อาจจะเร่งไม่ทันใจขาบู๊ แต่ถ้าเข้าทางขรุขระเมื่อไหร่ เจ้า Chromoly จะแสดงให้เห็นว่าว่าเป็นโลหะที่ดีอย่างไร
Chromoly คือ โลหะในกลุ่ม Steel Alloy ที่ใช้การผสมผสานกันของ Chromium, Molybdenum, Carbon, Maganese และโลหะอื่น จึงมีชื่อเรียกเต็มๆว่า Chrom Molybdenum Steel Alloy
ถ้าเปรียบเทียบความแข็งกระด้างของรถจักรยานที่ทำจากวัสดุกลุ่มโลหะ 3 ชนิด ไล่ตามความกระด้างของโลหะ ได้แก่ 1. Aluminum 2. Titanium 3. Chromoly
Chromoly จะถือว่าเป็นโลหะที่นิ่มที่สุด และก็ตามมาด้วย Titanium และที่แข็งกระด้างที่สุดก็จะเป็น Aluminum แต่ถ้าจะมองถึงน้ำหนักของรถจักรยานที่เทียบปริมาตรโลหะที่เท่ากัน Aluminum ก็จะเบาที่สุดและตามมาที่ Titanium และ Chromoly ตามลำดับ
แต่ด้วยความแข็งแรงต่อปริมาตรที่มากกว่าของ Titanium และ Chromoly จึงทำให้สามารถใช้เนื้อโลหะที่น้อยกว่า Aluminum ได้ จึงทำให้รถที่ทำจาก Titanium และ Chromoly สามารถทำให้มีน้ำหนักที่เบากว่า Aluminum ได้นั่นเอง
Chromoly ที่ใช้ทำตัวถังจักรยานจะใช้ท่อรหัส 4130 เป็นท่อพื้นฐาน เพราะว่าเจ้าท่อ 4130 นี้จะมีค่า Carbon อยู่ที่ไม่เกิน 0.30% ซึ่งจะทำให้เมื่อทำการเชื่อมต่อแล้วนั้น รอยเชื่อมของตัวถังรถคันนั้นจะไม่เปราะนั่นเอง เพราะว่าถ้ามีค่า Carbon มากกว่า 0.30% จะทำให้รอยเชื่อมท่อ Chromoly นั้นมีความเปราะมากเกินไปสำหรับการนำมาทำท่อรถจักรยาน
Update 25/11/55
มาดูส่วนผสมของท่อ Dedacciai รุ่น 18MCDV6 Heat Treated ที่ใช้กับรถจักรยาน Ibis Mojo Cr-Mo ว่ามีส่วนผสมของอะไรบ้างครับ
เจ้าท่อรุ่นนี้มีส่วนผสมของโลหะดังนี้ครับ
Carbon (c) 0.16/0.19
Silicio (si) 0.25/0.40
Maganese (Mn) 1.40/1.60
Cromo (Cr) 0.45/0.55
Molibdeno (Mo) 0.25/0.35
Allumino (Al) 0.02/0.04
Vandaio (Va) 0.10/0.15
Nickel (Ni) 0.25
(data is percentage of weight)
ซึ่งจากข้อมูลตรงนี้ก็น่าจะเป็นบรรทัดฐานของโลหะ Cr-Mo ยี่ห้ออื่น ๆ ได้ว่ามันน่าจะมีส่วนผสมของอะไรบ้าง ซึ่งที่เราเห็นหลัก ๆ ก็จะมีแน่ ๆ คือ โครเมียม, โมลิบดินัม, วานาเดียม, มังกานีส, ซิลิคอน, นิกเกิล และ อลูมินั่ม
Dedacciai โฆษณาว่าท่อ 18MCDV6 นี้มีค่า Tensile Strength อยู่ที่ 1,200 N/mm2 และจะเพิ่มขึ้นไปถึง 1,400 N/mm2 เมื่อทำการ Heat Treated
การ Butted ท่อ ก็คือการที่ทำให้ผนังท่อตัวถังมีขนาดบางลง แต่ยังคงมีความแข็งแรงที่พอเพียง และการ Butted นี้ก็เป็นกระบวนการที่ทำขึ้นเพื่อการลดน้ำหนักของตัวถังจักรยานและลดความกระด้างของตัวถังจักรยานคันนั้นได้ด้วย ซึ่งในตัวถัง Chromoly 4130 จะนิยมทำการ Butted ที่ประมาณ 2 ชั้น ( Dubble Butted ) ซึ่งจะได้ทั้งความแข็งแรงและน้ำหนักที่เหมาะสม และยังได้ความหยุ่นตัวที่ค่อนข้างจะพอดีซะด้วย แต่ก็มีบ้างที่มีการ Butted ไปถึง 3 ชั้นและ 4 ชั้น ซึ่งในมุมมองของผมเอง ผมมองว่า Butted เพียงแค่ 2 ชั้นก็ถือว่าพอเพียงมากที่สุดสำหรับรถ Chromoly 4130 แล้ว
การอบผิวหรือภาษาอังกฤษจะเรียกว่า Heat Treated ซึ่งก็คือการให้ความร้อนเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของโลหะนั่นเอง
Air Hardening Steel Alloy เจ้าตัวนี้จะเป็นโลหะในกลุ่ม Chromoly ที่มีการพัฒนาส่วนผสมของโลหะเพิ่มเติมเข้าไปโดยที่จะใช้โลหะ 3 ชนิดแรกและเพิ่ม Vanadium หรือโลหะชนิดอื่น ๆ แล้วแต่ว่าบริษัทไหนจะใช้สูตรทางโลหะแบบไหน การเพิ่มโลหะอื่น ๆ เข้าไปทำให้ท่อมีความแข็งแรงมากกว่า 4130 ธรรมดา แต่เจ้าท่อ Air Hardening Steel Alloy นี้จะมีความกระด้างมากกว่า 4130 Cr-Mo เพราะฉะนั้นในการที่จะนำเจ้า Air Hardening Steel Alloy มาทำรถจักรยานทั้งคันเลยก็น่าจะไม่ดีนัก เพราะว่าจะทำให้รถคันนั้นกระด้างสุดๆ เหมือนกัน เนื่องด้วยเพราะโลหะอื่น ๆ ที่ผสมลงไปเพิ่มนั่นเอง ซึ่งในกรณีนี้เค้าจึงมักจะใช้ท่อ Air Hardening Steel Alloy ในส่วนของท่อหลักหน้า แต่ในส่วนท่อหลักหลัง (หางหลัง) ก็จะยังใช้ 4130 Cr-Mo อยู่นั่นเอง ซึ่งเพื่อลดความกระด้างให้กับจักรยานคันนั้น
Stainless Steel Alloy เจ้าโลหะตัวนี้ถือว่าเป็นโลหะกลุ่มเหล็กกล้าตัวใหม่ที่พึ่งคิดค้นสำหรับวงการจักรยาน ซึ่งเท่าที่ผมเคยได้ยินหรือได้อ่านมา เค้าว่ากันว่ามันแข็งแรงกว่า Titanium ซะอีกนะ มี Chromium Nickel และ Copper เป็นโลหะหลัก แต่ผมยังไม่เคยใช้ เพราะว่ามันผลิตมาเพื่อรถเสือหมอบซะเป็นส่วนใหญ่ ส่วนเสือภูเขาที่ใช้เจ้าท่อ Stainless Steel Alloy มาทำตัวถังก็มีราคาแพงซะบ้าเลือดไม่ใช่น้อย แต่เท่าที่ผมได้ลองสอบถามโรงงานผู้ผลิตจักรยานยี่ห้อหนึ่งเค้าบอกว่าราคาก็จะค่อนข้างใกล้เคียงกับ Titanium แต่ความแข็งแรงมันมีมากกว่า Titanium ซึ่งตรงนี้ ผมเองก็ต้องยอมรับว่าไม่ทราบจริงๆว่าความรู้สึกของ Stainless Steel Alloy จะให้ความรู้สึกกระด้างเหมือนกับ Air Hardening Steel Alloy หรือไม่ แต่ที่แน่ๆ มันไม่เป็นสนิมแน่นอนครับ
เพราะฉะนั้น ผมก็คงจะบอกได้ว่าผมชอบรถจักรยาน Chromoly ก็เพราะว่ามันทำให้ผมขี่จักรยานได้มีความสุขและสบายตัวที่สุด เพราะความนิ่มนวลในการรับแรงกระแทกของตัวโลหะเอง อาจจะไม่นิ่มนวลเท่ารถ Full Suspension แต่มันก็ทำให้ผมรู้สึกได้ว่ารถมันนิ่มนวลตามธรรมชาติของรถ Hardtail รูปร่างที่เพรียวบางตามแบบฉบับของ Chromoly เอง และอาการไหลที่ต้องมาสัมผัสเองกับคำว่า "ไหลปลาย" มันเป็นอย่างไรครับ
ปล. ทั้งหมดที่ผมได้พิมพ์มานี้ เป็นความรู้สึกที่ได้รับมาจากประสบการณ์ส่วนตัวที่ผมได้สัมผัสกับเจ้ารถ Chromoly มาร่วม 20 ปี และช่วงนี้ก็เป็นช่วงที่กระแสรถ Chromoly กำลังกลับเข้ามาสู่ตลาดจักรยานอีกครั้ง ผมจึงอยากจะแบ่งปันความรู้สึก ความประทับใจและเนื้อหาสาระที่จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนนักปั่นทั้งมือเก่าและมือใหม่เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจเลือกจักรยาน Chromoly ของท่านครับ