--- Modern guide to Full Suspension bike ---
ผู้ดูแล: seven@klein, Cycling B®y, tntm, เสือ Spectrum
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 2584
- ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ส.ค. 2008, 11:21
- Tel: 0815360903
- team: FS จันดี
- Bike: ํํYeti SB100 / Trek Emonda SL6 Disc
- ติดต่อ:
--- Modern guide to Full Suspension bike ---
ความเดิมหลังจากภาคแรก...........ที่หลายคนเคยอ่านไปแล้ว
คราวนี้เป็นเวอร์ชั่นอัพเดทใหม่ให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีในปัจจุบัน เพี่อเป็นแนวทางให้รู้จักนวัตกรรมใหม่ๆในโลกของจักรยาน full suspension นะครับ
คราวนี้เป็นเวอร์ชั่นอัพเดทใหม่ให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีในปัจจุบัน เพี่อเป็นแนวทางให้รู้จักนวัตกรรมใหม่ๆในโลกของจักรยาน full suspension นะครับ
- ไฟล์แนบ
-
- p5pb10415989.jpg (660.56 KiB) เข้าดูแล้ว 15777 ครั้ง
แก้ไขล่าสุดโดย วัฒน์ จันดี_008 เมื่อ 18 พ.ค. 2015, 08:12, แก้ไขแล้ว 3 ครั้ง
-- YT Jeffsy Carbon / Trek Emonda SL6 Disc --
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 2584
- ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ส.ค. 2008, 11:21
- Tel: 0815360903
- team: FS จันดี
- Bike: ํํYeti SB100 / Trek Emonda SL6 Disc
- ติดต่อ:
Re: --- Modern guide to Full Suspension bike ---
ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจ(หรือเพิ่มความงง)กับศัพท์เทคนิคที่เกี่ยวกับเรื่องน่าปวดหัวนี้ก่อนครับ
Rear Swing Arm: ส่วนของเฟรมที่อยู่หลังท่อนั่ง / หางหลัง
Front Triangle: สามเหลี่ยมเฟรมส่วนหน้า รวมส่วนของท่อนั่ง ท่อบนและท่อล่าง
Pivot Point: จุดหมุนที่ทั้งสองส่วนของเฟรมมาต่อกัน
Pedal-bob: การสูญเสียความเร่งโดยมีผลมาจากการยุบตัวของระบบ
Chain growth: การเคลื่อนที่ของโซ่โดยเกิดจากการทำงานของระบบกันสะเทือน เป็นผลไปสู่
pedal bob (ไม่ควรมีมากนัก).
Brake Jack: การเบรคที่ไปทำให้ระบบกันสะเทือนทำงาน : เบรคแล้วรถยุบตัว (ไม่ควรมี)
Linkage: ชิ้นส่วนเคลื่อนที่ได้เล็กๆที่เชื่อมต่อระหว่างเฟรมส่วนหน้าและหลัง
Travel: ระยะเคลื่อนที่ของล้อหลัง
Shock: อุปกรณ์รับแรงกระแทก –โช๊คหลัง/โช๊คกลาง
Leverage Ratio: อัตราส่วนที่เกิดจากการเปรียบเทียบระหว่าง ระยะยุบตัวของโช็คหลังและระยะ
เคลื่อนที่ของแกนล้อหลัง.
Bottom Bracket: กระโหลก
Seat-stays: ตะเกียบท่อนั่ง
Chain-stays: ตะเกียบโซ่
Floating Brake Caliper: อุปกรณ์ที่มีไว้ป้องกันการเกิด Brake jack
Compression Rate: ความเร็วในการยุบตัวของโช็คต้งแต่จุดปกติถึงจุดที่ยุบตัวสุด
Linear Compression Rate:การที่ compression rate ยังคงคงที่ไม่ว่าโช็คจะยุบตัวเท่าไหร่
Progressive or Rising Compression Rate: การที่ compression rate ช้าลง/ลดลง เ
เมื่อโช๊คมีการยุบตัวมากขึ้น.
Falling Compression Rate: การที่ compression rate เพิ่มขึ้น/เร็วขึ้นเมื่อโช๊คมีการยุบตัว
มากขึ้น
Rear Swing Arm: ส่วนของเฟรมที่อยู่หลังท่อนั่ง / หางหลัง
Front Triangle: สามเหลี่ยมเฟรมส่วนหน้า รวมส่วนของท่อนั่ง ท่อบนและท่อล่าง
Pivot Point: จุดหมุนที่ทั้งสองส่วนของเฟรมมาต่อกัน
Pedal-bob: การสูญเสียความเร่งโดยมีผลมาจากการยุบตัวของระบบ
Chain growth: การเคลื่อนที่ของโซ่โดยเกิดจากการทำงานของระบบกันสะเทือน เป็นผลไปสู่
pedal bob (ไม่ควรมีมากนัก).
Brake Jack: การเบรคที่ไปทำให้ระบบกันสะเทือนทำงาน : เบรคแล้วรถยุบตัว (ไม่ควรมี)
Linkage: ชิ้นส่วนเคลื่อนที่ได้เล็กๆที่เชื่อมต่อระหว่างเฟรมส่วนหน้าและหลัง
Travel: ระยะเคลื่อนที่ของล้อหลัง
Shock: อุปกรณ์รับแรงกระแทก –โช๊คหลัง/โช๊คกลาง
Leverage Ratio: อัตราส่วนที่เกิดจากการเปรียบเทียบระหว่าง ระยะยุบตัวของโช็คหลังและระยะ
เคลื่อนที่ของแกนล้อหลัง.
Bottom Bracket: กระโหลก
Seat-stays: ตะเกียบท่อนั่ง
Chain-stays: ตะเกียบโซ่
Floating Brake Caliper: อุปกรณ์ที่มีไว้ป้องกันการเกิด Brake jack
Compression Rate: ความเร็วในการยุบตัวของโช็คต้งแต่จุดปกติถึงจุดที่ยุบตัวสุด
Linear Compression Rate:การที่ compression rate ยังคงคงที่ไม่ว่าโช็คจะยุบตัวเท่าไหร่
Progressive or Rising Compression Rate: การที่ compression rate ช้าลง/ลดลง เ
เมื่อโช๊คมีการยุบตัวมากขึ้น.
Falling Compression Rate: การที่ compression rate เพิ่มขึ้น/เร็วขึ้นเมื่อโช๊คมีการยุบตัว
มากขึ้น
-- YT Jeffsy Carbon / Trek Emonda SL6 Disc --
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 2584
- ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ส.ค. 2008, 11:21
- Tel: 0815360903
- team: FS จันดี
- Bike: ํํYeti SB100 / Trek Emonda SL6 Disc
- ติดต่อ:
Re: --- Modern guide to Full Suspension bike ---
แนวคิดที่สำคัญในการออกแบบรถ Full suspention.
“ การกระจายน้ำหนัก ” – ทฤษฎีคือ การทำให้น้ำหนัก“ ต้อง ”อยู่ที่จุดศูนย์กลางระหว่างล้อหน้า/หลัง และต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้โดยที่รถจักรยานยังคงใช้ปั่นได้ตามปกติ ผลการแนวคิดนี้คือ รถจะมีเสถียรภาพ และการควบคุมรถที่ดี
“ ง่ายเข้าไว้ ” – ระบบยิ่งซับซ้อนอาจจะหมายถึงประสิทธิภาพที่ดีขึ้น แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการบำรุงรักษาที่ยากขึ้นด้วย ดังนั้นความสมดุลระหว่างการออกแบบระบบและการออกแบบเฟรมจึงเป็นสิ่งสำคัญ
“ ความ Stiff ของเฟรม ” (ผมขอทับศัพท์นะครับเพราะเห็นภาพกว่าการใช้คำว่า"แข็ง") – การบิดตัว(Flex)ของเฟรมในรถกลุ่นนี้มีผลให้ประสิทธิภำในการปั่นลดลงเพราะแทนที่พลังงานจะถ่ายตรงๆไปข้างหน้ากลับต้องมากระจายออกทางแนวข้างเพราะการบิดตัวของเฟรม และยังอาจมีผลให้เกิดความสึกหรอเร็วขึ้นในอุปกรณ์ต่างๆด้วย กฎพื้นฐานง่ายๆ คือ ถ้าชุดลิ้งค์มีขนาดเล็กและไม่ได้เสริมความแข็งแรงดีๆแล้ว ชุดลูกปืนจะสึกหรออย่างรวดเร็ว ซึ่งผู้ผลิตบางรายทำไปเพื่อลดต้นทุนและลดน้ำหนักของเฟรม ความยาวของตะเกียบท่อนั่งก็เป็นอีกปัจจัยนึง ตะเกียบที่ยาวและไม่ได้มีการ “ดามเสริม” จะทำให้เกิดการบิดตัวได้เช่นกัน ซึ่งพบมากในรถที่มีการวางโช๊คในแนวนอน ต่างจากรถที่วางโช๊คในแนวตั้งที่มี Rocker link มาช่วยทำให้ตะเกียบโซ่สั้นลงและยังเพิ่มความ Stiff ได้อีกด้วย
Link ขนาดเล็กและเบาของ Specialized Enduro
เนื่องจากจุด link คือจุดที่ยึดเฟรมส่วนต่างๆเข้าไว้ด้วยกัน สิ่งสำคัญคือความแข็งแรง ในระบบที่ใช้ Rocker link ซึ่งตัวมันเองแปะอยู่บนจุดหมุน ซึ่งโดยมากจะเป็นชิ้นส่วนสองชึ้นมายึดติดกันด้วยน๊อต ซึ่ง"อาจจะ"บิดตัว(Flex)และสึกหรอได้บ้าง ผู้ผลิตบางเจ้าจึงเชื่อมทั้งสองชิ้น หรือขึ้นรูปให้เป็นชิ้นเดียวกันเลยเพื่อความแข็งแรง และ Stiff สูงสุด
Rocker link ใน Giant Glory
ในบางยี่ห้อก็สร้างขึ้นจากการหล่อขึ้นรูปชิ้นเดียวเลย แบบ Trek session
บ้างก็เพิ่มความ Stiff ด้วยการเพิ่มขนาดแกนจุดหมุนให้ใหญ่ขึ้น เช่น Cannondale Jekyll
บ้างก็ออกแบบใหม่ โดยให้จุดหมุนล่างไปซ้อนที่กระโหลกเลย ทำให้ Stiff สุดๆ แถม “ควรจะ”ปั่นดีด้วย
จาก 2015 Specialized Demo
จาก Antidote Lifeline DH
จาก Devinci Wilson
เกริ่นซะยาวเลย ต่อไปคือการแนะนำระบบต่างๆที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันนะครับ
“ การกระจายน้ำหนัก ” – ทฤษฎีคือ การทำให้น้ำหนัก“ ต้อง ”อยู่ที่จุดศูนย์กลางระหว่างล้อหน้า/หลัง และต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้โดยที่รถจักรยานยังคงใช้ปั่นได้ตามปกติ ผลการแนวคิดนี้คือ รถจะมีเสถียรภาพ และการควบคุมรถที่ดี
“ ง่ายเข้าไว้ ” – ระบบยิ่งซับซ้อนอาจจะหมายถึงประสิทธิภาพที่ดีขึ้น แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการบำรุงรักษาที่ยากขึ้นด้วย ดังนั้นความสมดุลระหว่างการออกแบบระบบและการออกแบบเฟรมจึงเป็นสิ่งสำคัญ
“ ความ Stiff ของเฟรม ” (ผมขอทับศัพท์นะครับเพราะเห็นภาพกว่าการใช้คำว่า"แข็ง") – การบิดตัว(Flex)ของเฟรมในรถกลุ่นนี้มีผลให้ประสิทธิภำในการปั่นลดลงเพราะแทนที่พลังงานจะถ่ายตรงๆไปข้างหน้ากลับต้องมากระจายออกทางแนวข้างเพราะการบิดตัวของเฟรม และยังอาจมีผลให้เกิดความสึกหรอเร็วขึ้นในอุปกรณ์ต่างๆด้วย กฎพื้นฐานง่ายๆ คือ ถ้าชุดลิ้งค์มีขนาดเล็กและไม่ได้เสริมความแข็งแรงดีๆแล้ว ชุดลูกปืนจะสึกหรออย่างรวดเร็ว ซึ่งผู้ผลิตบางรายทำไปเพื่อลดต้นทุนและลดน้ำหนักของเฟรม ความยาวของตะเกียบท่อนั่งก็เป็นอีกปัจจัยนึง ตะเกียบที่ยาวและไม่ได้มีการ “ดามเสริม” จะทำให้เกิดการบิดตัวได้เช่นกัน ซึ่งพบมากในรถที่มีการวางโช๊คในแนวนอน ต่างจากรถที่วางโช๊คในแนวตั้งที่มี Rocker link มาช่วยทำให้ตะเกียบโซ่สั้นลงและยังเพิ่มความ Stiff ได้อีกด้วย
Link ขนาดเล็กและเบาของ Specialized Enduro
เนื่องจากจุด link คือจุดที่ยึดเฟรมส่วนต่างๆเข้าไว้ด้วยกัน สิ่งสำคัญคือความแข็งแรง ในระบบที่ใช้ Rocker link ซึ่งตัวมันเองแปะอยู่บนจุดหมุน ซึ่งโดยมากจะเป็นชิ้นส่วนสองชึ้นมายึดติดกันด้วยน๊อต ซึ่ง"อาจจะ"บิดตัว(Flex)และสึกหรอได้บ้าง ผู้ผลิตบางเจ้าจึงเชื่อมทั้งสองชิ้น หรือขึ้นรูปให้เป็นชิ้นเดียวกันเลยเพื่อความแข็งแรง และ Stiff สูงสุด
Rocker link ใน Giant Glory
ในบางยี่ห้อก็สร้างขึ้นจากการหล่อขึ้นรูปชิ้นเดียวเลย แบบ Trek session
บ้างก็เพิ่มความ Stiff ด้วยการเพิ่มขนาดแกนจุดหมุนให้ใหญ่ขึ้น เช่น Cannondale Jekyll
บ้างก็ออกแบบใหม่ โดยให้จุดหมุนล่างไปซ้อนที่กระโหลกเลย ทำให้ Stiff สุดๆ แถม “ควรจะ”ปั่นดีด้วย
จาก 2015 Specialized Demo
จาก Antidote Lifeline DH
จาก Devinci Wilson
เกริ่นซะยาวเลย ต่อไปคือการแนะนำระบบต่างๆที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันนะครับ
แก้ไขล่าสุดโดย วัฒน์ จันดี_008 เมื่อ 18 พ.ค. 2015, 08:26, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 2584
- ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ส.ค. 2008, 11:21
- Tel: 0815360903
- team: FS จันดี
- Bike: ํํYeti SB100 / Trek Emonda SL6 Disc
- ติดต่อ:
Re: --- Modern guide to Full Suspension bike ---
Single Pivot
(ตัวอย่าง : Santa Cruz Superlight / Heckler, Cannondele Rush, Orange ทุกรุ่น, Fezzari Widows Peak, Morewood (excluding the Sukuma & Jabula)
ลักษณะ : หางหลังยึดกับส่วนหน้าด้วยจุดหมุนเพียงจุดเดียว
จุดเด่น : เรียบง่าย และ แข็งแรง
จุดด้อย : Pedal-bob & Brake Jack และอาจมีการบิดตัว(Flex)ได้
ระบบนี้ “ต้องการ” โช๊คหลังที่มีความสามารถพอที่จะลดอาการ pedal-bob และต้องการ floating brake caliper เพื่อลดอาการ brake jack
Orange Patriot
Floating Brake ใน Foes Fly
- ระบบอื่นๆที่พัฒนามาจาก Single Pivot
Transition TR450, TR250, & TR500, Morewood Makula & Kalula, Scott Gambler, Lapiere DH 727, Nukeproof Pulse & Scalp, Foes ทั้งหมด and Rocky Mountain Flatline ใช้การเพิ่มลิ้งค์เสริมเข้ามาเพื่อเพิ่มอัตราทดของโช๊คหลัง ผลคือระยะยุบที่มากขึ้นจากโช๊คที่เล็กลง และมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำลง แต่ว่าชิ้นส่วนมาก = ความยุ่งยากในการดูแล + น้ำหนักมี่เพิ่มขึ้น
Rocky Mountain Flatline
GT, Mongoose, and the Lapiere DH 722 ทั้งหมดล้วนแต่วางกระโหลกในตำแหน่งของหางหลัง หรือไม่ก็ลอยตัวระหว่างเฟรมส่วนหน้าและหางหลัง ที่ทำเช่นนี้เพื่อลดอาการ Pedal-bob แต่เนื่องด้วยกระโหลกมีการเคลื่อนที่อยู่ตลอด จึงคนขี่สามารถจะรู้สึกได้(นิดหน่อย)เมื่อระบบมีการยุบตัว
GT FURY
Mongoose Teocali Comp
Yeti ใช้...ลูกเบี้ยว (eccentric pivots : Switch Technology), แท่งสไลด์ (Switch Infinity) และรางสไลด์ มาเสริมในจุดหมุนเพื่อลด reduce pedal-bob และ brake jack. ระบบมีความซัยซ้อนขึ้นมาก มีประสิทธิภาพมากๆๆ แต่อาจจะต้องกังวลเรื่องอะไหล่หน่อยนึง ( Switch ใน yeti นี้ผมเองยังว่ามันก้ำกึ่งๆจะ Single Pivot ก็ไม่ใช่ จะ VPP ก็ไม่เชิงครับ)
Yeti 303WC “ระบบรางสไลด์”
Yeti SB66 “Switch”
Yeti SB5c “Switch Infinity”
Evil ใช้ ลิ้งค์เล็กๆหลายชิ้นเข้ามาช่วยให้โช๊คลอยตัวและสามารถยุบได้จากทั้งสองด้าน เป็นผลให้แทบไม่มี pedal-bob และ brake jack แต่ก็แลกกับการทำความสะอาดที่ยาก
Evil Undead
(ตัวอย่าง : Santa Cruz Superlight / Heckler, Cannondele Rush, Orange ทุกรุ่น, Fezzari Widows Peak, Morewood (excluding the Sukuma & Jabula)
ลักษณะ : หางหลังยึดกับส่วนหน้าด้วยจุดหมุนเพียงจุดเดียว
จุดเด่น : เรียบง่าย และ แข็งแรง
จุดด้อย : Pedal-bob & Brake Jack และอาจมีการบิดตัว(Flex)ได้
ระบบนี้ “ต้องการ” โช๊คหลังที่มีความสามารถพอที่จะลดอาการ pedal-bob และต้องการ floating brake caliper เพื่อลดอาการ brake jack
Orange Patriot
Floating Brake ใน Foes Fly
- ระบบอื่นๆที่พัฒนามาจาก Single Pivot
Transition TR450, TR250, & TR500, Morewood Makula & Kalula, Scott Gambler, Lapiere DH 727, Nukeproof Pulse & Scalp, Foes ทั้งหมด and Rocky Mountain Flatline ใช้การเพิ่มลิ้งค์เสริมเข้ามาเพื่อเพิ่มอัตราทดของโช๊คหลัง ผลคือระยะยุบที่มากขึ้นจากโช๊คที่เล็กลง และมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำลง แต่ว่าชิ้นส่วนมาก = ความยุ่งยากในการดูแล + น้ำหนักมี่เพิ่มขึ้น
Rocky Mountain Flatline
GT, Mongoose, and the Lapiere DH 722 ทั้งหมดล้วนแต่วางกระโหลกในตำแหน่งของหางหลัง หรือไม่ก็ลอยตัวระหว่างเฟรมส่วนหน้าและหางหลัง ที่ทำเช่นนี้เพื่อลดอาการ Pedal-bob แต่เนื่องด้วยกระโหลกมีการเคลื่อนที่อยู่ตลอด จึงคนขี่สามารถจะรู้สึกได้(นิดหน่อย)เมื่อระบบมีการยุบตัว
GT FURY
Mongoose Teocali Comp
Yeti ใช้...ลูกเบี้ยว (eccentric pivots : Switch Technology), แท่งสไลด์ (Switch Infinity) และรางสไลด์ มาเสริมในจุดหมุนเพื่อลด reduce pedal-bob และ brake jack. ระบบมีความซัยซ้อนขึ้นมาก มีประสิทธิภาพมากๆๆ แต่อาจจะต้องกังวลเรื่องอะไหล่หน่อยนึง ( Switch ใน yeti นี้ผมเองยังว่ามันก้ำกึ่งๆจะ Single Pivot ก็ไม่ใช่ จะ VPP ก็ไม่เชิงครับ)
Yeti 303WC “ระบบรางสไลด์”
Yeti SB66 “Switch”
Yeti SB5c “Switch Infinity”
Evil ใช้ ลิ้งค์เล็กๆหลายชิ้นเข้ามาช่วยให้โช๊คลอยตัวและสามารถยุบได้จากทั้งสองด้าน เป็นผลให้แทบไม่มี pedal-bob และ brake jack แต่ก็แลกกับการทำความสะอาดที่ยาก
Evil Undead
แก้ไขล่าสุดโดย วัฒน์ จันดี_008 เมื่อ 18 พ.ค. 2015, 08:32, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
-- YT Jeffsy Carbon / Trek Emonda SL6 Disc --
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 2584
- ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ส.ค. 2008, 11:21
- Tel: 0815360903
- team: FS จันดี
- Bike: ํํYeti SB100 / Trek Emonda SL6 Disc
- ติดต่อ:
Re: --- Modern guide to Full Suspension bike ---
Fuax-bar
ตัวอย่าง Kona, NS Bikes (ยกเว้นรุ่น Fuzz), Banshee, Cannondale, Scott (ยกเว้นรุ่น Gambler), Jamis, , Nukeproof Mega AM, Mega TR & Rook)
ลักษณะ : ตะเกียบท่อนั่งมีจุดหมุนในตำแหน่งใกล้ๆเหนือแกนดุมหลัง
จุดเด่น : สามารถออกแบบให้มีระยะยุบมากกว่า Single Pivot โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดโช็ค
ข้อด้อย : มี Pedal-bob และ Brake Jack
และเช่นเดียวกับ Single Pivot ระบบนี้ “ต้องการ” โช๊คหลังที่มีความสามารถพอที่จะลดอาการ pedal-bob และต้องการ floating brake
Kona พร้อมกับ Floating brake
- ระบบย่อยๆที่พัฒนาจาก Faux-bar
Kona “Magic Link” ออกแบบให้มีโช๊คตัวเล็กๆเพิ่มเข้ามาในตำแหน่งที่ปกติโช๊คตัวหลักจะยึดกับท่อล่างซึ่งถูกออกแบบมาให้ยุบได้ตอนขาลง(เพิ่มระยะได้นิดหน่อย) และจะต้านการยุบของโช๊คหลักในตอนที่ต้องมีการควงบันได ซึ่งมัน...ไม่เวิร์คเลยฮะ
Kona Coilair “ magic link”
ใน Kona ปีใหม่นั้น Kona ได้โยน Rocker link อันเบ้อเริ่มทิ้งไปแล้วไปใช้ ลิ้งคฺขนาดเล็กลง วางในตำแหน่งต่ำลงมา+วางโช๊คในแนวนอนด้วยซึ่งทำให้รถเตี้ยลงกว่าเดิมมาก
Kona Process153
Cannondale Jekyll และ Claymore และ scott genius ปีเก่าๆ ใช้ระบบโช๊คดึง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ข้อดีรถสามารถเปลี่ยนระยะยุบได้ตามต้องการ แต่ก็แลกกับกการที่เปลี่ยนไปใช้โช๊คอื่นไม่ได้เลย
Fox DYAD ใน Cannondale Claymore
Scott ครั้งนึงเคยใช้ช็คดึงแบบเดียวกับ Cannondale แต่ปัจจุบันกลับมาใช้โช็ค “กด” แบบทั่วไปแล้ว แต่ยังคงเอกลักษณ์เดิมๆของโช๊คดึงคือ การเปลี่ยนระยะยุบได้ ซึ่งหมายถึงการที่ยังคงต้องใช้โช๊คที่ผลิตมาเฉพาะ
2014 Scott Genius
Commencal ยึดตัวโช๊คจาก Rocker link ไปยังหางหลัง เพื่อให้โช๊คลอยตัวจากเฟรมส่วนหน้า ซึ่งทำให้ลดอาการ pedal-bob แต่ด้วยการวางโช๊คแบบทะลุท่อนั่งนี้ จึงต้องมีการเสริมความแข็งแรงในบางจุดทำให้เฟรมมีน้ำหนักมากกกกกกก
Commencal Meta V3
Commencals Meta V4 ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาเรื่องน้ำหนักของตัวเดิม และไม่ใช้การวางโช๊คแบบลอยตัวเพื่อลด pedal-bob แล้ว แต่ให้การวาง+คำนวนตัวแหน่งจุดหมุนที่แม่นยำเข้ามาแทน ผลลัพย์คือไม่แตกต่างจากรุ่นเดิม แต่ลดน้ำหนักลงได้อีก
Commencal Meta V4
ตัวอย่าง Kona, NS Bikes (ยกเว้นรุ่น Fuzz), Banshee, Cannondale, Scott (ยกเว้นรุ่น Gambler), Jamis, , Nukeproof Mega AM, Mega TR & Rook)
ลักษณะ : ตะเกียบท่อนั่งมีจุดหมุนในตำแหน่งใกล้ๆเหนือแกนดุมหลัง
จุดเด่น : สามารถออกแบบให้มีระยะยุบมากกว่า Single Pivot โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดโช็ค
ข้อด้อย : มี Pedal-bob และ Brake Jack
และเช่นเดียวกับ Single Pivot ระบบนี้ “ต้องการ” โช๊คหลังที่มีความสามารถพอที่จะลดอาการ pedal-bob และต้องการ floating brake
Kona พร้อมกับ Floating brake
- ระบบย่อยๆที่พัฒนาจาก Faux-bar
Kona “Magic Link” ออกแบบให้มีโช๊คตัวเล็กๆเพิ่มเข้ามาในตำแหน่งที่ปกติโช๊คตัวหลักจะยึดกับท่อล่างซึ่งถูกออกแบบมาให้ยุบได้ตอนขาลง(เพิ่มระยะได้นิดหน่อย) และจะต้านการยุบของโช๊คหลักในตอนที่ต้องมีการควงบันได ซึ่งมัน...ไม่เวิร์คเลยฮะ
Kona Coilair “ magic link”
ใน Kona ปีใหม่นั้น Kona ได้โยน Rocker link อันเบ้อเริ่มทิ้งไปแล้วไปใช้ ลิ้งคฺขนาดเล็กลง วางในตำแหน่งต่ำลงมา+วางโช๊คในแนวนอนด้วยซึ่งทำให้รถเตี้ยลงกว่าเดิมมาก
Kona Process153
Cannondale Jekyll และ Claymore และ scott genius ปีเก่าๆ ใช้ระบบโช๊คดึง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ข้อดีรถสามารถเปลี่ยนระยะยุบได้ตามต้องการ แต่ก็แลกกับกการที่เปลี่ยนไปใช้โช๊คอื่นไม่ได้เลย
Fox DYAD ใน Cannondale Claymore
Scott ครั้งนึงเคยใช้ช็คดึงแบบเดียวกับ Cannondale แต่ปัจจุบันกลับมาใช้โช็ค “กด” แบบทั่วไปแล้ว แต่ยังคงเอกลักษณ์เดิมๆของโช๊คดึงคือ การเปลี่ยนระยะยุบได้ ซึ่งหมายถึงการที่ยังคงต้องใช้โช๊คที่ผลิตมาเฉพาะ
2014 Scott Genius
Commencal ยึดตัวโช๊คจาก Rocker link ไปยังหางหลัง เพื่อให้โช๊คลอยตัวจากเฟรมส่วนหน้า ซึ่งทำให้ลดอาการ pedal-bob แต่ด้วยการวางโช๊คแบบทะลุท่อนั่งนี้ จึงต้องมีการเสริมความแข็งแรงในบางจุดทำให้เฟรมมีน้ำหนักมากกกกกกก
Commencal Meta V3
Commencals Meta V4 ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาเรื่องน้ำหนักของตัวเดิม และไม่ใช้การวางโช๊คแบบลอยตัวเพื่อลด pedal-bob แล้ว แต่ให้การวาง+คำนวนตัวแหน่งจุดหมุนที่แม่นยำเข้ามาแทน ผลลัพย์คือไม่แตกต่างจากรุ่นเดิม แต่ลดน้ำหนักลงได้อีก
Commencal Meta V4
แก้ไขล่าสุดโดย วัฒน์ จันดี_008 เมื่อ 18 พ.ค. 2015, 08:39, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
-- YT Jeffsy Carbon / Trek Emonda SL6 Disc --
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 2584
- ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ส.ค. 2008, 11:21
- Tel: 0815360903
- team: FS จันดี
- Bike: ํํYeti SB100 / Trek Emonda SL6 Disc
- ติดต่อ:
Re: --- Modern guide to Full Suspension bike ---
4-Bar/Horst-link/FSR
ตัวอย่าง Norco, Specialized, Ghost, Transition (ยกเว้น TR250, TR450 & TR500), YT Industries, Ellsworth, Cube, Lapiere, NS Fuzz, Canyon, Nicolai)
ลักษณะ : ตะเกียบโช่จะมีจุดหมุนอยู่ในตำแหน่งด้านหน้าของแกนดุมหลัง
จุดเด่น : มี brake jack น้อย, เนียน หนึบสุดๆ
จุดด้อย: มี pedal-bob เมื่อใช้เกียร์เบาๆ
ในระบบนี้ต้องการโช๊คที่มีความสามารถที่จะมาลดอาการ pedal bob แต่อย่างไรก็ตามในผู้ผลิตบางเจ้านั้นก็ออกแบบและคำนวนการวางโช๊คและตำแหน่งจุดหมุนมาดีมากๆจนแทบไม่เหลืออาการ pedal-bob เลยครับ
Nicolai Ion16
- ระบบย่อยๆที่พัฒนาจาก 4 Bar/Horst-link/FSR
Rocky Mountain ตัวใหม่ๆ (ยกเว้น Flatline) “Smooth Link” มีจุดหมุนอยู่หน้าแกนดุมในตำปหน่งที่ชิดมากๆ ผลคือลด chain growth ซึ่งเป็นตัวการของ pedal bob และมี Flip chip ที่ทำให้สามารถเปลี่ยนตำแหน่งจุดยึดโช๊คได้ ทำให้สามารถปรับเปลี่ยน “นิสัย” ของได้
Rocky Mountain Altitude
Flip chip
Knolly ได้เพิ่ม ลิ้งค์รองอีกชุดเพื่อปรับปรุง leverage ratio แต่ก็แลกกับน้ำหนัก+การดูแลที่มากขึ้น
Knolly Warden
Specialized ใช้วาล์วอีกชุดที่เรียกว่า “Brain” ทำหน้าที่ในการควบคุมอัตราการไหลของน้ำมันในโช๊คทำให้โช๊คทำงาน “แทบจะ”เป็นอัตโนมัต แต่อย่างที่ทราบกันว่า แทบจะเป็นได้ในการซ่อมมัน
Brain
Specialized Demo ตัวล่าสุดได้ย้ายจุดหมุนหลักจากเหนือกระโหลกมาซ้อนที่กระโหลกเลย ซึ่งแนวคิดขึ้นพบในรถ slopestyle bike มากก่อน ซึ่งทำให้สามารถออกแบบให้ตะเกียบโซ่ ใหญ่ขึ้น แข็งแรงขึ้นและสั้นลงได้อย่างมีนัยยะ
2014 Specialized Demo Carbon
Ghost Riot ออกแบบให้มีลิ้งค์ตัวเล็กๆซ่อนอยู่เหนือกระโหลก ซึ่งจะยึดกับโช๊คและหางหลังในแบบลอยตัวเพื่อลด pedal-bob ลงและปรับประสิทธิภาพในการควงลูกบันไดให้ดียิ่งขึ้น แต่...น่าจะเป็นอีกตัวที่ล้างยาก55555
GT Helion /Sensor และ Force ใช้ระบบ "AOS" ซึ่งออกแบบมาให้ลิ้งค์ที่กระทำกับโช๊คอย่างในตำแหน่งมากและกระโหลกยังอยู่ในชุดลิ้งค์นี้ด้วย เมื่อระบบมีการยุบตัว จานหน้าจะเคลื่อนี่ไปกับระบบด้วยทำให้ไม่เกิด chain growth ซึ่งเป็นเหตุหลักของ pedal-bob เลย และยังทำให้ศูนย์ถ่วงของรถต่ำลงมาก แต่จากการที่กระโหลกเป็นชิ้นเดียวกับลิ้งค์ทำให้อาจจะ “สัมผัส” ได้ว่าจานหน้ามี่การเคลื่อนไหวได้ในระหว่างขี่
GT “AOS”
2014 Marin Mount Vision ใช้ Horst Link แต่เลือกที่ใช้การให้ตัวของตะเกียบโซ่ที่เป็น carbon แทนจุดหมุนผลคือน้ำหนักที่ลดลง แต่ความคงทนคืออีกเรื่องนึง....
2014 Marin Mount Vision
ตัวอย่าง Norco, Specialized, Ghost, Transition (ยกเว้น TR250, TR450 & TR500), YT Industries, Ellsworth, Cube, Lapiere, NS Fuzz, Canyon, Nicolai)
ลักษณะ : ตะเกียบโช่จะมีจุดหมุนอยู่ในตำแหน่งด้านหน้าของแกนดุมหลัง
จุดเด่น : มี brake jack น้อย, เนียน หนึบสุดๆ
จุดด้อย: มี pedal-bob เมื่อใช้เกียร์เบาๆ
ในระบบนี้ต้องการโช๊คที่มีความสามารถที่จะมาลดอาการ pedal bob แต่อย่างไรก็ตามในผู้ผลิตบางเจ้านั้นก็ออกแบบและคำนวนการวางโช๊คและตำแหน่งจุดหมุนมาดีมากๆจนแทบไม่เหลืออาการ pedal-bob เลยครับ
Nicolai Ion16
- ระบบย่อยๆที่พัฒนาจาก 4 Bar/Horst-link/FSR
Rocky Mountain ตัวใหม่ๆ (ยกเว้น Flatline) “Smooth Link” มีจุดหมุนอยู่หน้าแกนดุมในตำปหน่งที่ชิดมากๆ ผลคือลด chain growth ซึ่งเป็นตัวการของ pedal bob และมี Flip chip ที่ทำให้สามารถเปลี่ยนตำแหน่งจุดยึดโช๊คได้ ทำให้สามารถปรับเปลี่ยน “นิสัย” ของได้
Rocky Mountain Altitude
Flip chip
Knolly ได้เพิ่ม ลิ้งค์รองอีกชุดเพื่อปรับปรุง leverage ratio แต่ก็แลกกับน้ำหนัก+การดูแลที่มากขึ้น
Knolly Warden
Specialized ใช้วาล์วอีกชุดที่เรียกว่า “Brain” ทำหน้าที่ในการควบคุมอัตราการไหลของน้ำมันในโช๊คทำให้โช๊คทำงาน “แทบจะ”เป็นอัตโนมัต แต่อย่างที่ทราบกันว่า แทบจะเป็นได้ในการซ่อมมัน
Brain
Specialized Demo ตัวล่าสุดได้ย้ายจุดหมุนหลักจากเหนือกระโหลกมาซ้อนที่กระโหลกเลย ซึ่งแนวคิดขึ้นพบในรถ slopestyle bike มากก่อน ซึ่งทำให้สามารถออกแบบให้ตะเกียบโซ่ ใหญ่ขึ้น แข็งแรงขึ้นและสั้นลงได้อย่างมีนัยยะ
2014 Specialized Demo Carbon
Ghost Riot ออกแบบให้มีลิ้งค์ตัวเล็กๆซ่อนอยู่เหนือกระโหลก ซึ่งจะยึดกับโช๊คและหางหลังในแบบลอยตัวเพื่อลด pedal-bob ลงและปรับประสิทธิภาพในการควงลูกบันไดให้ดียิ่งขึ้น แต่...น่าจะเป็นอีกตัวที่ล้างยาก55555
GT Helion /Sensor และ Force ใช้ระบบ "AOS" ซึ่งออกแบบมาให้ลิ้งค์ที่กระทำกับโช๊คอย่างในตำแหน่งมากและกระโหลกยังอยู่ในชุดลิ้งค์นี้ด้วย เมื่อระบบมีการยุบตัว จานหน้าจะเคลื่อนี่ไปกับระบบด้วยทำให้ไม่เกิด chain growth ซึ่งเป็นเหตุหลักของ pedal-bob เลย และยังทำให้ศูนย์ถ่วงของรถต่ำลงมาก แต่จากการที่กระโหลกเป็นชิ้นเดียวกับลิ้งค์ทำให้อาจจะ “สัมผัส” ได้ว่าจานหน้ามี่การเคลื่อนไหวได้ในระหว่างขี่
GT “AOS”
2014 Marin Mount Vision ใช้ Horst Link แต่เลือกที่ใช้การให้ตัวของตะเกียบโซ่ที่เป็น carbon แทนจุดหมุนผลคือน้ำหนักที่ลดลง แต่ความคงทนคืออีกเรื่องนึง....
2014 Marin Mount Vision
- ไฟล์แนบ
-
- FSR.jpg (30.04 KiB) เข้าดูแล้ว 15777 ครั้ง
แก้ไขล่าสุดโดย วัฒน์ จันดี_008 เมื่อ 18 พ.ค. 2015, 08:56, แก้ไขแล้ว 3 ครั้ง
-- YT Jeffsy Carbon / Trek Emonda SL6 Disc --
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 2584
- ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ส.ค. 2008, 11:21
- Tel: 0815360903
- team: FS จันดี
- Bike: ํํYeti SB100 / Trek Emonda SL6 Disc
- ติดต่อ:
Re: --- Modern guide to Full Suspension bike ---
ABP "Active Braking Pivot" / Split Pivot
ตัวอย่าง Trek ทุกรุ่น, Devinci, Morewood Sukuma & Jabula
ลักษณะ : มีจุดหมุนซ้อนในตำแหน่งเดียวกับแกนดุมล้อหลังเลย
จุดเด่น : ไร้อาการ brake jack, ควงลูกบันไดได้ดี
จุดด้อย : ขึ้นอยู่กับการออกแบบ ถ้าออกแบบไม่ดีอาจจะนุ่มจนโช๊ค “หมด” เร็วเกินไป หรือ
“กระด้าง”จนไม่ช่วยเก็บรายละเอียดเล็กๆ และแกนดุมหลังที่เข้ากับชาวบ้านไม่ได้เลย
- ระบบย่อยๆใน ABP "Active Braking Pivot" / Split Pivot
Devinci Wilson ออกแบบมาให้ลิ้งค์ส่วนที่กระทำกับโช๊คอยู่ใต้กระโหลก แทนที่จะอยู่เหนือแบบทั่วๆไป เพื่อเปลี่ยน leverage ratio และทำให้ศูนย์ถ่วงต่ำลงและยังทำให้การเก็บรายละเอียดเล็กๆทำได้ดีขึ้นอีกด้วย
Trek ใช้การวางตำแหน่งโช๊คแบบลอยตัวง่ายๆแต่มีประสิทธิภาพ โดยที่ไม่ต้องไปเจาะท่อนั่ง โช๊คยึดกับตะเกียบโซ่ตรง+มี Rocker link อีกตัวส่งแรงกระทำกับโช๊คทำให้ compression rate มีความ linear และยังขจัดปัญหา brake jack และ pedal-bob ไปได้อย่างสิ้นเชิงอีกด้วย แต่ความที่ linear ไปนี่แหละที่ทำให้เกิดปัญหา “หมด” เร็วเกินไป Trek จึงแก้ปัญหาด้วยโช๊ค DRCV (dual rate control valve) ผลคือช่วงยุบลึกๆดรขึ้นแต่...แลกกับว่าจุดยึดโช๊คแบบเฉพาะจึงต้องใช้โช๊คที่ออกแบบมาเฉพาะเท่านั้น
Trek Slash
ตัวอย่าง Trek ทุกรุ่น, Devinci, Morewood Sukuma & Jabula
ลักษณะ : มีจุดหมุนซ้อนในตำแหน่งเดียวกับแกนดุมล้อหลังเลย
จุดเด่น : ไร้อาการ brake jack, ควงลูกบันไดได้ดี
จุดด้อย : ขึ้นอยู่กับการออกแบบ ถ้าออกแบบไม่ดีอาจจะนุ่มจนโช๊ค “หมด” เร็วเกินไป หรือ
“กระด้าง”จนไม่ช่วยเก็บรายละเอียดเล็กๆ และแกนดุมหลังที่เข้ากับชาวบ้านไม่ได้เลย
- ระบบย่อยๆใน ABP "Active Braking Pivot" / Split Pivot
Devinci Wilson ออกแบบมาให้ลิ้งค์ส่วนที่กระทำกับโช๊คอยู่ใต้กระโหลก แทนที่จะอยู่เหนือแบบทั่วๆไป เพื่อเปลี่ยน leverage ratio และทำให้ศูนย์ถ่วงต่ำลงและยังทำให้การเก็บรายละเอียดเล็กๆทำได้ดีขึ้นอีกด้วย
Trek ใช้การวางตำแหน่งโช๊คแบบลอยตัวง่ายๆแต่มีประสิทธิภาพ โดยที่ไม่ต้องไปเจาะท่อนั่ง โช๊คยึดกับตะเกียบโซ่ตรง+มี Rocker link อีกตัวส่งแรงกระทำกับโช๊คทำให้ compression rate มีความ linear และยังขจัดปัญหา brake jack และ pedal-bob ไปได้อย่างสิ้นเชิงอีกด้วย แต่ความที่ linear ไปนี่แหละที่ทำให้เกิดปัญหา “หมด” เร็วเกินไป Trek จึงแก้ปัญหาด้วยโช๊ค DRCV (dual rate control valve) ผลคือช่วงยุบลึกๆดรขึ้นแต่...แลกกับว่าจุดยึดโช๊คแบบเฉพาะจึงต้องใช้โช๊คที่ออกแบบมาเฉพาะเท่านั้น
Trek Slash
แก้ไขล่าสุดโดย วัฒน์ จันดี_008 เมื่อ 18 พ.ค. 2015, 08:49, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง
-- YT Jeffsy Carbon / Trek Emonda SL6 Disc --
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 2584
- ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ส.ค. 2008, 11:21
- Tel: 0815360903
- team: FS จันดี
- Bike: ํํYeti SB100 / Trek Emonda SL6 Disc
- ติดต่อ:
Re: --- Modern guide to Full Suspension bike ---
VPP “Virtual Pivot Point” Maestro (Giant) หรือ DW-LINK
(ตัวอย่าง Meastro ของ Giant, Ibis, Santa Cruz Blur / 5010 / Broson / Nomad /V10 , Intense, Banshee, Pivot, Turner, Cove, BMC, Marin (ยกเว้นตัว Mount Vision), Niner and ทุกคันที่ใช้ระบบ DW LINK)
ลักษณะ : จุดสังเกตหลักของกลุ่มนี้คือ จะมีลิ้งค์ชุดเล็กๆที่ยึดเฟรมส่วนหน้าและส่วนหลัง 2 ชุดโดย
ชุดนึงอยู่เหนือ/ใต้/หลัง กระโหลก อีกชุดอยู่ที่ท่อนั่ง และเพราะระบบหมุนรอบๆเฟรมส่วนหน้าโดยไม่มีจุดหมุนหลักจึงเรียกมันว่า virtual pivot point
จุดเด่น : ไม่มี brake jack, ควงลูกบันไดได้มากๆ
จุดด้อย : น้ำหนัก, ราคา,การบำรุงรักษา, การบิดตัว(Flex)ได้ของชุดลิ้งค์ อาจทำให้จุดหมุน
สึกหรอเร็วและอาจทำให้ compression rate เพี้ยน
Giant Meastro
DW-Link
VPP
ระบบย่อยๆที่พัฒนาจาก VPP
VPP หลายตัวมีการออกแบบให้โช๊คยึดกับลิ้งค์ตัวเล็กๆใกล้ๆกับกระโหลกทนที่จะเป็นลิ้งค์ชุดบนเพื่อขยายช่วงยุบให้มากที่สุด (Intense M9 or Santa Cruz V10 / Nomad 27.5) ซึ่งการออกแบบแบบนี้มีข้อจำกัดคือ ท่อนั่งที่สั้นและไม่ตรงที่จะถูกจำกัดความยางของหลักอาน และต้องการการเสริมความแข็งแรงด้วย
Intense M9
Santa cruz V10
Santa Cruz Nomad 27.5
Mondraker ใช้ระบบ "Zero Suspension" ซึ่งรวมระหว่าง virtual pivot system และการวางโช๊คลอยตัว โดยโช๊คยึดกับ ลิ้งค์ล่างและ Rocker link
Mondraker “Zero Suspension”
Polygon Collusus N9 ใช้ระบบ FS3 ซึ่งดูคล้ายกับใน Mondraker แต่วางจุดหมุนล่างไว้หน้า/เหนือกระโหลกแทนซึ่งทำให้ผลการทำงานของระบบต่างออกไป แต่จากรูปจะเห็นได้ว่าต้องมีการเสริมความแข็งแรงของเฟรมพอสมควรเลย.
Polygon Collusus N9
Antidote ใช้ระบบ FDS (Floating Dampening System) ซึ่งเป็นการทำให้โช๊คลอยตัวแบบใน Mondraker แต่ว่าเลือกที่จะเลื่อนจุดหมุนที่ใกล้กะโหลก เข้าไปซ่อนในกะโหลกเลย ซึ่งการทำแบบนี้เป็นการเพิ่มความ Stiff ขึ้นแน่ๆ และการวางลิ้งค์ชุดบนทำให้ตำแหน่งของคนขี่ไม่เปลี่ยนในขณะที่ระบบยุบตัวด้วย แต่ข้อด้วยชัดๆเลยคือการวางโช๊คที่เปิดโล่งอยู่ด้านหลัง
Antidote Carbonjack
(ตัวอย่าง Meastro ของ Giant, Ibis, Santa Cruz Blur / 5010 / Broson / Nomad /V10 , Intense, Banshee, Pivot, Turner, Cove, BMC, Marin (ยกเว้นตัว Mount Vision), Niner and ทุกคันที่ใช้ระบบ DW LINK)
ลักษณะ : จุดสังเกตหลักของกลุ่มนี้คือ จะมีลิ้งค์ชุดเล็กๆที่ยึดเฟรมส่วนหน้าและส่วนหลัง 2 ชุดโดย
ชุดนึงอยู่เหนือ/ใต้/หลัง กระโหลก อีกชุดอยู่ที่ท่อนั่ง และเพราะระบบหมุนรอบๆเฟรมส่วนหน้าโดยไม่มีจุดหมุนหลักจึงเรียกมันว่า virtual pivot point
จุดเด่น : ไม่มี brake jack, ควงลูกบันไดได้มากๆ
จุดด้อย : น้ำหนัก, ราคา,การบำรุงรักษา, การบิดตัว(Flex)ได้ของชุดลิ้งค์ อาจทำให้จุดหมุน
สึกหรอเร็วและอาจทำให้ compression rate เพี้ยน
Giant Meastro
DW-Link
VPP
ระบบย่อยๆที่พัฒนาจาก VPP
VPP หลายตัวมีการออกแบบให้โช๊คยึดกับลิ้งค์ตัวเล็กๆใกล้ๆกับกระโหลกทนที่จะเป็นลิ้งค์ชุดบนเพื่อขยายช่วงยุบให้มากที่สุด (Intense M9 or Santa Cruz V10 / Nomad 27.5) ซึ่งการออกแบบแบบนี้มีข้อจำกัดคือ ท่อนั่งที่สั้นและไม่ตรงที่จะถูกจำกัดความยางของหลักอาน และต้องการการเสริมความแข็งแรงด้วย
Intense M9
Santa cruz V10
Santa Cruz Nomad 27.5
Mondraker ใช้ระบบ "Zero Suspension" ซึ่งรวมระหว่าง virtual pivot system และการวางโช๊คลอยตัว โดยโช๊คยึดกับ ลิ้งค์ล่างและ Rocker link
Mondraker “Zero Suspension”
Polygon Collusus N9 ใช้ระบบ FS3 ซึ่งดูคล้ายกับใน Mondraker แต่วางจุดหมุนล่างไว้หน้า/เหนือกระโหลกแทนซึ่งทำให้ผลการทำงานของระบบต่างออกไป แต่จากรูปจะเห็นได้ว่าต้องมีการเสริมความแข็งแรงของเฟรมพอสมควรเลย.
Polygon Collusus N9
Antidote ใช้ระบบ FDS (Floating Dampening System) ซึ่งเป็นการทำให้โช๊คลอยตัวแบบใน Mondraker แต่ว่าเลือกที่จะเลื่อนจุดหมุนที่ใกล้กะโหลก เข้าไปซ่อนในกะโหลกเลย ซึ่งการทำแบบนี้เป็นการเพิ่มความ Stiff ขึ้นแน่ๆ และการวางลิ้งค์ชุดบนทำให้ตำแหน่งของคนขี่ไม่เปลี่ยนในขณะที่ระบบยุบตัวด้วย แต่ข้อด้วยชัดๆเลยคือการวางโช๊คที่เปิดโล่งอยู่ด้านหลัง
Antidote Carbonjack
แก้ไขล่าสุดโดย วัฒน์ จันดี_008 เมื่อ 18 พ.ค. 2015, 08:54, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
-- YT Jeffsy Carbon / Trek Emonda SL6 Disc --
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 2584
- ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ส.ค. 2008, 11:21
- Tel: 0815360903
- team: FS จันดี
- Bike: ํํYeti SB100 / Trek Emonda SL6 Disc
- ติดต่อ:
Re: --- Modern guide to Full Suspension bike ---
เพื่อนๆพี่ๆ ใครมีอะไรจะเสริมจุดไหนเชิญเลยครับ
ปล. เห็นจักรยาน 2 โช๊คอย่าเพิ่งเหมาว่า หนัก กินแรง ย้วย หรือว่าเป็นดาวน์ฮิล มันมีอะไรน่าสนใจอีกมากมายที่ คนลองแล้วไม่ค่อยจะพูด แต่คนพูดมากๆส่วนใหญ่ไม่เคยลอง......ความสนุกของการปั่นจักรยานไม่มีแค่ ถนนดำ/รอบขา/AV/Watt ครับ
ปล. เห็นจักรยาน 2 โช๊คอย่าเพิ่งเหมาว่า หนัก กินแรง ย้วย หรือว่าเป็นดาวน์ฮิล มันมีอะไรน่าสนใจอีกมากมายที่ คนลองแล้วไม่ค่อยจะพูด แต่คนพูดมากๆส่วนใหญ่ไม่เคยลอง......ความสนุกของการปั่นจักรยานไม่มีแค่ ถนนดำ/รอบขา/AV/Watt ครับ
แก้ไขล่าสุดโดย วัฒน์ จันดี_008 เมื่อ 18 พ.ค. 2015, 08:55, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
-- YT Jeffsy Carbon / Trek Emonda SL6 Disc --
- ngoa
- ขาประจำ
- โพสต์: 1512
- ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ส.ค. 2012, 02:13
Re: --- Modern guide to Full Suspension bike ---
ยอดเยี่ยมมากครับ
-
- สมาชิก
- โพสต์: 70
- ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ธ.ค. 2013, 18:25
- Bike: ORBEA OIZ OMG 2014
- ตำแหน่ง: Bangkok
- Tazzy21
- ขาประจำ
- โพสต์: 1601
- ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 15:58
- Tel: 081-4562181
- team: เสือเมืองพาน
- Bike: Louis Garneau_Five , Louis Garneau_CR , Wheeler เก่าๆๆ , Miyata , แม่บ้านโค-ตะ-ระเก๋าเก่า
Re: --- Modern guide to Full Suspension bike ---
ปั่นไปเรื่อยๆ ....เดี๋ยวก็หายเหนื่อยเอง.....แต่ตอนนี้เริ่มเหนื่อยแล้ว
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 845
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 23:14
- team: ฺFreedom
- Bike: Niner Jet 9 RDO Full Carbon
- ตำแหน่ง: 159/87 ถ.เรียบทางรถไฟ ม.ลำพูนสปาแลนด์ ม.10 ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ลำพูน 51000
- ติดต่อ:
Re: --- Modern guide to Full Suspension bike ---
ยอดเยี่ยม และ ขอบคุณมากๆ ครับ
" ความตาย มันจะฆ่าเราแค่ครั้งเดียว
แต่ความกลัวมันจะฆ่าเราตลอดไป "
แต่ความกลัวมันจะฆ่าเราตลอดไป "
- MaMiLk
- ขาประจำ
- โพสต์: 2863
- ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ส.ค. 2008, 07:53
- team: เครซี่ ด๊อกซ์ นครหาดใหญ่ กับ Buffalo Upgraded
- Bike: KTM DUKE 390R
Re: --- Modern guide to Full Suspension bike ---
เยี่ยมครับพี่วัฒน์ 7 นิ้ว
นั่งทับบนเหล็กร้อน 1 นาที ช่างยาวนานราว 1 ชั่วโมง
แต่นั่งทับบนสาวงาม 1 ชั่วโมง ช่างรวดเร็วราวกับ 1 นาที
แต่นั่งทับบนสาวงาม 1 ชั่วโมง ช่างรวดเร็วราวกับ 1 นาที
- YUTTANA
- ขาประจำ
- โพสต์: 250
- ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ธ.ค. 2009, 23:35
- Tel: 0813344364
- team: SE RACING THAILAND / BABY DIRT 893
- Bike: SE BMX / FOES RACING / TREK / DARTMOOR PHANTOM / CANNONDALE SCALPEL / NS SODA FREERIDE / GT FORCE
Re: --- Modern guide to Full Suspension bike ---
ข้อมูลดีๆทั้งนั้นเลยครับ