ปั่นคนเดียว เที่ยวเวียดนาม (วงกลม กทม.-ตราด-เขมร-เวียดนาม-ลาว-อุบลฯ-กทม.)
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 1002
- ลงทะเบียนเมื่อ: 24 เม.ย. 2011, 14:09
- team: ไร้สังกัด
- Bike: เทรค3900
- ติดต่อ:
Re: ปั่นคนเดียว เที่ยวเวียดนาม (วงกลม กทม.-ตราด-เขมร-เวียดนาม-ลาว-อุบลฯ-กทม.)
สุดยอดเลยครับอยากมีสักครั้งในชีวิต
- sompong39
- ขาประจำ
- โพสต์: 3149
- ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ส.ค. 2008, 08:33
- Tel: 0981019695
- team: แอบขี่ ...
- Bike: แม่บ้าน พับ หมอบ ภูเขา ทัวร์ริ่ง
Re: ปั่นคนเดียว เที่ยวเวียดนาม (วงกลม กทม.-ตราด-เขมร-เวียดนาม-ลาว-อุบลฯ-กทม.)
ไม่สนละงานนี้ เอาเชือก เกี่ยว เฟรม เกี่ยวอาน เกี่ยวตีนฝี มีจุดไหนมัดได้ เอาหมด
ตามไปด้วยยยยๆๆๆๆๆ
+100
ตามไปด้วยยยยๆๆๆๆๆ
+100
___H__
_/\ \
/\__\\__ __\
| | "" | |''''||`
~~~""""`"""""`~~* ความรัก..คือ อะไร .....
_/\ \
/\__\\__ __\
| | "" | |''''||`
~~~""""`"""""`~~* ความรัก..คือ อะไร .....
- Isara8811
- ขาประจำ
- โพสต์: 312
- ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ค. 2012, 17:45
- team: อิสระ
- Bike: trek
Re: ปั่นคนเดียว เที่ยวเวียดนาม (วงกลม กทม.-ตราด-เขมร-เวียดนาม-ลาว-อุบลฯ-กทม.)
เหนือคำบรรยา.......เยี่ยมยอด
- oldhippie
- ขาประจำ
- โพสต์: 447
- ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ม.ค. 2012, 15:31
- Tel: นั่งทางในเอาครับ
- team: โดดเดี่ยว
- Bike: เมื่อยละเด้อ
Re: ปั่นคนเดียว เที่ยวเวียดนาม (วงกลม กทม.-ตราด-เขมร-เวียดนาม-ลาว-อุบลฯ-กทม.)
วัน ๐๗ (๑๔ ม.ค. ๕๖) Ho Chi Minh City
วันพัก - ปั่นจักรยานเที่ยว
หลังจากให้จักรยานพัก ๑ วัน วันนี้เกิดความคึกเลยเข็นจักรยานออกจากโรงแรมที่พักเข้าร่วมกระแสการจราจรของ HCMC ปั่นแบบไม่มีจุดมุ่งหมายไหลไปตามฝูงจักรยาน จักรยานยนต์เข้าถนนโน้นออกถนนนี้
เจอแม่ค้าขายของข้างทางเยอะมากแต่เป็นประเภทหาบเร่ คือเช้าขึ้นมาเค้าก็จะมาตั้งขายของริมทางฝูงชนที่ขี่จักรยาน จักรยานยนต์ก็จะเข้ามาจอดเทียบซื้อ ซื้อเสร็จก็ปั่น หรือบิดไปต่อ ส่วนแม่ค้าเมื่อขายหมดก็ยกอุปกรณ์ใส่ท้ายจักรยานยนต์กลับบ้าน ผมไม่รู้ว่าเป็นเพราะกฏหมายเขาหรือว่าจิตสำนึก หรือว่ากลัวของหายแต่เท่าที่สังเกตุก็เห็นเค้าทำกันแบบนี้ทุกถนน
ดูอย่างแผงขายหนังสือครับ
ผมเห็นเค้าขนขาตั้งพร้อมหนังสือใส่ท้ายรถจักรยานยนต์มา มาถึงก็ตั้งขาตั้งเอาแผงยึดกับขาตั้งแล้วก็จัดการเรียงหนังสือโชว์ ใครใคร่ซื้อก็เข้ามาจอดเทียบ ได้ของจ่ายตังค์แล้วก็ไปต่อตำรวจก็ไม่เห็นมายุ่ง แผงลอยเค้ามีทุกถนนล่ะครับแต่พอเลิกขายเค้าก็เก็บกลับไม่มีการทิ้งไว้ให้เกะกะทางเดิน เท่าที่ผ่านๆ ไม่เห็นมีการยึดพื้นที่ทางเท้าอย่างถาวรเหมือนประเทศสารขัณฑ์ พ่อค้าแม่ค้าพวกนี้ก็น่าจะเป็นคนจนที่ต้องปากกัด ตีนถีบ หาเช้ากินค่ำเหมือนกัน
เจอแม่ค้าขายของกินหน้าตาคุ้นๆ เลยซื้อชิม ซื้อเสร็จก็ยกจักรยานขึ้นทางเท้ายืนกินตรงนั้นเลย เค้าทำเหมือนกระเพาะปลาเมืองไทย แต่ไม่มีกระเพาะปลามีไก่ฉีกเป็นฝอยต้มรวมกับเห็ดหอม ไข่นกกระทา เครื่องปรุงก็มีพริกน้ำส้ม จิ๊กโฉ่ว อร่อยดีราคาแค่ ๑๐,๐๐๐ ด่อง ๑๕ บาท อิ่มแปล้ แหะ แหะ ไม่รู้เค้าเรียกอะไรครับ
ได้ปั่นอย่างสนุกท่ามกลางเสียงจักรยานยนต์ แตรรถยนต์ แตรจักรยานยนต์ เสียงสัญญาณเลี้ยวแบบที่เมืองไทยเคยฮิตอยู่พักหนึ่ง เมื่อนานมาแล้วแต่ของเค้าดังได้ใจมาก เค้าใช้เสียงกันได้พร่ำเพรื่อจริง ทำเอาขี้หูร่วงกราวแต่ก็ดีเป็นการเตือนให้เรารู้และระวัง ได้ประสบการณ์การใช้ถนนร่วมกับชาวเวียดนามอยู่อย่างหนึ่ง ให้ระวังเฉพาะข้างหน้า ถ้าเขาเข้าข้างหน้าเราเมื่อไหร่เขาจะได้ Right-of-way คันหลังต้องระวังคันหน้า ไม่ต้องกังวลมองซ้าย มองขวา ระวังข้างหน้าอย่างเดียว เราคนปั่นต้องคอยเล็งว่าทางแยกหรือวงเวียนข้างหน้าเราจะไปทางไหน ถ้าจะเลี้ยวขวาก็ชิดขอบทางไว้ ถ้าจะตรงไปก็ออกมาอยู่กลางๆถนนอย่างนี้ จะอ้อมวงเวียนก็ออกไปทางซ้าย เท่าที่ปั่นอยู่ ๓-๔ ชั่วโมงไม่เห็นมีอุบัติเหตุเค้าอะลุ้มอล่วยกันดีครับถ้อยทีถ้อยอาศัย คนอยู่ข้างหน้าได้ไปก่อน ไม่เห็นมีใครใหญ่คับถนนประเภทถนนนี้ตรูสร้างเอ็งอย่ามาสะเออะวิ่งอะไรอย่างนั้น แต่คนเวียดนามไม่ค่อยเคารพสัญญาณไฟ ไฟแดง แดงนานแล้วก็ฝ่าทั้งๆที่ตำรวจก็ยืนอยู่ ก็ไม่เห็นโดนเรียกครับ อีกพวกก็ประเภทอีก ๒-๓ วิ ไฟจะเขียวพี่แกจะบีบแตรกันลั่นเร่งให้รถข้างหน้ารีบออก เอาเป็นว่าปั่นจักรยานในเวียดนามไม่ยากอย่างที่คิดครับ
หลังจากสนุกกับการปั่นมานานก็เปิดแผนที่ เป้าหมายแรกคือ Botanical Gardens and zoo อันนี้ไปไม่ยากครับ เจอแม่น้ำไซง่อนก็เลาะริมน้ำขึ้นไปทางเหนือเรื่อยๆเดี๋ยวก็เจอ อ่านจากไกด์บุ๊คเห็นบอกว่ามีค่าเข้าชม ๘,๐๐๐ ด่องก็เดินไปจะซื้อตั๋วแต่ จนท.บุ้ยใบ้บอกจักรยานเข้าไม่ได้ แฮ่ ผมกลัวรถหายครับ จะเอาไปฝากค่าฝากก็ตั้ง ๒,๐๐๐ รวมแล้วเป็นหมื่น อันที่จริงต้นไม้ใบหญ้าไม่อยู่ในความสนใจของผมอยู่แล้ว ว่าแล้วไปดีกว่า
เป้าหมายที่สอง Jade Emperor Pagoda จากหน้าสวนพฤกษศาสตร์ก็มุ่งหน้าขึ้นเหนือไปตามถนน Nguyen Binh Khiem จนเจอวงเวียนที่ถนน Dien Bien Phu อ้อมวงเวียนเข้าถนนเดียน เบียน ฟูย้อนเข้าเมือง ไปจนถึงทางมีมีวันเวย์โผล่มาก็วนกลับถนนเดียน เบียน ฟูอีกครั้งก่อนถึงถนน เหงียน บินท์ เขียม จะเจอถนน Mai Thi Luu เลี้ยวขวาเข้าไปเลยครับ แต่ปั่นมาจนสุดถนน ไม ทิ ลู ก็หาไม่เจอถนนสั้นๆเองครับไม่เกิน ๕๐๐ เมตรไกด์บุ๊คบอกอยู่บนถนนนี้ วนอยู่สองรอบก็ไม่เจอถามคนเวียดนามก็ แบ๊ะ แบ๊ะ ไม่ได้เป็นใบ้ครับแต่สื่อสารกันไม่รู้เรื่อง จู่ๆปัญญาก็เกิดว่าแล้วก็ปั่นออกมาถนนเดียน เบียน ฟู อีกครั้ง อ้อมวงเวียนอีกทีคราวนี้ชิดขวา นั่ไงถนน Mai Thi Luu แสดงว่าโดนถนน เดียน เบียน ฟู แบ่งถนนเป็นสองข้าง เข้ามาประมาณ ๒๐๐ เมตรก็ถึงครับ เจด เอ็มเปอเรอร์ ปาโกดา หรือ Chua Phuoc Hai
วัดนี้สร้างโดยชาวจีนกวางตุ้งครับไม่มีค่าผ่านประตู มีแต่ตู้รับบริจาค ภายในวัดมีรูปเทพเยอะทั้งของเต๋าและของพุทธ ด้านขวามือก่อนเข้าอาคาร (เค้าเรียกอะไรครับศาลเจ้าหรือวัด) มีบ่อเต่า เอ...หรือตะพาบแยกไม่ถูกครับไม่ขออธิบายนะครับไม่ค่อยมีความรู้ดูรูปแล้วกัน
อันที่จริงด้านขวามือมีบันไดให้ขึ้นไปข้างบนที่มีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมประดิษฐานอยู่ แต่ผมไม่ได้ขึ้นไปเพราะในศาลเจ้ามีพระพุทธรูปอยู่
นี่ไม่ได้ให้ดูรูปผู้หญิงนะครับ แต่ให้ดูว่าตู้รับบริจาคของเค้าแข็งแรงมั่นคงขนาดไหน วัดตามเมืองไทยน่าจะทำบ้างนะครับ เงินบริจาคจะได้ปลอดภัยจากโจรใจบาป
ออกจากวัด(ศาลเจ้า) ก็ไปจุดที่สาม Quan Am Pagoda ซึ่งอยู่ย่านไชน่าทาวน์ของ HCMC ที่เรียกว่า Cho Lon รูปส่วนนี้ทั้งหมดเอามาจากอินเตอร์เน็ตครับ ของผมน่าจะเผลอลบเพราะเลขลำดับรูปกระโดดไปหลายรูป
นอกจากวัด(ศาลเจ้า)จีนแล้วย่านนี้แทบจะไม่เห็นความเป็นจีนแล้ว ชมวัดเสร็จก็ปั่นกลับย่าน ฟาม หงู เหลาระหว่างทางแวะซื้อแตงโม ๒ ชิ้น ๑๐,๐๐๐ ด่อง ๑๕ บาท ถูกกว่าเมืองไทยแต่รสชาดสู้แตงโมไทยไม่ได้
แผงลอยขายหมวกและผ้าพันคอ
สวนสาธารณะย่าน ฟาม หงู เหลา
บ่ายพักผ่อน ตกเย็นออกไปกินข้าวเย็นเอาเสื้อผ้าที่ไปซักไว้ ตอนไปกินข้าวก็บังเอิญเจอคนไทยได้พูดคุยกันนิดหน่อย จากนั้นก็กลับโรงแรมจัดกระเป๋าเตรียมออกเดินทางต่อ หนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล
อันนี้ติดเรทนิดหน่อยนะครับ ช่วงที่มาจอดซื้อแตงโมกิน ใกล้สวนสาธารณะอะไรสักอย่างแถวเขต ๕ มีสาวเวียดนามขี่จักรยานยนต์เข้ามาทาบชักชวนให้ใช้บริการทางเพศ อัตราค่าบริการ ๓๐๐,๐๐๐ ด่องครับ รวมค่าห้อง มีเข้ามาชักชวนหลายรายมาก สนนราคาเท่ากันหมด ปฏิเสธไปครับ ไม่กล้าเสี่ยงกลัวโดนแบ็ลคเมล์
วันพัก - ปั่นจักรยานเที่ยว
หลังจากให้จักรยานพัก ๑ วัน วันนี้เกิดความคึกเลยเข็นจักรยานออกจากโรงแรมที่พักเข้าร่วมกระแสการจราจรของ HCMC ปั่นแบบไม่มีจุดมุ่งหมายไหลไปตามฝูงจักรยาน จักรยานยนต์เข้าถนนโน้นออกถนนนี้
เจอแม่ค้าขายของข้างทางเยอะมากแต่เป็นประเภทหาบเร่ คือเช้าขึ้นมาเค้าก็จะมาตั้งขายของริมทางฝูงชนที่ขี่จักรยาน จักรยานยนต์ก็จะเข้ามาจอดเทียบซื้อ ซื้อเสร็จก็ปั่น หรือบิดไปต่อ ส่วนแม่ค้าเมื่อขายหมดก็ยกอุปกรณ์ใส่ท้ายจักรยานยนต์กลับบ้าน ผมไม่รู้ว่าเป็นเพราะกฏหมายเขาหรือว่าจิตสำนึก หรือว่ากลัวของหายแต่เท่าที่สังเกตุก็เห็นเค้าทำกันแบบนี้ทุกถนน
ดูอย่างแผงขายหนังสือครับ
ผมเห็นเค้าขนขาตั้งพร้อมหนังสือใส่ท้ายรถจักรยานยนต์มา มาถึงก็ตั้งขาตั้งเอาแผงยึดกับขาตั้งแล้วก็จัดการเรียงหนังสือโชว์ ใครใคร่ซื้อก็เข้ามาจอดเทียบ ได้ของจ่ายตังค์แล้วก็ไปต่อตำรวจก็ไม่เห็นมายุ่ง แผงลอยเค้ามีทุกถนนล่ะครับแต่พอเลิกขายเค้าก็เก็บกลับไม่มีการทิ้งไว้ให้เกะกะทางเดิน เท่าที่ผ่านๆ ไม่เห็นมีการยึดพื้นที่ทางเท้าอย่างถาวรเหมือนประเทศสารขัณฑ์ พ่อค้าแม่ค้าพวกนี้ก็น่าจะเป็นคนจนที่ต้องปากกัด ตีนถีบ หาเช้ากินค่ำเหมือนกัน
เจอแม่ค้าขายของกินหน้าตาคุ้นๆ เลยซื้อชิม ซื้อเสร็จก็ยกจักรยานขึ้นทางเท้ายืนกินตรงนั้นเลย เค้าทำเหมือนกระเพาะปลาเมืองไทย แต่ไม่มีกระเพาะปลามีไก่ฉีกเป็นฝอยต้มรวมกับเห็ดหอม ไข่นกกระทา เครื่องปรุงก็มีพริกน้ำส้ม จิ๊กโฉ่ว อร่อยดีราคาแค่ ๑๐,๐๐๐ ด่อง ๑๕ บาท อิ่มแปล้ แหะ แหะ ไม่รู้เค้าเรียกอะไรครับ
ได้ปั่นอย่างสนุกท่ามกลางเสียงจักรยานยนต์ แตรรถยนต์ แตรจักรยานยนต์ เสียงสัญญาณเลี้ยวแบบที่เมืองไทยเคยฮิตอยู่พักหนึ่ง เมื่อนานมาแล้วแต่ของเค้าดังได้ใจมาก เค้าใช้เสียงกันได้พร่ำเพรื่อจริง ทำเอาขี้หูร่วงกราวแต่ก็ดีเป็นการเตือนให้เรารู้และระวัง ได้ประสบการณ์การใช้ถนนร่วมกับชาวเวียดนามอยู่อย่างหนึ่ง ให้ระวังเฉพาะข้างหน้า ถ้าเขาเข้าข้างหน้าเราเมื่อไหร่เขาจะได้ Right-of-way คันหลังต้องระวังคันหน้า ไม่ต้องกังวลมองซ้าย มองขวา ระวังข้างหน้าอย่างเดียว เราคนปั่นต้องคอยเล็งว่าทางแยกหรือวงเวียนข้างหน้าเราจะไปทางไหน ถ้าจะเลี้ยวขวาก็ชิดขอบทางไว้ ถ้าจะตรงไปก็ออกมาอยู่กลางๆถนนอย่างนี้ จะอ้อมวงเวียนก็ออกไปทางซ้าย เท่าที่ปั่นอยู่ ๓-๔ ชั่วโมงไม่เห็นมีอุบัติเหตุเค้าอะลุ้มอล่วยกันดีครับถ้อยทีถ้อยอาศัย คนอยู่ข้างหน้าได้ไปก่อน ไม่เห็นมีใครใหญ่คับถนนประเภทถนนนี้ตรูสร้างเอ็งอย่ามาสะเออะวิ่งอะไรอย่างนั้น แต่คนเวียดนามไม่ค่อยเคารพสัญญาณไฟ ไฟแดง แดงนานแล้วก็ฝ่าทั้งๆที่ตำรวจก็ยืนอยู่ ก็ไม่เห็นโดนเรียกครับ อีกพวกก็ประเภทอีก ๒-๓ วิ ไฟจะเขียวพี่แกจะบีบแตรกันลั่นเร่งให้รถข้างหน้ารีบออก เอาเป็นว่าปั่นจักรยานในเวียดนามไม่ยากอย่างที่คิดครับ
หลังจากสนุกกับการปั่นมานานก็เปิดแผนที่ เป้าหมายแรกคือ Botanical Gardens and zoo อันนี้ไปไม่ยากครับ เจอแม่น้ำไซง่อนก็เลาะริมน้ำขึ้นไปทางเหนือเรื่อยๆเดี๋ยวก็เจอ อ่านจากไกด์บุ๊คเห็นบอกว่ามีค่าเข้าชม ๘,๐๐๐ ด่องก็เดินไปจะซื้อตั๋วแต่ จนท.บุ้ยใบ้บอกจักรยานเข้าไม่ได้ แฮ่ ผมกลัวรถหายครับ จะเอาไปฝากค่าฝากก็ตั้ง ๒,๐๐๐ รวมแล้วเป็นหมื่น อันที่จริงต้นไม้ใบหญ้าไม่อยู่ในความสนใจของผมอยู่แล้ว ว่าแล้วไปดีกว่า
เป้าหมายที่สอง Jade Emperor Pagoda จากหน้าสวนพฤกษศาสตร์ก็มุ่งหน้าขึ้นเหนือไปตามถนน Nguyen Binh Khiem จนเจอวงเวียนที่ถนน Dien Bien Phu อ้อมวงเวียนเข้าถนนเดียน เบียน ฟูย้อนเข้าเมือง ไปจนถึงทางมีมีวันเวย์โผล่มาก็วนกลับถนนเดียน เบียน ฟูอีกครั้งก่อนถึงถนน เหงียน บินท์ เขียม จะเจอถนน Mai Thi Luu เลี้ยวขวาเข้าไปเลยครับ แต่ปั่นมาจนสุดถนน ไม ทิ ลู ก็หาไม่เจอถนนสั้นๆเองครับไม่เกิน ๕๐๐ เมตรไกด์บุ๊คบอกอยู่บนถนนนี้ วนอยู่สองรอบก็ไม่เจอถามคนเวียดนามก็ แบ๊ะ แบ๊ะ ไม่ได้เป็นใบ้ครับแต่สื่อสารกันไม่รู้เรื่อง จู่ๆปัญญาก็เกิดว่าแล้วก็ปั่นออกมาถนนเดียน เบียน ฟู อีกครั้ง อ้อมวงเวียนอีกทีคราวนี้ชิดขวา นั่ไงถนน Mai Thi Luu แสดงว่าโดนถนน เดียน เบียน ฟู แบ่งถนนเป็นสองข้าง เข้ามาประมาณ ๒๐๐ เมตรก็ถึงครับ เจด เอ็มเปอเรอร์ ปาโกดา หรือ Chua Phuoc Hai
วัดนี้สร้างโดยชาวจีนกวางตุ้งครับไม่มีค่าผ่านประตู มีแต่ตู้รับบริจาค ภายในวัดมีรูปเทพเยอะทั้งของเต๋าและของพุทธ ด้านขวามือก่อนเข้าอาคาร (เค้าเรียกอะไรครับศาลเจ้าหรือวัด) มีบ่อเต่า เอ...หรือตะพาบแยกไม่ถูกครับไม่ขออธิบายนะครับไม่ค่อยมีความรู้ดูรูปแล้วกัน
อันที่จริงด้านขวามือมีบันไดให้ขึ้นไปข้างบนที่มีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมประดิษฐานอยู่ แต่ผมไม่ได้ขึ้นไปเพราะในศาลเจ้ามีพระพุทธรูปอยู่
นี่ไม่ได้ให้ดูรูปผู้หญิงนะครับ แต่ให้ดูว่าตู้รับบริจาคของเค้าแข็งแรงมั่นคงขนาดไหน วัดตามเมืองไทยน่าจะทำบ้างนะครับ เงินบริจาคจะได้ปลอดภัยจากโจรใจบาป
ออกจากวัด(ศาลเจ้า) ก็ไปจุดที่สาม Quan Am Pagoda ซึ่งอยู่ย่านไชน่าทาวน์ของ HCMC ที่เรียกว่า Cho Lon รูปส่วนนี้ทั้งหมดเอามาจากอินเตอร์เน็ตครับ ของผมน่าจะเผลอลบเพราะเลขลำดับรูปกระโดดไปหลายรูป
นอกจากวัด(ศาลเจ้า)จีนแล้วย่านนี้แทบจะไม่เห็นความเป็นจีนแล้ว ชมวัดเสร็จก็ปั่นกลับย่าน ฟาม หงู เหลาระหว่างทางแวะซื้อแตงโม ๒ ชิ้น ๑๐,๐๐๐ ด่อง ๑๕ บาท ถูกกว่าเมืองไทยแต่รสชาดสู้แตงโมไทยไม่ได้
แผงลอยขายหมวกและผ้าพันคอ
สวนสาธารณะย่าน ฟาม หงู เหลา
บ่ายพักผ่อน ตกเย็นออกไปกินข้าวเย็นเอาเสื้อผ้าที่ไปซักไว้ ตอนไปกินข้าวก็บังเอิญเจอคนไทยได้พูดคุยกันนิดหน่อย จากนั้นก็กลับโรงแรมจัดกระเป๋าเตรียมออกเดินทางต่อ หนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล
อันนี้ติดเรทนิดหน่อยนะครับ ช่วงที่มาจอดซื้อแตงโมกิน ใกล้สวนสาธารณะอะไรสักอย่างแถวเขต ๕ มีสาวเวียดนามขี่จักรยานยนต์เข้ามาทาบชักชวนให้ใช้บริการทางเพศ อัตราค่าบริการ ๓๐๐,๐๐๐ ด่องครับ รวมค่าห้อง มีเข้ามาชักชวนหลายรายมาก สนนราคาเท่ากันหมด ปฏิเสธไปครับ ไม่กล้าเสี่ยงกลัวโดนแบ็ลคเมล์
แก้ไขล่าสุดโดย oldhippie เมื่อ 13 ก.ค. 2013, 21:08, แก้ไขแล้ว 4 ครั้ง
- ung
- ขาประจำ
- โพสต์: 292
- ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ย. 2010, 11:32
- Tel: 0863055408
- team: ขนมหวาน
- Bike: teck
- ตำแหน่ง: สวนหลวง ร.9
Re: ปั่นคนเดียว เที่ยวเวียดนาม (วงกลม กทม.-ตราด-เขมร-เวียดนาม-ลาว-อุบลฯ-กทม.)
ปลายปีนี้ขอ ตามรอย นะครับ
ไม่ใช่นักเลง แต่ใส่กางเกงนักมวย
- oldhippie
- ขาประจำ
- โพสต์: 447
- ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ม.ค. 2012, 15:31
- Tel: นั่งทางในเอาครับ
- team: โดดเดี่ยว
- Bike: เมื่อยละเด้อ
Re: ปั่นคนเดียว เที่ยวเวียดนาม (วงกลม กทม.-ตราด-เขมร-เวียดนาม-ลาว-อุบลฯ-กทม.)
วัน ๐๘ (๑๕ ม.ค. ๕๖) Ho Chi Minh City - Dinh Quan (๑๑๒ ก.ม.) จักรยาน
เส้นทาง QL1 และ QL20
สภาพถนน QL1 ดี QL 20 ดี
สภาพการจราจร HCMC - Bien Hoa คับคั่ง Bien Hoa รถมาก Bien Hoa - Dinh Quan ปานกลาง
วันนี้ต้องออกจาก HCMC แล้วทั้งๆที่ยังเที่ยวไม่หมด มีอีกหลายที่ๆ อยากไป เช่น Cao Dai Temple ที่ Tay Ninh อุโมงค์ Cu Chi แต่เนื่องจากงบประมาณและเวลาจำกัดเลยต้องตัดออกไปอย่างน่าเสียดาย
ตีห้าออกจากโรงแรมมุ่งหน้าถนน เดียน เบียน ฟู ปั่นยาวจนออกนอกเมืองเข้าทางหลวง QL1 หรือ Ho Chi Minh Hiway มีด่านเก็บค่าผ่านทาง แต่จักรยานและจักรยานนยนต์ไม่ต้องเสียค่าผ่านทาง ประมาณ ๐๖.๓๐ น. ถึงย่านอุตสาหกรรม Bien Hoa ซึ่ง อมตะ ก็ตั้งอยู่ที่นี่ แวะร้านอาหารข้างทางรับประทานอาหารเช้า มื้อนี้เป็นเฝอ เฝอชามแรกในเวียดนามราคา ๒๐,๐๐๐ ด่อง ๓๐ บาท ประมาณ ๐๗.๐๐ น. ก็ออกเดินทางต่อ
Dong Nai Port
ตั้งแต่ HCMC มารถเยอะมาก และก็เจอกลุ่มนักปั่นจักรยานชาวเวียดนาม ๔-๕ กลุ่มออกมาซ้อมปั่นได้แต่เซย์ Hello ไม่ได้คุยกัน ต่างคนต่างกลัวจะคุยกันไม่รู้เรื่อง อิ อิ ปั่นมาจนถึงเมือง Dau Giay เห็นมีโบสถ์ Cao Dai อยู่ไม่ลึกจากทางเลยแวะเข้าไปดู ยังไม่ทันได้ถ่ายรูปทุกคนที่อยู่ที่นั่นก็เข้ามาห้อมล้อมยกกล้วย น้ำชามาเลี้ยง ซักถามใหญ่แต่คุยกันไม่รู้เรื่องเลยเอาแผนที่มากางลากเส้นทางให้ดูว่ามาจากไหน เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างแต่ประทับใจในความมีน้ำใจ
ปั่นจากโบสถ์ Cao Dai มาไม่ไกลก็เจอทางแยกไปดาลัดระยะทาง ๒๓๒ ก.ม. แต่วันนี้ตั้งใจจะพักที่ Dinh Quan ซึ่งห่างจาก HCMC ประมาณ ๑๑๒ ก.ม. จากทางแยกมาทางส่วนมากจะไหลลง มีขึ้นเนินชันๆ ๒-๓ จุด วันนี้ทำเวลาได้ดีไม่เหนื่อยมาก มีแผงขายน้ำตลอดทางแถมมีเปลญวนให้ลูกค้านอนพักผ่อนอีกเลยถือโอกาสงีบเสียหนึ่งชั่วโมง
ก่อนถึงทะเลสาป La Nga เจอสวนแห่งหนึ่งสร้างรั้วได้อลังการมาก ดูจากรูปครับหินก้อนใหญ่ๆ น้ำหนักก้อนละหลายร้อยกิโลกรัมมาสร้างเป็นรั้วยาวประมาณ ๕๐๐ เมตร
ปั่นมาถึงทะเลสาปก็หยุดถ่ายรูปหน่อย บังเอิญเจอผู้หญิงเวียดนามแจวเรือด้วยวิธีที่แปลกประหลาดเลยได้ถ่ายรูปมาด้วย วิธีการก็คือหล่อนจะเอนตัวกึ่งนั่งกึ่งนอนใช้เท้าจับด้ามแจว แจวเรืออย่างคล่องแคล่ว อันนี้ครอบรูปมาให้ดูครับอาจจะไม่ค่อยชัด ถ้ามีกล้องวิดีโอคงได้ภาพเคลื่อนไหวมาให้ดูกัน
จากทะเลสาปก็ต้องเผชิญเนินชันๆ อีกสองลูกก่อนจะไหลลง Dinh Quan เมื่อเวลาประมาณบ่ายสาม เมืองแถวนี้จะตั้งอยู่ในหุบเขาซึ่งเราต้องปั่นขึ้นเขาก่อนที่จะไหลลงเข้าเมือง แล้วพอจะออกจากเมืองก็ต้องกดบันไดหนักๆ ปั่นขึ้นเนินต่อ เข้าพักที่โรงแรม Van Minh ค่าห้อง ๑๑๐,๐๐๐ ด่อง
เป็นห้องพัดลมครับ ไม่มีหน้าต่าง แต่ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำด้วย หลังจากปั่นมาจนล้าได้แช่น้ำอุ่นมีความสุขมาก สวรรค์จริงๆ ๕๕ ๕๕
ประมาณห้าโมงเย็นก็ปั่นจากโรงแรมมาหาข้าวกิน แต่ไม่ได้กินข้าวคือเห็นทั้งเมืองมีร้านขายซาลาเปาเยอะมากก็เลยจัดซาลาเปาใส้หมูสับหนึ่งลูก ไม่รู้หรอกครับชี้ส่งๆ บังเอิญได้มา กับหมั่นโถวอีกหนึ่งลูก จ่ายไป ๑๕,๐๐๐ ด่อง ซาลาเปา ๑๐,๐๐๐ ด่อง หรือ ๑๕ บาท แต่ลูกใหญ่กว่าในเซเว่นสองเท่ากินลูกเดียวจุกครับ ส่วนหมั่นโถวเก็บใส่ถุงมัดเป็นเสบียง ได้น้ำอ้อยอีกหนึ่งแก้ว มื้อนี้จ่ายไป ๒๐,๐๐๐ ด่อง ๓๐ บาท กลับโรงแรมนอนหลับสบาย
เส้นทาง QL1 และ QL20
สภาพถนน QL1 ดี QL 20 ดี
สภาพการจราจร HCMC - Bien Hoa คับคั่ง Bien Hoa รถมาก Bien Hoa - Dinh Quan ปานกลาง
วันนี้ต้องออกจาก HCMC แล้วทั้งๆที่ยังเที่ยวไม่หมด มีอีกหลายที่ๆ อยากไป เช่น Cao Dai Temple ที่ Tay Ninh อุโมงค์ Cu Chi แต่เนื่องจากงบประมาณและเวลาจำกัดเลยต้องตัดออกไปอย่างน่าเสียดาย
ตีห้าออกจากโรงแรมมุ่งหน้าถนน เดียน เบียน ฟู ปั่นยาวจนออกนอกเมืองเข้าทางหลวง QL1 หรือ Ho Chi Minh Hiway มีด่านเก็บค่าผ่านทาง แต่จักรยานและจักรยานนยนต์ไม่ต้องเสียค่าผ่านทาง ประมาณ ๐๖.๓๐ น. ถึงย่านอุตสาหกรรม Bien Hoa ซึ่ง อมตะ ก็ตั้งอยู่ที่นี่ แวะร้านอาหารข้างทางรับประทานอาหารเช้า มื้อนี้เป็นเฝอ เฝอชามแรกในเวียดนามราคา ๒๐,๐๐๐ ด่อง ๓๐ บาท ประมาณ ๐๗.๐๐ น. ก็ออกเดินทางต่อ
Dong Nai Port
ตั้งแต่ HCMC มารถเยอะมาก และก็เจอกลุ่มนักปั่นจักรยานชาวเวียดนาม ๔-๕ กลุ่มออกมาซ้อมปั่นได้แต่เซย์ Hello ไม่ได้คุยกัน ต่างคนต่างกลัวจะคุยกันไม่รู้เรื่อง อิ อิ ปั่นมาจนถึงเมือง Dau Giay เห็นมีโบสถ์ Cao Dai อยู่ไม่ลึกจากทางเลยแวะเข้าไปดู ยังไม่ทันได้ถ่ายรูปทุกคนที่อยู่ที่นั่นก็เข้ามาห้อมล้อมยกกล้วย น้ำชามาเลี้ยง ซักถามใหญ่แต่คุยกันไม่รู้เรื่องเลยเอาแผนที่มากางลากเส้นทางให้ดูว่ามาจากไหน เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างแต่ประทับใจในความมีน้ำใจ
ปั่นจากโบสถ์ Cao Dai มาไม่ไกลก็เจอทางแยกไปดาลัดระยะทาง ๒๓๒ ก.ม. แต่วันนี้ตั้งใจจะพักที่ Dinh Quan ซึ่งห่างจาก HCMC ประมาณ ๑๑๒ ก.ม. จากทางแยกมาทางส่วนมากจะไหลลง มีขึ้นเนินชันๆ ๒-๓ จุด วันนี้ทำเวลาได้ดีไม่เหนื่อยมาก มีแผงขายน้ำตลอดทางแถมมีเปลญวนให้ลูกค้านอนพักผ่อนอีกเลยถือโอกาสงีบเสียหนึ่งชั่วโมง
ก่อนถึงทะเลสาป La Nga เจอสวนแห่งหนึ่งสร้างรั้วได้อลังการมาก ดูจากรูปครับหินก้อนใหญ่ๆ น้ำหนักก้อนละหลายร้อยกิโลกรัมมาสร้างเป็นรั้วยาวประมาณ ๕๐๐ เมตร
ปั่นมาถึงทะเลสาปก็หยุดถ่ายรูปหน่อย บังเอิญเจอผู้หญิงเวียดนามแจวเรือด้วยวิธีที่แปลกประหลาดเลยได้ถ่ายรูปมาด้วย วิธีการก็คือหล่อนจะเอนตัวกึ่งนั่งกึ่งนอนใช้เท้าจับด้ามแจว แจวเรืออย่างคล่องแคล่ว อันนี้ครอบรูปมาให้ดูครับอาจจะไม่ค่อยชัด ถ้ามีกล้องวิดีโอคงได้ภาพเคลื่อนไหวมาให้ดูกัน
จากทะเลสาปก็ต้องเผชิญเนินชันๆ อีกสองลูกก่อนจะไหลลง Dinh Quan เมื่อเวลาประมาณบ่ายสาม เมืองแถวนี้จะตั้งอยู่ในหุบเขาซึ่งเราต้องปั่นขึ้นเขาก่อนที่จะไหลลงเข้าเมือง แล้วพอจะออกจากเมืองก็ต้องกดบันไดหนักๆ ปั่นขึ้นเนินต่อ เข้าพักที่โรงแรม Van Minh ค่าห้อง ๑๑๐,๐๐๐ ด่อง
เป็นห้องพัดลมครับ ไม่มีหน้าต่าง แต่ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำด้วย หลังจากปั่นมาจนล้าได้แช่น้ำอุ่นมีความสุขมาก สวรรค์จริงๆ ๕๕ ๕๕
ประมาณห้าโมงเย็นก็ปั่นจากโรงแรมมาหาข้าวกิน แต่ไม่ได้กินข้าวคือเห็นทั้งเมืองมีร้านขายซาลาเปาเยอะมากก็เลยจัดซาลาเปาใส้หมูสับหนึ่งลูก ไม่รู้หรอกครับชี้ส่งๆ บังเอิญได้มา กับหมั่นโถวอีกหนึ่งลูก จ่ายไป ๑๕,๐๐๐ ด่อง ซาลาเปา ๑๐,๐๐๐ ด่อง หรือ ๑๕ บาท แต่ลูกใหญ่กว่าในเซเว่นสองเท่ากินลูกเดียวจุกครับ ส่วนหมั่นโถวเก็บใส่ถุงมัดเป็นเสบียง ได้น้ำอ้อยอีกหนึ่งแก้ว มื้อนี้จ่ายไป ๒๐,๐๐๐ ด่อง ๓๐ บาท กลับโรงแรมนอนหลับสบาย
- oldhippie
- ขาประจำ
- โพสต์: 447
- ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ม.ค. 2012, 15:31
- Tel: นั่งทางในเอาครับ
- team: โดดเดี่ยว
- Bike: เมื่อยละเด้อ
Re: ปั่นคนเดียว เที่ยวเวียดนาม (วงกลม กทม.-ตราด-เขมร-เวียดนาม-ลาว-อุบลฯ-กทม.)
ด้วยความยินดีครับung เขียน:ปลายปีนี้ขอ ตามรอย นะครับ
- sorpinya
- ขาประจำ
- โพสต์: 841
- ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.ค. 2011, 14:28
- team: ผีบ้า บ่พอปัว
- Bike: orbea H30 jab 7700 MASI CX
Re: ปั่นคนเดียว เที่ยวเวียดนาม (วงกลม กทม.-ตราด-เขมร-เวียดนาม-ลาว-อุบลฯ-กทม.)
สวัสดดีครับ ท่าน Oldhippie ขอจองคิวไปด้วยน่ะครับ เดี๋ยวผมจะตามไปเก็บ สีหนุวิลล์ กับไปเยือน ฮาเตียน หน่อยชักสนุกเห็นท่านไปมาoldhippie เขียน:ด้วยความยินดีครับung เขียน:ปลายปีนี้ขอ ตามรอย นะครับ
- oldhippie
- ขาประจำ
- โพสต์: 447
- ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ม.ค. 2012, 15:31
- Tel: นั่งทางในเอาครับ
- team: โดดเดี่ยว
- Bike: เมื่อยละเด้อ
Re: ปั่นคนเดียว เที่ยวเวียดนาม (วงกลม กทม.-ตราด-เขมร-เวียดนาม-ลาว-อุบลฯ-กทม.)
ฮา เตียน ไม่ค่อยมีที่เที่ยวครับ พี่sorpinyaไปอาจจะเก็บรายละเอียดได้มากกว่าผม ส่วนสีหนุวิลล์เท่าที่อ่านจากข้อมูลของชาวต่างชาติเค้าบอกว่าถ้าเที่ยวชายทะเลเมืองไทยแล้ว สีหนุวิลล์ไม่จำเป็นต้องไป ส่วนมากหนุ่มสาว backpacker ไปปาร์ตี้กันมากกว่าครับsorpinya เขียน:สวัสดดีครับ ท่าน Oldhippie ขอจองคิวไปด้วยน่ะครับ เดี๋ยวผมจะตามไปเก็บ สีหนุวิลล์ กับไปเยือน ฮาเตียน หน่อยชักสนุกเห็นท่านไปมาoldhippie เขียน:ด้วยความยินดีครับung เขียน:ปลายปีนี้ขอ ตามรอย นะครับ
- K-Ming
- ขาประจำ
- โพสต์: 294
- ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ม.ค. 2011, 06:56
- Tel: 084-3323551
- team: NONE
- Bike: Merida 2011
Re: ปั่นคนเดียว เที่ยวเวียดนาม (วงกลม กทม.-ตราด-เขมร-เวียดนาม-ลาว-อุบลฯ-กทม.)
เยี่ยมเลยครับ...ท่านพี่..
ถีบแม่งลูกเดียว...
กทม-หัวหิน: http://www.facebook.com/media/set/?set= ... 0982695127
เขาใหญ่-เขายายเที่ยง-กทม: http://thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=56&t=665646
กทม-หัวหิน: http://www.facebook.com/media/set/?set= ... 0982695127
เขาใหญ่-เขายายเที่ยง-กทม: http://thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=56&t=665646
- หางแฮ้ม
- ขาประจำ
- โพสต์: 3673
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 09:31
- Tel: 0890414478
- team: Top Cycle
- Bike: Merida
Re: ปั่นคนเดียว เที่ยวเวียดนาม (วงกลม กทม.-ตราด-เขมร-เวียดนาม-ลาว-อุบลฯ-กทม.)
วื่งไล่ตามรถถีบมาชมด้วยคนครับ
* ไม่มีที่ไหนที่ใจเราไปไม่ถึง *
กาสี-เมืองนาน-เชียงเงิน-หลวงพระบาง
ปากเซ-หนองหลวง-ภูอาสา
ท่าแขก-ถ้าน้ำลอดเซบั้งไฟ-ภูเพียงนากาย
กาสี-เมืองนาน-เชียงเงิน-หลวงพระบาง
ปากเซ-หนองหลวง-ภูอาสา
ท่าแขก-ถ้าน้ำลอดเซบั้งไฟ-ภูเพียงนากาย
- bichun@sanook.com
- ขาประจำ
- โพสต์: 3867
- ลงทะเบียนเมื่อ: 09 เม.ย. 2009, 13:10
- Tel: 0891480005
- team: ไบชุน
- Bike: nohave
- ติดต่อ:
Re: ปั่นคนเดียว เที่ยวเวียดนาม (วงกลม กทม.-ตราด-เขมร-เวียดนาม-ลาว-อุบลฯ-กทม.)
พี่ครับ สอบถามนิด ทีพัก 100,000 ด่อง เท่ากับ 150 บาท
แล้วมีอ่างอาบน้ำ ถูกมากๆครับ และเรื่องอาหารการกิน เวียดนาม เท่าที่ติดตามในกระทู้
ถูกมากๆ เช่นเดียวกันครับ
แล้วมีอ่างอาบน้ำ ถูกมากๆครับ และเรื่องอาหารการกิน เวียดนาม เท่าที่ติดตามในกระทู้
ถูกมากๆ เช่นเดียวกันครับ
ไบชุนvsจักยาน
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 6&t=376323
โอนเงิน
ไทพานิด 089-2-00062-2 บุญชัย เกาะไพศาล
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 6&t=376323
โอนเงิน
ไทพานิด 089-2-00062-2 บุญชัย เกาะไพศาล
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 115
- ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ธ.ค. 2011, 21:50
- Tel: -
- team: ชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพ ฉะเชิงเทรา
- Bike: เสือภูเขา
Re: ปั่นคนเดียว เที่ยวเวียดนาม (วงกลม กทม.-ตราด-เขมร-เวียดนาม-ลาว-อุบลฯ-กทม.)
ขอบคุณทุกรูปภาพ ขอบคุณทุกคำบรรยาย มีความสุขมากที่ได้เข้ามาชม
- ทิวากร
- ขาประจำ
- โพสต์: 6639
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 08:24
- Tel: 081-977692สอง
- team: ขุนหาญทีม
- Bike: เปลี่ยนเป็นเทคแล้ว
Re: ปั่นคนเดียว เที่ยวเวียดนาม (วงกลม กทม.-ตราด-เขมร-เวียดนาม-ลาว-อุบลฯ-กทม.)
ลงชื่อตามชมด้วยคนครับ มีใครอยากไปขอมือด้วยครับ....
คุณไม่รู้หรอกว่าอะไรคือของปลอม ถ้ายังไม่เคยเห็นของจริง
บึงกาฬ-ชายแดนลาวเวียดนาม-ฮานอย..กดครับ
สำราจเส้นทางสายใหม่ ไปกัมพูชาพริบตาเดียว ชมนครวัด นครธมด้วยกัน..กดเบาๆครับ
อุ้มผาง ทีลอซู ถนนลอยฟ้า http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 6&t=267185
เวียงจันทน์-หลวงพระบาง http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 6&t=332042
บึงกาฬ-ชายแดนลาวเวียดนาม-ฮานอย..กดครับ
สำราจเส้นทางสายใหม่ ไปกัมพูชาพริบตาเดียว ชมนครวัด นครธมด้วยกัน..กดเบาๆครับ
อุ้มผาง ทีลอซู ถนนลอยฟ้า http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 6&t=267185
เวียงจันทน์-หลวงพระบาง http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 6&t=332042
- 2991
- ขาประจำ
- โพสต์: 1239
- ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2009, 19:55
- Tel: 0853456123
- team: 0853456123
- Bike: ปั่น mosso,bianchi
Re: ปั่นคนเดียว เที่ยวเวียดนาม (วงกลม กทม.-ตราด-เขมร-เวียดนาม-ลาว-อุบลฯ-กทม.)
เมษายน ใครจัดไปเวียดนาม ช่วย pm ด้วยเดอร์ ไปจริงนะ
ขาย[/url]