ปั่นคนเดียว เที่ยวเวียดนาม (วงกลม กทม.-ตราด-เขมร-เวียดนาม-ลาว-อุบลฯ-กทม.)
โพสต์: 23 ม.ค. 2013, 14:05
พอดีลูกเค้าซื้อจักรยานให้เป็นของขวัญปีใหม่ พอได้รถใหม่ก็เริ่มฟุ้งซ่าน อยากจะลองรถ ก็เลยวางแผนปั่นจักรยานเที่ยว หลังจากศึกษาเส้นทางระยะหนึ่งก็สรุปได้ว่าจะปั่นไปเที่ยวเวียดนาม โดยวางแผนจะปั่นจากตราดเข้าเขมรที่เกาะกง จากเกาะกงก็จะปั่นไปกัมปอต ไปสีหนุวิลล์แล้วไปเข้าวียดนามที่ ฮา เตียน จากนั้นก็จะปั่นลัดเลาะตามสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงไปโฮจิมินท์ซิตี้ แล้วก็จะไปดูทะเลทรายที่มุยเน่แล้วนั่งรถไฟไปเว้ เที่ยวเว้ ฮอย อันแล้วปั่นเข้าลาวที่อัดตะปือ เพื่อจะไปเซกอง ปากซอง และปากเซ
แต่.....มีแต่ก็เพราะว่าเวลาหาข้อมูลหลงเข้าเวปพันทิป บังเอิญมีคนมาขอความเห็นว่าระหว่าง มุยเน่ กับดาลัดช่วงเดือนมกราคมนี้ควรไปที่ไหนดี ปรากฎว่าร้อยละเก้าสิบห้าบอกว่าไปดาลัต ไอ้ผมก็ประเภทเชื่อคนง่ายเสียด้วย ดาลัดก็ดาลัด ว่าแล้วก็มาวางเส้นทางใหม่เป็นดังนี้
วันแรก กทม.-ตราด (๓๑๖ ก.ม.) โดยรถทัวร์
วัน ๒ ตราด-เกาะกง (๑๐๗ ก.ม.) จักรยาน
วัน ๓ เกาะกง- อันดง ตึก (๑๐๒ ก.ม.) จักรยาน
วัน ๔ อันดง ตึก-กัมปอต (๑๔๐ ก.ม.) จักรยาน
วัน ๕ กัมปอต-ฮา เตียน (๗๒ ก.ม.) จักรยาน
วัน ๕ ฮา เตียน – โฮจิมินท์ซิตี้ (๓๐๖ ก.ม.) รถทัวร์ หมายเหตุ เวลาไม่พอครับถ้าปั่นจักรยานก็ต้องใช้เวลาถึงสามวัน
วัน ๖ โฮจิมินท์ซิตี้ – วันพัก เที่ยวชมเมือง
วัน ๗ โฮจิมินท์ซิตี้ – วันพัก เที่ยวชมเมือง
วัน ๘ โฮจิมินท์ซิตี้-ดินท์ กวน (๑๑๒ ก.ม.) จักรยาน
วัน ๙ ดินท์ กวน-เบ๋า ล๊อค (๘๔ ก.ม.) จักรยาน หมายเหตุ วันนี้ต้องปั่นบนเขาเลยวางระยะทางแค่นี้
วัน ๑๐ เบ๋า ล๊อค-ดาลัด (๑๒๐ ก.ม.) จักรยาน
วัน ๑๑ ดาลัด – วันพัก เที่ยวชมเมือง
วัน ๑๒ ดาลัด – วันพัก เที่ยวชมมเอง
วัน ๑๓ ดาลัด-คอน ตุม-ง็อก หอย รถทัวร์
วัน ๑๔ ง็อก หอย-อัดตะปือ (๑๕๔ ก.ม.) จักรยาน
วัน ๑๕ อัดตะปือ-เซกอง (๗๒ ก.ม.) จักรยาน
วัน ๑๖ เซกอง-ปากซอง-ปากเซ (๑๓๕ ก.ม.) จักรยาน อันนี้คุณหางแฮ้ม กูรูเส้นทางประเทศลาวบอกว่าวันเดียวปั่นได้อยู่แล้ว
วัน ๑๗ ปากเซ - วันพัก คงจะไปเก็บน้ำตกแถวใกล้ๆ ปากเซ
วัน ๑๘ ปากเซ-อุบล (๔๕ ก.ม.) จักรยาน
วัน ๑๘ อุบล-กทม. รถทัวร์
สมบัติที่หอบไปนอกจากเสื้อผ้าก็มีแค่นี้ล่ะครับ
กำหนดเดินทาง
วัน ๐๑ (๘ ม.ค. ๕๖) กรุงเทพฯ – ตราด
ใช้บริการ บขส. ครับ ตีตั๋วคนแก่ถูกดี บริการก็ใช้ได้แถมจักรยานไม่ต้องเสียค่าระวาง ประหยัดไว้ก่อนงานนี้ไปยาว เดี๋ยวไปอดตายกลางทาง (ฮา)
จัดการห่อหุ้มรถหน่อย ยังใหม่อยู่ (ตลอดทริปหุ้มครั้งเดียวนี่แหละครับ ๕๕ ๕๕)
รถออกสี่ทุ่ม กำหนดถึงตราดตีสี่ หลับมาตลอดทาง มาสะดุ้งตื่นเพราะได้ยินเสียงเอะอะ หยิบโทรศัพท์มาดูเวลาเพิ่งจะตีสาม แต่พนักงานประจำรถบอกตราดแล้วค่ะ อ้าวแล้วตรูจะทำอย่างไร ลงรถมาแบบงงๆ เอารถมาประกอบ ดูเวลาตีสามสิบห้าเอง เลยปั่นเข้าไปตลาดตามล่าหาเซเว่น ได้กาแฟร้อนแก้วหนึ่ง ซดกาแฟหมดตัดสินใจว่าอยู่ไปก็เสียเวลาเปล่าๆ ว่าแล้วลุยโลด ตีสามสี่สิบห้าปั่นจากตราดไปคลองใหญ่ (บ้าเปล่า) ผู้ใหญ่อายุเกินห้าสิบควรได้รับคำแนะนำจากผู้ปกครอง ๕๕ ๕๕
วัน ๐๒ (๐๙ ม.ค. ๕๖) ตราด – เกาะกง (๑๐๒ ก.ม.)
ออกจากตราดก็เจอเนินซึมยาว แวะพักตู้ยามบ้านแหลมกลัด ไม่ได้ดูตาแมวว่าระยะทางเท่าไหร่ แต่เป็นช่วงเวลาตีห้ากว่าๆ
แล้วไต่เนินจนถึงปากทางเข้าหาดราชการุนย์ แวะพักกินของว่างที่ได้รับจาก บขส. บอกแล้วงานนี้ประหยัดไว้ก่อน หลังของว่างก็กินยา ถ่ายรูป อันนี้ไม่น่าจะใช่ศาลนะครับเพราะมีพระพุทธรูปอยู่ข้างใน ขออภัยลืมจดรายละเอียดมาครับ
.
ออกจากปากทางหาดราชการุนย์ ทางก็เป็นเช่นนี้แหละครับ มีเนินให้กดบันไดเล่นแก้เซ็งตลอดทางจนถึงคลองใหญ่ ระยะทางประมาณ ๗๔ ก.ม.
เล่นลูกระนาดขนาดใหญ่มาจนแรงหมด หมดแรงก็ถึงสี่แยกเข้าคลองใหญ่ ว่าแล้วกันหันหัวเข้าคลองใหญ่ จ๊ะเอ๋กับผู้โชคร้าย ร้านข้าวมันไก่สั่งทีเดียว สองจานเลยแม่ค้าถึงกับเหวอ คงคิดว่าตาแก่นี่ตายอดตายอยากมาจากไหน จัดการข้าวมันไก่เรียบร้อยก็ตามหาเซเว่น เกเตอเรด ๑ ขวด จัดไป จากนั้นก็กระดืบๆ ออกจากจากคลองใหญ่ มุ่งหน้าหาดเล็ก เฮ้อเลี้ยวปุ๊บก็เจอปั๊บเนินลูกย่อมๆ อะเด็กๆ ปั่นขึ้นชิว ชิว แต่ยิ่งปั่นทำไมเนินมันย่อมใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ระยะทาง ๑๕ ก.ม. ปั่นเป็นชั่วโมงกว่าจะถึงบ้านหาดเล็ก จนถึง ก.ม.สุดท้ายนั้นแหละถึงได้ทิ้งดิ่งลงยันด่านตรวจคนเข้าเมือง เอ๊ย..ออกเมือง
ซื้อซิมเขมรแถวหน้าด่านในราคา ๑๕๐ บาท รู้สึกว่าแพงไปหน่อยแต่คนขายบอกว่ามีเงินให้ ๔ เหรียญ (อเมริกัน – จากนี้ถ้าหน่วยเงินเป็นเหรียญโปรดเข้าใจว่าเป็นอเมริกันดอลล่าร์นะครับ) ยื่นเอกสารทำเรื่องผ่านแดน ก่อนจะเข้าเขมรก็เช็คหน่อยว่าเงินในโทรศัพท์มีอยู่เท่าไหร่เพราะจะโทรบอกลูก ปรากฎว่ามีอยู่ .๒๐ เหรียญกับอีก ๓.๘๐ เหรียญ ที่ให้ใช้โทรได้เฉพาะในเครือข่ายเท่านั้น เกิดอาการหงุดหงิดเล็กน้อย แต่มานึกดีๆ คนขายก็ไม่ได้โกหก แต่ตรูโง่เอง ยัง ยังไม่หมดข้ามมาฝั่งเขมร โดนจนท. อนามัย ยิงวัดอุณหภูมิโดนไปอีกยี่สิบบาท ที่กลุ่มฝรั่งไม่เห็นโดน นี่แหละครับไอ้ใบเหลืองๆ นี่ ๒๐ บาท
เอาบัตรเข้าเมืองมากรอกแล้วไปยื่น ต.ม. ถาม Thailandia บอกเยส เค้าบอกว่า Thailandia จ่ายมา สองร้อยบาท จะบ้าเหรอ ฝรั่งไม่เห็นเห็นต้องจ่าย ถามไปว่าเป็นค่าอะไรก็ตอบไม่ได้แถมเนียนทำเป็นพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ซักไปซักมาเค้าบอกร้อยหนึ่งก็ได้ ค้นกระเป๋ามีเงินไทยอยู่ ๗๐ บาท ขอต่อเหลือ ๗๐ บาท จนท. ส่ายหัวดิก ไม่ได้ร้อยบาทไม่ให้เข้า เฮ้อ...ผีถึงป่าช้าแล้ว ไม่จ่ายก็ต้องดันเนินกลับตราด ก็เลยควักให้ไป ๑๐ เหรียญ จนท. ทอนให้ สองร้อยบาท คิดผิดนะนี่ที่ผ่านเขมร ครั้งแรกในชีวิตที่เดินทางเข้าเขมรก็เจอแบบนี้เลย เข็ดบักข้องด้องเลยงานนี้ ออกจากด่านก็เนินยิ้มต้อนรับอีกแล้ว ก่อนถึงเนินก็มีคาสิโนต้อนรับเรียงรายสองฝั่งทาง รูปนี่หันหลังกลับไปถ่ายรูปก่อนดันเนินครับ
พ้นเนินไหลลงไปได้หน่อยก็เจอเนินซึมยาวจนถึงเกาะกงเลย ก่อนเข้าเกาะกงเจอป้าย Pay Toll Ahead เอาอีกแล้วคงต้องโดนเขมรฟันอีกแน่ๆ จำยอมปั่นจักรยานเข้าไปเทียบ เจอนางอัปสร เอ๊ย นางฟ้าเขมร ถามว่า How much? นางฟ้าตอบกลับมาว่า Free, bicycle free. แหมอยากจะหอมแก้มน้องสักฟอด กำลังว่าจะขอถ่ายรูปโดนรถเก๋งบีบแตรไล่ อดเลย ค่าผ่านทางที่เค้าเก็บเป็นค่าใช้สะพานซึ่งทอดข้ามทะเลมีความยาว ๑.๙ ก.ม. ปั่นสบายๆ ไม่มีเสียวเหมือนสะพานเข้าปากเซ
ถึงตัวเมืองเกาะกง ใช้เวลาไป ๕ ช.ม. ๔๒ นาที กับระยะทาง ๑๐๗ ก.ม.
เสียเวลาตระเวณหาที่พักจนเกือบเที่ยง ไปได้ที่ Bluemoon Guesthouse ในราคา ๖ เหรียญ หรือ ๑๘๐ บาท เป็นห้องพัดลมมีเครื่องทำน้ำอุ่น มีโทรทัศน์ ฟรีไวไฟ สภาพห้องตามรูปเลยครับ
ห้องสะอาดพอสมควร เอาเป็นว่าคุ้มราคา ๑๘๐ บาทล่ะครับ เจ้าของพูดภาษาอังกฤษได้นิดหน่อยเป็นอดีต Park Ranger ตอนนี้นอกจากทำบ้านพักแล้วยังจัดทัวร์เดินป่าด้วย เห็นรูปฝรั่งไปกันเยอะเหมือนกัน อาบน้ำเสร็จก็ปั่นไปหาข้าวกิน เจอร้านคนเวียด เห็นลูกค้าเยอะดี ไปด้อมๆ มองๆ ได้พะโล้กับข้าวเปล่า ๑ จาน ชุดนี้ ๑ เหรียญ ๓๐ บาท ไม่แพง ไม่โดนฟัน
เกาะกงเป็นเมืองเล็กๆ ภายในตัวเมืองไม่มีแหล่งท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวต่างชาติแวะมาเพราะเป็นทางผ่านไปสีหนุวิลล์ ซึ่งเป็นเมืองชายทะเลนักท่องเที่ยวประเภท Backpacker จะนิยมไปกัน แหล่งท่องเที่ยวของเกาะกงจะเป็นการชมธรรมชาติในละแวกใกล้เคียง ซึ่งมีทั้ง ป่า ภูเขา และน้ำตก ปั่นจักรยานไปถ่ายรูปแถวสะพาน ๒-๓ รูป ช่วงนี้มีการร่วมจัดงาน OTOP ระหว่างจังหวัดเกาะกงกับจังหวัดตราดบริเวณเชิงสะพาน แต่ไม่ได้เข้าไปดู อันนี้ไม่มีค่าผ่านประตูหรอกครับ แต่จักรยานเข้าไม่ได้ กลับไปนอนเอาดีกว่าพรุ่งนี้ต้องปั่นอีกยาว
ตอนเย็นออกไปหาข้าวกินแถวริมทะเล จะมีแผงขายอาหารปิ้ง ย่าง เยอะมากส่วนมากก็จะเป็นอาหารทะเล เช่น กุ้ง ปู หอยแครง แต่ผมเป็นความดันโลหิตสูงหมอห้ามอาหารทะเล ก็เลยไปได้อาหารยอดฮิตของอินโดจีน ก็คือบาเก็ตยัดใส้ หรือข้าวจี่ของลาวนั่นแหละครับ ๑ เหรียญ ๓๐ บาท เอ่อค่อยคบกันได้หน่อย แล้วก็ปั่นกลับบ้านพัก ระหว่างทางก็เจอสาวญวนนุ่งสั้น ชวนให้เข้าไปใช้บริการมาสซาส พรุ่งนี้พี่ต้องใช้พลังงานอีกเยอะน้องเอ๋ย ขอกลับไปพักผ่อนดีกว่า
หมายเหตุ สะพานเกาะกง ลงทุนสร้างและบริหารโดยคนไทย ค่าผ่านทางสำหรับ รถยนต์ ๔,๘๐๐ เรียลหรือ ๔๔ บาท จักรยานยนต์ ๑,๒๐๐ เรียล หรือ ๑๑ บาท
แต่.....มีแต่ก็เพราะว่าเวลาหาข้อมูลหลงเข้าเวปพันทิป บังเอิญมีคนมาขอความเห็นว่าระหว่าง มุยเน่ กับดาลัดช่วงเดือนมกราคมนี้ควรไปที่ไหนดี ปรากฎว่าร้อยละเก้าสิบห้าบอกว่าไปดาลัต ไอ้ผมก็ประเภทเชื่อคนง่ายเสียด้วย ดาลัดก็ดาลัด ว่าแล้วก็มาวางเส้นทางใหม่เป็นดังนี้
วันแรก กทม.-ตราด (๓๑๖ ก.ม.) โดยรถทัวร์
วัน ๒ ตราด-เกาะกง (๑๐๗ ก.ม.) จักรยาน
วัน ๓ เกาะกง- อันดง ตึก (๑๐๒ ก.ม.) จักรยาน
วัน ๔ อันดง ตึก-กัมปอต (๑๔๐ ก.ม.) จักรยาน
วัน ๕ กัมปอต-ฮา เตียน (๗๒ ก.ม.) จักรยาน
วัน ๕ ฮา เตียน – โฮจิมินท์ซิตี้ (๓๐๖ ก.ม.) รถทัวร์ หมายเหตุ เวลาไม่พอครับถ้าปั่นจักรยานก็ต้องใช้เวลาถึงสามวัน
วัน ๖ โฮจิมินท์ซิตี้ – วันพัก เที่ยวชมเมือง
วัน ๗ โฮจิมินท์ซิตี้ – วันพัก เที่ยวชมเมือง
วัน ๘ โฮจิมินท์ซิตี้-ดินท์ กวน (๑๑๒ ก.ม.) จักรยาน
วัน ๙ ดินท์ กวน-เบ๋า ล๊อค (๘๔ ก.ม.) จักรยาน หมายเหตุ วันนี้ต้องปั่นบนเขาเลยวางระยะทางแค่นี้
วัน ๑๐ เบ๋า ล๊อค-ดาลัด (๑๒๐ ก.ม.) จักรยาน
วัน ๑๑ ดาลัด – วันพัก เที่ยวชมเมือง
วัน ๑๒ ดาลัด – วันพัก เที่ยวชมมเอง
วัน ๑๓ ดาลัด-คอน ตุม-ง็อก หอย รถทัวร์
วัน ๑๔ ง็อก หอย-อัดตะปือ (๑๕๔ ก.ม.) จักรยาน
วัน ๑๕ อัดตะปือ-เซกอง (๗๒ ก.ม.) จักรยาน
วัน ๑๖ เซกอง-ปากซอง-ปากเซ (๑๓๕ ก.ม.) จักรยาน อันนี้คุณหางแฮ้ม กูรูเส้นทางประเทศลาวบอกว่าวันเดียวปั่นได้อยู่แล้ว
วัน ๑๗ ปากเซ - วันพัก คงจะไปเก็บน้ำตกแถวใกล้ๆ ปากเซ
วัน ๑๘ ปากเซ-อุบล (๔๕ ก.ม.) จักรยาน
วัน ๑๘ อุบล-กทม. รถทัวร์
สมบัติที่หอบไปนอกจากเสื้อผ้าก็มีแค่นี้ล่ะครับ
กำหนดเดินทาง
วัน ๐๑ (๘ ม.ค. ๕๖) กรุงเทพฯ – ตราด
ใช้บริการ บขส. ครับ ตีตั๋วคนแก่ถูกดี บริการก็ใช้ได้แถมจักรยานไม่ต้องเสียค่าระวาง ประหยัดไว้ก่อนงานนี้ไปยาว เดี๋ยวไปอดตายกลางทาง (ฮา)
จัดการห่อหุ้มรถหน่อย ยังใหม่อยู่ (ตลอดทริปหุ้มครั้งเดียวนี่แหละครับ ๕๕ ๕๕)
รถออกสี่ทุ่ม กำหนดถึงตราดตีสี่ หลับมาตลอดทาง มาสะดุ้งตื่นเพราะได้ยินเสียงเอะอะ หยิบโทรศัพท์มาดูเวลาเพิ่งจะตีสาม แต่พนักงานประจำรถบอกตราดแล้วค่ะ อ้าวแล้วตรูจะทำอย่างไร ลงรถมาแบบงงๆ เอารถมาประกอบ ดูเวลาตีสามสิบห้าเอง เลยปั่นเข้าไปตลาดตามล่าหาเซเว่น ได้กาแฟร้อนแก้วหนึ่ง ซดกาแฟหมดตัดสินใจว่าอยู่ไปก็เสียเวลาเปล่าๆ ว่าแล้วลุยโลด ตีสามสี่สิบห้าปั่นจากตราดไปคลองใหญ่ (บ้าเปล่า) ผู้ใหญ่อายุเกินห้าสิบควรได้รับคำแนะนำจากผู้ปกครอง ๕๕ ๕๕
วัน ๐๒ (๐๙ ม.ค. ๕๖) ตราด – เกาะกง (๑๐๒ ก.ม.)
ออกจากตราดก็เจอเนินซึมยาว แวะพักตู้ยามบ้านแหลมกลัด ไม่ได้ดูตาแมวว่าระยะทางเท่าไหร่ แต่เป็นช่วงเวลาตีห้ากว่าๆ
แล้วไต่เนินจนถึงปากทางเข้าหาดราชการุนย์ แวะพักกินของว่างที่ได้รับจาก บขส. บอกแล้วงานนี้ประหยัดไว้ก่อน หลังของว่างก็กินยา ถ่ายรูป อันนี้ไม่น่าจะใช่ศาลนะครับเพราะมีพระพุทธรูปอยู่ข้างใน ขออภัยลืมจดรายละเอียดมาครับ
.
ออกจากปากทางหาดราชการุนย์ ทางก็เป็นเช่นนี้แหละครับ มีเนินให้กดบันไดเล่นแก้เซ็งตลอดทางจนถึงคลองใหญ่ ระยะทางประมาณ ๗๔ ก.ม.
เล่นลูกระนาดขนาดใหญ่มาจนแรงหมด หมดแรงก็ถึงสี่แยกเข้าคลองใหญ่ ว่าแล้วกันหันหัวเข้าคลองใหญ่ จ๊ะเอ๋กับผู้โชคร้าย ร้านข้าวมันไก่สั่งทีเดียว สองจานเลยแม่ค้าถึงกับเหวอ คงคิดว่าตาแก่นี่ตายอดตายอยากมาจากไหน จัดการข้าวมันไก่เรียบร้อยก็ตามหาเซเว่น เกเตอเรด ๑ ขวด จัดไป จากนั้นก็กระดืบๆ ออกจากจากคลองใหญ่ มุ่งหน้าหาดเล็ก เฮ้อเลี้ยวปุ๊บก็เจอปั๊บเนินลูกย่อมๆ อะเด็กๆ ปั่นขึ้นชิว ชิว แต่ยิ่งปั่นทำไมเนินมันย่อมใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ระยะทาง ๑๕ ก.ม. ปั่นเป็นชั่วโมงกว่าจะถึงบ้านหาดเล็ก จนถึง ก.ม.สุดท้ายนั้นแหละถึงได้ทิ้งดิ่งลงยันด่านตรวจคนเข้าเมือง เอ๊ย..ออกเมือง
ซื้อซิมเขมรแถวหน้าด่านในราคา ๑๕๐ บาท รู้สึกว่าแพงไปหน่อยแต่คนขายบอกว่ามีเงินให้ ๔ เหรียญ (อเมริกัน – จากนี้ถ้าหน่วยเงินเป็นเหรียญโปรดเข้าใจว่าเป็นอเมริกันดอลล่าร์นะครับ) ยื่นเอกสารทำเรื่องผ่านแดน ก่อนจะเข้าเขมรก็เช็คหน่อยว่าเงินในโทรศัพท์มีอยู่เท่าไหร่เพราะจะโทรบอกลูก ปรากฎว่ามีอยู่ .๒๐ เหรียญกับอีก ๓.๘๐ เหรียญ ที่ให้ใช้โทรได้เฉพาะในเครือข่ายเท่านั้น เกิดอาการหงุดหงิดเล็กน้อย แต่มานึกดีๆ คนขายก็ไม่ได้โกหก แต่ตรูโง่เอง ยัง ยังไม่หมดข้ามมาฝั่งเขมร โดนจนท. อนามัย ยิงวัดอุณหภูมิโดนไปอีกยี่สิบบาท ที่กลุ่มฝรั่งไม่เห็นโดน นี่แหละครับไอ้ใบเหลืองๆ นี่ ๒๐ บาท
เอาบัตรเข้าเมืองมากรอกแล้วไปยื่น ต.ม. ถาม Thailandia บอกเยส เค้าบอกว่า Thailandia จ่ายมา สองร้อยบาท จะบ้าเหรอ ฝรั่งไม่เห็นเห็นต้องจ่าย ถามไปว่าเป็นค่าอะไรก็ตอบไม่ได้แถมเนียนทำเป็นพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ซักไปซักมาเค้าบอกร้อยหนึ่งก็ได้ ค้นกระเป๋ามีเงินไทยอยู่ ๗๐ บาท ขอต่อเหลือ ๗๐ บาท จนท. ส่ายหัวดิก ไม่ได้ร้อยบาทไม่ให้เข้า เฮ้อ...ผีถึงป่าช้าแล้ว ไม่จ่ายก็ต้องดันเนินกลับตราด ก็เลยควักให้ไป ๑๐ เหรียญ จนท. ทอนให้ สองร้อยบาท คิดผิดนะนี่ที่ผ่านเขมร ครั้งแรกในชีวิตที่เดินทางเข้าเขมรก็เจอแบบนี้เลย เข็ดบักข้องด้องเลยงานนี้ ออกจากด่านก็เนินยิ้มต้อนรับอีกแล้ว ก่อนถึงเนินก็มีคาสิโนต้อนรับเรียงรายสองฝั่งทาง รูปนี่หันหลังกลับไปถ่ายรูปก่อนดันเนินครับ
พ้นเนินไหลลงไปได้หน่อยก็เจอเนินซึมยาวจนถึงเกาะกงเลย ก่อนเข้าเกาะกงเจอป้าย Pay Toll Ahead เอาอีกแล้วคงต้องโดนเขมรฟันอีกแน่ๆ จำยอมปั่นจักรยานเข้าไปเทียบ เจอนางอัปสร เอ๊ย นางฟ้าเขมร ถามว่า How much? นางฟ้าตอบกลับมาว่า Free, bicycle free. แหมอยากจะหอมแก้มน้องสักฟอด กำลังว่าจะขอถ่ายรูปโดนรถเก๋งบีบแตรไล่ อดเลย ค่าผ่านทางที่เค้าเก็บเป็นค่าใช้สะพานซึ่งทอดข้ามทะเลมีความยาว ๑.๙ ก.ม. ปั่นสบายๆ ไม่มีเสียวเหมือนสะพานเข้าปากเซ
ถึงตัวเมืองเกาะกง ใช้เวลาไป ๕ ช.ม. ๔๒ นาที กับระยะทาง ๑๐๗ ก.ม.
เสียเวลาตระเวณหาที่พักจนเกือบเที่ยง ไปได้ที่ Bluemoon Guesthouse ในราคา ๖ เหรียญ หรือ ๑๘๐ บาท เป็นห้องพัดลมมีเครื่องทำน้ำอุ่น มีโทรทัศน์ ฟรีไวไฟ สภาพห้องตามรูปเลยครับ
ห้องสะอาดพอสมควร เอาเป็นว่าคุ้มราคา ๑๘๐ บาทล่ะครับ เจ้าของพูดภาษาอังกฤษได้นิดหน่อยเป็นอดีต Park Ranger ตอนนี้นอกจากทำบ้านพักแล้วยังจัดทัวร์เดินป่าด้วย เห็นรูปฝรั่งไปกันเยอะเหมือนกัน อาบน้ำเสร็จก็ปั่นไปหาข้าวกิน เจอร้านคนเวียด เห็นลูกค้าเยอะดี ไปด้อมๆ มองๆ ได้พะโล้กับข้าวเปล่า ๑ จาน ชุดนี้ ๑ เหรียญ ๓๐ บาท ไม่แพง ไม่โดนฟัน
เกาะกงเป็นเมืองเล็กๆ ภายในตัวเมืองไม่มีแหล่งท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวต่างชาติแวะมาเพราะเป็นทางผ่านไปสีหนุวิลล์ ซึ่งเป็นเมืองชายทะเลนักท่องเที่ยวประเภท Backpacker จะนิยมไปกัน แหล่งท่องเที่ยวของเกาะกงจะเป็นการชมธรรมชาติในละแวกใกล้เคียง ซึ่งมีทั้ง ป่า ภูเขา และน้ำตก ปั่นจักรยานไปถ่ายรูปแถวสะพาน ๒-๓ รูป ช่วงนี้มีการร่วมจัดงาน OTOP ระหว่างจังหวัดเกาะกงกับจังหวัดตราดบริเวณเชิงสะพาน แต่ไม่ได้เข้าไปดู อันนี้ไม่มีค่าผ่านประตูหรอกครับ แต่จักรยานเข้าไม่ได้ กลับไปนอนเอาดีกว่าพรุ่งนี้ต้องปั่นอีกยาว
ตอนเย็นออกไปหาข้าวกินแถวริมทะเล จะมีแผงขายอาหารปิ้ง ย่าง เยอะมากส่วนมากก็จะเป็นอาหารทะเล เช่น กุ้ง ปู หอยแครง แต่ผมเป็นความดันโลหิตสูงหมอห้ามอาหารทะเล ก็เลยไปได้อาหารยอดฮิตของอินโดจีน ก็คือบาเก็ตยัดใส้ หรือข้าวจี่ของลาวนั่นแหละครับ ๑ เหรียญ ๓๐ บาท เอ่อค่อยคบกันได้หน่อย แล้วก็ปั่นกลับบ้านพัก ระหว่างทางก็เจอสาวญวนนุ่งสั้น ชวนให้เข้าไปใช้บริการมาสซาส พรุ่งนี้พี่ต้องใช้พลังงานอีกเยอะน้องเอ๋ย ขอกลับไปพักผ่อนดีกว่า
หมายเหตุ สะพานเกาะกง ลงทุนสร้างและบริหารโดยคนไทย ค่าผ่านทางสำหรับ รถยนต์ ๔,๘๐๐ เรียลหรือ ๔๔ บาท จักรยานยนต์ ๑,๒๐๐ เรียล หรือ ๑๑ บาท