คงไม่ต้องบอกนะครับว่าภาระกิจที่ 3 ที่ศรีสัชนาลัยผมไม่สามารถทำได้ เนื่องจากเวลาที่เหลือมีไม่มากพอ
ผมจำเป็นต้องเดินทางกลับกรุงเทพแล้วละครับ ผมวางแผ่นโดยซื้อตั๋วกลับพร้อมกับวันที่่ออกเดินทาง
ผมเลือกกลับรถไฟเหมือนเดิมกับขบวนสวรรคโลก-กรุงเทพ เวลาออกจากสวรรคโลก 5 โมงเย็น 55 นาที
ตอนนี้เวลาบ่ายโมงกว่าแล้ว ต้องไปอีก 50 ก.ม. เศษ ผมเลือกเส้นทางสายใหม่ไม่ผ่านเมืองสุโขทัย
ขี่ไปรู้สึกท้อเหลือเกิน ไม่รู้ลมมาจากไหน ลมแรงจนต้องออกแรงปั่นต้านให้ผ่านไปให้ทันเวลาก่อนรถไฟออก
แต่ก่อนจะไปเจอนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งเป็นคนเดียวกันที่ผมกับเค้าช่วยกันถ่ายภาพให้กัน โดยจักรยานที่
ตาคนนี้เช่ามาเกิดโซ่ไปขัดกับตัวถัง แกแก้ไขอยู่ซักพักแล้วแต่ไม่สำเร็จ ผมเลยขี่จักรยานเข้าไปหา
ขณะนั้นโชคดีที่มีชาวบ้านที่กำลังเข็นรถเข็นบรรทุกอุปกรณ์ตัดหญ้าผ่านมาพอดี เลยเข้ามาเสริมอีกแรง
ผมเริ่มก่อน ผมรูดซิปกระเป๋าใต้เบาะนั่ง หยิบเครื่องมือออกมา ผมเอาไปงัดกับโซ่กับตัวถังเพื่อให้โซ่ที่ติดหลุดออกมา
แต่ไม่สำเร็จ เพราะเหล็กของเครื่องมือมันเป็นไขควงขนาดเล็ก เอาไปงัดเหล็กจักรยานแม่บ้านที่ตาคนนี้เช่ามา
มีหวังไขควงพังก่อน 5555
ไม่เป็นไรเรารอกำลังเสริมที่สแตนบายอยู่ ตอนที่ผมทำชาวบ้านที่มาเจอคนนี้มุงอยู่ด้วย ผมทำไม่สำเร็จ
แก่ (ชาวบ้าน) เลยเดินกลับไปที่รถเข็น หยิบเหล็กด้ามยาวมาให้ จำไม่ได้ว่ามันคืออะไร
เอาละ คิดในใจ ด้วยความที่เราขี่จักรยาน ต้องไม่เสียฟอร์ม ตาฝรั่งคนนี้มันก็มองเราอยู่ว่าเอ็งจะทำได้หรือ
ผมเลยเอาด้ามเหล็กไปงัดจนโซ่หลุดจนได้ โดยอาศัยแรงช่วยจากทั้ง 2 คนจนเรียบร้อย
ไม่เสียทีที่ขึ่จักรยาน 55555 แอบภูมิใจนิด ๆ
หลังจากนัั้นพี่ชาวบ้านก็เอาผงซักฟอกมาแบ่งให้ล้างมือทำความสะอาดส่่วนที่เลอะ น้ำใจงามแท้ ขอคารวะครับ
จะบอกว่าแค่งัดแค่นี้เหงือมาจากไหนไม่รู้ เลยแวะพักกินน้ำข้างทางซักครู่ คุยกับแม่ค้าในร้าน แก่ตากมะขามอยู่
เดินเข้าไปคุยดีกว่า อยากรู้ว่าทำอะไรกัน แม่ค้าในร้านบอกว่าตากมาะขาม เพื่อจะนำมาแกะทำมะขามเปียก
แกบอกว่าแถวนี้มะขามเยอะ เลยเก็บทำมะขามเปียกขายได้ เอาไปส่งตลาดในเมือง แกถามว่าลองดูมั้ย
ผมตอบว่าเอาสิครับ เปรี้ยวสุดยอด เกินคำบรรยาย กินไปสองคำ 55555