ท่องเที่ยวด้วยจักรยาน#9 ปั่นเล่่นๆไปอ.ท่าวังผา จ.น่าน เส้นทาง อุตรดิตถ์-แพร่-สอง-เชียงม่วน-บ้านหลวง-น่าน-ท่าวังผา 1-3 มีนาคม 2555

[ซาเล้งสีแดง]

สาดลงมาอีกโค้ง..แล้วเบรคเอี๊ยดดดด..เก็บไปอีกภาพ

-คุ้มค่าผ้าเบรค เพราะภาพนี้สวยจัดจริงๆ ครับ พี่กบ

[kobfujar]

สาดลงมาอีกโค้ง..แล้วเบรคเอี๊ยดดดด..เก็บไปอีกภาพ

-คุ้มค่าผ้าเบรค เพราะภาพนี้สวยจัดจริงๆ ครับ พี่กบ

ขอบคุณครับ..
แฮะๆๆ..ว่าจะสรุปให้มันจบเมื่อ 2 วันก่อน..ไม่ทันซะงั้น ต้องไปธุระต่างจังหวัดเสียก่อน วันนี้จะเอาให้จบ..จะจบไหมเนี่ย..

เดี๋ยวแถมเพิ่มวันที่ 4 มีนาคมให้อีก 1 วัน..เป็นวันสบายๆของผมกับหมู่บ้านน้ำป๊าก ก่อนวันงานปั่นของโครงการฯครับ

[ซาเล้งสีแดง]

-ไม่ต้องรีบ เอาภาพและบรรยาย แบบเนียนๆครับ พี่กบ ถึงช้าก็รอชมได้ครับ

[kobfujar]

ตัดการเดินทางมาถึงทางเข้า"บ้านน้ำป๊าก"เลยแล้วกันครับ(เพราะช่วงที่ผ่านมาไม่ได้ถ่ายภาพเลย )

บ่าย 5 โมงจะครึ่งแล้ว..ใกล้นิดเดียวไม่กี่กิโล แต่เหมือนยังไม่อยากให้ถึง
ก็ไม่รู้เป็นอะไร..ช่างทำถนนถึงชอบทำให้มันโค้งไปโค้งมากันจัง
แถมไอ้เราคนถ่ายภาพ..ก็ชอบถ่ายกันจัง ไอ้โค้งๆเนี่ย


ในความสวยงามของธรรมชาติย่อมมีความโหดร้ายแฝงอยู่เสมอ
ละแวกนี้..ก็เคยถูกน้ำป่าซัดบ้านเรือน สวน นา ไร่ พังไปมากมายเช่นกัน


ผมมาถึงโรงเรียนบ้านน้ำป๊าก(โรงเรียนถึงก่อนหมู่บ้าน)..แต่ไม่มีใครอยู่เลย เพราะโรงเรียนได้ถูกยุบไปรวมกับโรงเรียนอื่นไปแล้ว
(น่าเสียดายทรัพย์สินราชการ โดยเฉพาะที่ดิน และ อาคารเรียน ที่หลายที่ที่ผมเคยไปเห็น ปล่อยรกร้างว่างเปล่า ไม่มีใครเข้าไปจัดการใช้ประโยชน์ ด้วยปัญหาข้อกฏหมายของ "ทรัพย์สินราชการ")

"โรงเรียนบ้านน้ำป๊าก" ไม่ทราบถูกยุบไปเมื่อไร ตามสภาพที่เห็น..อาคารเรียนที่มีอยู่ยังพอใช้งานได้อย่างดี ระบบน้ำประปาเสียหายไปบ้างแต่ก็ยังใช้งานได้ สอบถามผู้คนที่นั่นก็ได้ความว่า ยังคงมีกิจกรรมต่างๆมาจัดร่วมกันที่โรงเรียนบ้าง จึงทำให้อาคารและสถานที่ยังดูดีอยู่ ไม่รกร้างอย่างหลายๆที่ที่ผมได้ไปพบมา ..

เมื่อไม่พบใคร..กำลังจะปั่นเข้าไปหมู่บ้าน ก็ได้รับคำแนะนำจากคนบ้านน้ำป๊ากที่ออกมาดูแลสวนข้างๆโรงเรียนให้ไปติดต่อสอบถามกับเจ้าหน้าที่"โครงการปิดทองหลังพระ" ที่เข้ามาแนะนำส่งเสริมในหลายๆเรื่องในหมู่บ้านนี้นับแต่เกิดน้ำป่าและดินถล่มหมู่บ้านเมื่อ 2-3 ปีก่อน .. ก็ต้องปั่นผ่านชุมชนหมู่บ้านไปเกือบสุดเส้นทาง ..

พอเข้าไปจะสอบถามก็พบกับ "อ.ตี๋ พัฒนาการ" และ "อ.ประสาท" นักปั่นอาวุโสที่เดินทางมาถึงก่อนผม 1 วันแล้ว .. หลังจากเก็บของทำกิจส่วนตัวเรียบร้อย ก็มานั่งคุยกับผู้อาวุโสอยู่ที่อาคารของโครงการฯ(น่าจะเรียกว่า กระท่อม มากกว่าแต่ใหญ่หน่อย)..สักพัก"น้องต้น"(นายช่างทหารอากาศหนุ่ม) ก็ปั่น FS มาถึง

เย็นนี้ไม่มีกิจกรรมอะไรครับ นอกจากนั่งคุยกัน เปิดเน็ตเล่น
การเดินทาง 3 วันก็สิ้นสุดลงที่ระยะทางเกือบเท่าที่ผมกะไว้
อุณหภูมิขณะนี้(21 น.)...ทำให้ผมตัดสินใจถูกแล้วที่ไม่เลือกนอนที่อาคารโครงการฯ แต่เลือกไปนอนในอาคารมิดชิดดีกว่า

[kobfujar]

วันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคม 2555
**สรุปแถมไป 1 วันกับบางส่วนของวีถีชุมชนคนบ้านน้ำป๊ากแล้วกันครับ **

อากาศยามเช้าบ้านน้ำป๊ากดีมากครับ..ดีจนผมเกือบขี้เกียจตื่น
บนอาคารโครงการฯยามเช้ามองลงไปจะเห็นแปลงพืชเกษตรริมลำธารน้อย
**ช่องเขานี้เป็นหนึ่งในหลายๆที่ของหมู่บ้านที่โดนน้ำป่าและดินถล่มเมื่อหลายปีก่อน**


เช้านี้ได้รับความอนุเคราะห์จากเจ้าหน้าที่โครงการปิดทองหลังพระ และ ชาวบ้าน รวมถึง ฝีมือการทำครัวโดย อ.ตี๋ และ อ.ประสาท ด้วย จึงได้อิ่มไปอีก 1 มื้อ พืชผักไร้สารเสียด้วย


รายนามนักปั่นที่มาถึงแล้ว .. (จากซ้ายไปขวา) .. น้องต้น,อ.ประสาท(พัทลุง) และ อ.ตี๋(พัีฒนาการ)


และ..ชาวบ้านน้ำป๊ากอีก 2 ท่าน..คนซ้าย(ถ้าผมจำไม่ผิด)เป็นเจ้าของผักไร้สารที่อ.ตี๋และอ.ประสาทไปเก็บมากับมือ และ ได้เคยออกรายการสารคดีตามทีวีช่องต่างๆมามากมาย .. (ชื่อดังกว่าผมจริงๆ )

[kobfujar]

ประมาณ 9 โมงเช้าช้าวบ้านเริ่มแบกหามสารพัดวัสดุอุปกรณ์ที่จะใช้ทำซุ้ม สำหรับเปิดงาน"โครงการปั่นจักรยานฯ"ในวันพรุ่งนี้มาจากด้านล่างบ้าง จากด้านบนบ้าง จากป่าข้างอาคารโครงการของมูลนิธิปิดทองหลังพระบ้าง ..

งานฝีมือประเภทนี้ผมถนัดครับ...ถนัดเป็นผู้ชมมากกว่า


อันนี้น่าสนใจครับ..
"เครือปุ๊" ไม่เถาชนิดหนึ่ง ต้องฉีกเป็นเส้นๆก่อน จึงนำมามัดเสาไม่ไผ่ ชาวบ้านบอกเหนียวที่สุดในประเทศ...

[kobfujar]

ทางด้านโน้นเริ่มขุดหลุมลงเสาไม้ไผ่..เพื่อขึ้นซุ้ม
ผมก็ไม่รู้จะทำอะไร .. เลยเดินมา่ช่วย"ต้น"และเจ้าหน้าที่เอาธงผูกกับเสาไปพลาง

[kobfujar]

10 นาฬิกาผ่านไป..กลับมาดูอีกที เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นแล้ว
ระหว่างการทำงานมีการถกเถียงกันอย่างมาก แต่เป็นไปในลักษณะครึกคริ้นเฮฮาเสียมากกว่าจะทะเลาะกันจริงๆ
ลักษณะการขึ้นก็เ็ป็นเสาไม้ไผ่สามต้น ประสานกันด้วยไม่ไผ่ ที่มัดด้วยเครือปุ๊ เพื่อให้แน่นหนาพอที่จะปืนขึ้นไปมัดในชั้นต่อไป


หันมาด้านหน้าอาคารโครงการของมูลนิธิปิดทองหลังพระ..อ.ตี๋ กับ ต้น กำลังช่วยชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ขึงแผ่นผ้าใบโครงการปั่นจักรยานครั้งนี้

[kobfujar]

11 นาฬิกาผ่านไปครึ่งทางก่อนเที่ยง...เริ่มเห็นเป็นรูปเป็นร่างแล้วครับ ใช้เพียง..ไม้ไผ่และเครือปุ๊ ประกอบกับฝีมือนายช่างพื้นบ้าน


ใกล้จะบ่ายโมงก็เกือบเรียบร้อย..เหลืองานตกแต่งอีกนิดหน่อย
**สื่อสำนักไหนไม่ทราบเริ่มมาถ่ายทำ**


หลังจากนั้นไม่นาน ผมก็เก็บสัมภาระ ย้ายตัวเองไปกางเต๊นท์นอนที่โรงเรียน รอนักปั่นที่จะตามมาในวันนี้และเช้าวันพรุ่งนี้


ช่วงปั่นกลับเข้ามา แวะดูวิถีชุมชนของคนทีนี่มาอีกเล็กน้อยครับ


แม่ใหญ่คนนี้กำลังนั่งปอกตอกอยู่ฟากตรงข้าม เลยจอดรถจักรยานเดินเข้าไปในคุยกับแก .. จึงได้รู้ว่าจะมีแม่ค้าเข้ามาซื้อในราคา ๕๐ บาทต่อกิโลกรัม (ระแวกนี้ต้นไผ่เยอะ และ ต้นใหญ่ด้วย)

[kobfujar]

เมื่อผมปั่นกลับขึ้นมาถึง ซุ้มนี้ก็เสร็จเรียบร้อย และ เกือบจะทั้งหมดทำจากวัสดุธรรมชาติ


ราวบ่าย 3 โมงครึ่ง..เจ้าหน้าที่โครงการปิดทองหลังพระ มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ และ นักปั่นจักรยานบางส่วนที่มาถึงแล้ว ชักชวนกันเข้าไปทำฝายชลอน้ำ และ มีสื่อสำนักไหนไม่ทราบตามเข้าไปด้วย .. แต่เผอิญเป้าหมายของผมอยู่ที่ในหมู่บ้านมากกว่า จึงแยกปั่นจักรยานกลับลงมาในหมู่บ้านอีกครั้งหนึ่ง ..

รายได้จากการทำตอกขาย เท่าที่ทราบอย่างละเอียด 100 เส้นจะได้ 22 บาท ถ้าเส้นยาวกว่านี้หน่อยได้ 30 บาท


ก็ไม่ง่ายเลยที่จะให้ได้มา เพราะนั่งเหลาแล้วต้องตากให้แห้งอีก


ก็แวะนั่งคุยกับพี่สาว 2 คนนี้อยู่พักใหญ่ .. ทั้งเรื่องของตอก และ เรื่องของหมู่บ้าน

[kobfujar]

นั่งคุยกับพี่สาวที่เหลาตอกไปพักใหญ่ .. กำลังจะปั่นจักรยานกลับไปโรงเรียน
ก็เห็นพ่อใหญ่แม่ใหญ่สองคนกำลังคัดแยกปลาที่ไปหามา แบ่งขายให้กับเพื่อนบ้าน



ปลามอม กับ ปลาจาด แต่แยกความแตกต่างยากหน่อยครับ

[kobfujar]

กลับไปถึงโรงเรียนก็พบนักปั่นจักรยานในโครงการอีกหลายท่านได้มาถึงแล้ว และกำลังจับจองที่กางเต๊นท์ บ้างก็กางในอาคาร บ้างก็กางในสนาม

เย็นนี้..มีการพูดคุยเสวนานิดหน่อยโดยมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ มีคณะทำงานของมูลนิธิ นักปั่นจักรยานที่เดินทางมาถึงแล้ว และ ชาวบ้าน เข้าร่วม อีกทั้งมีหนังกางแปลงด้วย(เป็นรถโมบายของมูลนิธิฉายหนังเกี่ยวกับโครงการพระราชดำริของในหลวง และ ความเป็นมาของโครงการปั่นจักรยานครั้งนี้ให้ชม)


เด็กน้อย..ครึกครื้นกันบ้าง ที่มีงานกิจกรรมในหมู่บ้าน ..เห็นนักปั่นกางเต๊นท์เลยอยากนอนเต๊นท์บ้าง


พรุ่งนี้..การปั่นจักรยานครั้งแรกที่มีจำนวนวันและระยะทางไกลที่สุดในชีวิตของผม ก็จะเริ่มขึ้นแล้ว

[kobfujar]

ลืมแปะอันนี้ไว้ครับ..
รวมภาพนิ่งภาพเคลื่อนไหวของการปั่นครั้งนี้ครับ
ดูไปเพลินๆประกอบเพลง..22.56 นาที



********************แล้วค่อยตามด้วยอันนี้ครับ***************************

ปั่นจักรยาน จาก ภูผา สู่ มหานที
ท่องเที่ยวด้วยจักรยาน#10 ยังคงหาประสบการณ์ปั่นทางไกลต่อไป
กับ "โครงการปั่นจักรยานกู้วิกฤต คืนชีวิตให้แผ่นดิน จาก ภูผา สู่ มหานที"
http://thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=56&t=458605
[วันจันทร์ที่ 5 มีนาคม - วันพฤหัสบดีที่ 15 มีนาคม พ.ศ.2555]

**ยังไม่ได้สรุปการเดินทางทั้งหมดเช่นกัน รับชมเป็นวีดีทัศน์ไปก่อนนะครับ ยาวนิดหน่อย
(เกือบ 2 ชม.แต่ไม่เหงาเพราะมีเพลงให้ฟังตลอดการเดินทางครับ) **

[เสืออ่อนซ้อม]

เขัามาสำรวจเส้นทางครับ กำลังหาเส้นทางอุตรดิตถ์ -ท่าวังผาอยู่พอดีจะไปวันที่ 19-23ต.ค เส้นทางนี้สวยมากครับระยะทางโดยรวมถึง อ.ท่าวังผา กี่โลครับได้คำนวนที่พักถูก

[kobfujar]

เขัามาสำรวจเส้นทางครับ กำลังหาเส้นทางอุตรดิตถ์ -ท่าวังผาอยู่พอดีจะไปวันที่ 19-23ต.ค เส้นทางนี้สวยมากครับระยะทางโดยรวมถึง อ.ท่าวังผา กี่โลครับได้คำนวนที่พักถูก

ถ้าตามเส้นทางต่อจากตาลชุมที่ผมไป ก็น่าจะอีกราว 10 กม.จะถึงท่าวังผาครับ

"ที่พัก"หากเลยช่วงอ.เมืองแพร่ อ.ร้องกวาง และ ตัวอ.สองไปแล้ว ค่อนข้างหายากเพราะจะเป็นป่าเขา .. จนไปถึงต.สะเอี๊ยบอาจไปขอนอนที่รพ.ส่งเสริมสุขภาพตำบลหรืออบต.น่าจะได้..ส่วนที่อ.เชียงม่วน ไม่แน่ใจเรื่องที่พักเพราะผมไม่ได้เข้าไปที่ตัวอำเภอ แต่คงหาไม่ยากครับ .. เลยแยก"ปงสนุก"ที่ผมถ่ายภาพไปแล้วไม่มีที่พักเป็นทางขึ้นเขาเกือบตลอด ไปยันทางลงไปอ.บ้านหลวง ยกเว้น..ด่านตรวจสัตว์ที่ผมไปพักครับ.. .. เลยอ.บ้านหลวงไปแล้วก็ขึ้นลงเขาหาที่พักไม่มีครับ ต้องไปจนเกือบถึงจ.น่านอาจพอหาได้

ยกเว้นชอบแค๊มป์ปิ้ง ก็สามารถเลือกได้ตลอดทางครับ
อ้อ..ระยะทางอุตรดิตถ์ -ท่าวังผาก็ไม่น่าแตกต่างจากของผม คือ 270-280 กม.ครับ