กระเป๋าหน้าท้องกับทริปป้อมพระจุลจอมเกล้า

รายงาน/รูป "สรุปทริป" จากที่ได้ปั่นมา
ตอบกลับ
รูปประจำตัวสมาชิก
a lone wolf
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 446
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ธ.ค. 2010, 01:57
Bike: kona sutra

กระเป๋าหน้าท้องกับทริปป้อมพระจุลจอมเกล้า

โพสต์ โดย a lone wolf »

หมาป่าเดียวดายหัดขี่จักรยานได้สักสองเดือนกว่าๆ
ปกติขี่ไปทำงานเช้าเย็นไปกลับ 34 กิโลฯ
ก็เริ่มอยากออกทริปกับเขาบ้าง
เห็นเพื่อนๆพี่ๆขี่กันเป็นร้อยกิโลฯ เกรงว่าไปถึงแต่จะกลับไม่ไหว เลยขอเลือกทริปแบบพระบวชใหม่ไปที่ป้อมพระจุลฯตรงสมุทรปราการนี่แหละ ด้วยว่าบ้านอยู่แถวสวนหลวง ร. 9
ทริปนี้เห็นคนไปมาเยอะและมีสรุปทริปเยอะ ผมก็ขอบันทึกไว้ให้ชื่นใจตัวเองสักหน่อยกับทริปแรกของตัวเอง
รูปที่ถ่ายมาไม่ค่อยมีภาพเส้นทาง เพราะกล้องอยู่ในกระเป๋าหลัง ไม่ค่อยได้ควักมาตอนขี่
ส่วนใหญ่เป็นภาพสถานที่ครับ

เสาร์ที่ 12 มีค. เอาฤกษ์สะดวก
ออกจากบ้านไปซ้อมกีฬาที่สนามราชนาวีบางนาก่อน
จากนั้นสักสิบเอ็ดโมงเศษก็ขี่รถขึ้นไปทางสมุทรปราการ จะไปขึ้นเรือข้ามฟากที่ตลาดปากน้ำ
ถามเพื่อนๆในเวปเขาบอกว่าขึ้นเรือได้หลายท่า ไล่ตั้งแต่บางนานอก ปู่เจ้าสมิงพราย ไปถึงท่าตลาดปากน้ำ
ไปบางนานอกนั้นไปขึ้นบกที่วัดบางน้ำผึ้งฝั่งพระประแดง เพื่อนเขาบอกทางร่มรื่น หมาป่าตัดสินใจเลือกทางตรงๆที่รู้จักทิศทางแน่นอนก่อนครับ กลัวไปเจอหมาเฝ้าสวนแถวบางน้ำผึ้ง ค่อยไปวันหลังละกัน
ส่วนท่าที่ไปทางถนนปู่เจ้าฯ ท่าทางรถพ่วงรถบรรทุกจะเยอะ ไม่ไปดีกว่า

ขี่รถจากสนามกีฬาราชนาวีบางนาไปตามเส้นสุขุมวิท รถเยอะตามปกติครับ
ช่วงจากแบริ่งถึงสำโรง ก็ใช้ทักษะการขับรถไปทำงานแทรกไปตามช่องจราจร มักเข้าช่องสอง ระหว่างเลนซ้ายสุดและเลนกลาง ซึ่งหากรถวิ่งไม่เร็วจะสะดวกกว่าการวิ่งซ้ายสุดที่ต้องจอดรอรถเมล์เข้าป้ายบ่อยๆ
ช่วงสุขุมวิทตัดกับถนนวงแหวนกาญจนาภิเษกก่อนถึงพิพิธภัณฑ์ช้างสามเศียรถนนกว้างมาก รถวิ่งกันเร็ว
หมาป่าเลือกวิ่งชิดซ้ายที่มีช่องทางป้ายบอกไปสมุทรปราการ แทนที่จะออกทางขวาซึ่งก็ไปสมุทรปราการได้เหมือนกันแต่รถวิ่งกันดุเดือดกว่า
ช่วงถนนผ่านหน้าช้างสามเศียรตะแกรงเหล็กท่อระบายน้ำจะวางขนานผิวทางจราจรอยู่หลายจุด ต้องคอยเบี่ยงขวาหลบให้ดีครับ เพราะยางรถหมาป่าแค่ 1.25 นิ้ว ถ้าตกลงไปคงเจ็บตัวแน่นอน

ถึงตลาดปากน้ำยังไม่เที่ยง
ถามคนขายของว่าท่าเรือไปตรงไหนเขาบอกให้เป็นอย่างดี
จูงจักรยานเข้าตลาด เห็นช่องจ่ายเงินตรงทางเข้าเพื่อลงเรือ ซึ่งมีรั้วเหล็กตาข่ายกั้นแยกจากทางขึ้นจากเรือ
ค่าโดยสาร 3.50 บาท ถามคนเก็บเงินว่าเอาจักรยานลงอย่างไรเพราะมันมีแผงกั้นแบบนับจำนวนคนอยู่ จะให้ยกข้ามไหม
เขาบอกว่าจ่ายเงินตรงนี้แหละค่ะ มีจักรยานด้วยคิดทั้งหมด 8 บาท จ่ายแล้วให้จูงจักรยานไปเข้าทางฝั่งทางขึ้นจากเรือซึ่งไม่มีแผงกั้นจะสะดวกกว่าคร่า

เรือเป็นเรือเล็กครับ บรรทุกคนและจักรยานได้ บรรทุกรถยนต์ไม่ได้เหมือนท่าตรงปู่เจ้าสมิงพราย
ผมนั่งรับลมเล่นพอเพลินกว่าจะข้ามฝั่งไปถึงพระสมุทรเจดีย์ตรงฝั่งพระประแดง
เรือจุได้ประมาณ 70-90 คน บ่ายวันเสาร์ผู้โดยสารไม่แน่นมาก
ชูชีพมีครบครันครับ นึกเหมือนกันว่าถ้าเรือล่มเนี่ยจะเอาชูชีพผูกจักรยานยังไงดี...แบบว่าเสียดายรถครับ

รูปภาพ

ขึ้นท่าที่ฝั่งพระสมุทรเจดีย์ คราวนี้ไม่ต้องถามทางไปพระสมุทรเจดีย์เลยครับ
เพราะตัวเจดีย์ตั้งอยู่ข้างท่าเรือเลยเชียว

รูปภาพ

จากองค์เจดีย์ ผมขี่มุ่งขึ้นไปทางแยกที่ต่อกับสุขสวัสดิ์และมีทางเลี้ยวแยกไปป้อมพระจุล
ตรงแยกนี้มีร้านราดหน้ายอดผัก เห็นว่าเที่ยงกว่าแล้วก็กินราดหน้าเรียกแรงเตรียมไว้ก่อน
จานละ 25 บาท แถมน้ำแข็งเปล่าหนึ่งแก้ว ถูกดีครับ
อิ่มแล้วก็มุ่งหน้าตรงไปป้อมพระจุลฯ

แดดแรง ลมแรงครับ
ทาซันบล๊อกมาซึ่งไม่ช่วยลดความดำสักเท่าไหร่ ดีแค่ว่าผิวไม่แสบ
ลมแรงจนผมผู้ซึ่งไม่เคยขี่ทางไกลมาก่อนใช้เฟืองท้ายตัวที่สามจากเล็กสุด เฟืองหน้าตัวกลาง ทำความเร็วได้แค่ยี่สิบเศษๆเท่านั้น
เส้นทางสงบ แทบไม่มีรถตามหลังและไม่มีรถสวนเลย
ระหว่างทางเห็นทางไปวัดขุนสมุทรจีนที่เคยอ่านข่าวว่ามีโบสถ์ที่น้ำทะเลรุกเข้ามาซัดเพราะโลกร้อน ได้แต่มาร์คไว้ในใจว่าวันหลังจะขี่มาชม

ขี่พอเหงื่อแตกโทรมด้วยฝ่าลม
ผ่านกองเรือทุ่นระเบิด และอู่เรือป้อมพระจุลฯ
จากนั้นก็ถึงประตูทางเข้าป้อมพระจุลฯ
จักรยานเขาไม่เรียกแลกบัตรนะครับ คงมีขี่กันมาประจำ ให้ขี่เข้าไปเลย แต่รถยนต์ผมเห็นมีหยุดแลกบัตร
ทางข้างในป้อมสวยเชียวเพราะเป็นสถานที่สำคัญของทหารเรือ ด้วยมีเกียรติประวัติการยิงต่อต้านเรือรบฝรั่งเศสที่บุกเข้าปากแม่น้ำมาเมื่อ รศ. 112

ถึงบริเวณป้อมฯ มีพระบรมราชานุสาวรีย์ของรัชกาลที่ 5 ในเครื่องแบบทหารเรือโดดเด่นเป็นสง่าอยู่หลังป้อมฯ
ต้องถ่ายรูปช๊อตมาตรฐานที่มีโชว์กันในทุกสรุปทริปของป้อมพระจุลฯครับ
Kona Sutra 2009 สีเขียว พาหนะคู่ใจ (แต่กระติกน้ำเป็น Bianchi เพราะ TCA เขาแถมให้มาแต่ยี่ห้อนี้)

รูปภาพ


ผมไปถวายบังคมพระรูปฯเสร็จ
จากนั้นก็นึกว่าจะทำอะไรต่อดี ชมป้อม? ชมพิพิธภัณฑ์เรือหลวงแม่กลอง? หรือ กินเบียร์สิงห์สักขวดที่สโมสรท้ายเรือหลวงแม่กลอง?
ความเป็นคนขี่จักรยานทำให้ต้องวางแผนครับ
...ผมเลือกกินเบียร์ก่อนดีกว่า กินรับลมเย็นและวิวปากแม่น้ำ ให้เบียร์ออกฤทธิ์และคลายฤทธิ์ จากนั้นค่อยไปเดินชมสถานที่และพิพิธภัณฑ์น่าจะดีกว่า ถ้าเลือกกินเบียร์ตอนท้ายสุดเดี๋ยวขี่รถกลับจะมีปัญหา...เมาไม่ขับ แม้ตำรวจจะไม่เรียกคนขี่จักรยานตรวจแอลกอฮอล์แต่เพื่อสวัสดิภาพของตัวเองครับ ภาพของสโมสรเมื่อมองจากท้ายเรือแม่กลอง

รูปภาพ

สโมสรนี้วิวดีครับ เห็นเรือหลวงที่ถูกนำมาตั้งอยู่บนบก และเห็นทิวทัศน์รับลมเย็นจากแม่น้ำ
มีเด็กๆลูกคนท้องถิ่นมาทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟและเด็กเก็บโต๊ะ ฝึกให้ทำงานหาเงินตั้งแต่ตอนเรียน
พนักงานเต็มร้านไปหมดเลย เบียร์สิงห์หนึ่งขวดกับยำกุ้งตะไคร้ จ่ายไป 160 บาทครับ

จากนั้นผมก็เดินมาชมพิพิธภัณฑ์เรือหลวงแม่กลอง

รูปภาพ
เรือมีเกียรติประวัติน่าภาคภูมิใจ ด้วยเป็นเรือพระที่นั่งของในหลวงหลายโอกาส
และเป็นเรือฝึกของนักเรียนนายเรือ และนักเรียนชุมพลทหารเรือ
สมัยเด็กๆผมเคยอยากเป็นทหารเรือครับ คำว่า join navy see the world ที่แปลเป็นไทยอย่างสละสลวยว่า ร่วมเครือนาวี จักยลปฐพีไพศาล ช่างจับใจเด็กประถมยิ่งนัก แต่เสียดายว่าตอนหลังสายตาสั้นเลยอดยลปฐพีไพศาลเสียนี่ ^^

จากนี้ก็เป็นรูปบนเรือ ปล่อยเป็นชุดครับ
ท่อปล่อยตอร์ปิโด
รูปภาพ

ห้องประกอบอาหาร
รูปภาพ

หม้อหุงข้าว
รูปภาพ

เครื่องซักผ้า
รูปภาพ

เอกสารชื่อเรือพระราชทาน ออกโดยคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในหลวงรัชกาลที่ 8
รูปภาพ

เอกสารคำสั่งปลดประจำการเรือ
รูปภาพ

ภาพลูกเรือชุดสุดท้ายก่อนปลดประจำการ
รูปภาพ

ภาพเรือเดินทางเข้าลุ่มน้ำแม่กลองเป็นครั้งที่สองและครั้งสุดท้ายเพื่ออำลาชาวสมุทรสงครามที่นำชื่อแม่น้ำมาตั้งชื่อเรือ
สังเกตดูในภาพจะเห็นเรือประมงแม่กลองวิ่งขนาบเรือหลวงเพื่อเป็นเกียรติในพิธีอำลา ธรรมเนียมชาวเรือนี้ซึ้งยิ่งนัก น้ำตาจะไหลนะครับ
รูปภาพ

ห้องพักนายทหารเรือระดับต้นเรือ
รูปภาพ

ป้อมปืนหน้าขนาด 120 มม.
รูปภาพ

รูปภาพ

ห้องบังคับการเรือ
รูปภาพ

พระบรมราชานุสาวรีย์มองจากห้องบังคับการเรือ
รูปภาพ

ห้องอาหาร
รูปภาพ

จากนี้ผมก็เดินไปที่ป้อมพระจุลจอมเกล้าบ้างล่ะครับ
ถึงเราจะหยุดเรือรบฝรั่งเศสไม่อยู่เมื่อ รศ. 112 แต่ก็ไม่ต้องมานึกช้ำใจว่า "ไม่สู้" ครับ คนไทยเราสู้อย่างสมศักดิ์ศรี
ภาพนี้เป็นด้านหลังป้อม
รูปภาพ

ท้ายปืนเสือหมอบกระบอกหนึ่ง
รูปภาพ

ทหารเรือฝรั่งเศสรู้ฤทธิ์ปืนกระบอกนี้แน่นอน
รูปภาพ

ธงราชนาวีไทยจักโบกสะบัดอยู่หน้าป้อม ตราบเท่าที่บ้านเมืองนี้ยังเป็นเอกราชอยู่
รูปภาพ

ผมมีติดอยู่นิดเดียวที่ไม่ล่ายหลั่งจาย คือด้านหน้าป้อมที่หันออกสู่ปากแม่น้ำ ตอนนี้มีต้นไม้ขึ้นเต็มไปหมด
คาดว่าเรือที่แล่นผ่านปากแม่น้ำเข้ามาคงไม่เห็นป้อม
จะเขียนจดหมายหากองทัพเรือแนะนำให้ถางต้นไม้ออก และทำให้ป้อมเด่นเป็นสง่าเหมือนปราการปกป้องปากแม่น้ำเจ้าพระยา
เหมือนที่เคยเป็นมาในสมัยก่อนครับ
รูปภาพ

เย็นแล้วต้องอำลาป้อมพระจุลฯเพียงเท่านี้ล่ะครับ
รูปภาพ

ขากลับผมขี่กลับทางเดิมครับ มาขึ้นเรือที่ท่าพระสมุทรเจดีย์กลับมาที่ตัวจังหวัดสมุทรปราการ
ลมไม่ต้านแล้วครับ เพราะวิ่งย้อนทิศ มาได้เร็วกว่าขาไป
คนในเรือมีน้ำใจทุกเที่ยวเลยครับ เห็นผมแบกจักรยานขึ้นลงเรือก็จะมีคนมารอรับรถให้ แต่ผมได้แต่บอกขอบคุณเพราะรถไม่ได้หนักอะไร
ทริปนี้ระยะทางแค่ 55 กม. เอง แต่นวกะแบบผมขากลับนี่แทบต้องยกขาขวาขึ้นพาดตอนคร่อมตัวขึ้นขี่ทีเดียว ...มันล้า
คงต้องฝึกอีกเยอะครับ
ตะคริวไม่เกิด เพราะกินน้ำเกลือแร่สลับน้ำเปล่าตลอด
ขากลับช่วงเย็นตรงสำโรงรถเต็มไปหมด แต่จักรยานขี่ลัดเลาะมาได้สบายใจ

ถึงปากซอยอุดมสุขสุขุมวิท 103 หิวจนตาลายครับ
ราดหน้ามื้อกลางวัน เบียร์และยำกุ้งสดตะไคร้ถูกใช้งานไปหมดสิ้น
เลยต้องแวะกินบะหมี่น้ำอีกชามก่อนเข้าบ้าน

พี่ๆเพื่อนๆที่อ่านหัวข้อกระทู้คงสงสัยว่า "กระเป๋าหน้าท้อง" มาเกี่ยวอะไรด้วยกับทริปนี้
ขอเฉลยครับ...ว่าเจ็บน้องชาย
เนื่องจากปกติจะคาดกระเป๋าหน้าท้องขี่ไปมาระหว่างบ้านและที่ทำงานตลอด
ไม่เคยมีปัญหาอะไร
แต่คราวนี้ไกลกว่าปกติ น้ำหนักของสัมภาระในกระเป๋ามันกดบนน้องชายตลอดการปั่น
มันมาแสดงอาการตอนขี่กลับบ้านหลังจากกินบะหมี่น้ำแล้ว
ปวดแปล๊บๆครับ ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมนักจักรยานชอบใช้กระเป๋าสะพายที่บิดมาไว้ด้านหลัง ฮ่าฮ่าฮ่า
รูปภาพ

ขอจบทริปเพียงเท่านี้นะครับ
แล้ววันหน้าจะมาเล่าการเดินทางกันใหม่ครับ สวัสดีครับ :)
แก้ไขล่าสุดโดย a lone wolf เมื่อ 14 มี.ค. 2011, 20:52, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
รูปประจำตัวสมาชิก
HuggyBeary
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 635
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2010, 21:46
team: เสือซิงซิง ณ กรุงเทพฯ
Bike: Fuji Lifestyle Sunfire 2.0
ตำแหน่ง: ฝั่งธนฯ ย่านตลาดบางปะกอก
ติดต่อ:

Re: กระเป๋าหน้าท้องกับทริปป้อมพระจุลจอมเกล้า

โพสต์ โดย HuggyBeary »

ยินดีด้วยครับบ ;) เริ่มต้นจากทริปเล็กๆก็ ระยะประมาณนี่หล่ะกำลังดี ต่อไปจะได้ระยะไกลขึ้นเรื่อยๆครับ

ถ่ายรูปสวยดีนะครับ ผมถ่ายแต่รูปเรือด้านล่าง ไม่ได้ขึ้นไปข้างบนเลย ไม่ได้แวะดูเรือดำน้ำกะชุดเครื่องยิงตอปิโด ฝั่งตรงข้ามเหรอครับ
รูปประจำตัวสมาชิก
aob_ja
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 234
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2010, 09:33
team: เต่าชรา
Bike: รถแม่บ้านคันน้อย
ตำแหน่ง: ตลิ่งชัน กทม.

Re: กระเป๋าหน้าท้องกับทริปป้อมพระจุลจอมเกล้า

โพสต์ โดย aob_ja »

ยินดีด้วยครับ :D ผมเองก็ยังไม่เคยปั่นไปเหมือนกัน :D :)
สงสัยจะต้องหาทางลองไปบ้างแล้ว :D :lol: :lol: ;)
ปั่นก็ไม่แรง...แซงใครก็ไม่พ้น...ตามก้นเขาทุกที.
ตอบกลับ

กลับไปยัง “สรุปทริป / รายงานการปั่น”