สถานที่ท่องเที่ยงใกล้เคียง ขอขอบคุณข้อมูลจาก
https://travel.kapook.com/view142794.html
1. ศาลพระกาฬ (ห่างจากสถานที่จัดงาน 39 กม.)
สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองลพบุรี เป็นจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดลพบุรี ภายในประดิษฐานเจ้าพ่อพระกาฬ สันนิษฐานว่าเป็นเทวรูปพระนารายณ์ยืน สร้างด้วยศิลาแลง 2 องค์ องค์เล็กเป็นแบบเทวรูปเก่าในประเทศไทย องค์ใหญ่เป็นประติมากรรมแบบลพบุรี แต่พระเศียรเดิมหายไป ภายหลังมีผู้นำพระเศียรพระพุทธรูปศิลาทรายสมัยอยุธยามาสวมต่อไว้ บริเวณโดยรอบศาลพระกาฬปกคลุมด้วยต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของฝูงลิงมากมาย จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของทางจังหวัด และเมื่อมีคนนำอาหารและผลไม้มาแก้บนที่ศาล ลิงเหล่านั้นก็ได้เข้ามากินอาหาร ต่อมากลายเป็นความเคยชินของลิง และความคุ้นเคยของชาวบ้านและนักท่องเที่ยวไปโดยปริยาย
2. พระปรางค์สามยอด (ห่างจากสถานที่จัดงาน 39 กม.)
เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดลพบุรี โดดเด่นด้วยลักษณะทางสถาปัตยกรรมปราสาทเขมรในศิลปะบายน สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 มีลักษณะเป็นปราสาทปรางค์เรียงต่อกัน 3 องค์ เชื่อมต่อกันด้วยมุขกระสัน วางตัวในแนวเหนือ-ใต้ สังเกตได้ว่าปราสาทประธานจะมีความสูงมากกว่าอีก 2 องค์
ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทั้งยังมีการประดับประดาส่วนต่าง ๆ ของปราสาทด้วยปูนปั้น หลังจากที่เสร็จสิ้นการไหว้ศาลพระกาฬแล้ว ว่ากันว่า "พระปรางค์สามยอด" เป็นโบราณสถานที่ทุกคนจำเป็นต้องเดินทางมาแวะเที่ยวและเคารพสักการะกันทุกคน
3. วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ (ห่างจากสถานที่จัดงาน 41 กม.)
ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามสถานีรถไฟลพบุรี ในเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ ถือได้ว่าเป็นวัดใหญ่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีอีกแห่งหนึ่งของจังหวัด โดดเด่นด้วยพระปรางค์องค์ใหญ่ตั้งเด่นเป็นประธานอยู่ตรงกึ่งกลางของพื้นที่ ก่อด้วยศิลาแลงตั้งแต่ฐานถึงหน้าบัน ประดับด้วยลวดลายปูนปั้นที่งดงาม ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมเขมร ภายในองค์ปรางค์มีจิตรกรรมฝาผนังเขียนด้วยสีฝุ่นรูปพระพุทธเจ้าและพระสาวกเจดีย์รายและพระปรางค์
นอกจากนี้ภายในวัดท่านสามารถชมวิหารเก้าห้อง ซึ่งมีลักษณะเป็นวิหารที่มีผนังยาวโดยมีช่วงเสากั้นอยู่รวมเก้าช่วงเสา เป็นลักษณะสถาปัตยกรรมแบบสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ซึ่งได้รับอิทธิพลจากชาวต่างประเทศ มีความสวยงามและควรค่าต่อการรักษาเป็นมรดกคู่บ้านคู่เมืองจังหวัดลพบุรีตราบนานเท่านาน
4. พระนารายณ์ราชนิเวศน์ (ห่างจากสถานที่จัดงาน 40.3 กม.)
ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าหิน อำเภอเมือง ชาวเมืองลพบุรีเรียกที่นี่กันจนติดปากว่า "วังนารายณ์" เป็นพระราชวังที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชได้โปรดให้สร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 2208-2209 ออกแบบโดยวิศวกรชาวฝรั่งเศส ความสวยงามของที่นี่อยู่ที่ลักษณะสถาปัตยกรรมแบบไทยผสมตะวันตก โดยความสำคัญของพระราชวังแห่งนี้อยู่ที่สมเด็จพระนารายณ์จะทรงโปรดประทับช่วงตลอดฤดูฝน แต่ภายหลังการเสด็จสวรรคตพระนารายณ์ราชนิเวศน์ได้ถูกทิ้งร้าง จนถึงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์โปรดให้บูรณะพระราชวังของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช สร้างพระที่นั่งขึ้นใหม่ และพระราชทานนามว่า "พระนารายณ์ราชนิเวศน์" มาจนถึงปัจจุบัน
5. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสมเด็จพระนารายณ์ (ห่างจากสถานที่จัดงาน 40.3 กม.)
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติแห่งที่ 3 ของประเทศไทย ตั้งอยู่ภายใน พระนารายณ์ราชนิเวศน์ เขตตำบลท่าหิน อำเภอเมืองลพบุรี เป็นสถานที่จัดแสดงศิลปวัตถุโบราณ และนิทรรศการตามอาคารต่าง ๆ จำนวนทั้งสิ้น 4 อาคาร ได้แก่ "พระที่นั่งพิมานมงกุฎ" แสดงหลักฐานวัตถุโบราณสมัยก่อนประวัติศาสตร์ บริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาและแหล่งโบราณจังหวัดลพบุรี "พระที่นั่งจันทรพิศาล" แสดงพระราชประวัติของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และโบราณวัตถุ "หมู่ตึกพระประเทียบ" (อาคารชีวิตไทยภาคกลาง) จัดแสดงเครื่องมือเครื่องใช้ของชาวนา "พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่" จัดแสดงหนังใหญ่เรื่องรามเกียรติ์ นับเป็นแหล่งโบราณสถานที่น่าแก่การศึกษาและค้นคว้าทางประวัติศาสตร์แก่เยาวชนและผู้ที่มีความสนใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
6. ทุ่งทานตะวัน
ลพบุรีเป็นจังหวัดที่มีการปลูกทานตะวันมากที่สุดในประเทศไทย โดยช่วงที่ดอกทานตะวันเริ่มแย้มกลีบบานอยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-มกราคมของทุกปี นอกจากทุ่งทานตะวันเหล่านี้จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สร้างรายได้ให้กับจังหวัดแล้ว ทานตะวันยังเป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเมล็ดที่สามารถนำมาสกัดเป็นน้ำมันปรุงอาหาร หรืออบแห้งเพื่อรับประทาน และอีกสารพัดประโยชน์ของทานตะวันอีกมากมาย เราจึงเห็นแหล่งปลูกทานตะวันกระจายอยู่ทั่วไปทั้งจังหวัด ตั้งแต่ในเขตอำเภอพัฒนานิคม อำเภอชัยบาดาล บริเวณเขาจีนแล ตำบลโคกตูม โดยนักท่องเที่ยวสามารถเลือกชมความสวยงามของทุ่งทานตะวันไปตามเส้นทางเหล่านี้ และแวะถ่ายรูปเพื่อสัมผัสความงดงามได้ตามใจชอบ
7. สวนรุกขชาติน้ำตกวังก้านเหลือง (ห่างจากสถานที่จัดงาน 69.3 กม.)
ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าดินดำ ภายในมีน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ไม่มาก แต่มีความสวยงามไม่แพ้น้ำตกที่อื่น ความพิเศษของน้ำตกอยู่ที่ต้นธารน้ำตก เพราะปกติมักจะอยู่บนภูเขาสูง แต่ที่นี่กลับปรากฏว่าต้นน้ำของน้ำตกแห่งนี้เป็นเพียงตาน้ำขนาดใหญ่ที่ผุดขึ้นจากใต้ดิน และไหลคดเคี้ยวมาตามทางลาด และรวมตัวกันที่อ่างเก็บน้ำ จนไหลเอ่อจากต้นน้ำตกลงมาปะทะกับหินผา เกิดเป็นน้ำตกกว้างที่ลดหลั่นดูสวยงามเป็นทางยาวกว่า 3 กิโลเมตร มีน้ำไหลตลอดทั้งปี ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำได้ นอกเหนือไปจากความงดงามของน้ำตกแล้ว ที่นี่ยังร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่น้อยที่ขึ้นปกคลุมมากมาย มีหินงอก หินย้อย เกิดขึ้นหลายแห่ง นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและแหล่งพักผ่อนหย่อนใจที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดลพบุรี
8. เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ (ห่างจากสถานที่จัดงาน 78.5 กม.)
ตั้งอยู่บ้านหนองบัว อำเภอพัฒนานิคม เป็นเขื่อนดินที่ยาวที่สุดในประเทศไทย นอกจากคุณประโยชน์ในการกักเก็บน้ำเพื่อการเกษตรแล้ว เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดลพบุรี เพราะมีจุดชมวิวริมอ่างเก็บน้ำ พิพิธภัณฑ์ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และสันเขื่อน ล้วนแล้วแต่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจุดที่รถไฟจอดอยู่เหนือเขื่อน ในลักษณะทางรถไฟที่คดโค้งให้ความรู้สึกเหมือนรถไฟลอยอยู่เหนือน้ำ เราจึงเห็นนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนไม่น้อยหยิบกล้องถ่ายรูปเพื่อบันทึกภาพความสวยงามเหล่านั้นเอาไว้ ตลอดจนร้านอาหาร ร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก รถนำชมวิวทิวทัศน์ บ้านพักรับรอง ลานกางเต็นท์ เอาไว้รองรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่
9. บ้านหลวงรับราชทูต (ห่างจากสถานที่จัดงาน 36.9 กม.)
บ้านหลวงรับราชทูต หรือบ้านหลวงวิชาเยนทร์ ตั้งอยู่ที่ถนนวิชาเยนทร์ ตำบลท่าหิน อำเภอเมือง มีลักษณะเป็นกลุ่มบ้านที่ก่อสร้างขึ้นด้วยอิฐ มีสถาปัตยกรรมแบบยุโรป มีกำแพงล้อมโดยรอบ ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือด้านทิศตะวันตก เป็นตึก 2 ชั้นหลังใหญ่ 1 หลัง และอาคารชั้นเดียวแคบยาว มีซุ้มประตูทางเข้าเป็นรูปโค้งครึ่งวงกลม, พื้นที่ตรงกลาง มีฐานสิ่งก่อสร้าง สันนิษฐานว่าเป็นหอระฆัง และมีโบสถ์คริสตศาสนา พร้อมกับซุ้มประตูทางเข้ารูปจั่ว และด้านทิศตะวันตก มีกลุ่มอาคารใหญ่ 2 ชั้น ซึ่งมีบันไดทางขึ้นเป็นรูปครึ่งวงกลม ซุ้มประตูก็เป็นโค้งครึ่งวงกลมด้วยเช่นกัน
ในอดีตที่นี่เป็นสถานที่รับรองเอกอัครราชทูตจากฝรั่งเศสของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 โดยในช่วงปลายรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เจ้าพระยาวิชาเยนทร์ ได้เคยพำนักอยู่ที่นี่ จึงเรียกกันว่าบ้านเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ ปัจจุบันที่นี่หลงเหลือเพียงซากปรักหักพัง แต่ก็ยังเห็นโครงสร้างต่าง ๆ อย่างชัดเจน นักท่องเที่ยวสามารถไปเที่ยวชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-17.00 น.
10. สวนสัตว์ลพบุรี (ห่างจากสถานที่จัดงาน 37.2 กม.)
ตั้งอยู่ที่อำเภอเมือง เป็นสวนสัตว์ที่อนุรักษ์โครงสร้างแบบดั้งเดิมตั้งแต่อดีตไว้เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวและเรียนรู้ของชาวจังหวัดลพบุรีและใกล้เคียง ดังจะเห็นได้จากเสาไฟฟ้าสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม และท่อส่งน้ำสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์เมืองลพบุรี ภายในสวนสัตว์มีอาณาบริเวณกว้างขวางและร่มรื่น น่าจะเป็นที่ถูกใจเหล่าบรรดาคุณน้องหนูที่อยากรับชมและสำรวจชีวิตสัตว์ป่าชนิดต่าง ๆ เช่น กวาง ลิง เสือโคร่ง เสือดาว กระต่าย เต่า ช้าง จิงโจ้ เป็นต้น รวมถึงทางสวนสัตว์ยังได้จัดกิจกรรมต่าง ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุก ทั้งเวทีการแสดงความสามารถของลิงอุรังอุตัง (ซึ่งเป็นดาวเด่นแห่งสวนสัตว์ลพบุรี) การสาธิตการจับงู การขี่ม้า การให้นมแพะ เหล่านี้เป็นสีสันที่ช่วยเสริมสร้างความรู้ ความสนุก และความบันเทิงให้กับนักท่องเที่ยว โดยเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00-17.30 น. ราคาบัตรผู้ใหญ่ 30 บาท เด็กโต 20 บาท เด็กเล็ก 10 บาท (สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 036 413 551)
11.วัดห้วยแก้ว ต.มหาสอน อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี(ห่างจากสถานที่จัดงาน 14.4 กม.)
พระเจดีย์กลางสระน้ำ ศิลปะแบบขอม ปาฎิหาร์ยของพญานาค
12.“เขาวงพระจันทร์” (ห่างจากสถานที่จัดงาน 33.7 กม.)
ได้ชื่อว่าเป็นภูเขาที่สูงที่สุดของจังหวัดลพบุรี โดยสูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 650 เมตร และมีชื่อเสียงทำให้คนรู้จักจังหวัดลพบุรี บริเวณเชิงเขาเป็นที่ตั้งของวัดเขาวงพระจันทร์ มีบันไดขึ้นไปสู่ยอดเขา 3,790 ขั้น มีความยาว 1,680 เมตร และยังมีบันไดขึ้นต่อไปได้อีก 180 ขั้น รวมแล้วมีบันไดขึ้นเขาทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 4,000 ขั้น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2-3 ชั่วโมง สองข้างทางเต็มไปด้วยป่าไม้ขึ้นสลับซับซ้อนเต็มไปหมด บางแห่งจะเป็นที่ลาด บางแห่งจะเป็นที่ชัน เมื่อขึ้นไปถึงยอดเขาวงพระจันทร์จะมองเห็นทิวทัศน์เบื้องล่างได้ไกลสุดสายตา