เทคนิคการปั่นจักรยานแบบท่องเที่ยว (ทัวริ่งค์) /กับการปั่นอย่างไรให้มีความสุข

[ขวัญใจ]

เรียนท่านสมาชิกที่เข้ามาเยือนกระทู้นี้ ขอความกรุณาผู้ที่มีประสบการณ์ขี่จักรยานท่องเที่ยว(ทัวริ่งค์) ขี่เดียว/กลุ่มย่อย
กรุณาแสดงความคิดเห็นข้อคิดข้อเสนอแนะ ตัวอย่างเช่นถ้านปั่นกลุ่มย่อยปัจจัยอะไรที่ทำให้เกิดความราบรื่น/ประสบความสำเร็จ
กรณีมีปัญหา ปัญหานั้นเกิดจากสาเหตุอะไร ทุกความคิดทุกเหตุผลมีประโยชน์เพื่อใช้เป็นแนวทางสำหรับผู้รักการปั่นจักรยานท่องเที่ยว
ขอขอบคุณทุกโพสทุกความเห็นมา ณ ที่นี้

[noi1960]

การปั่นทัวริ่งแบ่งโดยยึดจำนวนคน
1. แบบฉายเดี่ยว ข้อดี มีความคล่องตัว อิสระเสรี ปั่นตามใจตัวเอง อยากจะพัก อยากจะกิน ไม่ต้องฟังหรือรอใคร ทำเวลาในการเดินทางได้ดี ข้อเสีย เหงา / ไม่มีคู่คิด / ไม่มีที่ปรึกษายามเกิดเหตุการณ์

2. แบบกลุ่มย่อย จำนวน 2 - 6 คน การปั่นทัวริ่งแบบกลุ่มย่อยต้องมีข้อตกลงร่วมกันเพื่อป้องกันการเกิดปัญหา และนักปั่นต้องมีคุณธรรมเบื้องต้น อาทิเช่น ต้องลดอัตตาตนเอง มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่เห็นแก่ตัว ไม่เบียดเบียน เสียสละช่วยเหลือผู้ที่ด้อยกว่า บางกลุ่มที่ออกทริปร่วมกัน ไปกัน 5-6 คน ถึงที่หมาย 2 คน บางกลุ่มถึงกับวงแตก อยากจะเห็นนิสัยที่แท้จริงเขาบอกว่าให้ปั่นท่องเที่ยวร่วมกันซัก 7 วัน

3. แบบกลุ่มใหญ่ ตั้งแต่ 6 คนขึ้นไป ต้องมีระบบการจัดการแบบเป็นทางการ ข้อตกลงรายละเอียดต้องชัดเจนและค่อนข้างละเอียด
เชิญสมาชิกแลกเปลี่ยนเพิ่มเติมได้ครับ

สำหรับฉันมีประสบการณ์ในการขี่จักรยานทัวร์ริ่งฉายเดี่ยวมานานแล้ว ซึ่งไม่มีความรู้สึกเหงา เพราะไม่อยากมีปัญหากับเพื่อนติดตามที่อึดอัดใจเป็นทุนเดิม นอกจากป้องกันเหตุการณ์เรื่องร้ายๆ ฉันต้องช่วยเหลือประคองตัวเองให้รอด ค่อยหาชาวบ้าน (ที่ฉันรู้ว่าจะดี) ในพื้นที่ช่วยกันแก้ปัญหาได้แล้วประสานตำรวจทันที แม้ว่าอุบัติเหตุล้มทางทางที่ไหน ต้องเอาบัตรประกันสังคม หรือบัตรประกันภัยติดตัวไปด้วย

...ปกติ ฉันบอกว่า ข้อที่ 2 กลุ่มย่อยเล็กๆ เป็นเรื่องคาใจมีปัญหาระหว่างชายกับหญิงที่ไปร่วมแบบหญิงคนเดียวในกลุ่มชาย ทำให้ฉันได้รับกระทบจิตใจเป็นแผลในใจใหญ่ตลอดมา 7 ปี ความทรงจำที่เลวร้ายมากที่สุดในชีวิตฉัน เพราะนักปั่นผู้ชายไม่มีคุณธรรม ไม่เอื้อเฟื้อสตรี ปล่อยทิ้งกลางคันให้ผู้หญิงขี่คนเดียวโดยไม่มีการช่วยเหลือใดๆ ฉันต้องช่วยเหลือให้รอดพ้นถึงที่สุดแล้ว นึกคิดมาดูว่า ไอ้สองคนนั่นเป็นคนเลวระยำ มองเห็นฉันเป็นผู้หญิงสร้างปัญหาให้มันรับรู้ "ความอึดอัด" ออกมาให้ฉันเห็นเป็นเรื่องปัญหาจะอยู่ทริปเดียวกันไม่ได้แล้ว เลยเกิดเรื่องออกมาให้ทำวงแตกไปโดยเลิกคบกันทันที ส่วนใหญ่ผู้ชายมองเห็นว่าผู้หญิงเป็นเรื่องจุกจิกมากเกินไป

ตอนนี้ ฉันมีปัญหาเข้าร่วมกิจกรรมทริปอื่นๆ ไม่ได้ จึงเลือกข้อ 1 เป็นวิธีดีที่สุด คือ ไม่ต้องมีเพื่อนร่วมทางไปด้วย ฉันไม่สร้างปัญหาให้เพื่อนอีก และออกฉายเดี่ยวก็สบายใจอยู่แล้ว ต้องมีความระมัดระวังตัวเองให้รู้ตัวด้วย เพื่อไม่ให้ฉันเป็นโรคซึมเศร้าอีกแล้ว

ข้อเสียคือ เหงา ไม่มีคู้คิด ไม่มีที่ปรึกษาป้องกัน ขึ้นอยู่กับบุคคลบางคนเท่านั้น

ฉันมีอิสระบินเดี่ยว พร้อมเรียนรู้ในโลกกว้างที่ฉันอยากไปค่ะ

ดิฉันก็ปั่นกับกลุ่มเพื่อนผู้ชายเหมือนกัน แรกก็กลัวจะไปกันไม่ได้เหมือนที่ท่านกล่าวมา

แต่โชคดีที่เพื่อนในกลุ่มให้โอกาส ปัจจุบันไปไหนมาไหนด้วยกันได้ไม่มีปัญหาค่ะ(กลุ่มที่ปั่นด้วยกันเป็นเพื่อ พี่ น้อง จบโรงเรียนเดียวกับสามี)

เพื่อนบางคนรู้จักกันมาก่อน หลายคนเพิ่งมารู้จักกัน แต่ก็สนิทกันได้อย่างรวดเร็ว

อาจเป็นเพราะต่างก็มีอายุแล้วก็ได้ ทำให้เข้าใจข้อจำกัดซึ่งกันและกัน

สำหรับดิฉันชอบปั่นกับเพื่อนมากกว่า ตั้งกฎในใจว่าถ้าระยะเกิน 40 กม.จะต้องไปกันไม่น้อยกว่า 3 คน

แต่โดยเฉลี่ยจะไปกันประมาณ 5-6 คนค่ะ ที่เคยเจอมาคือมีคนเกิดเจ็บป่วยกะทันหันถ้าไปคนเดียวหรือ 2 คนคงจะช่วยกันลำบาก

ถ้าไปเกิดตามต่างจังหวัดหรือจุดที่การสื่อสารไม่สะดวก

ดีใจที่ได้แบ่งปันประสบการณ์ค่ะ

[nagr]

ปั่นคนเดียว สบายใจใช้หมอบคันใหญ่(ชื้อผิดไชร์)บางที่ก้อเสือla ไม่กล้าปั่นกับคนอื่นกลัวตามไม่ทัน เกรงใจคนอื่น ชอบปั่นไปไกล้ๆแต่ไม่ให้กลับค่ำเหนื่อยก้อคลานไป ผมไม่ชอบจอดบ่อยแรงมีน้อยครับต้องไปเรื่อยๆ มีครั้งหนึ่งเกิดเจ็บเข่าช้ายต้องปั่นขาเดียวกลับทุลักทุเลน่าดู

[ขวัญใจ]

เทคนิคการปั่นจักรยานท่องเที่ยวและแนวปฎิบัติทัวริ่งค์ของกลุ่มรักรถรักธรรม ซึ่งจะเดินทางเลาะฝั่งโขงชมบั้งไฟพญานาคในวันที่ 8 ต.ค. ทัวริ่งกลุ่มใหญ่
ตรวจสอบแล้วมีความเป็นไปได้ แต่สมาชิกต้องเริ่มฟิตซ้อม ร่างกายแต่บัดนี้ สำหรับเส้นทางการท่องเที่ยวต่าง ๆ เป็นรายละเอียด
เราต้องไปแสวงหา ที่ใดเหมาะสม น่าแวะเราก็ตกลงกันได้ นี่คือกำหนดการอย่างย่อ สำหรับระยะทางร้อยกว่ากิโล ส่วนใหญ่แล้ว
เป็นทางราบจึงไม่น่ามีปัญหาใด ๆ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขึ้นอยู่ที่ความฟิต ของร่างกาย ของสมาชิก ใจ...เป็นเรื่องใหญ่ ถ้าใจไม่สู้ทุกอย่าง
ก็จบ การไปครั้งนี้ สิ่งที่ได้น่าจะคุ้มค่ามาก ๆ เพราะเราไปในรูปแบบของการ ปฏิบัติธรรม เหมือน พระธุดงค์ แต่ของพระธุดงค์ ท่าน
ลำบากกว่าพวกเราหลายเท่า พระอาจารย์ มิตซูโอ๊ะ ฯ กล่าวว่า ไปบนทางที่ลำบาก แต่จิตใจ เบิกบาน ร่าเริงแจ่มใส ยิ้มได้ สงบ สะอาด
สว่าง ท่านจะพบกับ ปัญญา การปั่นครั้งนี้ คือ เบิกบาน ร่าเริง แจ่มใส ยิ้ม สงบ สะอาด และก็สว่าง แล้วพวกเราจะพบกับความสุข ตามปรารถนา ปัญญา คือสิ่งที่ทุกคนต้องการ
หวังว่าสมาชิกทุกท่านจะเตรียมตัวกันแต่บัดนี้ นะครับ
พ.ต.อ.สำราญ ฯ

[hondachai]

อยากมีกะเค้าบ้างสักคังจังเลย

[Deang-sarapee]

ทัวร์ให้มีความสุขจริง ๆ กลุ่มเล็ก เลขคู่ น่าจะดีเช่น ๒,๔,๖,๘ (ในความรู้สึก นึกคิด) ไม่ควรเกินแปด แต่ก็ไม่ใช่ปัญหานะครับ เท่าไรก็ได้ เพียงแต่
๑.ขอให้มีศีลเสมอกัน อย่างน้อยที่สุดให้มีศีล ๕ ให้เคร่งครัด
๒.มีทิฏฐิที่เสมอกัน คือ สัมมาทิฏฐิ หมายถึงความเห็นที่ถูกต้องชอบธรรม
สำคัญที่สุดที่ทุก ๆ คนต้องมี ผมจำจากที่หลวงปู่พุทธทาส สอนผมมานะครับว่า "อย่าเห็นแก่ตัว" ใครที่ไม่มีความเห็นแก่ตัว คน ๆ นั้น จะมีความสุข
ผมจึงเห็นว่า การปั่นจักรยานให้มีความสุขในขณะที่เราไปกันเป็นกลุ่ม จึงต้อง ไม่มีึความเห็นแก่ตัว คุณก็จะมีความสุขได้
เท็จจริงอย่างไรก็ช่วยกันแสดงความคิดเห็นเพื่อจะได้เป็นประโยชน์กับนักจักรยานจะได้นำไปใช้ เพื่อจะได้เกิดสุขกันทั่วหน้า เชิญนะครับ ช่วยกัน

[Deang-sarapee]

การปั่นเดี่ยวผมชื่นชมครับแสดงถึงความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวในหัวใจ สำหรับคุณผู้หญิงผมก็ขอชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง แต่มีข้อคิดว่า "ในสมัยพุทธกาลที่พระพุทธเจ้า
ท่านทรงห้าม ภิกษุณีไม่ให้เดินธุดงค์และไม่ให้เดินทางไปไหนมาไหนเพียงลำพังองค์เดียว เพราะทรงเล็งเห็นว่าผู้หญิงมีอันตรายรอบด้าน ไม่เหมือนพระภิกษุ ซึ่ง
พระพุทธองค์ทรงสรรเสริญให้เดินทางลำพังเพียงองค์เดียว" ในสภาวการณ์ทุกวันนี้คนเลวมันเพิ่มขึ้นทุกวัน ๆ ผมจึงอยากขอร้องไม่ให้คุณผู้หญิงไปไหนมาไหนเพียงลำพังครับ
อย่างน้อยก็ให้ไป ๒ คนก็ยังดี สำหรับคุณผู้ชายถ้าหากมีโอกาสได้ปั่นกับคุณผู้หญิง ท่านต้องให้เกียรติและต้องแสดงความเป็นสุภาพบุรุษ เอาใจใส่ดูแลปกป้องเพื่อให้
กำลังใจ ความมั่นใจกับผู้หญิงด้วย อย่าคิดว่าเป็นภาระเลยครับ การช่วยเหลือเจือจานเป็นบุญอย่างหนึ่ง ในบุญกริยา ๑๐ ประการครับ ใครละเลยเสียโอกาสมาก ๆ นะ
จะบอกให้ บุญมาพร้อมกับความสุขยังไม่รับเอา ผมว่าสุภาพบุรุษเหล่านั้นช่าง โง่เขลา จริง ๆ...พวกผมยังไม่มีโอกาสเลย

[โอ๊ตนนท์]

ทริป ที่ปั่นไป จาก กทม ไป อินทนนทร์ ผมว่า เป็นทริปที่ฮา เศร้า หรือเครียด ครบทุกรสเลย...ต่างคนต่างมา ต่างนิสัย..มารวมกันแล้ว ความมันส์จึงบังเกิด...หลายๆครั้ง ที่เริ่มเหนื่อย หรือมีอะไรที่สะกิดใจคนในทริป ก็จะมีเพื่อนๆช่วยๆกันทำให้ฮา....
..ผมว่า ทริป ที่ปั่นไปอินทนนทร์ปีนี้.. เป็นทริปที่สนุก กว่าปั่นมาทิเบตเสียอีก... ปีหน้า ใครว่าง ก็มาปั่นไปอินทนนทร์ด้วยกันนะครับ..งาน ปั่นขึ้นดอยอินทนนทร์ เดือนกุมภาพันธ์ จะไม่เริ่มจาก กทม หรือไปดักตามทางก็ได้ครับ..อยากให้ทุกคน ปั่นทัวริ่งอย่างมีความสุขครับ...

[โอ๊ตนนท์]

การปั่นทัวริ่งแบ่งโดยยึดจำนวนคน
1. แบบฉายเดี่ยว ข้อดี มีความคล่องตัว อิสระเสรี ปั่นตามใจตัวเอง อยากจะพัก อยากจะกิน ไม่ต้องฟังหรือรอใคร ทำเวลาในการเดินทางได้ดี ข้อเสีย เหงา / ไม่มีคู่คิด / ไม่มีที่ปรึกษายามเกิดเหตุการณ์

2. แบบกลุ่มย่อย จำนวน 2 - 6 คน การปั่นทัวริ่งแบบกลุ่มย่อยต้องมีข้อตกลงร่วมกันเพื่อป้องกันการเกิดปัญหา และนักปั่นต้องมีคุณธรรมเบื้องต้น อาทิเช่น ต้องลดอัตตาตนเอง มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่เห็นแก่ตัว ไม่เบียดเบียน เสียสละช่วยเหลือผู้ที่ด้อยกว่า บางกลุ่มที่ออกทริปร่วมกัน ไปกัน 5-6 คน ถึงที่หมาย 2 คน บางกลุ่มถึงกับวงแตก อยากจะเห็นนิสัยที่แท้จริงเขาบอกว่าให้ปั่นท่องเที่ยวร่วมกันซัก 7 วัน

3. แบบกลุ่มใหญ่ ตั้งแต่ 6 คนขึ้นไป ต้องมีระบบการจัดการแบบเป็นทางการ ข้อตกลงรายละเอียดต้องชัดเจนและค่อนข้างละเอียด
เชิญสมาชิกแลกเปลี่ยนเพิ่มเติมได้ครับ

สำหรับฉันมีประสบการณ์ในการขี่จักรยานทัวร์ริ่งฉายเดี่ยวมานานแล้ว ซึ่งไม่มีความรู้สึกเหงา เพราะไม่อยากมีปัญหากับเพื่อนติดตามที่อึดอัดใจเป็นทุนเดิม นอกจากป้องกันเหตุการณ์เรื่องร้ายๆ ฉันต้องช่วยเหลือประคองตัวเองให้รอด ค่อยหาชาวบ้าน (ที่ฉันรู้ว่าจะดี) ในพื้นที่ช่วยกันแก้ปัญหาได้แล้วประสานตำรวจทันที แม้ว่าอุบัติเหตุล้มทางทางที่ไหน ต้องเอาบัตรประกันสังคม หรือบัตรประกันภัยติดตัวไปด้วย

...ปกติ ฉันบอกว่า ข้อที่ 2 กลุ่มย่อยเล็กๆ เป็นเรื่องคาใจมีปัญหาระหว่างชายกับหญิงที่ไปร่วมแบบหญิงคนเดียวในกลุ่มชาย ทำให้ฉันได้รับกระทบจิตใจเป็นแผลในใจใหญ่ตลอดมา 7 ปี ความทรงจำที่เลวร้ายมากที่สุดในชีวิตฉัน เพราะนักปั่นผู้ชายไม่มีคุณธรรม ไม่เอื้อเฟื้อสตรี ปล่อยทิ้งกลางคันให้ผู้หญิงขี่คนเดียวโดยไม่มีการช่วยเหลือใดๆ ฉันต้องช่วยเหลือให้รอดพ้นถึงที่สุดแล้ว นึกคิดมาดูว่า ไอ้สองคนนั่นเป็นคนเลวระยำ มองเห็นฉันเป็นผู้หญิงสร้างปัญหาให้มันรับรู้ "ความอึดอัด" ออกมาให้ฉันเห็นเป็นเรื่องปัญหาจะอยู่ทริปเดียวกันไม่ได้แล้ว เลยเกิดเรื่องออกมาให้ทำวงแตกไปโดยเลิกคบกันทันที ส่วนใหญ่ผู้ชายมองเห็นว่าผู้หญิงเป็นเรื่องจุกจิกมากเกินไป

ตอนนี้ ฉันมีปัญหาเข้าร่วมกิจกรรมทริปอื่นๆ ไม่ได้ จึงเลือกข้อ 1 เป็นวิธีดีที่สุด คือ ไม่ต้องมีเพื่อนร่วมทางไปด้วย ฉันไม่สร้างปัญหาให้เพื่อนอีก และออกฉายเดี่ยวก็สบายใจอยู่แล้ว ต้องมีความระมัดระวังตัวเองให้รู้ตัวด้วย เพื่อไม่ให้ฉันเป็นโรคซึมเศร้าอีกแล้ว

ข้อเสียคือ เหงา ไม่มีคู้คิด ไม่มีที่ปรึกษาป้องกัน ขึ้นอยู่กับบุคคลบางคนเท่านั้น

ฉันมีอิสระบินเดี่ยว พร้อมเรียนรู้ในโลกกว้างที่ฉันอยากไปค่ะ

เรื่องตั้งนมนานแล้ว..พี่ออยยังไม่ปล่อยวางสักที... จากที่ผมเคยฟังพี่ออยเล่า...พี่ออยบอกว่าได้ยินเขาพูดว่าอะไรพี่ออยก็ตาม..แต่พี่ออยไม่ได้ยิน พี่ออยบอกว่าอ่านปากเขา??..ซึ่งการสื่อสารอาจจะผิดพลาดก็ได้...เหมือนเคสอื่นๆ ที่พี่ออยมาปรึกษาผม...การตีความหมายพี่ออย มักจะตีไปทางด้านลบ...
....ส่วนโพสต์นี้ พี่ออย โพสต์แรงไปนิด ซึ่งใช้คำนำหน้าที่ไม่สุภาพ ถึง จะเป็นคนที่พี่ออยไม่ชอบ..ก็ไม่เหมาะที่จะใช้คำนี้..เขาอายุมากกว่าพี่ออย..ถึงจะไม่ชอบ.ยังไงก็ควรยั้งสักนิดครับ..และคำหยาบคำอื่นด้วย...
...ส่วนเรื่องที่บอกว่า นักปั่นผู้ชายไม่มีคุณธรรม...มันจะกลายเป็นพี่ออยกล่าวหา โดยรวม ถึง นักปั่นผู้ชายทั้งหมดนะครับ..ถ้าจะบอก เฉพาะคนที่พี่ออยอคติ ก็นั่นเป็นเรื่องของพี่ออยไม่ควร มาเหมารวมครับ.....ผมร่วมทริป ที่มีนักปั่น หญิงก็บ่อยๆ ไม่เคยมองผู้หญิงเป็น เรื่องจุกจิกเลยสักครั้งกลับดีใจ ที่มี ผู้หญิงมาร่วมทริป(แหม..มันสดชื่นเนอะ..ทริปมีผู้หญิงมาร่วมทริปเนี่ยะ )..ดั้งนั้น แนะนำพี่ออยได้ว่า...ปล่อยวางให้ได้...หรือ ถ้ายังไม่ได้ยังอคติกับใคร..ก็พยายามเก็บไว้ส่วนตัว อย่าเอามาเปิดที่สาธารณะ..การออกทริป ทุกๆครั้ง ถ้ามีคน หรือใครที่เราไม่ชอบ หรืออคติ ก็แค่นิ่งๆ ปั่นของเราไป...อย่าลืมสิครับว่าเรามาปั่นจักรยานกันเพื่ออะไร?? ไม่มาปั่น เพราะคนที่ไม่ชอบ..ผมว่า..มันกันตัวเอง มากเกินไปครับ...เขายังกล้าออกมาปั่น..ทำไมเราจะไม่กล้าออกมาปั่นหล่ะจริงไหม??.. ...
...ปล่อยวาง ปล่อยวาง และปล่อยวาง..จะแปดปีแล้ว เก็บเรื่องไว้ในใจ ในหัวตัวเอง..มันจะหนักเปล่าๆ...ปล่อยวาง บ้างจะดีที่สุดครับ...

[Deang-sarapee]

สวัสดีครับ

ผมติดตามการปั่นของคุณ ประทับใจมากครับ แอบอิจฉาเล็ก ๆ คุณเป็นคนโชคดีจริง ๆ จิตใจก็ดีงาม อย่างนี้เชื่อว่าการปั่นของคุณต้องมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง ผมชื่นชมคุณที่คุณไม่หวงวิชา คุณแจกจ่ายเจือจานผู้อาภัพเวลา ให้ได้เห็นในสิ่งที่คุณไปเห็นมา (แต่เสียนืดนึง มันไปกระตุ้นต่อม กิเลส ให้กระสันอยากไป..พูดเล่นนะ) เหมือนคุณบ้าง หวังใจว่าหากใครมีปัญหาอยากขอคำแนะนำ คุณคงไม่ขัดข้องใช่ไหมครับ การที่คุณออกมาให้ความรู้กับสาธารณชน โดยไม่หวังสิ่งใด คุณได้บุญมากมายแล้วเพราะบุญนี้ก็จะสนองกลับไปให้คุณ ให้คุณมีความสุข ปลอดภัย ฯ โชคดีครับ

[Deang-sarapee]

สวัสดีครับ คุณโอ๊ตนนท์

ผมติดตามการปั่นของคุณ ประทับใจมากครับ แอบอิจฉาเล็ก ๆ คุณเป็นคนโชคดีจริง ๆ จิตใจก็ดีงาม อย่างนี้เชื่อว่าการปั่นของคุณต้องมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง ผมชื่นชมคุณที่คุณไม่หวงวิชา คุณแจกจ่ายเจือจานผู้อาภัพเวลา ให้ได้เห็นในสิ่งที่คุณไปเห็นมา (แต่เสียนืดนึง มันไปกระตุ้นต่อม กิเลส ให้กระสันอยากไป..พูดเล่นนะ) เหมือนคุณบ้าง หวังใจว่าหากใครมีปัญหาอยากขอคำแนะนำ คุณคงไม่ขัดข้องใช่ไหมครับ การที่คุณออกมาให้ความรู้กับสาธารณชน โดยไม่หวังสิ่งใด คุณได้บุญมากมายแล้วเพราะบุญนี้ก็จะสนองกลับไปให้คุณ ให้คุณมีความสุข ปลอดภัย ฯ โชคดีครับ

[Deang-sarapee]

ทริป ที่ปั่นไป จาก กทม ไป อินทนนทร์ ผมว่า เป็นทริปที่ฮา เศร้า หรือเครียด ครบทุกรสเลย...ต่างคนต่างมา ต่างนิสัย..มารวมกันแล้ว ความมันส์จึงบังเกิด...หลายๆครั้ง ที่เริ่มเหนื่อย หรือมีอะไรที่สะกิดใจคนในทริป ก็จะมีเพื่อนๆช่วยๆกันทำให้ฮา....
..ผมว่า ทริป ที่ปั่นไปอินทนนทร์ปีนี้.. เป็นทริปที่สนุก กว่าปั่นมาทิเบตเสียอีก... ปีหน้า ใครว่าง ก็มาปั่นไปอินทนนทร์ด้วยกันนะครับ..งาน ปั่นขึ้นดอยอินทนนทร์ เดือนกุมภาพันธ์ จะไม่เริ่มจาก กทม หรือไปดักตามทางก็ได้ครับ..อยากให้ทุกคน ปั่นทัวริ่งอย่างมีความสุขครับ...

พวกผมก็ปั่นขึ้นอินทนน์เหมือนกันแต่ไม่ได้เข้าขบวน เราไปแบบทัวร์สบาย ๆ ของเรา Happy ครับ หัวเราะ เฮฮา ตลอดทริป การปั่นรวมกันหลาย ๆ คนสิ่งสำคัญที่สุด ต้องดูแลใจของเราครับ อย่าให้ใจเราเศร้าหมอง โกรธ เกลียด เพราะจะทำให้ทุกข์ใจ เมื่อทุกข์ใจการปั่นก็ไม่มีความสุข เมื่อไม่มีความสุขอยากจะบอกว่า แล้วมาปั่นทำไมอยู่บ้านสบาย ๆ กว่า ใช่ไหมครับ ผมเชื่อคุณนนท์ว่า คุณเป็นคนที่ทำใจได้คุณจึงพบกับความสุขในการปั่น ขออนุโมทนาด้วยครับ

[Deang-sarapee]

พูดถึงความสุขผมมีข้อคิดเสนอแนะดังนี้ครับ
ก่อนจะพูดถึงความสุขเรามาเปรียบเทียบกับอะไรสักอย่างเพื่อให้กว้าง..ยิ่งขึ้นดีไหมครับ..เอาเรื่องความหวานไหม..ความหวานนั้นในโลกนี้มันมีตั้งหลายหวาน เช่นหวานผลไม้ อย่างลำไยนี้ก็หวานไปอีกแบบก็เป็นความหวานอย่างหนึ่ง มะม่วงก็หวานไปอีกแบบและมะม่วงแต่ละสายพันธ์ก็หวานแตกต่างกันไป ตามสายพันธ์ ก็จะเป็นความหวานอีกอย่างหนึ่ง สรุปให้สั้นนะ ความหวาน..มี..หลายชนิด..เช่นเดียวกับความสุข..ครับ..ก็มีหลายสุข ผมจะสรุปโดยย่อสุขในโลกนี้มันมีอยู่ ๓ สุขครับ
๑.กามสุข..ก็เป็นความสุขอย่างหนึ่ง คือ ความสุขที่ได้..เห็นรูปสวย..ฟังเสียงเพราะ..ดมกลิ่นหอม..ลิ้มรสอร่อย..สัมผัสกายที่ถูกใจ..ซึ่งความรู้สึกในกามนี้อาจเป็นความรู้สึก สุข หรือ เฉย (สุขละเอียด) กามไม่ใช่เรื่องเพศอย่างเดียว แต่..กามเป็นภาษา บาลี มีความหมาย ๒ ความหมายคือ

ก.กิเลสกามคือความติดใจหรือรุนแรงถึงขั้นอยากได้ในวัตถุกาม ๕ ที่ทำให้ใจเปรอะเปื้อน หรือที่ทำให้ใจเศร้าหมอง หรือที่แผดเผาใจ"ถ้ามีกิเลสกามเกิด ในวัตถุใด วัตถุนั้นก็เป็นวัตถุกาม"
ข.วัตถุกาม คือวัตถุที่มีลักษณะ ๖ อย่าง ได้แก่
อิฏฐา(น่าปราถนา) กันตา(น่ารักใคร่) มนาปา(ถูกใจ) ปิยรูปา(น่ารัก) กามูปสัญหิตา(ประกอบด้วยกาม) ระชะนียา(ยั่วยวนชวนให้ชอบมาก)
ดังนั้นพูดง่าย ๆ วัตถุกาม ๕ จึงได้แก่ รูปสวย...เสียงไพเราะ...กลิ่นหอม..รสอร่อย..สัมผัสกายที่ถูกใจ.

๒.ฌานสุข...ก็เป็นความสุขอย่างหนึ่ง คือสุขจากการเพ่ง มี ๒ อย่าง คือ
ก.ถ้า เพ่งอารมณ์จนจิตสงบสุข เรียกว่า อารัมมณูปณิชฌาน
ข.ถ้าเพ่งลักษณะ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ก็เรียกว่า ลักขณูปณิชฌาน
ฌานสุข มี ๒ ประเภท
๒.๑มิจฉาสมาธิ คือสมาธิผิดเพราะไม่มีญาณความรู้ในเหตุเกิดทุกข์ และความดับทุกข์ สุขในสมาธิผิดเป็นสุขที่เหนือกามแต่ยังไม่ปลอดภัย เพราะเสื่อมได้ถอยกลับไปทำชั่วได้อีก
๒.๒สัมมาสมาธิ คือสมาธิถูกต้องชอบธรรม เพราะอาศัยเกิดจาก ๗ เหตุ ๗ องค์ประกอบ คือ เริ่มต้นด้วยการมีญาณความรู้ใน เหตุเกิดทุกข์ และความดับทุกข์ จึงทำให้ คิดถูก - พูดถูก - ทำถูก - เลี้ยงชีพถูก - เพียรถูก - สติถูก - จึงเกิดสมาธิถูก ส่งผลให้เกิด - ญาณความรู้ถูกและวิมุติหลุดพ้นจากทุกข์อย่างถูกต้องชอบธรรม

๓.นิพพานสุข ก็เป็นสุขอย่างหนึ่ง แต่เป็นสุขของความสิ้นกิเลสอาสวะทั้งหมด

ขอให้ทุกท่านได้รับความสุขและเกิดสุขจากการปั่นจักรยาน ที่ปราศจาก กิเลศ และความเห็นแก่ตัว เพื่อให้เกิดความสุขในฐานะปุถุชน คนที่ยังไม่บรรลุ และจะบรรลุในโอกาสต่อไป

[Deang-sarapee]

พูดถึงความสุขผมมีข้อคิดเสนอแนะดังนี้ครับ
ก่อนจะพูดถึงความสุขเรามาเปรียบเทียบกับอะไรสักอย่างเพื่อให้กว้าง..ยิ่งขึ้นดีไหมครับ..เอาเรื่องความหวานไหม..ความหวานนั้นในโลกนี้มันมีตั้งหลายหวาน เช่นหวานผลไม้ อย่างลำไยนี้ก็หวานไปอีกแบบก็เป็นความหวานอย่างหนึ่ง มะม่วงก็หวานไปอีกแบบและมะม่วงแต่ละสายพันธ์ก็หวานแตกต่างกันไป ตามสายพันธ์ ก็จะเป็นความหวานอีกอย่างหนึ่ง สรุปให้สั้นนะ ความหวาน..มี..หลายชนิด..เช่นเดียวกับความสุข..ครับ..ก็มีหลายสุข ผมจะสรุปโดยย่อสุขในโลกนี้มันมีอยู่ ๓ สุขครับ
๑.กามสุข..ก็เป็นความสุขอย่างหนึ่ง คือ ความสุขที่ได้..เห็นรูปสวย..ฟังเสียงเพราะ..ดมกลิ่นหอม..ลิ้มรสอร่อย..สัมผัสกายที่ถูกใจ..ซึ่งความรู้สึกในกามนี้อาจเป็นความรู้สึก สุข หรือ เฉย (สุขละเอียด) กามไม่ใช่เรื่องเพศอย่างเดียว แต่..กามเป็นภาษา บาลี มีความหมาย ๒ ความหมายคือ

ก.กิเลสกามคือความติดใจหรือรุนแรงถึงขั้นอยากได้ในวัตถุกาม ๕ ที่ทำให้ใจเปรอะเปื้อน หรือที่ทำให้ใจเศร้าหมอง หรือที่แผดเผาใจ"ถ้ามีกิเลสกามเกิด ในวัตถุใด วัตถุนั้นก็เป็นวัตถุกาม"
ข.วัตถุกาม คือวัตถุที่มีลักษณะ ๖ อย่าง ได้แก่
อิฏฐา(น่าปราถนา) กันตา(น่ารักใคร่) มนาปา(ถูกใจ) ปิยรูปา(น่ารัก) กามูปสัญหิตา(ประกอบด้วยกาม) ระชะนียา(ยั่วยวนชวนให้ชอบมาก)
ดังนั้นพูดง่าย ๆ วัตถุกาม ๕ จึงได้แก่ รูปสวย...เสียงไพเราะ...กลิ่นหอม..รสอร่อย..สัมผัสกายที่ถูกใจ.

๒.ฌานสุข...ก็เป็นความสุขอย่างหนึ่ง คือสุขจากการเพ่ง มี ๒ อย่าง คือ
ก.ถ้า เพ่งอารมณ์จนจิตสงบสุข เรียกว่า อารัมมณูปณิชฌาน
ข.ถ้าเพ่งลักษณะ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ก็เรียกว่า ลักขณูปณิชฌาน
ฌานสุข มี ๒ ประเภท
๒.๑มิจฉาสมาธิ คือสมาธิผิดเพราะไม่มีญาณความรู้ในเหตุเกิดทุกข์ และความดับทุกข์ สุขในสมาธิผิดเป็นสุขที่เหนือกามแต่ยังไม่ปลอดภัย เพราะเสื่อมได้ถอยกลับไปทำชั่วได้อีก
๒.๒สัมมาสมาธิ คือสมาธิถูกต้องชอบธรรม เพราะอาศัยเกิดจาก ๗ เหตุ ๗ องค์ประกอบ คือ เริ่มต้นด้วยการมีญาณความรู้ใน เหตุเกิดทุกข์ และความดับทุกข์ จึงทำให้ คิดถูก - พูดถูก - ทำถูก - เลี้ยงชีพถูก - เพียรถูก - สติถูก - จึงเกิดสมาธิถูก ส่งผลให้เกิด - ญาณความรู้ถูกและวิมุติหลุดพ้นจากทุกข์อย่างถูกต้องชอบธรรม

๓.นิพพานสุข ก็เป็นสุขอย่างหนึ่ง แต่เป็นสุขของความสิ้นกิเลสอาสวะทั้งหมด

ขอให้ทุกท่านได้รับความสุขและเกิดสุขจากการปั่นจักรยาน ที่ปราศจาก กิเลศ และความเห็นแก่ตัว เพื่อให้เกิดความสุขในฐานะปุถุชน คนที่ยังไม่บรรลุ และจะบรรลุในโอกาสต่อไป

[โอ๊ตนนท์]

สวัสดีครับ

ผมติดตามการปั่นของคุณ ประทับใจมากครับ แอบอิจฉาเล็ก ๆ คุณเป็นคนโชคดีจริง ๆ จิตใจก็ดีงาม อย่างนี้เชื่อว่าการปั่นของคุณต้องมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง ผมชื่นชมคุณที่คุณไม่หวงวิชา คุณแจกจ่ายเจือจานผู้อาภัพเวลา ให้ได้เห็นในสิ่งที่คุณไปเห็นมา (แต่เสียนืดนึง มันไปกระตุ้นต่อม กิเลส ให้กระสันอยากไป..พูดเล่นนะ) เหมือนคุณบ้าง หวังใจว่าหากใครมีปัญหาอยากขอคำแนะนำ คุณคงไม่ขัดข้องใช่ไหมครับ การที่คุณออกมาให้ความรู้กับสาธารณชน โดยไม่หวังสิ่งใด คุณได้บุญมากมายแล้วเพราะบุญนี้ก็จะสนองกลับไปให้คุณ ให้คุณมีความสุข ปลอดภัย ฯ โชคดีครับ

ไปสิครับ... ทิเบต อยากจะไปก็ มีโอกาส ลองไปดูเตรียมตัวเตรียมร่างกายให้พร้อม ผมขอเวลา สักระยะ ตั้งตัวทำงานที่ไทยก่อน..และดูแล พ่อแม่ อยู่ตัวสบายๆแล้ว..จะลองจัดทริปไปเมื่อทิเบต เปิด ให้เข้าได้ปกติจริงๆ...ถึงถ้าไม่ได้ อย่างน้อย ไปถึง จงเตี้ยน แชงกีล่า หรือไปแตะชายแดนทิเบต ก็ถือว่า เยี่ยมแล้วครับ..
...ซึ่งอีกแผนนึง ก็ต้องถามความสมัครใจ คนที่จะไปคนอื่นว่า จะไปแบบโรบินฮูดไหม? คือปั่นเข้าไปเลย โดนจับ โดนปรับ ก็ต้องยอม..กำลังชั่งน้ำหนักอยู่.. แต่ยังก็อยากจัดทริปไปจริงๆครับ..