การขี่ปั่นในที่ชุมชน หรือสาธารณะ

[geflame9]

ผมเองก็ชอบและขี่จักรยานมาหลายปีและทุกวันหยุุดหากว่างเช่นวันนี้ได้ไปใส่บาตรทำบุญฟังเทศน์ซึ่งจะทำเป็นปกติหากมีเวลาในวันหยุดซึ่งที่วัดญาณสังวรารามทุกวันหยุดจะจะมีผู้คนที่มาทำบุญกัน. และเนื่องจากวัดญาณสังวรารามเป็นวัดหลวงที่สร้างเป็นในลักษณะเชิงนิเวศจึงมีพื้นที่มากและเป็นแหล่งท่องเที่ยวด้วยจึงมีนักท่องเที่ยว มาที่นี้กันมากในมุมของการออกกำลังก็จะทีนักปั่นทั้งส่วนตัวและกลุ่มก็จะยึดเส่นทางในวัดเป็นที่ออกกำลังและพักผ่อนและช่วงหลังนี้หลายครั้งก็มีการใช้พื้นที่ในวัดจัดแข่งกัน. คงไม่สามารถบอกได้ว่าเหมาะหรือไม่ในการแข่งในวัดแบบนี้ เพราะวัดในช่วงเช้าที่นี้มีการทำบุญฟังเทศน์ทั้งผู้มาทำบุญทั้งนักท่องเทียวเดินกันบนถนนในวัด และวันนี้มีกลุ่มการแข่งจักรยานผมไม่รู้เป็นรายการอะไรที่ไหนมาแข่งแต่ใช้ความเร็วที่จัดเรียกได้ว่าเร็วมากและส่งเสียงดังตะโกนกันดัง เรียกได้ว่าไม่มี่มารยาทเคารพสถานที่และสิทธิผู้คนอื่น. และในมุมที่เห็นในวันนี้พบว่าเกือบชนกัน ชนคน ชนรถที่สัญจรในวัดเบรคกันจนสะบัด เพราะการที่ใช้ความเร็วในพื้นที่ลักษณะนี้อาจเกิดอุบัติเหตุ ท่านอาจบอกว่ามันก็เป็นสิทธิของท่านอันนั้นก็แล้วแต่ที่ท่านจะคิดเพราะหากวันไดวันหนึ่งเกิดปัญหาขึ้นมาเจ้าของพื้นที่ในลักษณะนี้ที่เป็นที่เชิงท่องเที่ยวเขาพิจารณาห้ามขี่ นั้นหมายความว่านักขี่อื่นที่เขาสุภาพทีมารยาทก็เดือดร้อนไปด้วย. จึงขอรบกวนผู้จัดนักแข่งความเร็วช่วยตระหนักรู้เคารพสิทธิ ผู้อื่น มารยาทเคารพสถานทีว่าเหมาะสมเช่นลดความเร็ว ลดการตะโกนในเขตชุมชนไม่ต้องให้ใครมาตำหนิเราจะได้สงบสุขสนุกเป็นมิตรกับผู้คนอื่นๆที่ใช้พื้นที่ร่วมกัน. อาจอ่านยากเพราะพิมพ์จากมือถือ

[แบงศ์..เสือข้างขวด]

เห็นด้วยครับ
- หลักๆคงเป็นหน้าที่ของผู้จัดการแข่งขัน ที่ต้องพิจราณาเรื่องสถานที่ การแบ่งหรือกั้นเส้นจารจร การประชาสัมพันธ์ให้คนในพื้นที่รับรู้ ๆลๆ
- ตัวนักแข่งเอง ใจเขาใจเรา รู้ๆกันอยู่แล้ว
อาจจะดูเป็นการเรื่องมาก จุกจิก แต่การทำอะไรที่เป็นมาตราฐานมันเป็นผลดีในหลายๆด้าน วงการจักรยานจะได้โตขึ้นแบบมีมาตรฐาน นักปั่นหน้าใหม่ หรือคนทั่วไปจะมองเป็นเรื่องน่าชื่นชม
ป.ล อะไรง่ายๆ ตามใจพี่ไทย อาจจะต้องค่อยๆปรับความคิดกันใหม่ วินัย จิตสำนึก ว่ากันไปมันเป็นผลดีต่อส่วนรวมครับ