"หนังจักรยาน" 5 เรื่องที่ไม่ควรพลาด
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 3092
- ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ส.ค. 2008, 15:14
- Tel: 0865040751
- team: Team Bike And Body Cycoling
- Bike: Kemo KE-R5, Giant Propel Advance SL, Specialized Alez E5 Revolution
- ตำแหน่ง: ซอยอารีย์ พหลโยธิน กทม.
- ติดต่อ:
"หนังจักรยาน" 5 เรื่องที่ไม่ควรพลาด
"หนังจักรยาน" 5 เรื่องที่ไม่ควรพลาด
คลายดราม่า มาดูหนัง
ภาพยนต์เกี่ยวกับจักรยาน อาจพบได้ไม่บ่อยในแวดวงคอหนังทั่วไปเพราะอาจมีเนื้อหาที่เข้าถึงได้ยากกว่าพล็อตเรื่องอื่นๆ ใครๆที่ไม่ได้ขี่จักรยานอาจยากที่จะเข้าถึงอารมณ์ของตัวละคนได้ แต่ผมขอหยิบยกเอาหนังที่เกี่ยวกับจักรยานมาซัก 5 เรื่อง ซึ่งไม่ได้คัดเลือกตามคุณภาพในแง่งานศิลปะภาพยนต์แต่อย่างใด หากแต่ในแต่ละเรื่อง มันมีความ"พิเศษ" ของมันเอง บางเรื่องแม้ไม่ได้กวาดรางวัล แต่ก็ถือเป็หนึ่งในจุดเปลี่ยนของทิศทางภาพยนต์ผ่านเนื้อหาเกี่ยวกับจักรยานเลยก็ว่าได้
BREAKING AWAY ภาพยนต์วัยรุ่นที่ออกฉายในปี 1979 ที่นำเสนอเรื่องราวของหนุ่มน้อยวัยรุ่นในชนบทของสหรัฐอเมริกาที่มีความลุ่มหลงในจักรยานเสือหมอบเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะความเป็นนักปั่นแนว"อิตาเลี่ยน" ถึงขั้นพูดภาษาอิตาเลียน, ทำตัวแบบชาวอิตาเลียน จนเป็นที่ปวดหัวของพ่อแม่ และมีความฝันพร้อมทั้งเป้าหมายชีวิตที่แตกต่างไปจากเพื่อนวัยรุ่นร่วมเมืองอย่างสิ้นเชิง ภาพยนต์เรื่องนี้ไม่ได้กล่าวถึงกีฬาจักรยานมากนัก ไม่ได้เกี่ยวข้องกับโลกของนักแข่งจักรยาน แต่มันนำเสนอถึงแรงบันดาลใจและความลุ่มหลงในสิ่งที่รัก พร้อมทั้งการแสวงหาตัวตนของวัยรุ่น พร้อมด้วยมิตรภาพในแบบอเมริกันยุคคลาสสิค นักปั่นที่ชมภาพยนต์เรื่องนี้ อาจย้อนไปรำลึกถึงห้วงชีวิตวัยรุ่นที่ได้เลือกเป็นในสิ่งที่ต้องการ และเชื่อในสิ่งที่ตนเองคิดว่าใช่ พร้อมทั้งแง่มุมเล็กๆของเกร็ดความเป็นนักจักรยานแบบยุโรปในมุมมองของสังคมอเมริกันที่เพิ่งรู้จักกับกีฬาจักรยานผ่านฮีโร่ชาวอเมริกันแท้ๆมาไม่นานนัก ผลงานกำกับโดย ปีเตอร์ เยตส์ นำแสดงโดยเดนนิส คริสโตเฟอร์ ดาราหนุ่มในสมัยนั้นที่ยังคงฝากผลงานต่างๆเอาไว้ในยุคปัจจุบันอ่างซีรีส์"ซิกส์ ฟีท อันเดอร์" , "ซี เอส ไอ" และ "ดิจังโก้" ร่วมกับ เดนนิส เควด ที่มีผลงานจาก"จีไอโจ", "แวนเทจพอยท์", "ดิ อลาโม"(หนังสงครามโลกเกี่ยวกับเครื่องบินทิ้งระเบิด สนุกมากครับ), "ฟรีเคว็นซี่"(หนังที่พ่อลูกติดต่อกันผ่านวิทยุสื่อสารข้ามเวลา) และ "เดอะเดย์อาฟเตอร์ทูมอโร่"(มหันตภัยพิบัทเมื่อโลกกลายเ)็นยุคน้ำแข็งฉับพลัน) และ แดเนียล เสติร์น ที่คุ้นหน้ากันจากภาพยนต์ชุด"โฮม อโลน" ในรางวัลอะคาเดมี่อะวอร์ด(ออสการ์) ปี 1980 BREAKING AWAY เข้าชิงในประเภท นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม บาบาร่า แบรี่, ผู้กำกับยอดเยี่ยม, เพลงประกอบภาพยนต์ยอดเยี่ยม และคว้ารางวัลบทภาพยนต์ยอดเยี่ยมประจำปีนั้นไปได้ พร้อมทั้งรางวัลลูกโลกทองคำภาพยนต์ยอดเยี่ยมและผู้กำกับยอดเยี่ยมในปีเดียวกันได้ด้วย เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ภาพยนต์ที่ภาพยนต์วัยรุ่นสามารถเข้าชิงรางวัลใหญ่และประสบความสำเร็จอย่างสูงสุด เพราะเป็นครั้งแรกที่นำเอาประเด็นของวัยรุ่น การค้นหาตัวตน และความเป็นตัวเอง มานำเสนอผ่านกีฬาที่ไม่ค่อยเป็นที่คุ้นตาของอเมริกันชนออกมาได้อย่างลงตัว ผู้ชมติดตามได้ทั้งคอจักรยานและประชาชนทั่วไป แหวกแนวภาพยนต์ฮีโร่คาวบอย หรือหนุ่มเนี๊ยบแก็งค์มาเฟีย ที่เป็นสูตรสำเร็จของสมัยนั้นได้อย่างสิ้นเชิง และกลายเป็นสูตรสำเร็จของ"หนังวัยรุ่นและกีฬา"ต่อมาจนยุคปัจจุบัน
A SUNDAY IN HELL ย้อนกลับไปในปี 1977 ภาพยนต์สารคดีเรื่องนี้สร้างบนภาพและเนื้อหาความเป็นจริงของการแข่งขันรายการโหดหิน"นรกแห่งแดนเหนือ" บนเส้นทางอิฐโบราณเก่าแก่ของโรมันที่มีอายุกว่าพันปีซึ่งเลิกใช้ไปนานแล้วเหลือเพียงการสัญจรด้วยม้าหรือเกวียนเล็กๆของชาวบ้านในย่านชนบท และใช้เป็นเส้นทางแข่งจักรยานถนนสุดโหด "ปารีส-รูเบซ์" เนื่องจากเป็นหนังสารคดี ภาพทั้งหมดคือภาพจริง สถานที่จริง และเหตุการณ์จริงที่เก็บจากการบันทึกการแข่งขันจริงๆ เหมือนเราได้ชมเบื้องหลังการแข่งขันรายการนี้ย้อนกลับไปเมื่อ 40 ปีที่แล้ว ในยุคของ "เอ็ดดี้ เมิคซ์" กำลังรุ่งเรือง เสียงบรรยายภาษาอังกฤษ ผสมกับภาษาต่างๆทั้งฝรั่งเศส, อิตาเลียน และสเปน ฟังไม่รู้เรื่องอาจไม่ใช่ปัญหา แต่คนปั่นจักรยานสามารถอินได้ไม่ยากเลย เพราะมันคือรายการแข่งจักรยานที่มีคนติดตามมากที่สุดรายการหนึ่ง เนื้อหาในภาพยนต์กล่าวถึงทั้งการแข่งขัน และอุปสรรคต่างๆที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นการประท้วงทางการเมือง การรอคอยชมของชาวบ้าน และการต่อสู้บนเส้นทางการแข่งขัน สิ่งที่น่าทึ่งที่สุดที่คาดไม่ถึงก็คือในยุคที่ไม่มีโกโปร ไม่มีโดรนบินถ่ายภาพ ทุกอย่างต้องถ่ายทำด้วยฟีล์ม แสงจริง ภาพจริง การเก็บภาพ(ฟุทเตจ)ทั้งหมดทำได้อย่างเหลือเชื่อ นำมาเรียงร้อยเป็นเรื่องราวกึ่งสารคดีที่ไม่น่าเบื่อ มุมกล้องตื่นตาตื่นใจ และสัมผัสได้ถึงความร้อนแรงของการแข่งขัน ยิ่งถ้าสนใจเกร็ดเล็กน้อย จะได้เห็นประวัติศาสตร์จักรยานและการแข่งยุคคลาสสิคอย่างเต็มอิ่ม เรื่องนี้สายวินเทจไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งครับ
AMERICAN FLYERS ภาพยนต์เกี่ยวกับจักรยานที่โด่งดังที่สุด ที่เคยเข้าฉายทางเคเบิลทีวียุคบุกเบิกของบ้านเรา"ไอบีซี" และเป็นภาพยนต์ดราม่าชีวิตที่นเสนอผ่านกีฬาจักรยานได้อย่างสมบูรณ์แบบ เนื้อหาเกี่ยวกับความสัมพันู์ของพี่น้อง ความฝัน การต่อสู้ ความศรัทธาในครอบครัวตามวิถีแบบอเมริกันชน ทั้งหมดนำเอาความเป็นกีฬาจักรยานแข่งขันเข้ามาเชื่อมโยง จากพี่น้องที่ไม่ค่อยลงรอยกันนัก มีโอกาสใกล้ชิดและเข้าใจกันดีผ่านจักรยาน รวมถึงเรื่องเศร้าหักมุมที่เป็นแรงผลักดันให้ตัวละครพัฒนาตัวเองไปสู่จุดจบอันสมบูรณ์แบบ คาแร็คเตอร์ของตัวละครในเรื่องนี้ยังส่งผลไปถึงการ์ตูนญี่ปุ่นนำไปเป็น"แบบอย่าง"ของนักปั่นจกรยานถึงสองเรื่องได้แก่ ตัวละครนักไต่เขาในตำนานทั้งจากเรื่อง"สิงห์นักปั่น"(Shakariki!) และ "สุดแรงปั่น"(Overdrive) ผลงานการกำกับของ จอห์น แบ็ดแฮม นำแสดงโดย เควิน คอสเนอร์ ซุปเปอร์สตาร์จาก "แดนเซสวิธวูลฟ์", "โรบินฮู้ด พรินซ์ออฟทีฟ", "วอเตอร์เวิลด์", "เดอะโพสท์แมน", "เดอะบอดี้การ์ด", "เจเอ็ฟเค" และ "แมนออฟสตีล" เรียกได้ว่าแจ้งเกิดมาจากเรื่องนี้เลยก็ว่าได้ ร่วมกับเดวิด มาร์แชล แกร็นท์ เรื่องนี้ไม่ใช่หนังเน้นเอา"กล่อง" แต่เป็นหนังที่เน้นการขายเป็นสำคัญ ดังนั้นเนื้อหาและเรื่องราวจะออกมาแนวเผ็ดร้อน หวือหวาตื่นเต้นกว่าหนังจักรยานยุคก่อน(อย่างเรื่อง BREAKING AWAY) พร้อมทั้งรูปแบบการนำเสนอแบบยุค 80s ที่มีมุมมองภาพและการเล่าเรื่องที่กระชับขึ้น ทำให้หนังออกมาดู"ตลาด"มากขึ้น เนื้อหาการแข่งขันจักรยานทำได้ตื่นเต้นและน่าติดตาม มีการอ้างอิงเกร็ดเล็กๆน้อยๆของจักรยานมาให้พอได้ใกล้ชิด แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้ที่ห้ามพลาดสังเกตุหนังเรือ่งนี้คือจักรยานที่พระเอกใช้แข่ง เพราะถือเป็นจักรยานระดับ"คลาสสิค"ควรค่าแก่การสะสมคันหนึ่งเลยทีเดียว
THE FLYING SCOTSMAN ภาพยนต์จักรยานยุคใหม่ ออกฉายในปี 2007 สะท้อนเรื่องราวชีวิตจริงของแกรม โอบรี นักปั่นจักรยานชาวสก็อตช์ที่เข้าร่วมทำลายสถิติโลกหนึ่งชั่วโมงในยุคเดียวกับนักปั่นคนดัง คริส บอร์ดแมน ของอังกฤษ ตั้งแต่เริ่มต้นสร้างความฝัว การดำเนินการหาสปอนเซอร์ให้ได้ทุน จนถึงต้องต่อสู้กับอุปสรรคจากสมาพันธ์จักรยานนานาชาติ และการแข่งขันเอาชนะป้องกันสถิติให้ได้ จวบจนผลการแข่งขันที่ตราตรึงใจ ภาพยนต์ไม่เพียงนำเสนอในด้านแอ็คชั่นที่ตื่นเต้นแต่ยังมีความเป็นหนังอารมณ์ที่ดราม่าได้บาดลึกเช่นกัน ผลงานกำกับขง ดักลาส แม็คคินนอน เจ้าของผลงานกำกับ"ด็อกเตอร์ฮู" นำแสดงโดย จอห์นนี่ ลี มิลเลอร์ ที่นำเสนออารมณ์ทั้งความใจสู้และความสิ้นหวังอย่างที่สุดของ แกร็ม โอบรีออกมาได้อย่างไร้ที่ติ จนส่งให้ภาพยนต์เรื่องนี้เข้าชิงรางวัลใหญ่ต่างๆมากมายอาทิเช่น รางวัลบาฟต้าในหัวข้อภาพยนต์ยอดเยี่ยม, ผู้กำกับภาพยนต์ยอดเยี่ยม, ดารานำแสดงชายยอดเยี่ยม, ดารานำแสดงหญิงยอดเยี่ยม และบทภาพยนต์ยอดยเี่ยม และเข้าขิงรางวัลนักแสดงชายยอดยเี่ยมจากสมาคมนักวิจารณ์ภาพยนต์แห่งลอนดอนอีกด้วย ทิศทางของภาพยนต์นำเสนอให้เราเพลินเพลินไปกับอารมณ์ของตัวแสดงนำที่มีความกดดัน มุ่งมั่นทำลายสถิติทั้งๆที่แทบไม่มีความพร้อมอะไรสักอย่างเดียว ในขณะที่สลับกับการคลายเครียดมุมมองต่างๆได้อย่างรู้จังหวะจะโคน ไม่ถึงกับดูแล้วไมเกรนขึ้น ภาพและมุมภาพที่เร้าใจน่าติดตาม โทนสีแบบหนังอังกฤษที่ออกในโทนหม่น เน้นแสงเงาสวยงามไม่ตกแต่งอะไรมากมายนัก กับฉากในเวโลโดรมที่เร้าใจ ที่สนุกเพียงพอที่จะดึงดูดผู้ชมแม้ไม่ใ่นักปั่นให้ติดอยู่กับเก้าอี้และลุ้นไปกับตัวแสดงได้อย่างมีชั้นเชิง
SHAKARIKI! เพียงหนึ่งปีหลังการออกฉายของ THE FLYING SCOTSMAN ญี่ปุ่นก็คว้าเอาการ์ตูนจักรยานเรื่องแรกที่ประสบความสำเร็จในฐานะหนังสือการ์ตูนกีฬาเรือ่งดัง "ชากะริกิ!" หรือชื่อไทยว่า"สิงห์นักปั่น"การ์ตูนดังยุค 90s ที่ใครๆก็ต่างลงความเห็นว่าถ้ามาออกตีพิมพ์ขายตอนนี้รับรองว่าดังระเบิดเพราะมีเรื่องราวที่เร้าใจ ตัวละครออกแบบมาได้หลากหลายลงตัว และจับเอาข้อมูลจักรานมาตีแผ่เป็นเรื่องราวได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ที่สำคัญการ์ตูนเรื่องนี้เป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจของฮีโร่นักปั่นตัวจริงชาวญี่ปุ่นที่ไปแข่งและจบตูร์เดอฟร็องซ์ได้สำเร็จอีกด้วย ภาพยนต์ถูกสร้างขึ้นจากโครงเรื่องเดิมของหนังสือการ์ตูนอย่างหลวมๆ มีการดัดแปลงบทให้สามารถเล่าเรือ่งได้กระชับและเข้าใจง่ายในเวลาชั่วโมงกว่าๆ ตัดทอนและลดตัวละครลงให้ติดตามได้ง่ายขึ้น เนื้อเรื่องหลักโดย มาซาฮิโตะ โซดะ กำกับภาพยนต์โดย ชินสุเกะ โอโนะ นำแสดงโดยนักรอ้งวัยรุ่นญี่ปุ่นหน้าตาดีวง"เดอะแคสเคด" นับเป็นหนังจักรยานเรือ่งแรกๆของญี่ปุ่นที่เดินรอยตามแบบฉบับของหนังวัยรุ่นและกีฬากลิ่นเมืองปลาดิบมาได้อย่างเต็มรูปแบบ แน่นอนว่าเมื่อเทียบกับตัวหนังสือการ์ตูนหนังเรื่องนี้เทียบชั้นไม่ได้แม้แต่น้อยเพราะยังขาดสีสันความเป็นจักรยานแบบเต็มสูบไป และขาดตัวละครหลักที่มีสีสันมากมายเช่น "สึเกะ"นักปั่นคอมาพิวเตอร์, "มาคิเสะ"โปรที่ค้นหาความหมายของการแข่งจักรยาน, "แฮริส รีวอลเวอร์" และตัวละครเสริมมากมายที่เติมให้จังหวะของการ์ตูนกีฬาแอ็คชั่นมีความดราม่ากระตุกอารมณ์ได้เรือ่ยๆแม้แต่เพื่อนวัยเด็กของพระเอก ใครที่ขี่จักรยานแล้วได้อ่านการ์ตูนเรื่องนี้จะอินไปกับทุกวินาทีได้ง่ายๆ สำหรับเวอร์ชั่นภาพยนต์ก็คงเป็นแค่ "ดูไว้ไม่ให้พลาด" แต่สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับการเข้ามาเป็นหนึ่งในเรื่องที่ไม่ควรพลาดก็คงเป็นวิธีการเล่าเรื่องให้คนเข้าใจความเป็นกีฬาจักรยานได้อย่างง่ายดาย เพราะกีฬาชนิดนี้ยากจะเข้าใจได้ ซึ่งหนังเรื่องนี้ใช้วิธีการอธิบายเพียงไม่กี่นาที คนดูก็สามารถเข้าใจการแข่งจักรยานได้แล้ว สำหรับแฟนๆชาวไทย เวอร์ชั่นให้เสียงโดยพันธมิตรเป็นเวอร์ชั่นที่ชมได้ง่ายที่สุด นอกจากคลายเบื่อเนื้อหาจักรยาน ยังช่วยแทรกอารมณ์ขันให้กับมุกภาษาญี่ปุ่นที่เราๆอาจไม่ค่อยเข้าใจกันนักได้ด้วย
ขาดไม่ได้ ภาพยนต์จักรยานอีก 2 เรื่องที่กำลังจะเข้าฉายในเร็วๆนี้
TO THE FORE
คราวนี้มาเป็นภาพยนต์จีนกันบ้าง ภาพต่างๆถ่ายทำและตัดต่อมุมมองภาพได้ในระดับสุดยอด ใครที่ชื่นชอบการชมการแข่งจักรยานยุโรป ภาพแบบไหน เรื่องนี้ภาพมาแบบนั้น เนื้อหาการแข่งขันจักรยาน การเชือดเฉือนเอาชนะ การแก่งแย่ง สมาัคคี และปมชีวิตลึกๆตามแบบฉบับหนังจีน ใส่มาด้วยรสจัดของกีฬาจักรยานอย่างไม่ประนีประนอม นักแสดงหลักต้องไปเข้าคลาสฝึกขี่จักรยาน ต้องไปซ้อมจักรยานกับระดับโปรทีมอาชีพแท้ๆ จนชำนาญและสามารถทำการแสดงได้อย่างเป็นธรรมชาติ รวมถึงตัวประกอบและนักแสดงแทนที่ทำให้หนังเรื่องนี้น่าจะเป็นสุดยอดหนังจักรยานแห่งเอเชียไปอีกหลายปีเลยทีเดียว
ใครนึกไม่ออกลองนึกถึงอารมณ์หนังแข่งรถแบบจีน ที่ฮอลลีวูดต้องคว้าไปแปลงลงกับวัฒนธรรมฝรั่งดูนะครับ ว่ามันออกมาได้สะใจขนาดไหน พร้อมฉายวันที่ 20 สิงหาคมนี้
THE PROGRAM
จากกรณีความเชื่อ ศรัทธา การหักหลัง โกง และสุดยอดเรื่องโกหกลวงโลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการกีฬา และชีวิตจริงของ แลนซ์ อาร์มสตรอง กำกับโดย สตีเฟ่น เฟรียส์ ผู้กำกับ "ไฮฟิเดลิตี้"(หนึ่งในหนังโปรดของผม) นำแสดงโดย เบ็น ฟอสเตอร์ รับบทเป็นแลนซ์ อารม์สตรอง และ ลี เพซ จาก"เดอะฮ็อบบิท" และ "ไทวไลท์ซาก้า" เนื้อหาเน้นไปที่การสืบสวนสอบสวน ย้อนรอยขุดคุ้ยเพื่อหาความจริงของการโด๊ปของแลนซ์ ซ่อนด้วยความเชื่อมั่น การหักหลัง และกลเกมส์เฉือนเอาตัวรอดของมนุษย์ที่ต้องต่อสู้ไปในเกมส์สังคม เสร็จสิ้นพร้อมฉายในเร็วๆนี้
มีอีกหลายเรื่องทั้งภาษาอังกฤษ และภาษาต่างประเทศนะครับ แต่หวังเป็นอย่างยิ่งว่า 5 เรื่องนี้จะสร้างความบันเทิงให้แก่เพื่อนนักปั่นได้ไม่มากก็น้อย และอย่าลืมรอชมอีก 2 เรื่องใหม่ที่กำลังจะฉายในเร็วๆนี้ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและอรรถรสเพลินเพลินให้ชาวจักรยานชื่นบานกันรับสายฝนโปรยปรายทั่วหล้า[homeimg=300,250]http://www.thaimtb.com/forum/picture_mt ... 182811.jpg[/homeimg]
ภาพยนต์เกี่ยวกับจักรยาน อาจพบได้ไม่บ่อยในแวดวงคอหนังทั่วไปเพราะอาจมีเนื้อหาที่เข้าถึงได้ยากกว่าพล็อตเรื่องอื่นๆ ใครๆที่ไม่ได้ขี่จักรยานอาจยากที่จะเข้าถึงอารมณ์ของตัวละคนได้ แต่ผมขอหยิบยกเอาหนังที่เกี่ยวกับจักรยานมาซัก 5 เรื่อง ซึ่งไม่ได้คัดเลือกตามคุณภาพในแง่งานศิลปะภาพยนต์แต่อย่างใด หากแต่ในแต่ละเรื่อง มันมีความ"พิเศษ" ของมันเอง บางเรื่องแม้ไม่ได้กวาดรางวัล แต่ก็ถือเป็หนึ่งในจุดเปลี่ยนของทิศทางภาพยนต์ผ่านเนื้อหาเกี่ยวกับจักรยานเลยก็ว่าได้
BREAKING AWAY ภาพยนต์วัยรุ่นที่ออกฉายในปี 1979 ที่นำเสนอเรื่องราวของหนุ่มน้อยวัยรุ่นในชนบทของสหรัฐอเมริกาที่มีความลุ่มหลงในจักรยานเสือหมอบเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะความเป็นนักปั่นแนว"อิตาเลี่ยน" ถึงขั้นพูดภาษาอิตาเลียน, ทำตัวแบบชาวอิตาเลียน จนเป็นที่ปวดหัวของพ่อแม่ และมีความฝันพร้อมทั้งเป้าหมายชีวิตที่แตกต่างไปจากเพื่อนวัยรุ่นร่วมเมืองอย่างสิ้นเชิง ภาพยนต์เรื่องนี้ไม่ได้กล่าวถึงกีฬาจักรยานมากนัก ไม่ได้เกี่ยวข้องกับโลกของนักแข่งจักรยาน แต่มันนำเสนอถึงแรงบันดาลใจและความลุ่มหลงในสิ่งที่รัก พร้อมทั้งการแสวงหาตัวตนของวัยรุ่น พร้อมด้วยมิตรภาพในแบบอเมริกันยุคคลาสสิค นักปั่นที่ชมภาพยนต์เรื่องนี้ อาจย้อนไปรำลึกถึงห้วงชีวิตวัยรุ่นที่ได้เลือกเป็นในสิ่งที่ต้องการ และเชื่อในสิ่งที่ตนเองคิดว่าใช่ พร้อมทั้งแง่มุมเล็กๆของเกร็ดความเป็นนักจักรยานแบบยุโรปในมุมมองของสังคมอเมริกันที่เพิ่งรู้จักกับกีฬาจักรยานผ่านฮีโร่ชาวอเมริกันแท้ๆมาไม่นานนัก ผลงานกำกับโดย ปีเตอร์ เยตส์ นำแสดงโดยเดนนิส คริสโตเฟอร์ ดาราหนุ่มในสมัยนั้นที่ยังคงฝากผลงานต่างๆเอาไว้ในยุคปัจจุบันอ่างซีรีส์"ซิกส์ ฟีท อันเดอร์" , "ซี เอส ไอ" และ "ดิจังโก้" ร่วมกับ เดนนิส เควด ที่มีผลงานจาก"จีไอโจ", "แวนเทจพอยท์", "ดิ อลาโม"(หนังสงครามโลกเกี่ยวกับเครื่องบินทิ้งระเบิด สนุกมากครับ), "ฟรีเคว็นซี่"(หนังที่พ่อลูกติดต่อกันผ่านวิทยุสื่อสารข้ามเวลา) และ "เดอะเดย์อาฟเตอร์ทูมอโร่"(มหันตภัยพิบัทเมื่อโลกกลายเ)็นยุคน้ำแข็งฉับพลัน) และ แดเนียล เสติร์น ที่คุ้นหน้ากันจากภาพยนต์ชุด"โฮม อโลน" ในรางวัลอะคาเดมี่อะวอร์ด(ออสการ์) ปี 1980 BREAKING AWAY เข้าชิงในประเภท นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม บาบาร่า แบรี่, ผู้กำกับยอดเยี่ยม, เพลงประกอบภาพยนต์ยอดเยี่ยม และคว้ารางวัลบทภาพยนต์ยอดเยี่ยมประจำปีนั้นไปได้ พร้อมทั้งรางวัลลูกโลกทองคำภาพยนต์ยอดเยี่ยมและผู้กำกับยอดเยี่ยมในปีเดียวกันได้ด้วย เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ภาพยนต์ที่ภาพยนต์วัยรุ่นสามารถเข้าชิงรางวัลใหญ่และประสบความสำเร็จอย่างสูงสุด เพราะเป็นครั้งแรกที่นำเอาประเด็นของวัยรุ่น การค้นหาตัวตน และความเป็นตัวเอง มานำเสนอผ่านกีฬาที่ไม่ค่อยเป็นที่คุ้นตาของอเมริกันชนออกมาได้อย่างลงตัว ผู้ชมติดตามได้ทั้งคอจักรยานและประชาชนทั่วไป แหวกแนวภาพยนต์ฮีโร่คาวบอย หรือหนุ่มเนี๊ยบแก็งค์มาเฟีย ที่เป็นสูตรสำเร็จของสมัยนั้นได้อย่างสิ้นเชิง และกลายเป็นสูตรสำเร็จของ"หนังวัยรุ่นและกีฬา"ต่อมาจนยุคปัจจุบัน
A SUNDAY IN HELL ย้อนกลับไปในปี 1977 ภาพยนต์สารคดีเรื่องนี้สร้างบนภาพและเนื้อหาความเป็นจริงของการแข่งขันรายการโหดหิน"นรกแห่งแดนเหนือ" บนเส้นทางอิฐโบราณเก่าแก่ของโรมันที่มีอายุกว่าพันปีซึ่งเลิกใช้ไปนานแล้วเหลือเพียงการสัญจรด้วยม้าหรือเกวียนเล็กๆของชาวบ้านในย่านชนบท และใช้เป็นเส้นทางแข่งจักรยานถนนสุดโหด "ปารีส-รูเบซ์" เนื่องจากเป็นหนังสารคดี ภาพทั้งหมดคือภาพจริง สถานที่จริง และเหตุการณ์จริงที่เก็บจากการบันทึกการแข่งขันจริงๆ เหมือนเราได้ชมเบื้องหลังการแข่งขันรายการนี้ย้อนกลับไปเมื่อ 40 ปีที่แล้ว ในยุคของ "เอ็ดดี้ เมิคซ์" กำลังรุ่งเรือง เสียงบรรยายภาษาอังกฤษ ผสมกับภาษาต่างๆทั้งฝรั่งเศส, อิตาเลียน และสเปน ฟังไม่รู้เรื่องอาจไม่ใช่ปัญหา แต่คนปั่นจักรยานสามารถอินได้ไม่ยากเลย เพราะมันคือรายการแข่งจักรยานที่มีคนติดตามมากที่สุดรายการหนึ่ง เนื้อหาในภาพยนต์กล่าวถึงทั้งการแข่งขัน และอุปสรรคต่างๆที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นการประท้วงทางการเมือง การรอคอยชมของชาวบ้าน และการต่อสู้บนเส้นทางการแข่งขัน สิ่งที่น่าทึ่งที่สุดที่คาดไม่ถึงก็คือในยุคที่ไม่มีโกโปร ไม่มีโดรนบินถ่ายภาพ ทุกอย่างต้องถ่ายทำด้วยฟีล์ม แสงจริง ภาพจริง การเก็บภาพ(ฟุทเตจ)ทั้งหมดทำได้อย่างเหลือเชื่อ นำมาเรียงร้อยเป็นเรื่องราวกึ่งสารคดีที่ไม่น่าเบื่อ มุมกล้องตื่นตาตื่นใจ และสัมผัสได้ถึงความร้อนแรงของการแข่งขัน ยิ่งถ้าสนใจเกร็ดเล็กน้อย จะได้เห็นประวัติศาสตร์จักรยานและการแข่งยุคคลาสสิคอย่างเต็มอิ่ม เรื่องนี้สายวินเทจไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งครับ
AMERICAN FLYERS ภาพยนต์เกี่ยวกับจักรยานที่โด่งดังที่สุด ที่เคยเข้าฉายทางเคเบิลทีวียุคบุกเบิกของบ้านเรา"ไอบีซี" และเป็นภาพยนต์ดราม่าชีวิตที่นเสนอผ่านกีฬาจักรยานได้อย่างสมบูรณ์แบบ เนื้อหาเกี่ยวกับความสัมพันู์ของพี่น้อง ความฝัน การต่อสู้ ความศรัทธาในครอบครัวตามวิถีแบบอเมริกันชน ทั้งหมดนำเอาความเป็นกีฬาจักรยานแข่งขันเข้ามาเชื่อมโยง จากพี่น้องที่ไม่ค่อยลงรอยกันนัก มีโอกาสใกล้ชิดและเข้าใจกันดีผ่านจักรยาน รวมถึงเรื่องเศร้าหักมุมที่เป็นแรงผลักดันให้ตัวละครพัฒนาตัวเองไปสู่จุดจบอันสมบูรณ์แบบ คาแร็คเตอร์ของตัวละครในเรื่องนี้ยังส่งผลไปถึงการ์ตูนญี่ปุ่นนำไปเป็น"แบบอย่าง"ของนักปั่นจกรยานถึงสองเรื่องได้แก่ ตัวละครนักไต่เขาในตำนานทั้งจากเรื่อง"สิงห์นักปั่น"(Shakariki!) และ "สุดแรงปั่น"(Overdrive) ผลงานการกำกับของ จอห์น แบ็ดแฮม นำแสดงโดย เควิน คอสเนอร์ ซุปเปอร์สตาร์จาก "แดนเซสวิธวูลฟ์", "โรบินฮู้ด พรินซ์ออฟทีฟ", "วอเตอร์เวิลด์", "เดอะโพสท์แมน", "เดอะบอดี้การ์ด", "เจเอ็ฟเค" และ "แมนออฟสตีล" เรียกได้ว่าแจ้งเกิดมาจากเรื่องนี้เลยก็ว่าได้ ร่วมกับเดวิด มาร์แชล แกร็นท์ เรื่องนี้ไม่ใช่หนังเน้นเอา"กล่อง" แต่เป็นหนังที่เน้นการขายเป็นสำคัญ ดังนั้นเนื้อหาและเรื่องราวจะออกมาแนวเผ็ดร้อน หวือหวาตื่นเต้นกว่าหนังจักรยานยุคก่อน(อย่างเรื่อง BREAKING AWAY) พร้อมทั้งรูปแบบการนำเสนอแบบยุค 80s ที่มีมุมมองภาพและการเล่าเรื่องที่กระชับขึ้น ทำให้หนังออกมาดู"ตลาด"มากขึ้น เนื้อหาการแข่งขันจักรยานทำได้ตื่นเต้นและน่าติดตาม มีการอ้างอิงเกร็ดเล็กๆน้อยๆของจักรยานมาให้พอได้ใกล้ชิด แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้ที่ห้ามพลาดสังเกตุหนังเรือ่งนี้คือจักรยานที่พระเอกใช้แข่ง เพราะถือเป็นจักรยานระดับ"คลาสสิค"ควรค่าแก่การสะสมคันหนึ่งเลยทีเดียว
THE FLYING SCOTSMAN ภาพยนต์จักรยานยุคใหม่ ออกฉายในปี 2007 สะท้อนเรื่องราวชีวิตจริงของแกรม โอบรี นักปั่นจักรยานชาวสก็อตช์ที่เข้าร่วมทำลายสถิติโลกหนึ่งชั่วโมงในยุคเดียวกับนักปั่นคนดัง คริส บอร์ดแมน ของอังกฤษ ตั้งแต่เริ่มต้นสร้างความฝัว การดำเนินการหาสปอนเซอร์ให้ได้ทุน จนถึงต้องต่อสู้กับอุปสรรคจากสมาพันธ์จักรยานนานาชาติ และการแข่งขันเอาชนะป้องกันสถิติให้ได้ จวบจนผลการแข่งขันที่ตราตรึงใจ ภาพยนต์ไม่เพียงนำเสนอในด้านแอ็คชั่นที่ตื่นเต้นแต่ยังมีความเป็นหนังอารมณ์ที่ดราม่าได้บาดลึกเช่นกัน ผลงานกำกับขง ดักลาส แม็คคินนอน เจ้าของผลงานกำกับ"ด็อกเตอร์ฮู" นำแสดงโดย จอห์นนี่ ลี มิลเลอร์ ที่นำเสนออารมณ์ทั้งความใจสู้และความสิ้นหวังอย่างที่สุดของ แกร็ม โอบรีออกมาได้อย่างไร้ที่ติ จนส่งให้ภาพยนต์เรื่องนี้เข้าชิงรางวัลใหญ่ต่างๆมากมายอาทิเช่น รางวัลบาฟต้าในหัวข้อภาพยนต์ยอดเยี่ยม, ผู้กำกับภาพยนต์ยอดเยี่ยม, ดารานำแสดงชายยอดเยี่ยม, ดารานำแสดงหญิงยอดเยี่ยม และบทภาพยนต์ยอดยเี่ยม และเข้าขิงรางวัลนักแสดงชายยอดยเี่ยมจากสมาคมนักวิจารณ์ภาพยนต์แห่งลอนดอนอีกด้วย ทิศทางของภาพยนต์นำเสนอให้เราเพลินเพลินไปกับอารมณ์ของตัวแสดงนำที่มีความกดดัน มุ่งมั่นทำลายสถิติทั้งๆที่แทบไม่มีความพร้อมอะไรสักอย่างเดียว ในขณะที่สลับกับการคลายเครียดมุมมองต่างๆได้อย่างรู้จังหวะจะโคน ไม่ถึงกับดูแล้วไมเกรนขึ้น ภาพและมุมภาพที่เร้าใจน่าติดตาม โทนสีแบบหนังอังกฤษที่ออกในโทนหม่น เน้นแสงเงาสวยงามไม่ตกแต่งอะไรมากมายนัก กับฉากในเวโลโดรมที่เร้าใจ ที่สนุกเพียงพอที่จะดึงดูดผู้ชมแม้ไม่ใ่นักปั่นให้ติดอยู่กับเก้าอี้และลุ้นไปกับตัวแสดงได้อย่างมีชั้นเชิง
SHAKARIKI! เพียงหนึ่งปีหลังการออกฉายของ THE FLYING SCOTSMAN ญี่ปุ่นก็คว้าเอาการ์ตูนจักรยานเรื่องแรกที่ประสบความสำเร็จในฐานะหนังสือการ์ตูนกีฬาเรือ่งดัง "ชากะริกิ!" หรือชื่อไทยว่า"สิงห์นักปั่น"การ์ตูนดังยุค 90s ที่ใครๆก็ต่างลงความเห็นว่าถ้ามาออกตีพิมพ์ขายตอนนี้รับรองว่าดังระเบิดเพราะมีเรื่องราวที่เร้าใจ ตัวละครออกแบบมาได้หลากหลายลงตัว และจับเอาข้อมูลจักรานมาตีแผ่เป็นเรื่องราวได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ที่สำคัญการ์ตูนเรื่องนี้เป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจของฮีโร่นักปั่นตัวจริงชาวญี่ปุ่นที่ไปแข่งและจบตูร์เดอฟร็องซ์ได้สำเร็จอีกด้วย ภาพยนต์ถูกสร้างขึ้นจากโครงเรื่องเดิมของหนังสือการ์ตูนอย่างหลวมๆ มีการดัดแปลงบทให้สามารถเล่าเรือ่งได้กระชับและเข้าใจง่ายในเวลาชั่วโมงกว่าๆ ตัดทอนและลดตัวละครลงให้ติดตามได้ง่ายขึ้น เนื้อเรื่องหลักโดย มาซาฮิโตะ โซดะ กำกับภาพยนต์โดย ชินสุเกะ โอโนะ นำแสดงโดยนักรอ้งวัยรุ่นญี่ปุ่นหน้าตาดีวง"เดอะแคสเคด" นับเป็นหนังจักรยานเรือ่งแรกๆของญี่ปุ่นที่เดินรอยตามแบบฉบับของหนังวัยรุ่นและกีฬากลิ่นเมืองปลาดิบมาได้อย่างเต็มรูปแบบ แน่นอนว่าเมื่อเทียบกับตัวหนังสือการ์ตูนหนังเรื่องนี้เทียบชั้นไม่ได้แม้แต่น้อยเพราะยังขาดสีสันความเป็นจักรยานแบบเต็มสูบไป และขาดตัวละครหลักที่มีสีสันมากมายเช่น "สึเกะ"นักปั่นคอมาพิวเตอร์, "มาคิเสะ"โปรที่ค้นหาความหมายของการแข่งจักรยาน, "แฮริส รีวอลเวอร์" และตัวละครเสริมมากมายที่เติมให้จังหวะของการ์ตูนกีฬาแอ็คชั่นมีความดราม่ากระตุกอารมณ์ได้เรือ่ยๆแม้แต่เพื่อนวัยเด็กของพระเอก ใครที่ขี่จักรยานแล้วได้อ่านการ์ตูนเรื่องนี้จะอินไปกับทุกวินาทีได้ง่ายๆ สำหรับเวอร์ชั่นภาพยนต์ก็คงเป็นแค่ "ดูไว้ไม่ให้พลาด" แต่สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับการเข้ามาเป็นหนึ่งในเรื่องที่ไม่ควรพลาดก็คงเป็นวิธีการเล่าเรื่องให้คนเข้าใจความเป็นกีฬาจักรยานได้อย่างง่ายดาย เพราะกีฬาชนิดนี้ยากจะเข้าใจได้ ซึ่งหนังเรื่องนี้ใช้วิธีการอธิบายเพียงไม่กี่นาที คนดูก็สามารถเข้าใจการแข่งจักรยานได้แล้ว สำหรับแฟนๆชาวไทย เวอร์ชั่นให้เสียงโดยพันธมิตรเป็นเวอร์ชั่นที่ชมได้ง่ายที่สุด นอกจากคลายเบื่อเนื้อหาจักรยาน ยังช่วยแทรกอารมณ์ขันให้กับมุกภาษาญี่ปุ่นที่เราๆอาจไม่ค่อยเข้าใจกันนักได้ด้วย
ขาดไม่ได้ ภาพยนต์จักรยานอีก 2 เรื่องที่กำลังจะเข้าฉายในเร็วๆนี้
TO THE FORE
คราวนี้มาเป็นภาพยนต์จีนกันบ้าง ภาพต่างๆถ่ายทำและตัดต่อมุมมองภาพได้ในระดับสุดยอด ใครที่ชื่นชอบการชมการแข่งจักรยานยุโรป ภาพแบบไหน เรื่องนี้ภาพมาแบบนั้น เนื้อหาการแข่งขันจักรยาน การเชือดเฉือนเอาชนะ การแก่งแย่ง สมาัคคี และปมชีวิตลึกๆตามแบบฉบับหนังจีน ใส่มาด้วยรสจัดของกีฬาจักรยานอย่างไม่ประนีประนอม นักแสดงหลักต้องไปเข้าคลาสฝึกขี่จักรยาน ต้องไปซ้อมจักรยานกับระดับโปรทีมอาชีพแท้ๆ จนชำนาญและสามารถทำการแสดงได้อย่างเป็นธรรมชาติ รวมถึงตัวประกอบและนักแสดงแทนที่ทำให้หนังเรื่องนี้น่าจะเป็นสุดยอดหนังจักรยานแห่งเอเชียไปอีกหลายปีเลยทีเดียว
ใครนึกไม่ออกลองนึกถึงอารมณ์หนังแข่งรถแบบจีน ที่ฮอลลีวูดต้องคว้าไปแปลงลงกับวัฒนธรรมฝรั่งดูนะครับ ว่ามันออกมาได้สะใจขนาดไหน พร้อมฉายวันที่ 20 สิงหาคมนี้
THE PROGRAM
จากกรณีความเชื่อ ศรัทธา การหักหลัง โกง และสุดยอดเรื่องโกหกลวงโลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการกีฬา และชีวิตจริงของ แลนซ์ อาร์มสตรอง กำกับโดย สตีเฟ่น เฟรียส์ ผู้กำกับ "ไฮฟิเดลิตี้"(หนึ่งในหนังโปรดของผม) นำแสดงโดย เบ็น ฟอสเตอร์ รับบทเป็นแลนซ์ อารม์สตรอง และ ลี เพซ จาก"เดอะฮ็อบบิท" และ "ไทวไลท์ซาก้า" เนื้อหาเน้นไปที่การสืบสวนสอบสวน ย้อนรอยขุดคุ้ยเพื่อหาความจริงของการโด๊ปของแลนซ์ ซ่อนด้วยความเชื่อมั่น การหักหลัง และกลเกมส์เฉือนเอาตัวรอดของมนุษย์ที่ต้องต่อสู้ไปในเกมส์สังคม เสร็จสิ้นพร้อมฉายในเร็วๆนี้
มีอีกหลายเรื่องทั้งภาษาอังกฤษ และภาษาต่างประเทศนะครับ แต่หวังเป็นอย่างยิ่งว่า 5 เรื่องนี้จะสร้างความบันเทิงให้แก่เพื่อนนักปั่นได้ไม่มากก็น้อย และอย่าลืมรอชมอีก 2 เรื่องใหม่ที่กำลังจะฉายในเร็วๆนี้ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและอรรถรสเพลินเพลินให้ชาวจักรยานชื่นบานกันรับสายฝนโปรยปรายทั่วหล้า[homeimg=300,250]http://www.thaimtb.com/forum/picture_mt ... 182811.jpg[/homeimg]
ฟังสาระจักรยาน Podcast
https://open.spotify.com/show/76iDUCWXgqqixg1CmoSDIp
ข่าวสารจัรกยาน
https://www.facebook.com/cyclinghubthailand/
https://open.spotify.com/show/76iDUCWXgqqixg1CmoSDIp
ข่าวสารจัรกยาน
https://www.facebook.com/cyclinghubthailand/
- judasonline
- สมาชิก
- โพสต์: 34
- ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ส.ค. 2014, 17:28
- team: TUP Cycling Club
- Bike: BMC SLR 01
Re: "หนังจักรยาน" 5 เรื่องที่ไม่ควรพลาด
ต้องตามดูทุกเรื่องแล้ว
- jabmon
- ขาประจำ
- โพสต์: 322
- ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2013, 12:29
- Tel: 0813932099
- Bike: Bianchi Impulso, Giant XTC, KHS T20, Commencal meta AM
Re: "หนังจักรยาน" 5 เรื่องที่ไม่ควรพลาด
เป็นกระทู้ที่สุดยอดมากครับ
อย่าลืมเรื่อง Premium Rush ด้วยนะครับ!
อย่าลืมเรื่อง Premium Rush ด้วยนะครับ!
อัพขาอย่างเดียวจบ
- Rush
- ขาประจำ
- โพสต์: 4883
- ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ต.ค. 2008, 20:50
- team: จักรยานกู้ภัยอิสระ
- Bike: Fuji Newest 4.0, รถพับ 16' Ireton single speed , เสือภูเขาอลูสีลอกเกือบหมดแล้ว 8 เกียร์ , เสือหมอบเหล็กเกียร์เดี่ยว , Cronus รุ่น Soldier, Trinx จักรยานปั่นสองคน
Re: "หนังจักรยาน" 5 เรื่องที่ไม่ควรพลาด
เอ็ดดี้ เผิง จาก หวงเฟยหง นี่เอง จะใช้กำลังภายในช่วยในการปั่นขึ้นเขาด้วยไหมนะ
http://m.pantip.com/topic/33554775?
http://m.pantip.com/topic/33554775?
- pomroland
- ขาประจำ
- โพสต์: 2756
- ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2013, 00:19
- Bike: Specialized
Re: "หนังจักรยาน" 5 เรื่องที่ไม่ควรพลาด
น่าดูเหมือนกันน่ะครับ
- ngoa
- ขาประจำ
- โพสต์: 1512
- ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ส.ค. 2012, 02:13
Re: "หนังจักรยาน" 5 เรื่องที่ไม่ควรพลาด
เอามาแปะให้ครับ
Breaking Away
A Sunday in Hell
The Flying Scotsman
American Flyers หาไม่เจอครับ
ส่วน SHAKARIKI อย่าดูเลยครับเสียอารมณ์
Breaking Away
A Sunday in Hell
The Flying Scotsman
American Flyers หาไม่เจอครับ
ส่วน SHAKARIKI อย่าดูเลยครับเสียอารมณ์
- KleinMantra1998
- ขาประจำ
- โพสต์: 567
- ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2015, 14:48
- Bike: Trek
Re: "หนังจักรยาน" 5 เรื่องที่ไม่ควรพลาด
ขอบคุณครับ
เดี๋ยวจะนั่งดู
เดี๋ยวจะนั่งดู
- charoenrat
- ขาประจำ
- โพสต์: 303
- ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ก.ย. 2009, 16:11
- Tel: 0629565914
- team: เสือเมืองเลิง
- Bike: Lapierre
- ติดต่อ:
Re: "หนังจักรยาน" 5 เรื่องที่ไม่ควรพลาด
สุดยอด
ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณมากครับ
- Rush
- ขาประจำ
- โพสต์: 4883
- ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ต.ค. 2008, 20:50
- team: จักรยานกู้ภัยอิสระ
- Bike: Fuji Newest 4.0, รถพับ 16' Ireton single speed , เสือภูเขาอลูสีลอกเกือบหมดแล้ว 8 เกียร์ , เสือหมอบเหล็กเกียร์เดี่ยว , Cronus รุ่น Soldier, Trinx จักรยานปั่นสองคน
Re: "หนังจักรยาน" 5 เรื่องที่ไม่ควรพลาด
แหม ถ้า คีอานู รีฟ เล่นหนังเกี่ยวกับจักรยานก็ดีสินะครับ เสียดายเล่นแค่โฆษณาน่ะ
- Aw_Covert
- ขาประจำ
- โพสต์: 107
- ลงทะเบียนเมื่อ: 21 ก.ค. 2014, 16:23
- team: 1.Kanda bike 2.SKB
- Bike: Mosso 750CB
Re: "หนังจักรยาน" 5 เรื่องที่ไม่ควรพลาด
ปักไว้มาดู ขอบคุณครับ
-
- สมาชิก
- โพสต์: 88
- ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มิ.ย. 2010, 19:11
- ตำแหน่ง: หัวหิน
- ติดต่อ:
Re: "หนังจักรยาน" 5 เรื่องที่ไม่ควรพลาด
ปักก่อน ขอบคุณมากครับ
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 171
- ลงทะเบียนเมื่อ: 25 พ.ย. 2012, 23:38
- Bike: specialized,trek
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 313
- ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ส.ค. 2008, 11:35
- team: Aerothai en Vélo
- Bike: Trek 4300 V, Bianchi Sempre Pro 2014, Dahon Board walk D7
- ตำแหน่ง: ลำลูกกา คลอง4
- ติดต่อ:
Re: "หนังจักรยาน" 5 เรื่องที่ไม่ควรพลาด
สิงห์นักปั่นต้องอ่านครับ
- rock n surf
- สมาชิก
- โพสต์: 67
- ลงทะเบียนเมื่อ: 20 ก.พ. 2013, 23:11
- Bike: Giant
Re: "หนังจักรยาน" 5 เรื่องที่ไม่ควรพลาด
ติดตามครับ
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 1163
- ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2009, 20:03
- team: วงลงเขา
Re: "หนังจักรยาน" 5 เรื่องที่ไม่ควรพลาด
ผมมีหลายเรื่องมากเลยครับ
F1RST
Follow Me
Life cycle
Arrival
From the inside Out
TippingPoint
Collective Rome
Collective Season
RAD Company
3 Minute Gaps
Strenght in the number
Where The Trail Ends
New World Disorder10
F1RST
Follow Me
Life cycle
Arrival
From the inside Out
TippingPoint
Collective Rome
Collective Season
RAD Company
3 Minute Gaps
Strenght in the number
Where The Trail Ends
New World Disorder10