จักรยานถนน L.A. Urbano
“สนุก เร้าใจ ในราคาสบายกระเป๋า"
ในโลกปัจจุบันที่กระแสการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงานกำลังแรง หนึ่งในวิธีลดมลภาวะคือการใช้พาหนะทางเลือก เมื่อนึกถึงพาหนะประเภทนี้จักรยานคือสิ่งแรกที่เกิดขึ้นในใจ มันคือหนึ่งในพาหนะไม่กี่ชนิดที่เกิดขึ้นมานานหลังจากเราเลิกใช้ม้าเมื่อค้นพบน้ำมันและเครื่องยนต์สันดาบภายใน และยังอยู่มาจนถึงเดี๋ยวนี้ด้วยรูปลักษณ์ที่ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องทั้งด้านอุปกรณ์และวัสดุ L.A. Bicycleคือจักรยานแบรนด์ไทยที่อยู่ในตลาดมานานและมีพัฒนาการในผลิตภัณฑ์ตลอด จนทำให้มีจักรยานหลายรูปแบบให้ลูกค้าเลือกใช้ตั้งแต่จักรยานเด็ก แม่บ้าน ถึงเสือเมาเทนไบค์ และปีนี้แอลเอเปิดตัวจักรยานถนนหรือเสือหมอบเพื่อขยายขอบเขตของผลิตภัณฑ์ไปยังผู้ที่เริ่มหันมาให้ความสนใจกับการขี่จักรยานแบบจริงจัง และอยากจะสัมผัสกับความเร็วอันเร้าใจแบบเสือหมอบกันอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยจักรยานถนนในซีรีส์"Urbano”
"เออร์บาโน"จัดว่าเป็นจักรยานที่สวยพอใช้คันหนึ่งเมื่อพิจารณาจากรูปทรงทางเรขาคณิต มันมีท่อบนลาดลงในสไตล์เดียวกับเสือหมอบระดับโปรทั่วไปเช่นTrek,Giant,Specialized โดยข้อดีของการออกแบบเช่นนี้คือจะได้เฟรมที่แข็งแกร่งและรองรับแรงกระทำได้ดี สนองตอบได้ทันใจกับแรงถีบที่ส่งไปและไม่สะดุ้งสะเทือนต่อแรงสะท้อนจากผิวถนน แกร่งเมื่อนักจักรยานลุกขึ้นโยก แต่ทั้งนี้ก็ใช่ว่าเฟรมเสือหมอบทั่วไปจะทำได้ดังคุณสมบัติที่ว่าเพราะปัจจัยสำคัญที่เข้ามาเกี่ยวข้องคือเนื้อวัสดุ จักรยานจะถูกหรือแพงนั้นกรรมวิธีการสร้างเฟรมมีส่วนสำคัญ100เปอร์เซ็นต์ เพราะเมื่อเลือกอุปกรณ์ประกอบได้ไม่กี่แบรนด์ความแตกต่างคือตัวเฟรมที่ต้องสร้างด้วยกรรมวิธีอันเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของจักรยานแบรนด์นั้นๆ
เฟรมของเออร์บาโนสร้างจากอลูมินัม6061อัลลอยมาตรฐานอีสตัน เป็นเฟรมมาตรฐานที่ใช้ในจักรยานทั้งเมาเทนไบค์หรือเสือหมอบทั่วไป ซึ่งให้คุณสมบัติอันเป็นพื้นฐานคือเบาและแข็งแกร่งได้ระดับหนึ่ง แต่ถ้าอยากจะให้เบาและตอบสนองได้ดีกว่านี้ลูกค้าก็ต้องยอมจ่ายเพิ่มซึ่งเป็นเรื่องปกติของการตลาด ที่ต้องมีสินค้าไว้สนองตอบความต้องการและกำลังทรัพย์ในระดับต่างๆ มิฉะนั้นสินค้าแบรนด์เดียวกันคงไม่แตกรุ่นออกไปมากมายถ้าลูกค้าต้องการเหมือนกันและมีเงินเท่าๆกัน
เมื่อพิจารณาจากสภาพภายนอกแล้ว แอลเอเออร์บาโนเป็นจักรยานที่สวย มันอาจจะไม่บาดตาหรือโฉบเฉี่ยวเหมือน แบรนด์จากยุโรปหรืออเมริกา แต่การเลือกใช้สีขาว-ดำก็ทำให้ดูดีขึ้นได้ ปรากฎเครื่องหมายL.A.บนท่อล่างเด่นให้มองได้ปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นจักรยานL.A. สีสันทั้งหมดของเฟรมอาบมันปลาบ ง่ายต่อการทำความสะอาดเมื่อมีคราบสกปรก ที่น่าสนใจคือรอยเชื่อมอลูมินัมตีเกล็ดเป็นระเบียบเรียบร้อยดี จนน่าจะมั่นใจได้ว่ากระทบกระเทือนแค่ไหนเฟรมคงไม่แยกเป็นเสี่ยงๆ แต่ถ้าคำนึงถึงราคาของเออร์บาโนที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับจักรยานแบรนด์เนมของนอก ผมจึงเข้าใจว่าแอลเอ.อาจจะต้องการให้มันเป็นเสือหมอบระดับเริ่มต้นจริงๆสำหรับคนที่ขี่เมาเทนไบค์อยู่แล้วและอยากเปลี่ยนมาขี่เสือหมอบ สามารถใช้รองเท้าคลิปเลสของเมาเทนไบค์ได้เลยกับบันไดแบบเดียวกัน ด้วยรูปแบบนี้คนที่ขี่เสือหมอบอยู่แล้วแบบซีเรียสคงมองข้ามไป แต่สำหรับมือใหม่หัดปั่น เออร์บาโนก็เป็นเสือหมอบที่เหมาะจะเริ่มต้น ขอเพียงอย่างเดียวให้ไซส์ของเฟรมพอดีกับร่างกายของผู้ขี่เพียงเท่านี้ก็พอแล้ว
เมื่อก้าวขึ้นขี่ เฟรม6061ของเออร์บาโนให้ความรู้สึกที่ค่อนข้างจะโอเคเมื่อผมควบมันไปบนถนนเรียบๆ มันตอบสนองดีพอใช้เมื่อเร่งฝีเท้าในช่วงใกล้ๆประมาณสัก4-5ก.ม.แต่จะรู้สึกหนืดๆเมื่อระยะทางเพิ่มขึ้นเป็น40-50 ก.ม. ซึ่งความรู้สึกนี้มีปัจจัยเกี่ยวพันหลายอย่างทั้งสภาพทางและแรงลมรวมทั้งสภาพร่างกายของคนขี่เอง เพราะจักรยานที่ผมขี่อยู่ทุกวันเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ การกลับมาขี่เฟรมอลูมินัมของเออร์บาโนจึงรู้สึกหนักและหนืด สำหรับมือใหม่นี่อาจไม่ใช่ปัญหา เพราะถ้าต้องการแค่ให้ได้ขี่เสือหมอบแล้วไม่แคร์เรื่องน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นคุณก็มันกับมันได้เหมือนกัน ขอเพียงอย่างเดียวเท่านั้นว่าไซส์ของเฟรมต้องพอดีไม่คร่อมไซส์ ที่ต้องเน้นเรื่องความ"พอดี"ของขนาดก็เพราะว่าถ้าคร่อมไซส์เสียแล้วไม่ว่าจะคร่อมใหญ่กว่าหรือคร่อมเล็กกว่า สรีระท่าทางของคุณจะเสียไปทันทีและยังจะทำให้เกิดผลต่อเนื่องคือปวดตรงนั้นตรงนี้โดยไม่ทราบสาเหตุ ไซส์ที่ไม่พอดีสามารถทำให้จักรยานราคาเรือนแสนเป็นนรกติดอานได้เท่าๆกับจักรยานราคาถูกไม่กี่พันได้ง่ายๆ
นอกจากเฟรมแล้วอะไหล่ของเออร์บาโนล้วนเป็นShimanoแท้ในซีรีส์105 ที่พูดได้อย่างมั่นใจว่าทำงานได้ดีและเป็นที่นิยมมากในหมู่นักจักรยานทางเรียบที่ค่อนข้างจริงจัง เป็นอุปกรณ์ระดับกลางๆอยู่ระหว่างสูงสุดคือดูรา-เอซ(Dura-Ace)และรองลงมาคืออุลตีกรา(Ultegra) มันอยู่สูงกว่าติอากรา(Tiagra)และต่ำสุดคือโซระ(Sora) ด้วย105ที่ทำงานได้แม่นยำกับแฮนด์และตะเกียบหน้าที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ ทำให้เห็นว่าแอลเอ.ตั้งใจทำเสือหมอบรุ่นนี้ให้นักจักรยานที่อยากสัมผัสเสือหมอบเป็นครั้งแรกๆจริงๆ ถึงน้ำหนักจะมากไปนิดก็ถือว่าโอเคเมื่อดูจากราคาของสินค้า ไม่มีจักรยานเบาๆราคาถูกอยู่แล้ว อยากได้ของเบาก็ต้องเอาเงินเข้าแลก แต่ถ้าอยากจะสนุกกับเสือหมอบในราคาสบายๆเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ขวนขวายหาอะไรที่เบากว่ามาขี่ เออร์บาโนก็ตอบสนองความต้องการนี้ได้สมบูรณ์
หลังจากทดลองขี่ด้วยระยะทาง60ก.ม. ในเส้นทางจากคลองบางกอกน้อยไปตามถนนบรมราชชนนีถึงวัดดอนหวายแล้วกลับ ได้ใช้เกียร์สิบสปีดครบทุกชั้นโดยไม่ติดขัด ผมสรุปได้ว่าแอลเอ.ตั้งใจทำจักรยานรุ่นนี้ได้ดีสมราคา ชอบตรงที่ใช้อุปกรณ์ขับเคลื่อนในซีรีส์105ของชิมาโนซึ่งไม่เคยรวนเลยตลอดเส้นทาง ได้มีอารมณ์สุนทรีย์เล็กๆกับการมองเนื้อวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ที่แฮนด์และตะเกียบ ด้วยลมยาง110psiนั้นเออร์บาโนพุ่งโลดแล่นใช้ได้ เพียงแต่ว่าอาจจะทำให้เหนื่อยเร็วเมื่อระยะทางเข้าใกล้ 50ก.ม. แต่สำหรับมือใหม่ที่อยากขี่เสือหมอบคงไม่เป็นปัญหาเพราะถ้าเพิ่งเริ่มแล้วอะไรก็ได้ขอให้มียางเล็กๆแฮนด์โค้งๆก็คงพอ และเออร์บาโนของแอลเอ.น่าจะตอบปัญหาข้อนี้ได้ ขอเพียงอย่างเดียวว่า"ไซส์ต้องพอดี"เท่านั้น เล็กหรือใหญ่เกินไปไม่ใช่คำตอบเด็ดขาดถ้าอยากขี่จักรยานให้สนุก
หวังว่าในอนาคตคงได้เห็นเสือหมอบที่ซีเรียสยิ่งขึ้นจากแอลเอ. อยากเห็นคนขี่เออร์บาโนแล้วยอมจ่ายเงินเพิ่มขึ้นเพื่อซื้อจักรยานของแอลเอ.ต่อในรุ่นสูงขึ้น ไม่ใช่เริ่มกับแอลเอแต่ไปจบลงกับแบรนด์อื่น ซึ่งจะดูเหมือนสูญเสียโอกาสในการทำตลาดต่อเนื่องไปหรืออย่างไรก็แล้วแต่จะพิจารณา ส่งจักรยานมาให้ทดลองแล้วผมก็เขียนเท่าที่รู้สึกได้แบบนี้ล่ะครับ
คะแนนทดสอบ(คะแนนเต็ม5ดาว)
คุ้มค่า คุ้มราคา * * * *
ความสนุกเมื่อขี่ * *
คุณภาพของอุปกรณ์* * *
ความสวยงาม * *
น้ำหนัก* *
ความแข็งแกร่ง* * *
