[/align]Mavic จะเป็นผู้ผลิตล้อเก่าแก่ แต่เชื่อหรือไม่ว่าเป็นแบรนด์ที่ยังไม่เคยมีล้อคาร์บอนขอบงัด (Carbon Clincher) ออกมาจำหน่าย และได้เปิดตัวล้อ Ksyrium Pro Carbon SL C และ Cosmic Pro Carbon SL C เป็นแบรนด์ที่ อ้างว่าเบรคดีที่สุดในตลาดทั้งในสภาพแห้งและเปียก ขอบล้ออ้วน ลู่ลมไม่แพ้ล้อ Zipp, Bontragers หรือ Reynolds และยังแข็งแรงมากกว่าเดิมจากโครงสร้างขอบล้อใหม่ ล้อตัวนี้ยังมีวิธีการผลิตแบบใหม่ล้อคาร์บอนขอบงัด Mavic ตัวก่อนๆ อย่าง Mavic Cosmic Carbone 40C ไม่ใช่ล้อฟูลคาร์บอนอย่างแท้จริง เพราะแกนของล้อข้างในเป็นอลูมินัม ก็เพราะ Mavic เชื่อว่าก่อนหน้านี้ยังไม่สามารถทำล้อที่ปลอดภัยและทนต่อความร้อนระหว่างการใช้เบรคต่อเนื่องเป็นเวลานาน แต่ด้วยเทคโนโลยีการผลิตรูปแบบใหม่ และเรซิ่นสูตรลับที่ Mavic คิดค้นขึ้นมาเอง Mavic เชื่อว่าล้อคาร์บอนรุ่นใหม่น่าจะทนทานและแข็งแรงที่สุดในตลาด จุดอ่อนของล้อคาร์บอนขอบงัดมักจะอยู่ที่บริเวณขอเกี่ยวยางตะขอลูกปัดและขอบเบรค ซึ่งกระบวนการผลิตปกติผู้ผลิตมักจะใช้เครื่องจักรเพื่อทำขอบเบรคให้ได้ขนาดตามมาตรฐาน และทำขอเกี่ยวให้หนาแล้วค่อยใช้เครื่องจักร ผลข้างเคียงคือทำให้จุดที่เป็นขอเกี่ยวยางไม่แข็งแรงเท่าที่ควร กระบวนการผลิตใหม่ของ Mavic ทำให้ขึ้นรูปล้อได้ตรงตามสเป็คโดยไม่ต้องเครื่องจักรเพิ่มเติมขอบล้อทั้งสองรุ่นกว้าง 17mm และมีความกว้างบริเวณrimbed กว้างกว่าล้อรุ่นก่อน (Cosmic 40C) 4mm ซึ่ง Mavic ออกแบบมาให้รองรับยางหน้ากว้าง 25mm ขอบเบรคใหม่ ปกติแล้วล้อคาร์บอนต้องรับแรงกระทำถึง 3 รูปแบบ ทั้งแรงดันจากลมยาง (ดันออก) แรงกดจากเบรค (ดันเข้า) และแรงสะเทือนจากพื้นถนน (ดันลง) Mavic กล่าวว่า ธรรมชาติของคาร์บอนไฟเบอร์รับแรงได้ดีในทิศทางเดียวกัน เช่นนั้นแล้วการรับแรงกระทำ 3 ทางพร้อมๆ กันไม่ใช่เรื่องง่าย และถ้าเราเริ่มใช้เบรค ล้อต้องรับแรงที่ 4 นั่นคืออุณหภูมิความร้อนที่เกิดขึ้นจากการเสียดสีระหว่างผ้าเบรคและขอบเบรคด้วย และเป็นสาเหตุว่าทำไมล้อคาร์บอนขอบงัดใน gen ก่อนๆ ถึงเสียหายได้ง่าย เพราะเรซิ่นที่ใช้ผสมคาร์บอนส่วนมากรองรับความร้อนได้ไม่ถึง 200 องศาเซลเซียส สิ่งที่เกิดขึ้นคือวัสดุเริ่มบอบบาง ขอบล้อเสียรูป บวมและละลาย ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ เครื่องเลเซอร์ขอบเบรคทำให้ถูกเผาไหม้เรซิ่นส่วนเกินออกจนหมด ซึ่งทำให้ได้ขอบเบรคที่เรียบเนียนเท่ากันทุกตารางมิลลิเมตร ผลการทดสอบของ Mavic ในการเบรคทั้งสภาวะเปียกและแห้ง ซึ่งถ้าเป็นไปอย่างที่แบรนด์อ้างว่าล้อรุ่นใหม่นี้มีระยะการเบรคที่สั้นและแน่นอนที่สุดในบรรดาล้อคาร์บอนในตลาดนอกจากเทสต์ในห้องแล็บแล้ว Mavic ยังทดสอบในเส้นทางปั่นจริง ปั่นลงเขา Mont Ventouxในฝรั่งเศส แล้วกดเบรคแช่ไว้เป็นระยะทางร่วม 10 กิโลเมตร ซึ่งขอบเบรคก็ยังทำงานได้ดี
[align=center]
[/align]Cross-country
ไม่ว่าจะเป็นแข่งหรือปีนขึ้นไปบนเสื้อแจ๊คเก็ตที่ไหลลื่นครอบครัวข้ามประเทศจะช่วยให้คุณประหยัดพลังงานและประหยัดพลังงาน ผลิตภัณฑ์ที่รวดเร็วและเบาทั้งหมดนี้เกี่ยวกับการตอบสนองและประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยี Mavic ที่ทันสมัยที่สุด คำสั่งผสมที่สมบูรณ์แบบเพื่อความสนุกสนานและประสิทธิภาพในการเดินทาง
[align=center]
CROSSMAX PRO CARBON
ราคา 72,250 บาท/คู่[/align]
[align=center]
CROSSMAX PRO
ราคา 39,450 บาท/คู่[/align]
[align=center]
CROSSMAX ELITE
ราคา 22,610 บาท/คู่[/align]
Trail
จักรยานเสือภูเขาเป็นเครื่องมือสำรวจที่น่าอัศจรรย์ Mavic ได้ออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มีความว่องไวและหลากหลายเพื่อให้เพลิดเพลินกับเส้นทางทั้งหมด พวกเขาให้การผสมผสานที่เหมาะสมของความสะดวกสบายประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือ
[align=center]
XA Pro Carbon
ราคา 72,250 บาท/คู่[/align]
[align=center]
XA Elite
ราคา 22,610 บาท/คู่[/align]
[align=center]
Crossride
ราคา 8,080 บาท/คู่[/align]
All-mountain
ค้นพบภูเขาที่เต็มไปด้วยความไว้วางใจในอุปกรณ์ของคุณ: นั่นคือคำขวัญของครอบครัว All-mountain ผลิตภัณฑ์ที่ยากและมีชีวิตชีวาเหล่านี้ทำขึ้นได้ การทดสอบของเรามุ่งเน้นไปที่ความแข็งแรงและความน่าเชื่อถือและการใช้เทคโนโลยีที่สำคัญของเราทำให้ล้อมีประสิทธิภาพและน่านั่ง
[align=center]
Deemax Pro
ราคา 40,590 บาท/คู่[/align]
ติดต่อเรา
ลูกค้าสนใจสินค้าสามารถสอบถามได้ผ่านช่องทางต่อไปนี้
ติดต่อเราบนเพจ Facebook
แอดLine ID: giant629
โทรศัพท์เข้ามาที่เบอร์ 02-944-4848 ต่อ 11 ถึง 15
หรือมองหาดีลเลอร์ใกล้บ้านท่าน
[googlemap=https://www.google.com/maps/d/embed?mid ... WoTDsjLXzY]กดที่นี่เพื่อแสดง[/googlemap]
บริษัท เวิลด์ไบค์ จำกัด
629 ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพ 10230
โทร. (02) 944-4848 / แฟกซ์ (02) 944-6544
โอนเงินได้ที่
ธนาคารกรุงเทพ บัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์
เลขที่บัญชี 024-7-04067-8
ชื่อบัญชี บจ.เวิลด์ ไบค์
สาขา ปตท. ถนนรามอินทรา[/quote][/quote][/quote][/quote]
